NovelToon NovelToon

ดารา กระบี่ จันทรา

ตอนที่1

***นิยายเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ใดๆทั้งสิ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน***

เสียงแตรรถดังสนั่นพร้อมกับแสงไฟหน้ารถสาดจ้าเข้าตา ฉันหันขวับไปตามเสียง แต่ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วเกินไป—

โครม!

ร่างฉันกระแทกพื้น ความเจ็บแปลบแล่นไปทั่วทั้งตัว ก่อนที่สติทุกอย่างจะดับวูบไป...

———

"คุณหนู! คุณหนูฟื้นแล้ว!"

เสียงหญิงสาวแปลกหน้าแทรกผ่านม่านแห่งความมึนงง ฉันลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก ดวงตาพบเพดานไม้แกะสลักอันวิจิตร แสงเทียนริบหรี่ไหวระยับอยู่รอบตัว

เดี๋ยวนะ...ไม้แกะสลัก? เทียน?

ฉันขยับตัวลุกขึ้นนั่ง หัวหมุนเล็กน้อย มองสำรวจรอบกาย ภายในห้องเป็นแบบจีนโบราณแท้ๆ ข้าวของทุกอย่างดูเหมือนหลุดมาจากซีรีส์พีเรียด

"คุณหนู เจ้าเป็นอะไรหรือไม่?" หญิงสาวที่แต่งตัวเหมือนสาวใช้เข้ามาประคองฉันด้วยสีหน้ากังวล

ฉันขมวดคิ้ว "ที่นี่...ที่ไหน?"

ใจเต้นแรงขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ ความทรงจำสุดท้ายของฉันคือถนนในกรุงปักกิ่ง...แล้วทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่? หรือว่า...

ฉันก้มลงมองมือตัวเองที่เล็กลงผิดปกติ ก่อนจะหันไปมองกระจกทองเหลืองที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ ภาพสะท้อนที่ปรากฏทำให้ฉันต้องเบิกตากว้าง

ฉันชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะเริ่มตั้งสติ หญิงสาวตรงหน้ากำลังพูดอะไรบางอย่าง...แต่ที่แปลกคือ—เธอพูดเป็นภาษาจีน!

ฉันเข้าใจทุกคำอย่างชัดเจน ราวกับเป็นภาษาที่ฉันใช้มาตลอดชีวิต

เดี๋ยวสิ… ฉันไม่ใช่คนจีน ฉันเป็นคนไทย แล้วทำไมฉันถึงฟังออก?

ฉันขมวดคิ้ว พยายามทวนคำพูดของเธอในหัว แล้วก็ลองเอ่ยถามออกไปว่า

"ที่นี่คือที่ไหน?"

แต่เสียงที่หลุดออกจากปากฉัน—เป็นภาษาจีนเช่นกัน!ฉันชอบเรียนภาษาจีนก็จริงแต่ก็ไม่ได้ชำนาญขนาดนี้!

ฉันยกมือขึ้นปิดปาก ดวงตาเบิกกว้าง หัวใจเต้นแรงขึ้นกว่าเดิม นี่มันอะไรกัน… ฉันกำลังฝันอยู่ใช่ไหม?

ฉันสูดลมหายใจเข้าลึก พยายามควบคุมความสับสน ก่อนจะเอ่ยถามออกไปเสียงเบา

"แล้ว...ฉันคือใคร?"

หญิงสาวตรงหน้าชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะมองฉันด้วยสายตาเป็นห่วง "คุณหนูยังมึนหัวอยู่หรือไม่? ถึงขนาดลืมชื่อของตัวเองไปเลย"

ฉันกลืนน้ำลาย รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ก็รอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ

"คุณหนูคือ ซินเยว่ซี บุตรสาวเพียงคนเดียวของใต้เท้าซินหยานตง ขุนนางใหญ่แห่งราชสำนัก"

สมองฉันประมวลผลอย่างรวดเร็ว ซินเยว่ซี? ซินหยานตง? ไม่เคยได้ยินชื่อพวกนี้มาก่อน แต่ฟังดูคุ้นชะมัด ราวกับเคยเห็นที่ไหนมาก่อน...

แล้วฉันก็นึกขึ้นได้—นี่มันชื่อในเกมจีนนิยายที่ฉันเพิ่งเล่นเมื่อคืน!

ฉันเผลอเม้มปากแน่น หัวใจเต้นรัว อย่าบอกนะว่า...ฉันไม่ได้แค่หลุดมาในยุคจีนโบราณ แต่ดันมาอยู่ในร่างตัวละครที่เป็นตัวประกอบ?

