วันที่ 1 มกราคม ปีพ.ศ.256X เวลา 11:50 น. ณ ช่วงก่อนเกิดเหตุการณ์ "The glitch"
10 นาทีก่อนหน้านั้น
หลังจากภาพที่มืดมิดกับข้อความสีขาวได้จางหายลง ภาพของท้องฟ้าสีครามก็ปรากฏขึ้นมาเหนือต้นไม้ขนาดใหญ่ต้นหนึ่ง ที่อยู่ในรั้วโรงเรียนที่ไหนสักแห่งแถวจังหวัดลำปาง
ที่ซึ่งภายใต้ร่มเงาของต้นไทรนี้นั้นมีเด็กนักเรียนอยู่ตั้งมากมาย ที่ได้มานั่งพักผ่อนหย่อนใจกันแถวโต๊ะไม้หินอ่อนที่อยู่ทั่วทั้งบริเวณนี้
โดยรวมไปถึงนักเรียนม.5กลุ่มหนึ่งด้วย
เฟรม : “*เคี้ยว* ปีใหม่มึงทำอะไรบ้างวะฟุค?” เฟรมชวนฟุคคุยจากอีกโต๊ะหนึ่งด้วยความเบื่อหน่าย ในขณะที่กินขนมปังไปด้วย
เฟรมนั้นมีผมสีดำหนาฟู หน้าม้ายาวลงมาถึงคิ้ว ใบหน้านิ่งราวกับคนหน้าบูดตลอดเวลา มีดวงตาสีน้ำตาลเข้ม จมูกโด่ง ร่างกายผอมเพรียวแต่เต็มไปด้วยกล้ามเป็นมัด ๆ มีผิวเหลือง และใส่ชุดนักเรียนไทย
ฟุค : “ปีใหม่กูก็อยู่แต่ในบ้านน่ะ ไม่ได้ทำเหี้ยอะไรเลย...” ฟุคพูดขณะพิงขาตัวเองและดูมือถือไป อย่างเบื่อหน่ายมาก ๆ
ฟุคนั้นมีผมสีดำเรียบยาวจนบังตาเขาได้ มีร่างกายสูงยาวผอมเพรียว จมูกโด่ง ผิวขาว และใส่ชุดนักเรียนไทย
เฟรม : “ของกูก็ไม่มีอะไรมากหรอก… แค่ออกกำลังกายอยู่ที่บ้านและฝึกวาดรูปแค่นั้น”
ฟีโน่ : “พวกมึงนี่ดีจังเลยนะ... ของกูนี่ต้องไปขายของกับพ่อแม่ที่เชียงใหม่นู่น” ฟีโน่พูดบอกจากอีกโต๊ะหนึ่งที่อยู่ข้างหน้าเฟรม
ฟีโน่นั้นมีผมสีดำสั้นหยักสก คิ้วหนา ดวงตาสีน้ำตาลเข้ม ใส่แว่นตาหนาคอบดำ จมูกโด่ง ร่างกายสูงอวบ มีผิวสีแทน และใส่เสื้อฮูดสีแดงสดโดยไม่รูดซิบซ้อนทับกับชุดนักเรียนไทยด้วย
ค็อบ : “ส่วนของกูไปเที่ยวว่ะโน่!” ทันใดนั้นเสียงพลันแทรกของค็อบ ก็ได้ดังขึ้นมาจากเก้าอี้ข้าง ๆ ฟีโน่
ค็อบนั้นมีผมสีดำสั้นหยักสก ดวงตาสีน้ำตาลเข้ม มีร่างกายผอมเพรียว และผิวเหลือง โดยใส่ชุดนักเรียนไทยพร้อมใส่แมสสีดำตลอดเวลาด้วย
ฟีโน่ : “เออ ๆ” *เสียงพูดคุยกัน*
เฟรม : *เคี้ยว* (เฮ้อ วันนี้กูจะทำอะไรดีเนี่ย...) เฟรมพูดในใจ ขณะมองดูเพื่อนของเขาที่กำลังพูดคุยกันตามปกติอยู่ ด้วยสายตาที่เฉยมาก ๆ โดยกินขนมปังไปด้วย
“เฮ้ย~! ยีน! ชั้นได้ตัวใหม่ด้วยละ!”
เฟรม : “?” แต่ทันใดนั้นเฟรมที่พลันได้ยินเสียงเพื่อนของเขาอีกคนที่อยู่โต๊ะข้าง ๆ นั้น จึงหันหน้าไปมองทันที ด้วยความอยากรู้
ซึ่งเพื่อนที่พึ่งพูดมาเมื่อกี้นี้นั้น ก็คือ “กุล”
โดยมีผมสีดำสั้นเกรียน ดวงตาสีน้ำตาลเข้ม มีหนังตาชั้นเดียว จมูกโด่ง ตัวเล็ก ผิวเหลือง ร่างกายผอมเพรียว และก็ใส่ชุดนักเรียนไทยนั่นเอง
“ห๊ะ!? ได้ไงกุล? ตัวนี้ออกโคตรยากเลยนะ!”
ส่วนอีกคนที่ยีนยืดหน้าดูมือถือของกุลจากอีกฝั่งหนึ่งนั้น ก็คือ “ยีน”
โดยมีผมสีดำสั้นทรงทหาร มีดวงตาสีน้ำตาลเข้ม จมูกโด่ง ผิวเหลือง ร่างกายสมส่วน และก็ใส่ชุดนักเรียนไทย
กุล : “แค่ดวงดีน่ะ...” กุลยิ้มกลุ้มกลิ่มอย่างดีใจมาก
ยีน : “ฮึย...!! อุตส่าห์เล่นก่อนแท้ ๆ แต่ทำไมไม่เคยได้ตัวดี ๆ เลยวะ?!” ยีนกัดฟันพูด
"เอาหน่ายีน~ ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวครั้งหน้าเธออาจจะได้ก็ได้"
แต่โต๊ะนี่ก็ยังมีอีกคนหนึ่งอยู่ ซึ่งนั่นก็คือ “ก้อง” นั่นเอง
โดยก้องนั้นจะมีผมสีดำเข้มปัดไว้ด้านข้าง ดวงตาสีน้ำตาล คิ้วหนาดก จมูกโด่ง ผิวเหลือง ร่างกายอวบ และใส่ชุดนักเรียนไทยด้วย
ยีน : “ฮือ… ไม่ต้องมาปลอบเลยก้อง!”
ก้อง : “เอ๋!?”
“ไหนตัวอะไรวะกุล? ขอดูหน่อย?” แต่แล้วก็พลันมีเสียงของใครบางคน พูดถามขึ้นมาจากเก้าอี้ข้าง ๆ ฟุคเข้า
โดยคนที่พูดนั้นคือ “พงษ์”
ที่มีผมสีดำเข้มรองทรง ดวงตาสีน้ำตาลเข้ม จมูกโด่ง ร่างกายผอมเพรียว มีผิวสีแทนน้ำผึ้ง และก็ใส่ชุดนักเรียนไทยด้วย
กุล : “ตัวนี้เก่งมั้ยอะ?” กุลหันหน้าจอ ขณะยื่นมือถือให้พงษ์ดูจากอีกโต๊ะหนึ่ง
พงษ์ : “อ๋อ ตัวนี้ก็ใช้ได้นะ เก่งอยู่-”
“แอ๊ะ..! ตัวกาก!” แต่ทันใดนั้นก็พลันมีเสียงของเพื่อนคนสุดท้าย พูดแทรกขึ้นมาเข้า โดยอยู่จากโต๊ะซ้ายมือของเฟรม
ซึ่งคนที่พูดนั้นก็คือ “อะตอม” ที่ได้เงยหน้าขึ้นมาดู ขณะกำลังนอนบนเก้าอี้อยู่ พร้อมเอากระเป๋าหนุนหัวเอาไว้ด้วยนั่นเอง
โดยอะตอมนั้นมีผมหน้าม้ายาวลงมาถึงคิ้ว มีผมสีดำสั้น ดวงตาสีน้ำตาลเข้ม จมูกโด่ง ร่างกายผอมเพรียว ผิวเหลือง และใส่ชุดนักเรียนไทยด้วย
อะตอม : “ตัวของกูเก่งกว่าเยอะ!”
พงษ์ : “ไอสัส! เล่นก่อนทำเป็นขิงนะ!- *พูดคุยกันเสียงดัง”
เฟรม : (ฮึ ดีนะที่มีพวกเหี้ยนี่ทะเลาะกันน่ะ… ดูเพลินดี) เฟรมมองเพื่อนของเขาเล่นกันด้วยสายตาที่เฉยมาก ๆ ผิดกับสิ่งที่คิดโดยสิ้นเชิง
ในขณะที่ฟุคนั้นก็กำลังพูดพึมพำอะไรสักอย่างอยู่ข้าง ๆ นั่น โดยดูมือถือของตัวเองไปอย่างยิ้มกลุ้มกลิ่มว่า
ฟุค : “อ่า นี่แหละแฟนของฉัน~”
“ฟึบ! ฟึบฟึบฟึบ…!!”
แต่ทว่าก็ได้มีบางอย่างเกิดขึ้น เมื่อจู่ ๆ นกทั้งหมดที่อยู่ในโรงเรียนนั้นก็เกิดบินขึ้นมาพร้อมกันเป็นวงกลมอยู่เหนือน่านฟ้าของโรงเรียนนี้ทันที ราวกับเป็นรูปวงแหวนขนาดยักษ์
“เฮ้ย อะไรอ่ะ?”
“นี่มันอะไรเนี่ย?”
“มันจะเกิดอะไรขึ้นเปล่าวะ?” ผู้คนต่างมองขึ้นไปดู ด้วยความประหลาดใจอย่างมาก
อะตอม : “อะ อะไรวะนั่น?!”
ก้อง : “มันทำอะไรอะ…?”
เฟรม : "นกมัน..ไม่ควรทำแบบนี้สิ...?" เฟรมพูดอย่างเหงื่อตก ขณะสังหรณ์ใจไม่ดีมาก ๆ
ทันใดนั้นฝูงนกทั้งหมดมันก็ได้ร่วงตกลงมาที่พื้นราวกับสายฝนทันที พร้อมกับผู้คนที่จู่ ๆ ก็หมดสติไปด้วย อย่างแปลกมาก ๆ
แต่กลับมีเพียงแค่พวกเขาเท่านั้นที่ไม่เป็นอะไรเลยสักนิด
พวกเขา : “!?!?”
อะตอม : “เกิดอะไรขึ้นวะ!?-”
“เอี๊ย-ด…!! ปั่ง!! ตุ้ม!!!” แต่แล้วก็พลันมีเสียงดังมาก ๆ เกิดขึ้นที่ข้างนอกโรงเรียนเข้า
ก้อง : “กรี๊ด!!!”
ฟีโน่ : “เหี้ยอะไรวะ!?”
ยีน : “เสียงรถชนเอ่อ!?”
ฟุค : “ฮ๊ะ!?”
