NovelToon NovelToon

รักใส ๆ ในวันวาน

ความรักของฉันในวัยประถม

หอมเเก้ม

หลายปีต่อมา เมื่อเอ็มโตขึ้นและย้อนกลับไปคิดถึงเหตุการณ์ในวันนั้น เขาหัวเราะให้กับความไร้เดียงสาของตัวเอง มันเป็นครั้งแรกที่หัวใจของเขาได้เรียนรู้ว่า… รัก ไม่ใช่สิ่งที่เราจะมอบให้ใครโดยไม่คิดถึงใจของอีกฝ่าย และความรักไม่ใช่สิ่งที่เราจะเลียนแบบจากละครได้ทุกครั้งเสมอไป

ณ โรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง ในยุคที่โทรทัศน์ยังเป็นสิ่งบันเทิงหลักสำหรับเด็ก ๆ ทุกคน "เอ็ม" เด็กชายตัวเล็กที่มีรอยยิ้มซุกซนและหัวใจดวงน้อยที่เพิ่งเริ่มเรียนรู้ความรู้สึกแปลกใหม่ เขาแอบชอบ "มิ้น" เด็กหญิงที่มักจะวิ่งเล่นและแบ่งของเล่นกับเขาเสมอ

เอ็มกับมิ้นรู้จักกันตั้งแต่วันแรกที่เข้าโรงเรียน เด็กชายมักจะเป็นคนเริ่มชวนเธอเล่นเกมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นวิ่งไล่จับ กระโดดเชือก หรือแม้แต่ช่วยกันสร้างบ้านเล็ก ๆ จากก้อนอิฐหลังโรงเรียน เวลาที่มิ้นหัวเราะ เอ็มจะรู้สึกเหมือนเสียงของเธอเป็นเสียงที่สดใสที่สุดในโลกใบนี้

แม้ว่าเขาจะยังเด็ก แต่เอ็มรู้ดีว่าเขาชอบมิ้นมาก เขาชอบเวลาที่เธอยิ้มให้เขา ชอบเวลาที่เธอแบ่งขนมให้ แม้ว่าบางครั้งมันจะเป็นเพียงลูกอมเม็ดเดียวก็ตาม

ทุกวันหลังเลิกเรียน เด็ก ๆ จะนั่งเรียงแถวกันก่อนกลับบ้าน เสียงเจื้อยแจ้วของคุณครูดังแทรกขึ้นมาท่ามกลางเสียงหัวเราะคิกคักของเพื่อน ๆ เอ็มเหลือบมองมิ้นที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เขามองเธอด้วยสายตาที่ไร้เดียงสาและเต็มไปด้วยความรู้สึกพิเศษ

ในละครโทรทัศน์ที่เขาเคยดู พระเอกมักจะหอมแก้มนางเอกเสมอเมื่อรู้สึกดีใจหรือรักใครสักคน นั่นคงเป็นวิธีที่จะแสดงออกถึงความรู้สึกใช่ไหม? เด็กชายคิดเช่นนั้นโดยไม่ลังเล เขาค่อย ๆ โน้มตัวเข้าไปใกล้ ก่อนจะกดจมูกลงบนแก้มของมิ้นอย่างรวดเร็ว

เพี๊ยะ!

เสียงฝ่ามือกระทบแก้มของเอ็มดังขึ้นทั่วห้อง เขาสะดุ้งเฮือก หันไปมองมิ้นที่ตอนนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกใจและแก้มของเขาก็เริ่มร้อนผ่าวขึ้นมาจากรอยนิ้วมือของเธอ

เพื่อน ๆ ที่เห็นเหตุการณ์ต่างหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน บางคนแซว บางคนอ้าปากค้าง ขณะที่เอ็มได้แต่นั่งจับแก้มตัวเอง นี่มันไม่เหมือนในละครเลยสักนิด!

มิ้นเม้มปากแน่น หน้าแดงด้วยความอาย ก่อนจะหันไปมองทางอื่นโดยไม่พูดอะไร เอ็มเองก็ไม่กล้าจะสบตาเธออีก

วันต่อมา มิ้นยังคงเงียบใส่เอ็มเล็กน้อย แต่ไม่นานก็กลับมาคุยและเล่นกันเหมือนเดิม ราวกับว่าเหตุการณ์เมื่อวานไม่เคยเกิดขึ้น ทว่าในใจของเอ็ม มันกลับกลายเป็นความทรงจำที่เขาไม่มีวันลืม

หลายปีต่อมา เมื่อเอ็มโตขึ้นและย้อนกลับไปคิดถึงเหตุการณ์ในวันนั้น เขาหัวเราะให้กับความไร้เดียงสาของตัวเอง มันเป็นครั้งแรกที่หัวใจของเขาได้เรียนรู้ว่า… รัก ไม่ใช่สิ่งที่เราจะมอบให้ใครโดยไม่คิดถึงใจของอีกฝ่าย และความรักไม่ใช่สิ่งที่เราจะเลียนแบบจากละครได้ทุกครั้งเสมอไป

ใกล้ชิดเกินไปเเล้ว

เมื่อเอ็มขึ้นชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เขาก็แอบชอบเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งในห้อง แม้ว่าเขาจะไม่เคยบอกความรู้สึกกับใคร แต่ในใจของเขาแอบเฝ้ามองและรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้เธอ

เย็นวันหนึ่ง ขณะที่กำลังเตรียมตัวกลับบ้าน เอ็มขึ้นรถสองแถวประจำทางที่แน่นขนัดจนไม่มีที่นั่ง เขาจึงต้องยืนจับราวไว้แน่น แต่แล้วโชคชะตาก็เล่นตลกกับหัวใจของเด็กชายอีกครั้ง