ฉันรู้สึกเย็นวาบไปทั้งร่าง ร่างกายเหมือนจะชาไปชั่วขณะเมื่อความจริงบางอย่างกระแทกเข้ามาในหัว

ซินเยว่ซี...

นี่มันไม่ใช่แค่ตัวละครธรรมดา แต่เป็นตัวประกอบสำคัญของเนื้อเรื่อง—ต้นเหตุของหายนะที่ทำให้แผ่นดินลุกเป็นไฟ!

ฉันจำได้แล้ว...ในเกมนี้ ซินเยว่ซีเป็นบุตรสาวของขุนนางใหญ่ แต่เธอเป็นเพียงตัวประกอบที่มีบทแค่ช่วงต้นเรื่อง ทว่าการตายของเธอกลับกลายเป็นจุดชนวนสงครามระหว่างแคว้น!

ฉันเม้มปากแน่น พยายามรวบรวมสติ ถ้าฉันมาอยู่ในร่างของซินเยว่ซี นั่นหมายความว่า...ฉันอาจจะต้องตายเร็วเหมือนในเกมงั้นเหรอ?

ไม่...ไม่มีทาง! ฉันจะไม่ยอมจบชีวิตง่ายๆ แบบนั้นแน่!

ฉันต้องหาทางเปลี่ยนแปลงโชคชะตานี้ให้ได้!

ฉันนิ่งไปครู่หนึ่ง พยายามเรียบเรียงเหตุการณ์ในเกมที่เคยเล่น

ในเกม ตำนานใต้หล้า ซินเยว่ซีเป็นเพียงตัวประกอบที่โผล่มาในช่วงต้นเรื่อง เธอไม่ได้มีพลังยุทธ์ล้ำเลิศ หรือสติปัญญาเหนือชั้นอะไร เป็นเพียงบุตรสาวของขุนนางใหญ่ที่ใช้ชีวิตหรูหราอยู่ในเมืองหลวง แต่แล้ววันหนึ่ง…เธอกลับถูกลอบสังหาร

การตายของซินเยว่ซีไม่ได้เป็นเพียงแค่โศกนาฏกรรมของตระกูลซิน แต่กลับกลายเป็นจุดชนวนสงครามทั่วแผ่นดิน!

ทำไมกันนะ…?

ฉันขมวดคิ้วแน่น ค่อยๆ นึกถึงเนื้อเรื่องต่อไป

ใช่แล้ว… ใต้เท้าซินหยานตง ผู้เป็นบิดาของซินเยว่ซี ไม่ใช่ขุนนางธรรมดา แต่เป็นเสนาบดีฝ่ายซ้ายผู้ภักดีต่อฮ่องเต้อย่างสุดหัวใจ และที่สำคัญ—เขาเป็นผู้ถือครองรายชื่อ "บัญชีมังกร" ซึ่งเป็นรายชื่อของขุนนางและแม่ทัพที่ลับหลังอาจมีแผนการกบฏ

เมื่อซินเยว่ซีถูกลอบสังหาร ทุกคนต่างสงสัยว่ามันไม่ใช่แค่การฆ่าธรรมดา แต่เป็นสัญญาณเตือนจากพวกกบฏที่ต้องการให้ใต้เท้าซินหยานตงหยุดสอดมือในการเมือง

แต่ผลกลับตาลปัตร—การตายของเธอทำให้บิดาของเธอคลั่งแค้น เขาเปิดเผย "บัญชีมังกร" ต่อฮ่องเต้ กวาดล้างขุนนางฝ่ายตรงข้ามอย่างโหดเหี้ยม ซึ่งแน่นอนว่าทำให้พวกที่มีชื่อในบัญชีไม่อาจนิ่งเฉย พวกเขาตัดสินใจก่อกบฏ และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของสงครามทั่วแผ่นดิน!

ฉันกลืนน้ำลายช้าๆ หัวใจเต้นแรงขึ้น แสดงว่าถ้าฉันไม่อยากให้เกิดสงคราม... ฉันจะต้องไม่ตาย!

แต่มันจะง่ายขนาดนั้นจริงเหรอ? ในเมื่อซินเยว่ซีเป็นแค่ตัวประกอบไร้พลัง… ฉันจะเอาตัวรอดจากโชคชะตานี้ได้ยังไงกัน?

เดี๋ยวก่อน… ถ้าฉันไม่อยากตายและต้องหยุดสงคราม ฉันต้องมีพลังพอที่จะเอาตัวรอด

ฉันเริ่มทบทวนสถานการณ์ ฮ่องเต้มีแม่ทัพทั้งห้า—แม่ทัพไป๋แห่งเหนือ แม่ทัพลู่แห่งตะวันออก แม่ทัพหลินแห่งตะวันตก แม่ทัพหานแห่งกลาง และแม่ทัพกู้แห่งใต้ พวกเขาคือเสาหลักของแผ่นดิน หากฉันได้รับความช่วยเหลือจากพวกเขา ฉันอาจมีโอกาสเปลี่ยนชะตาตัวเอง!

