NovelToon NovelToon

ห้องเล่า

ตอนที่ 1: เงาในห้องเช่า

พิม สาวน้อยวัยยี่สิบจากต่างจังหวัด เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ด้วยความหวังและความฝันอันยิ่งใหญ่  เธอเลือกเรียนรอบเช้าพิเศษ ตารางชีวิตของเธอแน่นขนัด เรียนตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าถึงเก้าโมง จากนั้นรีบไปทำงานพนักงานขายเสื้อผ้าแบรนด์เนมในห้างสรรพสินค้า

ชีวิตของเธอหมุนวนอยู่กับการเรียน การทำงาน และการเดินทางกลับหอพัก เป็นเช่นนี้ทุกวัน ไม่มีวันหยุด ไม่มีวันพัก เพื่อส่งเสียครอบครัวที่รอคอยอยู่บ้านเกิด ความคิดถึงบ้าน และความกังวลใจเกี่ยวกับอนาคต เป็นเหมือนเงาที่ตามติดเธอไปทุกหนทุกแห่ง

หอพักต้อม หอพักเก่าๆ แถวมหาวิทยาลัย เป็นที่อยู่อาศัยของนักศึกษาส่วนใหญ่  บรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบ แต่ก็มีเสียงหัวเราะและเสียงพูดคุยกันบ้างจากห้องพักบางห้อง

พิมเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ได้ไม่นาน 

ห้องของเธอค่อนข้างเล็ก ไม่มีเฟอร์นิเจอร์อะไรมากมาย  มีเพียงเตียงนอน โต๊ะเล็กๆ และตู้เสื้อผ้าเก่าๆ ระเบียงห้องปิดตายสนิท ไม่มีแม้แต่ตาแมว ประตูห้องมีเพียงลูกบิดและกลอนประตู ทำให้เธอรู้สึกไม่ปลอดภัย

บนโต๊ะมีเหรียญพระแตกครึ่งหนึ่งวางอยู่ พิมเก็บได้ตอนทำความสะอาดห้อง พิมเก็บไว้ ไม่กล้าทิ้งไปไหน เพราะรู้สึกหวั่นๆ

บรรยากาศภายในห้อง ดูเงียบสงบแต่ก็แฝงไปด้วยความน่ากลัว  เหมือนกับมีบางสิ่งบางอย่าง กำลังเฝ้ามองเธออยู่ตลอดเวลา ความรู้สึกนี้ ทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวและไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง

ตั้งแต่วันแรกที่ย้ายเข้ามา พิมก็รู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง เสียงโทรศัพท์ปริศนา โทรเข้าเบอร์ห้องของเธอหลายครั้ง  เมื่อเธอรับสายเสียงซี๊ดซ๊าดจากปลายสาย ฟังไม่รู้เรื่อง ชวนขนหัวลุก บางครั้งก็มีเสียงผู้ชายโทรมาถามถึงชื่อ "นา" พิมไม่รู้จักใครชื่อนา และไม่เคยบอกเบอร์โทรศัพท์ให้ใครรู้

เธอเริ่มรู้สึกหวั่นๆ และพยายามไม่คิดมาก  แต่ความรู้สึกไม่สบายใจก็ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ เธอจึงตัดสินใจดึงสายโทรศัพท์ออก

นอกจากเสียงโทรศัพท์ พิมยังรู้สึกถึงสายตาที่จ้องมองเธออยู่ตลอดเวลา วินมอเตอร์ไซค์หน้าตึก มักจะมองเธอด้วยสายตาแปลกๆ ทุกครั้งที่เธอเดินเข้าออกตึก สายตาเหล่านั้นทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ  และหวาดกลัว

ความรู้สึกนี้ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น เมื่อกร หนุ่มที่แอบชอบเธอมาตั้งแต่หอพักเก่า ขับมอเตอร์ไซค์มาขวางหน้าเธอ เพื่อสารภาพรัก แม้พิมจะปฏิเสธ แต่เธอก็อดสงสัยไม่ได้ว่า เขารู้เรื่องราวของเธอได้อย่างไร รู้แม้กระทั่งว่าเธอย้ายมาอยู่หอพักต้อม

แล้วยังมีพ่อบ้าน ชายชราผู้ดูแลหอพัก พยายามชักชวนให้เธอไปพบกับเสี่ย พร้อมกับอ้างว่า "ในตึกนี้ก็มีสาวคนหนึ่งได้ดีเพราะลุงแนะนำเสี่ยให้"

พิมปฏิเสธอย่างแข็งขัน แต่เจ้าของหอพักก็โทรมาเร่งเร้า ให้เธอลงไปพบเสี่ย มิเช่นนั้นจะให้เสี่ยขึ้นมาหาเธอที่ห้อง

