NovelToon NovelToon

การผจญภัยของนักเดินทาง

บทที่1 สำรวจเมืองแห่งการค้า..

สหวัดดียามว่างครับผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ผมได้เขียนมัยอาจมีการใช้ภาษาและไวยากรณ์ผิดพลาดไปบ้างแต่ยังไงก็สามารถติชมกันได้เสมอนะครับ ขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งครับ

เอาล่ะเราพูดกันมาพอแล้ว…ผมจะพาคุณไปพับกับโลกที่ผมสร้างขึ้น ผมหวังว่าคุณจะชอบมันนะครับ ขอให้โชคดีครับ…

.

.

.

ซะที่ไหนเล่า~ ผมยังต้องบอกคุณอีกว่าเพื่อความอ่านง่าย เราจะมาเล่ากันทีละเมืองเพื่อความเข้าใจง่ายกันนะครับ เอาล่ะผมจะปล่อยคุณจริงๆแล้วขอให้สนุกนะครับ~

 

*เมื่อสิ้นสุดเสียงของผู้บรรยาย ที่กำลังส่งข้อความไปถึงคุณ เค้าก็เปิดสมุดพร้อมส่งรอยยิ้มให้คุณเหมือนกับเด็กน้อยที่กำลังจะอวดผลงานที่เค้าทำให้คุณได้รับชม*

 

โครงสร้างที่1 เมืองแห่งการค้า ดรีมซีตี้..

 

             แสงแดดที่สาดส่องต้อนรับสู่วันใหม่ของดรีมซีตี้ มาพร้อมกับเสียงสาดกระทบของคลื่นทะเลที่ฟังแล้วช่างจรรลงใจ.. ผู้คนมากมายต่างตื่นแต่เช้าเพื่อเริ่มทำกิจวัตรประจำวันของพวกเค้า

 

เมื่อคุณได้ย่างก้าวเข้ามาในเมืองแห่งนี้เป็นครั้งแรก ก็จะพบว่าเมืองท่าน้ำแห่งนี้ช่างดูคึกคักและ ทั้งผู้คนที่ยิ้มแย้ม บ้านเมืองที่เก่าแก่เต็มไปด้วยเรื่องราว..

รวมถึงท่าเรือที่ใหญ่โตและกลิ่นอายเสน่ห์ที่น่าดึงดูดอย่างบอกไม่ถูก คุณค่อยๆสูดดมอากาศยามเช้าเข้าปอด คุณก็จะพบว่าได้กลิ่นเค็มอ่อนๆจากทะเลนั้นลอยโชยมาเข้าจมูกของคุณอย่างแผ่วเบา ใช่... ถึงจริงๆมันอาจมีกลิ่นคาวปลาปะปนมาบ้าง แต่คุณก็อย่าไปอยู่ไกล้มันสิถูกมั้ย  ค่อยๆเดินห่างมันออกมา.. ใช่แบบนั้นแหล่ะถูกแล้วว

 

คุณที่กำลังมองซ้ายแลขวาเพื่อสำรวจเส้นทางระหว่างเดินคุณก็จะสังเกตุได้..

 

ดรีมซิตี้แห่งนี้ทั้งผู้คนมีอยู่หลากหลายเชื้อชาติไม่มีการแบ่งเชื้อชาติหรือเผ่าพันธุ์ไหนๆ พวกเค้าต่างอยู่ด้วยกันอย่างกลมเกลียว มันช่างเป็นภาพที่ท่าได้พบเห็นแล้วคุณจะชื่นใจกับมันแน่นอน และหากคุณเดินต่อไปอีกเล็กน้อย คุณก็อาจจะเริ่มสับสนกับเส้นทางของดรีมซิตี้ไม่มากก็น้อย เพราะการที่ดรีมซิตี้เป็นเมืองหลวงขนาดใหญ่..

เพราะสิ่งปลูกสร้างของที่นี่ มันเคยเป็นเมืองเก่ามาก่อน ก่อนที่จะสร้างโครงการเมืองหลวงทับอีกที.. มันจึงทำให้ตั้งแต่ชานเมืองที่1กับเขตุกลางเมืองที่2 มีโครงสร้างเมืองที่ซับซ้อนจนเหมือนกับเขาวงกตขนาดใหญ่

 คุณคิดคงว่ามันซับซ้อนขนาดไหนล่ะก็ มันถึงขั้นที่ว่าที่คุณมาคนเดียวแล้วหลงในนั้น คุณอาจใช้เวลาเป็นอาทิตย์เพื่อที่จะออกมาเลยก็ได้ แต่ด้วยที่ยุคนี้มีเทคโนโลยีมาเพิ่บทบาทช่วยพวกเราอย่างเต็ประสิทธิภาพ

 คุณจะได้พบกับป้ายบอกทางดิจิตอลที่ถูกติดตั้งเอาไว้ตามจุดสำคัญของแต่ละพื้นที่ เช่นสถานีตำรวจหรือตามซุปเปอร์มาร์คเก็ตชั้นนำ รวมทั้งตลาดขายปลาในแต่ละที่อีกด้วย เพราะแบบนั้นสบายใจได้ขอแค่คุณไปยืนอยู่ตรงนั้นแล้วกดเลือกเส้นทางที่จะไป มันก็จะส่งข้อมูลผ่านเข้าไมโคลชิปที่ถูกติดตั้งไว้ที่แว่นตาหรือส่วนอื่นที่คุณสดวกติดตั้งของคุณ.. แล้วเดินตามเส้นทางไปได้เลย

 

แต่ไม่นานทางเดินที่ขดเขี้ยวกับเส้นทางที่ชวนมึนหัวมันก็เริ่มชักจะทำให้คุณทั้งเหนื่อยล้าและหมดกำลังใจเป็นอย่างมาก ใช่ผมรู้คุณมีแผนที่แล้วแต่มันก็ไม่มากพอที่จะทำให้คุณเดินทางง่ายขึ้นหรอกนะ คุณจะต้องใช้อะไรทุนแรงซะหน่อย~ เช่นเรือยังไงล่ะ?

