NovelToon NovelToon

พลอยร้อยเหลี่ยมเล่ห์

Episode 1

บทที่ 1

Line!! ~

เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นทำให้พลอยมายาต้องหยุดชะงัก

แล้วล้วงเอามือถือของเธอออกมาจากกระเป๋าเพื่อกดดูว่าข้อความนั้นถูกส่งมาจากใคร

-หลิว-

‘ใส่ชุดนักศึกษาไปนะ เดี๋ยวส่งพิกัดให้ เจอกันที่นั่น

เดี๋ยวกูพาไปส่ง’

เป็นข้อความจากหลิว เพื่อนในคณะซึ่งค่อนข้างสนิท

เธอคือคนที่ชักจูงให้พลอยมายาได้รู้จักกับช่องทางการหาเงินง่าย ๆ

ในอาชีพที่เรียกว่า เด็กเสี่ย และวันนี้เธอก็ไม่ได้มาเรียน อันที่จริงก็ไม่ใช่แค่วันนี้หรอกที่หลิวนั้นขาดเรียน

ช่วงนี้เธอขาดเรียนบ่อยเพราะเพิ่งได้งานใหม่ งานสบายได้เงินง่าย

และก็เป็นงานในสายงานเดียวกันกับที่เธอนั้นแนะนำให้กับพลอยมายา

หลิวเคยเป็นเด็กเสี่ยมาก่อน แต่เพราะดันไปมีความรักเข้า

ทำให้เธอต้องยุติการทำงานบนเส้นทางนี้ลง

และผันตัวมาเป็นคนจัดหาเด็กสาวนักศึกษาให้กับอดีตเสี่ยที่เคยเลี้ยงเธอแทน

หลิวจัดการส่งโลเคชั่นสถานที่นัดพบให้กับว่าที่เด็กใหม่

พอได้ที่ตั้งแล้วพลอยมายาก็ต้องโทรไปบอกป้าว่ามีเรียนภาคค่ำ

เธอไม่ได้โกหกความจริงแล้วเธอมีเรียนภาคค่ำจริงๆ แต่เธอตัดสินใจไม่เข้าเรียน

หญิงสาวนั่งแท็กซี่ตรงไปยังจุดหมาย เพียงไม่นานก็มาถึง

ที่นี่เป็นคอนโดหรูมีชื่อเสียงถ้าเงินไม่ถึงจริง ไม่มีทางได้อยู่ที่นี่อย่างแน่นอน

“ฮัลโหล กูรออยู่หน้าตึกแล้ว มึงอยู่ไหน”

พลอยมายากดโทรศัพท์เครื่องเก่าของเธอ ที่ได้รับมาจากหลิวต่อโทรบอกกับคนนัด

ปลายสายบอกว่าให้เดินเข้าไปตรงส่วนรับรองแขกได้เลย เธอจะรออยู่ที่นั่น

คนเพิ่งเริ่มงานวันแรกรู้สึกหัวใจเต้นตึกตักด้วยความตื่นเต้น เธออ่านนิยายมาก็มาก

อาชีพนี้มันก็ไม่ได้แย่นักหรอก แต่ถึงมันแย่

แล้วคนอย่างเธอนั้นมีสิทธิเลือกด้วยหรือ

“หลิว...” เมื่อเดินมาถึงนิ้วเรียวของพลอยมายา

ก็สะกิดเรียกให้คนที่กำลังนั่งเล่นโทรศัพท์ให้รู้ตัว

“อ้าว มาเร็วนี่”

เธอเงยหน้าขึ้นมามองคนทักทายก่อนจะเก็บโทรศัพท์ แล้วหยัดตัวลุกยืนขึ้น

“รถไม่ติดเท่าไหร่น่ะ ก็เลยมาเร็วหน่อย”

“เฮ้ย!! แล้วนี่ทำไมแต่งตัวแบบนี้ล่ะ”

หลิวกวาดตามองเด็กใหม่ของเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า คนถูกถามทำหน้าซื่อไม่เข้าใจ

เธอก้มมองสำรวจตัวเองครู่หนึ่งก่อนจะเงยหน้ากลับมามองหน้าคนถาม

‘ก็บอกเองนี่ว่าให้ใส่ชุดนักศึกษาแล้วฉันผิดตรงไหน’ เธอพลางคิดในใจ

“ก็มึงบอกเองนี่ ให้ใส่ชุดนักศึกษามา”

เมื่ออีกฝ่ายไม่พูดไม่จาอะไร พลอยมายาจึงได้กล่าวความคิดของตัวเองออกไป

“กูรู้ แต่กูหมายถึง ทำไมมันมิดชิดเรียบร้อยขนาดนี้ล่ะ

ดูไม่ยั่วเลย”

เพราะวันนี้เป็นการนัดดูตัวกันระหว่างเสี่ยที่เตรียมเงินจะรับดูแลสาวนักศึกษา

ไม่ใช่วันมอบตัวนักศึกษาใหม่ ถึงจะบอกว่าให้ใส่ชุดนักศึกษามา

แต่ก็ควรจะแสดงตัวให้มันดึงดูดคนซื้อหน่อย

“ปกติกูก็แต่งแบบนี้ปะวะ มันทำไมเหรอ?”

“เออๆ กูเข้าใจ ช่างเหอะ

เดี๋ยวกูพาไปส่งที่ห้องคุณอาชาก็แล้วกัน”

เพราะทำอะไรไม่ได้แล้วหลิวจึงต้องจำใจปล่อยเลยตามเลย

อย่างน้อยพลอยมายาก็ยังบริสุทธิ์ไม่เคยผ่านมือผู้ชายมาก่อน อีกอย่างหน้าตาก็สะสวย

รูปร่างก็ดี ไม่แน่อาจจะไปเข้าตาลูกค้าใหญ่ของเธอก็ได้

“รุ่นอาเลยเหรอวะ” พอได้ยินเพื่อนพูดแบบนั้น

พลอยมายาก็โวยลั่นทันที ลูกค้าที่เธอจินตนาการเอาไว้

ก็น่าจะเป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง หล่อ รวย แบบในนิยายที่เธออ่าน แต่หากจะแก่จนถึงคราวอาก็ไม่รู้ว่าจะยอมทำดีไหม

“ชื่อเขา!! เขาชื่ออาชา คนนี้เงินหนา ถ้ามึงเอาใจเก่งๆ

อ้อนได้แต่อย่างี่เง่า เขาพูดอะไรต้องฟัง ห้ามคือห้าม ถ้ามึงได้คนนี้นะ

สบายเลยกูคอนเฟิร์ม ส่วนเรื่องอายุน่ะ แก่กว่าอาแน่ ๆ แต่มึงไปเจอเขาดูก่อนเถอะ

รับรองเลยว่ามึงจะลืมสนใจเลยเรื่องอายุเขาน่ะ”

