(ฉากเปิด: เมืองเรืองแสงในยามค่ำคืน ตะเกียงแก้วมายาส่องแสงระยิบระยับเต็มท้องฟ้า ถนนสะอาดสะอ้านไร้เงามืด ประชาชนใช้ชีวิตอย่างสงบสุข... หรืออย่างน้อยพวกเขาก็คิดเช่นนั้น)
(กลางจัตุรัสเมือง เรวดี—หญิงสาวในชุดเกราะเงิน—ยืนอยู่ท่ามกลางแสงปลอมที่อาบร่าง เธอเฝ้าระวังภัยจาก "เงามืด" ที่ถูกกล่าวขานว่าเป็นศัตรูของเมือง)
คีริน (เสียงแหบแห้ง): “เธอคิดจริงหรือว่าแสงนี้จะปกป้องพวกเขา?”
(เรวดีหันขวับไปทางต้นเสียง ชายในชุดนักโทษยืนพิงกำแพง มือทั้งสองถูกล่ามด้วยโซ่ เขาคือ "คีริน"—ชายที่ถูกตราหน้าว่าเป็นกบฏของแสง)
เรวดี (เสียงแข็ง): “แกไม่มีสิทธิ์พูดถึงแสงศักดิ์สิทธิ์นี้ แกคือพวกคนทรยศ”
(คีรินหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้น แววตาของเขาไม่ได้เต็มไปด้วยความโกรธ แต่กลับมีแววเวทนา)
คีริน: “เธอไม่สงสัยบ้างหรือว่าทำไมแสงนี้ถึงไม่เคยดับเลย?”
(เรวดีชะงักไปชั่วครู่ แต่รีบเก็บอาการ เธอไม่ต้องการให้คำพูดของนักโทษมาทำให้เธอไขว้เขว)
เรวดี: “เพราะแก้วมายาคือพลังจากดวงอาทิตย์”
(คีรินส่ายหน้า ก่อนจะกระซิบเสียงเบาแต่ชัดเจน)
คีริน: “ไม่ใช่... มันคือแสงที่ดูดพลังจากคนที่เธอรัก”
(คำพูดนั้นแทงเข้าไปในใจเรวดี เธอพยายามจะเมินมัน แต่เธอจำได้ว่า... ตั้งแต่ที่เมืองนี้เจริญรุ่งเรืองขึ้นมา พ่อของเธอ—อดีตนักรบแสง—ก็ล้มป่วยโดยไร้สาเหตุ คนแก่หลายคนในเมืองค่อย ๆ หายตัวไป ไม่มีใครพูดถึงพวกเขาอีก...)
(เธอเม้มริมฝีปากแน่น ก่อนจะก้าวเข้าไปประชิดตัวคีริน ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความหวาดระแวงและสับสน)
เรวดี: “แกหมายความว่ายังไง”
(คีรินเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะยื่นมือข้างหนึ่งที่ถูกพันธนาการออกมา แสงจากตะเกียงแก้วมายาอาบผิวของเขา และในชั่วพริบตาเดียว... ผิวหนังของเขาเริ่มซีดจางลงราวกับแสงกำลังดูดพลังชีวิตของเขาไปจริง ๆ)
(เรวดีเบิกตากว้าง หัวใจเต้นแรง เธออยากจะปฏิเสธ แต่นี่คือหลักฐานที่เธอเห็นกับตา!)
คีริน (กระซิบแผ่วเบา): “เรวดี... ช่วยฉันทำลายมัน”
(แสงปลอมกำลังจะลวงเธออีกครั้ง หรือความจริงอันโหดร้ายเพิ่งจะถูกเปิดเผย?)
..."ต่อ"...