เด็กหญิงที่เขาแอบชอบก้าวขึ้นมาบนรถและมายืนอยู่ข้างหลังเขาพอดี เอ็มรู้สึกหัวใจเต้นแรงขึ้นมาทันที เขาไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่เขาแอบชอบจะมายืนใกล้ขนาดนี้

รถสองแถวเคลื่อนตัวไปตามถนน ขณะที่เอ็มพยายามควบคุมตัวเองให้เป็นปกติ แต่แล้วคนขับกลับเบรกรถกะทันหัน ส่งผลให้เด็กหญิงคนนั้นเซเสียหลัก และในชั่วพริบตา เธอก็ล้มมากอดเขาแนบแน่น

โลกของเอ็มเหมือนหยุดนิ่งไปชั่วขณะ หัวใจของเขาเต้นรัวจนแทบจะหลุดออกจากอก เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าใครที่เขาแอบชอบจะมาอยู่ใกล้ชิดเขาขนาดนี้

เธอเงยหน้าขึ้นมามองเขาด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความตกใจ เอ็มเองก็ไม่กล้าสบตาเธอตรง ๆ เพียงแค่ความอบอุ่นของร่างกายที่สัมผัสกันเพียงเสี้ยววินาทีกลับทำให้เขารู้สึกเหมือนเวลาหยุดลง

“ขะ...ขอโทษนะ” เด็กหญิงพูดเสียงเบา ก่อนจะรีบถอยหลังไปจับราวแน่น

เอ็มพยักหน้าอย่างเงียบ ๆ แม้ว่าหัวใจของเขาจะยังเต้นแรงอยู่ก็ตาม ภายในใจเขานึกดีใจที่อย่างน้อยเธอก็ยังพูดกับเขา

หลังจากวันนั้น ทุกครั้งที่เจอเธอในห้องเรียน เอ็มสังเกตว่าเธอเริ่มมองเขาเป็นบางครั้ง แม้จะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ แต่เขาก็อดยิ้มไม่ได้ เขาไม่แน่ใจว่าเธอจำเหตุการณ์วันนั้นได้หรือไม่ แต่สำหรับเขา มันเป็นความทรงจำที่ตราตรึงอยู่ในใจไปอีกนาน

มันอาจจะเป็นเพียงเรื่องเล็ก ๆ ในวัยเด็ก แต่สำหรับเอ็ม มันคือช่วงเวลาที่ทำให้เขาเข้าใจว่า… บางครั้ง ความใกล้ชิดที่ไม่ได้คาดคิด ก็อาจทำให้หัวใจของเราเต้นแรงได้อย่างไม่น่าเชื่อ

เกมสารภาพรัก

แสงไฟในห้อง ป.3 สาดส่องเป็นวงแคบ ๆ กลุ่มเพื่อนสนิทของเอ็มกำลังล้อมวงอยู่บนพื้นไม้ในห้อง กลางวงมีเอ็มนอนหงายหลับตาพริ้มตามคำท้าทายของเพื่อน ๆ

"เอาล่ะ ๆ เงียบ ๆ หน่อย" เสียงของเต้ยดังขึ้น เต้ยเป็นเพื่อนสนิทของเอ็มตั้งแต่สมัยมัธยมต้น เป็นคนริเริ่มเกมนี้ขึ้นมา

"เอ็ม ๆ หลับตาแน่น ๆ นะ ห้ามแอบดูเด็ดขาด" เต้ยย้ำอีกครั้ง

"เออ ๆ หลับแล้ว ๆ ถามมาเลย" เอ็มตอบกลับเสียงยานคาง ดวงตายังคงปิดสนิท

"เอ็ม ๆ มีแฟนยังเนี่ย" เสียงกระเซ้าของป่านดังขึ้น ป่านเป็นเพื่อนสาวคนเดียวในกลุ่ม

"ยังไม่มีโว้ย ถามได้" เอ็มตอบกลับทันที เสียงหัวเราะคิกคักดังขึ้นเบา ๆ

"แล้ว ๆ แอบชอบใครอยู่ป่ะเนี่ย" เต้ยถามต่อ

"มี ๆ" เอ็มตอบเสียงเขินอายเล็กน้อย

"ใครวะ ๆ บอกมาเลย" เสียงเพื่อน ๆ เริ่มดังขึ้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น

"บอกไม่ได้ว่ะ" เอ็มตอบเสียงอ้อมแอ้ม

"บอกใบ้ก็ได้ ๆ บอกอักษรย่อมา" ต้นเสนอขึ้นมา ต้นเป็นเพื่อนที่ฉลาดที่สุดในกลุ่ม

"ด.เด็ก" เอ็มตอบเสียงเบา

ทันทีที่ได้ยินคำตอบ ทุกคนในวงต่างส่งเสียงฮือฮาพร้อมกัน ดวงตาของเพื่อน ๆ เป็นประกายด้วยความตื่นเต้น

"ด.เด็ก! ดิวเหรอวะ!" เสียงของเก่งดังขึ้น เก่งเป็นเพื่อนที่รู้เรื่องของทุกคนในกลุ่มมากที่สุด

"เออ ๆ ใช่ ๆ" เอ็มตอบเสียงเขินอาย ใบหน้าเริ่มแดงก่ำ

"โอ้โห เอ็มเอ๊ย แอบชอบดิวตั้งแต่ป.2 เลยเหรอวะเนี่ย" จิมมี่แซวขึ้นมา จิมมี่เป็นเพื่อนที่ตลกที่สุดในกลุ่ม