แต่…ฉันจะเข้าถึงพวกเขาได้ยังไง? ในเกม ซินเยว่ซีแทบไม่มีบทบาทเกี่ยวข้องกับแม่ทัพเหล่านี้เลย ยกเว้น—

ติ๊ง!

เสียงบางอย่างดังขึ้นในหัวฉัน ฉันสะดุ้งเฮือก ดวงตาเบิกกว้าง

[ภารกิจหลักของผู้เล่น: เอาชนะใจแม่ทัพหาน!]

ฉันชะงักไปกับข้อความที่ลอยอยู่ตรงหน้า ไม่สิ… นี่มันเสียงระบบของเกม!

แม่ทัพหาน? หานอี้เฟิง?!

ฉันจำเขาได้ เขาคือพระเอกของเกม ตำนานใต้หล้า บุรุษผู้เป็นเสาหลักของแผ่นดิน กลยุทธ์เป็นเลิศ ฝีมือไร้เทียมทาน แต่เย็นชาและแข็งกร้าวยิ่งกว่าก้อนน้ำแข็งแห่งขั้วโลกเหนือ

แล้วฉันต้องไปเอาชนะใจเขายังไง?!

ฉันไม่ได้เป็นนางเอกของเกม ฉันเป็นแค่ตัวประกอบที่ควรตายไปตั้งแต่ต้นเรื่องนะ!

เดี๋ยวสิ… ถ้าฉันต้องเอาชนะใจหานอี้เฟิง นั่นหมายความว่าอะไร?

ฉันขมวดคิ้ว ระบบต้องการให้ฉันเป็นนางเอกแทนงั้นเหรอ? ไม่มีทาง! หานอี้เฟิงเป็นพระเอกของเกมก็จริง แต่คู่ของเขาคือจางเหมยลี่ นางเอกที่ฉันชอบที่สุด!

จางเหมยลี่เป็นหญิงสาวผู้เข้มแข็ง ฉลาดหลักแหลม มีเสน่ห์และกล้าหาญ สมแล้วที่เป็นนางเอกของเรื่อง เธอกับหานอี้เฟิงผ่านอุปสรรคมากมายกว่าจะรักกัน ถ้าฉันไปยุ่งเกี่ยวกับเขา นั่นไม่เท่ากับว่าฉันกำลังเปลี่ยนเนื้อเรื่องไปแย่งพระเอกของเธอเหรอ?

ไม่เอาเด็ดขาด! ฉันไม่อยากเป็นนางร้ายที่ไปขวางทางรักของพวกเขา!

แต่ถ้าฉันไม่ทำตามระบบล่ะ? ฉันจะเอาชีวิตรอดได้ยังไง…?

หรือต้องมีทางอื่นที่จะ "เอาชนะใจ" หานอี้เฟิง โดยที่ไม่ต้องทำให้เขาตกหลุมรักฉัน…?

ฉันเม้มปาก ค่อยๆ คิดอย่างรอบคอบ ถ้าฉันต้องการให้เขาช่วยฉัน ก็ต้องทำให้เขาเชื่อใจฉัน… ทำให้เขายอมรับในตัวฉัน ไม่ใช่ในฐานะคนรัก แต่ในฐานะ… พันธมิตร!

ใช่แล้ว! ฉันต้องหาทางให้หานอี้เฟิงเห็นว่าฉันเป็นคนที่เขาไว้ใจได้ และทำให้เขาตัดสินใจปกป้องฉันด้วยเหตุผลที่ไม่เกี่ยวกับความรัก!

ปัญหาคือ… ฉันจะทำยังไงให้แม่ทัพที่เย็นชาและระแวดระวังต่อทุกสิ่งเชื่อใจฉันได้?

เดี๋ยวก่อน… ฉันต้องเอาชนะใจหานอี้เฟิงจริงๆ เหรอ?

ฉันกัดริมฝีปาก รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก ถ้าฉันต้องการอยู่รอด ฉันต้องให้แม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่มาปกป้องฉัน แต่ฉันไม่อยากแย่งพระเอกไปจากจางเหมยลี่… แล้วถ้าเปลี่ยนเป้าหมายล่ะ?

ฉันเงยหน้าขึ้นก่อนจะพูดกับเสียงในหัว

"นี่คุณระบบ ถ้าไม่ใช่หานอี้เฟิงล่ะ? ถ้าเป็นแม่ทัพไป๋ ไป๋อี้เหลินแทนได้ไหม?"

