(เสียงเครื่องยนต์รถเมล์สาย 4 ดังกระหึ่มเบาๆ คลอไปกับเสียงประกาศป้ายหยุดรถที่ฟังดูคุ้นเคยจนแทบจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของลมหายใจ) พิมพ์นั่งชิดริมหน้าต่าง มองออกไปนอกกระจกที่สั่นไหวเล็กน้อย ภาพอาคารสูงและแสงไฟยามเย็นเลื่อนผ่านไปอย่างรวดเร็ว
วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เธอเดินทางกลับบ้านด้วยรถเมล์สายเดิม เส้นทางเดิม ผู้คนหน้าเดิมๆ ที่คุ้นหน้าคุ้นตาแต่ไม่เคยรู้จักชื่อกันสักคน พิมพ์อายุยี่สิบสามปี ทำงานเป็นพนักงานบัญชีในบริษัทเล็กๆ แห่งหนึ่ง ชีวิตของเธอเรียบง่าย...จนบางครั้งก็รู้สึกเหมือนขาดหายอะไรบางอย่างไป
เพื่อน...คำนี้สำหรับพิมพ์แล้วเหมือนเป็นคำที่มาจากโลกอีกใบหนึ่ง ตั้งแต่เด็กจนโต เธอเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ในวัยเรียนก็มักจะนั่งคนเดียว กินข้าวคนเดียว กลับบ้านคนเดียว ความเหงาจึงกลายเป็นเพื่อนเก่าที่เธอคุ้นเคยดี
"ป้ายหน้า...โรงพยาบาล..." เสียงประกาศดังขึ้น พิมพ์ละสายตาจากนอกหน้าต่าง มองไปยังผู้คนที่ลุกขึ้นเตรียมตัวลงจากรถ บางคนคุยโทรศัพท์ บางคนหัวเราะกับเพื่อนที่นั่งข้างๆ ภาพเหล่านั้นตอกย้ำความรู้สึกโดดเดี่ยวในใจเธออย่างช่วยไม่ได้
ฉันอยากมีเพื่อนแบบนั้นบ้างจัง...เพื่อนที่คุยกันได้ทุกเรื่อง ไปไหนมาไหนด้วยกัน... ความคิดนี้ผุดขึ้นมาในหัวเป็นประจำ แต่ทุกครั้งมันก็จบลงด้วยความเงียบงัน เธอไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ไม่รู้จะเข้าหาใครด้วยคำพูดแบบไหน ความกลัวที่จะถูกปฏิเสธมันฝังลึกอยู่ในใจ
กระทั่งเรื่องความรัก...พิมพ์แทบไม่เคยคิดถึงมันอย่างจริงจัง การมีใครสักคนเข้ามาในชีวิตดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ไกลเกินเอื้อมสำหรับเธอ แค่การเริ่มต้นบทสนทนากับคนแปลกหน้ายังเป็นเรื่องยาก แล้วการที่จะเปิดใจให้ใครสักคนเข้ามาดูแลหัวใจดวงนี้...มันยิ่งเป็นสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้
วันนี้ก็เช่นกัน พิมพ์ลงจากรถเมล์ที่ป้ายหน้าปากซอยบ้าน เดินทอดน่องเข้าไปในซอยแคบๆ แสงไฟสลัวๆ ส่องนำทาง ความเงียบรอบข้างยิ่งทำให้ความเหงาในใจเธอเด่นชัดขึ้น
เมื่อไหร่กันนะ...ที่ชีวิตฉันจะเปลี่ยนไป...เมื่อไหร่กันนะ...ที่ฉันจะได้รู้จักคำว่าเพื่อนรัก...และเมื่อไหร่กันนะ...ที่ฉันจะได้พบกับความรัก...
ขณะที่กำลังไขกุญแจบ้าน เสียงทักทายแผ่วเบาดังมาจากรั้วข้างๆ
"สวัสดีค่ะ...กลับมาแล้วเหรอคะ?"