คุณก็อาจจะคิดหรืออยากจะถามว่า “ทำไมเราไม่นั่งรถยนต์หรือมอเตอร์ไซไปล่ะ” ผมก็อยากจะบอกเลยว่า เรื่องนั้นเราทำได้ แต่สำหลับดรีมซิตี้เมืองท่าน้ำที่ใหญ่ที่สุดเลยนะ! แถมตัวเมืองเองก็ไม่ได้ถูกออกแบบด้านการเดินทางบนบกให้สะดวกมากนัก

เพราะสาเหตุหลักๆเกิดมาจากแผนผังเมืองที่คดงอ เหมือนกับเส้นเกี๋ยวเตี๋ยวและน้ำทะเลที่มักจะกัดเซาะสิ่งปลูกสร้างกับพื้นผิวอยู่เสมออาตไมีเหมาะมากนักที่จะมุ่งเน้นโฟกัสการเดิตทางบก

 

คุณแค่ต้องหลับตาเงียบหูฟังซักนิด.. ก่อนที่จะค่อยๆเดินตามเสียงคลื่นกระทบเบาๆแล้วเดินออกมาจากมุมมืดของซอยที่คุณกำลังหลงทางอยู่

 

คุณก็จะได้พบกับสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดของที่นี่นั่นก็คือเส้นทางขนส่งทางสัญจรทางน้ำที่มีทั้งทางตรงและซอกซอยทางน้ำต่างๆ ซึ่งมันเป็นเหมืนกับหัวใจของเมืองแห่งนี้เลยล่ะ ใช่! ผู้คนที่นี่ใช้เรือขนาดกลางกับเล็กในการสัญจรยังไงล่ะ มันอาจดูโบราณแต่ วิธีนี้มันทั้งสดวกว่องไวอย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะ ยิ่งเมื่อรวมกับการออกแบบ แผนผังเมืองแห่งนี้ มันช่างลงตัวยิ่งเสียมากกว่าเดินทางบนบกซะอีก

 

เมื่อคุณได้ตื่นตากับมันมาพอแล้ว คุณจึงตัดสินใจที่จะลองใช้เรือเช่าที่อยู่แถวนั้นเพื่อทดลองสิ่งใหม่ที่คุณกำลังได้พบด้วยความตื่นเต้น คุณก้าวเท้าเข้าไปยืนบนเรือเล็กที่ดูแปลกตา มันค่อยข้างเล็กมากจริงๆ เมื่อเทียบกับขนาดตัวของคุณ คุณคงสงสัยสินะว่าเราจะขับมันยังไง?

 

มันง่ายมากๆเลยล่ะ เพราะเรือนี้ไม่ได้มีไว้นั่ง แต่มันทำหน้าที่เหมือนกับเซิฟบอดเคลื่อนที่ แค่คุณทรงตัวให้ดีแล้วตั้งท่าเหยียบคันเร่งที่อยู่ตรงด้านหน้าเท้าซ้ายหรือขวาของคุณแล้วพร้อมจับปลายเชือกเล็กๆเชือกตรงหัวเรือให้แน่น คุณก็จะบังคับทิศทางและความเร็วของมันได้ตามใจต้องการ ถึงแม้คุณอาจต้องใช้เวลาปรับตัวกับมันซักหน่อยก็ตาม

 

แต่เมื่อมาถึงจุดที่คุณสามารถควบคุมมันได้ดังใจ มันก็ง่ายเหมือนกับปั่นจักรยานนั่นแหล่ะแถมยังสนุกอีกด้วยตอนนี้คุณกำลังใช้เซิฟบอดโลดแล่นไปรอบๆของเมืองดรีมซิตี้ คุณเหมือนกำลังกลายเป็นนักกีฬาเอ็ดตรีมเลยล่ะ

ในระหว่างที่คุณนึกสนุกเหยียบคันเร่งเพื่อเร่งความเร็วจนสุดแล้วกระโดดส่งตัวเองและเซิฟบอดลอยผ่านเข้ามาสะพานเล็กและผ่านหัวผู้คนที่เดินผ่านข้ามสะพานไปมาอย่างไม่ยากเย็น จนสุดท้ายคุณก็มาถึงจุดหมายที่คุณได้มาร์คกิ้งเอาไว้ พร้อมกำลังแอบคิดว่าคุณอาจต้องเก็บเงินไว้ซื้อเซิฟบอดของตัวเองบ้างซะแล้ว ฮุฮุ~ผมบอกแล้วว่ามันสนุก

 

ระหว่างที่คุณกำลังฟังผมบรรยาย คุณก็เหมือนจะสังเกตุกับสิ่งรอบข้าง คุณก็ยิ่งต้องตื่นตะลึงเมื่อได้พบเห็นกับตึกอิฐอาคารผสมไม้ที่เรียงรายกันอยู่เต็มไปหมด ตอนนี้คุณมาถึงเขตุที่กลางเมืองที่2แล้ว คุณเดินไปรอบๆก็จะพบว่าอาคารที่นี่ไม่ได้ดูต่างกับเขตุชานเมืองซะเท่าไหร่ แค่อาคารที่นี่นั้นดูมีความหรูหราและใหม่กว่าอาคารในเขตุชานเมืองที่1ก็เท่านั้น และจุดสังเกตอีกอย่างที่นี่จะมีแต่ร้านขายสินค้าแปลกตาที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อนไม่ว่าจากที่ไหน คุณตาลุกวาวและอยากที่จะรีบวิ่งไปดูสิ่งใหม่ๆโดยรอบแต่ให้ตายสิผมต้องห้ามคุณเอาไว้ก่อน เพราะอะไรน่ะหรอก็ผมกลัวว่าคุณจะโดนรีดไถน่ะสิ

