...Chapter 1...
..."Dream Come True"...
เดือนพฤษภาคม ค.ศ.2123 รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา
ณ บ้านหลังนึงในรัฐฟลอริดา
"เซเฟอร์ลูกเอ้ยจะรีบไปไหนกันเนี่ยนี่พึ่งตี 4 เองนะกว่าเครื่องจะออกก็ตั้ง 8 โมงเช้า"
เสียงของผู้เป็นแม่ดังขึ้นและเธอก็ยืนพิงประตูห้องของลูกชายด้วยใบหน้ายิ้มเจื่อนๆก่อนจะหาวไปหนึ่งทีด้วยความง่วงและเกาผมสีบลอนด์เข้มยุ่งเหยิง เธอมองดูลูกชายของเธอที่กำลังตื่นเต้นอย่างมากในการจะไปสถานที่แห่งนึง
"ก็ต้องเตรียมตัวไงครับคุณแม่!! ผมหน่ะต้องเผื่อเวลาไว้เยอะๆเพื่อความมั่นใจ!!"
เซเฟอร์ แลนดอร์ฟ ลูกชายของเธอกล่าวอย่างตื่นเต้น เขาจัดทรงผมตัวเองแล้วจัดอีกจนพอใจก่อนจะหันมามองแม่ของเขาด้วยดวงตาสีฟ้าเข้มเฉกเช่นเดียวกับแม่
"นั่นหน่ะแม่เข้าใจแล้ว แต่ไม่ต้องขนาดนี้ก็ได้มั้ง สนามบินอยู่ห่างจากบ้านเราแค่10นาทีเองแถม Hybrid Biosphere Park ห่างจากไมอามี่โดยนั่งเครื่องบินเฉพาะของสายการบิน Biosphere ไปไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงแล้ว ยิ่งลูกมีตั๋วพิเศษจากพี่เซย์เดน ก็แทบไม่มีปัญหาอย่างอื่นเลยนะ"
ชาร์ล็อตต์ผู้เป็นแม่หัวเราะเล็กน้อยและวางมือลงบนเอว แล้วมองลูกชายของตนด้วยรอยยิ้มด้วยความเอ็นดู
"แต่ว่าเอาให้ชัวร์จะดีกว่านะคับ!"
เซเฟอร์จัดแว่นดีๆแล้วยิ้มแฉ่งจนเผยให้เห็นเหฃ็กดัดฟันให้ชาร์ล็อตต์พร้อมกับหยิบกระเป๋าสะพายหลัง และกระเป๋าถือของเขาอย่างตื่นเต้นเหมือนเด็กน้อย ที่เขามีพฤติกรรมแบบนี้ก็เพราะป่วยเป็นออทิสติก
"จ้า จ้า เข้าใจแล้ว ลูกคงคิดถึงพี่เซย์เดนสินะ ไปทำงานพาร์ทไทม์ที่นู่นก็อย่ากวนพี่เขาให้มากหล่ะ"
ชาร์ล็อตต์พยักหน้าแล้วพูดเตือนลูกชายของตัวเองด้วยความเป็นห่วง เซเฟอร์พยักหน้าด้วยความเข้าใจและทำมือโอเค
"สัญญาเลยครับ! ว่าจะไม่สร้างปัญหาให้พี่เซย์เดน! อีกอย่างผมโตแล้วนะแม่! จะเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว! ไม่ต้องห่วงผมหรอกน่า!"
"ยิ่งพูดแบบนั้น ยิ่งห่วงใหญ่เลย!"
บทสนทนาของแม่ลูกก็จบลง ก่อนที่ชาร์ล็อตต์ไม่มีทางเลือกเธอทนความกระตือรือร้นของเซเฟอร์ไม่ไหวที่ขอให้เธอไปส่งที่สนามบินทันที ไม่งั้นเซเฟอร์จะไปเอง ชาร์ล็อตต์เธอก็ต้องไปอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อยเพื่อขับรถไปส่งลูกชายของเธอที่สนามบิน เพราะเธอไม่ค่อยอยากให้เซเฟอร์นั่งรถไปเอง เพราะครั้งล่าสุดที่ปล่อยให้นั่งรถไปเองเซเฟอร์โดนพวกประชาชนในรถโดยสารปฎิบัติตัวไม่ดีใส่เพียงเพราะเขาเป็นออทิสติก
เวลาผ่านมาหลายชั่วโมง ก็ใกล้ถึงเวลาเครื่องออกแล้ว ก่อนเซเฟอร์จะไปชาร์ล็อตต์ก็จับไหล่เซเฟอร์ไว้ก่อน แล้วดึงเขามาจะพูดคุยด้วย
"ไปอยู่ที่นั่น 2 เดือนตั้งใจทำงาน เป็นเด็กดีของพี่เซย์เดนนะอย่าไปรบกวนพี่เขามาก แค่พี่เขาส่งตั๋วพิเศษมาให้ก็รบกวนพี่เขามากแล้ว...อีกอย่างนะอย่าปล่อยให้คนอื่นมารังแกลูกเด็ดขาด อย่าไปสนใจคำพูดพล่อยๆของคนที่ไม่เข้าใจเรา ดูแลตัวเองดีๆ อย่ากินแต่ขนม ถ้าถึงแล้วโทรหาแม่ด้วยนะ"
ชาร์ล็อตต์ลูบผมสีบลอนด์เข้มของเซเฟอร์อย่างอ่อนโยน แล้วเผยรอยยิ้มแฉ่งเหมือนของเซเฟอร์ให้ เซเฟอร์พยักหน้ายิ้มแฉ่งและกอดแม่ของเขา
"ครับ! ผมสัญญา! ไปแล้วนะครับ! คุณแม่ก็ดูแลตัวเองด้วย! อย่าให้ผมรู้อีกนะครับว่าสูบบุหรี่!!"