พิมพ์ชะงัก หันไปมอง หญิงวัยกลางคนที่อาศัยอยู่ในบ้านข้างๆ กำลังยืนรดน้ำต้นไม้อยู่ เธอเป็นคนใจดี มักจะยิ้มทักทายพิมพ์เสมอ แต่พิมพ์ก็ไม่เคยกล้าคุยกับเธอมากนัก
"ค่ะ...สวัสดีค่ะคุณป้า..." พิมพ์ตอบกลับเสียงเบา
"วันนี้อากาศร้อนอบอ้าวจริงๆ นะคะ" คุณป้าข้างบ้านชวนคุยต่อ
พิมพ์เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะรวบรวมความกล้าตอบกลับไปบ้าง "ค่ะ...ร้อนมากเลยค่ะ"
บทสนทนาสั้นๆ จบลงตรงนั้น พิมพ์รีบไขกุญแจเข้าบ้าน ปล่อยให้ความเงียบกลับมาปกคลุมอีกครั้ง แต่ถึงอย่างนั้น...ในใจลึกๆ ของเธอก็รู้สึกถึงความอบอุ่นเล็กๆ ที่แผ่ซ่านเข้ามา มันอาจจะเป็นเพียงบทสนทนาสั้นๆ กับเพื่อนบ้าน แต่สำหรับพิมพ์แล้ว...มันอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ ของการก้าวออกจากโลกที่เงียบเหงาของเธอก็เป็นได้...
(จบตอน)
หลังจากที่พิมพ์ไขกุญแจเข้าบ้านในเย็นวันนั้น ความเงียบก็โอบล้อมเธออีกครั้ง แสงไฟสีส้มนวลจากโคมไฟตั้งโต๊ะในห้องนั่งเล่นส่องสว่างเพียงบางส่วนของห้อง ทำให้บรรยากาศดูเงียบเหงาและวังเวงยิ่งขึ้น
พิมพ์วางกระเป๋าลงบนโซฟาอย่างเบามือ ถอนหายใจออกมาแผ่วเบา ความเหนื่อยล้าจากการทำงานตลอดทั้งวันเริ่มถาโถมเข้ามา แต่ความเหนื่อยล้าทางกายนั้นเทียบไม่ได้กับความรู้สึกอ้างว้างที่กัดกินหัวใจเธออยู่เสมอ
เธอเดินไปยังห้องครัว เปิดตู้เย็น หยิบน้ำเย็นออกมาดื่มดับกระหาย มองไปยังโต๊ะอาหารเล็กๆ ที่วางอยู่กลางห้อง ซึ่งมักจะว่างเปล่าเสมอ พิมพ์ทำอาหารทานคนเดียวเป็นกิจวัตร และมักจะทานอย่างเงียบๆ โดยมีเพียงเสียงโทรทัศน์เป็นเพื่อน
แต่เย็นวันนี้...ความรู้สึกบางอย่างแตกต่างออกไปเล็กน้อย รอยยิ้มและคำทักทายของคุณป้าข้างบ้านยังคงวนเวียนอยู่ในความคิดของเธอ มันเป็นความรู้สึกอบอุ่นที่เธอไม่ได้สัมผัสมานานนัก แม้จะเป็นเพียงบทสนทนาสั้นๆ แต่ก็ทำให้หัวใจที่เคยชาชินกับความเงียบเหงาเริ่มรู้สึกถึงความเคลื่อนไหวเล็กๆ
พิมพ์เดินไปยังหน้าต่าง มองออกไปยังสวนหย่อมเล็กๆ หน้าบ้านข้างๆ เห็นคุณป้ากำลังเก็บอุปกรณ์ทำสวน แสงสุดท้ายของวันสาดส่องเป็นสีทองบนเรือนผมสีดอกเลาของคุณป้า ภาพนั้นดูสงบและอบอุ่นอย่างประหลาด
คุณป้า...อยู่คนเดียวเหมือนกันหรือเปล่านะ? พิมพ์คิดอย่างสงสัย เธอไม่เคยรู้เรื่องราวชีวิตส่วนตัวของคุณป้ามากนัก รู้เพียงว่าคุณป้าเป็นคนใจดีและมักจะยิ้มให้เธอเสมอ
ความอยากรู้เล็กๆ น้อยๆ ผุดขึ้นมาในใจ พิมพ์ไม่เคยมีความรู้สึกอยากจะทำความรู้จักกับใครมากเท่านี้มาก่อน อาจเป็นเพราะความเหงาที่เริ่มกัดกินลึกลงไป หรืออาจเป็นเพราะรอยยิ้มที่จริงใจของคุณป้าที่ทำให้กำแพงในใจเธอเริ่มสั่นคลอน
เธอตัดสินใจเดินออกจากห้องนั่งเล่นไปยังระเบียงหน้าบ้าน มองไปยังรั้วที่กั้นระหว่างบ้านของเธอกับบ้านคุณป้า ลังเลอยู่ครู่หนึ่งว่าจะเอ่ยทักทายดีหรือไม่ หัวใจเต้นแรงเล็กน้อยกับความคิดที่จะเริ่มต้นบทสนทนาอีกครั้ง
สุดท้าย พิมพ์ก็รวบรวมความกล้า เอ่ยเสียงเบาๆ
"คุณป้าคะ..."