เฟรม : “แม่งเอ๊ย…! เกิดเหี้ยอะไรขึ้นวะ?!” เฟรมรีบวิ่งไปที่กำแพงที่อยู่ตรงข้างหน้าทันที เพื่อดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นข้างนอกกันแน่
เพื่อนของเฟรม : "เฮ้ย! อย่า!!" เพื่อนของเฟรมที่เห็นแบบนั้น จึงรีบตะโกนห้ามเฟรมไว้ด้วยความเป็นห่วงมาก ๆ
แต่เฟรมกลับไม่ฟังเลยสักนิดและพุ่งตัวกระโดดจับไปที่ปลายกำแพงทันที แล้วดันตัวเองขึ้นมาดูข้างนอกนั่น
เฟรม : "!!" แต่ทว่าเฟรมกลับต้องตกใจมาก ๆ
ที่ได้เห็นว่ามีซากรถและมอเตอร์ไซต์ชนกันระเนระนาดไปหมด จนมีผู้คนหมดสติกระเด็นเกลื่อนกลาดไปทั่วถนน บางคนก็มีรอยฟกช้ำและมีแผลถลอกเต็มตัว บางคนก็แขนขาหัก คอหัก และมีอวัยวะภายในทลักออกมา จนเป็นภาพอุบัติเหตุที่น่าสยดสยองมาก
เฟรม : "อัก...! อะ... นี่มัน...เหี้ยอะไรเนี่ย...!?" เฟรมตกใจและสับสนมาก ๆ จนอ้าปากค้างพูดไม่ถูก
ฟุค : "ก-กูไม่อยู่ละ!!" ฟุคที่เริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมานั้น จึงวิ่งหน้าตั้งไปที่อาคารเรียนที่อยู่ข้างหลังพวกเขาทันที โดยหยิบกระเป๋าของตัวเองที่วางอยู่บนโต๊ะไปด้วยขณะกำลังวิ่ง
พงษ์ : "..อยู่ทำเหี้ยอะไรล่ะ!! หนีดิวะ!!"
ค็อบ/อะตอม : "เฮ้ย!? รอกูด้วย!!"
จากนั้น พงษ์ ค็อบ และอะตอม ก็วิ่งตามฟุคไปทันทีด้วยความกลัวมาก ๆ โดยหยิบกระเป๋าของตัวเองไปด้วย
เฟรม : "เฮ้ย!? แล้วคนที่สลบอยู่ล่ะ?!" เฟรมพูดขณะหันหลังและปล่อยตัวลงจากกำแพงไปด้วย
พงษ์ : "ช่างหัวแม่งดิ!!"
อะตอม : "มึงเอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ!!"
ยีน : "เดี๋ยว!? ทิ้งกันแบบนี้เลยเหรอ!?"
กุล : "กูไปละ!!"
ก้อง: "หนี…!!"
ฟีโน่ : "เร็วรีบ ๆ ตามมาเฟรม!!" เพื่อนของเฟรมวิ่งหน้าตั้งไปกันหมด โดยหยิบกระเป๋าของตัวเองไปด้วย
เฟรม : "เออ!!" จากนั้นเฟรมก็ได้รีบวิ่งตามเพื่อนของเขาไป
"เปรี้ยง!!!" แต่ทันใดนั้นก็มีฟ้าผ่าลงมาตรงหน้าพวกเขาเข้า จนเกิดเสียงที่ดังสนั่นไปทั่วโรงเรียน
ก้อง : "กรี๊ด!!?"
อะตอม : "เหี้ยไรเนี่ย!?"
พวกเขา : "!?"
ซึ่งคนที่อยู่ใกล้กับฟ้าผ่ามากที่สุดนั้นก็คือ 'ฟุค' นั่นเอง โดยมีรอยไหม้อยู่เฉียดปลายเท้าของเขาเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น
ฟุค : "*ช็อค* อะ... อะ...!" ฟุคยืนแข็งทื่อช็อคกลัวไปหมด จนทำตัวอะไรไม่ถูก
พงษ์ : "เฮ้ย! ฟุคมึงเป็นอะไรมั้ยวะ?!" พงษ์ที่เห็นแบบนั้น จึงรีบวิ่งไปดูอาการฟุคทันที ด้วยความตกใจมาก
แต่ทว่าเมื่อพงษ์ได้วิ่งมาถึง จู่ ๆ ฟ้าก็ผ่าลงมาเฉียดหน้าเขาทันที
"เปรี้ยง!!!"
พงษ์ : "เหี้ยเอ๊ย!!?"
พงษ์ : "ฟุคถอยออกมาเร็ว!!"
ฟุค : "..ขะ-ขากู...มันไม่ไปอะดิ!? ฟ้าผ่าเมื่อกี้แม่ง...เหมือนกันไม่ให้ออกไปเลย!?" ฟุคกลัวสุดขีด จนขาของเขาสั่นไปมาไม่หยุด
จากนั้นท้องฟ้าที่ปลอดโปล่งก็เริ่มมืดขรึมไปด้วยเมฆทันที พร้อมกับมีกระแสลมที่รุนแรงราวกับเฮอริเคนพัดโชยมาหาพวกเขาด้วย
ฟีโน่ : "คราวนี้อะไรอีกวะ!!?"
ค็อบ : "ไม่รู้!! แต่หาที่ให้ตัวเองปลอดภัยก่อนเถอะ!!" ค็อบวิ่งฝ่าพายุที่โหมกระหน่ำไป เพื่อรีบไปหลบในอาคารที่อยู่ข้างหน้านั่น
แต่ทว่าฟุคกลับมารั้งตัวของเขาไว้
ฟุค : "เฮ้ย! อย่านะไอสัส!!"
ค็อบ : "อะ! ปล่อยกูดิวะฟุค!! มึงไม่เห็นเหรอว่าข้างนอกมันเกิดเหี้ยอะไรขึ้นน่ะ!!!"
ฟุค : "กูเห็น!! แต่มึงไม่เห็นรอยฟ้าผ่าข้างหน้าเหรอวะ!! มันกันไม่ให้ออกไปไอสัส!!"
ค็อบ : "แล้วมึงรู้ได้ยังไงวะฟุค?!!" ค็อบกระชากขอเสื้อฟุค ด้วยความโกรธมาก ๆ
ฟุค : "กูรู้!! เพราะกูเชื่อสัญชาตญาณกูไง...!!"
พงษ์ : "เฮ้ย!! นี่ไม่ใช่เวลามาเถียงนะ!!!" ทันใดนั้นพงษ์ก็ได้กระชากแขนของพวกเขาออกมาจากตรงนั้นทันที โดยวิ่งไปที่ใต้ต้นไม้ใหญ่รวมกับเพื่อน ๆ ของเขาด้วย
ในขณะที่พายุอันโหมกระหน่ำนั้น ก็กำลังพัดหลังคาตึกของโรงเรียนนี้อยู่ จนปลิวว่อนไปหมด
เฟรม : "นี่มันวันเหี้ยอะไรวะ...!!?" พวกเขาที่รู้สึกกลัวและสับสนมาก ๆ นั้น จึงได้รวมเกาะกลุ่มกันใต้ต้นไม้ที่ปลิวไปปลิวมานี้ เพื่อให้ตัวเองรู้สึกปลอดภัยยิ่งขึ้น
อะตอม : "ใต้ต้นไม้ไม่ปลอดภัยเลยสักนิด!!"
ยีน : "ทำไมเราต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยวะ!?"
ก้อง : "ตายแน่...! นี่เราจะต้องตายงั้นเหรอ!?"
ฟีโน่ : "เฮ้ย! ปากไม่ดีก้อง!! เราต้องรอดไปให้ได้ดิ!!"
กุล : "ใช่!!"
เฟรม : "ทำไมพวกมึงคิดบวกจังวะ!? ข-ข้างนอกกูเห็น..คนตายเต็มไปหมด...! แล้วร-เราจะรอดเหรอ...?!"
ค็อบ : "เฮ้ย!! ถ้ามึงพูดอีกกูจะต่อยปากมึงแล้วนะ!!"
พงษ์ : "อย่าพูดแบบนั้นดิวะ!! ยังไงก็ต้องรอดดิ...!!"
เฟรม : "...โอะ...โอเค...! ตอนนี้ปลอบใจตัวเองดีที่สุด...!"
แต่ทว่าเมื่อเฟรมพูดจบ จู่ ๆ ก็ได้มีแสงสีทองปริศนาสาดส่องลงมายังฟุคจากบนฟากฟ้าเข้า
ฟุค : "หะ...?" ฟุคที่เห็นแบบนั้น จึงแหงนหน้าขึ้นไปมองแสงสีทองทันที ด้วยความประหลาดใจมาก ๆ
จากนั้นฟุคก็ถูกแสงสีทองนั่นทำให้สลายหายไปทันที จนไม่เหลือซาก
ฟุค : "เฮ้ย!?- *ฟึ่บ*"
"......" พวกเขาที่เห็นแบบนั้น จึงรู้สึกช็อคไปสักพัก ก่อนที่จะตกใจขึ้นมาว่า
"!!?"
อะตอม : "อ๊า!!! หะ...! ฮะ...!! ฮะ...!!" อะตอมตกใจกลัวมาก จนเขาล้มลงไปที่พื้นและดันตัวเองถอยหลังไปด้วย
ฟีโน่/พงษ์ : "ฟุค!!?"
เฟรม : "อะ..ไอฟุค...!!?"
กุล : "ฟุคตายแล้วงั้นเหรอ...!!?"
ยีน : "ไม่!! ไม่...!! ไม่...!!!" พวกเขาพูดอย่างหวาดผวา ด้วยความกลัวมาก ๆ สุดขีด
แต่ทว่าแสงสีทองมันก็ได้โผล่ออกมาอีกครั้ง และส่องตรงไปยังอะตอม
อะตอม : "เฮ้ย!!? อย่า!!! อย่า...!!- *ฟึ่บ*" อะตอมที่เห็นแบบนั้น จึงรีบลุกขึ้นมาอย่างทุรนทุรายทันที เพื่อจะหนีจากแสงนั่น ก่อนจะถูกแสงสีทองทำให้สลายหายไป
พวกเขา : "!!?" พวกเขาที่เห็นแบบนั้นอีกครั้ง ก็เกิดสติแตกขึ้นมาทันทีด้วยความกลัวมาก ๆ จนวิ่งหนีเตลิดไปทั่วต้นไม้นี้ ราวกับลูกไก่ในกรง
ก้อง : "กรี๊ดดด!!! อย่ามาหากูนะ!! อย่ามาหากู...!!"
พงษ์ : "เฮ้ย!? กูยังไม่อยากตาย...!!!"
ค็อบ : "ตัวใครตัวมันเถอะไอเหี้ย!!!"
ฟีโน่ : "ค_ยเอ๊ย!! พวกเราจะตายจริง ๆ เหรอวะ!!?"
ยีน : "ไม่!! มันไม่ควรเป็นแบบนี้สิ!? มันไม่ควรเป็นแบบนี้...!!!"
กุล : "ใครก็ได้มาช่วยกูที...!!"
เฟรม : "เหี้ยเอ๊ย...!!! ทำไมมันต้องเกิดขึ้นกับกูด้วยวะ...!!?" พวกเขาร้องรั่นด้วยความกลัวสุดขีด
แต่แล้วแสงสีทองมันก็ได้ปรากฏออกมาอีกครั้ง และได้ส่องตรงไปยังฟีโน่
ฟีโน่ : "เฮ้ย!!? ไม่!!!- *ฟึ่บ*" ฟีโน่ที่เห็นแบบนั้น จึงรีบวิ่งหนีออกจากแสงนั่นทันที แต่ก็ได้สลายหายไปก่อนที่จะออกจากแสงนั่นได้ทัน
ค็อบ : "ฟีโน่!!?"
ยีน : "โน่หายไปแล้ว...!!?"
