“แกจะไม่ทำก็ได้นะ ถ้าแกอยากเห็นบ้านเราถูกยึด!”
เสียงตะโกนของผู้เป็นพ่อยังคงก้องอยู่ในหัวของ “มีน” แม้เขาจะก้าวพ้นรั้วบ้านโทรม ๆ มาแล้วก็ตาม ร่างโปร่งในเสื้อยืดสีซีดและกางเกงยีนส์เก่าขาดตรงเข่าเดินช้า ๆ มาตามถนนลูกรังที่มีฝุ่นลอยขึ้นมาตามจังหวะฝีเท้า
น้ำตาคลอเต็มขอบตา ไม่ใช่เพราะเสียใจ…แต่เพราะชาชินกับความรู้สึกเจ็บปวดมานานแล้ว
“เธอชื่อมีนใช่ไหม?”
เสียงของคนขับรถหรูที่มารับเขาเอ่ยขึ้นเบา ๆ มีนพยักหน้า เขาไม่ได้ตอบอะไร เพราะไม่มีอะไรจะพูด
เมื่อรถเลี้ยวเข้าไปในคฤหาสน์หลังใหญ่ มีนก็เงยหน้าขึ้นมองอย่างอึ้ง ๆ บ้านหลังนี้…หรูหราราวกับอยู่คนละโลกกับเขา
เมื่อรถจอด มีนก็ลงจากรถพร้อมกับกระเป๋าใบเล็กที่แทบไม่มีของอะไรเลย ประตูบ้านเปิดออก…มีแม่บ้านห้าคนยืนเรียงรายรออยู่
คนหนึ่งในนั้นเป็นหญิงสูงวัย ท่าทางสุขุมดูใจดี ส่วนอีกสี่คนที่เหลือเป็นหญิงสาววัยรุ่นหน้าตาดี แต่สายตาที่มองมาที่มีนนั้น...เต็มไปด้วยความไม่พอใจ
“ทำไมเด็กผู้ชายแบบนี้ต้องมาอยู่บ้านเจ้านายด้วยนะ”
หนึ่งในพวกเธอพึมพำเบา ๆ แต่พอจะได้ยิน มีนไม่ได้ตอบโต้อะไร เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะมีใครต้อนรับเขาดีอยู่แล้ว
แม่บ้านคนแก่เอ่ยขึ้นด้วยเสียงนุ่มนวล “เด็กคนนี้มาอยู่ที่นี่ตามคำสั่งคุณคิริน ทุกคนอย่าล้ำเส้นเกินไป เข้าใจไหม?”
ชื่อของเขาปรากฏขึ้นในหัวมีนทันที “คุณคิริน” คนที่พ่อของเขาไปกู้เงินมา แล้วไม่มีเงินจ่าย จึงส่งตัวเขามาเพื่อ “ขัดดอก”
ดวงตาของมีนหม่นแสงลงอีกครั้ง ขัดดอก…คำนี้มันดูต่ำต้อยและไร้ค่าจนแทบไม่อยากพูดออกมา
“ไปพักก่อนเถอะลูก ห้องอยู่ชั้นสอง ซ้ายมือสุด” แม่บ้านแก่ผายมือ มีนพยักหน้าเบา ๆ แล้วเดินขึ้นไปตามคำบอก โดยไม่หันไปมองพวกแม่บ้านสาวที่ยังมองเขาด้วยแววตาไม่เป็นมิตร
ในห้องนั้นเรียบง่ายแต่หรูหราเกินตัวเขา เตียงใหญ่ ผ้าปูสะอาด ตู้เสื้อผ้าไม้จริง เขาไม่เคยนอนห้องแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต
ยังไม่ทันได้นั่งพัก เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เข้ามาได้ครับ” มีนตอบเสียงเบา ประตูเปิดออกพร้อมกับร่างสูงในชุดสูทสีดำพอดีตัว ร่างนั้นสูงกว่าเขาอย่างเห็นได้ชัด ผมสีเทาขาวดูแปลกตาแต่กลับน่าหลงใหล ใบหน้าคมดุดันราวกับรูปปั้น แต่แววตาเรียบนิ่งจนอ่านไม่ออก
“ฉันชื่อคิริน เป็นเจ้าของบ้านนี้” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ “จากนี้ไป...เธอต้องอยู่ที่นี่ และทำตามกฎของฉันทุกอย่าง เข้าใจไหม?”