เซเฟอร์โบกมือลาชาร์ล็อตต์และเดินขึ้นเครื่องบินไปอย่างตื่นเต้นเหมือนเด็กน้อย
ไม่นานนักเครื่องบินตัวใหญ่ที่เขียนว่า Biosphere แทบสีเหลืองก็ออกตัวจากสนามบินไปทันทีและตรงดิ่งไปตามเส้นทางของน่านน้ำท้องทะเลแห่งสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า สามเหลี่ยมปีศาจในตำนานที่รัฐบาลสามารถควบคุมสภาพอากาศอันเลวร้ายที่เป็นสาเหตุของการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินในช่วงเวลามากกว่า 100 ปีที่ผ่านมา ต้องขอขอบคุณเทคโนโลยีของโลกที่ก้าวหน้าขึ้นไปทุกๆวัน
เซเฟอร์ยกโทรศัพท์ขึ้นมาและถ่ายรูปวิวผ่านหน้าต่างด้วยความตื่นเต้น แต่เขาก็พยายามสงบสติอารมณ์ตัวเองเพื่อไม่ให้รบกวนแขกคนอื่นที่ต้องการมุ่งหน้าไปยัง Hybrid Biosphere Park เหมือนกัน ตอนนี้เซเฟอร์กำลังจินตนาการภาพของสวนสนุกและสวนสัตว์ในฝันของเขาและชีวิตการเป็นพนักงานพาร์ทไทม์ที่นั่นตั้ง 2 เดือน
"ขอบคุณพี่เซย์เดนนะฮะ.."
เขาพึมพัมในใจขอบคุณพี่ชายสุดที่รักของเขาที่ให้โอกาสเด็กออทิสติกที่เป็นเนิร์ดแฟนคลับเกี่ยวกับชีววิทยาและสิ่งมีชีวิตโลก ได้ไปอยู่ในสถานที่ระดับโลกที่มี รัฐบาลอเมริกา จีน รัสเซีย ญี่ปุ่น และ ออสเตรเลีย หนุนอยู่
ผ่านไปแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้นเครื่องบินก็ลงจอดที่สนามบินทางใต้ของ เกาะขนาดใหญ่มโหฬารกลางสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Hybrid Biosphere Park เมื่อเซเฟอร์ลงเครื่องมาแล้วและได้สัมภาระคืนเขาก็รีบไปนั่งเรือสำราญต่อเพื่อลงยังหน้าสวนสัตว์ผสมผสานกับสวนสนุกดังว่าที่หมายปองเอาไว้
ในขณะที่อยู่บนเรือสำราญ เซเฟอร์ตื่นตาตื่นใจมากโดยเฉพาะเมื่อเข้าเขตของของ Hybrid Biosphere Park ขึ้นทุกทีเขาก็นำโทรศัพท์มาถ่ายทุกช็อตเพื่อเก็บความทรงจำ
จู่ๆก็มีเสียงนักท่องเที่ยวโห่ร้องด้วยความชอบใจต่อบางอย่างที่กระโดดขึ้นมาเหนือน่านน้ำ เซเฟอร์เลยรีบไปมุงดูด้วย
"นั่นมัน MandarinDolph Bloom! โลมาปากขวดที่ถูกตัดต่อพันธุกรรมรวมกับปลาแมนดารินและแพลงตอนเรืองแสงทำให้มันมีสีสันสวยมาก ถ้าเป็นตอนกลางคืนมันจะเรืองแสง!"
เซเฟอร์พูดอย่างตื่นเตนและถ่ายรูปรัวๆ เขาแอบเสียดายนิดหน่อยไม่ได้เห็นพวกมันตอนกลางคืน เพราะถ้าเป็นตอนค่ำมันจะเรืองแสงสวยมาก
ไม่ทันไรเซเฟอร์ก็หันไปอีกทางก็เจอกับน้ำพุขนาดใหญ่ถูกพ่นมาจากใต้ผืนมหาสมุทรก่อนจะปรากฎร่างใหญ่ของวาฬ
"Glass Whale!! วาฬสีน้ำเงินที่ถูกตัดแต่งพันธุกรรมรวมกับหมึกแก้ว! เลยกลายเป็นวาฬยักษ์ตัวใส!!"
เซเฟอร์ยิ่งตื่นเต้นขึ้นไปใหญ่แล้วก็ถ่ายเก็บรูปภาพโดยไม่พลาดสักจังหวะ แล้วยิ้มแฉ่งเหมือนทุกครั้งเวลามีความสุขมากๆ
ช่วงเวลาก็จบลงเมื่อเรือสำราญจอดเทียบท่า เซเฟอร์ก็ลงไปจากเรือพร้อมกับโทรหาชาร์ล็อตต์ไปด้วย
"คุณแม่ฮะ! ผมถึงแล้วนะ! แค่เริ่มมาผมก็ตื่นเต้นจนใจแทบหลุดออกมาเลย! Glass Whale มันสวยมากๆ!"
เซเฟอร์เริ่มพูดไม่หยุดในขณะที่ถือสายกับชาร์ล็อตต์ แล้วพยายามมองหาเซย์เดนพี่ชายของตนเองท่ามกลางฝูงชนนักท่องเที่ยวที่พลุกผล่าน
"อย่ามัวแต่คุยกับแม่นะ เดินระวังๆด้วย
"คับผม! อ๊ะ! เจอแล้วว! ผมเจอพี่เซย์เดนแล้ว วางสายแล้วนะครับ!"