ระหว่างขึ้นลิฟต์หลิวก็อธิบายรายละเอียดอื่นๆ ให้พลอยมายาฟัง

ทั้งคู่ขึ้นลิฟต์มาจนถึงชั้นบนสุด ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออก

คนไม่เคยมาอย่างพลอยมายาเหมือนออกมาอยู่อีกโลก

การตกแต่งแสนหรูหราบ่งบอกว่าราคามันแพงขนาดไหน เธอก้าวเดินไปด้วยความตื่นเต้น

ทั้งเรื่องงาน แล้วก็ตื่นเต้นกับความหรูหราของชั้นนี้ด้วย

“กูส่งมึงได้แค่นี้นะ เขาอยากคุยกับมึงส่วนตัว”

เมื่อถึงหน้าประตูห้องหลิวก็หยุดเดินแล้วหันไปบอกกับเพื่อนของเธอที่พามาส่ง

“เดี๋ยวสิ!! เข้าไปเป็นเพื่อนหน่อย”

แต่อีกฝ่ายรีบรั้งแขนของหลิวเอาไว้ เธอไม่กล้าที่จะเข้าไปเพียงลำพัง

อย่างน้อยหากมีหลิวเข้าไปด้วยก็ยังมีเพื่อนไว้ให้อุ่นใจ

“ไม่ได้ เขาสั่งให้มาส่งมึงแค่หน้าห้อง

แล้วตอนกลับเขาจะจัดการให้คนไปส่งมึงเอง” หลิวปฏิเสธหนักแน่น

เพราะรู้จักกับอาชาคนนี้ดี หากเขาพูดว่ามันเป็นคำสั่ง สิ่งที่ต้องทำคือทำตามอย่างเคร่งครัด

“กูไม่เคย...ทำ...”

เธอไม่กล้าพูดมันออกมาอย่างเต็มเสียง ถึงจะมายืนตรงนี้แล้ว

เพียงอีกแค่ไม่กี่ก้าวก็ต้องเริ่มทำงานแบบนั้นแล้ว

แต่มันก็กระดากปากเกินกว่าที่เธอจะพูดออกไป

“กูรู้ ตอนที่เขาติดต่อมาเขาก็ขอคนไม่เคยนี่แหละ

มึงสนใจงานพอดีก็เลยจัดมึงมาให้เขา วันนี้ยังไม่ได้ทำอะไรอย่างนั้นหรอก

แค่มาคุยตกลงกันเฉยๆ”

“กูตื่นเต้น แล้วก็กลัวด้วย”

“เขาถามอะไรมาก็ตอบไปตามตรง

แต่อะไรที่มันพอจะ...ตอแหลให้ตัวเองดูมีราคาได้ ก็ตอแหลบ้างก็ได้

ไม่ต้องพูดตามตรงไปหมดทุกอย่างหรอก แต่อย่างมึงซิงๆ แบบนี้ก็น่าจะได้ราคาดีอยู่หรอก

กูไปแล้วนะ โชคดี...”

“ดะ เดี๋ยวสิ...อีหลิว!! อีหลิว...”

หลิวรีบเดินจากไปอย่างไม่สนใจเสียงเรียกของพลอยมายาเลยสักนิด

ทิ้งเธอให้ยืนงงอยู่หน้าประตูบานใหญ่คนเดียว ‘เอาวะอีพลอย มาถึงนี่แล้ว

จะกลัวอะไรอีก’ ตากลมใสยืนมองประตูบานใหญ่ตรงหน้าก่อนจะสูดลมหายใจเรียกความมั่นใจอีกครั้ง

เอาวะ!! จะมากลัวตอนนี้ไม่ได้

มึงอยากเป็นเด็กล้างผักหลังร้านขนมจีนไปตลอดชีวิตหรือไงอีพลอย...

ก๊อก!! ก๊อก!! ก๊อก!!

พลอยมายาตัดสินใจเคาะประตู แต่ทุกอย่างยังคงเงียบ

คนข้างในดูไม่มีทีท่าจะเปิดประตูรับ แต่พอเธอยกมือจะเคาะอีกที ตาก็เพิ่งจะเหลือบไปเห็นว่ามีกริ่งให้กด

“เวร” !!

เธออุทานขึ้นก่อนจะคิดว่าไม่รู้เขาได้ยินหรือเปล่า ถ้าเขารู้ละก็น่าอายตายเลย

บ้านนอก บ้านนา คนตัวเล็กหน้าประตูตั้งสติอีกรอบก่อนจะเอื้อมมือไปกดกริ่งแล้วยืนรอ

เพียงครู่เดียวเดียวประตูก็เปิดออก หลังจากที่ประตูบานใหญ่ค่อยๆ เปิด มันเผยให้เห็นเจ้าของห้องที่ดูก็รู้ว่าเขาน่ะรุ่นพ่อ

แต่ยังหล่อและดูดีอย่างไร้ที่จะติติง หุ่นล่ำกล้ามเป็นมัดๆ

เหงื่อที่อาบท่วมร่างกายส่งให้มัดกล้ามมันวาวน่าสัมผัส

ลมในห้องพัดออกมาทางช่องประตูพัดเอากลิ่นเหงื่อโชยมาปะทะหน้ายิ่งทำให้เด็กสาวจินตนาการไปต่างๆ

นานา

“อืม...เข้ามาสิ”

พลอยมายาหลุดจากจินตนาการเมื่อได้ยินคำเชิญจากเจ้าของห้อง

เธอพยักหน้ารับแล้วก้าวเข้าไปในห้องทันที

ภายในห้องเต็มไปด้วยของตกแต่งสไตล์คลาสสิก คุมโทนสีขาว ทอง และดำอย่างลงตัว

“ชื่ออะไรนะ ฉันจำไม่ได้แล้ว”

เจ้าของห้องเดินไปที่โซฟากลางห้องก่อนจะคว้าเอาผ้าเช็ดตัวฝืนสีขาวที่พาดอยู่มาเช็ดตัว

ถ้าให้เดาเขาคงเพิ่งจะออกกำลังกายเสร็จแน่นอน ดูจากอาการหอบเล็กๆ

กับเหงื่อที่โชกตัวอยู่

“พลอยค่ะ หนูชื่อพลอยมายา” คนถูกถามตอบเพียงสั้นๆ

แต่หนักแน่นด้วยความมั่นใจ หลิวบอกกับเธอว่าคุณอาชาคนนี้ ไม่ชอบผู้หญิงขี้อาย

พูดจาอู้อี้ไม่ได้ความ การเหนียมอายปั่นราคาไม่ได้ ความฉลาดเท่านั้นที่จะชนะใจคนๆ

นี้

“มานั่งก่อนสิ ขอโทษด้วยกลิ่นตัวมันอาจจะแรงไปหน่อย

พอดีเพิ่งออกกำลังกายเสร็จก่อนจะมานี่เอง แล้ว...หลิวบอกอะไรบ้างแล้ว”