"เออ ๆ ก็มันน่ารักนี่หว่า" เอ็มตอบเสียงอ้อมแอ้ม ยิ้มเขิน ๆ

"แล้วทำไมไม่บอกดิวไปเลยวะ" ป่านถามขึ้นมา

"ไม่กล้าว่ะ" เอ็มตอบเสียงแผ่ว

"ไอ้ขี้ขลาดเอ๊ย" เต้ยแซว

"เอาน่า ๆ เอ็มมันขี้อาย" ต้นพูดขึ้นมา

"แต่ดิวก็โสดนะเว้ย" เก่งเสริม

"จริงดิ!" เอ็มถามเสียงดัง ดวงตาเบิกกว้าง

"เออ ๆ จริงดิ" เก่งยืนยัน

"งั้นพรุ่งนี้กูไปบอกดิวเลยดีกว่า" เอ็มพูดขึ้นมาด้วยความมั่นใจ

เสียงเชียร์ดังกระหึ่มไปทั่วห้อง เอ็มลุกขึ้นนั่งด้วยความตื่นเต้น ใบหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอายและดีใจ เพื่อน ๆ ต่างพากันให้กำลังใจเอ็ม เอ็มยิ้มกว้างอย่างมีความสุข คืนนี้เป็นคืนที่เอ็มมีความสุขที่สุดในรอบหลายปี

อกหักครั้งเเรก

เช้าวันรุ่งขึ้น เอ็มตัดสินใจรวบรวมความกล้า เดินไปหาดิวที่สวนสาธารณะใกล้บ้าน ดิวผู้หญิงที่เอ็มแอบชอบมาตั้งแต่ป.2 กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่

"ดิว..." เอ็มเรียกชื่อดิวเสียงแผ่ว

ดิวเงยหน้าขึ้นมองเอ็มด้วยรอยยิ้ม

"เอ็ม มีอะไรเหรอ" ดิวถาม

เอ็มสูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะพูดออกไป

"ดิว...คือ...เราชอบเธอนะ"

ดวงตาของดิวเบิกกว้างเล็กน้อย เธอเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดออกมา

"เอ็ม...เรา...เราไม่ได้ชอบเอ็มแบบนั้น"

หัวใจของเอ็มราวกับถูกบีบอัด ความรู้สึกเจ็บปวดที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนแผ่ซ่านไปทั่วร่าง

"ไม่เป็นไร..." เอ็มพูดเสียงสั่นเครือ ก่อนจะเดินจากไป

ตลอดทั้งวัน เอ็มเอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้องนอน น้ำตาไหลอาบแก้มไม่หยุด ความรู้สึกผิดหวัง เสียใจ และอับอายถาโถมเข้ามาพร้อมกัน

ตกดึก แม่ของเอ็มเดินเข้ามาในห้อง เห็นลูกชายนอนร้องไห้อยู่บนเตียง

"เอ็มลูก เป็นอะไรไป" แม่ถามด้วยความเป็นห่วง

เอ็มโผเข้ากอดแม่ ร้องไห้สะอื้น

"แม่...ดิว...ดิวไม่ได้ชอบผม" เอ็มเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้แม่ฟัง

แม่ลูบหลังเอ็มเบา ๆ ปลอบโยนลูกชาย

"เอ็มลูก...ลูกยังเด็กนัก โลกนี้ยังมีอะไรให้ลูกค้นหาอีกเยอะ" แม่พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

"แล้วอีกอย่าง...ดิวเขาก็เป็นญาติห่าง ๆ ของเรานะลูก"

เอ็มเงยหน้าขึ้นมองแม่ด้วยความสงสัย

"ญาติเหรอครับ?"

"ใช่จ้ะ...เป็นญาติห่าง ๆ ทางฝั่งคุณยายของลูก"

เอ็มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อย ๆ คลายความเศร้าลง แม่กอดเอ็มไว้แน่น ปล่อยให้ลูกชายได้ระบายความเสียใจออกมาให้หมด

เด็กใหม่

แสงแดดอ่อนๆ ในยามเช้าสาดส่องลงมากระทบใบหน้าของเอ็ม เขาอยู่ในแถวเคารพธงชาติท่ามกลางเพื่อนนักเรียนคนอื่นๆ

วันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรกของชั้น ป.4 เอ็มรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยกับการเริ่มต้นปีการศึกษาใหม่

หลังจากเสร็จสิ้นพิธีเคารพธงชาติ ครูประจำชั้นได้พาเด็กนักเรียนหญิงกลุ่มหนึ่งออกมาแนะนำตัวหน้าเสาธง พวกเธอมีทั้งหมดสี่คน

มีคู่แฝดชื่อ พิงและเพลง และอีกสองคนชื่อ แก้มและออย เอ็มรู้สึกสะดุดตากับแก้มเป็นพิเศษ เธอมีรอยยิ้มที่สดใสและดวงตาที่เป็นประกาย

เมื่อถึงเวลาเข้าเรียน เอ็มพบว่าแก้มอยู่ห้องเดียวกับเขา เขาพยายามทำตัวเป็นปกติ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะแอบมองแก้มอยู่บ่อยๆ ความรู้สึกปลื้มใจค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในใจของเอ็ม

แต่ความทรงจำอันเจ็บปวดจากการบอกรักดิวเมื่อครั้งก่อนยังคงฝังลึกอยู่ในใจของเอ็ม

เขาเริ่มหวาดกลัวที่จะต้องเผชิญกับความผิดหวังอีกครั้ง เอ็มจึงเลือกที่จะเก็บความรู้สึกของตัวเองไว้ ไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกไป

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เอ็มเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เขาในวัยเกือบ 30 ปีนั่งอยู่บนเก้าอี้โยกในสวนหลังบ้าน

มองดูเด็กๆ วิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน ความทรงจำในวัยเด็กไหลย้อนกลับมาในความคิดของเขา

"ตอนนั้นเราคิดอะไรอยู่นะ" เอ็มพึมพำกับตัวเอง "ทำไมเราถึงกลัวขนาดนั้น"