ติ๊ง!

[กำลังประมวลผล…]

ฉันกลั้นหายใจ รอคำตอบของระบบ ก่อนที่เสียงไร้อารมณ์นั้นจะดังขึ้นอีกครั้ง

ติ๊ง!

[กำลังประมวลผล…]

ฉันกลั้นหายใจ รอคอยคำตอบด้วยความหวัง แต่แล้ว—

[ปฏิเสธคำขอของผู้เล่น]

[ภารกิจหลักไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้: เอาชนะใจแม่ทัพหาน หานอี้เฟิง!]

ฉันนิ่งค้างไปชั่วขณะ ก่อนจะโวยวายขึ้นมาในใจ อะไรกัน! ทำไมถึงต้องเป็นหานอี้เฟิงคนเดียว?!

"นี่คุณระบบ! ทำไมต้องเป็นหานอี้เฟิง ทำไมฉันเลือกแม่ทัพไป๋แทนไม่ได้?"

ติ๊ง!

[หานอี้เฟิงเป็นบุคคลสำคัญของเส้นเรื่องหลัก การได้รับความไว้วางใจจากเขาจะทำให้ผู้เล่นมีโอกาสเปลี่ยนแปลงโชคชะตาและอยู่รอดได้มากที่สุด]

ฉันกัดฟัน แต่นั่นหมายความว่าฉันต้องไปยุ่งเกี่ยวกับเขา ซึ่งอาจกระทบเส้นเรื่องของจางเหมยลี่!

"แล้วถ้าฉันไม่ทำภารกิจนี้ล่ะ?"

ติ๊ง!

[หากผู้เล่นไม่ดำเนินภารกิจ อัตราการรอดชีวิตจะลดลงเหลือ 3%]

ฉันเผลอกลืนน้ำลาย หัวใจเต้นแรงขึ้น สามเปอร์เซ็นต์? หมายความว่าฉันแทบไม่มีโอกาสรอดเลยน่ะสิ!

ดูเหมือนฉันจะไม่มีทางเลือกจริงๆ… ถ้าอยากมีชีวิตรอด...

ตอนที่2

***นิยายเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ใดๆ ทั้งสิ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน***

ซินเยว่ซี หรือ มู่ซี มองชายตรงหน้า—ซินหยานตง บิดาของเธอในโลกนี้

เขาเป็นบุรุษวัยกลางคนที่ยังคงดูสง่างาม แม้จะผ่านสมรภูมิมานับไม่ถ้วน เขาไม่เพียงเป็นเสนาบดีผู้ทรงอำนาจ แต่ยังเป็นอดีตยอดฝีมือที่ถูกขนานนามว่า “กระบี่บุปผาคราม” หนึ่งในผู้ที่มีเพลงดาบงดงามและแข็งแกร่งที่สุดในแผ่นดิน

และฉัน…ต้องการพลังของเขา

“ท่านพ่อ ข้าอยากเรียนระบำเพลงดาบของท่าน”

ซินหยานตงชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะเบาๆ “ลูกรักของพ่ออยากฝึกดาบอย่างนั้นรึ? เหตุใดจึงอยากจับดาบแทนพู่กันเล่า?”

ฉันยิ้มบางๆ “เพราะข้าอยากปกป้องตัวเอง และ…ข้าอยากปกป้องผู้อื่นด้วย”

โดยเฉพาะเขา… หานอี้เฟิง

ในเกม หานอี้เฟิงถูกสาปให้ไม่สามารถใช้กระบี่ได้ตลอดชีวิต เขาคืออัจฉริยะด้านกระบี่โดยกำเนิด แต่โชคชะตากลับโหดร้ายพรากสิ่งที่เขารักไป ทดแทนด้วยพลังกลยุทธ์และการบัญชาการไร้เทียมทาน

แต่เขาขาด "กระบี่" ที่จะฟาดฟันแทนเขา และฉัน…จะเป็นกระบี่เล่มนั้นเอง

ฉันจะไม่เข้าไปหาเขาในฐานะสตรีที่หวังครอบครองหัวใจเขา แต่จะเข้าไปในฐานะ “พี่น้องร่วมสาบาน” ของเขา

ซินหยานตงมองฉันนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มด้วยแววตาภูมิใจ

“ดีมากมู่ซี หากเจ้ามุ่งมั่นเช่นนี้ พ่อจะสอนเจ้าเอง”

ฉันกวัดแกว่งกระบี่ในมืออย่างมุ่งมั่น ลมหายใจหนักหน่วงจากการฝึกซ้อมมาทั้งวัน แต่ฉันไม่คิดจะหยุด ถ้าฉันต้องการเปลี่ยนโชคชะตา ก็ไม่มีเวลามาเหนื่อยหรือล้มเลิก!