อาชาชื่นชอบการนำตัวของเด็กคนนี้ และพอใจกับการบรีฟของหลิวประมาณหนึ่ง

หลิวนั้นรู้จักกับเขาเป็นอย่างดี เพราะเคยถูกเขาเลี้ยงมาแล้ว

แต่เพราะเขาเบื่อง่ายหน่ายเร็ว เลี้ยงอยู่ได้ไม่นานก็เลิกแล้วต่อกัน

ทำให้เธอผันตัวจากผู้ขาย มาเป็นนายหน้าจัดหาผู้หญิงไปส่งแขกเก่าของตัวเอง

หรือถ้าพูดง่ายๆ ก็เปลี่ยนจากกะหรี่ไปเป็น ‘แม่เล้า’ นั่นแหละ

“ยังไม่ได้บอกอะไรมากค่ะ แค่บอกว่าต้องทำงานแบบไหน

ส่วนเรื่องอื่นๆ หลิวบอกว่าคุณจะตกลงกับหนูเอง”

พลอยมายายังคงพูดจาฉะฉานแววตาไร้เดียงสาแต่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ

“อืม....เต็มใจทำใช่ไหม ไม่ได้ถูกหลอกมา

หรือว่าโดนใครบังคับมาใช่ไหม” อาชาเอ่ยถามก่อนจะเดินมานั่งข้างๆ เธอ

แต่ยังเว้นระยะห่างพอสมควร ยิ่งเขาเข้ามาใกล้พลอยมายายิ่งร้อนรุ่มบอกไม่ถูก

มัดกล้ามแน่นๆ ห่างไปแค่เอื้อมมือ

กลิ่นเหงื่อผสมกลิ่นน้ำหอมแบรนด์เนมผสมออกมาเป็นกลิ่นผู้ดีจน

เด็กสาวแทบจะประคองสติไม่ไหว

“ค่ะ หนูเต็มใจทำเอง ไม่ได้โดนหลอกหรือโดนบังคับมา”

“ทำไมถึงมาทำงานนี้ล่ะ ดูเธอก็สวยดี การศึกษาก็ดี จริงๆ

คนสวยที่มีการศึกษามาขายให้ฉันเยอะแต่ที่ต่างจากเธอ ก็ไอ้พวกข้าวของที่ใช้

คนอื่นเขาใช้แต่ของแพงๆ แบรนด์ดังๆ ดูเธอก็...ไม่ใช่คนที่จะฟุ่มเฟือยอะไร”

เขาว่าพร้อมกับลดสายตาลงมองมือถือของฉัน ที่กำอยู่ในมือสลับกับกระเป๋าไม่มียี่ห้อที่พอจะใส่ของไปเรียนได้วันต่อวัน

อีกอย่างท่าทางของเด็กคนนี้ก็ไม่เข้าข่ายผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่เคยขายให้เขาเลย

“หรือที่บ้านมีปัญหาต้องใช้เงิน”

อาชาพยายามจะถามหาสาเหตุ เขาข้องใจเหลือเกินที่ได้มาเจอเด็กคนนี้

“ไม่ค่ะ เอาไปเพื่อใช้ส่วนตัว”

เธอยังคงเลือกที่จะตอบตามความจริง คนมากประสบการณ์เป็นผู้บริหารระดับสูงแบบนี้

ยิ่งอายุมากการจะโกหกตอแหลใส่คนแบบนี้ ยิ่งถือเป็นการฆ่าตัวตาย

“ขอโทษที่ถามเยอะนะ ฉันแค่อยากแน่ใจว่าเธอเต็มใจที่จะทำงานนี้จริงๆ”

“ไม่เป็นไรค่ะ ถามหนูได้เลย”

พลอยรู้สึกเหมือนกำลังถูกสัมภาษณ์งานยังไงยังงั้น ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดไว้เลย

“เธอเรียนอะไรนะ?”

“การตลาดภาคอินเตอร์ค่ะ”

“ใช้เงินเยอะเอาเรื่องเลยสิ มหาลัยนี้ด้วย

แสดงว่าที่บ้านก็พอมีฐานะใช่ไหม”

“ไม่ค่ะ หนูใช้ทุนรวมกับเงินที่ทำงานหาเก็บไว้”

เธอเริ่มรู้สึกเกร็งๆ บอกไม่ถูกสายตาของอาชาตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว

เขากำลังใช้สายตาสอดส่องสำรวจดูร่างกายของเธอในระหว่างที่เราคุยกัน

“ได้ทุนเท่าไหร่?”

“ทุนเป็นทุนค่าเทอมค่ะ ประมาณ 70,000 บาท”

“แล้วที่ใช้กินทุกวันนี้ล่ะ” เขายังคงถามต่อเนื่อง

แต่ตาก็กวาดมองเรือนร่างของเธอต่อเนื่องเช่นกัน

“ก็เงินจากที่ทำงานพิเศษค่ะ”

“ทำงานอะไร?”

“ล้างผักร้านขนมจีนค่ะ”

พอฉันตอบไปแบบนั้นอาชาดูเหมือนกำลังกลั้นขำยังไงก็ไม่รู้

“สวยขนาดนี้ ไม่ไปทำพริตตี้ นั่งดริ้ง

หรือไปเป็นนางแบบอะไรแบบนั้นล่ะ ล้างผักมันจะได้สักกี่บาท”

“วันละ 150 ค่ะถ้าทำไม่ดีก็โดนหักเหลือ 120”

“แล้วแบบนี้มันจะไปพอค่าหอ ค่าข้าว ค่ารถเหรอ”

เขาถามต่อด้วยน้ำเสียงที่ดูจะสนใจมาก

“จริงๆ ร้านเป็นของป้าค่ะ

เขาให้หนูพักอยู่ที่นั่นอยู่แล้ว ข้าวก็ซื้อกินโรงอาหารช่วงกลางวัน

เช้า-เย็นกินที่บ้าน ค่ารถเมล์วันหนึ่งก็ไม่กี่บาทพอได้ต่อเวลาไปวันต่อวันค่ะ”

“อ๋อ ถึงได้มาทำงานนี่งั้นสิ”

เขาว่าแต่ตายังคงเล้าโลมไปตามเนื้อตัวของเธอและค่อยๆ ฉายแววหื่นอย่างเห็นได้ชัด

“วันนี้คงยังไม่เริ่มงานหรอก

ฉันเหนื่อยแค่อยากเรียกมาตกลงราคากับพวกสัญญาก่อน แล้วนี่....