เอ็มหัวเราะเบาๆ ให้กับตัวเองในอดีต เขาเข้าใจแล้วว่าความกลัวทำให้เขาพลาดโอกาสดีๆ ไปมากมาย

"แต่ไม่เป็นไร" เอ็มคิด "เรายังมีเวลาที่จะแก้ไข"

ความรักในวัย 11-12 ปี

ถ่ายหนัก

แสงแดดเจิดจ้าสาดส่องเข้ามาในรถทัวร์คันใหญ่ เอ็มในวัยป.6 กำลังตื่นเต้นกับการทัศนศึกษาไปยังพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำในจังหวัดใกล้เคียง เขาเลือกที่นั่งริมหน้าต่าง และโชคดีที่ข้างๆ เขาเป็นปอ เด็กผู้หญิงที่เขาแอบปลื้มมานาน

"สวัสดีปอ" เอ็มทักทายเสียงเบา

"สวัสดีเอ็ม" ปอตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

บรรยากาศในรถเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยและหัวเราะของเพื่อนๆ แต่เอ็มกลับรู้สึกประหม่าจนพูดอะไรไม่ออก เขาแอบมองปอเป็นระยะๆ รู้สึกเขินอายทุกครั้งที่เธอหันมาสบตา

ระหว่างที่รถวิ่งไปได้สักพัก เอ็มก็เริ่มรู้สึกปวดท้องอย่างรุนแรง เขาขมวดคิ้วแน่น หน้าซีดเผือด

"ปอ...เราขอทางไปเข้าห้องน้ำหน่อย" เอ็มพูดเสียงสั่น

ปอขยับตัวให้เอ็มลุกออกไป เอ็มรีบวิ่งไปที่ห้องน้ำท้ายรถ แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไป เขาก็ต้องชะงัก

"ห้ามถ่ายหนัก" กระดาษแผ่นใหญ่ติดอยู่บนประตูห้องน้ำ

เอ็มกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เขาไม่รู้จะทำอย่างไรดี จึงตัดสินใจกลับไปนั่งที่เดิม อดทนรอจนกว่ารถจะจอดพัก

ตลอดการเดินทาง เอ็มต้องทนทุกข์ทรมานกับอาการปวดท้อง เขาพยายามทำตัวให้เป็นปกติ แต่ก็ไม่สามารถซ่อนสีหน้าอันทรมานไว้ได้

ในที่สุด รถก็จอดพักที่ปั๊มน้ำมัน เอ็มรีบวิ่งลงจากรถ ตรงไปยังห้องน้ำด้วยความเร็วแสง แต่โชคร้ายที่ห้องน้ำเต็มไปด้วยผู้คน เขาต้องต่อแถวอยู่นานกว่าจะได้เข้าไป

เมื่อเข้าไปในห้องน้ำ เอ็มก็ปลดปล่อยทุกอย่างออกมาอย่างสุดกำลัง เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่แล้วเขาก็ต้องตกใจเมื่อพบว่า เขาถ่ายรดกางเกงตัวเอง

"ซวยแล้ว!" เอ็มอุทานเบาๆ เขาพยายามทำความสะอาดตัวเองให้ดีที่สุด แต่ก็ไม่สามารถกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกไปได้หมด

เอ็มเดินกลับขึ้นรถด้วยความอับอาย เขาพยายามนั่งตัวลีบให้มากที่สุด กลัวว่าปอจะได้กลิ่น แต่ปอก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมา

ตลอดการเดินทางกลับ เอ็มรู้สึกอับอายและทรมาน เขาไม่รู้ว่าปอคิดอย่างไรกับเขา แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็เริ่มรู้สึกชอบปอมากขึ้นไปอีก อาจจะเป็นเพราะเธอไม่ได้แสดงท่าทีรังเกียจเขาเลยก็ได้

เมื่อกลับถึงโรงเรียน เอ็มรีบวิ่งกลับบ้าน อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า และนอนซมอยู่บนเตียง เขาคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ และรู้สึกว่ามันเป็นวันที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต

แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงปอ เด็กผู้หญิงที่เขาแอบชอบ และหวังว่าเธอจะไม่ได้คิดอะไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น

กลองสุ่ม

เอ็มรู้สึกใจหายเมื่อรู้ว่าปอมีแฟนแล้ว ความรู้สึกที่ก่อตัวขึ้นค่อยๆ จางหายไป เขาพยายามทำตัวให้เป็นปกติ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้าเล็กน้อย ความผิดหวังครั้งนี้ทำให้เอ็มเริ่มกลัวที่จะรักใครอีก เขาตัดสินใจที่จะโฟกัสกับการเรียนและกิจกรรมต่างๆ

วันหนึ่ง ขณะที่เอ็มกำลังเล่นฟุตบอลกับเพื่อนๆ ลูกบอลก็พุ่งตรงมาที่หน้าของเขาอย่างแรง เอ็มร้องออกมาด้วยความตกใจและอับอาย เขาเอามือปิดหน้า รู้สึกว่าใบหน้าของเขาแดงก่ำ เพื่อนๆ ต่างพากันหัวเราะ แต่แล้วสายตาของเอ็มก็เหลือบไปเห็นปลา เด็กผู้หญิงผมสั้นน่ารักที่ยืนอยู่ข้างสนาม เธอกำลังยิ้มและหัวเราะให้กับความเปิ่นของเขา เอ็มรู้สึกเขินอาย แต่ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มตอบกลับไปเล็กน้อย

