NovelToon NovelToon

จอมเวทย์พเนจรในราตรีนิรันดร์

ตอนที่ 1: เสียงแห่งความว่างเปล่า

กลางท้องฟ้ายามค่ำคืนอันเงียบสงบ มีเพียงเสียงลมแผ่วเบาที่พัดผ่านยอดเขาสำนักเวทย์แห่งเงา พิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์กำลังดำเนินอยู่ในลานกว้างของสำนัก เสียงสวดมนต์ของผู้อาวุโสดังก้องไปทั่ว บ่งบอกถึงความเข้มงวดและเคร่งขรึม

จั่วเหยียนยืนอยู่กลางวงเวทย์ ดวงตาสีแดงเข้มของเขาจ้องตรงไปยังผลึกเงาที่ตั้งอยู่เบื้องหน้า ผมสีดำสนิทของเขาปลิวไสวไปตามแรงลม เขารู้สึกได้ถึงพลังที่กำลังโอบล้อมร่างกายเขาไว้ แรงกดดันนี้ไม่ใช่สิ่งที่น่าแปลกใหม่สำหรับเขา การเป็นศิษย์ขั้นสูงสุดของสำนักแห่งนี้ต้องผ่านความยากลำบากมาไม่น้อย แต่คืนนี้กลับรู้สึกแตกต่าง

“จั่วเหยียน ศิษย์ผู้ได้รับเลือกจากผลึกเงา เจ้าพร้อมแล้วหรือไม่?” เสียงของอาจารย์ใหญ่ดังขึ้น หนักแน่น แต่แฝงไปด้วยความหวัง

จั่วเหยียนพยักหน้า สายตายังคงมุ่งมั่น เขาไม่พูดคำใด มีเพียงการก้าวไปข้างหน้า และในขณะที่เขาวางมือลงบนผลึกเงา แสงสีดำสนิทก็แผ่ซ่านออกมา พลังงานนั้นดูดกลืนทุกสิ่งรอบข้างจนเกิดเป็นความมืดมิด

ทันใดนั้นเอง เสียงกระซิบแปลกประหลาดดังขึ้นในหัวของจั่วเหยียน เสียงนั้นไม่ใช่ของใครในลานพิธี แต่เหมือนดังมาจากที่ไหนสักแห่งที่ไม่อาจระบุได้

“เจ้า...เลือกข้า...” เสียงนั้นเย็นเยียบจนแทรกผ่านกระดูกสันหลัง

จั่วเหยียนเบิกตากว้าง เขาพยายามปล่อยมือจากผลึกเงา แต่พลังงานบางอย่างพันธนาการเขาไว้ แสงสีดำเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงเลือด และลมพายุขนาดย่อมพัดกระหน่ำจนผู้คนในลานต้องหลบหนี

“เกิดอะไรขึ้น!” อาจารย์ใหญ่ตะโกน แต่ไม่มีใครตอบได้

จั่วเหยียนทรุดลงกับพื้น มือกุมศีรษะ เสียงกระซิบในหัวของเขาดังก้องขึ้นเรื่อย ๆ ร่างกายเขาสั่นสะท้าน ก่อนที่พลังงานทั้งหมดจะปะทุออกมาเหมือนคลื่นระเบิด กระจายไปทั่วลานเวทย์

“เขา...ใช้เวทย์ต้องห้าม!” เสียงของศิษย์คนหนึ่งดังขึ้นด้วยความหวาดกลัว

ผู้อาวุโสรีบเข้ามาดูอาการของจั่วเหยียน ขณะที่อาจารย์ใหญ่จ้องเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง ความเงียบที่ตามมาเป็นเหมือนคำพิพากษา ทุกคนต่างมองเขาเหมือนเป็นปีศาจ

จั่วเหยียนลืมตาขึ้นช้า ๆ ดวงตาสีแดงของเขากลับเข้มขึ้นจนดูเหมือนเปลวไฟ “ข้าไม่ได้ทำ...” เขาพูดเสียงแผ่ว แต่ไม่มีใครฟัง

ในชั่วพริบตา เสียงกระซิบนั้นดังขึ้นอีกครั้งในหัวของเขา “เจ้ายังไม่พร้อม...แต่ข้าจะรอ...”