 

*ผู้บรรยายแอบมองไปรอบเหมือนกำลังระวังบางอย่างก่อนที่จะพูดกระซิบข้างหูคุณ*

 

แม้ที่นี่มันจะดีและน่าตื่นตาแค่ไหน แต่คุณก็ต้องรู้เอาไว้เสมอนะ ที่นี้เองก็มีมุมมืดของมันเหมือนกับทุกๆเมืองที่คุณกำลังเดินทางไปต่อหลังจากนี้ อย่างแรกคุณไม่ควรเดินไปตามมุมมืดของเมืองชั้นกลางแค่คนเดียว เพราะเมืองการค้าแห่งนี้บางส่วนถูกปกครองด้วยแก๊งมาเฟียที่โหดเหี้ยมมากๆ เจ้าพวกนั้นมันมีการลักลอบค้ามนุษย์และสิ่งผิดกฏหมายผ่านที่นี่ยังไงล่ะ และคุณก็อย่าเอาเรื่องเจ้าพวกนี้ไปพูดมั่วจะดีกว่า เพราะคนของมันมีทุกที่ และมันคงไม่ยากเลยท่ามันอยากจะปิดปากคุณยิ่งคุณเป็นแค่นักท่องเที่ยวแล้วมันจัดการได้ง่ายเลยล่ะ เพราะแบบนั้นโปรดระวังไว้ผู้อ่านที่น่ารักของผม~ 

 

คุณพยักหน้าตอบเหมือนเข้าใจกับสิ่งที่ผู้บรรยายเตือน คุณเก้าเท้าเดินไปอย่างระวังเพราะรู้สึกเกร็งกับสิ่งที่ได้บอกมา แต่อย่าเกร็งขนาดนั้นเลยท่าคุณเดินเที่ยวตามถนนเส้นหลักมันก็ปลอดภัยแน่นอนอยู่แล้ว เพราะยังไงเมืองแห่งนี้เองก็มีกฏหมายนะ ท่าพวกนั้นโดนจับได้ก็คงจะเจ็บหนักเหมือนกันเพราะงั้นสบายใจเถอะ~

 

.

.

.

 

เวลาผ่านล่วงจนถึงช่วงเย็น.. คุณรู้สึกเหนื่อยล้าเต็มทีกับการเดินเที่ยวทั้งวันโดยไม่หยุดพักเลย ตอนนี้คุณแค่หย่อนตัวนั่งลงม้านั่งริมทาง พร้อมจิบน้ำมะพร้าวที่คุณซื้อมาเดินกินระหว่างทางจนผู้บรรยายเองก็ชักจะหิวจนอยากจะเอามาจิบกินบ้างซะแล้ว

 

แต่ทันใดนั้นคุณก็คิดได้ว่า คุณเองก็ไม่ได้มาแค่สนุกอย่างเดียวนี่น่า คุณตัดสินใจที่จะลุกขึ้นยืนแล้วมุ่งตรงเข้าไปในมุมมืดที่เป็นเส้นทางเดียวให้คุณ “แอบ” เข้าไปในเขตุที่3ขอบเทองดรีมซีตี้ได้ ที่นี่แทบเรียกว่าไม่มีอะไรเลยมีแต่ท่อทางเดินน้ำที่ถูกโยงส่งไปหาระหว่างกันจนยิ่งคุณดูมันยิ่งชวนปวดหัวเหมือนกับคุณกำลังแก้สายหูฟังที่พันกันในกระเป๋า คุณหลับตาเพื่อปรับสมดุลของตัวเองใหม่ก่อนที่จะมุ่งตรงเดินต่อไปเพื่อเก็บข้อมูล

 

จนถึงตอนนี้คุณก็ยังเห็นแต่ท่อทางเดินน้ำที่มีทั้งเก่าและใหม่อยู่ตลอดแนวทางที่คุณเดิน แต่คุณก็จะตระหนักรู้ได้เองว่าสิ่งที่คุณกำลังเห็นมันก็คือเครื่องบำบัดน้ำขนาดยักษ์!  ก็เพราะคุณหันไปเจอสติ๊กเกอร์มันเขียนติดไว้โมงนั้นแหล่ะนะ พวกเค้าสูบน้ำทะเลมาทำให้กลายเป็นน้ำจืดนั้นเอง แต่ทำยังไงกันล่ะ? เรื่องนี้คุณอาจยังไม่จำเป็นต้องรู้เพราะบางสิ่ง.. ที่อยู่ตรงหน้าของคุณนั้นน่าสนใจยิ่งกว่า

 

“เฮ้ย!  แกเป็นใครวะต้องการอะไรจากฉัน ยาม! ยามอยู่ไหน!?”

 

เสียงโวยวายของชายแก่ คนนึงดังขึ้นจากมุมมืดตามทางเดินที่คุณไม่รู้จัด เสียงฝีเท้านั้นกำลังวิ่งหนีและมุ่งมาถึงทางเดินที่คุณกำลังอยู่ในคณะนี้ คุณจึงตัดสินใจที่รรบย้ายตัวเองเข้าไปในหรืบแคบที่คุณผ่านมา เพื่อใช้มันเป็นที่กำบังและหลบจากชายแก่แปลกหน้า

 

และดูเหมือนว่าชายแก่คนนี้เค้ากำลังหนีบางอย่างที่น่ากลัว..แต่ดูสิชายแก่คนนี้แต่งตัวหรูหรากับใส่ชุดสูทราคาแพงมันอาจไม่แปลกก็ได้ที่อาจจะโดนปล้น แต่ในเหตุ3 ของดรีมซิตี้เนี่ยนะ เแม้ระบบเฝ้าระวังอาจไม่ดีเท่าที่อื่น แต่มันก็ดีพอที่จะกันโจรกระจอกหรือพวกมาเฟียหรือจากเขตุที่2ได้สบายๆแท้ๆ แล้วคำถามก็คือ.. อะไร?

