NovelToon NovelToon

เสียงกระทบจากห้อง 5/6

นักเรียนใหม่กับเสียงจากห้องต้องห้าม

เสียงกระดิ่งแผ่วเบาดังขึ้นเหนืออาคารเรียนเก่าแก่ของโรงเรียนหญิงล้วนชื่อดังที่ตั้งตระหง่านมากว่าห้าสิบปี นักเรียนแต่งชุดนักเรียนสีขาวกระโปรงกรมท่าทะยอยเดินเข้าอาคารอย่างมีระเบียบ ท่ามกลางแดดอ่อนของเช้าวันจันทร์

มินตรา ก้าวลงจากรถด้วยท่าทางเก้ ๆ กัง ๆ กระเป๋านักเรียนสะพายไว้แน่นบนบ่า ความรู้สึกเหมือนมีสายตาหลายคู่จ้องมองเธออยู่ตลอดเวลา เธอย้ายมาเรียนกลางเทอมที่นี่หลังจากคุณแม่บอกเพียงสั้น ๆ ว่า “ที่เก่าไม่ปลอดภัยสำหรับหนูอีกแล้ว”

เธอไม่เข้าใจนัก แต่ก็ไม่ได้ถามเพิ่ม

ห้องเรียนใหม่คือ ม.5/3 ตั้งอยู่บนชั้น 3 ของอาคาร "ศรีปัญญา" อาคารเรียนที่เก่าแก่ที่สุดของโรงเรียนแห่งนี้ เพดานสูง หน้าต่างไม้ และพื้นไม้เก่า ๆ ที่เดินทีเสียงดังเอี๊ยด มินตรารู้สึกได้ถึงบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้ตั้งแต่ก้าวขึ้นบันได

“เธอคือเด็กใหม่เหรอ?”

เสียงใส ๆ ดังขึ้นจากด้านหลัง หญิงสาวตัวเล็ก ผมสั้นตัดตรง ท่าทางร่าเริงยื่นมือมาทัก

“เราชื่อแก้ม ยินดีต้อนรับนะ ม.5/3 สนุกมาก... ถ้าไม่เจออะไรแปลก ๆ ซะก่อนน่ะ”

“แปลก... ยังไงเหรอ?” มินตราถามอย่างระวัง

“อ๋อ ไม่มีอะไรหรอก ล้อเล่นน่ะ!” แก้มยิ้มแห้ง ๆ แล้วรีบเปลี่ยนเรื่องทันที “เดี๋ยวฉันพาไปที่ห้องนะ”

ระหว่างเดินผ่านโถงระหว่างห้องเรียน มินตราสังเกตเห็นประตูห้อง ๆ หนึ่งถูกปิดสนิท มันดูต่างจากห้องอื่น ทั้งฝุ่น ทั้งเถาวัลย์ที่เกาะด้านนอกหน้าต่าง ดูเหมือนไม่มีใครเปิดมานาน

“ห้องนั้น...” มินตราเอ่ยขึ้นเบา ๆ

“ห้อง 5/6” แก้มตอบทันที เสียงแผ่วลง “ไม่มีเรียนแล้วน่ะ ปิดมานานแล้ว อย่าไปสนใจเลย”

มินตราพยักหน้า แต่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่ประตูไม้เก่า ๆ นั้น เธอรู้สึกเหมือนมีบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่หลังบานประตู แม้ไม่มีใครอยู่ข้างในก็ตาม

คืนนั้น มินตรานอนไม่หลับนัก โรงเรียนแห่งใหม่นี้ให้ความรู้สึกแปลกแยกอย่างประหลาด เธอลุกขึ้นจากเตียงตอนตีสอง ลมกลางคืนพัดหน้าต่างห้องนอนกระพือเบา ๆ

ทันใดนั้น เธอได้ยินเสียงบางอย่าง...

กึก... กึก...

เหมือนเก้าอี้ไม้ลากครืดไปบนพื้น มินตราขนลุกซู่ทันที เสียงนั้นดังมาจากทิศทางของอาคารศรีปัญญา

“ใครอยู่ที่นั่น...” เธอพึมพำกับตัวเอง เสียงค่อย ๆ เงียบลงก่อนที่จะมีเสียงคล้าย... เด็กผู้หญิงหัวเราะแผ่ว ๆ ดังตามมา

มินตรายืนนิ่งอยู่ตรงหน้าต่าง ใจเต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

เธอไม่รู้เลยว่า นั่นคือจุดเริ่มต้นของบางสิ่งที่เปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล

ความทรงจำต้องห้าม

เช้าวันถัดมา มินตรามาถึงโรงเรียนเร็วกว่าปกติ ทั้งที่ปกติเป็นคนไม่ค่อยตื่นเช้าเลยสักนิด เธอเองก็ยังแปลกใจที่ตัวเองลุกขึ้นมาได้ทันทีที่ได้ยินเสียงนาฬิกาปลุก เหมือนมีบางอย่างกระซิบอยู่ในใจว่าเธอ “ควรกลับไปที่นั่น”