และแล้ว ทุกสิ่งก็กลายเป็นความเงียบงันที่หนักหน่วง…

จั่วเหยียนถูกพาตัวไปยังหอคุมขังของสำนัก ท่ามกลางความมืดมิดและกลิ่นอับของผนังหินที่เย็นเฉียบ ร่างของเขาถูกตรึงด้วยพันธนาการเวทย์มนตร์ ดวงตาสีแดงที่เคยมั่นคงของเขาเต็มไปด้วยความสับสนและโกรธแค้น

เขาไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร พลังที่ปะทุออกมานั้นไม่ใช่สิ่งที่เขาเคยฝึกฝน หรือแม้แต่สิ่งที่เขารู้จัก เสียงกระซิบนั่น—เสียงที่ไม่ควรมีอยู่—มันเหมือนเป็นสิ่งแปลกปลอมที่ฝังตัวอยู่ในจิตใจของเขา

“จั่วเหยียน เจ้ารู้ตัวหรือไม่ว่าทำอะไรลงไป?” เสียงของผู้อาวุโสหลิวดังขึ้น ดวงตาเย็นชาจ้องเขาเหมือนมองสิ่งสกปรก

“ข้าไม่ได้ทำ…” จั่วเหยียนตอบเสียงต่ำ ดวงตาแดงสบตาผู้อาวุโสโดยไม่หลบเลี่ยง

“ไม่ได้ทำ? เจ้าจะปฏิเสธได้อย่างไร เมื่อทุกคนเห็นกับตา เจ้าใช้พลังเวทย์ต้องห้ามที่ไม่มีใครในสำนักนี้ได้รับอนุญาต!”

“ข้าไม่รู้ว่ามันคืออะไร ข้าถูกบางอย่างครอบงำ…”

“ข้ออ้างที่น่าสมเพช” ผู้อาวุโสอีกคนแทรกขึ้นด้วยเสียงแหลม “และอย่าลืมว่าผลจากเวทย์นั่น ทำให้อาจารย์ใหญ่ของเจ้าสิ้นลมหายใจไปด้วย!”

คำกล่าวหานั้นเหมือนคมดาบที่ปักเข้ากลางหัวใจของจั่วเหยียน ดวงตาของเขาเบิกโพลง “อะไรนะ...อาจารย์ใหญ่...” เสียงของเขาสั่นไหว ความโกรธเกรี้ยวในใจเริ่มเปลี่ยนเป็นความสิ้นหวัง

“ไม่มีอะไรจะพูดแล้วสินะ เจ้าก็รู้ว่าการใช้เวทย์ต้องห้ามและการสังหารอาจารย์ใหญ่มีโทษสถานเดียว...” ผู้อาวุโสหลิวกล่าว พร้อมชี้ไปยังตราเวทย์ที่สลักอยู่บนกำแพงหิน มันเป็นสัญลักษณ์ของการลงทัณฑ์สูงสุด—การทำลายพลังและเนรเทศ

“ไม่...ข้าจะไม่ยอมรับโทษในสิ่งที่ข้าไม่ได้ทำ!” จั่วเหยียนลุกขึ้นยืน แม้พันธนาการเวทย์จะพยายามดึงเขาไว้ ร่างกายของเขาสั่นเทิ้ม แต่ดวงตายังคงเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น

“กล้าหรือ! เจ้าคิดหรือว่าพลังของเจ้าจะหนีจากสำนักนี้ได้?”

“ข้าจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของข้า และหาความจริงเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น!”

จั่วเหยียนหลับตาลง ปล่อยให้พลังเวทย์ในตัวค่อย ๆ หลั่งไหลออกมา พันธนาการเวทย์เริ่มแตกร้าวเป็นเสี่ยง ๆ ผู้อาวุโสที่ยืนอยู่ต้องถอยหลังด้วยความตกใจ

ในเสี้ยววินาทีสุดท้าย จั่วเหยียนพุ่งตัวออกจากหอคุมขัง พลังเวทย์ของเขากวาดผ่านสิ่งกีดขวางรอบตัว เสียงระเบิดดังกึกก้องทั่วสำนัก แต่จั่วเหยียนไม่ได้สนใจ เขาเพียงต้องการหนีให้พ้นจากสถานที่แห่งนี้

ในขณะที่เขาวิ่งหนีไปตามเส้นทางที่คุ้นเคย ใบหน้าของอาจารย์ใหญ่ผุดขึ้นในความคิด รอยยิ้มที่เปี่ยมด้วยความเมตตาเมื่อครั้งยังมีชีวิต ทำให้จั่วเหยียนรู้สึกเหมือนถูกเข็มแทงหัวใจ

“ข้าจะหาความจริง...ข้าสาบาน” เขาพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะหายลับไปในเงามืดของป่าที่อยู่เบื้องหน้า…

แสงจันทร์ส่องผ่านยอดไม้ในป่าลึก ขณะที่จั่วเหยียนวิ่งลัดเลาะไปตามเส้นทางที่แทบมองไม่เห็น ความมืดมิดและหมอกที่หนาทึบทำให้ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยความระมัดระวัง แต่เขาก็ไม่หยุด ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยบาดแผลและคราบเลือด ความเจ็บปวดนั้นช่างเล็กน้อยเมื่อเทียบกับความรู้สึกถูกทรยศ

เสียงกระซิบที่ดังขึ้นในหัวของเขาในพิธีกรรมยังคงวนเวียนในจิตใจ "เจ้า...เลือกข้า..."