ที่กำลังไล่ล่าตัวของชายแก่.. แต่ทว่าชะตาก็อยากจะเล่นตลกเมื่อชายแก่เบิกตามองไปรอบๆตัวเค้าก็เจอแต่ทางตันที่มีเพียงกำแพงและท่อทางเดินน้ำล้อมเกือบทุกทิศทางเหลือไว้แต่เพียงทางเข้าที่เค้าวิ่งพลัดหลงเข้ามา

ชายแก่กัดฟันกรอดๆ เมื่อเค้ารู้ว่าไม่สามารถหนีไปไหนได้อีกแล้ว เพราะร่างที่อ้วนท้วมสมบูรณ์ของเค้านั้นมันใหญ่เกินไปที่จะมุดตัวเองเข้าไปในหรืบแคบๆได้หมด

 

“ ไม่..ฉันจะมาจบตรงนี้ไม่ได้ ต-ติดสิวะ ใครก็ได้ ใครก็ได้..!? รับสายที.. “

 

มือที่อ้วนท้วมและสั่นเทาของชายแก่กดสวิทช์ เล็กๆตรงนานิกาฬข้อมือเพื่อส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือจากยามที่อยู่ระแวกไกล้เคียง “ซี๊..ซี๊..ซี๊- กึก...ซ่าาาาาา “  แต่ช่างน่าเสียดายไม่มีใครตอบรับเหลือไว้เพียงแต่เสียงดังซ่า ราวกับว่าสัญญากำลังถูกบางสิ่งนั้นรบกวนอยู่

 

ชายแก่กดซ้ำเปิดปิดสัญญาณวิทยุแล้วซ้ำอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถติดต่ออะไร จนสติของเค้านั้นเริ่มจะเลื่อนลอยจนระเบิดอารมณ์ที่ขาดความยั้บยั้งชั่งใจไป

 

“ อ-อะไรวะ! ทำไมนี่มันเกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย ฮ-เฮ้ย..เฮ้ย!? ไม่มีใครตอบเลยรึไง พวกแกอยู่ไหนกัน!!? “

 

เสียงชายแก่สิ้นหวังจนเกือบขีดสุด เหงื่อแตกพรักออกมาจนเหมือนกับก๊อกน้ำรั่ว สายตากรอกไปมาอย่างผว้าผวงและมันยิ่งหนักข้อขึ้น เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะที่ลอยตามมากับสายลม จนบางทีตัวคุณเองที่กำลังแอบดูอยู่นั้นก็รู้สึกขนลุกตามอย่างช่วยไม่ได้ หัวใจของคุณเต้นแรงเกือบจะหลุดออกมาแต่มันกลับยิ่งทำให้คุณอยากเฝ้าดูมันมากขึ้นอีก

 

“ อยู่ไหนกันน้า~ เฮ้! ตาแก่มาเล่นกันอีกหน่อยสิ ฉันได้ยินเสียงอ้วนๆของแกน้า กริมแฮม.. คิดหรอว่าแกจะพาพุงพลุ้ยๆของแกไปหลบอยู่ไหนน่ะหืม ”

 

เสียงหัวเราะอันสุขสันต์ที่แฝงไปด้วยความคลั่งแค้นที่ฝังอยู่เต็มอก มันพรั่งพรูออกมาจากน้ำเสียงของชายปริศนาและชายปริศนาคนนี้ ยังยิ้มชื่นตาบาด เหมือนกับเด็กน้อยที่กำลังตื่นเต้นที่กำลังจะได้เปิดของขวัญจากซานต้าคอสเค้าเดินก้าวเท้าไปอย่างมั่นคง ก่อนที่จะหยุดอยู่ตรงทางเดินแห่งนึงที่เหลือเพียงทางเลี้ยวแค่ทางเดียวแล้วที่เค้าจะต้องไป... ชายหนุ่มปริศนากรอกตาที่เหลืออยู่ข้างเดียวของไปมาด้วยความตื่นเต้น เพราะเค้ามั่นใจ ใช่..มั่นใจมากๆ ว่าของเล่นของเค้าแอบอยู่ที่นี่แน่ๆ แต่เพราะความตื่นเต้นของชายหนุ่มปริศเค้าจึงเดินกระโดดโล้ดเต้นไปมาเหมือนกับตัวตลกในการ์ตูน..

ชายหนุ่มปริศนา.. เหลืออีกเพียงไม่กี่ก้าวเค้าก็จะถึงจุดมุ่งหมาย~ ชายหนุ่มปริศนาจึงตัดสินใจ พุ่งตัวไปพร้อมกับปืนพรูกระดาษวันเกิดเพื่อที่จะเซอร์ไพรส์เหยื่อของเค้า~!

