ที่กระท่อมเล็กๆหลังหนึ่ง แสงแดดอันอบอุ่นสาดส่องเข้าที่หน้าต่าง กระทบเข้ากับหน้าของชายหนุ่ม ชายหนุ่มคนนี้มีใบหน้าซูบผอมเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่สามารถปกปิดใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาได้
เมื่อสัมผัสได้ถึงแสงแดดอันอบอุ่น เขาค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ นี่เช้าแล้วหรอเนี่ย ชายหนุ่มบิดตัวยืดแขนขาด้วยอาการง่วงนอน ชายหนุ่มมีชื่อว่าหวังหง อายุ16ปี เดิมทีเขาไม่ใช่คนของโลกใบนี้
เนื่องจากโรกร้ายเขาจึงเสียชีวิตลง เมื่อเขาลืมตาขึ้นเขาก็ภพว่าตัวเองได้เข้ามาอยู่ในร่างของทารกแล้ว เมื่อรู้ว่าตัวเองสามารถมีชีวิตใหม่ได้อีกครั้งหวังหงก็รู้สืกดีใจ
เพราะในชาติที่แล้วเขายังใช้ชีวิตไม่มากพอก็ตายเสียแล้วชาตินี้เขาเลยตั้งใจจะใช้มันให้คุ้มค่า
แต่เมื่อเขาเติบโตขึ้นมา ชายหนุ่มก็รู้อะไรบางอย่างอีกมากมาย ความตื่นเต้นที่จะได้ใช้ชีวิตใหม่ได้จางหายไปอย่างรวดเร็ว
แทนที่ด้วยความกลัว โลกใบนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากโลกก่อนของเขามากนัก แต่เมื่อหลายร้อยปีก่อน อุกาบาดขนาดใหญ่หลายชิ้นตกกระทบลงสู่โลกใบนี้
มันแพร่พลังงานบางอย่างออกมา สิ่งมีชีวิตหลายพันล้านต่างกลายพันไปอย่างรวดเร็ว พวกมันวิวัฒนาการตัวเองขึ้นมากลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัว
บางตัวสามารถทำลายภูผาวาลี แผดเผาแม่น้ำและทะเลให้เหือดแห้ง
เหล่ามนุษย์ชาติเมื่อเห็น พืชพันธุ์และสัตว์ร้ายวิวัฒนาการอย่างบ้าครั่ง พวกเขาเริ่มรู้สืกได้ถึงวิกิดการที่จะทำให้พวกเขาถึงจุดจบ
ไม่มีทางเลือก มนุษย์ชาติตัดสินใจใช้อาวุธที่ร้ายแรงที่สุดเพื่อทำลายล้างพวกมันก่อนที่จะสายเกินไป ระเบิดนิวเคลียที่มีรัศมีการทำลายล้างหลายร้อยไมล์ ได้ถูกปล่อยออกมา
ก่อให้เกิดภาพการทำลายล้างอันน่าสะพรึงกลัว แต่เมื่อการโจมตีสิ้นสุดลงพวกเขากลับพบว่ามันได้สายเกินไป
สัตว์ร้ายต่างๆวิวัฒนาการ ร่างกายของพวกมันทำให้สามารถทนต่อผลกระทบของรังสี และ ระเบิดได้ เมื่อเห็นการโจมตีของมวลมนุษย์เหล่าสัตว์ก็บ้าครั่งขึ้นมา พวกมันบุกโจมตีล่าและฆ่ามนุษย์ไปทั่ว
เมื่อรู้ว่าอาวุธนิวเคลียไม่สามารถทำอะไรกับพวกสัตว์ร้ายได้ เหล่ามนุษย์ไม่มีทางเลือกนอกจากจะจับอาวุธทั่วไปเช่นมีด ดาบ หอก ขวาน ชึ่งสามารถทำร้ายพวกมันได้