มีนพยักหน้าเล็กน้อย ไม่กล้าสบตาอีกฝ่ายนานนัก
“ห้ามออกไปจากบ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต ห้ามพูดคุยกับแขก ห้ามเปิดประตูห้องฉันถ้าไม่ใช่เวลาที่ฉันอนุญาต และ—”
คิรินหยุดพูด พลางก้าวเข้ามาใกล้
“—ห้ามคิดหนี”
น้ำเสียงเย็นเยียบทำเอามีนตัวชา ร่างเล็กถอยหลังอัตโนมัติไปจนชิดผนัง เขาเงยหน้ามองชายตรงหน้า แล้วพูดเสียงสั่น
“ผมเข้าใจครับ…”
สายตาของคิรินมองเขานิ่งก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้มีนยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น หัวใจเต้นแรงอย่างไม่มีเหตุผล
นี่มัน…แค่จุดเริ่มต้น
เสียงนาฬิกาแขวนผนังดังเป็นจังหวะ “ติก ตอก” อย่างเงียบเชียบ มีนนั่งอยู่ที่มุมเตียง ตาจ้องผนังห้องสีครีมอย่างไร้จุดหมาย เขาแทบไม่หลับตลอดทั้งคืน—ความกดดันจากสถานที่ใหม่ ผู้คนแปลกหน้า และเจ้าของบ้านที่ทั้งนิ่งและน่ากลัว ทำให้ความคิดสับสนวนเวียนอยู่ในหัวไม่หยุด
เมื่อแสงแดดสาดผ่านม่านหน้าต่าง มีนก็ลุกขึ้นช้า ๆ อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยความเงียบเชียบ จากนั้นจึงเปิดประตูออกจากห้องอย่างระวัง
ทันทีที่ก้าวลงมายังชั้นล่าง กลิ่นอาหารเช้าหอมฉุยก็โชยมาแตะจมูก เขากำลังจะเดินเข้าไปยังห้องอาหาร แต่สายตาของแม่บ้านสี่คนที่ยืนอยู่ตรงโต๊ะทำครัวทำให้ฝีเท้าของเขาชะงักลง
“อ้าว…ตื่นแล้วเหรอคะ? คนพิเศษของคุณคิริน” หนึ่งในแม่บ้านสาววัยรุ่นพูดเสียงเยาะ มีนได้แต่มองเงียบ ๆ ไม่อยากมีปัญหา
“ไม่คิดว่าจะเด็กขนาดนี้นะ ฉันว่าคุณคิรินไม่ใช่พวกชอบเด็กซะหน่อย” อีกคนเสริมพลางหัวเราะเบา ๆ อย่างจงใจ
มีนไม่ตอบ เขาก้มหน้าเดินเข้าห้องอาหารอย่างสุภาพ
ทันใดนั้น หญิงสูงวัยที่มีนจำได้ว่าเป็นแม่บ้านคนเก่า ก็เดินเข้ามาด้วยท่าทีสง่างามกว่าแม่บ้านสาวทั้งหลาย
“พวกเธอหยุดซุบซิบนินทาได้แล้ว จำไว้ อย่ากร้าวกายเจ้านาย และอย่ามัวแต่คิดว่าตัวเองมีสิทธิ์เหนือใครในบ้านหลังนี้”
น้ำเสียงเรียบแต่หนักแน่นของแม่บ้านทำให้สาว ๆ หุบปากลงทันที ถึงแม้สีหน้าจะยังไม่พอใจ
มีนยิ้มบาง ๆ ให้หญิงชราเป็นการขอบคุณ เธอพยักหน้าเล็กน้อยราวกับเข้าใจทุกอย่างก่อนจะเอ่ยเบา ๆ
“นั่งกินเถอะลูก ไม่ต้องเกรงใจ”
หลังอาหารเช้า มีนเดินออกมาสำรวจสวนหลังบ้านเพื่อจะหาอากาศบริสุทธิ์หายใจบ้าง แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นหญิงสาวคนหนึ่งเดินสวนเข้ามา—เด็กสาวอายุประมาณสิบแปด สวมเสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ ท่าทางมั่นใจและเฉียบขาดกว่าแม่บ้านสาวคนอื่น
เธอหยุดตรงหน้าเขา ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงเย็น
“ฉันชื่อแพร ลูกของป้าจิต คนที่ดูแลบ้านหลังนี้มานาน เธอรู้ใช่ไหมว่าที่นี่ไม่ใช่ที่สำหรับของเล่น?”