 

“ ทาด้า! เจอ~ ตัว แล้ว ฮ่า!! “

 

“ เอ๋..... อะไรกัน..;( “

 

“ ไม่อยู่งั้นหรอเนี่ย..ไม่น่าเป็นไปได้นี่น่า ฉันว่าฉันมั่นใจว่ามันอยู่ที่นี่นะ.. ฉันน่าตะต้องไปถามบิลลี่ซักหน่อยว่าไอ้แก่นั้นอยู่ไหน “

 

รอยยิ้มของชายหนุ่มปริศนากลับหายไปเหลือไว้แต่เพียงปืนพรุกระดาษที่ยิงกระดาษออกมากระจายเต็มพื้น ใบหน้าของเค้ายังเหมือนเดิมแต่สายตากับมืดลงเหมือนกำลังโกรธและผิดหวัง เค้ากำหมัดแน่นก่อนที่จะด้วยท่าเดินก้าวเท้าตึงตังเหมือนเด็กที่กำบังประชดประชัน..;(

 

ตัดมาอีกมุมนึงชายแก่อ้วนไม่ได้หายไปไหน เค้าแค่เพียงตัดสินใจที่จะฝืนยัดตัวเองเข้าไป ตามซอกหลืบแคบๆ ของท่อทางเดินน้ำอย่างจำใจเพราะเค้าจะต้องยอมให้เสื้อสูทราคาแพงของเค้ามีรอยฉีดขาดเล็กน้อยเพราะยังไงตอนนี้ขอแค่ชายแก่รอดชายแก่ก็พร้อมจะทำหมดทุกอย่างอยู่แล้ว ท่าไม่ตายก็จะสูทกี่ตัวก็ได้นั้นแหล่ะ.. แต่ชายแก่ก็ยังไม่วางใจมากนัก เค้ามองไปรอบทางเดินอย่างระมัดระวังอีกครั้ง และเมื่อชายแก่รู้ว่าชายหนุ่มไปแล้วจริงๆ ใบหน้าของเค้าก็เริ่มมีรอยยิ้มราวกับผู้ชนะขึ้นมานิดน้อยผิดกับตอนแรกที่เค้ากลัวแทบตายและตอนนี้ชายแก่ดันตัวเองออกมาจากซอกหลึบด้วยความยากลำบาก แต่เมื่อออกมาได้เค้ากับหัวเราะคิกๆอย่างสะใจที่หนีรอดมาจนได้

 

“ เหอะ นึกว่าจะแน่ สุดท้ายเก่งให้ตายก็หาฉันไม่เจอหร๊อก~! กร๊ากๆคั่กๆๆ “

 

ชายแก่หัวเราะชอบใจจนพุงของเค้ากระเพื่อมไปตามจังหว่ะที่หัวเราะของเค้า และยิ่งชอบใจขึ้นไปอีกเมื่อรู้ว่าตัวเองรอดได้ดุจปาฏิหาริย์ ชายแก่รีบกดเรียกส่งสัญญาณอีกครั้งและครั้งนี้ก็ติดต่อได้เสียที..

 

“ เฮ้ย พวกแกรีบมารับฉันที่โซน13ทีสิวะ ไอ้พวกไม่ได้เรื่องไหงปล่อยให้พวก อาชญากรสงครามตัวเป้งเข้ามาไล่ล่าคนอย่างชั้นได้วะ!! ท่าฉันออกไปได้ฉันรายงานเบื้องบนแน่!”

 

“ เออรีบมาด้วย แค่นี้ล่ะ! “

 

“ ชิ.. ไอ้พวกรากหญ้าจากเขตุกลางแม่งไม่ได้เรื่องซักคน แต่ช่างมันเถอะ.. คราวต่อไปฉันจะเอาคืนแกเป็น10เท่าแน่..ไอ้ชาติหมา “

 

ชายแก่พูดกับตัวเอง พร้อมยืนมองไปรอบๆอย่างร้อนรน

 

“ ท่านรองนายกฮิมแกรมครับขอโทษที่ทำมห้รอเสียนานนะครับเป็นอะไรมั้ยครับ! “

 

แต่ไม่นานก็มีเสียงของยามหนุ่มคนนึงเปิดแสงไฟฉายสาดมาที่ตัวของเค้า ชายแก่เมื่อรู้ดังนั้นเค้าจึงรีบหันตัวไปเตรียมจะด่ายามหน้าใหม่เพื่อระบายอารมณ์ของเค้าที่เจอเรื่องซวยๆมาทั้งคืน.. แต่ชายแก่ก็ยังไม่ทันอ้าปากที่จะพูดคำใดๆ หัวใจของชายแก่ก็เคิ่มเต้นแรงอีกครั้ง เพราะสิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าของขายแก่นั้นไม่ใช่ยามหนุ่ม แต่เป็นชายหนุ่มปริศนาคนนั้นนั้นเอง

 

ชายหนุ่มปริศนาหัวเราะคิกคักราวกับว่าเค้าหลอกชายแก่ให้เชื่อได้จนสนิทใจ แต่แหมเรื่องแค่นี้ชายแก่ก็สมควรจะคิดได้นะ ไม่คิดบ้างหรอทำไมจู่ๆเครื่องสัญญาของเค้าถึงใช้ได้น่ะ น่าสงสารจริงๆ

 

ชายแก่เมื่อรู้แบบนั้น เริ่มมีใบหน้าที่ดูจองหองของเค้าก็เริ่มบิดเบี้ยวเพราะรู้ว่าตัวเองประมาทเกินไปและตอนนี้ก็ไม่มีหนทางให้หนีในตอนนี้อีกแล้ว ชายแก่ทำได้แค่เดินถอยหลังไปเรื่อยๆจนสุดท้าย แผ่นหลังของชายแก่ก็แนบชิตติดกำแพงเหล็กเย็นๆ  ไม่ต่างกับหมาจนตรอก

 