ก้อง : "ไม่...!! นี่มันไม่จริง!!! นี่มันก็แค่ความฝัน!! นี่มันก็แค่ความฝัน...!!" ก้องได้ปิดหูปิดตาขณะนั่งย่อเข่าไป เพื่อหนีความจริง
แต่ทว่ากิ่งไม้ขนาดใหญ่มันก็ได้หักลงมาบนต้นไม้จากแรงพายุเข้า จนกำลังจะไปชนกับก้อง
ก้อง : "...!!!"
ทันใดนั้นแสงสีทองมันก็ได้ปรากฏออกมาอีกครั้งและส่องไปยังก้องทันที จนเขาสลายหายไปก่อนที่จะถูกกิ่งไม้นั่นกระแทก
"*ฟึ่บ* แก๊ก!! กึก! กรึก"
เฟรม : "ก้อง!!?"
เฟรม : (ค_ยเอ๊ย!! นี่กูจะต้องตายจริง ๆ เหรอเนี่ย!?) เฟรมเริ่มหลั่งน้ำตาออกมาขณะพูดในใจไปด้วยอย่างกลัวสุดขีด
เฟรม : (ไม่!! กูยังไม่อยากตายนะ...!! กูจะต้องหนีออกไปให้ได้!!)
เมื่อเฟรมพูดจบ เขาก็รีบวิ่งฝ่าพายุนั่นไปทางอาคารเรียนทันที โดยวิ่งไปทางเดียวกับที่ฟุคเกือบโดนฟ้าผ่านั้น
"!!?" พวกเขาที่เห็นเฟรมทำแบบนั้นอีกครั้ง จึงได้ตะโกนห้ามเฟรมไว้ทันทีว่า
กุล/ยีน : "เฟรมอย่า!!!"
ยีน : "ฟ้าผ่านะตรงนั้น!!!"
ค็อบ : "เฮ้ย!! มึงอยากตายหรือไงวะ!!?"
เฟรม : "กูรู้!!! แต่มันเป็นเพียงแค่ทางเดียวเท่านั้น!!!" เฟรมตะโกนบอกเพื่อนของเขา ขณะวิ่งไปด้วย
เฟรม : (กูต้องหนีไปให้ได้...!!!)
แต่แล้วฟ้าก็ได้ผ่าลงมายังหน้าเฟรมทันที จนเกิดเป็นเสียงที่ดังสนั่นไปทั่วโรงเรียนอีกครั้งเข้า
"เปรี้ยง!!!"
เฟรม : "...!!!" เฟรมจึงหยุดชะงักไปสักพักด้วยความลังเล ก่อนจะตัดสินใจขึ้นมาว่า
เฟรม : (สัสเอ๊ย!!! ชีวิตมันขึ้นอยู่กับกูแล้วนะ!!)
แล้วจากนั้นเฟรมก็ได้ยื่นมือขวาของเขาไปด้านหน้าทันที ก่อนจะวิ่งไปข้างหน้า
แต่แล้วเฟรมก็กลับข้ามมันมาได้สำเร็จ โดยไม่มีฟ้าผ่ารออยู่ตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย
เฟรม : “…!?”
เฟรมทั้งรู้สึกประหลาดใจและรู้สึกโล่งใจมาก ๆ อย่างบอกไม่ถูก จากการที่เขานั้นก้าวข้ามเส้นแห่งความกลัวมาได้ และใกล้จะหลุดพ้นกลับความกลัวทั้งหลายเหล่านี้แล้ว ภายในตึกอาคารที่มั่นคงและปลอดภัยตรงหน้านั้น
แต่ทว่า...
เฟรม : "เฮ้ย!? ใกล้จะถึงแล้ว!!! ใกล้จะถึงแล้ว...!!" เฟรมพูดยิ้มอย่างดีใจ ขณะวิ่งไปด้วย
เฟรม : "*ตุ๊บ!* อ๊ะ!!!" แต่จู่ ๆ เฟรมก็เกิดไปชนกับอะไรบางอย่าง ที่มองไม่เห็นราวกับกำแพงที่อยู่ตรงหน้าเข้า
เฟรม : "โอ๊ย...!! หน้ากู...! อะไรวะ!?" เฟรมมองไปที่สิ่งที่เขาพึ่งชนไปเมื่อกี้ ด้วยความประหลาดใจมาก ๆ
จากนั้นเจ้าสิ่งนั้นมันก็ได้เผยตัวออกมาเป็นโดมสีทองใสขนาดยักษ์ ที่ได้คลุมไปทั่วทั้งต้นไม้นี้แล้ว
เฟรม : "ห๊ะ!? บาเรียเอ่อ!?" เฟรมเอามือแตะที่บาเรียนั่น ด้วยความตกใจมาก ๆ
เฟรม : "ไม่! ไม่..!! ไม่...!!! มันไม่ควรเป็นแบบนี้สิ!!?" เฟรมทุบบาเรียไปมาอย่างสิ้นหวังมาก
เฟรม : "อาคารอยู่ข้างหน้าแค่นิดเดียวแท้ ๆ!!!" เฟรมเริ่มร้องไห้อีกครั้ง ด้วยความกลัวมาก ๆ
ค็อบ : "เฮ้ย!!? อย่า!!!- *ฟึ่บ*"
เฟรม : "...!!?"
แต่ทันใดนั้นก็พลันมีเสียงที่หวาดกลัวของค็อบดังขึ้นมาจากข้างหลังของเฟรมเข้า ก่อนที่เสียงนั้นจะขาดหายไป
เฟรมที่ได้ยินแบบนั้น จึงค่อย ๆ หันศีรษะของเขาไปดูด้านหลังอย่างช้า ๆ ด้วยใบหน้าที่เลอะน้ำตาจากความกลัวมาก ๆ
ยีน : "เฟรมช่วยกูด้วย!!! กูยังไม่อยากตาย!!!"
กุล : "..ไม่...! เหลือแค่พวกเราแล้ว!! ตายแน่ ๆ ยีน!!? ตายแน่ ๆ!!!" พวกเขาพูดอย่างสติแตก ด้วยความกลัวมาก ๆ สุดขีด
เฟรม : "ยะ..ยีน...กุล...!?"
เฟรม : (เชี่ยเอ๊ย ๆ ๆ...!!! เหลือกันแค่ 3 คนแล้วเหรอวะ!!?)
เฟรม : (มันจะเป็นใครต่อวะ?! อย่าเป็นกูนะ!! อย่าเป็นกู...!!)
แต่ทว่าในขณะที่เฟรมกำลังพูดในใจอยู่นั้น แสงสีทองมันก็ได้ปรากฏออกมาอีกครั้ง และได้ส่องตรงไปยังยีน
ยีน : "ไม่!!! มันไม่ควรเป็น-" ยีนได้สลายหายไป ก่อนที่จะพูดเสร็จ
กุล : "ยีน!!!"
เฟรม : "...!!?"
เฟรม : "ปล่อยกูออกไปดิวะ!! ปล่อยกูออกไป!!!" เฟรมทุบบาเรียไปมาอย่างบ้าคลั่ง ด้วยความกลัวมาก ๆ สุดขีด
กุล : "ทำยังไงดีวะเฟรม!!! กูยังไม่อยากตายนะ!!!" กุลวิ่งไปหาเฟรม ด้วยความกลัวมาก ๆ
เฟรม : "กูไม่รู้!!! แต่มันจะต้องมีใครสักคนไปก่อนไอเหี้ย!!! แต่มันจะไม่ใช่กู!! เพราะกูก็ไม่ได้อยากตายเหมือนกัน...!!" เฟรมร้องไห้หนักกว่าเดิม หลังจากพูดคำสุดท้ายเสร็จ
แต่ทันใดนั้นแสงสีทองมันก็ได้ปรากฏออกมาอีกครั้ง โดยได้ส่องตรงไปยังกุล
กุล : "เฟรม!!!- *ฟึ่บ*" กุลที่รู้ว่าเขาจะไม่รอดแล้วนั้น จึงได้ยื่นมือไปหาเฟรมพร้อมกับเรียกชื่อของเขาทันทีอย่างกลัวมาก ๆ ก่อนจะสลายหายไป
จนในที่สุดก็เหลือเพียงแค่เฟรมแค่คนเดียวเท่านั้น ที่ยังอยู่ถึงคนสุดท้ายในท่ามกลางพายุที่โหดร้ายนี้
เฟรม : *สะอื้น*"............" เฟรมก้มหน้าร้องไห้ขณะเอาแขนพิงบาเรียไป ด้วยสีหน้าที่กลัวมาก ๆ สุดขีด
เฟรม : "มันจบละ......พ่อครับ...แม่ครับ....."
เฟรม : "เฟรมขอโทษ....." เมื่อเฟรมพูดจบ จู่ ๆ ก็ได้มีสายฟ้าสีดำแดง โผล่ออกมาจากใต้พื้นของเขาเข้า ก่อนที่สายฟ้านั้นจะปกคลุมไปรอบ ๆ จนเขาได้หายไปพร้อม ๆ กับสิ่งนั้น
“ฟึง…!”
ขอบคุณที่อ่านครับ :)
ณ อีกด้านหนึ่งของความมืดมิด ที่ทั้งเคว้งคว้างและไร้ซึ่งจุดจบ
"ตึก ตึก ตึก ตึก..."
แต่ทว่ากลับมีเสียงฝีเท้าอันหนักแน่นคู่หนึ่ง เดินกึกก้องเข้ามาในห้วงแห่งความมืดมิดนี้ และพูดขึ้นมาว่า
"ไอเจ้าบ้านั่น... ถึงขั้นใช้ที่ที่น่ารังเกียจแบบนี้ คงจะเป็นเรื่องสำคัญมากเลยสินะ?" ชายร่างโตพูด ด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
"หึ มาแล้วสินะ..."
ทันใดนั้นเสียงพลันแทรกอันเหย่อหยิ่งของชายลึกลับก็ได้พูดกับชายคนนั้นขึ้นมา ก่อนจะปรากฏร่างเงาสีดำสนิทออกมาให้เห็นตรงหน้า
"ข้าให้เวลาแก 3 นาที มีอะไรก็ว่ามา?" ชายร่างโตพูด ด้วยสีหน้าที่บึ้งตึงขณะมองด้วยสายตาที่จริงจังมาก ๆ
"โห~ นี่เจ้ายังจะจริงจังอยู่อีกเรอะ? ทั้ง ๆ ที่เราเป็นฝ่ายอยู่เหนือกว่าเนี่ยนะ?"
"..........." ชายร่างโตมอง แต่ไม่ได้พูดกลับอะไร
"ฮึ ช่างเถอะ มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า..."
"ดูเหมือนว่าวิกฤตของโลกเริ่มใกล้จะเข้ามาขึ้นทุกทีแล้วนะตอนนี้..."
"..........."
"ผู้กล้าทั้ง 9 คน ผู้มาพร้อมพรสวรรค์อันหายากยิ่ง จะถูกเรียกมาจากอีกโลกหนึ่งด้วยความหายนะจากกลุ่มสาวกของพระเจ้า และจะทำให้ 'คำทำนายแห่งจุดจบ' ได้วิบัติขึ้นจนสู่หายนะที่มิอาจย้อนคืนได้"
"..เมื่อเข็มนาฬิกาทุกเล่มชี้ไปที่เลข 12 พร้อมกันจุดเดียวถึง 2 ครั้ง 'พวกเขา' ก็จะถูกเรียกมาจากอีกโลกหนึ่ง โดยสาวกของพระเจ้า"
"แกต้องการจะบอกอะไรกันแน่?"
"10 วัน ก่อนที่ 'พายุดำ' จะซัดโหมกระหน่ำ ข้าอยากให้เจ้า..."