โทรศัพท์ที่เอาไว้คิดต่อกับฉัน ไลน์ที่อยู่ในเครื่องฉันจะใช้เพื่อเรียกเธอ

แต่เธอไม่ต้องติดต่ออะไรมา มีปัญหาอะไรไว้คุยตอนเจอกัน และเรื่องของเรา

เก็บเป็นความลับให้ดีที่สุด ฉันไม่อยากมีข่าวเสียหาย

ส่วนนี่สัญญาเอาไปอ่านให้ละเอียดสงสัยอะไรคราวหน้าจดมาถาม

วันนี้ถือว่าทำความรู้จักกันก่อน เดี๋ยวลงไปรอข้างล่าง แล้วฉันจะให้คนไปส่ง”

“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวหนูกลับแท็กซี่เอง”

“เปลืองเงินเปล่าๆ ไหนว่าไม่มีเงินไง”

“หนูไม่อยากให้ป้าเห็น เดี๋ยวจะมีปัญหาค่ะ”

“อืม...ตามใจเดี๋ยวเอาเงินค่ารถไปก็แล้วกัน”

เขาว่าก่อนจะลุกขึ้นเดินไปหยิบกระเป๋าสตางค์ที่วางอยู่บนโต๊ะห่างออกไปไม่กี่ก้าว

“หวังว่าเธอจะไม่เปลี่ยนใจ แล้วเจอกันนะ”

“ค่ะ...”

เธอตอบรับก่อนจะยกมือไหว้และรับเงินค่ารถจากเขามา

‘นี่ขนาดแค่มาคุยยังได้ตั้งพันหนึ่งแน่ะ ไม่มีทางเปลี่ยนใจหรอก

พอกันทีกับตำแหน่งล้างผักเฮงซวยได้เงินค่าแรงแค่ไม่กี่บาท สู้มาทำงานง่ายๆ

ได้เงินดีดีไม่ดีกว่าหรือไง’ พลอยมายาคิดในใจ

Episode 2

บทที่ 2

พลอยมายากลับถึงบ้านพร้อมเงินหนึ่งพันบาทกับโทรศัพท์ราคาแพงหนึ่งเครื่อง

เธอไม่แน่ใจว่าเธอนั้นสามารถใช้ทำอย่างอื่นได้หรือเปล่านอกจากเอาไว้ติดต่อกับอาชา

“มึงไปไหนมาอีพลอย!!”

คนถูกจิกหัวเรียกสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ

เธอคิดว่าเวลานี้ทุกอย่างในร้านป้าของเธอคงจัดการเองหมดแล้วทั้งจานชาม หม้อ

แล้วก็เก็บข้าวของเข้าอื่น ๆ

“หนูเรียนคาบพิเศษ โทรบอกแล้วนี่”

คนเพิ่งกลับถึงบ้านกล่าวตอบพร้อมกับเดินเข้าบ้านอย่างไม่ใส่ใจคนถาม

“โอ๊ย...”

“อีตอแหล!! กูโทรหาอีนุ๊กมันบอกว่ามึงไม่ได้เข้าเรียน”

ผมหางม้าถูกกระชากอย่างแรงจากด้านหลังจนเธอเซถลากลับเข้าไปหาตัวคนกระชาก

นุ๊กคือลูกสาวป้าแถวบ้านที่ทำงานเป็นแม่บ้านอยู่ในมหาลัยที่พลอยมายาเรียนอยู่

และนุ๊กก็ไม่ค่อยจะถูกชะตากับพลอยมายาสักเท่าไหร่

จึงมักสร้างเรื่องมาทำให้เธอถูกป้าดุด่าอยู่เสมอ

“แล้วป้าก็เชื่อมันเหรอ”

คนถูกกะชากผมหันไปถามทั้งที่มือยังพยายามแกะมืออวบออกจากผม

“มันทำงานอยู่นั่น มันรู้หมดแหละ”

“มหาลัยใหญ่ขนาดไหน มันจะมาเห็นหนูได้ไง

แล้วอีกอย่าหนูกับมันก็ไม่ถูกกัน มันจะโกหกป้ายังไงก็ได้” พลอยมายาพยายามแก้ตัว

ถึงเธอจะโดดเรียนจริงๆ

แต่นุ๊กก็อาจจะไม่เห็นและอาจจะแต่งเรื่องใส่ร้ายเธอเหมือนทุกทีก็ได้

“มึงแน่ใจนะ ว่ามึงไม่ได้โกหกกูเพื่อจะหนีงาน” ป้าเอ่ยถามทั้งที่มือยังดึงอยู่ที่ผมของหลานสาวแน่น ‘เจ็บฉิบหายอีนุ๊กนะอีนุ๊กเดี๋ยวมึงกับกูได้เจอกันแน่’ คนถูกกระชากผมพลางคิดในใจ

“หนูเคยหนีงานเหรอ จะไปไหนก็ขอป้าก่อนตลอด”

เธอพยายามหาข้อดีมาหักล้างข้อสงสัย แต่ที่ผ่านมาพลอยมายานั้นก็ไม่เคยเถลไถลจริงๆ

เธอเพิ่งมาคิดกบฏต่อต้านป้าเมื่อไม่นานนี้เอง

“งั้นวันนี้มึงไม่ได้ทำงาน ก็ไม่ต้องเอาเงิน!!”

เจ้าของบ้านพูดพร้อมกับปล่อยมือจากผมของยาวสลวยของพลอยมายา

แล้วออกแรงผลักเธอไปข้างหน้าจนร่างบางเซถลาไปตามแรงผลัก

“อืม ไม่ทำงานก็ไม่ได้เงิน หนูรู้ดี”

เธอตอบกลับพร้อมทั้งยกมือขึ้นจับผมแล้วลูบบรรเทาความเจ็บที่ศีรษะ

“รู้ก็ดี แล้วก็...มึงมาช้าข้าวกูไม่ได้เหลือไว้ให้

ไปหากินเองก็แล้วกัน” เธอเพียงแค่พยักหน้ารับ แล้วก้มหน้าหลบสายตาจากป้านรก

เธอถูกเลี้ยงเอาไว้เพื่อเป็นทาสของแท้เลย บุญคุณที่สาวใหญ่ผู้เป็นพี่สาวแท้ ๆ

ของแม่ทอบให้กับพลอยมายานั้น เธอทำงานชดใช้จนไม่เหลืออะไรติดค้างอีกันกแล้ว ‘รออีกหน่อยเถอะกูจะออกไปจากที่นี่ กูจะหาเงินให้ได้เยอะๆ

โดยที่ไม่ต้องทำงานงกๆ แบบนี้ด้วย!!’ เธอร้องตะโกนอยู่ในความคิดของตัวเอง

พอผ่านด่านป้ามาได้พลอยมายาก็กลับขึ้นห้องรูหนูของตัวเอง

ห้องที่ครึ่งหนึ่งเป็นห้องเก็บของ มาถึงก็วางข้าวของบนที่นอนแล้วอาบน้ำชำระร่างกายให้สดชื่น

