NovelToon NovelToon

บันทึกการเอาชีวิตรอดของวีรบุรุษในโลกเชื้อกลายพันธุ์

บทที่1โลกคู่ขนาน

วันที่ 1

วันนี้เป็นวันธรรมดา ฉันยังคงทำหน้าที่ทหารในฐานทัพแห่งหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการฝึกฝนหรือการเฝ้าระวังพื้นที่ทุกวัน ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม... จนกระทั่งในตอนกลางคืน ฉันเห็นแสงแปลกๆ ขึ้นมาไกลๆ ในระยะที่ควรจะไม่มีอะไร

แสงนั้นเป็นสีฟ้าๆ ลอยขึ้นจากพื้นดินที่ปกติไม่มีอะไรเลย ท่ามกลางความเงียบสงัด ฉันก้าวเดินไปข้างหน้าเพื่อดูให้ชัดเจน

“มีอะไรนะ?” ฉันพึมพำเบาๆ เพราะคิดว่าน่าจะเป็นแสงไฟอะไรซักอย่างจากการซ้อมของหน่วยอื่น แต่ยิ่งเดินเข้าไปใกล้ยิ่งรู้สึกได้ว่ามันไม่ธรรมดา

แสงนั้นเคลื่อนที่ไปในทิศทางที่ไม่สามารถคาดเดาได้ มันไม่เหมือนแสงไฟจากสิ่งใดๆ ที่ฉันเคยเห็นในฐานทัพ มันไม่สะท้อนหรือแยกแสงเหมือนไฟทั่วไป แต่มันเหมือนกับแสงที่มาจากมิติอื่นเลยก็ว่าได้ มันยิ่งดูแปลกประหลาดขึ้นเรื่อยๆ จนฉันเริ่มรู้สึกแปลกๆ ในใจ

“อืม...” ฉันพึมพำในใจ ลังเลว่าจะเดินเข้าไปใกล้หรือไม่ แต่ความอยากรู้มันเกินกว่าจะทน ฉันตัดสินใจที่จะเดินไปหามัน และไม่ทันที่ฉันจะได้ตั้งตัว แสงนั้นก็พุ่งมาหาฉันในพริบตา!

มันไม่เหมือนสิ่งที่ฉันเคยเจอมาก่อน มันดูดฉันเข้าไปจนไม่มีโอกาสได้ตั้งตัว ร่างกายของฉันเหมือนถูกลากไปในอากาศ เสียงแปลกๆ ดังขึ้นในหูฉันราวกับเสียงของอะไรกำลังบีบอัดอยู่ในอากาศ ทุกอย่างมืดสนิท

ฉันไม่สามารถควบคุมร่างกายตัวเองได้ มันเหมือนกับการตกอยู่ในความว่างเปล่า ความรู้สึกของการสูญเสียทิศทางทำให้ฉันหวาดกลัว

ทันใดนั้น ทุกอย่างหยุดลง ฉันลืมตาขึ้นมาและพบว่าตัวเองยังคงอยู่ในสภาพที่ไม่คุ้นเคย ฉันพบว่าตัวเองยืนอยู่ในสถานที่ที่แปลกประหลาด สถานที่ที่ดูเหมือนโลกที่คุ้นเคย แต่ไม่ใช่… มันเต็มไปด้วยซากปรักหักพัง ถนนร้าง และบ้านเรือนที่ดูเหมือนถูกทิ้งร้างมานานหลายปี

“ที่นี่ที่ไหน?” ฉันถามตัวเองในใจ พร้อมกับก้าวไปข้างหน้า เสียงฝีเท้าของฉันก้องกังวานในความเงียบเหงา สถานที่นี้ไม่มีชีวิตชีวาเหมือนที่ฉันคุ้นเคย มันเหมือนกับการที่โลกนี้ถูกลืมไปแล้ว