"คอยจับตาดูพวกเขาไว้น่ะ..."
จากนั้นภาพก็ได้ตัดไปที่ ในอุโมงค์ถ้ำแห่งหนึ่ง ที่ทั้งมืดมิดและเคว้งคว้างเป็นอย่างมาก
แต่จู่ ๆ ก็ได้มีสายฟ้าแสงสีดำแดงโผล่พุ่งออกมาจากกลางพื้นนั่น จนเกิดเสียงช็อตดังสนั่นไปทั่วอุโมงค์
"ฟึง!!"
แล้วจากนั้นเฟรมก็ได้โผล่ออกมาพร้อมกับใบหน้าที่เปื้อนด้วยน้ำตา อย่างสับสนและกลัวมาก ๆ
เฟรม : "...!!?"
ทันใดนั้นเฟรมก็มองไปรอบ ๆ ตัวเขาที่เต็มไปด้วยความมืดมิดทันที อย่างกระวนกระวาย ก่อนจะตั้งสติขึ้นมาได้และรีบควักหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วเปิดแสงไฟขึ้นมาส่องทันที ด้วยความตื่นตระหนก
จนเมื่อแสงไฟได้ไปกระทบกับผิวอันขุรขระของถ้ำและส่องสะท้อนกลับมาที่ตา เฟรมก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมานิด ๆ แล้ว
เฟรม : *หายใจแรง* เสียงหายใจที่ไม่เป็นจังหวะที่เกิดจากความกลัว พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงฉับพลันของอากาศที่เย็นจัด จากสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นชิ้น ส่งผลให้เฟรมรู้สึกเครียดมาก ๆ จนคิดแต่เรื่องแง่ลบไปหมด
ในขณะที่ร่างกายของเขานั้นก็กำลังส่องดูที่นี่ไปด้วยความสั่นเทา จนได้เหลือบไปเห็นรูอุโมงค์รูหนึ่งที่มีขนาดพอให้คนเดินผ่านไปได้เข้า
เฟรม : (ที่นี่ที่ไหนเนี่ย?! กูอยู่ไหนกัน...?)
เฟรม : (แล้วกูจะกลับยังไง? นี่กูจะต้องมาตายที่งั้นเหรอ?!)
เฟรม : (แล้วอุโมงค์นี่มันอะไรอีก?!)
เฟรม : (ไม่ ไม่ นี่มันไม่ควรจะเป็นจริงสิ...! ใช่แล้ว! นี่มันก็แค่ความฝัน...ที่เหมือนจริง..ก็เท่านั้น...) เฟรมพูดในใจขณะมองไปในรูอุโมงค์ที่อยู่ตรงหน้า ที่ทั้งมืดมิดและเงียบสงัดอย่างน่าขนลุก
เฟรม : (ธะ โธ่เอ๊ย...!! แค่จะหลอกตัวเองกูก็ยังทำไม่ได้เลยหรือไงวะ...?!) เฟรมที่ไม่สามารถปฏิเสธความจริงที่อยู่ตรงหน้าได้นั้น จึงรู้สึกเครียดขีดสุด จนน้ำตาคลอเบ้าออกมาอีกครั้งพร้อมกับหัวที่ร้อนระอุขึ้น
จากนั้นเฟรมก็เริ่มร้องไห้ออกมาราวกับสายน้ำผ่านใบมือที่คอยปาดเช็ดน้ำตาไป ก่อนจะพูดคร่ำครวญออกมาอย่างน่าเวทนา ด้วยน้ำเสียงอันสะอึดสะอื้นว่า
เฟรม : "*กระซิก* ทำไมกูต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยวะ...?" เฟรมนั่งกอดเข่าลงบนพื้นด้วยความกลัวขีดสุด ในขณะที่พูดระบายความในใจออกมาทั้งน้ำตาไปด้วย
เฟรม : "..ที่ไหนก็ไม่รู้...? ไม่มีใครมาช่วยด้วยซ้ำ... *สะอื้น*"
เฟรม : "ทั้งหนาว ทั้งมืด ทั้งกลัว... กูไม่ได้อยากเจออะไรแบบนี้ซักหน่อย... *กระซิก*"
เฟรม : "เฟรมแค่อยากจะกลับบ้าน..." เฟรมก้มหัวซุกเข่า และนั่งร้องโหมร้องไห้อยู่อย่างนั้น
จนเวลาผ่านไปสักพัก เขาก็เลิกจมปักกับอยู่ความเศร้าและเริ่มทำใจขึ้นมาได้บ้างแล้ว
เฟรม : "*กระซิก* หนาวจังเลย... กูยังไม่อยากหนาวตายนะ..."
จากนั้นเฟรมก็ได้ถอดกระเป๋าของเขาออกแล้วรูดซิปออกมาค้นของในนั้นดูทันที โดยที่ข้างในนั้นจะมีทั้งสมุดกับหนังสืออยู่เต็มไปหมด และมีเสื้อกันหนาวสีน้ำเงินอยู่ผืนหนึ่ง ที่มีรูปแมวส้มติดอยู่ตรงอกเสื้อด้วย
เฟรม : *กระซิก* เฟรมมองเสื้อกันหนาวของเขาที่บ่มไว้ในกระเป๋า ก่อนยืนขึ้นมาสวมเสื้อกันหนาวใส่ทันที โดยมีแสงไฟจากมือถือที่วางไว้บนพื้นส่องสะท้อนจากเพดานถ้ำลงมาให้เห็นด้วย
เฟรม : "*กระซิก* ไม่ว่ายังไงเราก็ต้องผ่านมันไปให้ได้..." เฟรมปาดเช็ดน้ำตาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะหยิบสัมภาระขึ้นมาแล้วเดินหน้าผ่านทางอุโมงค์ไป
และแล้วการเดินทางอันแสนทรหดของเฟรมมันก็ได้เริ่มต้นขึ้น...
15 นาทีต่อมา
ณ รูอุโมงค์ที่คดเคี้ยวและแสนยาวสุดลูกหูลูกตา
"ตึก... ตึก... ตึก... ตึก..."
ฝีเท้าที่เดินกึกก้องซ้ำแล้วซ้ำเล่าผ่านความเงียบสงัดในอุโมงค์ที่ไม่รู้จบ ท่ามกลางความมิดมิดที่มีแสงไฟจากมือถือคอยส่องนำทาง ได้แต่หวังไว้ว่ามันจะมีทางออกมาให้ แม้ว่ามันจะเพียงน้อยนิดอยู่ก็ตาม
เฟรม : "*หนาวสั่น* ซีด......"
ทว่าแม้จะใส่เสื้อกันหนาวที่แสนอบอุ่นมาแล้ว แต่ก็มิอาจต้านทานความหนาวเย็นของอากาศที่หนาวจัดได้อยู่ดี
สิ่งเดียวที่เขาทำได้ในตอนนี้ คือเดินต่อไปและเดินต่อไปก็เท่านั้น เพื่อหวังว่ามันจะมีอะไรดี ๆ เกิดขึ้นบ้าง
จนเวลาผ่านไป 5 นาที , 10 นาที , 20 นาที
แต่ทว่ากลับไม่มีอะไรดีขึ้นเลยสักนิด หนำซ้ำเฟรมก็กลับอาการแย่ลงแทน ไม่ว่าจะทั้งมือที่เย็นซีดไปหมดจากอากาศที่หนาวจัด ความเครียดและความวิตกกังวลจากบรรยากาศโดยรอบที่กดดัน ความเหนื่อยล้าจากการเดินต่อเนื่องเป็นเวลานาน จนทำให้เฟรมในตอนนี้เครียดจนถึงขีดสุดและใกล้ที่จะสติแตกขึ้นมาทุกทีแล้ว
เฟรม : "*หนาวสั่น* แฮ่ก ๆ ๆ..." เฟรมหายใจหอบหืดไปมาอย่างบ้าคลั่งด้วยความกลัว ขณะรีบเดินลอดอุโมงค์ให้เร็วที่สุด จนเสียงหัวใจที่เต้นระรัวนั้นได้แผ่ดังออกมาถึงข้างนอก
เฟรม : (ไม่ ไม่! เสียงแว่ว ๆ ในหูนี่มันอะไรกัน?! ทำไมกูได้ยินวะ!?)
"ตึก! ตึก! ตึก! ตึก!"
เฟรม : "...!!?" ทันใดนั้นเฟรมก็รีบเหลียวหลังไปดูทันที พร้อมกับส่องไฟฉายไปด้วย
แต่ปรากฏว่ากลับไม่มีอะไรเลยซะอย่างนั้น
เฟรม : "*เหงื่อตก* แฮ่ก... แฮ่ก... แฮ่ก..."
จากนั้นเฟรมก็ได้ก้มหัวลงไปมองที่เท้าของเขาเพื่อเช็คดู
เฟรม : "เฮะ...เฮะ ๆ... *ขำแห้ง*"
เฟรม : (นี่กูหลอนแม้กระทั่งเท้าตัวเองแล้วเหรอวะ!?)
"ตื๊ด"
เฟรม : "...!?"
แต่แล้วชีวิตก็กลับเล่นตลก เมื่อเสียงแจ้งเตือนของมือถือจู่ ๆ ก็ดังขึ้นมา จนเฟรมนั้นรู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก ก่อนจะเปิดมือถือขึ้นมาดู
และแล้วสิ่งที่เขาไม่อยากให้มันเกิดขึ้นในตอนนี้ มันก็ได้เกิดขึ้น
เฟรม : "!!?"
*แบตเหลือ 10%*
เฟรม : (เฮ้ย!? มันไม่ควรจะเป็นตอนนี้สิวะ!! ไม่ใช่ตอนนี้...!!!)
ทันใดนั้นเฟรมก็รีบวิ่งลอดผ่านอุโมงค์ไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ทันที โดยที่ไม่รู้ว่าจะเจอกับอะไรอยู่ข้างหน้าด้วยซ้ำ
เฟรม : (เหี้ยเอ๊ย! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!!! แบตกูจะหมดแล้ว! กูไม่อยากอยู่ในความมืดตลอดไปนะ!!)
*แบตเหลือ 9%*
เฟรม : (ขอร้องล่ะ! อย่าพึ่งนะ!! อย่าพึ่ง...!!!)
สถานการณ์ตอนนี้นั้นช่างสิ้นหวังถึงขีดสุด เมื่อแสงไฟที่คอยส่องนำทางให้กำลังจะดับลง จนต้องกระเสือกกระสนวิ่งผ่านอุโมงค์ที่ยาวเยียดสุดลูกหูลูกตาไปอย่างไม่รู้จบ โดยมีเพียงแค่ความหวังอันหลิบหลี่เท่านั้น ที่คอยผลักดันให้เขาดิ้นรนอยู่ต่อไป
จนกระทั่งความหวังก็เริ่มปรากฏออกมาให้เห็นตรงหน้า เมื่อเขานั้นได้เหลือบไปเห็นหินก้อนเล็ก ๆ ก้อนหนึ่งบนพื้นเข้า
เพียงแค่แว๊บตาเดียวที่เห็นมัน ก็รู้สึกได้ถึงแสงอ่อน ๆ ที่มันเปล่งออกมาได้ในทันที
*แบตเหลือ 7%*
แต่ทว่าเขาก็ไม่ได้มีเวลาสนใจกับเรื่องแค่นั้นหรอก
"ตึกตึกตึกตึกตึกตึก...!"
