เเละนี้คือสิ่งมีชีวิตที่ใด้โผลมาใน Heartbeat In The Ruins ที่ทุกๆจะใด้พบเจอโดยจะเเบ่งเป็น เหล่าสัตว์ประหลาดโดยไม่เกี่ยวกับเหล่าหุ่นยนต์โดยมีองค์กรATOMIX ที่อยู่ในซีกโลกทางตอนกลางซึ่งเป็น1ใน13องค์กรเเละสร้างสิ่งต่างๆบังหน้า

โดยประเภทที่ถูกผลิตโดยองค์กรATOMIXมี3ชนิดเเละเเต่ละชนิดมี3ประเภทใด้เเก่

มิวแทน (Mutants)

มิวแทนเป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกแปลงพันธุกรรมและเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางชีวภาพอย่างรุนแรงจนเกิดการผิดปกติจากมนุษย์ธรรมดา พวกมันเป็นสัตว์ประหลาดที่มีรูปร่างไม่คงที่และสามารถพัฒนาไปได้หลากหลายรูปแบบ

Mutatus Metamorphica: มิวแทนชนิดนี้มีร่างกายที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามสิ่งที่มันสัมผัส เช่น เมื่อมันอยู่ในที่มืดจะสามารถขยายตัวหรือยืดหยุ่นจนกลายเป็นเงา หรือเปลี่ยนโครงสร้างไปเป็นรูปร่างที่คล้ายกับสัตว์ต่างๆ

Mutatus Carnivora: เป็นมิวแทนที่มีพลังในการล่าและฆ่าอย่างรุนแรง มันมีกรามที่แข็งแรงเหมือนสัตว์กินเนื้อและสามารถใช้กรงเล็บยาวได้ดี มีความเร็วและความคล่องตัวสูง

Mutatus Gigas: มิวแทนขนาดยักษ์ที่มีการเจริญเติบโตผิดปกติ สามารถพัฒนาเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีขนาดใหญ่เกินมนุษย์จนเป็นภัยคุกคามด้านความสามารถในการทำลายล้าง

ไอโอไททัน (IO Titans)

ไอโอไททันถูกสร้างขึ้นจากการผสมผสานของเทคโนโลยีและสิ่งมีชีวิตเชิงกลเพื่อสร้างสิ่งมีชีวิตที่มีพลังมหาศาล พวกมันถูกใช้เป็นเครื่องมือรบและมีสมรรถนะที่เหนือมนุษย์

Titanus Ironclad: ไอโอไททันชนิดนี้มีโครงสร้างเหล็กที่หนาแน่นและแข็งแกร่ง พวกมันสามารถทนทานต่อการโจมตีอย่างหนักหน่วงได้ รวมถึงพลังการโจมตีที่สามารถทำลายเป้าหมายได้ในครั้งเดียว

Titanus Swiftstrike: แม้ว่าจะมีลักษณะเป็นเครื่องจักร แต่ไอโอไททันชนิดนี้ได้รับการออกแบบให้มีความคล่องตัวสูงสุด พวกมันสามารถเคลื่อนที่ได้รวดเร็วและโจมตีอย่างแม่นยำ โดยใช้ขาเหมือนสัตว์เพื่อการเคลื่อนไหว

Titanus Leviathan: ไอโอไททันขนาดยักษ์ที่มีพลังมหาศาลและสามารถใช้ร่างกายที่ใหญ่และหนักอึ้งของมันในการโจมตีได้ มันถูกใช้ในกรณีที่ต้องการทำลายล้างพื้นที่ขนาดใหญ่ เช่น การโจมตีฐานทัพ

คลอวเลอร์ (Crawlers)

คลอวเลอร์คือสิ่งมีชีวิตที่ถูกดัดแปลงให้สามารถพัฒนาความสามารถในการคลานและหลบซ่อนตัวได้ดีมาก พวกมันมักถูกใช้ในภารกิจลับหรือสอดแนมโดยองค์กร ATOMIX

Crawlorus Infiltrator: คลอวเลอร์ชนิดนี้มีความสามารถในการแฝงตัวและหลบซ่อนในสภาพแวดล้อมต่างๆ โดยการปรับรูปร่างให้เหมาะสมกับการซ่อนตัว พวกมันมีความเร็วในการเคลื่อนที่อย่างเงียบเชียบและมักถูกใช้ในการลอบสังหาร