คุณป้าที่กำลังจะเดินเข้าบ้านชะงัก หันมามองพิมพ์ด้วยรอยยิ้มใจดี
"อ้าว พิมพ์...มีอะไรหรือจ๊ะ?"
เช้าวันจันทร์ที่แสนจะวุ่นวาย พิมพ์เบียเสียดตัวเองเข้าไปในรถเมล์สาย 4 ที่แน่นขนัดเหมือนเช่นเคย เธอหาที่ยืนได้ตรงบริเวณใกล้กับประตูหลัง พยายามรักษาสมดุลขณะที่รถออกตัวกระชากเล็กน้อย
วันนี้เธอมาถึงป้ายเร็วกว่าปกติเล็กน้อย ทำให้บนรถมีผู้โดยสารหนาตาเป็นพิเศษ พิมพ์ก้มหน้ามองโทรศัพท์มือถือในมือ พยายามหลีกเลี่ยงการสบตาหรือปฏิสัมพันธ์กับใคร
รถจอดรับส่งผู้โดยสารไปตามป้ายต่างๆ ความเงียบ (ท่ามกลางเสียงจอแจ) ยังคงเป็นเพื่อนคู่ใจของพิมพ์
กระทั่งรถเคลื่อนตัวออกจากป้ายถัดไปได้ไม่นาน พิมพ์ก็รู้สึกถึงแรงสะกิดเบาๆ ที่แขน เธอเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยด้วยความสงสัย
"เอ่อ...โทษนะคะ" เสียงทุ้มนุ่มดังมาจากทางด้านข้าง
พิมพ์หันไปมองเต็มตัว พบกับผู้ชายคนหนึ่ง รูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาว ใบหน้าเกลี้ยงเกลา สวมแว่นตากรอบบาง เขากำลังมองมาที่เธอด้วยรอยยิ้มสุภาพ
พิมพ์รู้สึกประหม่าเล็กน้อย ไม่คุ้นเคยกับการถูกคนแปลกหน้าทักทาย "คะ...มีอะไรหรือเปล่าคะ?" เธอถามเสียงแผ่วเบา
"พอดีว่า..." ชายหนุ่มคนนั้นชะงักไปเล็กน้อย เหมือนกำลังรวบรวมคำพูด "คือว่า...กระเป๋าของคุณน่ะค่ะ มัน..." เขาชี้ไปยังกระเป๋าสะพายข้างของพิมพ์ที่สายมันกำลังจะหลุดออกจากตัวล็อก
พิมพ์ก้มลงมองด้วยความตกใจ พบว่าสายกระเป๋าของเธอกำลังจะหลุดจริงๆ หากชายหนุ่มไม่ทักท้วง เธออาจจะไม่รู้ตัวเลยก็ได้
"ว้าย! ขอบคุณมากเลยนะคะ" พิมพ์รีบจัดการกับสายกระเป๋าด้วยมือที่สั่นเล็กน้อย เธอรู้สึกหน้าแดงเล็กน้อยกับความซุ่มซ่ามของตัวเอง
"ไม่เป็นไรครับ" ชายหนุ่มยิ้มอีกครั้ง "เห็นว่ามันกำลังจะหลุดน่ะครับ กลัวของจะหล่นหาย"
"ขอบคุณจริงๆ ค่ะ ถ้าไม่ได้คุณ..." พิมพ์เงยหน้าขึ้นมองเขาอีกครั้ง รู้สึกขอบคุณจากใจจริง
"ยินดีครับ" เขาตอบกลับด้วยรอยยิ้มที่ดูจริงใจ "ว่าแต่...ผมคุ้นหน้าคุณเหมือนกันนะครับ
"อ๋อ...ค่ะ ก็ปกติแล้วฉันก็กลับรถเมล์เที่ยวนี้บ่อยๆ เหมือนกันค่ะ" พิมพ์ตอบเสียงเบา มองไปยังมือที่กำลังลูบสายกระเป๋าอย่างไม่ตั้งใจ