สายตาของฉันจับไปที่ตัวปลาดๆ ที่เดินได้… มันไม่ใช่คน แต่มันก็ไม่ใช่ซอมบี้แบบที่ฉันเคยเห็นในภาพยนตร์ มันเดินไปมาเหมือนไม่มีจุดหมาย ไม่สนใจสิ่งรอบตัว เหมือนกับว่ามันไม่เคยรู้ตัวว่าตัวเองยังคงมีชีวิตอยู่

ฉันหายใจเข้าลึกๆ กำมือแน่นแล้วตัดสินใจเดินต่อไป ความกลัวเริ่มยึดครองจิตใจฉัน แต่ความอยากรู้เกี่ยวกับโลกนี้ก็ไม่ยอมปล่อยให้ฉันถอยกลับไป

ไม่ว่าฉันจะไปที่ไหนก็พบแต่ความเงียบสงัด ทุกสิ่งรอบตัวเต็มไปด้วยความลึกลับ และในความเงียบเช่นนี้ เสียงทุกเสียงดังขึ้นอย่างชัดเจน

“ทำไมถึงเป็นแบบนี้?” ฉันตั้งคำถามกับตัวเองขณะเดินผ่านบ้านร้างที่ไม่มีใครอาศัยอยู่ ไม่มีแม้แต่สัญญาณของชีวิต ใบไม้ที่ร่วงหล่นเป็นสีเหลืองหม่น และถนนที่สกปรกเต็มไปด้วยฝุ่นผง

บางครั้งเมื่อฉันหันไปเห็นซอมบี้เดินผ่าน ฉันรู้สึกเหมือนจะเข้าไปเรียกมัน แต่ก็ไม่ทำ มันไม่เคยสนใจฉัน มันไม่เหมือนกับสิ่งที่ฉันเคยเรียนรู้เกี่ยวกับซอมบี้ที่เราต้องต่อสู้กับมัน ฉันคิดว่าอาจจะเป็นสิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยง

เมื่อเดินไปไกลขึ้น ฉันพบตัวอาคารหนึ่งที่ดูเหมือนเคยเป็นโรงพยาบาล หรือศูนย์วิจัยบางอย่าง มันสภาพเสื่อมโทรมมาก ภายในอาคารมีซากข้าวของกระจัดกระจายไปทั่ว ฉันพยายามเข้าไปค้นหาภายในเพื่อหาคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ แต่มันดูเหมือนจะไม่มีใครอยู่ที่นี่เลย

ทุกอย่างในโลกนี้ดูเหมือนจะหยุดนิ่งไปนานแล้ว ไม่ว่าฉันจะทำอะไร ก็ไม่สามารถหาคำตอบได้ มันยากที่จะอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะทุกสิ่งที่เห็นเหมือนจะเป็นแค่ภาพหลอนจากความตาย

เสียงของก้าวเดินของฉันยังคงก้องกังวานในสถานที่นี้ แต่มันไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกปลอดภัยเลย

"ฉันจะกลับไปยังที่เดิมได้ยังไง?" ฉันถามตัวเองเบาๆ ขณะที่เดินต่อไปอย่างไม่รู้ทิศทาง ทุกอย่างล้วนเต็มไปด้วยความท้าทาย

ตอนนี้ โลกนี้ดูเหมือนมันเต็มไปด้วยอันตราย และทุกย่างก้าวอาจจะเป็นการทดสอบชีวิตที่ยากลำบาก แต่ฉันจะไม่ยอมแพ้ แม้จะอยู่ในสถานที่ที่ไม่มีคำตอบ แต่ฉันจะค้นหาคำตอบให้ได้ ไม่ว่าจะต้องเผชิญกับอะไรก็ตาม

“ต้องหาทางออกจากที่นี่ให้ได้...”