Crawlorus Ferox: คลอวเลอร์ประเภทนี้ถูกพัฒนามาให้มีความดุร้ายและทนทานต่อการบาดเจ็บ มีกรงเล็บและฟันที่แข็งแรงสามารถใช้ในการโจมตีได้อย่างมีประสิทธิภาพ พวกมันสามารถเอาตัวรอดในสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นมิตรได้ดี

Crawlorus Mutagen: เป็นคลอวเลอร์ที่มีการดัดแปลงเพิ่มเติมด้วยการเพิ่มลักษณะพิเศษจากการทดลองไวรัส ทำให้มันสามารถทนทานต่อสิ่งแวดล้อมที่อันตราย รวมถึงสามารถแพร่พันธุ์หรือสร้างการเปลี่ยนแปลงทางชีวภาพได้

แต่ละชนิดนี้ถูกทดลองเพื่อการใช้ในภารกิจต่างๆ ทั้งการรบและการสอดแนมในโลกที่หลังการล่มสลายสุดโหด

ประวัติองค์กร ATOMIX

องค์กร ATOMIX ก่อตั้งขึ้นในปี 3044โดยกลุ่มวิศวกรและนักวิทยาศาสตร์จากทั่วโลก ที่รวมตัวกันเพื่อสร้างระบบพลังงานที่ยั่งยืนและสามารถพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงที่มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงโลกไปในทางที่ดีขึ้น โดยมีเป้าหมายหลักคือการพัฒนา พลังงานนิวเคลียร์และพลังงานจากแหล่งทรัพยากรทางเลือกอื่น เพื่อให้สามารถรองรับความต้องการของมนุษยชาติที่เพิ่มขึ้นในอนาคต

ก่อนเหตุนิวเคลียร์: ก้าวย่างของ ATOMIX

ATOMIX ตั้งแต่เริ่มแรกเริ่มพัฒนาเทคโนโลยีที่มีความซับซ้อน โดยเฉพาะในด้าน การสร้างอาวุธนิวเคลียร์แบบพิเศษ และ การวิจัยพลังงานจากนิวเคลียร์ฟิวชัน ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากรัฐบาลของหลายประเทศที่หวังว่าจะใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ในการเสริมกำลังทหารและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของตนให้ก้าวหน้าขึ้น แต่ในขณะเดียวกันองค์กรก็เริ่มสะสมพลังอำนาจและอิทธิพลในเงามืด โดยเริ่มขยายธุรกิจในหลายภาคส่วนที่สำคัญเช่น:

อุตสาหกรรมอาวุธ - ATOMIX กลายเป็นผู้ผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์นิวเคลียร์ที่ใช้ทั้งในทางทหารและเชิงพาณิชย์ รวมถึงการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยี หุ่นยนต์สงคราม ที่มีความสามารถในการปฏิบัติการในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง

พลังงานและทรัพยากร - การพัฒนาระบบฟิวชันแบบใหม่ที่สามารถให้พลังงานในระดับมหาศาล ทำให้ ATOMIX กลายเป็นเจ้าของแหล่งพลังงานสำคัญที่ควบคุมการจ่ายพลังงานในหลายภูมิภาค การควบคุมนี้ทำให้พวกเขามีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจโลก

เทคโนโลยีชีวภาพและวิศวกรรมพันธุกรรม - ATOMIX ได้ลงทุนอย่างหนักในการพัฒนา เทคโนโลยีชีวภาพ เพื่อสร้างสายพันธุ์มนุษย์และสัตว์ที่สามารถทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย โดยเฉพาะในด้านการปรับปรุงการใช้พลังงานในเซลล์และการสร้างหุ่นยนต์ที่สามารถทำหน้าที่แทนมนุษย์ในภารกิจเสี่ยงอันตราย

ระบบควบคุมโลกและการเมือง - ATOMIX ยังมีการแทรกแซงทางการเมืองของประเทศต่างๆ ผ่านการสนับสนุนทางการเงินและทรัพยากร ทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อให้สามารถควบคุมการตัดสินใจในระดับสากลได้

แม้ว่าองค์กร ATOMIX จะได้รับการยกย่องในแง่ของนวัตกรรมและความสำเร็จในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ แต่การขยายตัวของพวกเขาก็มีเบื้องหลังที่มืดมน ทั้งในแง่ของการล่วงละเมิดสิทธิของมนุษย์ การใช้ทรัพยากรทางธรรมชาติอย่างไม่ยั้งคิด และการบังคับใช้อำนาจในทางที่ไม่เหมาะสม