แต่เมื่อเวลาผ่านไปสัตว์ร้ายเริ่มบีบมนุษย์ชาติมากขึ้นเรื่อยๆ
วันหนึ่งมนุษย์บางกลุ่มก็คนพบว่า พลังงานที่แพร่กระจายและลอยอยู่ตามอากาศ สามารถทำให้ร่างกายของพวกเขาแข็งแกร่งขึ้นและวิวัฒนาการก้าวข้ามขีดจำกัดเช่นเดียวกับสัตว์ร้าย
พวกเขาเริ่มศืกสาวิจัยอย่างบ้าครั่ง หลังจากผ่านไปอย่างยาวนานมนุษย์ก็ค้นพบวิทีการดูดซัพพลังงานที่ลอยอยู่ตามอากาศ
พวกเขาตั้งชื่อพลังงานนี้ว่าปราณ ผู้ฝืกฝนที่สามารถรวบรวมปราณเข้าสู่ร่าง พัฒนาร่างกาย เพิ่มความแข็งแกร่ง ความเร็ว สัมผัสการรับรู้ที่เหนือกว่าคนทั่วไปอีกขั้น
คนเหล่านี้ถูกเรียกว่านักยุทธุ์
เมื่ออายุได้16 ทุกคนจะเริ่มเข้าทดสอบเพื่อดูว่าพวกเขาจะสามารถเป็นผู้ฝืกฝนได้หรือไม่ เช่นเดียวกับหวังหง
วันนี้เปฺ็นวันที่หวังหงต้องเข้าไปทดสอบที่ลานด้านในของเมืองชวนหยวนแห่งนี้ เมืองชวนหยวนแห่งนี้เป็นเมืองฐานระดับที่หนึ่ง
มีผู้คนอาสัยอยู่หลายล้านคน กล่าวอีกอย่างเมื่อมนุษย์ได้เผชิญหน้ากลับเหตุการสัตว์ร้ายบุก เมืองต่างๆก็ได้ถูกก่อตั้งขึ้นมาหลายแห่งเช่นเดียวกับเมืองชวนหยวนแห่งนี้
ห่างออกไปหลายพันไมล์มีเมืองอันดับหนึ่งอีกแห่งชื่อว่าเมืองหินผา
ว่ากันว่าเมืองชวนหยวนแห่งนี้มีผู้ฝืกฝนขั้นก่อสร้างอันทรงพลังเป็นผู้ปกครอง พลังของเขาไม่สามารถวัดได้สำหรับหวังหงในตอนนี้ เขาไม่มีความสำคัญอะไรเลย
โคลม...! เสียงร้องของท้องชายหนุ่มดังขึ้น เมื่อได้ยินเสียงดังกล่าวหวังหงก็รีบไปหาอะไรกินที่ห้องครัวเล็กๆของเขา
เขาอาสัยอยู่เพียงลำพัง เหตุเพราะเมื่อ6ปีก่อนพ่อและแม่ของเขา ได้ถูกว่าจ้างให้ออกไปเป็นทีมงานเก็บกู้ของทีมนักล่าบางกลุ่ม
แต่เมื่อพวกเขาออกไปนอกเมืองเพื่อทำงานนี้ตอนแรกมันก็ไปได้สวย แต่วันหนึ่งก็มีข่าวร้ายเกิดขึ้น ทีมของพวกเขาหายตัวอย่างลืกลับ และไม่ได้กลับมาอีกเลย
มีการคาดเดาว่าพวกเขาอาดจะถูกสัตว์ร้ายอันทรงพลังสังหารและถูกกินไปแล้วก็ได้
เมื่อได้ยินข่าวร้ายดังกล่าวชายหนุ่มรู้สืกเสียใจเป็นอย่างมาก ในชาติที่แล้วเขาก็เป็นเด็กกำพร้าแต่มาชาตินี้ครอบครัวของเขาก็จากเขาไปอีกครั้ง
หวังหงเป็นซึมเศร้าอยู่หลายวันแต่เพราะจิตวิญญาณอันทรงพลังทั้งสองชาติ ทำให้เขาดึงสติกับมาได้อย่างรวดเร็ว เจตนาฆ่าในดวงตาของชายหนุ่มทำให้ทั้งห้องรู้สืกเย็นชา