ขณะที่ฉันเดินต่อไป เสียงของการเคลื่อนไหวเบาๆ ดังขึ้นจากข้างหลัง มันเหมือนมีสิ่งมีชีวิตกำลังตามฉันมา ฉันหันหลังไปทันที และพบว่า… ซอมบี้จำนวนมากกำลังเดินมาทางฉัน

มันไม่เหมือนกับสิ่งที่ฉันเคยเห็นในภาพยนตร์ พวกมันไม่วิ่งหรือโจมตีทันที มันแค่เดินมาอย่างช้าๆ และไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง แต่ฉันรู้ว่า ถ้ามันเข้ามาใกล้มากเกินไป ฉันจะไม่สามารถหนีไปได้ทัน

การต่อสู้กับซอมบี้เหล่านี้คงไม่ง่าย… แต่ฉันไม่มีทางเลือก ต้องพยายามหาทางเอาตัวรอดให้ได้

นี่คือการเริ่มต้นของการเดินทางในโลกที่เต็มไปด้วยอันตรายและความลึกลับ... และฉันต้องหาคำตอบให้ได้

บทที่ 2 - วันที่สองของการเอาชีวิตรอด

วันที่ 2

ฉันยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันเป็นความจริง

โลกที่ฉันคุ้นเคยได้หายไปแล้ว

หลังจากที่ฉันหลงเข้ามาในประตูมิติ ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ฉันติดอยู่ในโลกที่รกร้าง ไม่มีสัญญาณชีวิตที่แท้จริง มีเพียงเงาของสิ่งมีชีวิตที่ไม่ควรมีอยู่ ซอมบี้เดินไปมาอย่างไร้จุดหมาย พวกมันดูเหมือนไม่ได้รับรู้ถึงการมีตัวตนของฉันเลย แต่นั่นไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกปลอดภัยขึ้น

เมื่อคืนฉันเดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งพบตึกพังๆ แห่งหนึ่ง มันดูเหมือนเคยเป็นซูเปอร์มาร์เก็ต แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นซากปรักหักพัง ฉันตัดสินใจเข้าไปหาที่พักพิงภายในนั้น โชคดีที่ไม่มีซอมบี้อยู่ข้างใน อาจเป็นเพราะประตูด้านหน้าถูกทับด้วยชั้นวางของที่ล้มลง ทำให้พวกมันเข้าไปไม่ได้

ฉันเลือกมุมหนึ่งที่ดูปลอดภัยแล้วจัดพื้นที่ให้นอนได้ มันไม่ได้สะดวกสบาย แต่ก็ดีกว่าต้องอยู่กลางแจ้งโดยไม่มีที่กำบัง

ตลอดทั้งคืนฉันแทบไม่ได้นอนเลย ฉันได้แต่เฝ้าฟังเสียงข้างนอกตลอดเวลา หูของฉันจับเสียงฝีเท้าหนักๆ ของซอมบี้ที่เดินผ่านไปเป็นระยะๆ และบางครั้งก็มีเสียงโลหะกระทบกันราวกับว่ามีบางอย่างล้มลงมา เสียงนั้นทำให้ฉันต้องคอยระวังตัวตลอด

เมื่อรุ่งเช้ามาถึง ฉันรู้ว่าฉันต้องเริ่มหาทางเอาตัวรอดให้ได้

 

การหาอาหารและน้ำเป็นสิ่งสำคัญ

ฉันออกมาจากที่ซ่อนอย่างระมัดระวัง พยายามเคลื่อนตัวให้เงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถึงซอมบี้ที่นี่จะยังไม่ดุร้ายเหมือนที่เคยเห็นในหนัง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่เป็นอันตราย

ฉันสำรวจรอบๆ ซูเปอร์มาร์เก็ตที่พังลงมา โชคดีที่ยังมีชั้นวางของบางส่วนที่พอมีของเหลืออยู่ ฉันเจอกระป๋องอาหารสำเร็จรูปสองสามกระป๋อง แม้ว่ามันจะไม่ใช่ของสดใหม่ แต่มันก็ยังพอช่วยให้ฉันประทังชีวิตไปได้อีกสักพัก

ฉันยังพบขวดน้ำเปล่าหลายขวดที่ยังปิดผนึกอยู่ นั่นเป็นโชคดีของฉัน เพราะน้ำสะอาดเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการเอาชีวิตรอด

ฉันจัดการใส่อาหารและน้ำที่หาได้ลงในกระเป๋าเป้ที่ฉันเจอในซากร้านค้า มันเก่าและมีรอยขาดเล็กน้อย แต่ก็ยังใช้งานได้ดีพอ ฉันต้องเตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกไปสำรวจโลกที่ฉันไม่รู้จัก

 

สำรวจพื้นที่โดยรอบ

หลังจากหาอาหารและน้ำได้ ฉันตัดสินใจออกสำรวจพื้นที่รอบๆ เพื่อทำความเข้าใจกับโลกใบใหม่นี้ ฉันเดินไปตามถนนที่เต็มไปด้วยซากรถที่ถูกทิ้งร้าง บางคันยังมีร่องรอยของเลือดแห้งติดอยู่ที่กระจกและตัวรถ

ซอมบี้บางตัวเดินเตร่ไปมา มันไม่ได้สนใจฉันมากนัก ถ้าฉันไม่ทำเสียงดัง ฉันใช้ซากรถและเศษซากต่างๆ บังตัวเองขณะเคลื่อนที่

ระหว่างทางฉันพบร้านสะดวกซื้อเล็กๆ ที่ยังไม่ถูกทำลายมากนัก ฉันตัดสินใจเข้าไปดูด้านในเพื่อหาเสบียงเพิ่มเติม

เมื่อฉันเดินเข้าไป ประตูหน้าร้านมีร่องรอยของการถูกงัดแงะ บ่งบอกว่ามีคนเคยเข้ามาที่นี่ก่อนแล้ว ฉันเดินเข้าไปอย่างระมัดระวัง และทันใดนั้น ฉันได้ยินเสียงบางอย่าง

มันเป็นเสียงครืดคราด...

ฉันหันไปตามเสียงและพบกับซอมบี้ตัวหนึ่ง มันอยู่หลังเคาน์เตอร์ร้าน และดูเหมือนมันจะติดอยู่ที่นั่น ร่างของมันซูบผอม ใบหน้าของมันเน่าเปื่อย มีแมลงวันบินตอมอยู่รอบๆ ดวงตาของมันกลวงโบ๋ แต่มันยังขยับได้

ฉันกำไม้เหล็กที่เก็บได้ระหว่างทางแน่น ฉันรู้ว่าฉันต้องทำอะไร

ฉันก้าวเข้าไปช้าๆ พยายามไม่ให้เสียงฝีเท้าของฉันดังเกินไป ซอมบี้ตัวนั้นขยับช้าๆ มันพยายามจะเดินออกจากหลังเคาน์เตอร์ แต่ขาของมันติดอยู่กับซากข้าวของ ฉันใช้โอกาสนั้นเงื้อไม้เหล็กขึ้น และ...

ฟาดลงไปเต็มแรง!

เสียงกระแทกดังขึ้น ซอมบี้สะดุ้งไปชั่วขณะ แต่มันยังไม่หยุด ฉันต้องฟาดซ้ำอีกสองสามครั้งจนกระทั่งมันแน่นิ่งไป

ฉันยืนหอบหายใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตั้งสติกลับมา ฉันรู้แล้วว่าฉันไม่สามารถใจอ่อนได้ หากฉันต้องการเอาชีวิตรอด ฉันต้องทำทุกอย่างที่จำเป็น

 

พบร่องรอยของผู้รอดชีวิต

ฉันสำรวจร้านสะดวกซื้อและพบว่ามีของใช้เหลืออยู่นิดหน่อย ฉันหยิบขนมปังแห้งกับน้ำดื่มอีกสองขวดขึ้นมา แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของฉันมากกว่าคือร่องรอยบางอย่างที่อยู่บนโต๊ะใกล้ๆ

มันเป็นกระดาษโน้ตที่มีตัวอักษรขีดเขียนเอาไว้

"หากมีใครอ่านอยู่... พวกเราหนีไปที่เขตปลอดภัยทางทิศเหนือ มีคนอยู่ที่นั่น มันอาจจะเป็นที่ปลอดภัยสุดท้ายของเรา ถ้าคุณยังมีชีวิตอยู่ จงรีบมา"

ฉันจ้องกระดาษแผ่นนั้นอยู่ครู่หนึ่ง

เขตปลอดภัย?