เหตุนิวเคลียร์และการล่มสลาย

ในปี 2078 โลกตกอยู่ในวิกฤตหนักจากการที่ ATOMIX ได้ตัดสินใจใช้ อาวุธนิวเคลียร์ขั้นสูง เพื่อข่มขู่และทำลายล้างศัตรูทางการเมืองที่คัดค้านอำนาจขององค์กร ในที่สุด สงครามนิวเคลียร์ ก็ระเบิดขึ้น ระหว่างการแย่งชิงทรัพยากรที่มีค่าระหว่างประเทศต่างๆ และการใช้อาวุธนิวเคลียร์ที่มีความรุนแรงสูง ซึ่งทำลายล้างผิวโลกจนกลายเป็น ทะเลทรายแห้งแล้ง ที่ไม่สามารถอาศัยชีวิตได้เหมือนเดิม

การล่มสลายของโลกเกิดจากการ ระเบิดนิวเคลียร์จำนวนมาก ที่มีพลังทำลายล้างสูง ซึ่งไม่เพียงแต่ทำลายเมืองและชีวิตมนุษย์จำนวนมหาศาล แต่ยังทำให้ระบบนิเวศทั่วโลกเสียหายอย่างถาวร และทำให้บรรยากาศโลกเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง สภาพแวดล้อมที่เคยเป็นที่อยู่อาศัยสำหรับสิ่งมีชีวิตต่างๆ กลับกลายเป็น ทะเลทรายที่แห้งแล้ง ซึ่งทำให้ทรัพยากรธรรมชาติหมดสิ้นไป

ในระหว่างที่โลกล่มสลาย ATOMIX เองก็สูญเสียอำนาจและตำแหน่งที่เคยมี เพราะการที่พวกเขาถูกตัดขาดจากระบบพลังงานหลักและทรัพยากรสำคัญ การบูรณะหรือการปรับตัวขององค์กรกลายเป็นสิ่งที่ยากลำบาก ท่ามกลางความวุ่นวายและการพยายามเอาชีวิตรอดของผู้คนใน เมือง Eden of Life ที่เคยเป็นที่หลบภัยสำหรับบางกลุ่มมนุษย์

หลังเหตุนิวเคลียร์: การพยายามกลับมาของ ATOMIX

ในช่วงหลังเหตุการณ์นิวเคลียร์ ATOMIX พยายามที่จะกลับมาเป็นองค์กรที่มีอิทธิพลอีกครั้ง โดยการสร้างเทคโนโลยีที่สามารถช่วยให้มนุษย์ยังคงสามารถอยู่รอดได้ในโลกที่พังทลายไปแล้ว พวกเขาพัฒนา หุ่นยนต์ Proto-01-ns ที่มีความสามารถในการปรับตัวและทำงานในสภาพแวดล้อมที่ยากลำบาก รวมถึงการพัฒนา เทคโนโลยีชีวภาพ ที่สามารถสร้างชีวิตใหม่จากเทคโนโลยีพันธุกรรม

แม้การกลับมาของ ATOMIX จะดูเหมือนจะพยายามสร้างความรุ่งเรืองใหม่ให้กับโลกที่ล่มสลาย แต่ความจริงแล้วพวกเขายังคงดำเนินการในวิถีทางเดิมที่ เน้นการแสวงหาผลประโยชน์จากการควบคุมทรัพยากร และ การสร้างอำนาจผ่านเทคโนโลยีที่พวกเขาครอบครอง โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับสิ่งมีชีวิตที่เหลืออยู่ในโลกนี้

ความเจริญที่ดำมืด

แม้จะมีการพัฒนาเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าและสร้างสรรค์ แต่ความเจริญที่ ATOMIX สร้างขึ้นกลับมีรากฐานจาก การทำลายล้าง และ การใช้ประโยชน์จากความทุกข์ของผู้อื่น การที่พวกเขาพยายามควบคุมการเข้าถึงทรัพยากรและเทคโนโลยี ทำให้โลกที่พวกเขาก่อสร้างขึ้นเป็นที่เต็มไปด้วย ความยากจน และ การต่อสู้เพื่อเอาตัวรอด โดยเฉพาะกับพวกที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งขององค์กร

ท้ายที่สุด โลกที่ ATOMIX พยายามสร้างขึ้นกลายเป็น ทะเลทรายที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง และ การแย่งชิงทรัพยากร ซึ่งเป็นโลกที่ทุกคนต้องต่อสู้เพื่อความอยู่รอดและไม่สามารถหาความสงบสุขได้อีกต่อไป