“ข้าคือใคร? ข้าทำสิ่งนี้ไปได้อย่างไร?” จั่วเหยียนพึมพำกับตัวเอง ดวงตาแดงฉานของเขาจ้องมองไปรอบ ๆ อย่างระแวดระวัง ทุกเสียงในป่าทำให้เขาระแวงว่าจะมีคนตามล่ามาอีก

ขณะที่เขาหยุดพักใต้ต้นไม้ใหญ่ เสียงฝีเท้าหนัก ๆ ดังมาจากด้านหลัง เขารีบกระชับมือบนดาบเวทย์ที่เหน็บไว้ข้างเอว ดวงตาคมกริบหันมองไปยังทิศทางที่เสียงดังขึ้น

กลุ่มชายในชุดดำปรากฏตัวขึ้น ท่ามกลางหมอกที่แผ่กระจายออกไปช้า ๆ พวกเขาเป็นนักล่าค่าหัวที่ถูกส่งมาจากสำนัก เพื่อตามล่าและสังหารเขา

“จั่วเหยียน! ยอมจำนนซะ! ไม่มีทางที่เจ้าจะหนีรอดไปได้!” หนึ่งในนักล่าค่าหัวตะโกนพร้อมยกดาบขึ้นเตรียมต่อสู้

จั่วเหยียนยืนนิ่ง แม้เหงื่อจะไหลลงมาตามขมับ แต่สายตาของเขากลับสงบนิ่งและเต็มไปด้วยความแน่วแน่ เขาชักดาบออกมา เสียงโลหะเสียดสีกันดังขึ้นเบา ๆ ก่อนที่ประกายแสงสีดำสนิทจะปรากฏบนใบดาบ

“ถ้าคิดจะจับข้า ก็ลองดู” จั่วเหยียนเอ่ยเสียงเย็นชา

การต่อสู้เริ่มต้นขึ้น นักล่าค่าหัวพุ่งเข้ามารอบทิศ ดาบของพวกเขาเปล่งประกายเวทย์มนตร์หลากสี ขณะที่จั่วเหยียนใช้ดาบของเขาสกัดการโจมตีได้อย่างแม่นยำ เสียงโลหะกระทบกันดังก้องไปทั่วป่า

หมอกหนาในป่าทำให้ทุกอย่างดูราวกับภาพลวงตา การเคลื่อนไหวของจั่วเหยียนรวดเร็วและหนักแน่น เขาโต้กลับด้วยพลังเวทย์ที่แปลกประหลาด มันไม่ใช่พลังเวทย์แห่งเงาที่เขาเคยฝึกฝน แต่มันคือบางสิ่งที่เขาไม่เข้าใจ

ในขณะที่เขาปัดการโจมตีของศัตรูคนสุดท้ายและพุ่งดาบแทงทะลุอกของอีกฝ่าย หมอกที่เคยปกคลุมก็ค่อย ๆ จางลง เสียงลมในป่ากลับมาเงียบสงัดอีกครั้ง

จั่วเหยียนยืนอยู่กลางสนามรบที่เต็มไปด้วยศพ หายใจหอบหนัก ดวงตาสีแดงของเขาเปล่งประกายวูบไหวเหมือนเปลวไฟ เขามองลงไปยังดาบในมือที่เปื้อนเลือด ก่อนจะพึมพำกับตัวเองเบา ๆ

“นี่คือสิ่งที่ข้าต้องทำ… เพื่อเอาตัวรอด”

เสียงกระซิบนั้นกลับมาดังในหัวอีกครั้ง “เจ้ากำลังเดินตามชะตากรรมของเจ้า... เจ้าเลือกข้าแล้ว จำไว้...”

จั่วเหยียนปิดตาลง สูดลมหายใจลึก ก่อนจะเงยหน้ามองท้องฟ้าที่มืดสนิท แม้ดวงจันทร์จะส่องแสง แต่เขากลับรู้สึกว่าความมืดที่แท้จริงนั้นกำลังอยู่ในตัวของเขาเอง

ร่างสูงก้าวเดินไปข้างหน้า ทิ้งซากแห่งความวุ่นวายไว้เบื้องหลัง เขาไม่รู้ว่าปลายทางอยู่ที่ใด แต่เขาจะต้องไขความจริงให้ได้ แม้ต้องเผชิญหน้ากับทุกสิ่งที่มืดมนในตัวเอง…

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!