มีผู้รอดชีวิตอยู่ที่ไหนสักแห่งงั้นหรือ?

นี่อาจเป็นเบาะแสสำคัญที่ฉันต้องติดตาม หากฉันสามารถไปที่นั่นได้ ฉันอาจจะได้พบกับคนอื่นๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่ และอาจได้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโลกที่ฉันตกเข้ามานี้

ฉันตัดสินใจว่าจะมุ่งหน้าไปยังทิศเหนือ แต่ก่อนอื่น ฉันต้องเตรียมตัวให้พร้อมกว่านี้ ฉันต้องหาอาวุธที่ดีกว่า และที่สำคัญ... ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าซอมบี้พวกนี้มีจุดอ่อนที่ไหน

 

บทสรุปของวันนี้

วันนี้เป็นวันที่ฉันได้เรียนรู้หลายอย่างเกี่ยวกับโลกใบนี้

ซอมบี้พวกนี้ไม่เร็ว แต่ก็ยังอันตราย - แม้มันจะเคลื่อนที่ช้า แต่มันก็ไม่ได้อ่อนแอ ถ้าเจอเป็นฝูงคงเป็นปัญหาใหญ่

อาหารและน้ำมีจำกัด - ฉันต้องหาเสบียงให้มากกว่านี้ ถ้าจะเดินทางไปยังเขตปลอดภัย

มีผู้รอดชีวิตอยู่ที่ไหนสักแห่ง - นี่อาจเป็นกุญแจสำคัญในการเอาตัวรอดของฉัน

พรุ่งนี้ฉันจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมและเริ่มเดินทางไปทางทิศเหนือ

โลกนี้เต็มไปด้วยอันตราย แต่ฉันจะไม่ยอมแพ้

เพราะฉันต้องรอด... และต้องหาทางกลับบ้านให้ได้!

บทที่ 3: การเผชิญหน้าครั้งแรก

วันที่ 3

ฉันตื่นขึ้นมาพร้อมกับเสียงลมหายใจหนักๆ ของตัวเอง ข้างนอกยังคงมืดสนิท อากาศเย็นจนรู้สึกหนาวไปถึงกระดูก แม้ฉันจะไม่ได้หลับสนิทเพราะต้องคอยระวังตัวจากเสียงแปลกๆ รอบข้าง แต่ร่างกายก็เริ่มปรับตัวได้กับสถานการณ์แบบนี้แล้ว

เมื่อคืนฉันเจอเบาะแสเกี่ยวกับ "เขตปลอดภัยทางทิศเหนือ" จากบันทึกในศูนย์วิจัยร้างแห่งนี้ ถ้าข้อมูลนี้เป็นเรื่องจริง นั่นอาจเป็นที่เดียวที่ฉันจะสามารถหาคำตอบเกี่ยวกับโลกนี้ได้ ฉันต้องไปที่นั่นให้เร็วที่สุด

แต่ก่อนจะออกเดินทาง ฉันต้องหาอาหารและน้ำเพิ่มก่อน ของที่ฉันเก็บมาเมื่อวานมันไม่พอ ฉันต้องมีพลังงานพอที่จะเอาตัวรอดหากต้องต่อสู้

07:30 น. – สำรวจศูนย์วิจัย

หลังจากเตรียมตัวเสร็จ ฉันเดินเข้าไปสำรวจส่วนที่ยังไม่ได้เข้าไปเมื่อวาน ศูนย์วิจัยแห่งนี้เต็มไปด้วยร่องรอยของการต่อสู้ ประตูบางบานถูกพังไปแล้ว และมีคราบเลือดเปรอะอยู่ทั่วกำแพง แต่ฉันยังไม่เจอศพเลยแม้แต่ศพเดียว

"พวกเขาหนีไปกันหมดแล้ว หรือไม่ก็..."