ส่วนคุณที่กำลังแอบดูอยู่เองก็ไม่อาจวางสายตาจากเหตุการที่น่าสะพึงแห่งนี้ไปได้ คุณทำได้แค่แอบปีนป่ายขึ้นไปหลบอยู่ข้างบนท่อส่งน้ำขนาดใหญ่เพื่อที่จะได้มั่นใจว่าตัวคุณจะปลอดภัยจากภัยอันตรายข้างล่างที่กำลังจะเกิดขึ้น คุณจับจ้องไปที่ชายแก่ที่ดูน่า สมเพชมากกว่าน่าสงสาร เพราะดูก็รู้คนแบบนี้ไม่น่าจะใช่คนดีหรอก

ชายแก่พยายามยกมือไหว้ขอร้องอ้อนวอนให้อีกฝ่ายช่วยปรานีตัวเค้าด้วย อยากได้อะไรเค้าก็จะให้ ชายหนุ่มปริศนาเมื่อได้ยินดังนั้นก็หยุดนิ่งราวกับว่าเค้าสนใจข้อเสนอของชายแก่ เค้าแกล้งทำเป็นคิดอยู่พักนึงเหมือนกำลังให้ความหวังกับอีกฝ่าย แต่เค้าก็เผยรอยยิ้มที่บิดเบี้ยวก่อนที่จะเดินเข้ามาไกล้อีกและไหล่เรื่อยๆ พร้อมเอ่ยเพื่อตอกย้ำ

“อยากได้อะไรงั้นหรอ..มีสิ~ เอาแขนกับลูกตาแกมาให้ฉันสิแล้วฉันจะปล่อยนายไป ท่านรองนายก ฮิมแกรม~ “

ชายแก่เมื่อได้ยินดังนั้นเค้าก็อับจนหนทางและลนลานเกินกว่าจะตอบโต้อะไรได้ และยิ่งเสียงฝีเท้าของชายหนุ่มปริศนามันก็ค่อยๆดังขึ้นและไกล้เข้ามาเรื่อยๆ

 จนสุดท้ายชายแก่ที่ไม่อาจทนไหวเค้าก็จึงจัดสินที่จะชิงลงมือก่อน ชายแก่รีบควักปืนพกที่ดูล้ำสมัยออกมาจากใต้เสื้อสูทของเค้า พร้อมรันไกกระหน่ำยิงเข้าไปกลางลำตัวของชายหนุ่มจนหมดแมกแต่.. ชายแก่ต้องตกใจเป็นอย่างมากเมื่อชายหนุ่มปริศนาคนนั้นยังไม่แม้แต่จะสทกสะท้านอะไรกับกระสุนที่ยิงมา ถึงแม้แรงกระแทรกจากกระสุนที่พุ่งตรงใส่ลำตัวของเค้ามันอาจทำให้เค้ากระเด็นถอยหลังมานิดหน่อย.. แต่ชายหนุ่มปริศนาก็แค่เอามือลูบครำรูกระสุนบนตัวของเค้าอย่างไม่ใส่ใจมากนักเค้ายังแค่ยิ้มพรางส่งสายตาเยาะเย้ยว่าทำได้แค่นี้เองหรอท่าจะฆ่าเค้าคงต้องใช้อะไรที่มัน ใหญ่กว่านี้มากๆเลยล่ะนะ

 

ชายหนุ่มปริศนาเริ่มย่างก้าวเท้าเดินเข้าไปหาชายแก่อีกครั้งพร้อมกับใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มอันน่าขนลุกของเค้า

แสงสะรัวในยามคำที่สาดกระทบลงมาในคำคืนที่มืดมิดมันก็ยิ่งทำให้ใบหน้าของเค้าช่างดู…

 

 ไม่สิตอนนี้คุณควรคิดแค่ว่าชายหนุ่มคนนี้ได้ละทิ้งความเป็น มนุษย์ไปนานแล้ว เพราะอะไรน่ะหรอก็ดูเอาเองสิ.. ชายหนุ่มปริศนามาหยุดอยู่ตรงหน้าของชายแก่พร้อมกับยังปล่อยเสียงหัวเราะอันน่าสะพนึงของเค้าให้ได้ยิน ชายหนุ่มโค้งตัวก้มมองลงไปที่ชายแก่เพราะความแตกต่างเรื่องความสูงของเค้า ชายหนุ่มปริศนาค่อยๆวางลงไปที่บ่าของชายแก่อย่างเบามมือ ก่อนที่มือทั้งสองข้างของเค้าจะเริ่มบีบไหร่ชายแก่เบาๆ จนกระทั่งใช้โอกาสที่ชายแก่ไม่ตั้งตัวเค้าก็ดึงตัวชายแก่นั้นมามองซบตาเพื่อภาพสุดท้ายที่ชายแก่เห็นนั้น จะมีแค่เค้าเป็นภาพจำสุดท้าย..ก่อนที่ชายแก่จะได้จากโลกนี้ไปอย่างน่าอนาท

 

“ เล่นพอแล้วเนอะท่านรองนายก~ ต่อไปตาผมขอเล่นบ้างนะ ตาแก่~! “

 

ทันทีที่สิ้นเสียงของชายหนุ่มปริศนา เค้าก็ยิ่งระเบิดเสียงหัวเราะของเค้าออกมาพร้อมกับส่งแรงบีบมหาศาลผ่านมือของเค้าไปที่หัวไหร่ของชายแก่ผู้อาพับคนนี้