วันนี้เหนื่อยมาทั้งวัน ใครว่าเรียนไม่เหนื่อยขอเถียงเถอะ

ทำงานกับเรียนเหนื่อยไม่แพ้กันหรอกแต่มันเหนื่อยคนละแบบต่างหาก

Line!!~

-หลิว-

‘คุณอาชาว่าไงบ้าง?’ ขณะที่กำลังนั่งดูหนังสือแจ้งเตือนจากหลิวก็ดังขึ้น

“เขาให้สัญญามาอ่านก่อน แล้วก็ให้โทรศัพท์มาเครื่องนึง”

‘อ๋อ อ่านสัญญาหรือยัง อ่านดีดีนะ

ในนั้นจะมีข้อตกลงเรื่องที่ว่าจะทำอะไรกับมึงได้บ้าง ใช้อุปกรณ์อะไรได้บ้าง

แล้วก็ข้อตกลงทางกฎหมายกรณีที่มึงแหกกฎ’ อุปกรณ์เหรอ อะไรวะ

เธอวางโทรศัพท์ลงแล้วหันไปหยิบซองสัญญาขึ้นมาเปิดดู

“โอ้โหหนาเป็นปึกเลย นี่จะซื้อกะหรี่หรือจะซื้อที่ดินวะเนี่ย” พลอยมายาบ่นพึมพำก่อนจะเปิดอ่านสัญญาประกอบกับเปิดข้อมูลในอินเตอร์เน็ตดูไปด้วยเพราะบางอย่างก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่นัก

แต่ละอย่างนึกถึงหนังเรื่องฟิฟตี้เชดเลย พลอยมายาเป็นคนที่ชอบอ่านนิยายมาก

เธอเคยอ่านนิยายเรื่องนี้ด้วยอารมณ์แบบนั้นเลยล่ะ นี่

“อย่าบอกนะว่าคุณอาชาเขา...เป็นพวกนิยมเซ็กส์ซาดิสม์น่ะ”

เธอบ่นนเดียวอีกครั้ง

Line!!~

-แด๊ดดี้-

เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ที่คุณอาชาให้มาดังขึ้น

ทำให้หญิงสาวต้องหยุดอ่านสัญญาแล้วลุกไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดดู

‘อ่านสัญญาแล้วหรือยัง?’ เธอเปิดอ่านข้อความ

“อ่านแล้วค่ะ ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่”

และเธอก็เลือกที่จะตอบไปตรงๆ

‘สงสัยอะไรก็ถามหลิวก็แล้วกัน เขาผ่านมาหมดแล้ว’

“ค่ะ”

‘เรื่องเงิน

ฉันจะโอนส่วนที่เป็นค่าเทอมกับค่าตัวให้เลยยังไงส่งเลขบัญชีมานะ

แล้วโทรศัพท์นี่ถือว่าฉันให้เป็นของขวัญก็แล้วกัน หวังว่าเธอจะไม่ทำให้ฉันผิดหวัง

คงจะตอบแทนฉันได้สมกับที่ฉันให้ของไป’

“หนูจะพยายามทำให้ดีที่สุดค่ะ”

‘ถ้าเธอทำดี มีวินัย เคารพกฎ

ฉันมีของและเงินพร้อมจะให้เธออีกมากมาย’ ใครได้ยินแบบนี้ก็ตาลุกวาวทั้งนั้น แต่เธอไม่

ไม่ใช่ว่าไม่อยากได้ แต่เธอเพียงทำเป็นไม่อยากได้ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับตัวเอง

Episode 3

บทที่ 3

ถึงกำหนดนัดเจอกันอีกครั้ง

อาชาส่งคนมารอรับพลอยมายาที่หน้ามหาลัยของเธอ เธอเหลียวซ้ายแลขวา

จนแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครเห็นถึงได้เดินข้ามถนนไปอีกฟากเพื่อที่จะขึ้นรถ

คราวก่อนนุ๊กเพื่อนบ้านเล่นเธอไว้เกือบแย่ คราวนี้เธอจะไม่เสี่ยงอีกแล้ว

ทำอะไรต้องทำให้รอบคอบ

พลอยมายาเดินข้ามถนนแล้วเดินหารถตามรูปที่หลิวส่งให้จากนั้นก็เช็กดูป้ายทะเบียนจนแน่ใจ

แต่พอขึ้นมานั่งบนรถ เธอไม่เจอกับอาชา

มีเพียงคนขับรถหน้าตาหล่อนั่งหน้านิ่งติดเครื่องรถรอเธออยู่เท่านั้น

“รอนานไหม”

คนที่เพิ่งขึ้นรถมาตัดสินใจถาม เพราะกว่าจะเดินหารถเจอก็ใช้เวลาอยู่พอสมควร

คนขับรถนั่งนิ่งไม่พูดไม่จาอะไร เห็นก้มหน้ากดโทรศัพท์อยู่ครู่หนึ่งก็ออกรถมาเลย 'หยิ่งเหลือเกิน ไม่พูดก็ไม่พูดวะ!!' พลอยมายาพลางก้มหน้ากดโทรศัพท์ระหว่างทางเพราะมันไม่มีอะไรจะทำ

คนขับรถก็ไม่พูดไม่จาอะไรกับเธอเลย

แทนที่จะได้คุยกันบ้างไม่ให้เงียบเป็นป่าช้าแบบนี้

“มองอะไร!!”

คนที่กำลังเล่นโทรศัพท์เงยหน้าขึ้นมาโวยขึ้นเมื่อรู้สึกว่า

คนขับรถกำลังมองเธออยู่ผ่านกระจกมองหลัง แม้เขาจะสวมแว่นดำแต่ด้วยความรู้สึก

มันรับรู้ได้ว่าเขากำลังมองอยู่

“ฉันถามว่ามองอะไร!!”

พลอยมายาถามซ้ำอีกครั้งเมื่อไม่ได้รับคำตอบ

แต่คนขับยังคงนิ่งและตั้งหน้าตั้งตาขับรถต่อไปอย่างไม่สนใจคำถามของเธอเลยสักนิด

“จะไม่ตอบใช่ไหม

ได้ฉันจะฟ้องคุณอาชา ว่าแกแอบมองฉัน”

เธอตัดสินใจเอาอาชาเจ้านายของเขาขึ้นมาขู่เพื่อจะเอาคำตอบ

คนขับรถยกมือขึ้นขยับแว่นแล้วยิ้มเย้ยหยันคนถามพร้อมกับหัวเราะในลำคอ

“ตลกเหรอ

หัวเราะอะไร!!”