ใช่แล้วเขาต้องล้างแค้นให้กับพ่อและแม่เขาจะต้องกวาดล้างสัตว์ร้ายออกไปจากโลกใบนี้ หวังหงมองไปที่ฝ่ามือ ก่อนจะกำเป็นหมัดด้วยความมุ่งหมั้น
หลังจากหวังหงกินข้าวเสร็จ เขาก็อาบน้ำทำความสะอาดล้างกาย เขาหยิบเสื้อผ้าสีฟ้าเข้มที่แขนอยู่ที่หัวเตียงก่อนจะส่วมใส่ให้เรียบร้อย
แต่งตัวเสร็จชายหนุ่มก้าวเดินออกจากบ้านกระท่อมหลังเล็กของเขา มุ่งหน้าตามถนนเข้าไปที่ลานกลางเมือง
บนถนนหวังหงเห็นผู้คนมากมายพากันหลั่งไหลเข้าไปที่ลานกลางเมือง เขาเห็นเด็กรุ่นราวคราวเดียวกับเขาเป็นจำนวนมาก คนพวกนี้น่าจะไปทดสอบเช่นเดียวกับตัวเขา
สักพักในที่สุดชายหนุ่มก็มาถึงลานกลางเมือง หวังหงมองไปรอบๆก็เห็นผู้คนมากมายที่ยืนเรียงรายกันด้วยความตื่นเต้น เขารู้ดีว่าวันนี้จะเป็นวันเปลี่ยนชีวิตของใครหลายๆคน รวมถึงตัวเขาเองด้วย ถ้าเขาอยากจะแก้แค้นเขาต้องผ่านการทดสอบนี้ให้ได้ก่อน
เขาได้ยินมาว่าปีนี้สถาบันชวนไห่ชึ่งเป็นสถาบันที่แข็งแกร่งที่สุดของเมืองชวนหยวนแห่งนี้ที่เจ้าเมืองเป็นคนก่อตั้งขึ้นจะรับลูกศิษย์
ดังนั้นจึงมีผู้คนจำนวนมากเข้ามาทดสอบในวันนี้ แถมยังมีเหล่าลูกหลานของตระกูลใหญ่ของเมืองแห่งนี้อีกด้วย
ตามที่เขารู้ตระกูลมหาอำนาจของเมืองแห่งนี้ได้แก่ตระกูลโจ ตระกูลหลิน ตระกูลฟาง 3ตระกูลนี้เป็น3ตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดรองจากเจ้าเมือง ว่ากันพวกเขามีบรรพชนผู้ฝืกฝนขั้นควบแน่นอันทรงพลัง
ดังนั้นแล้วจึงไม่มีใครกล้าแตะต้องคนของ3ตระกูลนี้เลย
ดูนั่น นั่นมันนายน้อยของตระกูลโจ โจหลี่นี่น่า ไม่คิดเลยว่านายน้อยของตระกูลโจก็จะมาเข้าทดสอบด้วยเช่นกัน ชายคนหนึ่งกล่าวขึ้นด้วยเสียงดัง
เมื่อได้ยินเสียงดังกล่าวผู้คนต่างรีบหันสายตามองไปที่ๆชายคนนั้นพูด หวังหงเมื่อได้ยินคำพูดเขาก็หันกลับไปมองเช่นเดียวกัน
เขามองดูโจหลี่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นเหมือนคนอื่น ชายหนุ่มคนนี้ใส่เสื้อสีแดงกางเกงขายาวสีดำ เขามีรูปร่างสูงใหญ่หน้าตาดูสมส่วน เขาน่าจะสูง185หวังหงคิดในใจ
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นชายหนุ่มอีกคนเดินเข้ามา ชายหนุ่มคนนี้นุ่งห่มเสื้อผ้าสีเขียว รูปร่างใกล้เคียงกับโจหลี่แต่หน้าตาของเขาดูเย็นชา เขามองดูผู้คนรอบๆด้วยความเสยเมย ใช่แล้วชายคนนี้คือหลินช่ง นายน้อยของตระกูลหลินนี่หน่า