"จ้า"
เซเฟอร์กดวางสายและรีบเดินไปหาพี่ชายของตนที่ยืนรออยู่ข้างๆรถจี๊ปสีเขียวเข้ม เขาเป็นชายหุ่นดีตัวสูง ใบหน้าคมกว่าเซเฟอร์หลายเท่า เขามีผมสีบลอนด์เข้มเหมือนกันแต่มีดวงตาสีเขียวอมเทา เขาสวมเครื่องแบบเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยระดับสูง ดูจากป้ายบัตรประจำตัวไกลๆยังรู้เลยว่าเป็นหัวหน้า
"พี่เซย์เดน!!"
เซเฟอร์ตะโกนเรียกความสนใจของพี่ชายตัวใหญ่เบิ้มให้หันมาทางเขา เมื่อเข้าไปใกล้ได้แล้วเซย์เดนก็ยิ้มให้น้องชายของตนอย่างอ่อนโยนก่อนจะพาดแขนไปที่ไหล่และคอของเซเฟอร์ แล้วยีหัวด้วยความขี้เล่น
"ไม่เจอกันนานเลยเซเฟอร์น้องรักของพี่!! สูงขึ้นนะเนี่ย! ล่าสุดยังอยู่แค่อกพี่เลย ตอนนี้ขึ้นมาถึงไหล่แล้ว!!"
"ก็คุณแม่หน่ะ! ทำอาหารให้ผมกินเยอะมากๆเลย กินแทบไม่ไหว! เต็มจานทุกมื้อเลยด้วย!"
เซเฟอร์หัวเราะคิกคักอย่างดีใจที่ได้เจอกับพี่ชายตนเองที่ไม่ได้เจอกันนานหลายปีมากๆ
"แล้วพี่มีแฟนรึยังอ่ะ?"
เซเฟอร์ถามเชิงหยอกล้อ จนเซย์เดนหัวเราะชอบใจและยีหัวผู้เป็นน้องชายด้วยความเอ็นดูอีกรอบ
"หล่อขนาดนี้ก็ต้องมีสิ! นี่ใคร? เซย์เดน แลนดอร์ฟ! อดีตยามฝั่งสหรัฐของกองทัพสหรัฐ! ที่ถูกคุณดราเวน ไบโอสเฟียร์ เชิญให้มาเป็นหัวหน้ารักษาความปลอดภัยระดับสูง! อย่าดูถูกพี่นะไอ้น้องชาย"
เซย์เดนปล่อยเซเฟอร์ไปแล้วชนไหล่เล็กน้อย จนเซเฟอร์เซไปอีกทาง
"อยากรู้เลยว่าเป็นผู้หญิงแบบไหน?!"
"เดี๋ยวก็รู้ เอ้าขึ้นมาได้แล้ว! สัมภาระโยนเข้าข้างหลังไปตอนขึ้นนะ!"
เซย์เดย์หันหลังให้น้องชายแล้วขึ้นไปยังฝั่งคนขับ เซเฟอร์ไม่รอช้ารีบตามขึ้นไปทันที
"งั้นช่วยบอกแฟนพี่มาหน่อยอะไรก็ได้!..นิดๆหน่อยๆก็ยังดี! พี่กำลังทำให้ผมจะใช้โหมดพูดมากจนพี่รำคาญและพูดออกมานะ! แล้วคุณแม่รู้ยังเนี่ย?"
เซเฟอร์พูดอย่างกระตือรือร้นและคาดเข็มขัดก่อนมองพี่ชายตัวเองด้วยความอยากรู้อยากเห็น
"แม่ยังไม่รู้"
"ก็ได้ๆบอกก็ได้เธอชื่อ แอสเตรลล่า ฮูเวอร์ เป็นนักวิจัยในแผนกพฤกษศาสตร์และไบโอมชีวภาพ แต่เธอเป็นใบ้พี่กับเธอเลยคุยภาษามือกัน เซเฟอร์คุยภาษามือได้ใช่มั้ย รับได้ใช่มั้ยเนี่ย?"
เซย์เดนยิ้มมุมปากแล้วเริ่มสตาร์ทรถ เซเฟอร์พยักหน้ารับ
"ง่ายๆน่าพี่! หืม?ถามแปลกๆ เธอก็คนเหมือนกันน่าพี่!"
เซเฟอร์ยักไหล่ แล้วมองไปทางด้านหน้า เซย์เดนถอนหายใจแล้วยิ้มให้ด้วยความโล่งและพึงพอใจ
"นายมองโลกในแง่ดีแบบนี้พี่ก็ดีใจนะ"
"ก็คุณแม่บอกมาแบบนั้นนี่น่า ใครจะพูดอะไรก็ช่างหัวเขาเถอะพี่"
"ถูกต้อง บนโลกใบนี้มีเป็นสิบล้านคนต้องฟังพวกเขาทุกคนรึไงเนอะ"
เซย์เดนพูดติดตลกและขับรถจี๊ปไปตามทางที่ปูมาให้สำหรับรถตามกฎระเบียบ โดยไม่ไปแย่งที่สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินมา
ยินดีต้อนรับสู่ Hybrid Biosphere Park สวนสัตว์พันธุ์ผสมทุกสายพันธุ์บนโลกและพฤกษานานาชนิด ไม่ว่าจะจากยุคปัจจุบันและสัตว์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ และสวนสนุกยกระดับความสนุกไปอีกล้านเท่า หวังว่าท่านผู้มาเยือนนักท่องเที่ยวทุกท่านจากทั้งใกล้และไกลจะพึงพอใจได้ประสบการณ์อันมีค่าร่วมกับครอบครัว เพื่อน หรือคนรักกลับไป ขอขอบคุณสำหรับการมาเที่ยวชม และ ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพค่ะ
เสียงประกาศตามสายอัตโนมัติดังขึ้นเมื่อเซย์เดนขับรถเข้าผ่านประตูทางเข้าใหญ่มโหฬารไป ราวกับว่าในนี้กลายไปเป็นอีกโลกนึงเลยก็ว่าได้..ทั้งเทคโนโลยีระดับสูง สิ่งปลูกสร้างต่างๆนาๆที่ออกแบบโดยสถาปนิกระดับโลก สร้างโดยทีมวิศวกรระดับโลกเช่นกัน พร้อมกับทีมรักษาความปลอดภัยมาตราฐานโลก และ ทีมนักวิจัยอัจฉริยะที่ได้สรรสร้างสิ่งมีชีวิตในสวนแห่งนี้ รวมถึง CEO บริษัท Biosphere ที่เป็นคนริเริ่มแนวคิดแห่งนี้
"ราวกับฝันเป็นจริงเลย.."