เเละนี้คือรายชื่อจองเหล่าผู้ก่อตั้ง ATOMIX

เหล่าผู้ก่อตั้งองค์กร ATOMIX (ทั้ง 15 คน)

ดร. วิลเลียม ฮาร์คเนส (Dr. William Harkness) - หัวหน้าผู้ก่อตั้ง, นักวิทยาศาสตร์ด้านนิวเคลียร์

ดร. เอมิลีย์ คาร์ทาร์ (Dr. Emily Carter) - ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานฟิวชัน

โรเจอร์ ฟิสเคล (Roger Fiskel) - นักวิจัยด้านชีววิทยาและพันธุกรรม

ทอม คาร์ลตัน (Tom Carlton) - วิศวกรระบบพลังงาน

เซลีน่า เกรย์ (Selina Gray) - นักวิจัยทางการทหาร

ดร. อัลเบิร์ต ลอยด์ (Dr. Albert Lloyd) - นักวิจัยด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์สงคราม

ลูเซีย สไตน์ (Lucia Stein) - นักเศรษฐศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญการควบคุมทรัพยากร

แอนโธนี เรย์ (Anthony Ray) - วิศวกรคอมพิวเตอร์และระบบควบคุม

แคทเธอรีน ฮิวส์ (Catherine Hughes) - นักวิจัยด้านสังคมวิทยาและปรัชญาการปกครอง

เดวิด คิม (David Kim) - นักวิจัยด้านพันธุกรรมมนุษย์

เบ็นจามิน ฮาร์วีย์ (Benjamin Harvey) - นักเทคโนโลยีชีวภาพ

วิกเตอร์ แพน (Victor Pan) - นักวิทยาศาสตร์ด้านวิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์

ลิลิธ ฟอร์ด (Lilith Ford) - ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมข้อมูล

มาร์คัส ฮอลล์ (Marcus Hall) - ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมอาวุธนิวเคลียร์

อันนา อัลฟอร์ด (Anna Alford) - นักวิจัยด้านหุ่นยนต์และระบบฟิวชัน

________________________________________________

ผลลัพธ์การตรวจสอบสถานะปัจจุบัน

ดร. วิลเลียม ฮาร์คเนส - สูญหาย: ติดอยู่ในพื้นที่ที่ถูกทำลายหลังสงครามนิวเคลียร์ในเมืองเก่า

ดร. เอมิลีย์ คาร์ทาร์ - กลายพันธุ์เป็น มิวเเทน: กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีกล้ามเนื้อและพลังมหาศาลแต่สูญเสียความเป็นมนุษย์

โรเจอร์ ฟิสเคล - ตาย: เสียชีวิตจากการระเบิดของพลังงานฟิวชันที่ไม่สามารถควบคุมได้

ทอม คาร์ลตัน - สูญหาย: หายตัวไปหลังเหตุการณ์นิวเคลียร์ ไม่พบร่าง

เซลีน่า เกรย์ - ตาย: เสียชีวิตจากการโจมตีของศัตรูในช่วงสงคราม

ดร. อัลเบิร์ต ลอยด์ - กลายพันธุ์เป็น ไอโอไททัน: ได้รับผลกระทบจากการทดลองทำให้กลายเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดมหึมา

ลูเซีย สไตน์ - ตาย: เสียชีวิตจากการระเบิดของห้องปฏิบัติการที่ถูกโจมตี

แอนโธนี เรย์ - ตาย: ตายในเหตุการณ์ระเบิดรุนแรงที่ทำลายห้องคอมพิวเตอร์หลัก

แคทเธอรีน ฮิวส์ - กลายพันธุ์เป็น คลอวเลอร์: กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและปรับตัวได้ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม

เดวิด คิม - ตาย: ถูกฆ่าตายในระหว่างการเดินทางเพื่อหาทรัพยากร

เบ็นจามิน ฮาร์วีย์ - กลายพันธุ์เป็น มิวเเทน: การทดลองของเขานำไปสู่การเปลี่ยนแปลงร่างกายจนกลายเป็นมิวเเทน