เธอจึงจำเป็นต้องลงไปพบเสี่ยที่ออฟฟิศใต้ตึก พิมเดินเข้าไป มีชายชรา2คนแต่งตัวดีหวีผมเนียบ ขับรถหรูมากัน2คัน นั่งรออยู่ เสี่ยทั้งสองพยายามชวนให้พิมไปทานข้าวด้วยโดยชวนให้ไปทานข้าวที่เพชรบุรี พร้อมเสนอหน้าที่การที่ดีให้ แต่พิมปฏิเสธไป พฤติกรรมแปลกๆเหล่านี้ เริ่มทำให้พิมรู้สึกหวาดกลัว

และแล้ว เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น คืนนั้น หลังจากเลิกงาน  พิมเดินกลับหอพัก เธอต้องเดินผ่านห้องพักของกลุ่มนักศึกษาชาย  ที่กำลังนั่งดื่มกินและพูดคุยกันเสียงดัง บรรยากาศค่อนข้างวุ่นวาย  ทำให้เธอรู้สึกไม่ปลอดภัย

พิมรีบเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว ด้วยความรู้สึกหวาดกลัว เมื่อกลับถึงห้อง เธอก็ล็อกประตูอย่างแน่นหนา และเตรียมตัวเข้านอน ด้วยความหวาดระแวง และความไม่สบายใจ

ตอนที่ 2:  เสียงจากความมืด

เวลาประมาณตีสาม พิมสะดุ้งตื่น เพราะได้ยินเสียงเคาะประตู เบาๆ  ครั้งแรก เธอคิดว่าคงเป็นความฝัน พิมจึงหลับต่อ

แต่แล้วเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอีกครั้ง แรงขึ้น พร้อมกับเสียงกระชากลูกบิดประตู พิมตกใจสุดขีด รีบลุกขึ้น มองนาฬิกา ตีสามแล้ว 

เธอแน่ใจว่าไม่ใช่คนรู้จัก เพราะเธอไม่เคยบอกใครว่าอยู่ห้องนี้ เธอจึงรีบวิ่งไปที่ประตู กดลูกบิดประตูไว้แน่นใจสั่นเหงื่อท่วมเพราะความกลัวสุดขีด

และแนบหูฟังเสียงด้านนอก นอกจากเสียงกระชากลูกบิด เธอยังได้ยินเสียงผู้หญิงคุยกันเบาๆ เดินผ่านหน้าห้องไป แต่ไม่มีใครสนใจว่าเกิดอะไรขึ้น เสียงเคาะประตูและเสียงกระชากลูกบิดยังคงดังอยู่และแรงขึ้นเรื่อยๆเหมือนมันกำลังโมโหสุดขีด  แต่ไม่มีเสียงพูด ไม่มีเสียงเรียก พิมเริ่มหวาดกลัว

โทรศัพท์มือถือของเธอก็ไม่มีเงินเหลือ เธอทำอะไรไม่ถูก แล้วอยู่ๆมีข้อความเข้า 'ระบบเติมเงินโบนัสวันเกิด 50 บาท' พิมดีใจมาก นึกขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เหมือนมีบางสิ่งบางอย่างกำลังช่วยพิมอยู่

พิมที่อยู่ในอาการหวาดกลัวไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียง "คิดสิคิดทำไงดี " พิมตัดสินใจโทร191แต่จะโทรตรงนี้ก็กลัวคนร้ายได้ยินเสียง จะไปโทรระเบียงก็กลัวมันเปิดประตูเข้ามาได้ สุดท้ายพิมรีบวิ่งไปโทรตรงระเบียงด้วยเสียงสั่น แต่สายตายังคงจ้องมองไปที่ประตู

ไม่นานนักเสียงเคาะประตูเงียบไป มีเสียง "เปิดประตูหน่อยครับ นี่ตำรวจ" ก็ดังขึ้น พิมยังคงไม่เชื่อใจไม่กล้าส่งเสียง จึงไม่ได้เปิด จนได้ยินเสียงวอจากเครื่องวิทยุของตำรวจ จึงตัดสินใจเปิดประตูออกไปทรุดตัวลงนั่งพร้อมร้องให้โฮออกมาอย่างหมดแรงด้วยอาการตัวสั่นและหวาดกลัว

ตำรวจถามว่า"ทำไมไม่โทรหา รปภ." พิมตอบอย่างตกใจ "ฉันไม่เคยรู้ว่าตึกนี้มีรปภ.และไม่เคยเห็น รปภ. พ่อบ้านก็ไม่เคยบอกว่ามี" ตำรวจชี้ไปที่ชายแปลกหน้าคนนึงที่เดินขึ้นมาพร้อมตำรวจว่าเค้าเป็นรปภ.

แต่พิมไม่เห็นเคยและคนแปลกหน้าคนนี้ไม่ได้ใส่ชุดรปภ.