จนถึงตอนนี้คุณก็จะได้ยินแต่เสียงของชายนแก่ผู้โชคร้าย…  ที่กำลังถูกชายหนุ่มปริศนา ที่ใช้เพียงแค่แขนของเค้าฉีกทึ้งแขนของชายแก่ทั้งเป็น.. เสียงดังกร็อบของกระดูกหัวไหร่ของชายแก่ที่หลุดออก ตามมาด้วยเสียงเนื้อหนังที่ถูกเล็บจิกจนฉีกมันขาดสะบั้น เผยให้เห็นเส้นเลือดและกล้ามเนื้อกับเลือดสดๆที่พวยพุ่งทะลักออกมาเหมือนกับขวดน้ำอัดที่ถูกเขย่าจนระเบิดออก~ ชายหนุ่มเผยรอยยิ้มอันสุขขี เค้ากำเล่นสนุกกับแขนที่เค้าฉีกออกมาทั้งเป็น คุณเชื่อมั้ยแขนที่เค้าฉีกออกมามันยังกระตุกได้อยู่เลย ฮ่ามันช่างสะใจดีแท้สำหลับชายหนุ่มปริศนา

 

แต่อย่างว่าความสุขมักอยู่ไม่นาน ชายแก่ที่ร้องโหยหวนดิ้นทุรนทุรายอยู่กับพื้นอยู่พักนึงก่อนจะนิ่งไป เพราะเหมือนว่าชายแก่คนนี้จะขาดใจตายไปในระหว่างที่ถูกชายหนุ่มเล่นแขนของเค้าจนลืมสนใจไปเลย ชายหนุ่มทำหน้าเซ็งทันทีเมื่อรู้ว่าของเล่นของเค้าที่เพิ่งจะได้มามันกลับพังซะแล้ว แต่ก็ช่วยไม่ได้เค้าเองก็มีภารกิจที่ต้องทำต่อ แต่จะทำยังไงกับศพดีล่ะ บางส่วนเค้าเองก็ยังต้องใช้นะ?

 

ชายหนุ่มปริศยืนคิดอยู่พักนึง ก่อนจะทำหน้าเหมือนกับว่านึกออกแล้ว! งั้นทำไมเค้าจึงไม่ผ่านชิ้นส่สนไปแทนล่ะเอาแค่ส่วนที่ตำเป็นก็พอ! และเมื่อคิดได้ดังนั้นชายหนุ่มปริศนาจึงตัดสินใจทำทันที่ ชายหนุ่มกดสวิทช์ที่ข้อมือเปิดใช้งานแขนกลที่ซ่อนไว้ข้างใต้เสื่อกาวของเค้าเอื่อมมือกลไปควักลูกตาของชายแก่ออกมาง่ายๆก่อนที่จะเอามือกับลูกกระตาคู่นั้นใส่ไว้ในโหลดองที่เอาออกมาจากไหนไม่รู้มาด้วย และไม่อยากจะเชื่อชายหนุ่มไม่มีท่าทีที่จะกระอักกระอักกระอ่วนเลยซักนิด เค้าแค่ฮัมเพลงวันคริสต์มาสไปพร้อมเก็บชิ้นส่วนศพที่เค้าต้องการนำไปด้วย

 

“ เอาล่ะ~ ครบแล้ว เอาไงต่อดีน้าเรา.. ควรไปหาพวกคณะบดีปละพวกระดับสูงเพิ่งอีกซักหน่อยได้มั้ยล่ะเนี่ย..แต่เมันก็~ยุ่งยากจัง วันนี้พอเท่านี้ก็พอเนอะ ว่างั้นมั้ยบิลลี่ นายเองก็อยากกลับบ้านแล้วใช่มั้ย เจ้าตัวแสบ.. “

 

ชายหนุ่มเก็บขวดโหลชิ้นส่วนของชายแก่เอาไว้ด้านหลังก่อนที่จะหยิบขวดโหลที่มีหัวสูนักที่ถูกดองเอาไว้อยู่ขึ้นมาพูดคุยราวกับว่ามันมีชีวิต พรางเอาหูแนบติดพรางทำท่าทางเหมือนกำลังฟังบางสิ่งจสกขวดโหลดดองที่เค้าพกมา

 

“  หืม..อะไรนะ อืม~แบบนี้นี่เอง นี่นายได้กลิ่นคนอีกหรอ เฮ้ ฉันว่า ที่นี่ก็มีคนเดียวนะ ตรงไหนนะ หืม...อ่า~แบบนี้นี่ ให้ตายสิเกือบแล้วมั้ยล่ะ ท่าไม่มีนายฉันแย่แน่เลย  ขอบใจนะบิลลี่ว่าแล้วนายนี่มันพึ่งพาได้จริงๆ~ “

ชายหนุ่มปริศนาหลังพูดจบ เค้าก็แนบแก้มถูไถไปมากับขวดโหลด้วยความรักและความเอ็นดูรัดไคร่เจ้าบิลลี่หัวหมาที่ถูกดองของเค้าต่อไปอีกซักพัก

แต่ไม่นานเกินรอชายหนุ่มก็ยกขวดโหลดองชูขึ้นสูงเพื่อใช้มันมันส่องไปรอบๆ จากทุกทิศาทาง และมันก็ไม่ได้นานเกินรอจริงๆเมื่อเค้าเห็นเงาของคุณที่กำลังแอบอยู่บนท่อทางเดินน้ำที่ซับซ้อนของเขตุนี้เจอได้อย่างลวดเร็ว..