ซินหยานตงมองฉันด้วยแววตาพอใจ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแต่แฝงความหมายลึกซึ้ง

“อีกสองเดือนจะมีการแข่งขันประลองฝีมือ พ่อได้รับหนังสือเชิญให้ตระกูลซินส่งคนเข้าร่วม งานนี้เชิญเฉพาะเหล่าหนุ่มสาวจากตระกูลขุนนาง เจ้าสนใจหรือไม่ มู่ซี?”

ฉันชะงักไปเล็กน้อย แต่นั่นก็เป็นเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะเงยหน้าขึ้นตอบอย่างหนักแน่น

“ท่านพ่อ ท่านมีเพลงกระบี่ดีเช่นนี้ เหตุใดข้าจะไม่สนใจเข้าร่วมประลอง” ฉันยิ้มมุมปาก ดวงตาทอประกายแน่วแน่ “ข้าต้องฝึกฝน และไปแสดงฝีมือให้ทุกคนเห็นว่าบุตรสาวตระกูลซินก็มีความสามารถไม่แพ้บุรุษเช่นกัน!”

ซินหยานตงหัวเราะเสียงดัง มือใหญ่ลูบเคราของตนอย่างพอใจ “ฮ่าๆ ดีมาก ลูกพ่อช่างทะเยอทะยานสมกับเป็นสายเลือดของข้า!”

แต่ฉันไม่ได้คิดแค่จะแสดงให้ทุกคนเห็นหรอก…

นี่คือโอกาส—โอกาสที่จะได้พบกับเหล่าแม่ทัพทั้งห้า!

งานประลองนี้คือสถานที่ที่เหล่าขุนนางและผู้มีอำนาจจะจับตามอง ฉันต้องใช้มันเพื่อให้ตัวเองเป็นที่จดจำ และที่สำคัญที่สุด—ฉันต้องทำให้ หานอี้เฟิง เห็นว่าฉันมีประโยชน์ต่อเขา!

ถ้าฉันแข็งแกร่งพอ ถ้าฉันเป็นกระบี่ที่คู่ควรกับเขา… ฉันจะสามารถเข้าใกล้เขาในฐานะพี่น้องร่วมสาบานได้!

เหลือเวลาอีกเพียงสองเดือน ฉันต้องฝึกให้หนักกว่านี้!

ร่างกายของฉันเต็มไปด้วยเหงื่อหลังจากการฝึกซ้อมตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา แต่วันนี้… เป็นวันก่อนวันงานประลอง ฉันฝึกซ้อมหนักขึ้นกว่าปกติ และขณะที่กำลังจะหยุดพัก ฮูหยินตระกูลซินก็เดินเข้ามาหาด้วยรอยยิ้มอบอุ่น

"มู่ซี ลูกแม่ พ่อเจ้ารอพบเจ้าอยู่ที่ห้องทำงาน"

ฉันพยักหน้าแล้วเดินไปตามทางในจวน ตลอดทางหัวใจเต้นแรงเล็กน้อย ไม่รู้ว่าท่านพ่อเรียกฉันไปพบด้วยเรื่องอะไร

เมื่อฉันเข้าไปในห้องทำงานของซินหยานตง ท่านพ่อกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ ข้างหน้ามีกล่องไม้แกะสลักวางอยู่ เมื่อฉันเดินเข้าไปใกล้ ท่านพ่อก็หยิบกล่องนั้นแล้วยื่นให้ฉัน

"อะไรหรอ ท่านพ่อ?"

ซินหยานตงยิ้มบางๆ "เจ้าเปิดดูเถิด"

ฉันค่อยๆ เปิดฝากล่องออก และสิ่งที่อยู่ข้างในทำให้ฉันเบิกตากว้าง—มันคือกระบี่เล่มหนึ่ง ตัวกระบี่ดูงดงามแต่น่าเกรงขาม ปลอกกระบี่ถูกแกะสลักด้วยลวดลายเมฆาอ่อนช้อย แต่เมื่อฉันลองจับ มันกลับให้ความรู้สึกหนักแน่นและมั่นคง

"ทะ...ท่านพ่อนี่มัน..."