End Chapter 1 Dream come True
To be continued
...Chapter 2...
...Meeting ...
เซย์เดนขับรถจี๊ปเข้ามาตามทางเพื่อมุ่งหน้าไปยังโซนหอพักสำหรับเจ้าหน้าที่พนักงาน โดยในระหว่างที่เซเฟอร์ทำงานเป็นพนักงานพาร์ทไทม์อยู่ที่นี่เขาจะอยู่ห้องเดียวกันกับเซย์เดน ตอนนี้ก็มาถึงแล้ว เซย์เดนจอดรถและพาน้องชายขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นสิบซึ่งเป็นห้องพักของเขา เซย์เดนนำคีย์การ์ดของตนมาแสกนเปิดให้ ก่อนจะนำอันสำรองยื่นให้ไซเฟอร์
"อ่ะนี่คีย์การ์ดสำรองของห้องนี้อย่าทำหายเชียวล่ะ เพราะพี่มีสำรองอยู่อีกแค่อันเดียว"
"ครับผม จะเก็บรักษาอย่างดีเลย!!"
เซเฟอร์ทำท่าทางสาบานและเก็บคีย์การ์ดห้องเข้าในช่องใส่กระเป๋าเงินของตนเองทันที เมื่อเปิดเข้าห้องไปก็เป็นห้องขนาดใหญ่มีเตียงไซส์คิง โซนนั่งเล่น ห้องน้ำส่วนตัว และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมายแบบครบครัน เซเฟอร์ไม่รอช้ารีบจัดสัมภาระของตนให้เป็นระเบียบทันที
"เอาหล่ะนี่คือชุดพนักงานพาร์ทไทม์ของนายมีมาให้แค่ 3 ชุดทั้งเสื้อและกางเกง และก็มีป้ายพนักงานห้อยคอเอาไว้ เข็มขัด วิทยุสื่อสารรุ่นล่าสุด แท็บเล็ตพกพา หมวกพนักงานจะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ไม่ได้บังคับ รองเท้าอะไรก็ได้ที่ใส่แล้วทำงานสะดวกและสุภาพ อย่างสุดท้าย.."
เซย์เดนแจกแจงอุปกรณ์และเครื่องแบบของพนักงานพาร์ทไทม์ให้เซเฟอร์รู้ ก่อนจะเดินไปหยิบของอย่างสุดท้ายนั่นก็คือ โฮเวอร์บอร์ดชนิดลอยได้ เมื่อไซเฟอร์เห็นเขาก็ดวงตาลุกวาวและไปหยิบมาเช็คดูทันที
"ใช้เป็นใช่มั้ย?"
"ครับ! ใช้เป็น!"
"ดีๆ แล้วก็รายละเอียดงานที่นายทำรู้แล้วใช่มั้ย?"
"ครับรู้แล้ว! เป็นพนักงานคอยตรวจเช็คอาหารสัตว์พันธุ์ผสมแผนกสัตว์มีกระดูกสันหลัง! ประจำการอยู่ที่แผนกสัตว์ปีกที่เป็นแผนกย่อย! คอยตรวจเช็คดูถ้าหากอาหารหมดอายุ ขาด เหลือหรือเต็มก็กดรายงานผ่านแท็บเล็ตไป!"
เซเฟอร์อธิบายงานให้ฟัง เซย์เดนฟังอย่างตั้งใจแล้วพยักหน้าพึงพอใจ
"เยี่ยมมาก! งานเริ่มพรุ่งนี้ 7 โมงเช้า แล้วพร้อมไปหาแอสเตรลล่า แฟนของพี่ยังหล่ะ?"
เซย์เดนยิ้มกรุ่มกริ่มแล้วกอดอก และควงกุญแจรถจี๊ปไปหนึ่งที
"พร้อมแล้วฮะ!"