เฟรม : "แฮ่ก...! แฮ่ก...! แฮ่ก...! แฮ่ก...!-"
*แบตเหลือ 6%*
"เอี๊ยด! กรึก! ตึกตึกตึกตึก...!"
และแล้วความหวังมันก็ได้ส่องสว่างมากขึ้น เมื่อเฟรมนั้นได้วิ่งไปเรื่อย ๆ จนเริ่มพบเจอกับหินเรืองแสงที่เกาะอยู่ระหว่างทางมากขึ้นและมากขึ้น
จนแสงสีนวลที่มันเปล่งออกมานั้น สาดส่องไปทั่วทั้งอุโมงค์อย่างสวยงามตระการตามาก ราวกับมีดวงดาวอันระยิบระยับสุกสกาวบนท้องฟ้าได้มาติดอยู่รอบ ๆ อุโมงค์นี้
จนแววตาที่เคยสิ้นหวังและหวาดกลัวของเฟรมนั้น ก็ได้กลับมาเปล่งประกายแวววับขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อได้มองชมความสวยงามอันน่าประทับใจนี้ ในขณะที่วิ่งลอดผ่านอุโมงค์ไปด้วย จนราวกับว่ากำลังวิ่งอยู่ท่ามกลางดวงดาวที่แสนเจิดจรัญ
ก่อนจะปิดไฟมือถือลงและวิ่งผ่านดวงดาวที่สวยงามนี้ต่อไป
"ตึกตึกตึกตึกตึกตึก...!"
และแล้วแสงอันเจิดจ้าที่ส่องมาจากปลายอุโมงค์ที่อยู่ตรงหน้านั้นในตอนนี้ และในที่สุด...
"ฟึบ"
เฟรมก็ผ่านมันมาได้สำเร็จ!
เฟรม : *ยิ้มหน้าบานอย่างดีใจ*
"ตึกตัก!"
เฟรม : "แฮ่ก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ...!" เฟรมก้มตัวลงขณะมือจับเข่าไป ด้วยความเหนื่อยมาก ๆ
จากนั้นเฟรมก็ได้กำมือและกางแขนขึ้นมาทั้งสองข้างเหนือศีรษะ แล้วพูดออกมาขณะยกแขนขึ้นว่า
"ใน...ที่...สุด...!!!"
และแล้วการเดินทางที่แสนทรหดของเฟรมมันก็ได้จบลง ภายใต้ภาพที่แสนสวยงามตรงหน้า
ที่ซึ่งเป็นเหมือนถ้ำขนาดยักษ์ที่มีหินเรืองแสงเกาะอยู่ทั่วเต็มไปหมด จนแสงสีนวลที่เปล่งออกมานั้นสว่างเจิดจรัญไปทั่วทั้งถ้ำ อย่างตระการตามากจนหาที่เปรียบไม่ได้
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย : (โดยถ้ำนี้นั้นจะมีหน้าตาเหมือนกะหลาครอบขนาดยักษ์ ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ที่ 72 เมตร สูง 35 เมตร และมีแร่เรืองแสงงอกออกมาอยู่ทั่วเต็มไปหมด แต่จะมีบางส่วนที่ไม่ค่อยงอก โดยมีตั้งแต่ขนาดเล็กเท่ากับเม็ดทรายไปจนถึงขนาดใหญ่ยักษ์ที่เท่ากับเสาไฟฟ้าอยู่ด้วย)
เฟรม : "แฮ่ก... แฮ่ก... แฮ่ก..." เฟรมยิ้มหน้าบานขณะหอบเหนื่อยไปด้วยความดีใจมาก ๆ
แล้วจากนั้นเฟรมก็ได้เดินลงไปตรงทางราดนั่นแล้วเดินชมที่นี่ต่อทันที เพื่อพักจิตใจให้หายเครียด
เฟรม : "ว้าว~ สวยโคตร!" เฟรมพูดขณะมองชมที่นี่ไปด้วยความตื่นเต้น
เฟรม : "แถมมันก็ยังปล่อยเสียงอ่อน ๆ ที่นุ่มนวลออกมาเพื่อไม่ให้ที่นี่เงียบเกินไปอีกด้วย เจ๋งว่ะ!~"
เฟรม : "...นี่น่าจะเป็นมรดกโลกได้เลยนะเนี่ย!-"
แต่แล้วเฟรมก็ได้พลันชงักขึ้นมา
เฟรม : "มะ มรดกโลกเหรอ...?"
เฟรมได้หันไปมองรอบ ๆ ที่ที่สวยงามตระการตานี่อีกครั้ง
เฟรม : "นี่กู..."
"อยู่ที่ไหนกันแน่...?"
และแล้วความสงสัย มันก็ได้ก่อขึ้นในใจเขา
"ตึก ตึก ตึก..."
จากนั้นเฟรมก็ได้เดินไปดูหินเรืองแสงที่อยู่ใกล้ ๆ ทันที แล้วสังเกตุดูอย่างชัด ๆ จนได้รู้ว่ามันคือผลึกคริสตัลที่เรืองแสงได้นั่นเอง
เฟรม : "จริงด้วย ไม่มีทางที่โลกของเราจะมีแร่ที่ผลิตแสงขึ้นมาได้เองหรอกนะ..."
เฟรม : "ถ้าสมมุติว่านี่เป็นต่างโลกจริง มันก็ต้องอ้างอิงมาจากสื่อต่าง ๆ ด้วยสิ?" เฟรมพูดครุ่นคิดขณะจับคางไปด้วย
เฟรม : "ไม่ มันยังฟันธงไม่ได้ ว่านี่จะเป็นต่างโลกในสื่อจริงรึเปล่า..."
เฟรม : "เพราะว่ายังมีข้อมูลที่ไม่มากพอ และก็ไม่สามารถเอาข้อมูลจากสื่อมาใช้อ้างอิงได้ด้วย"
เฟรม : "เฮ้อ คงต้องรอหลักฐานอะไรใหม่ ๆ มาก่อนแหละ ถึงจะค่อยยืนยันเรื่องนี้ได้..."
เฟรม : "แต่ตอนนี้กูขอพักก่อนดีกว่า..."
หลังจากพูดจบ เฟรมก็เดินไปนั่งพิงกับคริสตัลขนาดยักษ์ที่อยู่ตรงข้างหน้าทันที ก่อนจะแหงนหน้าขึ้นไปมองเพดานถ้ำที่เต็มไปด้วยคริสตัลแสนสวยงาม และพูดว่า
เฟรม : "อ่า ดูกี่ครั้งก็สวยเหมือนเดิม..."
เฟรม : "*ถอนหายใจ* ถ้านี่เป็นโลกอื่นจริง กูจะกลับโลกเดิมได้มั้ยนะ...?"
แล้วเฟรมก็ได้หลับตาลงและงีบหลับไป จนภาพนั้นมืดสนิท
"วอ...แว่วววว...!! วอ...แว่ว ๆ ๆ!!-"
"เอี๊ยด!! เอี๊ยด...!!"
"ปึก-ตึ่ง! ตึกตึกตึกตึก...!!"
"เร็วเข้า ๆ! มีคนเจ็บตรงนี้อยู่ 5 คน!!"
"ตรงนี้อีก 6!"
"ตรงนี้ก็มีอีก 3 ค่ะ!"
"อี๊ด ๆ ๆ ๆ...!"
"เร็วเข้า ๆ ๆ!! รีบพาคนที่เจ็บหนักไปปฐมพยาบาลที่รถตู้ก่อนเร็วเข้า!!-"
(ทุก ๆ ที่มีแต่ความวุ่นวายไปหมด...)
"ตอนนี้ดิฉันนะคะ ก็ได้มาอยู่ที่เกิดเหตุที่แสนจะแปลกประหลาดมาก ๆ นี้แล้วค่ะ! ที่จู่ ๆ ชาวบ้านในระแวกนี้ก็ล้มพับหมดสติไปกันหมดเฉยเลยโดยที่ไม่ทราบสาเหตุค่ะ! จนเกิดความวินาศสันตะโลไปทั่วทั้งเมืองจากอุบัติเหตุทางท้องถนนค่ะ ซึ่งคาดว่าจุดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือตรงหน้าโรงเรียนที่ดิฉันอยู่นั่นเองนะคะ!-"
(ทุก ๆ ครอบครัวต่างสูญเสียคนสำคัญไป...)
"ฮือ ๆ ๆ เฟรม... แม่ขอโทษ... แม่ไม่น่าให้ลูกมาเรียนวันนี้เลย... *สะอื้น*"
"ทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นด้วย ฮือ...ฮือ...ฮ่ะ...ฮ่ะ.........."
(ทุก ๆ อย่างมันเป็นเพราะ 'เรื่องเหี้ยนั่น' ...!!!)
"เปรี้ยง!!!"
จากนั้นเฟรมก็ได้ลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างหนาวเหน็บ ก่อนจะพูดออกมาว่า
เฟรม : "*หนาวสั่น* แม่งเอ๊ย...! ไอเจ้าสมองบ้า!" เฟรมพูดขณะจับหน้าผากตัวเองไปด้วย ความเครียดสุด ๆ
เฟรม : "...แม่งแทบไม่ได้นอนเลยด้วยซ้ำ! มัวแต่คิดเรื่องว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อวะถ้ากูไม่อยู่แล้วไอสัสเอ๊ย...!!" เฟรมน้ำตาเล็ดออกมาจากความเครียด
เฟรม : (...แล้วไหนกูบอกว่าจะเข้มแข็งขึ้นไม่ใช่หรือไงวะ?! ไหงกูถึงได้ร้องไห้ออกมาล่ะ...!)
เฟรม : *เช็ดน้ำตา* (ไม่ กูจะต้องไม่มาตายที่นี่สิวะ! ร้องไห้ไปตอนนี้ก็ไม่ได้ช่วยเหี้ยอะไรหรอก!!)
เฟรม : (กูจะต้องเข้มแข็งมากกว่านี้...! และต้องกลับไปเจอพ่อกับแม่ให้ได้!!) เฟรมพูดปลุกใจตัวเอง ก่อนจะลุกขึ้นมายืดอกอย่างเข้มแข็งทันทีว่า
เฟรม : (กูจะก้าวผ่านมันอีกครั้ง...ให้ได้เลย!!) แล้วเฟรมก็ได้เดินสำรวจที่นี่ต่อทันที ด้วยแววตาที่จริงจังมาก
"ตึก ตึก ตึก ตึก..."
(ตอนนี้กูได้เข้าใจแล้วว่า การที่ยึดติดอยู่กับความกลัวนั้น มันแทบไม่ได้ช่วยให้เราก้าวหน้าขึ้นมาเลยสักนิด มีแต่รั้งเราเอาไว้ให้คอยอยู่แต่ที่เดิม...)
*จามและโอบแขนอย่างหนาวสั่น*
"ตึก ตึก ตึก ตึก..."
(การกลัวนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ผิด แต่บางครั้งเราก็ต้องกล้าเผชิญหน้ากับความกลัวบ้าง เพื่อให้เราก้าวเดินต่อไปได้ แม้ว่ามันจะยากเพียงไหนก็ตาม)
"ตึก ตึก ตึก ตึก-"
"...!?" *หยุดเดินและหันไปมองบางสิ่ง*
เฟรม : (แต่ถ้าเรามุ่งมั่นและตั้งใจ ไม่แน่มันอาจจะพาเราประสบความสำเร็จก็ได้...)
เฟรม : "หืม?" เฟรมแลมองอะไรสักอย่างที่อยู่ตรงหน้านั่น ผ่านหลังคริสตัลขนาดยักษ์
"!!"