เมื่อเห็นหลินช่งเสียงผู้คนก็ดังขึ้นอีกครั้งอย่างไรก็ตามทันใดนั้นหญิงสาวเสื้อขาวใบหน้าของเธอราวกับนางฟ้าก็มิปาน หญิงคนนี้มีรูปร่างสมส่วนผิวขาวราวหิมะรูปหน้าเป็นรูปใข่ริมฝีปากของเธอบอบบางอย่างกับเด็กทารก ขนตายาว คิ้วราวกับหมึก ดวงตาสีฟ้าอันเปร่งประกาย หญิงสาวคนนี้มีชื่อว่าหว่านชิงชิง ข้างๆเธอก็มีหญิงสาวอีกคนที่มีหน้าตาที่สวยงามเช่นกัน
แต่เมื่ออยู่เคียงข้างกับหว่านชิงชิงความงามของเธอจึงถูกบดบังไป ใช่แล้วหญิงอีกคนคือฟางอี้อี้เธอเป็นลูกสาวของหัวหน้าตระกูลฟางนั้นเอง
เมื่อเห็นหญิงสาวที่ราวกับออกมาจาดภาพวาดไม่ว่าจะเป็นโจหลี่หรึแม้แต่หลินช่งที่มีใบหน้าเย็นชายังเก็บอาการไม่อยู่
ส่วนหวังหงที่มองไปที่หญิงสาวเขาก็ยืนค้างไปแล้ว เขาไม่คิดเลยในโลกนี้เขาจะได้เห็นผู้หญิงที่สวยงามราวกับนางฟ้าเช่นนี้ ชายหนุ่มยืนตกตระลึงไม่ต่างจากคนอื่นๆ
ทันใดนั้นชายหนุ่มคนหนึ่งก็เดินมาที่ข้างของหวังหงก่อนจะตบไปที่ไหล่ของเขา เมื่อรู้สืกได้ว่ามีคนมาตบที่ไหล่เขาเบาๆ หวังหงก็ได้สติคืนมาในทันที ก่อนที่เขาจะหันไปมองที่ชายหนุ่มข้างๆเขา
เห้ นายว่าผู้หญิงคนนั้นสวยใช่ไม่ละ เห็นายมองดูเธอด้วยดวงตาที่ไม่กระพริบเลย เมื่อได้ยินคำพูดของชายหนุ่มหวังหงก็ไม่ได้พูดอะไร แต่มองไปที่ชายหนุ่มอย่างเงียบๆ
เมื่อไม่ได้ยินคำตอบของหวังหง และเห็นหวังหงมองมาที่เขา ชายหนุ่มก็รู้สืกตัวก่อนจะรูปหัวตัวเองเหมือนทำอะไรไม่ถูก
ขอแนะนำตัวก่อน ฉันชื่อฟางชุนนะ แล้วเจ้าล่ะมีนามว่าอะไร
ข้าชื่อหวังหงยินดีที่ได้รู้จัก เมื่อได้ยินการแนะนำตัวของชายหนุ่มหวังหงจึงตอบกลับด้วยความผ่อนคลายขึ้น
ข้าได้ยินเมื่อกี้ว่านามสกุลฟาง หรือ ว่าเจ้าก็เป็นลูกหลานของตระกูลฟางเช่นเดียวกัน อ่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ใช่แล้วฉันก็เป็นคนของตระกูลฟางเช่นกัน นี่หวังหงที่ข้าถามเจ้าไปเมื่อกี้ยังไม่ได้ตอบข้าเลยนะ
ฟางชุนกล่าวขึ้นอีกครั้งเมื่อได้ยินคำพูดของฟางชุนหวังหงก็มีสีหน้าที่บอกไม่ถูก ก่อนที่เขาจะพยักหน้า เมื่อได้คำตอบจากหวังหง ฟางชุนก็มีสีหน้าที่เปล่งกระกาย นี่ข้ามีความลับจะบอก ข้าได้ยินมาจากพี่สาวว่าหว่านชิงชิง ไม่ใช่คนของเมืองแห่งนี้ แต่เพราะเหตุบางอย่างเจ้าเมืองจึงรับเธอเข้ามาอาสัยอยู่ที่เมืองแห่งนี้ และข้ายังรู้มาอีกว่า เธอยังเป็นผู้ฝืกฝนขั้นรวบรวมอีกด้วย