มีนยืนนิ่ง เงยหน้าสบตาอีกฝ่ายแต่ไม่โต้กลับ
แพรยังคงพูดต่อ “เธอไม่ใช่คนแรกที่เข้ามาอยู่ที่นี่ แต่ฉันหวังว่าเธอจะไม่ทำตัวเหมือนคนอื่นที่จบไม่สวย”
คำพูดนั้นเย็นชา ราวกับเตือนภัย แต่มีนก็เพียงตอบกลับด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“ผมไม่ได้อยากมาแต่แรกครับ”
แพรชะงักไปเพียงครู่ก่อนจะเบือนหน้าหนี เดินผ่านเขาไปโดยไม่พูดอะไรอีก
เวลาล่วงเลยมาถึงช่วงบ่าย มีนพยายามใช้ชีวิตอย่างเงียบที่สุด เขาอยู่ในห้อง อ่านหนังสือที่มีอยู่บนนั้นอย่างตั้งใจ และพยายามไม่ทำอะไรให้เป็นเป้าสายตา
จนกระทั่ง…
เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“คุณคิรินเรียกให้ไปพบที่ห้องหนังสือ” เสียงแม่บ้านสาวคนหนึ่งเอ่ยขึ้นจากด้านนอก
มีนรู้สึกตึงเครียดทันที เขาพยายามสงบใจตัวเอง ก่อนจะเดินตามเธอไป
ห้องหนังสืออยู่ชั้นล่างสุด ตรงสุดทางเดิน ภายในมีหนังสือวางเรียงรายเต็มชั้น บรรยากาศเย็นสงบ ราวกับโลกอีกใบ
คิรินนั่งอยู่ตรงเก้าอี้ตัวใหญ่ หน้าโต๊ะไม้โอ๊ค มือถือแก้ววิสกี้สีอำพันอย่างใจเย็น เขาเงยหน้าขึ้นเมื่อเห็นมีนเข้ามา
“นั่ง”
มีนนั่งลงตรงเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามโดยไม่เอ่ยอะไร
“ฉันไม่ได้เรียกเธอมาทำงานบ้าน” คิรินเริ่มพูด น้ำเสียงราบเรียบ “และไม่ต้องทำเหมือนเป็นแค่ ‘ของที่ฝากไว้’ ด้วย”
มีนเงยหน้าขึ้นช้า ๆ สบตาชายตรงหน้า ความนิ่งเยือกของคิรินทำให้ใจเขาสั่นวูบ
“คุณต้องการอะไรจากผมกันแน่ครับ?” มีนถามเสียงเบา
คิรินไม่ได้ตอบในทันที เขาเพียงวางแก้ววิสกี้ลง ก่อนจะลุกขึ้น เดินอ้อมโต๊ะมายืนใกล้ ๆ ร่างเล็กที่นั่งอยู่
มือแกร่งยื่นมาสัมผัสแก้มของมีนเบา ๆ
“ฉันยังไม่รู้…แต่บางอย่างในตัวเธอ ทำให้ฉันไม่อยากให้เธอหายไปไหน”
คำพูดนั้นทำให้หัวใจมีนเต้นแรงโดยไม่รู้ตัว เขารีบหันหน้าหนี—มือของคิรินยังอยู่ใกล้ใบหน้าเขาอยู่
“…อย่าทำแบบนี้ครับ” มีนพูดเสียงสั่น
คิรินเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะถอยหลังกลับไปนั่งที่เดิม
“ออกไปได้แล้ว”
ค่ำคืนในคฤหาสน์ของคิรินเงียบสงัด ผนังหนาและประตูปิดสนิทช่วยกลบเสียงใด ๆ จากภายนอก มีนลุกจากเตียงกลางดึกเพราะกระหายน้ำ เขาหยิบแก้วบนโต๊ะแล้วเดินออกจากห้องอย่างระมัดระวัง แสงไฟในโถงทางเดินสลัว ๆ สร้างเงาเคลื่อนไหวตามจังหวะการก้าวย่างของเขา
ขณะกำลังจะเลี้ยวไปทางห้องครัว เสียงหัวเราะเบา ๆ ปนเสียงครางก็แทรกผ่านกำแพงบานหนาออกมา ราวกับมีใครอยู่ในห้องรับแขกทางขวา ประตูแง้มอยู่นิดเดียว และด้วยความอยากรู้ มีนจึงย่องเข้าไปเงียบ ๆ
แสงไฟในห้องสลัว กลิ่นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผสมกลิ่นน้ำหอมหวานรัญจวนลอยคลุ้งในอากาศ
“คุณคิริน…คุณดูเหนื่อยจังนะคะ ปล่อยให้ฉันช่วยสิ…”
เสียงอ่อนหวานที่คุ้นหูเอ่ยขึ้น
มีนชะงักฝีเท้า ใจเต้นแรงขณะชะโงกมองผ่านรอยแง้มของประตู