ฉากที่ 1 - เมืองเรืองแสง
(ฉากเปิดที่เมืองเรืองแสงยามค่ำคืน ทุกอย่างสว่างไสว ไม่มีเงามืดแม้แต่น้อย ผู้คนเดินไปมาใต้แสงแก้วมายา ที่ตั้งตระหง่านกลางเมือง)
เรวดี เดินลาดตระเวนรอบเมือง ในฐานะนักรบแสง เธอเชื่อมั่นว่าหน้าที่ของเธอคือการปกป้องแสงนี้จากภัยคุกคาม
ผู้นำเมือง กล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับ "ความสำคัญของแสง" และ "อันตรายของเงามืด"
เหตุการณ์ผิดปกติ: มีชายชราคนหนึ่งล้มลงกับพื้นอย่างกะทันหัน ก่อนที่ทหารจะพาตัวเขาไปอย่างเงียบ ๆ
(ภาพเปิดที่เมืองเรืองแสงในยามค่ำคืน แม้จะเป็นเวลากลางคืน แต่เมืองนี้ไม่เคยมีความมืด ทุกมุมของเมืองสว่างไสวราวกับเวลากลางวัน ผู้คนเดินไปมาใต้แสงของ แก้วมายา ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางจัตุรัสหลัก)
เสียงระฆังดังกังวานเป็นสัญญาณเริ่มต้นของพิธีบูชาแสง พลเมืองทุกคนคุกเข่าลง เปล่งเสียงสวดขอบคุณแก้วมายาที่มอบพลังให้เมืองของพวกเขา
เรวดี สาวน้อยวัย 20 ปี ยืนมองพิธีกรรมนี้จากมุมหนึ่งของจัตุรัส ดวงตาของเธอสะท้อนแสงระยิบระยับของแก้วมายา เธอเติบโตมากับความเชื่อว่าแสงนี้คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มันปกป้องผู้คนจากอันตรายภายนอก และทำให้เมืองของพวกเขารุ่งเรือง
ขณะที่เธอกำลังเฝ้าสังเกตพิธี เธอเห็นชายชราคนหนึ่งล้มลงอย่างกะทันหัน
"เกิดอะไรขึ้น?" เธอรีบตรงเข้าไปหาชายคนนั้น แต่ก่อนที่เธอจะถึงตัว ทหารของเมืองกลับเข้ามาแทรก พวกเขาอุ้มชายชราขึ้นแล้วพาออกไปทางด้านหลังของวิหาร ไม่มีใครเอ่ยถึงเหตุการณ์นี้อีก ทุกอย่างดำเนินไปตามปกติราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หัวใจของเรวดีเต้นแรง เธอไม่เคยตั้งคำถามกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเมืองมาก่อน แต่ครั้งนี้ เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
(ภาพเปิดที่เมืองเรืองแสง เมืองแห่งนี้ไม่เคยมีคืนมืด ทุกถนน ทุกอาคาร ล้วนถูกอาบด้วยแสงของ แก้วมายา ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่กลางจัตุรัสหลัก)
เสียงระฆังดังกังวานเป็นสัญญาณเริ่มต้นของพิธีกรรม "บูชาแสง" ประชาชนทุกคนพากันคุกเข่า ก้มหน้าลงขอบคุณแก้วมายาที่ทำให้พวกเขามีชีวิตที่รุ่งเรืองและปลอดภัย
เรวดี ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน สวมเกราะนักรบแสงอย่างภาคภูมิใจ เธอได้รับเกียรติให้เป็นหนึ่งในนักรบผู้พิทักษ์แสงอันศักดิ์สิทธิ์ของเมืองนี้
แต่ขณะที่พิธีกำลังดำเนินไป ชายชราคนหนึ่งในกลุ่มประชาชนก็ทรุดลงกับพื้น "แสง… มันกำลังดูดพลังข้า…!" เขาพึมพำเสียงแผ่ว ก่อนที่ร่างกายจะอ่อนแรง
เรวดีตกใจรีบจะเข้าไปช่วย แต่ก่อนที่เธอจะทันทำอะไร ทหารของเมืองก็ก้าวเข้ามา ลากร่างชายชราออกไปโดยไม่มีคำอธิบาย ไม่มีใครตั้งคำถาม ทุกคนทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"นี่มันเรื่องอะไรกัน?" หัวใจเธอเต้นแรงเป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติในเมืองแห่งนี้
..."ต่อ"...
ฉากที่ 2 - คุกลับใต้ดิน
(เรวดีได้รับคำสั่งให้สอบปากคำ คีริน ชายผู้ถูกขังฐานเป็น "ผู้ทรยศแสง")
เรวดีเผชิญหน้ากับคีรินในห้องขังที่มีแสงส่องตลอดเวลา
คีรินเอ่ยประโยคที่ทำให้เรวดีสะดุดใจ: "เธอเคยเห็นความมืดบ้างไหม?"