“คุณอาชาไม่ชอบผู้หญิงขี้วีนหรอกนะ

อีกอย่างที่มองก็เพราะแปลกใจเฉยๆ ไม่ได้นึกพิศวาสอะไรเลย” เขาตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ

แต่แฝงไปด้วยพลังงานความกวนประสาทอย่างบอกไม่ถูก

“พูดแบบนี้หมายความว่าไง”

“ก็หมายความว่า

มองด้วยความสงสัย ไม่คิดว่าคนรูปร่างหน้าตาแบบนี้ มีการศึกษาระดับนี้

ท่าทางก็ไม่ใช่คน....แบบนั้น แต่มาทำอาชีพขายศักดิ์ศรี” ฉันเดือดจนเลือกขึ้นหน้า

หนอยยย กล้าดียังไงมาว่าฉันแบบนี้ ตัวเองดีนักหรือไง

“อาชีพคนขับรถมันมีศักดิ์ศรีนักนี่

ฉันจะขายอะไรมันก็เรื่องของฉัน ทำไม!? คนอื่นที่เคยมารับมันเป็นยังไง

ปากแบบนี้น่าจะโดนคนอื่นเอารองเท้าส้นสูงฟาดจนปากแตกไม่น่ามาว่า

มาพูดจาดูถูกคนอื่นได้อีกนะ”

“สภาพมันไม่เห็นน่าซื้อเลยไง

จืดอย่างกับน้ำเต้าหู้ค้างคืน ปกติเห็นคนอื่นเขาสวยเช้ง เงินที่ได้เอาไปไหนหมด

อย่างน้อยน่าจะเก็บไปอัปไซส์หน้าอกหน่อยก็ยังดี มันดูไม่ดึงดูดอะไรเลย”

“ไอ้ทุเรศ!!

นี่แกแอบมองหน้าอกฉันเหรอ” เธอร้องว่าพร้อมทั้งยกมือขึ้นมากอดกุมที่หน้าอกตัวเอง

“แหม

อีกไม่นานเดี๋ยวก็ต้องไปถอดแบให้ลูกค้าแล้ว ทำมาอายอะไรกับแค่คนมองผ่านเสื้อผ้า

แอ๊บอินโนเซนท์ไปก็เท่านั้น คุณอาชาน่ะเขาโชกโชนเรื่องนี้ เขาดูรู้”

“ฉันไม่ได้แอ๊บอินโนเซนท์

แต่ฉันยังบริสุทธิ์จริงๆ” เธอพยายามจะต่อล้อต่อเถียงกับคนขับรถปาก จนเริ่มรู้สึกเหนื่อยแล้วจึงได้หยุด

“ที่บอกให้

เพราะหวังดี สวยกว่านี้ทีสองทีเขาก็ยังเขี่ยทิ้ง

กลัวจะขยี้เส้นพรหมจรรย์แหลกแล้วก็ไม่รับเลี้ยงน่ะสิ” คนขับยังไม่เลิกพูดจาถากถาง

แต่พลอยมายาไม่อยากจะเถียงอะไรกับเขาอีกแล้ว

“เก็บปากไว้กินข้าวเถอะ

ไม่ต้องมาหวังดีกับฉัน ฉันน่ะจะเสียอะไรที ต้องไตร่ตรองดีแล้วว่ามันคุ้ม

จำหน้าฉันไว้เลย ฉัน...!! พลอยมายา แกจะได้รับส่งฉันจนเบื่อหน้าแน่นอน”

คนขับรถเองก็ไม่ตอบอะไรมีแต่เหลือบตามองคนที่นั่งอยู่เบาะหลังผ่านกระจกมองหลังแล้วแสยะยิ้มแบบดูถูก 'พอ ไม่ไปเถียงกับมันแล้ว

เก็บเสียงไว้ครางแบบที่ดูคลิปมาดีกว่า เถียงกับคนขวางโลกแบบนี้

เถียงให้ตายก็เหนื่อยเปล่า' พลอยมายาพูดกับตัวเองในใจ

สักพักรถก็แล่นมาถึงหน้าคอนโดหรูที่เธอเคยมาคราวก่อน

พลอยมายารีบลงจากรถทันที

หลังจากลงรถมาแล้วก็จัดระเบียบเสื้อผ้าให้มันดูเรียบร้อยก่อนจะสาวเท้าเดินตรงเข้าไปในคอนโด

พลอยมายายื่นบัตรแสดงตัวกับพนักงานที่อาชาฝากหลิวมาให้เพื่อขอขึ้นไปบนชั้นวีไอพี

จากนั้นก็ตรงขึ้นไปชั้นที่เป็นห้องของอาชาเลย

คราวนี้เธอไม่ได้โง่เง่าเคาะประตูอีกแล้ว ถึงหน้าห้องก็กดกริ่ง

ไม่นานเจ้าของห้องก็เปิดประตูรับ

“ตรงต่อเวลาดีนี่”

เขาว่าพร้อมกับผายมือให้เด็กสาวเข้าไปในห้อง วันนี้เธอยังคงใส่ชุดนักศึกษามาเพราะเขาได้ส่งข้อความไปสั่งเอาไว้แล้วว่าอยากเห็นเธอในชุดนักศึกษาอีกครั้ง

พลอยมายาเดินถือซองเอกสารตรงไปนั่งที่โต๊ะ

ส่วนอาชาเมื่อปิดประตูแล้วก็รีบเดินตามเข้ามานั่งคนละฝั่ง

เด็กสาวรู้สึกเกร็งอย่างบอกไม่ถูก สายตาของอีกฝ่ายดูหื่นกระหายมากผิดกับคราวก่อนอย่างกับคนละคน

“เริ่มตกลงเรื่องสัญญาเลยก็แล้วกัน

เอาที่เธอกรอกมาแล้วส่งมาให้ฉัน จะได้รู้ว่าทำอะไรกับเธอได้บ้าง

อ่านทุกอย่างเรียบร้อยดีใช่ไหม” เขาถามขณะที่เธอกำลังยื่นเอกสารให้

“ค่ะอ่านอยู่หลายรอบ

หาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตประกอบด้วยเพราะบางข้อพลอยก็ไม่เข้าใจเลย”

เขาเพียงพยักหน้ารับก่อนจะเปิดเอกสารสัญญาและข้อตกลงอ่านอย่างละเอียด

“ทำไมถึงแทบจะใช้อุปกรณ์อะไรไม่ได้เลย? กลัวเหรอ?” หลังอ่านข้อตกลงฝั่งของพลอยมายาจนครบหมดแล้ว

เขาจึงเงยหน้าขึ้นมาถาม

“ค่ะ

พลอยเปิดรูปแล้วก็คลิปดูประกอบแล้ว พลอยว่ามัน....ค่อนข้างจะน่ากลัว”

เธอตอบกับเขาไปตรงๆ

“เธอเรียนภาษาอังกฤษใช่ไหม?”