"กระบี่เล่มนี้ พ่อให้เจ้า" ซินหยานตงพูดเสียงหนักแน่น "มันเป็นกระบี่ที่อ่อนโยนแต่เด็ดขาด เหมือนกับเจ้า มู่ซีลูกรักของพ่อ"

ฉันมองกระบี่ในมือ ก่อนจะเงยหน้ามองชายตรงหน้าฉันอีกครั้ง… ท่านพ่อของฉันในโลกนี้เป็นคนอบอุ่นเสมอ ท่านให้ความรักกับฉันอย่างแท้จริง ไม่เหมือนพ่อของฉันในโลกก่อน…

ฉันเผลอคิดไปว่า ถ้าหากในชีวิตจริงของฉันมีพ่อที่ดีแบบนี้ล่ะก็...

แต่ไม่หรอก ฉันสะบัดความคิดนั้นทิ้งไป เลิกคิดถึงอดีตได้แล้ว! สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเอาชีวิตรอด ฉันต้องรอด!

แล้วทันใดนั้นฉันก็นึกขึ้นมาได้ รีบถามเสียงเข้มขึง "นี่คุณระบบ… ถ้าฉันตายในเกมล่ะ?"

ติ๊ง!

[หากผู้เล่นตายในเกม นับว่าตายในชีวิตจริงด้วยเช่นกัน]

หัวใจฉันกระตุกวูบ บ้าเอ๊ย! ตายก็คือตายจริงๆ เหรอ?!!

ฉันกำกระบี่ในมือแน่น ฉันจะไม่ตาย! ฉันจะต้องรอด!

และพรุ่งนี้… วันประลองจะเป็นก้าวแรกของฉัน!

สนามประลองวันนี้เต็มไปด้วยเสียงอึกทึก เหล่าขุนนางจากตระกูลต่างๆ ต่างพากันจับจองที่นั่ง สนทนากันถึงการแข่งขันในวันนี้

ที่ด้านหน้าสุด กลุ่มบุรุษในชุดเกราะกำลังทักทายกันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเคารพและความคิดถึง อดีตแม่ทัพไป๋เอ่ยขึ้นก่อน

“คารวะเหล่าอดีตแม่ทัพ”

อดีตแม่ทัพคนอื่นๆ หันไปมองเขาแล้วหัวเราะเบาๆ บ้างก็พยักหน้ารับ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาต่างเป็นสหายร่วมรบกันมาก่อน แม้กาลเวลาจะผ่านไป แต่สายสัมพันธ์ก็ยังคงอยู่

ไม่นานนัก เหล่าขุนนางจากตระกูลใหญ่ต่างๆ ก็เริ่มทยอยมานั่งที่นั่งของตน สนามประลองค่อยๆ เงียบลงเมื่อเสียงหนึ่งดังขึ้น

"ฮ่องเต้เสด็จ!!!"

ทันทีที่ประกาศดังขึ้น ทุกคนในสนามต่างพากันลุกขึ้นคุกเข่า "ถวายบังคมฝ่าบาท ขอฝ่าบาททรงพระเจริญ!"

"ไม่ต้องมากพิธี" ฮ่องเต้โบกพระหัตถ์ สายพระเนตรกวาดมองทั่วสนาม "วันนี้เรามาดูเหล่าเด็กๆ ประลองกัน หากผู้ใดชนะ เราจะตกรางวัลให้อย่างดีแน่นอน"

พระองค์หยุดเล็กน้อย ก่อนจะปรายพระเนตรไปทางหนึ่ง "แต่เราได้ยินมาว่าเสนาบดีตระกูลซินส่งบุตรสาวมาประลองงั้นหรือ?"

คำพูดนี้ทำให้ขุนนางหลายคนพากันหันมองไปที่ซินหยานตงทันที บางคนกระซิบกระซาบอย่างแปลกใจ

ซินหยานตงลุกขึ้น ประสานมือแล้วโค้งคำนับ "ลูกสาวกระหม่อมเป็นเพียงสตรี แต่หากนางสนใจเรื่องใด กระหม่อมย่อมสนับสนุน"

ฮ่องเต้แค่นพระสรวล "ฮ่าๆ เช่นนั้นก็ดี เราจะรอดูลูกสาวของท่านนะ เสนาบดีซิน"

ฉันที่นั่งฟังอยู่ฝั่งผู้เข้าแข่งขัน กำมือแน่น ตระกูลขุนนางกำลังจับตามองฉัน… แม้แต่ฮ่องเต้ก็เช่นกัน

ในวันนี้ ฉันต้องทำให้พวกเขาเห็นว่าซินเยว่ซี ไม่ใช่สตรีอ่อนแอ!

เสียงประกาศจากผู้ดูแลสนามดังขึ้นอย่างก้องกังวาน

"การประลองคู่แรก—ไป๋อี้เหวิน แห่งตระกูลไป๋ ปะทะ ลู่อี้เจิง แห่งตระกูลลู่!"

