NovelToon NovelToon

เมื่อฝนกลับมาน้ำก็ยังไหลอยู่เสมอ

ตอนที่ 1 — กลับมาในวันที่ฝนยังตก

เสียงกระดิ่งหน้าร้านดังเบา ๆ เมื่อลมฝนพัดผ่านบานประตูไม้เก่า กลิ่นหอมของกาแฟคั่วสดลอยคลุ้งไปทั่วร้านอย่างเป็นธรรมชาติ ราวกับมันรู้หน้าที่ของตัวเองดี วรรษเงยหน้าจากเครื่องบดเมล็ดกาแฟพลางยิ้มจาง ๆ ให้กับความเงียบงันในร้านเล็ก ๆ แห่งนี้

ร้าน "สายฝนเบาเบา" ตั้งอยู่ริมถนนสายเล็กในเมืองเล็ก ๆ ที่ใครหลายคนอาจไม่เคยแวะเวียนมา เว้นเสียแต่จะบังเอิญ หรือไม่ก็...ตั้งใจกลับมาเหมือนเขา

กระจกหน้าร้านมีหยาดฝนเกาะพราวเป็นจุดเล็ก ๆ แสงแดดอ่อนในยามสายหลบซ่อนอยู่เบื้องหลังเมฆเทา วรรษเอื้อมมือไปหยิบผ้าเช็ดแก้ว แล้วเดินเช็ดโต๊ะหน้าต่างที่วางอยู่ตรงมุมเดิม—มุมที่เคยมีใครบางคนนั่งอยู่เสมอ

"ฝนตกตั้งแต่เช้าเลยนะ" เขาพึมพำกับตัวเอง เสียงเขานุ่มและแหบเล็กน้อยจากการไม่ได้พูดกับใครมาสักพัก

แม้จะเปิดร้านมาได้เพียงสองวัน แต่ทุกอย่างในร้านกลับดูเหมือนเปิดมานานแล้ว โต๊ะไม้เล็ก ๆ สีซีดจากกาลเวลา เคาน์เตอร์ที่เขาขัดจนเงาแวว ผนังที่แขวนภาพวาดเส้นของสายฝนและสายน้ำ เสมือนบอกเล่าเรื่องราวของใครบางคนที่เคยอยู่ตรงนี้...และจากไป

เขาไม่ได้ตั้งชื่อร้านว่า "สายฝนเบาเบา" เพราะมันสวยงามหรือโรแมนติกอะไร เขาตั้งชื่อเพราะมันคือ “สิ่งเดียว” ที่ทำให้เขานึกถึงบ้าน และ—ใครอีกคน

วรรษเดินกลับหลังเคาน์เตอร์ กดน้ำร้อนลงในเครื่องชงกาแฟ ปล่อยให้กลิ่นหอมรินไหลออกมาเหมือนความทรงจำที่ไหลกลับมาทีละนิด

หกปีก่อน...เขาเคยนั่งอยู่ที่ร้านนี้—ไม่ใช่ในฐานะเจ้าของ แต่ในฐานะ “เด็กหนุ่มคนหนึ่ง” ที่ใช้มันเป็นที่หลบฝนจากทุกอย่างในชีวิต

รวมถึง...จาก “ธาร”

ชื่อของเขาโผล่ขึ้นมาในหัวอีกครั้งเหมือนฝนที่เริ่มตกแรงขึ้น ไม่มีคำบอกลา ไม่มีข้อความ ไม่มีเหตุผล วรรษหายไปจากชีวิตของธารในวันฝนตกวันนั้น พร้อมกับหัวใจที่เหมือนถูกลืมทิ้งไว้ที่เดิม

เขารู้...ว่ามันผิด แต่เขากลับมาแล้ว

เสียงกระดิ่งหน้าร้านดังอีกครั้ง ทำให้เขาหลุดจากห้วงความคิด วรรษเงยหน้าขึ้นช้า ๆ และเห็นผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่กลางประตู ร่มในมือยังมีหยาดฝนเกาะพราว และดวงตาของเขานั้น—เย็นชาและลึกเกินกว่าจะอ่านออกง่าย ๆ