ในช่วงพักกลางวัน เอ็มเดินไปซื้อขนมที่ร้านป้าวิน เขาเห็นกล่องสุ่มของเล่นวางอยู่บนเคาน์เตอร์ กล่องละ 10 บาท เอ็มตัดสินใจซื้อมาหนึ่งกล่อง เมื่อแกะกล่องออกดู เขาก็พบว่าข้างในเป็นแหวนวงเล็กๆ สีเงินวาววับ เอ็มนั่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาอยากจะเอาแหวนวงนี้ไปให้ปลา แต่ก็กลัวว่าเธอจะไม่รับมัน กลัวว่าเธอจะหัวเราะเยาะเขาเหมือนที่เพื่อนๆ ทำ

สุดท้ายเอ็มก็ตัดสินใจลุกขึ้นเดินไปหาปลา เขายื่นแหวนให้ปลาด้วยความประหม่า มือสั่นเล็กน้อย

"ปลา...เราให้" เอ็มพูดเสียงเบา

ปลาเงยหน้าขึ้นมองแหวนในมือเอ็ม เธอหยิบมันขึ้นมาดูด้วยความสนใจ

"ขอบคุณนะ" ปลาตอบรับด้วยรอยยิ้ม ดวงตาเป็นประกาย

เอ็มรู้สึกโล่งใจที่ปลาไม่ได้ปฏิเสธเขา แต่แล้วปลาพูดต่อว่า

"อีกไม่นานเราก็คงไม่ได้เจอกันแล้ว"

"ทำไมล่ะ?" เอ็มถามด้วยความสงสัย ใจหายวาบ

"ก็เราต้องไปเรียนต่อที่อื่นแล้วนี่ โรงเรียนนี้มีแค่ชั้นประถม" ปลาตอบ

เอ็มรู้สึกใจหาย เขารู้สึกว่าเพิ่งจะเริ่มรู้จักปลา แต่ก็ต้องจากกันแล้ว เขาไม่รู้ว่าจะได้เจอเธออีกเมื่อไหร่

"แล้ว...แล้วจะไปเรียนที่ไหนเหรอ?" เอ็มถามเสียงแผ่ว

"ยังไม่รู้เลย" ปลาตอบ

เอ็มรู้สึกเศร้า เขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไรอีก ได้แต่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น

"เราไปก่อนนะ" ปลาพูด แล้วเดินจากไป

เอ็มมองตามปลาไปจนลับตา เขาถอนหายใจยาว รู้สึกว่าวันนี้เป็นวันที่เขาต้องเผชิญกับการสูญเสียถึงสองครั้ง ความรักในวัยเด็ก

ซัมเมอร์

ช่วงปิดเทอมฤดูร้อน เอ็มตัดสินใจลงเรียนพิเศษเพื่อเตรียมตัวสอบเข้าโรงเรียนมัธยมชื่อดังประจำจังหวัด บรรยากาศในห้องเรียนเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด เด็กๆ ต่างตั้งใจเรียนกันอย่างจริงจัง แต่ในช่วงพักกลางวัน บรรยากาศก็จะผ่อนคลายลง เด็กๆ จะออกมาวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน

วันหนึ่ง ขณะที่เอ็มกำลังนั่งพักอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ เขาก็รู้สึกถึงมือเล็กๆ มาจับมือเขา เอ็มเงยหน้าขึ้นมองด้วยความตกใจ ก็พบว่าเป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง เธอมีผมยาวสีดำขลับ ดวงตากลมโตเป็นประกาย เธอส่งยิ้มหวานมาให้เอ็ม

"ไปเล่นกันเถอะ" เธอดึงมือเอ็มให้ลุกขึ้น เอ็มรู้สึกเขินอายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หัวใจของเขาเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาจากอก นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้จับมือผู้หญิง

เด็กผู้หญิงคนนั้นพาเอ็มวิ่งไปหลบหลังพุ่มไม้ใหญ่ เป็นจังหวะเดียวกับที่กลุ่มเพื่อนๆ วิ่งไล่จับกันผ่านมา พวกเขาหัวเราะเสียงดัง

"เราชื่อลูกหมีนะ" เธอแนะนำตัวเสียงกระซิบ

"เราเอ็ม" เอ็มตอบเสียงเบา

เพื่อนๆ วิ่งผ่านไป พวกเขาไม่เห็นเอ็มกับลูกหมีที่ซ่อนตัวอยู่

"มานั่งตรงนี้กัน" ลูกหมีชวนเอ็มไปนั่งที่บันไดใกล้ๆ ทั้งสองนั่งคุยกันอย่างออกรส พวกเขาคุยกันเรื่องการ์ตูนเรื่องโปรด เรื่องเกมที่ชอบเล่น และเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย เอ็มรู้สึกว่าเขากำลังมีความสุขอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

จนกระทั่งเพื่อนๆ วิ่งกลับมาเจอ พวกเขาเห็นเอ็มกับลูกหมีนั่งอยู่บนบันได

"โอ้โห มานั่งจู๋จี๋กันตรงนี้เอง" เพื่อนคนหนึ่งแซว เอ็มและลูกหมีหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย แต่ในใจของเอ็มกลับรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก

หลังจากเรียนพิเศษจบ เอ็มก็ตั้งใจอ่านหนังสืออย่างหนัก เพื่อเตรียมตัวสอบเข้าโรงเรียนมัธยมในฝัน เขาทำข้อสอบเก่าๆ ทบทวนบทเรียน และติวกับเพื่อนๆ ในที่สุด วันประกาศผลสอบก็มาถึง เอ็มเดินไปที่บอร์ดประกาศผลด้วยใจเต้นระทึก เขากลัวว่าจะสอบไม่ติด

เขาไล่สายตาอ่านรายชื่อทีละบรรทัด จนกระทั่งพบชื่อของตัวเอง เอ็มยิ้มออกมาด้วยความดีใจ เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่แล้วเขาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นชื่อของปลาอยู่ในรายชื่อผู้สอบผ่านด้วย

