---
มนตรากาลบันดาลรัก
ตอนที่ 1: ภาพวาดปริศนา
เสียงฟ้าคำรามดังสนั่นก่อนที่สายฝนจะโปรยปรายลงมาทั่วบริเวณพระตำหนักเก่าแก่ พิมพิชายืนกอดแฟ้มเอกสารแน่น มองดูตัวอาคารไม้สักโบราณที่ยังคงงดงามแม้จะผ่านกาลเวลามาหลายร้อยปี
"อาจารย์คะ ที่นี่แหละเหรอที่มีภาพวาดปริศนา?" พิมพิชาหันไปถามอาจารย์เกรียงไกร นักโบราณคดีอาวุโสที่พาเธอมาสำรวจสถานที่แห่งนี้
"ใช่ เธอคงเคยได้ยินตำนานแล้วสินะ"
พิมพิชายิ้มบางๆ "เรื่องใครที่ฝันถึงหญิงสาวในภาพวาดแล้วจะถูกดึงไปยังอดีตน่ะเหรอคะ? หนูไม่เชื่อเรื่องแบบนั้นหรอก"
อาจารย์เกรียงไกรหัวเราะเบาๆ "นักวิทยาศาสตร์ก็มักไม่เชื่อเรื่องลี้ลับ แต่บางอย่างก็อธิบายด้วยเหตุผลไม่ได้เหมือนกัน"
พิมพิชาไม่ได้สนใจนัก เธอเดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่ สายตาหยุดลงที่ภาพวาดเก่าแก่บนผนัง ภาพของหญิงสาวในชุดไทยงดงาม ลวดลายทองสลักอย่างประณีต แต่ที่สะดุดตาที่สุดคือ... ใบหน้าของหญิงสาวในภาพนั้นช่างละม้ายคล้ายเธอเสียเหลือเกิน!
"แม่หญิงพิกุล..." เธอพึมพำชื่อนั้นออกมา รู้สึกถึงแรงดึงดูดบางอย่างที่ไม่อาจอธิบายได้
ทันใดนั้น สายลมแรงพัดวูบเข้ามาในห้อง ประตูหน้าต่างปิดดัง ปัง! พิมพิชารู้สึกวิงเวียนอย่างรุนแรง โลกทั้งใบหมุนคว้างก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบลง
---
ตอนที่ 2: ตื่นขึ้นในยุคอดีต
"คุณหญิง! คุณหญิงเจ้าคะ!"
เสียงเรียกดังแว่วมาแต่ไกล พิมพิชาขมวดคิ้วก่อนจะลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก สิ่งแรกที่เธอเห็นคือเพดานไม้สลักลวดลายอย่างงดงาม กลิ่นกำยานหอมอ่อนๆ ลอยอบอวล
เธอรีบลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะพบว่าตัวเองอยู่ในห้องที่ตกแต่งอย่างไทยโบราณ และที่สำคัญ... มือของเธอที่วางอยู่บนตักไม่ใช่มือของเธอ!
มันดูเรียวเล็ก นุ่มนวล และประดับไปด้วยเครื่องทอง
"คุณหญิงพิกุลฟื้นแล้วเจ้าค่ะ!" สาวใช้คนหนึ่งร้องขึ้นด้วยความดีใจ
พิมพิชาเบิกตากว้าง หัวใจเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง
"นี่มันอะไรกัน!? ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่!?"
---
เป็นไงบ้างคะ ชอบแนวนี้ไหมคะแอดจะพยายามอัพนะคะ
มนตรากาลบันดาลรัก
ตอนที่ 3: เมื่อฉันไม่ใช่แม่หญิงพิกุล
พิมพิชากวาดตามองไปรอบๆ อย่างตื่นตระหนก เธอไม่ได้อยู่ที่พระตำหนักเก่าอีกแล้ว ทุกอย่างรอบตัวเป็นเรือนไทยโบราณแท้ๆ และที่สำคัญ…
"ฉันกลายเป็นแม่หญิงพิกุลจริงๆ อย่างนั้นเหรอ!?"