เรื่องราวต่างๆยิ่งดูน่าสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ

เช้าวันรุ่งขึ้น พิมโทรแจ้งเรื่องที่เกิดขึ้นกับเจ้าของหอพัก แต่เจ้าของหอพักกลับไม่พอใจและต่อว่าพิม ที่ทำให้เรื่องนี้ถึงตำรวจ ยิ่งทำให้พิมตอกย้ำความสงสัยเข้าไปอีก

พิมตัดสินใจย้ายออกจากหอในวันนั้นเลย และไปอยู่หอพักหญิงกับเพื่อนแทน

เงาแห่งความสงสัย

หลังจากย้ายออกจากหอพักต้อม พิมก็ยังคงรู้สึกหวาดหวั่นและไม่สบายใจ เธอพยายามลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ความสงสัยยังคงวนเวียนอยู่ในหัว  เหรียญพระแตกครึ่งนั้น เหมือนเป็นปริศนาที่รอการไข เธอตัดสินใจติดต่อนักข่าวรุ่นพี่ที่รู้จักกัน เพื่อขอความช่วยเหลือในการสืบหาความจริงเกี่ยวกับหอพักต้อมและเรื่องราวของ “นา”

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เป็นรุ่นพี่นักข่าวที่พิมติดต่อขอความช่วยเหลือ  "ได้ข้อมูลอะไรบ้างแล้วเหรอพิม?" เสียงพี่นัทถามด้วยน้ำเสียงเป็นกันเองแต่แฝงไปด้วยความเป็นมืออาชีพ

พิมเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้พี่นัทฟังอย่างละเอียด ตั้งแต่เสียงโทรศัพท์ปริศนา สายตาแปลกๆ การถูกชักชวนจากพ่อบ้าน เหตุการณ์ในคืนนั้น และความสงสัยเกี่ยวกับ “นา”รวมถึงเหรียญพระแตกครึ่งที่เธอเก็บไว้

"น่าสนใจมากพิม" พี่นัทกล่าว "ฉันจะลองสืบหาข้อมูลเกี่ยวกับหอพักต้อมดู และจะติดต่อเจ้าของหอพักเพื่อขอสัมภาษณ์ด้วย ส่วนเหรียญพระ...ลองเอาไปให้พระดูบ้างไหม? อาจจะมีอะไรบางอย่างที่เราไม่รู้"

วันต่อมา พี่นัทส่งข้อความมาหาพิม "ฉันได้ข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับหอพักต้อมแล้ว มันเคยเป็นที่พักของกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม มีข่าวลือเรื่องการค้ามนุษย์และการพนัน แต่ตำรวจไม่สามารถหาหลักฐานได้ ส่วนเจ้าของหอพัก...เขามีพฤติกรรมที่น่าสงสัย ฉันจะพยายามหาหลักฐานเพิ่มเติม"

พิมเริ่มรู้สึกหวั่นใจ เรื่องราวทั้งหมดดูเหมือนจะเชื่อมโยงกัน เธอนึกถึงสายตาแปลกๆของวินมอเตอร์ไซค์ และกร หนุ่มที่แอบชอบเธอ เขาอาจจะรู้เรื่องราวบางอย่างเกี่ยวกับหอพักต้อม และอาจจะเกี่ยวข้องกับ “นา” ด้วย

ในขณะเดียวกัน พิมก็ไปวัดตามคำแนะนำของพี่นัท พระอาจารย์ท่านหนึ่งรับเหรียญพระแตกครึ่งไปดู หลังจากตรวจสอบอย่างละเอียด ท่านบอกว่า "เหรียญนี้เป็นเหรียญเก่า  มีพลังงานบางอย่างติดอยู่ แต่ไม่ใช่พลังงานร้าย เหมือนเป็นการเตือนภัยมากกว่า" ท่านแนะนำให้พิมสวดมนต์และทำบุญ เพื่อเสริมสร้างกำลังใจและป้องกันสิ่งไม่ดี

พิมกลับมาที่ห้อง เธอนั่งสวดมนต์ และคิดทบทวนเรื่องราวทั้งหมด  เธอเริ่มเชื่อว่า “นา” อาจจะเป็นผู้หญิงที่เคยอาศัยอยู่ในหอพักต้อม  และอาจจะประสบกับเหตุการณ์เลวร้าย เหรียญพระแตกครึ่งอาจจะเป็นของ “นา” และเป็นสัญญาณเตือนภัยให้พิม

วันต่อมา พี่นัทโทรมาหาพิม "ฉันได้ข้อมูลเพิ่มเติมแล้ว เจ้าของหอพักมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ และ “นา” ก็เป็นหนึ่งในเหยื่อ เธอหายตัวไปอย่างลึกลับ  ฉันจะส่งข้อมูลให้ตำรวจ และจะช่วยพิมติดตามความคืบหน้าต่อไป"

พิมโล่งใจ  แต่ก็ยังรู้สึกหวาดหวั่น เธอรู้ว่า เงาแห่งความสงสัยยังคงอยู่ แต่เธอก็มีกำลังใจที่จะเผชิญหน้ากับมัน ด้วยความช่วยเหลือจากพี่นัท  และด้วยความเชื่อในความดี  เธอจะสู้ต่อไป  เพื่อหาความจริง และเพื่อให้ความยุติธรรมกับ “นา” และผู้หญิงอื่นๆที่อาจจะตกเป็นเหยื่อ

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!