แล้วทันใดนั้นโชคก็ได้เข้าข้างเขา เมื่อสิ่งที่เหลือบไปเห็นนั้นก็คือ แท่งคริสตัลเรืองแสงแท่งหนึ่งที่มีขนาดพอ ๆ กับกระบอง กำลังตั้งเอนเอียงอยู่บนพื้นเข้า โดยมีรอยร้าวอยู่ทั่วโคนเต็มไปหมด ท่ามกลางพื้นที่ปลอดโล่งและลายล้อมไปด้วยคริสตัลโดยรอบอีกด้วย
เฟรม : (เฮ้ย!~ ตรงก้นมันร้าวอยู่นิ งั้นกูก็สามารถหักมันมาใช้แทนไฟฉายได้ดิวะ!) เฟรมพูดคิดอย่างดีใจมาก ก่อนจะวิ่งไปหามันใกล้ ๆ
เฟรม : (โห!~ ดูไปดูมามันก็สวยเหมือนกันนะเนี่ย แถมขนาดมันก็พอเหมาะที่จะเป็นกระบองได้ด้วย!)
เฟรม : (เจ๋งว่ะ!~ ถ้ากูไม่รู้จะเอามัน กูก็ไม่รู้ว่าจะเอาอะไรแล้ว!!) *ถีบ* จากนั้นเฟรมก็ได้หันลำตัวไปด้านข้างแล้วเอียงตัวถีบไปสุดแรงทันที เพื่อหวังให้มันหัก
"ตึก!!"
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย : (เนื่องจากเฟรมใส่รองเท้าผ้าใบพื้นนุ่มของโรงเรียน จึงดูดซับแรงกระแทกได้ดีและทำให้เสียงที่ปล่อยออกมานั้นเบาลง จนดูเหมือนไม่ได้รุนแรงอะไรมากนั่นเอง)
(*แถม* ถ้าผู้อ่านอยากจะอ่านเนื้อเรื่องให้มันต่อเนื่องล่ะก็ ก็อ่านข้ามความรู้นี้ไปได้เลยหรือวกกลับมาอ่านข้างบนใหม่ก็ได้นะครับ)
แต่ทว่ามันก็กลับแข็งไม่ใช่เล่นอยู่เหมือนกัน
เฟรม : (หือ? นี่ขนาดร้าวแล้วนะเนี่ยยังไม่สะทกสะท้านเลยหรือไงวะ...?)
เฟรม : "หึ แต่ช่างกะไร... (พอดีกูเคยถีบรั้วปูนจนล้มมาแล้วเว้ย!!) *ถีบ*"
"ตึก!!"
เฟรม : "อีก!! *ถีบ*"
"ตุบ!!"
เฟรม : (มากกว่านี้...!!) *ถีบ*
"ตึง!!"
"ตึก!! ตึก!! ตุบ!! ตึง!! ตึง!! ตุบ...!!"
แล้วเฟรมก็ได้ถีบต่ออยู่อย่างงั้นไป จนเวลาผ่านไป 5 นาที
"ตึง!!"
แต่ทว่ามันก็กลับไม่เป็นอะไรเลยสักนิด
เฟรม : "*หายใจแรง* นี่มันเหี้ยอะไรเนี่ย...!? ทำไมมันแข็งจังวะ?!" เฟรมพูดอย่างประหลาดใจมาก ๆ ขณะมองดูคริสตัลที่เขาถีบไปด้วย
เฟรม : "..นี่มันคริสตัลจริงมั้ยเนี่ย?! *ถีบ*"
"ตึง!!"
เฟรม : "...!!"
เฟรม : "ตีนกู!!" เฟรมร้องอย่างเจ็บปวด ขณะยกขาขวาขึ้นมาจับที่เท้าด้วย
เฟรม : (แม่งเอ๊ย...!! ถ้าไม่ใช่เพราะว่ากูต้องการแสงนะ กูคงไม่เอามึงไปนานแล้วไอเหี้ย!-)
เฟรม : (อึก จริงด้วยสิ ถ้ำนี้มันมีทางไปต่อไหมวะ? เพราะถ้าไม่มีกูก็ติดแหง็กอยู่ที่นี่ดิ...)
เฟรม : (ไม่ไม่ ยังหรอกน่า กูยังสำรวจที่นี่ยังไม่ครบเลย... มันอาจจะมีทางออกอยู่ก็ได้)
เฟรม : (...แต่ตอนนี้ กูขอเอามันให้ล้มสักทีก่อนเถอะ!!)
"ตึง!"
จากนั้นเฟรมก็ได้พุ่งไปจับคริสตัลนั่นแล้วดันสุดแรงไปทันที
เฟรม : "อึก! ฮึย...!!!"
"คืด...! คืด...! คืด...!"
เฟรม : (แม่งเอ๊ย...!! มีแต่เท้ากูที่ไปไอเหี้ย!)
เฟรม : "...ไอหินเวรเอ๊ย!!"
"เป้ง!!"
เฟรม : "อ๊าาา..!! ขากู!" เฟรมร้องอย่างเจ็บปวดมาก ขณะยกขาขวาขึ้นมาจับหน้าแข้งด้วย
เฟรม : "โธ่..แม่งเอ๊ย...!! *ดึงและโยกไปมา* รีบ ๆ ออกมาสักทีสิวะ!?"
*ถีบเท้าซ้าย* 'ตึก!!'
*ฮูคต่อย* 'เป้ง!!' "อะ..อ๊ากกก...!!!"
*กระโดดถีบ* 'ตึก!!' "อุก..!"
*กระเป๋าฟาด* 'ติ๊ง...!!'
*ตบ* 'เป้ง!!'
*กราบไหว้* "ฮือ ๆ ๆ"
"ย๊าาาา...!! " *พุ่งชนด้วยไหล่* 'ตึก!' "อ๊า!!"
*เป่ายิงฉุบ*
*ถีบอีกครั้ง* 'ตึง!!'
*ห้อยโหน*
*นั่งขุดด้วยไม้บรรทัด*
*กระโดดทับแบบบอดี้แสลม* 'ตุบ!' "อ๊ากกก!!!"
เฟรมได้สันหาทุกวิถีทางที่จะหักคริสตัลนั้นให้ได้ โดยพยายามอยู่อย่างงั้นไปสักพัก จนในที่สุด...
"กึก... กึก... กรึก! เป้งเกร็งเก็ง!!!"
มันก็ได้ล้มลงต่อหน้าเขา!
เฟรม : "แฮ่ก ๆ ๆ เย้!~ เอ๊อะ!-" เฟรมพูดขณะชูมือขึ้นมาอย่างดีใจมาก ๆ ก่อนจะล้มพับไปกับพื้นด้วยความเหนื่อยมาก ๆ เช่นกัน
เฟรม : "เฮะ ๆ ๆ ๆ... ใน..ที่..สุด...!"
แล้วจากนั้นเฟรมก็ได้หมุนตัวนอนหงายราบไปที่พื้น และมองดูเพดานถ้ำที่แสนสวยงามไปด้วยว่า
เฟรม : "อ่า เจ็บชะมัดเลยโว๊ย...! ไม่น่าเล่นพิเรนเลยกู..."
เฟรม : "ฮึ ๆ แต่ก็สนุกดีเหมือนแฮะ ที่ได้ทำไปโดยไม่ต้องคิดอะไรมากน่ะ... มันช่างรู้สึกโล่งใจยังไงก็ไม่รู้..."
เฟรม : (แต่ว่านะตอนนี้กูควรต้องออกไปจากที่นี่แล้วว่ะ...) เฟรมพูดในใจ ขณะดันตัวเองขึ้นมาลุกขึ้นยืน ก่อนจะเดินไปหาคริสตัลก้อนนั้น และพูดว่า
เฟรม : (ถึงที่นี่จะสวยงามซักแค่ไหน แต่มันก็ไม่มีอะไรเลยนอกจากคริสตัลทั้งนั้น)
จากนั้นเฟรมก็ได้ก้มหยิบแท่งคริสตัลขึ้นมา แล้วเหวี่ยงฟาดไปโดยรอบทันที
"ฟึบ ฟึบ ฟิ้ว"
เฟรม : "ฟู้ว นี่แค่แกว่งไปแกว่งมานะเนี่ย ยังต้องจับสองมือเลย..."
เฟรม : (คงจะหนักซักประมาณ 4-5 โลได้)
เฟรม : (อา แต่ก็ช่างเถอะ... ยังไงกูก็ได้อาวุธมาแล้วนี่เนอะ) เฟรมพูดในใจอย่างไม่ได้คิดอะไรมาก ก่อนจะเอาแท่งคริสตัลขึ้นมาพาดไว้บนไหล่
แล้วจากนั้นการผจญภัยสุดแสนทรหดของเฟรม มันก็ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง
"ตึก ตึก ตึก ตึก..."
เฟรม : (เอ่... มันอยู่ไหนวะทางออกเนี่ย? กูเดินหาที่นี่นานแล้วนะ ยังไม่เจอเลย-)
เฟรม : "...!?"
แต่ทันใดนั้นเฟรมก็ได้เดินไปสดุดตากับรูขนาดใหญ่บางอย่าง ที่อยู่ข้างหน้าตรงซ้ายมือของเขาเข้า
ซึ่งมันทั้งมืดมิดและมีรูขนาดใหญ่มาก จนช้างยังลอดผ่านไปได้เลยด้วย
เฟรม : (โห พูดปุ๊บก็มาปั๊บเลยแฮะ...)
เฟรม : (เฮ้อ แต่กูจะต้องผ่านที่แบบนี้อีกแล้วเหรอวะ...?) เฟรมได้มองไปในรูอุโมงค์ ที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากความมืดมิด
เฟรม : (แม่งเอ๊ย...! เอาก็เอาวะ!!)
แล้วเฟรมก็เดินเข้าไปในอุโมงค์นั่นทันที โดยมีแสงจากคริสตัลคอยส่องทางไว้อยู่ด้วย
จากนั้นภาพก็ได้ตัดไปที่ 15 นาทีต่อมา ณ ส่วนลึกของอุโมงค์ที่ยาวเยียดและมืดมิด
"ตึก ตึก ตึก ตึก..."
เฟรม : (เอิก ไม่ค่อยชอบบรรยากาศแบบนี้เลยเว๊ย!)
เฟรม : (แม่ง...! แทบไม่คุ้นชินกับมันเลยด้วยซ้ำ-)
"แกร็ก...!"
เฟรม : "...!?" แต่แล้วจู่ ๆ เฟรมก็ได้เผลอไปเหยียบกับอะไรบางอย่างขึ้นมาเข้า
จนเฟรมนั้นต้องก้มมองลงไปทันทีว่ามันคืออะไรกันแน่
แต่ทันใดนั้นเฟรมก็ต้องตกใจมาก ๆ เมื่อได้เห็นสิ่งที่เขาเหยียบลงไปนั้น ก็คือกระดูกมือของมนุษย์
เฟรม : "!!?" เฟรมรีบยกขาออกมาจากมือนั่นทันที อย่างสดุ้งตกใจมาก
เฟรม : (นี่มันเหี้ยอะไรเนี่ย...!? ทำไมถึงมีกระดูกคนอยู่ที่นี่ได้วะ?!)
เฟรม : (แล้วมันอยู่นี่ได้ไง? ที่นี่มันเกิดเหี้ยอะไรขึ้นวะ...?!)