เธอก้าวเท้าเร่งผ่านโถงทางเดินเงียบสงัดของอาคารศรีปัญญา พื้นไม้ยังคงส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดเมื่อเหยียบลงไป แต่คราวนี้ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกกลัว กลับกัน มันเหมือนเสียงที่คุ้นเคย... อย่างประหลาด

หน้าห้อง 5/6 ยังคงเงียบงัน ราวกับทุกอย่างหยุดนิ่งอยู่ตรงนี้ มินตราจ้องมองบานประตูไม้สีซีดอย่างครุ่นคิด

“ทำไมถึงรู้สึกเหมือนเคยอยู่ตรงนี้มาก่อน…”

เธอเอื้อมมือไปแตะลูกบิดสนิมเขรอะเบา ๆ แค่สัมผัสเท่านั้น ร่างกายก็ชาวาบเหมือนโดนไฟฟ้าดูดวูบหนึ่งจนต้องชักมือกลับ

“เธอ... สนใจเรื่องนั้นจริง ๆ ใช่มั้ย?”

เสียงทุ้มเบาแต่ชัดเจนดังขึ้นจากด้านหลัง มินตราสะดุ้งสุดตัว หันไปพบหญิงวัยกลางคนในชุดสุภาพยืนอยู่ไม่ห่างนัก ใบหน้าของเธอดูอ่อนโยน แต่แววตากลับนิ่งลึกเสียจนรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง

“เปล่าค่ะ หนูแค่สงสัยว่าทำไมถึงล็อกไว้...”

“มันเป็นห้องเก็บของ ไม่มีใครใช้มานานแล้ว” ครูตอบเสียงเรียบ “บางความทรงจำ... ก็ไม่จำเป็นต้องเปิดออกมาอีกครั้ง”

ประโยคนั้นทำให้มินตราเย็นวาบไปทั้งตัว แต่ครูเพียงยิ้มบาง ๆ แล้วเดินจากไป

ทั้งวัน มินตราแทบไม่มีสมาธิกับการเรียนเลย ความคิดเธอว้าวุ่นและวกวนถึงแต่ห้อง 5/6 และสายตาของครูแนะแนวคนนั้น เธอไม่แน่ใจว่าตัวเอง “กำลังกลัว” หรือ “กำลังจำ” อะไรบางอย่าง

ในช่วงบ่ายระหว่างคาบว่าง มินตราเดินผ่านห้องสมุดและหยุดมองบอร์ดเก่า ๆ ด้านข้างซึ่งติดรูปกิจกรรมต่าง ๆ ของโรงเรียนไว้ เธอหยุดอยู่หน้านึงนานกว่าที่ควร—รูปถ่ายหมู่เมื่อสิบปีก่อน เด็กผู้หญิงคนหนึ่งในรูปหน้าคล้ายเธอจนขนลุก

“นั่นรุ่นพี่กัญญาน่ะ” เสียงใสของแก้มดังขึ้นด้านหลัง “เธอหายตัวไปแบบไร้ร่องรอยเมื่อสิบปีก่อน วันสุดท้ายที่มีคนเห็นเธอ... ก็คือที่หน้าห้อง 5/6 นั่นแหละ”

มินตราเบิกตากว้าง “แล้วหาเจอมั้ย?”

“ไม่เลย ไม่มีแม้แต่เงา สุดท้ายเรื่องก็เงียบไปเพราะครูบอกว่าเป็นการหนีออกจากบ้าน แต่ไม่มีใครเชื่อหรอก” แก้มพูดด้วยน้ำเสียงขำไม่ออก

คืนนั้นมินตราฝันอีก ฝันว่าตัวเองเดินเข้าไปในห้องเรียนเก่าทรุดโทรม เด็กหญิงคนหนึ่งนั่งก้มหน้าอยู่ตรงมุมห้อง เสียงร้องไห้เบา ๆ ดังก้องอยู่รอบตัว

เมื่อมินตราเดินเข้าไปใกล้ ร่างนั้นเงยหน้าขึ้นช้า ๆ เผยให้เห็นใบหน้าที่ เหมือนกับเธอเป๊ะ

ก่อนที่ภาพจะเปลี่ยน เด็กหญิงกระซิบว่า

“หนีไปซะ ก่อนจะจำทุกอย่างได้...”