"กาแฟดำ ไม่ใส่น้ำตาล" เสียงทุ้มเรียบเอ่ยออกมา เหมือนสั่งกาแฟธรรมดา แต่สำหรับวรรษ มันคือ “รหัสลับ” ที่ทำให้หัวใจเขาเต้นช้าลงอย่างไม่แน่ใจ

ธาร...คือคนเดียวในโลกนี้ที่สั่งกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาลด้วยน้ำเสียงแบบนั้น

วรรษมองอีกฝ่ายตรง ๆ ในขณะที่มือเริ่มลงมือทำตามสัญชาตญาณ

ไม่มีคำทัก ไม่มีคำถาม ไม่มีแม้แต่ความตกใจจากอีกฝ่าย เหมือนธารรู้มาตลอด...ว่าเขาจะกลับมา

หรือไม่ก็...ไม่เคยลืมเขาเลย

"คุณเคยมาแล้วหรือเปล่า?" วรรษถามขึ้นในจังหวะที่เขาเสิร์ฟกาแฟ ธารมองหน้าเขานิ่ง ๆ ก่อนจะเบือนสายตาออกไปนอกหน้าต่าง

"ฉันจำที่นี่ได้ แต่จำคุณไม่ได้" คำพูดเรียบง่ายแต่เหมือนมีหนามเล็ก ๆ แทงลงกลางอก

วรรษยิ้มบาง ๆ ไม่ได้โกรธ ไม่ได้ตกใจ เพราะเขาคิดเอาไว้อยู่แล้วว่า การกลับมาเจอธารอีกครั้ง...มันไม่เคยง่าย

"วันนี้ฝนตกเหมือนวันนั้นเลย" เขาวางถ้วยกาแฟลงช้า ๆ ธารไม่ตอบ แค่ก้มมองกาแฟในมือ เหมือนกำลังต่อสู้กับความรู้สึกบางอย่างในใจ

วรรษไม่ได้คาดหวังให้อีกฝ่ายให้อภัยทันที ไม่ได้หวังให้เขาจำได้ทุกอย่างในวันเดียว

เขาแค่...หวังว่าในร้านกาแฟเล็ก ๆ แห่งนี้ ในวันที่ฝนตกแบบนี้ หัวใจที่เคยเงียบเหงาของทั้งสองจะได้เริ่มฟังเสียงกันและกันอีกครั้ง

เสียงฝนข้างนอกยังคงตกไม่หยุด บนโต๊ะไม้ริมหน้าต่าง ชายหนุ่มสองคนต่างนั่งเงียบ ปล่อยให้ไอน้ำจากกาแฟอุ่น ๆ ลอยขึ้นประสานกับกลิ่นของอดีตที่ยังไม่จางหายไปไหน

และเมื่อสายฝนเริ่มเบาลง

เสียงนาฬิกาในร้านก็ดังขึ้นในความเงียบ เหมือนจะบอกว่า...เรื่องราวครั้งใหม่ กำลังจะเริ่มต้น

ตอนที่2-กลิ่นกาแฟที่ไม่เคยเปลี่ยน

เช้าวันถัดมา ฝนยังไม่หยุดตก

สายลมเย็นเอื่อย ๆ พัดผ่านหน้าต่างร้าน “สายฝนเบาเบา” อย่างเกียจคร้าน วรรษเปิดร้านด้วยความเงียบงันเช่นเคย เขาใช้เวลาตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าเช็ดเคาน์เตอร์ เตรียมเบเกอรี่ และชงกาแฟให้ตัวเองหนึ่งแก้ว

เขานั่งจิบมันที่มุมหน้าต่าง—โต๊ะเดียวกับเมื่อวาน โต๊ะที่ธารเคยนั่ง และยังคงนั่งเมื่อวานนี้