"ปลา..." เอ็มพึมพำกับตัวเอง เขาไม่คิดว่าจะได้เรียนที่เดียวกับปลา

เขามองหารายชื่อของลูกหมี แต่ก็ไม่พบ เอ็มรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เขาอยากจะเรียนที่เดียวกับลูกหมี แต่ก็ดีใจที่ได้รู้ว่าเขาจะได้เรียนที่เดียวกับปลา

โรงเรียนใหม่

เมื่อเปิดภาคเรียนใหม่ เอ็มก็พบว่าตัวเองอยู่ในห้อง ม.1/8 ส่วนปลาอยู่ในห้อง ม.1/9 โรงเรียนมัธยมขนาดใหญ่แห่งนี้แบ่งนักเรียนออกเป็น 10 ห้อง แต่ละห้องมีนักเรียนมากถึง 50 คน บรรยากาศในห้องเรียนเต็มไปด้วยความคึกคักและหลากหลาย เอ็มได้พบเพื่อนใหม่ๆ มากมาย แต่ก็ยังคงคิดถึงปลาอยู่เสมอ

ในช่วงเย็น ขณะที่เอ็มกำลังนั่งรถรับส่งกลับบ้าน รถบัสคันใหญ่ได้แวะรับนักเรียนจากโรงเรียนกวดวิชาที่เอ็มเคยเรียนในช่วงซัมเมอร์ เอ็มมองออกไปนอกหน้าต่าง และก็พบกับเพื่อนๆ ที่เคยแซวเขาเรื่องลูกหมี ทั้งสองโบกมือทักทายเอ็มพร้อมกับส่งสายตาขี้เล่น แต่เอ็มกลับไม่เห็นลูกหมีอยู่ที่นั่น เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

ทันใดนั้นเอง สายตาของเอ็มก็เหลือบไปเห็นร่างเล็กๆ คุ้นตาที่ยืนอยู่ริมถนน เธอมีผมยาวสีดำขลับ ดวงตากลมโตเป็นประกาย ลูกหมี!

เอ็มรู้สึกประหลาดใจและดีใจที่ได้เจอเธออีกครั้ง แต่ก็ไม่กล้าที่จะทักทาย เขากลัวว่าเพื่อนๆ จะแซวเขาอีก

รถบัสเคลื่อนตัวออกไป เอ็มมองตามลูกหมีไปจนลับตา เขาถอนหายใจยาว รู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อเอ็มหันกลับมา เขาก็เห็นปลา พริม และเด็กนักเรียนหญิงชั้น ป.4 ที่ขึ้นรถคันเดียวกัน กำลังโบกมือและกระพริบตาให้เขาพร้อมกับพูดว่า "บายๆ นะเอ็ม" พวกเธอเลียนแบบท่าทางของเพื่อนๆ ที่แซวเขาเรื่องลูกหมี เอ็มรู้สึกเขินอายเล็กน้อย แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกดีที่พวกเธอสนใจเขา

รักเเรกในมัธยม

ซบไหล่

ในทุกๆ เย็นหลังเลิกเรียน เอ็มจะไปรวมตัวกับเพื่อนสนิทอีกสามคน คือ บอย โอ และเค ที่หน้าโรงเรียน

พวกเขาเป็นกลุ่มเพื่อนที่ชอบเล่นเกมการ์ดยูกิด้วยกันเป็นชีวิตจิตใจ ระหว่างรอรถตู้รับส่ง พวกเขาก็จะคุยกันเรื่องเกม เรื่องการ์ตูน เรื่องสาวๆ และเรื่องอื่นๆ ที่สนใจ

พวกเขาหัวเราะและแซวกันอย่างสนุกสนาน

เมื่อรถตู้รับส่งมาถึง เอ็มก็จะโบกมือลาเพื่อนๆ ที่ยังไม่ได้กลับบ้าน เขามักจะเลือกนั่งเบาะหลังสุด

เพราะชอบมองวิวทิวทัศน์ข้างทาง และจะได้ไม่ต้องเบียดกับใคร รถตู้คันเล็กมีเบาะยาวสองแถว

ทำให้ทุกคนต้องนั่งชิดกัน และคนที่นั่งข้างๆ เอ็มในวันนี้ก็คือพริม

ไหล่ของเอ็มและพริมแทบจะชิดกัน เอ็มรู้สึกประหม่าเล็กน้อย

แต่ก็แอบดีใจที่ได้นั่งใกล้ชิดกับพริม เขาเริ่มรู้สึกชอบพริมตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เขาแอบมองพริมเป็นระยะๆ แต่ก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไร

วันเวลาผ่านไป เอ็มและพริมสนิทสนมกันมากขึ้น พวกเขาคุยกันถูกคอ และมีอะไรหลายๆ อย่างที่เหมือนกัน

พวกเขาแลกเปลี่ยนเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตประจำวัน แชร์ความฝันและความหวังให้กันฟัง

จนกระทั่งวันหนึ่ง พริมก็มาขอเอ็มเป็นแฟน

"เอ็ม...เราชอบนายนะ เป็นแฟนกันไหม?" พริมถามด้วยใบหน้าแดงก่ำ เธอหลบสายตาเอ็มเล็กน้อย

เอ็มรู้สึกตื่นเต้นและดีใจจนพูดไม่ออก

เขาไม่คิดว่าพริมจะชอบเขาเหมือนกัน เขาไม่เคยคิดว่าจะมีใครมาขอเขาเป็นแฟน

"ตกลงสิ" เอ็มตอบกลับด้วยรอยยิ้มกว้าง เขาดีใจจนแทบจะกระโดด

นับตั้งแต่วันนั้น เอ็มและพริมก็กลายเป็นคู่รักกัน พวกเขาใช้เวลาด้วยกันอย่างมีความสุข ไม่ว่าโทรหากัน หรือแค่การนั่งคุยกันเฉยๆ พริมจะกอดเอ็มตอนนั่งบนรถ เอ็มรู้สึกว่าชีวิตของเขามีความสุขมากขึ้นกว่าเดิม เขาไม่เคยรู้สึกมีความสุขขนาดนี้มาก่อน

