NovelToon NovelToon

ดวงดาวที่ถูกลืม (ภาค2)

ต่อจากเรื่อง (แสงปลอบโยน)

ฉากต่อเนื่อง – ดวงดาวที่ถูกลืม

คืนนั้น ดวงดาวแรกปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าที่ไม่เคยมีใครเคยเห็นมาก่อน ผู้คนเงยหน้าขึ้นมองด้วยความตื่นตะลึง

"ดูนั่นสิ!" เด็กน้อยคนหนึ่งชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า "มันสวยจัง..."

ดวงดาวระยิบระยับทั่วผืนฟ้า ราวกับเป็นเครื่องหมายแห่งการเริ่มต้นใหม่ เมืองที่เคยอยู่ภายใต้แสงปลอมมาตลอด เริ่มเปิดรับความงามของท้องฟ้าจริง ๆ เป็นครั้งแรก

เรวดีเงยหน้ามองภาพนั้นด้วยรอยยิ้ม เธอเคยกลัวความมืด แต่ตอนนี้เธอรู้แล้วว่ามันไม่ได้เลวร้าย ความมืดไม่ได้พรากทุกอย่างไป มันกลับเผยให้เห็นแสงแท้จริงที่ซ่อนอยู่มาตลอด

"ความมืดไม่ได้น่ากลัว... หากเรามีแสงของตัวเอง"

คีรินมองเธอด้วยสายตาอบอุ่น "ข้ายินดีที่เจ้าเลือกทางนี้"

เธอหันไปมองเขา ก่อนจะพยักหน้า

"ข้าก็เหมือนกัน"

เสียงหัวเราะของเด็ก ๆ ดังก้องไปทั่วจัตุรัส ผู้คนเริ่มก่อกองไฟกลางเมือง เป็นสัญลักษณ์ของยุคใหม่ที่พวกเขาจะไม่ต้องพึ่งพาแสงจากแก้วมายาอีกต่อไป

เรวดี บุตรีของมหาปราชญ์แห่งเมือง เติบโตขึ้นมาโดยเชื่อมั่นในแสงศักดิ์สิทธิ์ จนกระทั่งคืนหนึ่ง เธอได้พบกับ คีริน ชายหนุ่มปริศนาที่ถูกจองจำในคุกใต้หอคอยศักดิ์สิทธิ์ เขาเปิดเผยความลับที่ไม่มีใครกล้าพูดถึง—แสงของแก้วมายาเป็นเพียงพันธนาการ ผู้คนในเมืองนี้คือเครื่องสังเวยที่ถูกหลอกมาตลอดชีวิต

เมื่อต้องเลือกระหว่างความเชื่อที่เธอเติบโตมากับความจริงที่โหดร้าย เรวดีจึงตัดสินใจลุกขึ้นต่อสู้เพื่อปลดปล่อยเมืองจากแสงปลอมนี้

แต่การทำลายแก้วมายา... ไม่ใช่เพียงการปลดปล่อย แต่เป็นการประกาศสงครามกับเหล่าผู้พิทักษ์แห่งแสง และกับบิดาของเธอเอง

ภายใต้ท้องฟ้าที่ไม่เคยมีดวงดาว

"เธอจะเป็นแสงสว่าง... หรือจะกลายเป็นเงามืดที่ถูกลืมตลอดกาล?"

นี่ไม่ใช่จุดจบ... แต่มันคือ จุดเริ่มต้นของอิสรภาพที่แท้จริง

ในเมือง อคีรัส ที่เต็มไปด้วยแสงสว่างตลอดเวลา ผู้คนไม่เคยรู้จักความมืดหรือดวงดาวที่เคยมีอยู่ในอดีต พวกเขาเชื่อว่า "แก้วมายา" อัญมณีศักดิ์สิทธิ์ที่ส่องแสงคือแหล่งพลังที่ทำให้เมืองอุดมสมบูรณ์และมีชีวิตอยู่ได้ แต่ไม่รู้ว่าแก้วมายาแท้จริงแล้วเป็น เครื่องมือในการดูดพลังชีวิตของประชาชน เพื่อรักษาความสว่างและอำนาจของผู้ปกครองเมือง