ฉันไม่อยากคิดถึงความเป็นไปได้ที่เหลือ ฉันกวาดตามองไปที่โต๊ะทำงานด้านใน เจอกองเอกสารและเครื่องมือวิจัยกระจัดกระจาย ฉันหยิบสมุดบันทึกเล่มหนึ่งขึ้นมาเปิดดู

"โครงการ AEGIS – ปรสิตกลายพันธุ์"

มันเป็นชื่อโครงการที่เกี่ยวข้องกับปรสิตที่ทำให้คนกลายเป็นซอมบี้ ฉันไล่อ่านข้อมูลแบบคร่าวๆ แต่มีบางหน้าถูกฉีกออกไปแล้ว เหมือนกับว่ามีใครบางคนไม่อยากให้คนอื่นรู้เรื่องนี้

"แปลว่ามีใครบางคนเอาข้อมูลพวกนี้ไปแล้ว"

ฉันเก็บสมุดบันทึกติดตัวไปด้วย เผื่อในอนาคตฉันอาจต้องใช้มัน แล้วฉันก็เริ่มออกเดินทางออกจากศูนย์วิจัย

09:00 น. – ออกจากศูนย์วิจัย

ฉันออกเดินทางไปทางทิศเหนือ ถนนร้างเต็มไปด้วยซากรถยนต์ที่ถูกทิ้งไว้แบบไม่เป็นระเบียบ บางคันมีรอยกระสุนพรุนไปทั้งคัน บางคันมีคราบเลือดแห้งเกรอะกรังแต่ไม่มีศพอยู่ข้างใน

"พวกเขากลายเป็นซอมบี้ไปหมดแล้วงั้นเหรอ?"

ทุกอย่างมันเงียบผิดปกติ ฉันไม่เห็นซอมบี้เลยแม้แต่ตัวเดียวในระยะสายตา นี่อาจเป็นโอกาสดีที่ฉันจะเคลื่อนที่ได้เร็วขึ้น

แต่สัญชาตญาณของฉันกำลังเตือนว่ามันไม่ใช่เรื่องดีเลย

10:30 น. – พบผู้รอดชีวิต?

ฉันเดินผ่านอาคารพาณิชย์ร้างที่เหมือนเคยเป็นร้านสะดวกซื้อมาก่อน ข้างในมันถูกกวาดของไปเกือบหมดแล้ว ฉันพยายามหาของที่ยังพอใช้ได้ และในขณะที่กำลังหยิบขวดน้ำจากชั้นวาง ฉันก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเบาๆ อยู่ด้านนอก

ฉันรีบก้มตัวต่ำ ซ่อนตัวอยู่หลังเคาน์เตอร์ มือขวากำมีดแน่น ในใจคิดว่ามันอาจเป็นซอมบี้ที่เร่ร่อนมาแถวนี้ แต่ทันใดนั้น ฉันได้ยินเสียงกระซิบเบาๆ

"นายว่าในร้านนั้นมีของเหลืออยู่มั้ย?"

ฉันชะงักไปทันที นี่มันเสียงคน!

ฉันค่อยๆ ชะเง้อหน้าขึ้นมองผ่านกระจกที่แตกร้าวของร้าน เห็นเงาคนสองคนยืนอยู่หน้าร้าน พวกเขาดูมอมแมม ผอมโซ และถือมีดไว้ในมือทั้งคู่

"ผู้รอดชีวิต..."