เสียงฮือฮาดังขึ้นทั่วสนาม ขุนนางและแม่ทัพต่างจับตามองการต่อสู้อย่างสนใจ ไป๋อี้เหวินเป็นบุตรชายของอดีตแม่ทัพไป๋ ผู้ได้รับการยอมรับว่าเป็นอัจฉริยะกระบี่แห่งเหนือ ส่วนลู่อี้เจิง เป็นบุตรชายของแม่ทัพลู่ที่ขึ้นชื่อเรื่องกระบวนท่าอันหนักแน่นและดุดัน

ไป๋อี้เหวินเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง สวมชุดฝึกสีน้ำเงินเข้ม ใบหน้าคมคายของเขาเต็มไปด้วยความเยือกเย็น ในขณะที่ลู่อี้เจิงมีรูปร่างแข็งแกร่งบึกบึน ชุดสีแดงเข้มของเขาทำให้ดูดุดันยิ่งขึ้น

ทั้งสองคนขึ้นไปบนลานประลอง ประสานมือคารวะกันตามมารยาท ก่อนจะชักกระบี่ออกจากฝัก

“เริ่มการประลองได้!”

ลู่อี้เจิงเป็นฝ่ายเคลื่อนไหวก่อน เขาก้าวเท้าไปข้างหน้า พุ่งทะยานเข้าหาคู่ต่อสู้ กระบี่ในมือฟาดฟันลงมาอย่างรุนแรง รวดเร็วและทรงพลัง

ปัง!

ไป๋อี้เหวินยกกระบี่ขึ้นรับ แรงกระแทกทำให้พื้นกระเบื้องใต้เท้าสั่นสะเทือน แต่เขายังคงยืนมั่นไม่ขยับแม้แต่น้อย

"แรงดีนี่" ไป๋อี้เหวินกล่าวเสียงเรียบ ก่อนจะสะบัดกระบี่ในมือออกเป็นแนวโค้ง ตอบโต้กลับไปด้วยความรวดเร็ว

ลู่อี้เจิงเบี่ยงตัวหลบเล็กน้อย ปลายกระบี่ของอีกฝ่ายกรีดผ่านแขนเสื้อของเขาไปเพียงเสี้ยวเดียว แต่แรงลมจากกระบี่กลับทำให้รู้สึกได้ถึงความแหลมคม

"กระบวนท่าเร็วนัก!"

แต่เขาไม่มีเวลาคิดมาก รีบพุ่งเข้าโจมตีอีกครั้ง คราวนี้ใช้กระบวนท่าของตระกูลลู่—กระบี่อัสนีสายฟ้า หมุนตัวและฟันกระบี่ลงจากด้านบนด้วยพลังที่ทวีขึ้น

ไป๋อี้เหวินยิ้มมุมปาก เพียงใช้กระบี่บิดองศาเล็กน้อย—

เคร้ง!

กระบี่ของลู่อี้เจิงถูกเบี่ยงออกไปด้านข้าง แรงเหวี่ยงทำให้เขาเสียสมดุล ไป๋อี้เหวินไม่รอช้า เคลื่อนตัวฉับพลันเข้าไปประชิดแล้วใช้ด้ามกระบี่กระแทกเข้าที่หน้าอกของอีกฝ่าย

ปัก!

ลู่อี้เจิงถอยหลังไปสองก้าว เซล้มลงกับพื้น หอบหายใจหนัก

"ข้ายอมแพ้!"

เสียงเฮดังขึ้นทั่วสนาม

"ผู้ชนะ—ไป๋อี้เหวิน แห่งตระกูลไป๋!"

ฉันที่นั่งดูอยู่เผลอขมวดคิ้วเล็กน้อย ไป๋อี้เหวิน... เขาแข็งแกร่งขนาดนี้เชียวหรือ?

การแข่งขันเพิ่งเริ่มต้น แต่สนามแห่งนี้เต็มไปด้วยยอดฝีมือจริงๆ!

เสียงประกาศดังขึ้นก้องสนาม

"คู่ต่อไป—คุณหนูซินเยว่ซี บุตรสาวเสนาบดีซิน ปะทะ คุณชายกู้อี้เหยิน บุตรชายแม่ทัพกู้แห่งใต้!"