เซเฟอร์โดดโลดเต้นแล้ววิ่งออกจากห้องไปทันทีแทบไม่ทิ้งฝุ่น เซย์เดนได้แต่ยืนหัวเราะและปิดไฟและล็อคห้องด้วยระบบคีย์การ์ด รีบตามไปทันที เมื่อถึงรถเซย์เดนก็ขับรถไปตามทางป้ายบอกไปยัง โซนพฤกษศาสตร์และไบโอมทางชีวภาพ ทันทีโดยโซนนี้ จะจัดแสดงพืช ผลไม้ ทุกนานาชนิด ทุกอย่างในธรรมชาติที่ไม่รวมกับสัตว์ที่ถูกตัดแต่งพันธุกรรมและการจำลองไบโอมต่างๆในโลกรวมถึงการดูแลสภาพแวดล้อมกรงสัตว์ผสมด้วย โดยทีมนักวิจัย HC ทีมวิจัยที่อยู่มาตั้งแต่ยุคบุกเบิก
ขับมาได้สัก 10 นาทีก็มาถึงจนได้ โซนนี้จะเห็นได้ชัดก็คือโดมกระจกขนาดใหญ่ที่ขอบตกแต่งด้วยไม้และมีพืช ดอกไม้ งดงาม ห้อยลงมาและป้ายขนาดใหญ่ที่ติดชัดเจน อีกอย่างที่น่าสนใจคงเป็นรถไฟฟ้ารางเดี่ยวหรือโมโนเรลที่คอยให้บริการทัวร์โดยรอบของโซน
"นี่มันสุดยอดไปเลยนี่หว่า! อย่างกับหลุดไปยังอีกมัลติเวิร์สนึงเลยพี่!!"
เมื่อรถจี๊ปจอดเซเฟอร์ก็รีบเปิดประตูลงไปและวิ่งเข้าโดมกระจกไปทันที จนเซย์เดนแทบตามเจ้าน้องชายไม่ทัน
"โว้วๆ ใจเย็นไอ้น้องชาย"
เซย์เดนพยายามห้ามปรามเซเฟอร์ให้ใจเย็นลงหน่อยแต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลเลยสักนิด เขาก็ทำได้แต่เดินตามเจ้าน้องชายออทิสติกอัจฉริยะคนนี้ไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข
"นี่มันดอก Hydranrose เป็นการตัดแต่งพันธุกรรมจากดอกไฮเดรนเยียกับกุหลาบเข้าด้วยกัน ทำให้กุหลาบเป็นช่อดอกเล็กๆ เหมือนกันกับไฮเดรนเยียแต่ก็มีพิษเหมือนกัน! ว้าวหลากหลายสีสุดๆ!"
เซเฟอร์แทบยื่นหน้าเข้าไปจุ่มกับดอกไม้สีสันงดงามถึงจะรู้ว่ามีพิษแต่ก็อยากแตะ เซเฟอร์ก็พยายามห้ามใจตัวเองอยู่เหมือนกัน
"หว๊านี่มัน! Sunepiphyte นี่น่า! การตัดต่อพันธุกรรมระหว่างดอกทานตะวันกับพืชอิงอาศัยอย่างกล้วยไม้! ทำให้กลายเป็นดอกทานตะวันที่เล็กลงแต่เกาะอิงอาศัยตามไม้!'
เซเฟอร์ชี้ไปอีกทางนึงและเริ่มพูดบรรยายราวกับว่าเป็นวิทยากรที่นี่ จนเซย์เดนที่ไม่ได้รักวิชาการมากนักเหงื่อตกไปเรียบร้อย
"เซเฟอร์..ลืมไปแล้วหรอว่าจะไปเจอแฟนพี่?"
เซย์เดนจับไหล่น้องชายตนและพูดเตือนสติจนไซเฟอร์นึกถึงได้แล้วรีบก้มหัวขอโทษทันที
"ขอโทษครับพี่! ผมตื่นเต้นจนเผลอตัว!"
"ช่างมันเถอะน่า รีบไปเถอะ!"
เซย์เดนรีบลากเซเฟอร์ไปทันที ก่อนที่เขาจะเผลอพูดแบบวิทยากรพาเที่ยวอีกรอบ ตรงดิ่งไปยังอาคารวิจัยประจำแผนกทันที
ในที่สุดเซย์เดนก็ลากเซเฟอร์มาอย่างทุลักทุเล เพราะในระหว่างทางไซเฟอร์ก็พูดไม่หยุดเกี่ยวกับข้อมูลเชิงวิชาการต่างๆนาๆ ที่เซย์เดนไม่เข้าใจสักเท่าไหร่นัก ตรงหน้านั้นคืออาคารตระหง่านขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาให้เหมาะสมกับการวิจัยพืชและสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะและมีเครื่องมืออำนวยความสะดวกทุกย่างก้าว
"สุดยอด! สุดยอด! ผมอยากดูให้หมดทุกซอกทุกมุมเลย!"
เซเฟอร์มองดูอาคารวิจัยสูงใหญ่กว้างขวางรอบๆและถ่ายรูปอีกเช่นเคย ก่อนจะหันไปทางพี่ชายของตนที่กำลังพิมพ์คุยโทรศัพท์อยู่
"คุยกับแฟนพี่หรอ?"
"ใช่ ตอนนี้เธอบอกว่าเธออยู่ที่โดม..เอ่อ..โดมพืชดัดแปลงพันธุกรรมไฮโดรโปนิกส์ มันคืออะไรหล่ะนั่น"
"ก็หมายถึงพืชดัดแปลงพันธุกรรมแบบไร้ดินโดยใช้เทคนิคปลูกพืชในน้ำและสารเหลว"
"งั้นเองหรอกหรอเนี่ย พี่ก็ไม่ค่อยเข้าใจพวกคำศัพท์พวกนี้เท่าไหร่ ตามมา!"