แต่ฉันไม่แน่ใจว่าพวกเขาจะเป็นมิตรหรือศัตรู ฉันต้องระวังให้มากกว่านี้

"ถ้าเข้าไปกันทั้งสองคน มันอาจจะอันตรายนะ" หนึ่งในนั้นพูดขึ้นมา "เราไม่รู้ว่าข้างในมีอะไร"

"ฉันหิวจะตายอยู่แล้ว ไม่เสี่ยงก็ไม่ได้" อีกคนตอบกลับ

ฉันกำมีดในมือแน่นขึ้น ถ้าพวกเขาเข้ามาแล้วเป็นมิตร ก็ดีไป แต่ถ้าเป็นศัตรู ฉันต้องพร้อมรับมือ

10:35 น. – การเผชิญหน้าครั้งแรก

ชายคนหนึ่งตัดสินใจเดินเข้ามาในร้าน ฉันย่อตัวลงให้ต่ำที่สุด ซ่อนตัวอยู่หลังเคาน์เตอร์ เขากวาดตามองไปรอบๆ ค่อยๆ เดินเข้ามาอย่างระมัดระวัง

ฉันตัดสินใจเอ่ยปากขึ้นมาทันที

"อย่าขยับ"

เสียงของฉันทำให้ชายคนนั้นสะดุ้ง เขารีบชักมีดขึ้นมา ฉันค่อยๆ ยกมือขึ้นแสดงว่าไม่ได้มีเจตนาโจมตี

"ฉันไม่ใช่ศัตรู" ฉันพูด "ฉันแค่ต้องการอาหารเหมือนกัน"

ชายคนนั้นจ้องมองฉันอย่างระแวง แต่ก็ลดมีดลงเล็กน้อย "นายเป็นใคร?"

"แค่คนหลงทาง" ฉันตอบ "ฉันไม่ต้องการปัญหา ถ้านายไม่โจมตีฉัน ฉันก็จะไม่โจมตีนาย"

เขามองฉันอย่างลังเล ก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย "เราเองก็ไม่อยากสู้เหมือนกัน"

ฉันถอนหายใจโล่งอกไปเปลาะหนึ่ง ดูเหมือนว่าสถานการณ์นี้จะไม่บานปลายเป็นเรื่องแย่ๆ

จากนั้น ชายอีกคนก็เดินเข้ามาสมทบ และหลังจากพูดคุยกันเล็กน้อย ฉันก็ได้รู้ว่าพวกเขาสองคนชื่อ กร และ วุฒิ พวกเขาเคยเป็นชาวบ้านธรรมดา แต่ติดอยู่ในเมืองนี้ตั้งแต่การระบาดเริ่มขึ้น พวกเขาพยายามเอาชีวิตรอดด้วยการหาอาหารตามซากอาคารต่างๆ

"พวกนายรู้เรื่องเขตปลอดภัยทางเหนือมั้ย?" ฉันถาม

กรและวุฒิมองหน้ากัน ก่อนที่กรจะพูดขึ้น "เคยได้ยินมาบ้าง แต่ไม่แน่ใจว่ามันยังมีอยู่รึเปล่า"

ฉันพยักหน้า "ฉันจะลองไปดู ถ้าพวกนายอยากมากับฉัน ก็ช่วยกันเอาตัวรอด แต่ถ้าพวกนายอยากอยู่กันเอง ฉันจะไม่บังคับ"

กรกับวุฒิมองหน้ากันอีกครั้ง ก่อนที่วุฒิจะพูดว่า "ถ้านายไม่รังเกียจ... เราขอไปกับนายด้วย"

12:00 น. – จุดเริ่มต้นของทีม

ฉันไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เจอผู้รอดชีวิตที่ไม่ได้เป็นศัตรูในโลกนี้ แต่ตอนนี้ดูเหมือนฉันจะมีพวกแล้ว

แม้เราจะเพิ่งรู้จักกัน แต่ตอนนี้เป้าหมายของเราคือเอาชีวิตรอดไปด้วยกัน

และฉันรู้ว่า... นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของสิ่งที่รอเราอยู่ข้างหน้า

บทสรุปของวันนี้

1.ฉันได้เจอเข้ากับกองเอกสารครื่องมือวิจัย และสมุดบันทึก"โครงการAEGIS-ประสิตกลายพันธ์ุ

2.วันนี้ฉันได้เจอผู่ฝ้รอดชีวิตทั้งหมด2คนเขาชื่อ วุฒิกับ กร

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!