เรวดี บุตรีของ มหาปราชญ์ ผู้นำของเมือง เป็นผู้ที่ถูกเลือกให้สืบทอดตำแหน่งผู้พิทักษ์แสง เธอเติบโตมาภายใต้กฎระเบียบที่เคร่งครัดและเชื่อมั่นในแสงที่ส่องสว่าง แต่เมื่อได้พบกับ คีริน นักโทษผู้รอดชีวิตจากการสังเวยและกลุ่มกบฏที่ต่อต้านระบบ เรวดีเริ่มตั้งคำถามกับสิ่งที่เธอเคยเชื่อ

เมื่อเรวดีค้นพบ บันทึกต้องห้าม และรู้ความจริงว่า แก้วมายา คือสิ่งที่ปิดบังความจริงจากผู้คน รวมถึงการบังคับให้สังเวยประชาชน เธอเริ่มตั้งใจที่จะล้มล้างระบบที่บิดเบือนความจริง แต่เธอจำเป็นต้องเผชิญหน้ากับ บิดาของตนเอง ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ควบคุมแสงที่เธอเคยเชื่อมั่น

การเลือกที่เรวดีต้องเผชิญไม่ใช่แค่การทำลาย แก้วมายา เท่านั้น แต่ยังรวมถึง การหักหลังครอบครัว และ การปฏิวัติเมืองที่เธอรัก เมื่อต้องเผชิญกับการสูญเสียความเชื่อในสิ่งที่เคยมั่นใจ เธอจึงต้องทำตามความเชื่อของตัวเอง เพื่อให้ผู้คนในเมืองได้รู้จัก "ดวงดาวที่ถูกลืม" และ การเริ่มต้นใหม่ที่ไม่ถูกควบคุม.

ตอนที่ 1: เมืองใต้แสง

ฉากที่ 2 – เมืองศักดิ์สิทธิ์

แสงจาก แก้วมายา เปล่งประกายอยู่กลางเมือง อคีรัส เมืองที่ไม่เคยรู้จักความมืดมิด ทุกบ้านเรือนส่องสว่างราวกับไม่มีเวลากลางคืน ประชาชนเชื่อว่าแสงนี้คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกป้องพวกเขา แต่ไม่มีใครรู้ความลับที่ซ่อนอยู่

เรวดีเติบโตขึ้นมาในเมืองนี้ เธอเชื่อในแสงมาโดยตลอด จนกระทั่ง...

“ข้าได้ยินเสียงบางอย่างจากใต้หอคอยแก้ว”

เสียงของชายหนุ่มที่ถูกจองจำ... เป็นเสียงของ คีริน ชายหนุ่มลึกลับที่บอกว่าแสงนี้ไม่ใช่พระเจ้า แต่มันคือพันธนาการของพวกเขา

เมือง อคีรัส เป็นเมืองที่ไม่มีเวลากลางคืน แสงจาก "แก้วมายา" ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางหอคอยศักดิ์สิทธิ์ทอแสงเจิดจ้าไปทั่วท้องฟ้า ทำให้เมืองนี้ถูกขนานนามว่า "นครแห่งแสง"

ผู้คนในเมืองนี้เชื่อว่าแก้วมายาคือของขวัญจากพระเจ้า พลังศักดิ์สิทธิ์ที่ทำให้พวกเขาอยู่เหนือเผ่าพันธุ์อื่น พวกเขาไม่เคยรู้จักความมืด ไม่เคยกลัวมัน และที่สำคัญที่สุด—ไม่เคยตั้งคำถามกับมัน

"พวกเราคือประชากรที่โชคดีที่สุด เราได้รับแสงจากพระเจ้า"

เรวดีเติบโตมาพร้อมกับคำสอนนี้ เธอเป็นบุตรีของ ท่านมหาปราชญ์อารัน ที่เป็นหนึ่งในผู้ดูแลแก้วมายา เธอเชื่อมั่นในแสงนี้มาตลอด จนกระทั่งวันหนึ่ง...