วรรษเฝ้ามองหยาดฝนไหลผ่านกระจกโดยไม่มีคำพูดใด ๆ กลิ่นของกาแฟที่เขาชงในวันนี้ ยังคงเป็นกลิ่นเดิมที่เขาเคยชงให้คน ๆ หนึ่งเมื่อหลายปีก่อน

แต่เขารู้ดี…ว่าความรู้สึกนั้นไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว

และในขณะที่เขากำลังจะลุกขึ้น…

เสียงกระดิ่งหน้าร้านก็ดังขึ้น—เสียงที่เหมือนเดจาวู

วรรษไม่ต้องเงยหน้าดู เขารู้ว่าใคร

ธารยืนอยู่หน้าประตูในชุดทำงานเรียบง่าย เสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาด ร่มพับเก็บในมือ และหยาดฝนเกาะบนผมสีดำสนิทของเขา

“กาแฟดำ ไม่ใส่น้ำตาล”

วรรษอดไม่ได้ที่จะยิ้มน้อย ๆ

“ฉันยังชงแบบเดิมได้นะ” เขาพูดขณะเดินกลับไปที่เครื่องชง

“แต่ไม่แน่ใจว่าจะยังอร่อยเหมือนเดิมรึเปล่า”

ธารไม่ตอบ เขาเดินมานั่งที่เดิม เหมือนเมื่อวานไม่มีอะไรเกิดขึ้น

วรรษมองแผ่นหลังของอีกฝ่ายจากหลังเคาน์เตอร์ ใจหนึ่งก็สงสัยว่าทำไมธารถึงกลับมาที่ร้านนี้อีก ทั้งที่เมื่อวานแทบไม่ได้พูดอะไรกันเลย

หรือบางที...ความเงียบของที่นี่ อาจเป็นคำตอบ

"คุณกลับมาอยู่ที่นี่นานแค่ไหนแล้ว?" ธารถามขึ้นในขณะที่วรรษวางแก้วกาแฟลง

เสียงของเขาเย็น แต่ก็ไม่ได้ห่างเหินเหมือนเมื่อวาน

“แค่สองวัน” วรรษตอบเบา ๆ

“แต่ฉันคิดถึงที่นี่มานานแล้ว”

“แล้วจะอยู่...นานแค่ไหน?”

คำถามนั้นแฝงความรู้สึกมากเกินไป และวรรษเองก็สัมผัสได้

แต่เขาเลือกจะตอบแบบตรงไปตรงมา

“เท่าที่ใจยังไหว”

ธารเงียบไปชั่วครู่ เขาหยิบแก้วกาแฟขึ้นจิบเล็กน้อย แล้วหลุบตามองไอน้ำที่ลอยขึ้นจากถ้วย

“กลิ่นมันยังเหมือนเดิม” เขาพูดเบา ๆ

“แต่ฉันไม่แน่ใจว่ามันคือกลิ่นกาแฟ...หรือกลิ่นของความทรงจำ”

วรรษนิ่งงันไปเล็กน้อยกับประโยคนั้น เขารู้ว่าในถ้อยคำของธารมีบางสิ่งที่เขาเองก็ยังไม่กล้าทบทวน

“คุณเคยคิดถึงฉันบ้างไหม?” วรรษถามเสียงเบา เหมือนถามกับตัวเอง

ธารไม่หันมา แต่เขาตอบ

“มีบางเช้าที่ฉันลืมตาตื่น แล้วนึกว่าคุณยังอยู่ตรงนี้...แต่พอรู้สึกตัว ก็แค่ได้ยินเสียงฝนตก แล้วความรู้สึกนั้นก็หายไป”

ความเงียบตกลงมาระหว่างคนสองคนอีกครั้ง

แต่คราวนี้...มันไม่ใช่ความอึดอัด มันคือความนิ่งที่อบอุ่นปนเศร้า ราวกับพวกเขากำลังฟังเสียงฝนด้วยหัวใจเดียวกัน

เวลาผ่านไปหลายนาที ธารลุกขึ้น วางเงินบนโต๊ะโดยไม่พูดอะไรเพิ่มเติม แล้วหมุนตัวเดินไปที่ประตู