วิกเตอร์ แพน - สูญหาย: ไม่พบตัวหลังจากการล่มสลายของสถานีวิจัย

ลิลิธ ฟอร์ด - ตาย: เสียชีวิตจากการถูกบุกโจมตีจากกลุ่มผู้ล่าทรัพยากร

มาร์คัส ฮอลล์ - กลายพันธุ์เป็น ไอโอไททัน: ร่างกายได้รับผลกระทบจากการถูกพลังงานนิวเคลียร์ซัดเข้าอย่างรุนแรง

อันนา อัลฟอร์ด - ตาย: เสียชีวิตจากภาวะขาดอาหารและน้ำหลังจากหายตัวไปในพื้นที่วิกฤต

ดร. วิลเลียม อ. ฮาร์คเนส (Dr. William A. Harkness) – ผู้ก่อตั้งองค์กร ATOMIX

ข้อมูลพื้นฐาน

ชื่อเต็ม: ดร. วิลเลียม อเล็กซานเดอร์ ฮาร์คเนส (Dr. William Alexander Harkness)

เพศ:ชาย

วันเกิด: 12 ตุลาคม 2992

สัญชาติ: อเมริกัน (ก่อนการล่มสลายของโลก)

อาชีพ: นักวิทยาศาสตร์ด้านนาโนเทคโนโลยีและชีวกลศาสตร์เเละนิวเคลียร์

องค์กรที่ก่อตั้ง: ATOMIX

สถานะ: หายสาบสูญ

ภูมิหลัง

ดร. วิลเลียม ฮาร์คเนส เคยเป็นหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของโลกก่อนที่อารยธรรมจะล่มสลายในช่วงปี 3050 เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนาโนเทคโนโลยีและชีวกลศาสตร์ ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง "NeoGenesis Corp" เพื่อพัฒนาโครงการฟื้นฟูมนุษยชาติผ่านการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีและชีววิทยา

เป้าหมายของเขาคือการสร้างสิ่งที่เรียกว่า "Neo-Human" หรือมนุษย์รุ่นใหม่ที่สามารถทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายและมีศักยภาพเหนือกว่ามนุษย์ธรรมดา แต่โครงการนี้กลับถูกกองทัพเข้าครอบครองและบิดเบือนให้กลายเป็นอาวุธชีวภาพ

หลังจากเหตุการณ์ "The Great Collapse" ซึ่งทำให้โลกตกอยู่ในสภาพที่ล่มสลาย ฮาร์คเนสได้ก่อตั้งองค์กร ATOMIX เพื่อพยายามควบคุมเทคโนโลยีที่เขาสร้างขึ้นและหาทางกอบกู้มนุษยชาติ ทว่า องค์กรของเขากลับถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่ง—ฝั่งที่ต้องการใช้เทคโนโลยีเพื่อการฟื้นฟู และฝั่งที่ต้องการใช้อาวุธนาโนเทคเพื่อครอบครองโลก

ATOMIX และการหายตัวไปของฮาร์คเนส

ในช่วงปี 3065 ดร. ฮาร์คเนส ได้เริ่มพัฒนาโครงการสุดท้ายของเขา "Project EVE" ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างหุ่นยนต์ที่สามารถตั้งครรภ์และให้กำเนิดมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ได้ นั่นนำไปสู่การพัฒนา Proto-01-ns หรือ "อีวา"

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่โครงการจะเสร็จสิ้น ฮาร์คเนสก็หายตัวไปอย่างลึกลับ มีข่าวลือว่าเขาถูกลอบสังหารโดยฝ่ายต่อต้านภายใน ATOMIX หรืออาจหลบซ่อนตัวเพื่อปกป้องความลับของ Project EVE

มรดกและผลกระทบต่อโลกในปี 3077

แม้ว่าตัวเขาจะหายไป แต่เทคโนโลยีที่เขาสร้างขึ้นยังคงส่งผลกระทบต่อโลกที่ล่มสลาย

Proto-01-ns (อีวา) คือผลงานชิ้นเอกของเขา และอาจเป็นกุญแจสำคัญในการชุบชีวิตมนุษยชาติ

นาโนเทคโนโลยีของ ATOMIX ยังคงถูกใช้โดยกลุ่มต่าง ๆ ทั้งเพื่อการฟื้นฟูและการทำลายล้าง

กลุ่มที่เหลือของ ATOMIX ยังคงมีอิทธิพล โดยบางส่วนยังคงค้นหาตัวฮาร์คเนส

หากเขายังมีชีวิตอยู่ ดร. วิลเลียม ฮาร์คเนส อาจเป็นกุญแจสำคัญในการไขปริศนาของโลกใบนี้..?