คืนต้องห้าม

แม้เมืองนี้จะไม่มีเวลากลางคืน แต่ทุกปีในวันคล้ายวันกำเนิดของแก้วมายา ประตูหอคอยศักดิ์สิทธิ์จะปิดลง และไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เข้าใกล้

เรวดีไม่เคยสงสัยถึงเหตุผล จนกระทั่งเธอได้ยิน "เสียง" บางอย่างลอดออกมาจากใต้หอคอย...

เสียงร้องคร่ำครวญของมนุษย์

เธอยืนตัวแข็ง หัวใจเต้นรัว ร่างกายเย็นเยียบด้วยความกลัว

"อย่าไปสนใจเลย" บิดาของเธอพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "นั่นเป็นเพียงเสียงของวิญญาณบาปที่พระเจ้าลงทัณฑ์"

เธอควรจะเชื่อแบบนั้น

แต่ในค่ำคืนเดียวกันนั้นเอง เธอเห็นบางอย่างที่ทำให้ชีวิตของเธอไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

ชายหนุ่มผู้หนึ่งถูกลากตัวไปยังใต้หอคอย ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่เขาไม่ได้ดิ้นรนเหมือนคนที่หมดหวัง... ตรงกันข้าม

เขาจ้องมองเรวดี

เป็นสายตาที่ไม่ใช่ความกลัว แต่เป็นสายตาของคนที่รู้ความจริง

"ช่วยพวกเรา..." เขาพึมพำ ก่อนจะถูกทหารลากหายไปในเงามืด

..."ต่อ"...

 

ตอนที่ 2: เงามืดแรกพบ

ฉากที่ 3 – คำเตือนจากผู้ต้องขัง

เรวดีแอบเข้าไปในหอคอยกลางเมืองที่ไม่มีใครกล้าย่างกราย เธอพบคีริน ชายหนุ่มที่ถูกจับขังเพราะ "เป็นศัตรูของแสง"

"แก้วมายาไม่ได้ให้พลังกับเรา... แต่มันดูดพลังจากเราไป"

คำพูดของเขาทำให้เธอเริ่มสงสัย เธอเห็นรอยแผลของเขา ชีวิตที่ถูกพรากไปเพราะพยายามเปิดโปงความจริง

"หากเจ้าต้องการรู้ความจริง จงไปที่ 'บันทึกต้องห้าม' ใต้ฐานหอคอย"

หัวใจเรวดีเต้นแรง นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกหวาดกลัว ไม่ใช่เพราะความมืด... แต่เพราะความจริงที่อาจเปลี่ยนทุกอย่างที่เธอเชื่อมาตลอด

แสงจันทร์ส่องลอดผ่านช่องเล็กๆ ของหน้าต่างหอคอยสูง สะท้อนกับผนังหินที่เต็มไปด้วยร่องรอยของกาลเวลา เรวดียืนอยู่หน้าประตูเหล็กหนักของห้องขัง ห้องที่เธอไม่ควรย่างกรายเข้าไป ไม่ควรแม้แต่จะคิดจะมาที่นี่

แต่เธอมาแล้ว และไม่มีทางหันหลังกลับ

เธอหยิบกุญแจทองแดงที่ขโมยมาจากห้องของบิดา มือของเธอสั่นน้อยๆ ก่อนจะค่อยๆ ใส่กุญแจเข้าไปในรูกลอน เสียง "แกร๊ก" ดังขึ้นเบาๆ เมื่อกลไกด้านในปลดล็อก

เธอผลักประตูออกอย่างระมัดระวัง กลิ่นอับชื้นของหินเก่าและฝุ่นจับตัวทำให้เธอเผลอสูดลมหายใจสั้นๆ

ภายในห้องขังมีเพียงเงาของชายหนุ่มคนหนึ่ง นั่งพิงกำแพง มือทั้งสองถูกล่ามโซ่ไว้ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มของเขาจ้องตรงมาที่เธออย่างสงบนิ่ง

เขาไม่ตกใจที่เห็นเธอ เขากลับยิ้มเล็กๆ เหมือนกับว่ารู้อยู่แล้วว่าเธอจะมา

คีริน: "ในที่สุด... เจ้าก็มา"

เสียงของเขาแหบพร่าแต่หนักแน่น เรวดีขมวดคิ้ว จิตใต้สำนึกของเธอตะโกนเตือนว่าเธอไม่ควรฟังคำพูดของชายคนนี้ แต่หัวใจของเธอกลับผลักดันให้เดินเข้าไปใกล้

เรวดี: "เจ้ารู้ได้อย่างไร?"