“การตลาด

อินเตอร์ค่ะ แต่ก็ใช้ภาษาอังกฤษทั้งหมด”

“เคยอ่านนิยายภาษาอังกฤษเพื่อฝึกภาษาไหม?” เขาถามต่อ พลอยมายาเองก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่นักว่าถามทำไม

แต่ก็ยินดีจะตอบ

“เคยค่ะ

พวกเฌอร์ล็อร์กโฮม แฮรี่พ็อตเตอร์ แวมไพร์ทไวไลท์...”

“เคยอ่านฟิตตี้เชร์ดไหม?” เธอคิดแล้วไม่มีผิดว่ามันคล้ายๆ กับนิยายที่เคยอ่าน 'แสดงว่าเขาก็เป็นแบบนั้นน่ะเหรอ พวกรสนิยมมีเซ็กซ์แบบซาดิสม์' คนถูกถามนิ่งไปครู่หนึ่ง

“เคยค่ะ”

“เธอไม่อยากเป็นทาสสวาทให้ฉันเหรอ

เราจะมีความสุขไปด้วยกัน ฉันรับประกันว่าเธอจะต้องเพลิดเพลินกับสิ่งที่ฉันมอบให้”

เขาว่าพร้อมทั้งเอื้อมมือมาจับมือของเธอ จริงๆ

แล้วในใจของพลอยมายานั้นกลัวอยู่มากเพราะเห็นมาหมดแล้วว่าไอ้กระบวนท่าในข้อตกลงมันเป็นอย่างไร

แต่ดูเหมือนว่าอาชาเขาจะอยากทำมาก และเธอก็คิดว่าถ้าเธอยอมรับตรงนี้ได้ เงินจำนวนไม่น้อยเลยนะที่จะเข้ามาหา

อีกอย่างเธอก็อยากขอให้เขาช่วยหาที่พักใหม่ให้ด้วย

ถ้าเธอยอมเขาได้มันคงไม่ยากหรอกกับอีแค่ขอค่าหอเดือนละไม่เท่าไหร่

พลอยมายาชั่งใจไม่นานคิดคำนวณดูกะว่าน่าจะคุ้มจึงได้ตกลงตัดสินใจ

“ค่อยเป็นค่อยไปได้ไหมคะ

หนู...ไม่มีประสบการณ์ตรงนี้เลย”

“ได้สิ

ฉันไม่รีบหรอก ค่อยๆ เรียนรู้ไปถ้าเธอทำให้ฉันพอใจ เราก็จะได้พึ่งพาอาศัยกันอีกนาน

และที่สำคัญถ้าเธอให้ความสุขกับฉันได้อย่างเต็มที่ เธออยากได้อะไรฉัน

ก็ให้เธอเต็มกำลังฉันเหมือนกัน” เด็กสาวพยักหน้าตอบ เธออ่านประวัติของเขามาแล้ว

ความรวยเขาน่ะไม่มีปลอมแน่นอน เจ้าของธุรกิจนำเข้า-ส่งออกอัญมณี อันดับต้นๆ

ของประเทศ แต่ประวัติไม่มีเรื่องผู้หญิงให้เห็นเลย

ไม่มีข่าวเสียหายมีแค่ว่าเป็นพ่อหม้ายเนื้อหอม เคยแต่งงานมีลูกแล้ว

แต่ไม่มีภาพลูก-เมียให้เห็นสักภาพ แต่พลอยมายาก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่

เธอเพียงอยากได้เงินไม่ได้อยากได้ตัวหรือหัวใจของเขาอยู่แล้ว

“อ่านข้อตกลงทางกฎหมายแล้วใช่ไหม”

“ค่ะ

อ่านและเซ็นต์เรียบร้อยแล้ว

“ดี

งั้นคงจะเข้าใจดีแล้วนะ อย่าคิดแบล็กเมล์ฉันเป็นอันขาด

เพราะฉันเกลียดการถูกหักหลังเป็นที่สุด และมันก็ไม่คุ้มด้วย กลับกัน

ถ้าเธอซื่อสัตย์และภักดีต่อฉัน ฉันสามารถบันดาลให้เธอได้ทุกอย่าง

ไม่ว่าเธอจะเอาอะไร”

“หนูจะเชื่อฟังคุณทุกอย่าง

ทำทุกอย่างที่คุณสั่งให้หนูทำ จะอยู่ในเขตของตัวเอง ไม่ล้ำเส้น ไม่วุ่นวาย

ไม่ทำให้คุณต้องเหนื่อยเรื่องอื่น นอกจากเรื่องบนเตียง...” บทพูดที่จำมาจากนิยาย

พร้อมท่าทางยั่วยวนที่จำจากละคร ดูมันจะทำให้หนุ่มใหญ่นักธุรกิจพอใจอย่างมาก

เขายิ้มออกมาทันทีพร้อมกับลุกขึ้นเดินอ้อมมาที่ด้านหลังของเธอ

ก่อนจะใช้แขนโอบรัดร่างของเธอจนแน่น มือสองข้างค่อยๆ

จับประคองสองเต้าอวบและออกแรงบดขยี้ช้าๆ

มันให้ความรู้สึก....เสียววาบอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน น้ำหนักมือที่พอเหมาะนวดกลึงอยู่บนเนินเนื้อหน้าออกในจังหวะที่พอดี

“เรียกฉันว่า...แด๊ดดี้ตกลงไหม”

เขากระซิบบอกเสียงกระเส่าอยู่ที่ข้างหู ก่อนจะก้มลงไซร้ไปตามซอกคอ

มันสยิวจนเธอขนลุกซู่

แผงหนวดที่ไล้ไปบนผิวที่ลำคอผสมกับจังหวะมือที่บีบขยำอยู่บนอก

พาให้เด็กสาวเคลิบเคลิ้มไปตามสัมผัสที่ได้รับ

“อื้อ...”