เฟรม : (ไม่ ไม่ หายใจเข้า... อย่าพึ่งตื่นตระหนกสิเฟรม นี่ก็แค่กระดูกมนุษย์ชิ้นหนึ่งเอง อาจจะมีคนมาตายที่นี่ก็ได้...) เฟรมพูดในใจอย่างกังวล ก่อนจะเดินต่อ
"ตึก ตึก ตึก..."
เฟรม : (โอ้ว นั่นคงจะเป็นซากของเขาสินะ?) เฟรมได้มองซากกระดูกของใครบางคนที่อยู่กระจัดกระจายทั่วพื้น โดยอยู่ห่างจากมือกระดูกไม่มากนัก
เฟรม : (นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย? มีแต่ลอยร้าวเต็มไปหมดเลย แถมกระดูกแขนช่วงบนและกระดูกต้นขาก็หายไปไหนไม่รู้ด้วย...)
เฟรม : (เอะ... เดี๋ยวนะ เศษชิ้นผ้านิ?) เฟรมได้ย่อตัวลงไปหยิบ เศษผ้าสีดำขึ้นมาดู
เฟรม : (ดูจากผิวสัมผัสที่สากหน่อย ๆ แล้ว คงน่าจะเป็นชุดทางการสินะ?)
เฟรม : *เหงื่อตก* (..แม้แต่เสื้อผ้าก็ฉีกรุ่ยขนาดนี้... คงจะเป็นฝีมือของสัตว์งั้นสินะ?)
เฟรม : "...?"
แต่แล้วเฟรมก็พลันเหลือบไปเห็นสมุดโน๊ตเล่มหนึ่ง ที่อยู่ใต้ซากซี่โครงจากข้างตาของเขาเข้า
เฟรม : (นี่มันสมุดโน๊ตนิ...!)
เฟรม : (นี่มันสมุดโน๊ตนิ...!)
จากนั้นเฟรมก็เดินไปหยิบมันขึ้นมาผ่านใต้ซากซี่โครงทันที ก่อนจะนั่งย่อลงไปและเปิดมันขึ้นมา
เฟรม : (โห! ลายมือผู้ใหญ่แถมเป็นภาษาอังกฤษด้วย!? จะอ่านได้มั้ยเนี่ย...)
เฟรม : *ไถลเปิด* (หืม? บัตรประชาชนนิ)
แต่แล้วเมื่อเฟรมได้ไถลเปิดสมุดไปจนถึงสุดหน้า เขาก็พบกับบัตรประชาชนใบหนึ่งของใครบางคนเข้า ก่อนหยิบมันขึ้นมาอ่านทันที
เฟรม : (มิสเตอร์ 'จอห์น พอลล์เนอร์' หรอ...? เกิดวันที่ 17 กรกฎาคม ค.ศ.1998 บัตรจาก USA...)
เฟรม : (ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นพนักงานบริษัทนะ) เฟรมเทียบรูปบัตรกับกะโหลกศีรษะที่อยู่ตรงหน้า
เฟรม : *เปิดหน้าย้อน* (...แถมเขาก็พึ่งน่าจะเขียนด้วย ดูจากข้อมูลที่มีเพียงแค่ 2 หน้า... แต่ทำไมถึงมีลอยเลือดติดอยู่เพียบเลยวะ?)
เฟรม : (หืม? วันที่ 11 มกราคม 24... ปีที่แล้วนิ!?)
เฟรม : (.................) แล้วเฟรมก็ได้อ่านไปเรื่อย ๆ โดยแปลออกบ้าง แปลไม่ออกบ้างอยู่อย่างนั้น จนเขาเริ่มเจอกับข้อความสำคัญแล้วว่า
เฟรม : "...!?"
เฟรม : (ฉันหนีพวกมันได้...แต่ก็ถูกมันแทง...ที่ข้างท้อง...โดยมอนสเตอร์...ตัวเล็ก..เท่าเข่า...รูปร่าง..คล้ายมนุษย์....มีอาวุธ...และมา..กันเป็นฝูง?!)
เฟรม : *เหงื่อตก* (มิน่าล่ะ ทำไมซากกระดูกของเขาถึงได้กระจัดกระจายขนาดนี้ เป็นเพราะฝีมือของพวกมันเองสินะ...)
เฟรม : (พวกมันใช้อาวุธและอยู่รวมกันเป็นฝูงเหรอ... งั้นก็หมายความว่ามันตัวเดียวก็คงอ่อนแอมากเลยสินะ... อย่างกับคนเลยแน่ะ) เฟรมจับคาง ขณะครุ่นคิด
เฟรม : (นี่มันเริ่มแฟนตาซีขึ้นมาแล้วว่ะ... สัตว์บ้าอะไรวะที่ใช้เครื่องมือได้? 'ก็อบลิน' เหรอ?-)
เฟรม : "...?" แต่แล้วเฟรมก็ได้เหลือบไปเห็นข้อความช่วงสุดท้ายเข้า ที่อยู่ถัดจากอีกหน้า
ซึ่งมันเป็นคำที่เขียนได้ชัดมากและเข้าใจง่ายที่สุดอีกด้วย จนเฟรมสามารถแปลได้หมดทุกคำว่า
(ฉันรู้ว่าฉันกำลังจะตายแล้วในตอนนี้ แต่ที่ฉันพยายามเขียนสิ่งนี้มา ก็เพื่อบอกให้คนที่มาที่นี่ต่อได้มาหยิบสมุดโน๊ตนี่ ที่ข้างศพของฉันไปแล้วอ่านมันขึ้นมา เพื่อหวังว่าข้อมูลที่ฉันได้เขียนไปทั้งหมดนั้นมันจะเป็นประโยชน์ให้ ฉันได้แต่เพียงแค่หวังว่าคุณจะรอดออกไปได้นะ ต่างจากฉันที่ต้องมาจบชีวิตลงที่นี่ ขอให้พระเจ้าคุ้มครองคุณ)
เฟรม : "*ปิด* แค่นี้ก็เพียงพอแล้วครับ หลับให้สบายเถอะ..." เฟรมพูดเคารพอย่างสุดซึ้ง ขณะวางสมุดโน๊ตลงที่ซากของเขา ก่อนจะกราบไหว้ลงไปที่พื้นเพื่อขอบคุณ
จากนั้นเฟรมก็ได้ลุกขึ้นมา แล้วเดินทางต่อทันที
"ตึก ตึก ตึก ตึก..."
เฟรม : (..มีคนตั้งมากมายต้องมาตายเพราะเจ้าสัตว์ประหลาดนั่น... งั้นเดี๋ยวกูจะเป็นคนหยุดนรกนี้ให้เอง...!!) เฟรมชี้คริสตัลไปด้านหน้าอุโมงค์อันมืดมิด ด้วยสายตาที่จริงจังมาก ๆ ราวกับใบมีดทันที เพื่อท้าทายกับสิ่งที่รออยู่ตรงหน้า
จากนั้นเฟรมก็เดินต่อไปเรื่อย ๆ จนเขานั้นได้เจอกับซากกระดูกของมนุษย์มากขึ้นและมากขึ้น
จนกระทั่งได้มีเสียงอะไรบางอย่าง ที่ไม่ใช่เสียงของเขาดังออกมาจากทางข้างหน้าของเฟรมเข้า
"งั่ม...งัม...งึก...งั่ม..."
เฟรม : "!!" เฟรมที่ได้ยินแบบนั้นแทนที่เขาจะกลัว เขาก็กลับย่องเบาและหลบเศษกระดูกไปมา เพื่อหาเจ้าสิ่งนั้นแทน
และแล้วเสียงของมันก็เริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ จนเหมือนกับมันอยู่หลังอุโมงค์ที่โค้งไปด้านขวาจากตรงหน้า
จากนั้นเฟรมก็เอาตัวแนบชิดติดกำแพงทันทีระหว่างทางโค้ง ขณะเอาคริสตัลแอบอยู่หลังตัวด้วย เพื่อไม่ให้มันเห็นแสงที่กระทบ
จนเมื่อได้จังหวะแล้ว เฟรมก็ได้พุ่งออกมาจากตรงนั้นและวิ่งใส่มันทันที จนมันสะดุ้งตกใจหมด ขณะถือขาคนกินไปด้วย
โดยพอแสงได้ส่องไปกระทบกับผิวของมันเข้า ก็เผยให้เห็นร่างสีขาวซีดของก็อบลินตัวหนึ่ง ที่มีดวงตาสีดำสนิท หูแหลม จมูกใหญ่ และสูงเท่าคนแคระ โดยใส่เศษผ้าหลาย ๆ ชิ้นปกปิดที่อวัยวะเพศด้วยนั่นเอง
"เกี๊ยก!?- *เต๊ะ*"
แต่ทว่ามันที่กำลังตกใจอยู่ชั่วขณะนั้น จู่ ๆ มันก็ได้ถูกเฟรมเต๊ะอัดหน้าไปสุดแรงทันที โดยที่ยังไม่ได้ตั้งตัวเลยด้วยซ้ำ จนตัวลอยกระเด็นไปไกลถึง 6 เมตร และตกลงกระแทกพื้นอย่างรุนแรงมาก
"อั๊ก!!" จนมันนั้นเจ็บสาหัสเลยทีเดียว
แต่เฟรมก็ได้วิ่งไปซ้ำมันต่อ โดยง้างแท่งคริสตัลขึ้นมาแล้วทุบไปที่มันสุดแรงทันที
"เกี๊ย!!-" จนหัวของมันเละไปหมดและเลือดสาดกระเซ็นไปทั่วพื้นเข้า พร้อมไส้ที่ทะลักออกมาจากก้น อย่างน่าสยดสยองมาก
เฟรม : ".........." เฟรมช็อคไปชั่วขณะ ด้วยความรู้สึกผิดมาก ๆ จากการที่มันร้องเจ็บปวดทุกครั้งที่เขาทำร้ายมัน และได้ฆ่าลงไป
เฟรม : (นี่กูพึ่งฆ่า...สัตว์เป็นครั้งแรกเหรอ...? เสียงของมัน..ร้องลั่นอย่างเจ็บปวดมาก...) เฟรมพูดในใจ อย่างปวดใจสุด ๆ ขณะมองไปที่ปลายคริสตัลที่ชุ่มไปด้วยเลือด ผ่านแสงที่โปร่งออกมาด้วย
เฟรม : (ไม่ เจ้านั้นมันถูกตัวแล้ว... ถ้าเราไม่ฆ่ามัน มันก็จะวิ่งหนีพาพวกมาฆ่าเรานะ)
เฟรม : (นี่เรายังจะใจอ่อนกับสถานการณ์นี้ได้อีกเอ่อ?) เฟรมพูดในใจ ขณะเอามือที่ว่างอยู่กุมขมับที่หน้าด้วย
เฟรม : (โธ่เอ๊ย...!! นี่ไม่ใช่เวลาที่กูจะยืนนิ่งนะ! เสียงที่มันร้องออกมาเมื่อกี้มันดังมากจนเพื่อนของมันน่าจะได้ยินกันแล้วมั้ง?!)