ก่อนเขาจะเปิดประตูออก

วรรษเอ่ยขึ้นเบา ๆ

“พรุ่งนี้ฝนอาจยังตกอยู่...แต่ร้านจะยังเปิดเหมือนเดิม”

ธารชะงักฝีเท้าเล็กน้อย แต่เขาไม่หันกลับมา

“ถ้าอย่างนั้น...ฉันอาจจะแวะมาใหม่”

และประตูไม้ก็บานเล็ก ๆ ก็ปิดลงอย่างช้า ๆ เหลือไว้เพียงเสียงฝนที่ยังไหลริน

และหัวใจของวรรษที่สั่นไหวไม่ต่างจากวันวาน

ตอนที่ 3 — ยามเช้าหลังฝน กับกลิ่นดอกไม้ที่ยังชัดเจน

แม้ฝนจะยังคงตกต่อเนื่องตลอดทั้งคืน แต่เช้าวันใหม่กลับเปิดม่านออกด้วยแสงแดดอ่อน ๆ ที่ลอดผ่านกลีบเมฆเทาหม่น อากาศยังชื้นอยู่เล็กน้อย ทว่าอบอุ่นอย่างน่าประหลาด

วรรษเดินออกจากร้านมาหลังจากเปิดร้านและเตรียมของเสร็จเรียบร้อย เขาถือแก้วกาแฟร้อนในมือหนึ่ง ส่วนอีกมือถือตะกร้าหวายใบเล็กที่เขามักใช้เวลาเก็บดอกไม้ที่ปลูกไว้หลังร้าน

แปลงดอกไม้ที่เขาปลูกไว้มีเพียงไม่กี่ชนิด—ลาเวนเดอร์ ดอกไม้ฝรั่ง และกุหลาบสีครีม

ทุกดอกเปียกชื้นจากฝนเมื่อคืน แต่ก็ยังคงบานสะพรั่งอย่างอ่อนโยน

เขานั่งลงบนเก้าอี้ไม้เล็ก ๆ ที่อยู่ตรงมุมสวน สูดกลิ่นหอมของดินเปียกฝนและกลีบดอกไม้ที่เริ่มแห้งแดด แล้วหลับตาลงช้า ๆ

ความเงียบของยามเช้าเช่นนี้ทำให้เสียงในหัวใจดังชัดขึ้นกว่าที่ควรจะเป็น

เขานึกถึงธาร—นึกถึงเสียงฝีเท้าเงียบ ๆ ขณะที่อีกฝ่ายเดินเข้าร้านทุกเช้า

นึกถึงแก้วกาแฟที่ถูกวางลงบนโต๊ะด้วยมือเรียวยาวที่เขาเคยกุมไว้แน่นเมื่อตอนวัยเยาว์

…และนึกถึงประโยคเมื่อวาน

> “มีบางเช้าที่ฉันลืมตาตื่น แล้วนึกว่าคุณยังอยู่ตรงนี้...แต่พอรู้สึกตัว ก็แค่ได้ยินเสียงฝนตก แล้วความรู้สึกนั้นก็หายไป”

หัวใจเขากระตุกเล็กน้อย แม้มันจะเป็นคำพูดธรรมดา

แต่มันคือคำสารภาพจากคนที่เขาเคยทำให้เจ็บ

“เขายังรู้สึก”

เสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังขึ้นจากด้านหลัง เรียกให้วรรษหันกลับไปมอง และก็พบว่าคนที่ไม่ควรมาอยู่ตรงนี้ในเวลาเช้าแบบนี้...กลับมายืนอยู่จริง ๆ

“คุณมาเช้ากว่าทุกที” วรรษพูดขณะยกแก้วกาแฟขึ้นจิบ

ธารยืนอยู่ในเสื้อยืดสีเข้มเรียบ ๆ กับกางเกงขายาว รองเท้าหนังเปียกฝนเล็กน้อยจากพื้นยังเปียก

“ฉันยังไม่ได้ไปทำงาน” เขาตอบเสียงเรียบ ก่อนจะมองไปยังแปลงดอกไม้เบื้องหน้า

“กลิ่นที่นี่...ยังเหมือนเดิม”

วรรษยิ้มน้อย ๆ

“คุณจำมันได้เหรอ?”