เธอหลุดครางไปอย่างไม่ตั้งใจเมื่อถูกปลายลิ้นที่ให้ผิวสัมผัสที่หยาบและสากตวัดเข้าที่ซอกคอช้าๆ

ก่อนจะไล่เลียไปตามผิวบริเวณคอ มือหนาของอาชาเริ่มขยับมาปลดกระดุมเสื้อทีละเม็ด

จนหมดจากนั้นเขาจึงสอดมือเข้าไปวนเสื้อแล้วโอบขยำสองเต้าอวบไปพร้อมกับการดูดเหน็บที่ลำคอขาว

“ซ่อนรูปเอาเรื่องอยู่นะ”

เขาเอ่ยปากบอกก่อนจะยิ้มหยันอย่างพอใจ เขาประคองเธอให้ลุกขึ้นก่อนจะหมุนเก้าอี้ให้หันหน้าเขาหาตัวแล้วกดพลอยมายาให้กลับลงไปนั่งบนเก้าอี้

อาชาแหวกเสื้อนักศึกษาออกก่อนจะมุดหน้าเข้ามาไซร้ที่หน้าอกอวบ และสูดดมอย่างคนหื่น

สลับกับใช้ลิ้นเลียที่เนินเนื้อเหนือบลาสีดำ

“ซู๊ดดด

อืม....กลิ่นมันหอมรัญจวน” เขาว่าก่อนจะซุกหน้าลงไปที่อกอีกครั้ง

มือข้างหนึ่งล้วงไปที่ด้านหลังเพื่อปลดตะขอเสื้อใน

เขาทำมันอย่างชำนาญเมื่อตะขอถูกปลดบลาที่เกาะอยู่บนอกก็หลุดหลวมเผยให้เห็นอกอวบที่ซ่อนอยู่ใต้ร่มผ้าอย่างเต็มตา

เขาซบหน้าลงสูดดมและโลมเลียอย่างหื่นกระหายเสียงหายใจหอบพาให้

คนถูกกระทำสยิวซู่พาลมหายใจหอบตามอย่างไม่รู้ตัว

เขาเริ่มใช้ปากดูดเม้มบนเนินนมและขยับเข้าที่ที่ยอดสีชมพูอ่อน จากเบาและแรงขึ้น

แรงขึ้น

“อู้ววว....”

มันคือรสสัมผัสที่เธอไม่เคยพบเจอมาก่อน มันร้อนระอุดั่งไฟเผา

ซาบซ่านสยิวกายอย่างบอกไม่ถูก มันไม่เห็นจะแย่ตรงไหน

ไม่แปลกใจเลยว่าคนอื่นทำไมถึงทำงานแบบนี้ได้ทั้งที่มันถูกเหยียดหยามนักว่าเป็นงานขายศักดิ์ศรี

เขาเริ่มล้วงมือไปใต้กระโปรงหนักศึกษา

แล้วถอดเอากางเกงในตัวน้อยที่ชุ่มไปด้วยความต้องการของเด็กสาวออกมาแล้วยกขึ้นสูดดมกลิ่นสาวกระตุ้นความราคะตัวเอง

ทั้งสองสบประสานสายตาอย่างรู้กัน อาชาถลกกระโปรงนักศึกษาทรงเอของพลอยมายาขึ้นก่อนจะจับขาของเธออ้าออกแล้วมุดหน้าลงไปลิ้มชิมรสน้ำหวานจากกลีบสาวที่กำลังชุ่มแฉะ

สัมผัสที่ลิ้นแตะลงบนกลับแล้วชอนไชเข้าไปดูดเลียที่เกสรมันคือสัมผัสสวรรค์

พลอยมายาในตอนนี้ ทั้งซี้ดปาก ทั้งร้องคราง เอวก็แอ่นรับด้วยความปรารถนา

มือข้างหนึ่งเกาะอยู่ที่โต๊ะข้างๆ

ส่วนอีกข้างก็กดศีรษะของคนที่นั่งอยู่ที่พื้นอย่างไร้ยางอาย

ไม่นานเมื่อเขาดูดชิมน้ำหวานจนพอใจแล้วเขาก็ลุกขึ้นก่อนจะช้อนอุ้มร่างของเธอไปที่เตียงและวางลงอย่างเบามือ

จัดการถอดเสื้อผ้าตัวเองออกจนหมด แล้วค่อยๆ คลานขึ้นมาคล่อมบนตัว กระโปรงที่ถูกถลกขึ้นอยู่ถูกถอดออกและโยนลอยหายไปกลางอากาศ

แต่เสื้อยังคงสวมอยู่ในสภาพปลดเปลื้องกระดุมแต่แหวกออกให้เห็นหน้าอกที่เปลือยจากเสื้อในที่ไม่ได้ติดตะขอ

เขาก้มหน้าลงดูดเลียสองอกอวบอีกครั้งและค่อยๆ

เอาแก่นกายถูบนเนินเนื้อที่เปียกเยิ้มด้วยน้ำหวาน เธอรู้สึกเสียวกระสันครั่นเนื้อครั่นตัว

ร่างกายร้อนวูบวาบเหมือนจะอดรนทนรอขั้นต่อไปไม่ไหว แต่เมื่อมันค่อยๆ

ขยับเคลื่อนเข้ามาในตัวกลับรู้สึกเจ็บแปล๊บจนแทบสิ้นใจ

มันคือความเจ็บบนความสุขสมและเป็นความเจ็บที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับร่างกายมาก่อน

“อื้อ....แด๊ดดี้ขาหนูเจ็บ”

เธอเริ่มดิ้นเมื่อมันเจ็บเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ

มือทั้งสองเริ่มออกแรงดันอกที่ทาบอยู่บนตัวให้ออกห่าง

แต่เขาก็จับมือของเธอรวบขึ้นไปกดไว้ที่เหนือร่างและออกแรงดันกิจกรรมที่ค้างอยู่ให้ไปต่อ

“เจ็บนิดเดียวก็สบายแล้ว”

เธอรู้ว่าขั้นตอนนี้หากไม่เคยผ่านอะไรมาจะเจ็บมาก แต่ไม่ได้คิดว่ามันจะมากเท่านี้

พลอยมายาเริ่มดิ้นและขัดขืนด้วยความที่เจ็บเหลือทน แต่แรงของผู้หญิงตัวเล็กๆ

หรือจะสู้ผู้ชายร่างกายกำยำซ้ำยังออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ

เธอทนเจ็บอยู่พักหนึ่งอาการก็ค่อยทุเลาลงและกลับสู่ความรู้สึกก่อนหน้าโดยมีความเจ็บซ่อนอยู่ลึกๆ

เมื่อมันเข้าที่เข้าทางดีแล้ว เขาก็ออกแรงกระทำเต็มที่

แม้เธอจะยังเจ็บอยู่แต่มันก็ดีขึ้นมากเริ่มมีความรู้สึกร่วมเคลิบเคลิ้มเพลิดเพลินไปกับแผ่นดินกามโลกีย์ที่ท่องไปด้วยกันบนเตียง

ใช้เวลาอยู่พักหนึ่งทุกอย่างก็สิ้นสุดลง พลอยมายาไม่ได้รู้สึกอุ่นอย่างที่อ่านมาจากอินเทอร์เน็ตเพราะอาชาใส่ถุงยาง

แต่นี่ก็ถือว่าเป็นครั้งแรกที่สุขสม เหมือนกับที่คาดไว้ก่อนแล้ว

งานนี้ไม่ได้ยากอะไรเลยแค่นอนทนเจ็บเสียหน่อยเท่านั้นเอง....

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!