เซย์เดย์เดินนำพาน้องชายของตนมุ่งตรงไปยังโดมพืชตัดต่อพันธุกรรมแบบไฮโดรโปนิกส์ ด้วยความที่สองพี่น้องนี้เป็นคนที่เดินไวแปปเดียวก็ถึงแล้ว
"มาแล้วจ้า แม่ตาหวาน~"
เซย์เดนเดินไปหาหญิงสาวผู้นึงที่สวมชุดสีขาวเป็นชุดกาวด์แบบใส่แล้วทิ้ง ถ้ามองจากด้านหลังเธอจะมีผมสีบลอนด์ยาวรวบ พอเธอได้ยินเสียงที่คุ้นเคยเธอก็หันมา ดวงตาของเธอนั้นเป็นสีกาแล็คซี่ เนื่องจากโรค Galaxy eyes เกิดจากความผิดปกติของเม็ดเมลานินสีตาที่แตกไม่เท่ากันจนกลายเป็นสีแบบกาแล็คซี่และฟุ้งๆแบบดวงดาว เมื่อเธอหันมาพบกับเซย์เดนเธอก็หันมาทักทายอย่างเงียบๆ พร้อมกับมองมาทางไซเฟอร์แบบสงสัย
"อ่อเด็กคนนี้เซเฟอร์ น้องชายของฉันเองที่เคยเล่าให้ฟังหน่ะ และเซเฟอร์เธอคนนี้ก็คือแฟนสาวของฉันเองไงหล่ะ แอสเตรลล่า ฮูเวอร์"
"สวยจังเลยนะพี่สาว สวัสดีนะครับยินดีที่ได้รู้จักนะครับ!"
เซเฟอร์เริ่มใช้ภาษามืออย่างชำนาญ จนแอสเตรลล่าถึงกับดวงตาเบิกกว้างด้วยความประทับใจก่อนส่งยิ้มให้แล้วใช่ภาษามือกลับมาเพื่อสื่อสาร
"ขอบคุณนะ และยินดีที่ได้รู้จักนะเซเฟอร์ ขอฝากตัวด้วยนะ"
"เอาหล่ะดูเหมือนจะสนิทกันไวจังเลยนะ แล้วนี่อะไรกันเนี่ยเบอร์รี่งั้นหรอ?"
เซย์เดนกำลังจะยื่นมือไปแตะแต่ว่าเซเฟอร์รีบคว้ามือพี่ชายตนเองทันที
"ห๊ะ? อะไรหรอเซเฟอร์?"
"นี่คือ Drososberrytrap เบอร์รี่ที่ถูกตัดต่อพันธุกรรมกับกาบหอยแครงแล้วก็ดอกน้ำค้าง ภายนอกอาจดูเหมือนพืชในตระกูลเบอร์รี่ทั่วไปแต่ถ้าหากยื่นอะไรเข้าไปใกล้มันจะอ้าออก!"
เซเฟอร์อธิบายก่อนที่เจ้าพืชตัดต่อพันธุกรรมนี่จะงับนิ้วของเซย์เดนไปก่อน แอสเตรลล่าพยักหน้าและปรบมืออย่างประทับใจในความรู้ของไซเฟอร์ ก่อนจะลองทดสอบนำแท่งไม้มาแหย่ใกล้ๆ ก็พบว่าเบอร์รี่ลูกนี้มันอ้าออกแบบครึ่งนึงเหมือนกาบหอยแครง พอนำออกมันก็ค่อยๆหุบลง
"งี้เองหรอเนี่ย..."
เซย์เดนทำหน้าครุ่นคิดก่อนที่จะมีเสียงข้อความเด้งขึ้นมาพอเขาอ่านข้อความแล้วก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปกลายเป็นจริงจัง
"เอ่อคือฉันมีประชุมด่วน เซเฟอร์นายเดินชมได้เต็มที่เลยนะ อ่ะนี่ตั๋วVIP สิทธิพิเศษสำหรับญาติคนทำงานที่นี่ นายมีตั๋วนี้นายเดินทั่วที่นี่ได้เลย ส่วนแอสเตรลล่าตั้งใจทำงานนะจ๊ะ ไปก่อนละ"
คงเป็นประชุมด่วนจริงๆ เซย์เดนรีบออกไปทันที เซเฟอร์เลยขออนุญาตแอสเตรลล่าเดินชมโดมนี้ก่อนเดี๋ยวจะเดินออกไปดูโซนอื่น แอสเตรลล่าก็พยักหน้าตอบรับเธอเองก็ไม่ได้หวงหรืออะไรอยู่แล้ว
เมื่อเยี่ยมชมเสร็จแล้วเซเฟอร์ก็เดินไปดูโซนอื่นอย่างตื่นเต้น ตอนนี้ไม่มีเซย์เดนคอยคุมแล้วเขาเลยอยากดูอันไหนนานเท่าไหร่ได้เต็มที่ จนตอนนี้เซเฟอร์เดินมาถึงโดมพืชสมุนไพรรักษาโรคแบบตัดแต่งพันธุกรรมแล้ว
"ว้าว..นี่มัน AloeGotu..ว่านหางจระเข้รวมกับบัวบกนี่น่า..แสดงว่าใช้รักษาแผลกับสมานแผลได้.."
ตุบ!
"โอ้ย! เจ็บนะ!"
ในระหว่างที่เซเฟอร์กำลังชื่นชมอยู่นั้นก็ถูกใคนบางคนฟาดหัวด้วยสมุดอย่างแรง จนเขาต้องหันไปดู
"ตีฉันทำไมอ่ะ มันเจ็บนะ!"
เซเฟอร์กุมหัวตัวเองแล้วมองคนที่ทำ เธอเป็นผู้หญิงที่สูงน้อยกว่าเซเฟอร์หน่อย เธอมีผมสีดำมัดหางม้า หน้าม้าซีทรู มีดวงตาสีเฮเซล เธอยืนเท้าเอวอยู่ตรงหน้าเซเฟอร์
"นายเป็นใคร? เข้ามาที่นี่ได้ยังไง? โซนนี้เขาให้นักวิจัยกับผู้เกี่ยวข้องเท่านั้น! หรือว่า..สายลับ!แอบมาเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ!?"