เฟรม : "...!?" แต่แล้วเฟรมก็ฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้เข้า
เฟรม : "หึ (เดี๋ยวนะ~)" เฟรมมองไปที่ศพของก็อบลินที่เขาฆ่าไป ด้วยใบหน้าที่แสยะยิ้ม
หลังจากนั้นภาพก็ได้ตัดไปตอนที่ มีก็อบลิน 3 ตัว เดินเข้ามาในที่ตรงนี้เข้า เพื่อสำรวจดูว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
โดยถือแท่งกระดูกที่มีหัวแหลมคมกันมาคนละเล่ม และเดินผ่านความมืดมิดนี้ไปด้วยอย่างสบายมาก ๆ ราวกับว่ามองเห็นได้ยังไงอย่างงั้น
"กี้! เกี้ย ๆ"
จากนั้นก็อบลินตัวหนึ่งมันก็ได้ส่งเสียงร้องออกมา ขณะชี้นิ้วไปที่ด้านหน้าเพื่อให้เพื่อนของมันดู
ซึ่งสิ่งที่มันเห็นนั้นก็คือ ก็อบลินตัวหนึ่งที่กำลังนั่งหันหลังให้อยู่ตรงด้านหน้านั่น ระหว่างทางโค้งนั่นเอง
"เกี๋ย?" ก็อบลินอีกตัวได้ส่งเสียงร้องด้วยความสงสัย ก่อนจะเดินไปหาก็อบลินตัวนั้นกันเป็นกลุ่มทันที
"เกี๊ยก! กี้เกี่ย...?" ส่วนอีกตัวก็ร้องเรียกหาเพื่อนที่อยู่ตรงนั้นไป แต่มันก็ยังแน่นิ่งอยู่อย่างงั้น ไม่ตอบกลับอะไรเลยสักนิด
"เกี้ย... เกี้ย!" จนมันอีกตัวที่ทนไม่ไหวนั้น จึงได้เดินไปเขย่าไหล่ของก็อบลินตัวนั้นขึ้นมา เพื่อเรียกมันทันที
"แกร็ก" แต่ทันใดนั้นคอของก็อบลินตัวนั้น มันก็ได้หักไปด้านหลังทันที จนหัวของมันย้อยลงมาด้วยใบหน้าที่เละเทะ อย่างน่าสยดสยองมาก ๆ
"เกี้ย!!?"
จากนั้นเฟรมก็โผล่พุ่งออกมาจากมุมโค้งนั่น แล้วใช้แท่งคริสตัลฟาดทุบไปที่ก็อบลินตัวหนึ่งทันที จนมันหน้าจูบไปกับพื้นและเลือดนองออกมา
ซึ่งเมื่อเฟรมได้ฟาดลงไปเสร็จนั้น เขาก็รีบปล่อยมือออกจากคริสตัลนั่น แล้วฉกขาของก็อบลินทั้งสองตัวขึ้นมา แกว่งฟาดไปรอบ ๆ ทันที อย่างป่าเถื่อนมาก
"เกี้ยยย!!- อั๊ก!- ค๊ก!- ก๊ะ!-"
จนมันสภาพเละและตายไปในที่สุด ในขณะที่คราบเลือดนั้นก็กระเซ็นไปทั่วทั้งที่นี้ และเลอะเต็มตัวเฟรมไปหมด
เฟรม : *ถอนหายใจ* เฟรมปล่อยศพลง ก่อนจะหยิบแท่งคริสตัลขึ้นมาถืออีกครั้ง
เฟรม : "!!?"
แต่แล้วเมื่อเฟรมได้เงยหน้าขึ้นมาดูเท่านั้นแหละ เขาก็ถึงกลับหน้าซีดออกมาทันที อย่างตกใจมาก ที่ได้เห็นฝูงก็อบลินนับ 10 ตัว กำลังวิ่งมาหาเขาจากตรงหน้าเข้า
"กี้! กี้!! เกี้ยเก๊ะเก่...!!"
จนเฟรมนั้นรีบวิ่งหนีสุดชีวิตกลับไปทางเดิมทันที ขณะพูดอย่างตื่นตระหนกไปด้วยว่า
เฟรม : "เหี้ยเอ๊ย!!? ตัวหลอกเอ่อ?!"
"ตึกตึกตึกตึกตึกตึกตึกตึก...!!"
เฟรม : (คิดดิวะ! คิด!! กูจะต้องสู้ยังไงให้ชนะพวกเหี้ยนี่ได้วะ?!)
เฟรม : "!?" แต่แล้วเฟรมก็ฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้อีกครั้ง
เฟรม : "แม่งเอ๊ย...!!!" จากนั้นเฟรมก็ได้จับคริสตัลเหวี่ยงขว้างไปที่ก็อบลินฝูงนั้นทันที จนมันถึง 2 ตัวนั้น โดนกระแทกไปเต็ม ๆ พร้อมฝูงที่แตกกระเจิงขึ้นมา
"เกี้ย!!- เก็งเกร็งเก็ง!!!"
แล้วทันใดนั้นเฟรมก็ได้พุ่งกระโดดเข้าไปในฝูงนั่น ขณะเหยียบก็อบลินตัวหนึ่งอย่างจัง ๆ ไปด้วย อย่างบ้าระห่ำมาก
จนเมื่อเฟรมถึงพื้นเข้า เขาก็ได้ใช้ความรวดเร็วที่ได้เปรียบนั้น โฉบโอกาสโจมตีก่อนอย่างรวดเร็วทันที โดยคว้าจับขาของก็อบลินที่อยู่ใกล้ ๆ ทั้งสองตัวนั้น ขึ้นมาฟาดก็อบลินตัวอื่น ๆ แทนอาวุธ และถีบเต๊ะไปมาพร้อมทั้งขยับตัวให้เร็วทันทีด้วย จนมันไม่สามารถโจมตีเขาได้ทันเลยแม้แต่นิด
"เกี๊ยก!!- อ๊าก!- กี้!!- กั้ก!!- อุ๊ก!-"
แต่ทว่ามันก็สร้างภาระให้กับเฟรมมากด้วยเช่นกัน
เฟรม : "แฮ่ก ๆ ๆ ๆ ๆ...!" เฟรมสู้ไปมาอย่างไม่หยุดหย่อน จนหน้าซีดเหนื่อยไปหมด
จากนั้นก็อบลินตัวหนึ่งที่ได้เห็นแบบนั้นเข้า จึงใช้จังหวะที่เฟรมกำลังเบลอ ๆ อยู่นั้น พุ่งไปกัดที่ขาขวาของเฟรมอย่างจังทันที จนเฟรมล้ม
เฟรม : "!!?"
แล้วจากนั้นก็อบลินอีก 2 ตัว ที่ยังเหลือรอดอยู่นั้น ก็ได้ใช้โอกาสนี้พุ่งมาโจมตีเฟรมทั้งสองด้านพร้อมกันทันที
จนเฟรมนั้นตกอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่สุด ๆ เพราะตัวแรกนั้นจะพุ่งมากัดที่แขนจากข้างซ้าย ส่วนอีกตัวก็จะพุ่งมาแทงที่หัวจากด้านขวา ด้วยกระดูกปลายแหลมเข้านั่นเอง
เฟรม : "!!?" เพียงแค่เสี้ยววินาทีที่เห็นมันนั้น จู่ ๆ มือของเฟรมก็ได้ปัดก็อบลินที่จะแทงหัวไปก่อนทันทีโดยสัญชาตญาณ ก่อนจะถูกมันอีกตัวนั้นกัดไปที่แขนเข้า
เฟรม : "อ๊าก!!!"
ทันใดนั้นเฟรมก็รีบคว้าจับก็อบลินที่กัดแขนอยู่ออกมาทันทีขณะรีบลุกขึ้น แล้วเหวี่ยงขาที่มีก็อบลินอีกตัวกัดอยู่นั้น ฟาดไปที่ผนังถ้ำสุดแรงทันที จนหัวแตกและเลือดไหล
"เกี้ย!!-"
แล้วจากนั้นเฟรมก็ขว้างก็อบลินอีกตัวที่ถืออยู่ลงไปที่พื้นอย่างแรงมาก ๆ ก่อนจะกระทืบมันซ้ำไปซ้ำมา จนไส้ทะลักไปหมด
"กะ..กี้..." ซึ่งก็อบลินตัวสุดท้ายที่ได้เห็นแบบนั้นเข้า ก็เกิดกลัวในตัวเฟรมขึ้นมาอย่างขีดสุดทันที จนวิ่งหนีสุดชีวิตไป
เฟรม "...!?" เฟรมที่เห็นแบบนั้นเข้า จึงได้หยิบคริสตัลขึ้นมาแล้ววิ่งตามมันไปทันทีอย่างรวดเร็วมาก
"ตึกตึกตึกตึกตึกตึกตึก...!!" เพียงแค่แป๊บเดียว เฟรมก็ตามมันมาติด ๆ แล้ว
ซึ่งเมื่อพอได้จังหวะ เฟรมก็พุ่งกระโดดถีบไปกลางหลังของมันทันที จนมันหน้าคว่ำไถลไปกับพื้น
"เกี๊ยก!!-"
จากนั้นเฟรมก็ใช้แท่งกระดูกของพวกมันที่หยิบมาได้นั้น ทิ่มไปที่หัวของมันเพื่อจบชีวิตทันที
เฟรม : "แฮ่ก ๆ ๆ ๆ ๆ...!" แล้วเฟรมก็ได้เดินทางต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ด้วยใบหน้าที่ซีดเผือกมาก ๆ จนคิดอะไรไม่ออกแล้ว
"ตึก ตึก ตึก ตึก..."
5 นาทีต่อมา ณ สุดทางเดินของถ้ำอันยาวเยียด ที่ซึ่งเป็นรังของก็อบลินอีกด้วย
โดยมีทั้งซากกระดูกที่กองอยู่เต็มไปหมด และมีเศษผ้าติดอยู่รอบ ๆ เป็นของตกแต่งด้วย
เฟรม : (อึก!! เชี่ยเอ๊ย...! แผลเริ่มเจ็บแล้วไอสัสเอ๊ย!!) เฟรมจับขาตัวเองที่เป็นแผล ด้วยความเจ็บปวดมาก
แต่ทว่าเลือดกลับไม่มีท่าที่จะหยุดไหลเลยแม้แต่น้อย
เฟรม : (เหี้ยเอ๊ย!? แผลกัดนี่หว่ากูก็ลืมดู...!) เฟรมรีบถอดเข็มขัดออกมาแล้วมัดไปที่น่องเพื่อห้ามเลือด ขณะพูดในใจไปด้วยอย่างตื่นตระหนกมาก
เฟรม : (เฮ้อ แม่งเอ๊ย...)
จากนั้นเฟรมก็ได้ยืนขึ้นมา แล้วเดินส่องดูรอบ ๆ ที่นี่ทันที เพื่อหาทางออก
แต่ก็พบกับแค่รูอุโมงค์รูหนึ่งที่ถูกหินปิดเอาไว้เท่านั้นเข้า โดยมีเสียงแปลก ๆ ดังออกมานิด ๆ จากในนั้นด้วย
เฟรม : (เฮ้อ นอกจากรูนี่ ก็ไม่มีรูไหนให้ไปแล้วเหรอไงวะ...?) เฟรมมองไปที่รูนั่นอย่างไม่สบายใจมาก ก่อนจะเอาแท่งคริสตัลงัดแงะหินออกมา จนทางเปิดโล่ง
เฟรม : "...!!?"
แต่ทว่าเมื่อเฟรมได้เข้าไปนั้น เขาก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้ามาก ๆ
ที่ได้เห็นซากศพเหม็นเน่าของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ถูกตัดแขนตัดขาออกกำลังถูกลูกของก็อบลินหลาย 10 ตัว ปู้ยี้ปู้ยำขณะกินไปทั่วทั้งตัวด้วย อย่างน่าสยดสยองโคตร ๆ
ขอบคุณที่อ่านครับ:)
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!