"คุณหญิงเป็นอะไรไปเจ้าคะ?" สาวใช้คนเดิมเอ่ยถามเมื่อเห็นเธอทำท่าราวกับตกใจอะไรบางอย่าง
พิมพิชาพยายามระงับความสั่นไหวในใจ เธอค่อยๆ สูดลมหายใจเข้า แล้วเอ่ยถามเสียงเบา "ที่นี่คือที่ไหนเหรอ?"
สาวใช้ทั้งสามคนที่ยืนอยู่มองหน้ากัน ก่อนที่หญิงวัยกลางคนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าสาวใช้จะก้าวออกมา "คุณหญิงเจ้าขา ท่านเป็นอะไรไปเจ้าคะ ที่นี่ก็คือเรือนของท่านไงเจ้าคะ หรือว่าศีรษะของท่านกระทบกระเทือน?"
"ให้ตายเถอะ นี่ฉันย้อนเวลามาจริงๆ อย่างนั้นเหรอ?" พิมพิชานิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพยายามเก็บอาการแล้วพยักหน้าเบาๆ "อืม... แค่รู้สึกมึนหัวนิดหน่อย"
สาวใช้ดูโล่งใจไปเล็กน้อย "หากเป็นเช่นนั้น ข้าน้อยจะให้แม่ครัวต้มยาให้ท่านนะเจ้าคะ"
"ไม่ต้องหรอก ฉัน..." พิมพิชาชะงักไปเมื่อเผลอพูดคำว่า ฉัน ออกมา แต่เหมือนสาวใช้จะไม่ทันสังเกต เธอจึงรีบปรับคำพูดใหม่ "ข้าหายดีแล้ว ไม่ต้องลำบากหรอก"
สาวใช้ยิ้ม ก่อนจะถอยไปยืนด้านข้าง พิมพิชามองมือตัวเองอีกครั้ง แล้วถอนหายใจ
"นี่มันเรื่องจริงสินะ... ฉันกลายเป็นแม่หญิงพิกุลไปแล้วจริงๆ"
---
ตอนที่ 4: คู่หมายที่แสนจะเย็นชา
หลังจากที่พยายามทำความเข้าใจกับสถานการณ์ตัวเอง พิมพิชาก็พบว่าชีวิตของ แม่หญิงพิกุล นั้นไม่ได้ง่ายเลย สาวใช้ที่คอยรับใช้เธอมีท่าทางหวาดๆ เวลาเข้ามาพูดกับเธอ และที่สำคัญกว่านั้นคือ...
"พิกุลตัวจริงเป็นคนร้ายกาจสุดๆ ไปเลย!"
จากคำบอกเล่าของสาวใช้ แม่หญิงพิกุลเดิมเป็นหญิงที่เอาแต่ใจ ดื้อรั้น และมักใช้อำนาจบาตรใหญ่ข่มขู่คนอื่น ไม่แปลกใจเลยที่ทุกคนจะเกรงกลัวเธอ
"แต่ฉันไม่ใช่พิกุลคนนั้นนะ!"
ยังไม่ทันที่พิมพิชาจะหาทางแก้ปัญหา เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากด้านนอก
"คุณหญิงพิกุลพร้อมหรือยังขอรับ?"
พิมพิชาหันไปตามเสียง และพบเข้ากับชายหนุ่มในชุดขุนนางเต็มยศ ใบหน้าคมเข้มดุดัน แววตาคมกริบราวกับสามารถมองทะลุเข้าไปถึงหัวใจของเธอ
"หลวงราชภพ..."
เธอจำชื่อเขาได้จากที่สาวใช้พูดถึง และแน่นอนว่าเขาคือคู่หมายของแม่หญิงพิกุล ซึ่งดูจากท่าทางแล้ว... เขาไม่ได้อยากมาเจอเธอเลยสักนิด
"พร้อม? พร้อมไปไหน?" พิมพิชาถามงงๆ
หลวงราชภพเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "หรือคุณหญิงจะลืมไปแล้ว ว่าวันนี้ท่านต้องไปเข้าเฝ้าเสด็จพระยาท่าน?"