ธารไม่ตอบ เขาเดินเข้ามาช้า ๆ แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ตัวถัดไป

สายตาของเขามองตรงไปยังดอกลาเวนเดอร์ที่เอนตามแรงลมเบา ๆ

“เมื่อก่อน คุณเคยบอกว่าถ้าผมโกรธ หรือเศร้า หรือเหนื่อย...ให้มานั่งตรงนี้ แล้วกลิ่นดอกไม้จะช่วยเยียวยาใจ”

วรรษหันมามองใบหน้าอีกฝ่ายช้า ๆ

แสงแดดยามเช้าสะท้อนเข้าที่ดวงตาของธาร ทำให้เห็นแววบางอย่าง—เศร้า แต่ยังไม่ตายไป

“ตอนนั้น...ฉันเชื่อมั่นในสิ่งนั้นจริง ๆ” วรรษพูดเบา ๆ

“เพราะฉันเองก็ใช้มันปลอบใจตัวเองทุกครั้ง...ที่รู้ว่าคุณเหนื่อยจากเรื่องที่บ้าน”

ธารไม่พูดอะไรทันที เขาเพียงแค่ยกมือขึ้นดึงกลีบลาเวนเดอร์ที่หลุดลอยลงมา แล้วหมุนมันช้า ๆ อยู่ในมือ

“แล้วตอนที่คุณหายไป...คุณได้ปลอบใจตัวเองด้วยวิธีเดียวกันไหม?”

ประโยคนั้นเหมือนคมมีดที่ค่อย ๆ บาดลงกลางใจวรรษ เขานิ่งงัน

“บางคืน ฉันเอากลิ่นลาเวนเดอร์แห้งที่เคยใส่ซองไว้ใต้หมอนขึ้นมาสูด

แต่มันไม่เคยมีกลิ่นอีกเลย...หลังจากคุณจากไป”

วรรษหลุบตามองพื้น สายลมเย็นพัดผ่านใบหน้าช้า ๆ

“ฉันขอโทษ...”

ธารยังคงไม่สบตาเขา

“มันไม่ได้แก้ไขอะไรได้หรอก...แต่บางที การกลับมา อาจจะเป็นการเริ่มใหม่”

คำพูดของเขาไม่ใช่การให้อภัย แต่เป็นประตูเล็ก ๆ ที่เปิดให้วรรษได้ก้าวเข้าไปอีกครั้ง

วรรษยิ้มบาง ๆ ขณะยื่นตะกร้าดอกไม้ไปตรงหน้า

“ช่วยเลือกดอกไม้ที่คุณชอบสักสองสามดอกได้ไหม? ฉันจะจัดใส่แจกันไว้ตรงโต๊ะของคุณ”

ธารมองหน้าวรรษนิ่ง ๆ ก่อนจะหยิบดอกลาเวนเดอร์สองดอก และกุหลาบสีครีมอีกหนึ่งดอกอย่างเงียบงัน

“นี่คือดอกไม้ที่คุณเคยบอกว่ามัน...มีกลิ่นเหมือนบ้าน”

ธารเอ่ยเบา ๆ พลางยื่นดอกไม้ให้วรรษกลับ

“หวังว่าร้านนี้...จะทำให้รู้สึกแบบนั้นอีกครั้ง”

และในเช้าวันนั้น ที่มีทั้งกลิ่นดิน กลิ่นดอกไม้ และแสงแดดอุ่น ๆ หลังฝน

สองคนที่เคยห่างไกล กลับนั่งอยู่ข้างกันอีกครั้ง...โดยที่ไม่ต้องพูดอะไรเลยมากนัก

เพราะบางครั้ง การฟังเสียงหัวใจของกันและกัน ก็ดังชัดในความเงียบที่สุด

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!