เสียงฮือฮาดังขึ้นทั่วสนามประลอง หลายคนต่างจับตามองศึกครั้งนี้ด้วยความสนใจ เพราะคู่ต่อสู้นั้นช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

กู้อี้เหยินเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ แข็งแกร่ง ท่วงท่าของเขาหนักแน่นดั่งขุนเขา สวมชุดสีเขียวเข้มที่บ่งบอกถึงตระกูลกู้แห่งใต้ กระบี่ในมือของเขาเป็นกระบี่ใหญ่กว่าปกติเล็กน้อย บ่งบอกถึงสไตล์การต่อสู้ที่เน้นพละกำลัง

ตรงกันข้ามกับฉัน—ซินเยว่ซี ที่รูปร่างเล็กกว่า สวมชุดสีขาวขลิบฟ้า ถือกระบี่บางเรียวที่ได้รับมาจากท่านพ่อ อ่อนโยนแต่เด็ดขาด… นี่คือสิ่งที่ท่านพ่อกล่าวไว้

ฉันสูดหายใจเข้าลึก ก้าวขึ้นไปบนลานประลอง ย่อตัวประสานมือคารวะคู่ต่อสู้

กู้อี้เหยินมองฉันก่อนจะหัวเราะเบาๆ "คุณหนูซินแน่ใจหรือว่าต้องการประลองกับข้า?"

"แน่นอน" ฉันตอบเสียงเรียบ ดวงตาแน่วแน่ "โปรดอย่าออมมือ"

"เริ่มได้!"

ทันทีที่เสียงเริ่มดังขึ้น กู้อี้เหยินก็กระโจนเข้าหาฉันทันที กระบี่ของเขาฟาดลงมาด้วยพลังมหาศาล

แรงมาก! ฉันเบี่ยงตัวออกด้านข้างอย่างว่องไว ลมจากคมกระบี่เฉียดแก้มไปเพียงเสี้ยววินาที

กู้อี้เหยินไม่ได้หยุด เขาหมุนตัวและโจมตีต่อเนื่อง พละกำลังมหาศาลแบบนี้ ถ้าหากปะทะตรงๆ ฉันแพ้แน่

ฉันเปลี่ยนแผน ใช้ความเร็วเป็นข้อได้เปรียบ สองเท้าของฉันเคลื่อนที่ไปรอบตัวกู้อี้เหยิน ไม่ให้เขาจับจังหวะได้ กระบี่ในมือบางเบาเหมือนสายลม แต่แหลมคมทุกการฟาดฟัน

ฉวับ!

ปลายกระบี่ของฉันตวัดไปที่แขนเสื้อของกู้อี้เหยิน ขาดสะบั้นเล็กน้อย ทำให้เขาต้องถอยหลัง

"เจ้าว่องไวนัก!" เขาพูดด้วยรอยยิ้ม แต่น้ำเสียงเริ่มจริงจังขึ้น

ฉันไม่ให้โอกาสอีกฝ่ายโจมตีสวน รีบพุ่งเข้าไปอย่างฉับไว กู้อี้เหยินฟันกระบี่ลงมาอีกครั้ง ฉันตวัดกระบี่ขึ้นรับแต่ไม่ได้ปะทะตรงๆ ฉันใช้แรงจากการกระแทก บิดข้อมือเล็กน้อย เปลี่ยนทิศทางของกระบี่เขา ทำให้เสียสมดุล

และก่อนที่เขาจะตั้งหลักได้ ฉันพุ่งตัวไปด้านหลังเขา ปลายกระบี่ชี้ไปที่หลังของกู้อี้เหยิน

"เจ้าแพ้แล้ว" ฉันกล่าวเสียงเรียบ

สนามเงียบลงไปชั่วขณะก่อนที่เสียงฮือฮาจะดังขึ้น

กู้อี้เหยินชะงักไปก่อนจะหัวเราะเบาๆ "ฮ่าๆๆ ข้าประมาทไปจริงๆ เจ้าไม่เพียงแต่เร็ว แต่ยังรู้จักใช้พลังของข้าให้เป็นประโยชน์อีกด้วย!"

เขาหันมาก่อนจะประสานมือให้ฉัน "ข้ายอมรับความพ่ายแพ้"

เสียงประกาศดังขึ้น

"ผู้ชนะ—คุณหนูซินเยว่ซี แห่งตระกูลซิน!"

ฉันเก็บกระบี่เข้าฝัก ถอนหายใจเล็กน้อย สำเร็จแล้ว! ฉันผ่านรอบแรกได้!

แต่ขณะที่ฉันกวาดสายตามองไปรอบสนาม ฉันก็พบว่ามีสายตาหลายคู่จับจ้องมาที่ฉัน—รวมถึงหนึ่งในนั้น… หานอี้เฟิง

เขานั่งอยู่บนอัฒจันทร์ ดวงตาเรียบนิ่ง ไม่ได้แสดงความรู้สึกใดๆ แต่ฉันรู้ว่าเขาได้เห็นการต่อสู้ของฉันแล้ว

หานอี้เฟิง… ฉันจะทำให้เจ้ารู้ ว่าข้าจะเป็นกระบี่ที่คู่ควรอยู่ข้างเจ้า!

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!