"ตายแล้ว! จะให้ฉันไปเข้าเฝ้าผู้มีอำนาจในสมัยอยุธยาเนี่ยนะ!?"
พิมพิชาได้แต่ยืนอ้าปากค้าง ขณะที่หลวงราชภพถอนหายใจอย่างไม่สบอารมณ์
"หากท่านยังมัวชักช้า ข้าก็ไม่ขัดข้องหรอก แต่โปรดอย่าทำให้ข้าต้องอับอายไปมากกว่านี้เลย"
"โอ้โห... หมั่นไส้ชะมัด! แล้วนี่ฉันต้องแต่งงานกับผู้ชายแบบนี้เหรอเนี่ย!?"
---
เป็นไงบ้างคะ สนุกไหม?
---
มนตรากาลบันดาลรัก
ตอนที่ 5: แม่หญิงฉัตรแก้ว นางร้ายผู้เพียบพร้อม
พิมพิชาถูกพาตัวมาที่ตำหนักใหญ่เพื่อเข้าเฝ้า เสด็จพระยาธรรศไท ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ของแผ่นดิน แม้เธอจะพยายามทำตัวสำรวมที่สุด แต่ก็อดเกร็งไม่ได้เมื่อเห็นขุนนางและเหล่าหญิงงามแต่งตัวสวยงามอยู่เต็มตำหนัก
และในกลุ่มหญิงงามเหล่านั้น มีหญิงสาวคนหนึ่งที่สะดุดตาเธอที่สุด
"สวยมาก... แต่หน้าตาดูไม่ค่อยเป็นมิตรแฮะ"
"อ้อ นั่นแม่หญิงฉัตรแก้ว" สาวใช้ของพิมพิชากระซิบเบาๆ "นางเป็นบุตรีของพระยาวิชิตศรีธำรงค์ ท่านขุนนางใหญ่ อีกทั้งยังเป็นคู่หมายที่เสด็จพระยาท่านอยากให้คู่กับหลวงราชภพ"
"อะไรนะ!? นี่หลวงราชภพมีคู่หมายที่เหมาะสมกว่าฉันอีกเหรอ!?" พิมพิชาตาโต
"ได้ยินว่าแม่หญิงฉัตรแก้วเพียบพร้อมทั้งกิริยา วาจา และการเรือน เป็นที่หมายปองของบุรุษทั้งวังหลวงเลยนะเจ้าคะ"
พิมพิชากลืนน้ำลายลงคอ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าแม่หญิงฉัตรแก้วคงไม่ชอบเธอแน่ๆ และไม่นานนัก เธอก็ได้รู้ว่าเธอเดาถูก
แม่หญิงฉัตรแก้วเดินตรงเข้ามาหาเธอ ใบหน้าประดับรอยยิ้มที่ดูงดงาม แต่แฝงด้วยความเย้ยหยัน
"คุณหญิงพิกุล ดูเหมือนว่าท่านจะมีอาการป่วยกระมังเจ้าคะ ข้าสังเกตว่าท่านดูเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนนัก"
พิมพิชารู้ทันทีว่าอีกฝ่ายไม่ได้หมายถึงการป่วยจริงๆ แต่กำลังจงใจเหน็บแนมเธอ เพราะ พิกุลคนเก่า ขึ้นชื่อว่าเป็นหญิงเอาแต่ใจ แต่ตอนนี้เธอกลับวางตัวสำรวมจนผิดปกติ
"ยัยนี่... มาทักทายกันแบบนี้เลยเหรอ!?"