เธอเริ่มพูดเยอะและคิดไปไกลจนไม่เว้นช่องไฟให้เซเฟอร์แทรกแถมตีเซเฟอร์ด้วยสมุดเล่มเดิมอีก
"ไม่ใช่นะ ไม่ใช่! ฉันมีตั๋ว VIP!"
เซเฟอร์นำแขนข้างนึงมาปกป้องตัวเองแล้วหยิบตั๋วสีทองมาให้ดู เธอคนนั้นจ้องอยู่สักพักแล้วหยิบไปดูดีๆ
"แน่ใจนะไม่ใช่ของปลอม"
"ก็ไม่ใช่หน่ะสิ! พี่ชายฉันเอามาให้กับมือเลยนะ!"
เซเฟอร์โวยวายยกใหญ่และกอดอกมองเธอคนนั้น
"ของจริงแหะ..ขอโทษนะ แฮะๆ"
เธอคนนี้ใจเย็นลงสักทีก่อนจะขอโทษเซเฟอร์และคืนตั๋ว VIP ให้เซเฟอร์พยักหน้าและรับมาเก็บไว้ดีๆเหมือนเดิม
"ไม่เป็นไรหรอก..ถ้าเป็นฉันฉันก็คงคิดแบบเธอ..ว่าแต่เธอชื่ออะไรหรอ..?"
"ธาราริน ฟลอเรนซ์ เรียกฉันว่ารินเถอะ แม่ฉันเป็น1ในทีมนักวิจัยแผนกพฤกษศาสตร์หน่ะ ส่วนพ่อเป็นหัวหน้าแผนกแมลงหน่ะ เลยมีสิทธิ์พิเศษไปได้ทุกที่ในนี้ยกเว้นเขตที่หวงห้ามจริงๆ"
เธอแนะนำตัวเองและยืนมองเซเฟอร์ด้วยสีหน้าที่อ่อนลง เซเฟอร์พยักหน้าอย่างสนใจ
"ฉันเซเฟอร์ แลนดอร์ฟ พี่ชายของฉันเป็นหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยระดับสูง..แต่ว่านะเจ๋งสุดๆเลย! มีพ่อแม่ทำงานที่นี่!!"
เซเฟอร์มีท่าทางตื่นเต้นอีกครั้งเหมือนทุกที จนธารารินหัวเราะแห้งๆ
"มาที่นี่ครั้งแรกหรอ?"
ธารารินเท้าเอวและมองเซเฟอร์ที่กำลังโดดไปรอบๆเหมือนเด็กน้อย
"อ่าใช่ๆ! เลยตื่นเต้นมากๆ!"
"งั้นใหฉันพาทัวร์มั้ยหล่ะ?"
"เห๊ะ จะดีหรอ?!"
"เอาน่า ฉันก็ว่างๆพอดี"
"งั้นรบกวนด้วยนะะะ!!"
จบ Chapter 2 Meeting
To be continued
...Chapter 3...
...Tour...
ธารารินได้พาเซเฟอร์ไปทัวร์ Hybrid Biosphere Park รอบๆ เรียกได้ว่าเธอรู้แทบทุกจุดทุกมุมของที่นี่เลยก็ว่าได้ ธารารินพาเซเฟอร์มาเริ่มที่จุดศูนย์กลางของพาร์คก่อน เมื่อมาถึงแล้วธารารินยิ้มเจ้าเล่ห์เหมือนต้องการทดสอบอะไรบางอย่างกับเซเฟอร์
"นายรู้มั้ยว่าคนนี้ใคร?"
ธารารินชี้ไปที่รูปปั้นของชายคนนึงที่แกะสลักตั้งเด่นตระหง่านไว้ตรงศูนย์กลางของโดมแก้ว เป็นรูปปั้นชายสวมสูทในท่าทางถือแผนที่อยู่ โดยรูปปั้นนี้ทำจากหินแกรนิต เซเฟอร์หันไปมองตามทิศที่ธารารินชี้แล้วมองด้วยสายตาแห่งความมั่นใจ
"ดราเวน ไบโอสเฟียร์ CEO ผู้ก่อตั้ง Hybrid Biosphere Park เขาเป็นคนค้นพบเกาะนี้โดยบังเอิญขณะนั่งเรือยอร์ชเล่นใน ค.ศ.2088 และซื้อเป็นเกาะส่วนตัว"
เซเฟอร์ตอบอย่างมั่นใจและยกยิ้มจนดูเหมือนกำลังดูถูกเธออยู่ ถึงเซเฟอร์จะไม่ได้หมายความแบบนั้น ธารารินยิ้มและพยักหน้าตอบและปรบมือให้เล็กน้อย
"ดูเหมือนนายคงเต็มไปด้วยคลังข้อมูลของที่นี่เลยสินะ..อะไรคือทีมวิจัยแรกของที่นี่และดำเนินจนถึงตอนนี้?!"
"ทีมวิจัย HC ย่อมาจาก Hybrid Creatures!"