ถ้าเจ้าอยากจะตามจีบนางละก้อเจ้าต้องเป็นนักยุทธุ์ที่แข็งแกร่งให้ได้ละ
เมื่อได้ยินคำพูดของฟางชุนหวังหงก็ส่ายหัวเบาๆ ข้าไม่ได้คิดอะไรกับนางหรอก
แต่ในใจของชายหนุ่มกลับ มีคำพูดหนึ่งที่กระทบใส่เขาผู้ฝืกฝนหรอ ไม่น่าเชื่อว่าเธอที่มีอายุแค่นี้ก็เป็นผู้ฝืกฝนแล้ว
คุณต้องรู้ว่าการจะเป็นผู้ฝืกฝนได้นั้น มันไม่ใช่แค่การทดสอบผ่านเท่านั้น แต่คุณจะต้้องมีพรสวรรค์ ที่ดีอีกด้วย เพื่อจะเป็นผู้ฝืกฝนได้ เพียงอายุแค่นี้เธอก็เข้าสู่ขั้นรวบรวมเรียบร้อย
ว่ากันว่าขั้นรวบรวมเป็นขั้นพื้นฐานที่สุดของผู้ฝืกฝนมันมีทั้งหมด 4ระดับคือ ต่ำ กลาง สูง สูงสุด
ถัดไปที่สองสาวฟางอี้อี้ กระชิบเบาๆที่หูของหว่านชิงชิง พี่ชิงชิงทำไมท่านต้องมาที่นี่ด้วยทั้งที่ท่านก็เป็นผู้ฝืกฝนแล้ว เมื่อได้ยินคำพูดของฟางอี้อี้ เธอจึงตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ข้ามาที่นี่เพราะอยากจะรู้ว่าพรสวรรค์ของเมืองชวนหยวนของท่านลุงฟางต้วนแห่งนี้จะมีต้นกล้าที่ดีอยู่หรือไม่
เมื่อได้ยินคำพูดของ หว่างชิงชิง ฟางอี้อี้จึงพยักหน้า แน่นอนอยู่แล้วเมืองแห่งนี้ต้องมีต้นกล้าที่ดีแน่นอนเธอกล่าวด้วยความภูมใจ
หลังจากนั้นไม่นาน วูบ! บนท้องฟ้าลำแสงสีเขียวทอดยาวจากขอบฟ้ามุ่งหน้ามาที่ลานใจกลางเมือง เมื่อลำแสงหายไป ร่างของชายวัยกลางคนลอยอยู่กลางอากาศ
ชายคนนี้ใส่ชุดสีเทาดำ รัศมีรอบๆตัวของชายวัยกลางคนทำให้บัญยากาศกดดันและดวงตาเขาเต็มไปด้วยความเสียบแหลม
ผู้คนที่มองไปที่เขาราวกับโดนบางอย่างทิ้มแทงก่อนที่พวกเขาจะพากันตัวสั่น ชายคนนั้นจึงรีบยับยั้งรัศมีของเขากลับไป
ขอแนะนำตัวก่อนฉันมีชื่อว่าเหวินจ้าว ครั้งนี้ข้าจะเป็นคนทดสอบพวกเจ้าเอง
เมื่อได้ยินชื่อเหวินจ้าว ทุกคนก็ตกตระลึงเหวินจ้าวรึ นั้นมันผู้ทรงพลังของเมืองชวนหยวนแห่งนี้ แถมเขายังเป็นผู้ช่วยของท่านเจ้าเมืองอีกด้วย
ว่ากันว่าเขาเป็นผู้แข็งแกร่งขั้นควบแน่นอีกด้วย เหล่าผู้คนต่างพูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น
เงียบ เสียงดังอันทรงพลังดังก้องไปทั่วลานเมื่อเห็นว่าเป็นผู้ใดที่พูดขึ้นทุกคนต่างเงียบลงอย่างรวดเร็ว
เอาละถ้าอย่างนั้นพวกเรามาเริ่มการทดสอบกันเถอะ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!