เธอถามเสียงเบา พลางมองดูโซ่ที่พันธนาการเขาไว้ ร่องรอยบาดแผลรอบข้อมือบ่งบอกว่าเขาถูกล่ามไว้ที่นี่มานาน

คีรินหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเอนศีรษะพิงกำแพง

คีริน: "เพราะทุกคนที่เคยสงสัย... สุดท้ายก็มาหาข้า"

เรวดีรู้สึกเหมือนถูกอ่านใจ เธอขบฟันแน่น พยายามปกปิดความหวั่นไหวของตัวเอง

เรวดี: "ข้าไม่สงสัยอะไรทั้งนั้น ข้าแค่อยากรู้ว่าเจ้าคือใคร และทำไมถึงถูกขังไว้ที่นี่"

คีรินเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะพึมพำเบาๆ

คีริน: "เจ้าต้องการความจริง... หรือแค่คำโกหกที่ฟังดูสบายใจ?"

คำถามนั้นทำให้เรวดียืนนิ่งไปครู่หนึ่ง

เรวดี: "ข้าต้องการความจริง"

เขาจ้องเธออยู่นาน ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ

คีริน: "ถ้าเช่นนั้น... จงฟังให้ดี แก้วมายาที่เจ้าศรัทธา มันไม่ได้ให้แสงสว่างกับเมืองนี้ แต่กำลังค่อยๆ กลืนกินชีวิตของพวกเจ้า"

เรวดีขมวดคิ้ว

เรวดี: "เป็นไปไม่ได้! แก้วมายาคือของศักดิ์สิทธิ์ มันให้พลังงานแก่เรา มันทำให้พืชผลเจริญงอกงาม มัน—"

คีริน: "มันดูดพลังชีวิตของประชาชน"

เสียงของเขาเฉียบคมราวกับมีด เรวดีชะงัก

คีริน: "เจ้าเคยสงสัยไหม ทำไมบางคนถึงอ่อนแอลงเรื่อยๆ ทั้งๆ ที่พวกเขายังไม่แก่เลย? ทำไมทุกปีถึงมีการเลือก 'ผู้ถูกคัดสรร' เพื่อบูชาแก้วมายา? คิดว่าพวกเขาไปอยู่ในแดนสวรรค์จริงๆ อย่างนั้นหรือ?"

คำพูดนั้นทำให้ร่างกายของเรวดีเย็นเฉียบ

เรวดี: "ไม่จริง..."

คีริน: "จงไปดูบันทึกต้องห้ามใต้หอคอย แล้วเจ้าจะรู้ว่าเมืองนี้ถูกหลอกลวงมานานแค่ไหน"

เธอถอยหลังออกมา รู้สึกเหมือนห้องทั้งห้องกำลังหมุน

เธออยากจะเชื่อว่าทุกอย่างเป็นเรื่องโกหก เป็นแค่คำพูดของชายคนหนึ่งที่ต้องการทำลายศรัทธาของเมืองนี้

แต่ในส่วนลึกของหัวใจ... เธอรู้ว่ามันอาจเป็นความจริง

เธอรู้ดีว่ามีบางอย่างผิดปกติมานานแล้ว แต่เธอเลือกที่จะไม่ตั้งคำถาม

แต่ตอนนี้... เธอจะต้องรู้ให้ได้

เรวดีมองคีรินเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะรีบออกจากห้องขังโดยไม่พูดอะไรอีก

เธอมีจุดหมายแล้ว

ปลายทางของเธอ คือบันทึกต้องห้ามใต้หอคอย

 

..."ต่อ"...

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!