แต่พิมพิชาไม่ยอมเสียเชิงง่ายๆ เธอยิ้มกลับ "อาการป่วยหรือไม่ ข้าเองก็มิอาจทราบได้ เพียงแต่คิดว่าช่วงนี้ควรทำตัวเป็นแม่หญิงที่ดีขึ้นสักหน่อยเจ้าค่ะ"
แม่หญิงฉัตรแก้วเลิกคิ้ว "เช่นนั้นหรือเจ้าคะ ก็หวังว่าท่านจะทำได้จริง เพราะผู้หญิงที่เป็นภรรยาของหลวงราชภพพึงมีคุณสมบัติเพียบพร้อม มิใช่เพียงแค่เปลี่ยนแปลงตัวเองเพราะหวังผลประโยชน์"
พิมพิชาหัวเราะแห้งๆ "เจ้าค่ะ หวังว่าคุณหญิงฉัตรแก้วเองก็คงจะมีคุณสมบัติที่ดีพอเช่นกันนะเจ้าคะ"
คำพูดของเธอทำให้แม่หญิงฉัตรแก้วชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มเยือกเย็นขึ้นกว่าเดิม "แน่นอนเจ้าค่ะ ข้ามั่นใจว่าตัวเองเป็นคู่ควรกับหลวงราชภพมากกว่าผู้ใด"
---
ตอนที่ 6: ศึกชิงหลวงราชภพเริ่มต้นขึ้นแล้ว!
หลังจากนั้น พิมพิชาก็รับรู้ได้ทันทีว่าแม่หญิงฉัตรแก้วจะไม่ปล่อยให้เธออยู่ดีแน่ เพราะไม่ว่าจะไปที่ไหน นางก็จงใจเข้ามาแสดงความเหนือกว่าเธอเสมอ
เช่นในวันนี้ที่มีงานเลี้ยงน้ำชาในวัง
"ข้าได้ยินมาว่าคุณหญิงพิกุลไม่ค่อยสนใจงานเรือนนัก จริงหรือไม่เจ้าคะ?" แม่หญิงฉัตรแก้วถามเสียงหวาน ขณะนั่งจิบชาอย่างสง่างาม
พิมพิชากะพริบตาปริบๆ "อ้อ... ข้าเหรอเจ้าคะ?"
"เจ้าค่ะ เพราะภรรยาที่ดีควรเย็บปักถักร้อยเป็น ปรุงอาหารเก่ง และต้องรู้จักบริหารเรือนให้ดี หาไม่แล้วสามีคงต้องลำบากแย่"
"หาเรื่องฉันอีกแล้วเหรอเนี่ย!?"
พิมพิชาไม่รู้เลยว่าพิกุลคนเก่าเป็นแม่ศรีเรือนหรือเปล่า แต่จากคำพูดของแม่หญิงฉัตรแก้ว คงจะไม่เป็นแน่ๆ
และโชคร้ายที่หลวงราชภพก็ดันอยู่ตรงนั้นด้วย!
เขาเงยหน้ามามองเธอนิดหนึ่ง ทำให้พิมพิชาเริ่มร้อนๆ หนาวๆ
"โอเค ถ้าจะเล่นเกมแบบนี้ งั้นฉันขอสู้ละกัน!"
เธอยิ้มบางๆ ก่อนจะพูดเสียงเรียบ "งานเรือนนั้นข้าอาจไม่ถนัดนัก แต่ข้าก็เชื่อว่าความดีและความเข้าใจสำคัญกว่าฝีมือในการเย็บปักถักร้อยนะเจ้าคะ"
"หืม? เช่นนั้นหรือเจ้าคะ?" แม่หญิงฉัตรแก้วเลิกคิ้ว
"เจ้าค่ะ เพราะสามีที่ดีควรเลือกภรรยาที่จะอยู่เคียงข้างเขายามสุขและทุกข์ มากกว่าภรรยาที่เก่งแต่เรื่องงานเรือนมิใช่หรือเจ้าคะ?"
แม่หญิงฉัตรแก้วหน้าเจื่อนไปชั่วขณะ แต่ก่อนที่นางจะเอ่ยอะไร หลวงราชภพกลับพูดขึ้นมาอย่างไม่คาดคิด
"เจ้าก็พูดเป็นเหมือนกันนี่... คุณหญิงพิกุล"
พิมพิชาอ้าปากค้าง "นี่หลวงราชภพชมฉันเหรอ!?"
แม่หญิงฉัตรแก้วเองก็ดูไม่สบอารมณ์นัก ดูเหมือนศึกครั้งนี้พิมพิชาจะเป็นฝ่ายชนะไปก่อนหนึ่งยก!
---
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!