สีชมพู

เอ็มในวัย ม.1 ต้องเผชิญกับความเจ็บปวดจากการถูกพริมบอกเลิก

ความเสียใจครั้งนั้นส่งผลกระทบต่อการเรียนของเขาอย่างมาก จากเด็กหนุ่มที่เคยสดใสร่าเริง กลายเป็นคนเงียบขรึม ไม่ค่อยพูดจา

และผลการเรียนเริ่มตกต่ำอย่างเห็นได้ชัด เพื่อนๆ ในห้องต่างสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของเขา

แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปพูดคุยหรือปลอบใจ เพราะรู้ดีว่าเอ็มกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก

หลังจากผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก เอ็มก็เริ่มทำใจได้และพยายามที่จะก้าวข้ามความเจ็บปวดนั้น

เขาเริ่มกลับมาสนใจการเรียนมากขึ้น และพยายามทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากเรื่องราวในอดีต

แม้ว่าเอ็มและพริมจะยังคงต้องขึ้นรถรับส่งนักเรียนด้วยกัน แต่บรรยากาศระหว่างทั้งสองคนก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

พวกเขาเลือกที่จะนั่งแยกกันและไม่พูดคุยกันอีกเลย ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน

เอ็มพยายามที่จะไม่สนใจพริม แต่ในใจลึกๆ เขาก็ยังคงรู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งที่เห็นเธอ

ในช่วงเวลานั้นเองที่เอ็มได้เริ่มพูดคุยกับปลาย เด็ก ป.4 ที่อยู่บ้านใกล้ๆ กัน

ทั้งสองคนพูดคุยกันเรื่องการบ้าน เรื่องเพื่อนที่โรงเรียน และเรื่องอื่นๆ ทั่วไป ปลายเป็นเด็กที่สดใสร่าเริง ช่างพูดช่างคุย

ทำให้เอ็มรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขอีกครั้ง ปลายมักจะเล่าเรื่องราวสนุกๆ ที่โรงเรียนให้เอ็มฟัง

ทำให้เอ็มหัวเราะและลืมความทุกข์ไปได้ชั่วขณะ

วันหนึ่ง ปลายบอกกับเอ็มว่าเธอจะแวะมาหาเขาที่บ้านในวันรุ่งขึ้น

เอ็มรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยกับการมาเยือนของปลาย เขาไม่เคยมีเพื่อนผู้หญิงมาที่บ้านมาก่อน ในวันรุ่งขึ้น

ขณะที่เอ็มกำลังช่วยพ่อทำงานอยู่หน้าบ้าน

เขาก็เห็นปลายปั่นจักรยานสีชมพูมาหาเธอสวมเสื้อสีชมพู กางเกงสีชมพู และมีร่มกันแดดสีชมพู

เอ็มอดไม่ได้ที่จะขำในใจกับความน่ารักของเธอ ปลายเองก็ดูเขินอายเล็กน้อยจนเกือบจะปั่นจักรยานลงข้างทาง

แต่ก็ยังดูน่ารักในสายตาของเอ็ม

ปลายเดินเข้ามาหาเอ็มด้วยรอยยิ้มสดใส และยื่นขนมที่เธอซื้อมาให้

เอ็มรู้สึกอบอุ่นใจกับความน่ารักของปลาย เขาชวนปลายเข้าไปนั่งเล่นในบ้าน และทั้งสองคนก็พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน

การมาเยือนของปลายในครั้งนั้น ทำให้เอ็มรู้สึกว่าชีวิตของเขากลับมามีสีสันอีกครั้ง

ความสดใสและความไร้เดียงสาของปลาย ช่วยเยียวยาความเจ็บปวดในใจของเอ็ม และทำให้เขามีความสุขอีกครั้ง

เอ็มรู้สึกขอบคุณปลายที่เข้ามาในชีวิตของเขา และทำให้เขากลับมาเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง

ม. 2

เมื่อผลการเรียนของเอ็มประกาศออกมา เขาได้เกรดเฉลี่ย 2.88 ซึ่งทำให้เขาผิดหวังเล็กน้อย

เอ็มคาดหวังว่าผลการเรียนของเขาจะดีขึ้น และเขาอาจมีโอกาสได้ย้ายไปอยู่ในห้องเรียนที่มีผลการเรียนดีกว่านี้

แต่สุดท้ายเขาก็ยังคงอยู่ในห้อง ม.2/8 เหมือนเดิม

ซึ่งทำให้เพื่อนสนิทของเขาอย่างยังบอยและเคโล่งใจที่ได้อยู่ห้องเดียวกัน

ในขณะที่โอ เพื่อนอีกคนของพวกเขาได้ย้ายไปอยู่ห้อง ม.2/6 ซึ่งเป็นห้องเรียนที่มีผลการเรียนดีกว่า

เอ็มรู้สึกผิดหวังกับผลการเรียนของตัวเอง เขาเริ่มสงสัยว่าเขาควรจะตั้งใจเรียนให้มากขึ้นหรือไม่

แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกว่าเขาได้พยายามอย่างเต็มที่แล้ว และผลการเรียนที่ออกมาก็ไม่ได้แย่จนเกินไป

เอ็มตัดสินใจที่จะไม่จมอยู่กับความผิดหวัง และพยายามตั้งใจเรียนให้มากขึ้นในเทอมต่อไป

ในห้อง ม.2/8 เอ็มได้พบกับฮอน เด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่เขารู้สึกประทับใจ เธอมีผมสั้นและดูน่ารัก