มินตราสะดุ้งตื่น ลมหายใจขาดเป็นช่วง ๆ หัวใจเต้นแรงจนเธอแทบไม่แน่ใจว่ามันจะหยุดเมื่อไหร่

เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เปิดโหมดกล้องหน้า—เธอจำได้ว่าในฝันมีรอยแผลจาง ๆ อยู่ที่ขมับซ้ายของเด็กคนนั้น

และเมื่อแสงจากจอโทรศัพท์สะท้อนหน้าตัวเอง

เธอก็เห็นมัน—รอยแผลเป็นจาง ๆ รูปโค้งเล็ก ๆ บริเวณ

เดียวกันเป๊ะ

บันทึกที่ไม่มีใครเขียน

วันจันทร์มาถึงพร้อมสายฝนโปรยบางเบา มินตราเดินเข้าโรงเรียนพร้อมกับใจที่หนักอึ้ง รอยแผลจาง ๆ ที่ขมับยังคงอยู่ แม้เธอไม่เคยสังเกตมาก่อน หรือ... มันเพิ่งปรากฏขึ้น?

เธอเริ่มรู้สึกว่าทุกคนมองเธอแปลกไป เพื่อนร่วมชั้นบางคนเริ่มหลบสายตา แก้มก็เริ่มพูดน้อยลง เหมือนมีบางอย่างที่ไม่มีใครกล้าพูดออกมา

ในคาบประวัติศาสตร์ ครูให้นักเรียนเลือกหัวข้อทำรายงานเกี่ยวกับ “ประวัติโรงเรียน” มินตราไม่รีรอ เธอเลือกหัวข้อ “การเปลี่ยนแปลงของอาคารเรียนหลังเก่า”

แก้มทำหน้างง ๆ

“เธอแน่ใจเหรอว่าจะขุดเรื่องนั้น?”

“เราก็แค่สงสัย...” มินตรายิ้มบาง ๆ แต่ในใจเธอปั่นป่วน

หลังเลิกเรียน มินตรามุ่งหน้าไปที่ห้องสมุดทันที เธอขออนุญาตอาจารย์บรรณารักษ์เพื่อลงไปค้นแฟ้มเอกสารเก่าในห้องใต้ดิน

กลิ่นกระดาษเปียกชื้นกับฝุ่นหนาทำให้เธอแสบจมูก เธอกวาดตามองแฟ้มต่าง ๆ จนเจอกล่องเหล็กเก่า ๆ ที่ไม่มีป้ายชื่อติดอยู่

ภายในกล่องมีแฟ้มกระดาษสีน้ำตาลเก่า ๆ และสมุดโน้ตปกแข็งเล่มหนึ่ง

บนปกเขียนด้วยหมึกซึมจางว่า

“บันทึกห้อง 5/6”

มือของมินตราสั่นขณะเปิดอ่านหน้าแรก

ลายมือหวัด ๆ แต่ชัดเจนเขียนไว้ว่า:

> “วันนี้พวกเขาเอาเธอกลับมาอีกครั้ง… ฉันไม่รู้ว่าเธอคือใคร แต่เธอเหมือนใครบางคนที่เคยอยู่ที่นี่เมื่อสิบปีก่อน—เหมือนมาก… จนน่ากลัว”

> “พวกครูไม่เคยพูดถึงเธอ คงกลัวว่าจะมีใคร ‘จำได้’ ว่าเคยเกิดอะไรขึ้น…”

> “ฉันได้ยินเสียงร้องไห้ตอนกลางคืนอีกแล้ว มันดังมาจากห้องนั้น ทุกครั้งที่ได้ยิน ฉันจะเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งในฝัน ใบหน้าเธอเต็มไปด้วยน้ำตา และมองมาทางฉันเหมือนกำลังขอความช่วยเหลือ... หรือบางที อาจจะเป็นคำขู่”

มินตรากลืนน้ำลาย เธอหายใจติดขัดแต่กลับอ่านต่อไปเหมือนถูกสะกด

หน้าอื่น ๆ ของสมุดเต็มไปด้วยลายมือที่เริ่มสั่นไหว ราวกับคนเขียนค่อย ๆ เสียสติ

แต่ในหน้าสุดท้าย มันกลับมีข้อความเพียงสั้น ๆ เขียนด้วยปากกาแดงว่า

“ห้ามให้เธอจำได้”

และใต้ข้อความนั้น มีชื่อเขียนด้วยลายเซ็นเล็ก ๆ

“กัญญา”

มือของมินตราชาไปหมด เธอมองชื่อในหน้ากระดาษนิ่ง ๆ

ไม่รู้ว่าความกลัวหรือความจริงที่กำลังคืบคลานเข้ามาทำให้ใจเต้นแรงกว่ากันแน่

ก่อนที่เธอจะปิดสมุด เธอหันกลับไปมองประตูห้องใต้ดิน

เงาร่างหนึ่งแวบผ่านทางเดินหน้าห้อง เงียบจนแทบไม่มีเสียงฝีเท้า

และที่หน้าต่างบานเล็กด้านบนสุด... เธอเห็นดวงตาคู่หนึ่งมองลงมา

มันคือดวงตาของเธอเอง—แต่เธอไม่เคยอยู่ตรงนั้น

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!