"ผมชื่อ [ธีร์] ครับ" ชายหนุ่มแนะนำตัวเองด้วยรอยยิ้มที่ยังคงอบอุ่น
พิมพ์เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย มองสบตาเขาแวบหนึ่งก่อนจะหลุบตาลงเล็กน้อยด้วยความขี้อาย "ฉันชื่อ พิมพ์ค่ะ" เธอตอบกลับเสียงแผ่ว
"ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ คุณพิมพ์" ธีร์กล่าว
"ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ คุณธีร์" พิมพ์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่มั่นคงขึ้นเล็กน้อย
หลังจากนั้น บทสนทนาก็เงียบลงชั่วครู่ ทั้งสองคนต่างก็มองไปยังทิศทางของตัวเอง แต่ก็ยังคงรู้สึกถึงความแปลกใหม่ของสถานการณ์ พิมพ์รู้สึกถึงความอบอุ่นเล็กๆ ที่แผ่ซ่านเข้ามาในความรู้สึกโดดเดี่ยวที่เคยชิน
รถเมล์จอดเทียบท่าที่ป้ายถัดไป มีผู้โดยสารหลายคนลุกขึ้นเพื่อลงจากรถ
"เอ่อ...พอดีว่าผมต้องลงป้ายหน้าแล้วล่ะครับ" ธีร์กล่าวด้วยท่าทีสุภาพ
"อ๋อ ค่ะ" พิมพ์พยักหน้ารับ
"ไว้ถ้ามีโอกาสคงได้เจอกันอีกนะครับ คุณพิมพ์" ธีร์ยิ้มให้เธออีกครั้ง ก่อนจะเดินไปยังประตูรถ
"ค่ะ...ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ คุณธีร์" พิมพ์กล่าวเสียงเบา มองตามแผ่นหลังของเขาจนกระทั่งเขาลงจากรถไป
รถเมล์เคลื่อนตัวออกจากป้าย พิมพ์กลับมามองออกไปนอกหน้าต่างอีกครั้ง แต่ความรู้สึกในใจแตกต่างออกไปเล็กน้อย รอยยิ้มและความสุภาพของชายหนุ่มเมื่อครู่ยังคงติดตรึงอยู่ในความทรงจำ แม้จะเป็นเพียงบทสนทนาสั้นๆ และไม่ได้มีการสานต่อ แต่ก็เป็นครั้งแรกในรอบนานที่พิมพ์ได้รับการทักทายและทำความรู้จักกับคนแปลกหน้าอย่างเป็นมิตร
ความรู้สึกประหม่าค่อยๆ จางหายไป เหลือไว้เพียงความรู้สึกแปลกใหม่และความสงสัยเล็กๆ น้อยๆ
เขาจะจำฉันได้ไหมนะ?
เราจะได้เจอกันอีกจริงๆ เหรอ?
ความคิดเหล่านี้ผุดขึ้นมาในหัวของพิมพ์เป็นครั้งแรก เธอไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่การพบเจอกับธีร์ในเช้าวันนี้ได้สร้างรอยยิ้มเล็กๆ และความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในชีวิตประจำวันอันแสนเงียบเหงาของเธอ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!