 

“ เนอะ คุณก็คิดงั้นใช่มั้ย คนแปลกหน้า~ “

 

ชายหนุ่มเอ่นทักทั้งเผยรอยยิ้มร่า ก่อนจะบีดตัวหันหลังไปซบตากับคุณอย่างพอดิบพอดี แม้คุณกับเค้าจะอยู่ไกลกันมากแต่มันก็ยังน่ากลัวอยู่ดี ตอนนี้สัญชาตญาณของคุณมันเรียกร้องให้คุณหนี และไม่มีเหตุผลไหนอีกแล้วที่คุณจะรั้งตัวเองไม่ให้หนี คุณตัดสินใจที่จะรีบวิ่งทันที  คุณวิ่งฝ่าคงามมืดและโครงสร้างทางเดินที่ซับซ้อน.. อย่างไม่ย่อท้อ

 

แต่ถึบไม่บอกคุณก็จะวิ่ง คุณก็ยังที่จะวิ่งและวิ่งไปเรื่อยๆ การวิ่งหาทางออกที่เข้ามามันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคุณเลยแม้แต่น้อย แต่สิ่งที่คุณกังวลก็คือ เสียงฝีเท้าที่คล้ายกับเหล็กที่กระทบกับพื้นนั้นมันดังก้องตามหลังคุณมาไม่หยุด แม้ตอนนี้มันอาจจะอยู่ไกล้ แต่ท่าคุณหยุดตอนนี้สภาพของคุณคงไม่ต่างจากชายแก่ผู้โชคร้าย

 

คุณจึงเลือกกัดฟันวิ่งต่อ แม้ว่าตอนนี้คุณก็รู้สึกได้ถึงปอดของคุณมี่ทำงานหนักมากจนรู้สึกเหมือนมันจะถูกฉีกขาดได้ทุกเมื่อ แต่เสียงหัวเราะที่บ้าคลั่งมันรอยตามหลังของคุณมาและมันก็ไกล้ขึ้นเรื่อยๆราวกับว่ามันกำลังเล่นสนุกกับคุณอยู่ มันจึงเป็นแรงกระตุ้นชั้นดีที่ทำให้คุณจะวิ่งต่อโดยไม่หยุด และถึงแม้ตอนนี้คุณจะโชคร้ายแค่ไหน พระเจ้าก็ยังพอเห็นใจคุณอยู่บ้าง เพราะเมื่อคุณมองไปด้านหน้าอีกไม่ไกล คุณก็พบเห็นซอกหลืบที่เป็นทางออกที่คุณเคยเข้ามาก่อนหน้านี้อยู่ตรงหน้าคุณแล้ว

 

คุณจึงตัดสินใจที่จะใช้แรงเฮือกสุดท้ายของคุณส่งแรงถีบให้ตัวเองจนเกือบที่จะผ่านไปได้ แต่น่าเสียดายที่ความจริงแล้วชายหนุ่มปริศนาเองก็รู้จักทางเข้านี้เช่นกัน เค้าจึงมาดักรอไว้ก่อนอยู่แล้ว และไอ้สิ่งที่ไล่คุณมาตลอดทางมันก็แค่โดรนภาคพื้นดินที่อัดเสียงกัวเระสของเค้าเอาไว้ก็เท่านั้น ชายหนุ่มหัวเราะร่าราวกับว่ากำลังสนุกที่หลอกคนแบบคุณได้จนสนิท เค้าเตรียมง้างขวานที่เก็บได้อยู่แถวนั้นเตรียมสับหัวคุณให้แบะคาที่

 

แต่คุณเองก็เป็นนักสู้ คุณไม่ยอมที่จะจบที่นี่แน่นอนต่อให้ตอนนี้มันมีแต่ความชีเป็นชี้ตายที่อยู่ตรงหน้าก็ตาม คุณอาศัยความตัวเล็กกว่าของคุณสไลด์รอดใต้หว่างขาของชายหนุ่มปริศนาคนนี้ได้อย่างเฉียบคม จนปลายคมขวานนั้นเฉียดหัวของคุณไปนิดเดียว แม้มันจะน่าหวาดเสียวยังไงแต่คุณก็รอดพ้นมาได้ คุณทำได้! คุณพาตัวเองออกมาจากหรืบที่น่ากลัวจากเขตุที่3ได้แล้ว แม้มันอาจดูจสบัดสะบอมไปซักนิดแต่ชัยชนะนี้เป็นของคุณ

 

แต่คุณก็ไม่ประมาณแม้คุณจะออกมาได้แล้ว แต่ก็รีบหันหลังกลับไปดูว่าชายหนุ่มคนนั้นยังตามคุณมามั้ย แต่โชคยังดีหรือเปล่านะ..เพราะพบว่าเค้าหายไปแล้ว หายไปราวกับว่าไม่เคยมีใครอยู่ตรงนั้นมาก่อน.. และเมื่อคุณรู้สึกได้ถึงควาปลอดภัยที่ได้กลับคืนมา คุณก็ทิ้งร่างกายตัวเองนอนกับพื้นเพื่อพักเอาแรงและหาอากาศเข้าปอดของตัวเองมาเติมเต็มให้ชุ่มปอดน้อยๆของคุณในวัยนี้

 

เมื่อเวลาผ่านไปคุณได้พักฟื้นเต็มที่แล้ว คุณเริ่มคิดและ ตระหนักถึงปัญหาและอันตรายที่จะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้า คุณกำลังคิดว่าตะไปต่อดีมั้ยหรือพอเท่านี้ดี คุณใช้เวลาอยู่นานพอสมควรเพื่อไตร่ตรอง แต่สุดท้ายคุณก็ยังเลือกที่จะไปต่อโดยไม่กลัวเกรงกะอีแค่โดน คนโรคจิตใส่ชุดกางไล่ฆ่าหรอกนะ!

 

คุณจึงตั้งมั่นกับตัวเองและตัดวินใจนั่งเรือโดยสารข้ามฝากออกจากเมืองไปในตอนเช้าของอีกวันเพื่อที่จะเดินทางไปเมืองต่อไป..

 

จุดหมายต่อไป นครรัฐพิเศษ เมืองแห่งการพัฒนา

ฟอนเทียร์ซิตี้ฟอนเทียร์ซิตี้…

.

 

.

 

.

 

.

 

.

จบ ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้นะค้าบ~

 

 

 

 

 

 

 

 

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!