เรวดีเริ่มสงสัยเมื่อคีรินบอกว่า "แสงที่พวกเธอบูชา คือสิ่งที่ดูดพลังชีวิตของพวกเธอเอง"
********
(ห้องขังใต้ดินของเมือง มีเพียงนักโทษไม่กี่คนที่ถูกกักตัวไว้ที่นี่ และหนึ่งในนั้นคือ คีริน ชายหนุ่มที่ถูกกล่าวหาว่าเป็น "ผู้ทรยศแสง")
เรวดีได้รับคำสั่งจากผู้นำเมืองให้สอบปากคำคีริน นักโทษคนนี้เคยเป็นนักวิจัยของเมือง แต่วันหนึ่งเขากลับถูกจับกุมด้วยข้อหาทรยศต่อแสง ไม่มีใครรู้ว่าเขาทำผิดอะไร
เธอก้าวเข้าไปในห้องขัง มองชายหนุ่มที่ถูกพันธนาการด้วยโซ่ตรวน คีรินเงยหน้าขึ้นมองเธอ ดวงตาของเขาไม่ได้เต็มไปด้วยความสิ้นหวังเหมือนนักโทษคนอื่น แต่กลับดู… สงบ ราวกับว่าเขากำลังรอให้ใครสักคนเข้าใจความจริง
"เธอเองสินะ นักรบแสงของเมืองนี้" คีรินเอ่ยขึ้นก่อนที่เรวดีจะทันพูดอะไร
"บอกข้ามาว่าเจ้ารู้อะไรเกี่ยวกับแสงปลอม" เรวดีเอ่ยเสียงเข้ม
คีรินหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะพิงกำแพงหินเย็นเยียบ "ก่อนที่เธอจะถามคำถามนั้น ฉันอยากให้เธอลองตอบคำถามของฉันก่อน"
เขาจ้องตาเธอ ก่อนเอ่ยอย่างช้า ๆ
"เธอเคยเห็นความมืดบ้างไหม?"
คำถามนั้นทำให้เรวดีชะงัก
ความมืด… สิ่งที่เธอไม่เคยพบเจอในชีวิต เมืองนี้สว่างไสวเสมอ ไม่มีคืนที่แท้จริง ไม่มีเงาดำ ไม่มีซอกมุมที่ถูกบดบังจากแสง
"ไม่เคย" เธอตอบตามตรง
คีรินยิ้มบาง ๆ "นั่นแหละคือปัญหา"
********
(เรวดีได้รับคำสั่งให้ไปสอบปากคำ "คีริน" ชายหนุ่มที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ทรยศแสง)
เรวดีเดินผ่านทางเดินอับชื้นของคุกใต้ดิน สถานที่แห่งนี้ไม่เคยมีใครพูดถึงในเมือง มันถูกซ่อนอยู่ใต้พื้นดิน ราวกับเป็นเงามืดของเมืองที่ไม่เคยมีเงา
ภายในห้องขัง คีรินถูกพันธนาการด้วยโซ่ตรวน ร่างกายผอมซูบ ดวงตาลึกโหล แต่แววตาของเขากลับสงบผิดปกติ
"เจ้าคือเรวดี นักรบแสงใช่ไหม?" เขาถามขึ้น ก่อนที่เธอจะทันพูดอะไร
"ข้าถามคำถาม ไม่ใช่เจ้ามาตั้งคำถาม" เรวดีตอบเสียงแข็ง แต่คีรินเพียงยิ้มบาง ๆ
"งั้นข้าขอถามเจ้าสักข้อ" เขาเอียงคอเล็กน้อย ดวงตาจ้องเธอเขม็ง "เจ้าเคยเห็นความมืดบ้างไหม?"
เรวดีชะงัก คำถามนั้นทำให้เธอนึกย้อนกลับไปถึงชีวิตในเมืองของเธอ เมืองที่ไม่เคยมีเงามืด เมืองที่ไม่เคยมีคืนจริง
"ไม่เคย" เธอเอ่ยเสียงเบา
"และนั่นแหละคือปัญหา" คีรินพูดขึ้น "เจ้าถูกสอนให้กลัวความมืด แต่ไม่เคยรู้เลยว่าอะไรคือแสงแท้จริง"
..."ต่อ"...
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!