เอ็มรู้สึกว่าฮอนมีเสน่ห์บางอย่างที่ดึงดูดใจเขา เขาเริ่มสังเกตฮอนมากขึ้น และพยายามหาโอกาสที่จะได้พูดคุยกับเธอ

เอ็มตัดสินใจเขียนจดหมายบอกความในใจของเขาและฝากเพื่อนส่งให้ฮอน

เขาไม่แน่ใจว่าฮอนจะตอบรับความรู้สึกของเขาหรือไม่ แต่เขาก็อยากที่จะลองเสี่ยงดู

เมื่อฮอนได้รับจดหมาย เธอได้เขียนตอบกลับมาว่าเธอเองก็ชอบเอ็มเหมือนกัน

ทำให้เอ็มรู้สึกตื่นเต้นและดีใจมาก เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีใครมาชอบเขาเหมือนกัน

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เอ็มไม่รู้ก็คือคนที่เขียนจดหมายตอบกลับมานั้นไม่ใช่ฮอน

แต่เป็นนิว เพื่อนสนิทของฮอนที่นั่งอยู่โต๊ะหน้าเธอ นิวแอบชอบเอ็มมานานแล้ว

และเมื่อเธอเห็นจดหมายที่เอ็มเขียนถึงฮอน เธอจึงตัดสินใจเขียนตอบกลับไปโดยแกล้งทำเป็นฮอน

เพื่อที่จะได้ใกล้ชิดกับเอ็มมากขึ้น

เอ็มเข้าใจผิดว่าฮอนชอบเขาเหมือนกัน และเขาก็เริ่มสานสัมพันธ์กับเธอ

เขาพยายามหาเวลาที่จะได้อยู่กับฮอน และทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน แต่ในขณะเดียวกัน

นิวก็คอยอยู่ใกล้ชิดเอ็มและพยายามทำให้เขาประทับใจ นิวรู้ว่าเอ็มชอบอะไร และพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เอ็มมีความสุข

เอ็มรู้สึกสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง เขาไม่แน่ใจว่าเขาชอบฮอนหรือนิวกันแน่

แต่เขาก็ยังคงเชื่อว่าฮอนคือคนที่เขาชอบจริงๆ เขาไม่รู้เลยว่านิวคือคนที่เขียนจดหมายตอบกลับมา และเขาก็ไม่รู้ว่านิวแอบชอบเขาอยู่

เรื่องราวความรักของเอ็มในวัย ม.2 เริ่มต้นขึ้นด้วยความเข้าใจผิด

แต่ก็เต็มไปด้วยความน่ารักและความสับสน เอ็มจะต้องเผชิญกับความรู้สึกของตัวเอง และตัดสินใจว่าจะเลือกใครเป็นคนที่เขารัก

จับมือกัน

เช้าวันนั้นเป็นเวรทำความสะอาดห้องเรียนของเอ็มและฮอน

ทั้งสองคนช่วยกันกวาดพื้น ถูโต๊ะ และเช็ดกระดานอย่างขยันขันแข็ง

บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและบทสนทนาที่สนุกสนาน ฮอนเล่าเรื่องราวตลกๆ

ที่เธอเจอในวันก่อนให้เอ็มฟัง ส่วนเอ็มก็เล่าเรื่องราวการ์ตูนที่เขาอ่านให้ฮอนฟังเช่นกัน

เมื่อทำความสะอาดห้องเสร็จ ทั้งสองคนก็รีบวิ่งลงจากตึก 6 ขั้น 3 เพื่อไปยังตึกการงาน เนื่องจากเพื่อนๆ คนอื่นๆ ได้ไปถึงก่อนแล้ว

และครูสอนการงานก็ขึ้นชื่อเรื่องความดุ เอ็มและฮอนรู้ดีว่าถ้าไปสายจะต้องโดนครูดุอย่างแน่นอน

ฮอนท้าเอ็มแข่งวิ่ง โดยผู้ที่ไปถึงช้ากว่าจะต้องเลี้ยงขนม เอ็มรับคำท้าด้วยความสนุกสนาน

เขาออกตัววิ่งนำไปก่อน แต่เมื่อหันไปเห็นว่าฮอนวิ่งตามมาด้วยความเหนื่อยหอบ

เอ็มก็ตัดสินใจหยุดรอ เขาไม่อยากเอาเปรียบฮอน และเขาก็อยากจะใช้เวลาร่วมกับเธอให้มากขึ้น

เมื่อฮอนวิ่งมาถึง เอ็มก็จับมือเธอแล้วชวนเดินไปด้วยกัน ฮอนมองเอ็มด้วยสายตาขอบคุณ

เธอรู้สึกประทับใจในความมีน้ำใจของเอ็ม ทั้งสองคนเดินจับมือกันไปจนถึงตึกการงาน

ระหว่างทาง พวกเขาพูดคุยกันเรื่องต่างๆ มากมาย ทั้งเรื่องเรียน เรื่องเพื่อน และเรื่องความฝันในอนาคต

ในช่วงเวลานั้น ความรักในวัยเรียนเป็นสิ่งที่บริสุทธิ์และงดงาม เอ็มรู้สึกมีความสุขอย่างมากที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับฮอน

การจับมือกันในครั้งนั้นเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของความรักและความผูกพันที่ทั้งสองคนมีให้กัน

เอ็มรู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ฮอน

เอ็มรู้สึกว่าความรักในสมัยนั้นช่างแตกต่างจากความรักในปัจจุบัน มันเป็นความรู้สึกที่เรียบง่าย

แต่ก็เต็มไปด้วยความอบอุ่นและความจริงใจ เอ็มไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่เขาก็รู้ว่าเขาจะไม่มีวันลืมช่วงเวลาที่สวยงามนี้

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!