ร่างของคิรินนั่งเอนพิงโซฟา ใบหน้าแดงระเรื่อ ดวงตาหรี่ปรือราวกับคนหมดสติหรือกำลังฝืนสติตนเอง หญิงสาวคนหนึ่ง—ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก ‘แพร’ ลูกสาวแม่บ้าน—กำลังนั่งลงข้างกายเขา มือไล้บนหน้าอกของชายหนุ่มอย่างแผ่วเบา
“อย่าฝืนเลยนะคะ…ร่างกายคุณต้องการฉันอยู่แล้ว”
แพรยื่นหน้าเข้าไปใกล้ก่อนที่ริมฝีปากจะประทับลงบนต้นคอของเขาอย่างแนบแน่น ร่างสูงของคิรินขยับเล็กน้อยแต่ไม่ได้ผลักไส มีนเห็นได้ชัดว่าดวงตาของเขายังเปิดอยู่ แม้จะพร่าเลือนก็ตาม
"ยา…คุณใส่อะไรลงไป…" คิรินพูดเสียงแผ่ว
“แค่นิดเดียวเองค่ะ แค่ให้คุณผ่อนคลาย…”
คำพูดของเธอทำให้มีนเข้าใจทันที—เขาโดนวางยา และที่สำคัญคือยาปลุกเร้า
ความรู้สึกเย็นวาบแล่นไปทั่วร่างมีน เขายืนอยู่ตรงนั้น มือกำแน่นอย่างไม่รู้ตัว ความรู้สึกหลากหลายถาโถมเข้ามาในใจ ไม่ว่าจะเป็นความตกใจ ความโกรธ หรือ…เสียใจ
ทันใดนั้นเสียงครางจากภายในห้องก็ดังขึ้น แพรกำลังโอบกอดร่างของคิรินแน่นขึ้น ริมฝีปากคลอเคลีย ลมหายใจถี่รัวบ่งบอกถึงความเร่าร้อนที่กำลังเพิ่มขึ้น
มีนกัดริมฝีปากล่างแน่นก่อนจะหันหลังวิ่งกลับไปยังห้องของตน
เขาไม่ควรเห็น…
ไม่ควรรับรู้…
และไม่ควรรู้สึกอะไรแบบนี้ด้วยซ้ำ…
ร่างบางกลับเข้าห้อง ปิดประตูลงช้า ๆ ก่อนทรุดตัวนั่งกับพื้น พยายามควบคุมเสียงหายใจที่แสนสั่น
เขาไม่รู้ว่าความรู้สึกในใจคืออะไรแน่—มันทั้งเจ็บ ทั้งร้อน ทั้งจุกไปหมด
ทั้งที่เขาเพิ่งมาถึงบ้านหลังนี้ได้แค่ไม่กี่วัน ทั้งที่เขาไม่ได้รู้จักกับคิรินดีพอด้วยซ้ำ
แต่การได้เห็นภาพนั้น…มันเหมือนมีอะไรกระแทกเข้าในอกเต็มแรง
**
เช้าวันรุ่งขึ้น ภายในบ้านกลับดูสงบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
มีนเดินลงมาทานอาหารเช้าตามปกติ และได้พบแพรนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารด้วยท่าทีมั่นใจและเป็นกันเองกว่าทุกวัน
“ตื่นแล้วเหรอจ๊ะ?” เธอยิ้มให้มีนอย่างเปิดเผย ผิดกับสายตาของแม่บ้านคนอื่นที่หลบตากันวูบวาบ
“เมื่อคืนเธอนอนหลับสบายดีไหม?” น้ำเสียงของแพรแฝงอะไรบางอย่างที่ทำให้มีนไม่สบายใจ
“ปกติดีครับ” เขาตอบเรียบ ๆ พยายามรักษาท่าทีให้สงบ
ไม่นาน คิรินก็เดินเข้ามาในห้องอาหาร ใบหน้ายังคงสุขุมเย็นชาเช่นเดิม มีนพยายามไม่มองเขา แต่ก็รับรู้ได้ว่าชายหนุ่มเองก็มองตนผ่านทางหางตาอยู่เช่นกัน
“ทุกคน ออกไปให้หมด ฉันจะคุยกับมีนตามลำพัง” เสียงของคิรินเรียบเย็น แม่บ้านทั้งห้องรวมถึงแพรต่างเดินออกไปเงียบ ๆ
เมื่อเหลือแค่สองคน คิรินก็พูดขึ้นโดยไม่มองหน้าเขา
“เมื่อคืน…เธอเห็นใช่ไหม”
มีนไม่ตอบ
“ฉันไม่ได้ตั้งใจ…” คิรินพูดต่อ แต่คำพูดนั้นยิ่งทำให้มีนรู้สึกแย่กว่าเดิม
“แล้วถ้าไม่ได้ตั้งใจ แล้วคุณยังปล่อยให้มันเกิดขึ้นเหรอครับ?” มีนเผลอถามออกไป เสียงสั่นเล็กน้อยอย่างห้ามไม่อยู่
คิรินเงียบไป ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้
“เธอมีสิทธิ์อะไรกับเรื่องของฉันงั้นเหรอ?”
คำถามนั้นเหมือนกรีดลึกลงไปในใจมีน แต่เขาก็แค่นเสียงหัวเราะออกมาเบา ๆ
“จริงสินะครับ…ผมมันก็แค่ของขัดดอกนี่”
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!