ธารารินยิงคำถามใส่เซเฟอร์ก็ตอบอย่างรวดเร็วในทันที ทั้งคู่หัวเราะชอบใจดูเหมือนจะเข้ากันได้ดีทั้งคู่กันเลยทีเดียว
"ว้าวๆ เธอนี่สุดยอดจริงๆ"
เสียงปรบมือปริศนาจากด้านหลังดังขึ้น ปรากฎร่างชายสูงวัยแต่ยังดูแข็งแรง จมูกโด่งเป็นสัน เส้นผมสีเทาทรงปาดข้างเนี๊ยบ มีหนวดมาก ดวงตาสีคราม สวมสูทสีแสบตา เขาเดินมาพร้อมกับเด็กชายที่ดูจะอายุน้อยกว่าเซเฟอร์สัก 3 ปีได้ เด็กชายคนนี้หน้าตางดงามราวกับเทพบูตร เขามีผมหยักศกสีบลอนด์ ดวงตาสีครามเฉกเช่นเดียวกับชายแก่ เขาสวมชุดสุภาพและทางการ
"อ๊า! คุณไบโอสเฟียร์ทั้งสอง!! สวัสดีค่ะ!"
ธารารินอุทานตกใจและก้มหัวทักทายเมื่อรู้ว่าชายแก่คนนี้คือ CEO ผู้ก่อตั้งของที่นี่ "ดราเวน ไบโอสเฟียร์" และเด็กชายข้างๆก็คือหลานชายของเขาทายาทแสนล้าน "ออสการ์ ไบโอสเฟียร์"
"ว้าว! สวัสดีครับ! คุณไบโอสเฟียร์ทั้งสอง! อย่างกับฝันเลยที่ได้เจอพวกคุณทั้งสอง!"
เซเฟอร์ตื่นเต้นมากที่ได้เจอคนดังทั้งสองคน เขาอดไม่ได้ที่จะทักทายและมองพวกเขาด้วยความตื่นเต้น ดราเวนหัวเราะชอบใจ
"ไม่ต้องพิธีรีตองอะไรขนาดนั้นหรอกเด็กๆ"
ดราเวนปัดมือและส่ายหัว มองทั้งสองคนด้วยสายตาเอ็นดู เพราะตัวของดราเวนเป็นคนที่ี่รักและเอ็นดูเด็กเสมอ แม้เขาจะมีนิสัยเป็นตาแก่แปลกๆที่ชอบเล่นมุขตลก ส่วนออสการ์ก็ยังไม่ได้พูดอะไรเขายังคงสีหน้าเข้มขรึมเอาไว้
"คุณออสการ์ ไบโอสเฟียร์ตัวจริงนี่เหมือนในโซเชียลเลยคุณหน้าเหมือน บเยิร์น อันเดรียเซียน เลย!"
เซเฟอร์หันไปมองออสการ์และชื่นชมความงดงามของเด็กชายคนนี้ ออสการ์ยกยิ้มและหัวเราะอย่างสุภาพ
"ขอบคุณสำหรับคำชมครับ คุณ..?"
"เซเฟอร์ แลนดอร์ฟครับ!"
"อ่า คุณแลนดอร์ฟ.."
ทั้งคู่ได้จับมือกันตามมารยาทเล็กน้อยทำเอาธารารินที่ยืนอยู่ข้างหลังอิจฉาไปไม่น้อยเลย
"แลนดอร์ฟ? เธอเป็น..น้องชายของเซย์เดน แลนดอร์ฟหรอ?"
ดราเวนขมวดคิ้วสงสัยก่อนจะถามเซเฟอร์ เซเฟอร์พยักหน้าด้วยความภาคภูมิใจเมื่อพี่ชายของเขาถูกพูดถึง
"ใช่ครับ! พี่เซย์เดนหน่ะ ทั้งเก่งทั้งฉลาดเลย!แถมเป็นพี่ชายที่ดีที่สุดในเอกภพนี้ที่หาที่ไหนไม่ได้อีกเลย!"
เซเฟอร์อวยพี่ชายของตนด้วยความจริงใจว่าพี่ชายของเขานั้นนิสัยดีแค่ไหน จนดราเวน ออสการ์และธาราริน ถึงกับหัวเราะด้วยความเอ็นดูออกมา
"อ๊ะ จริงสิ! ช่วยเซ็นต์ให้ผมหน่อยได้มั้ยครับ? ทั้งสองคนเลย!"
เซเฟอร์หยิบหนังสือ Hybrid Biosphere Park เล่มหนาขึ้นมา ข้างในนั้นส่วนใหญ่เป็นข้อมูลของตัวพาร์คที่เขียนขึ้นโดยดราเวนเอง ดราเวนพยักหน้าหยิบปากกาในกระเป๋าสูทที่พกมาเซ็นต์ให้ จากนั้นออสการ์ก็เซ็นให้แล้วส่งคืนให่เซเฟอร์
"ขอบคุณครับ!!"
เเซเฟอร์ยกยิ้มดีใจและเก็บหนังสือไว์ในกระเป๋าสะพายอย่างดี
"งั้นก็เที่ยวเล่นได้ตามใจชอบเลยนะ ฉันจะไปดูงานโซนอื่นสักหน่อย ไปกันเถอะออสการ์"
ดราเวนขอตัวลาไปดูงานโซนอื่น งานCEOคงเยอะมากจริงๆเมื่อชายแก่และหนุ่มน้อยรูปงานเดินจากไป ธารารินก็จับไหล่เซเฟอร์และดึงเขามาใกล้ๆ
"นายนี่มันโครตน่าอิจฉาเลยนี่หว่า! ได้จับมือกับคุณชายน้อยออสการ์มีไม่กี่คนที่ทำได้หรอกนะ!"
ธารารินเขย่าเซเฟอร์อย่างรุนแรง จงเซเฟอร์หนุ่มอายุ 18 ผู้ผู้ไร้เดียงสาเกือบแว่นหลุดและกลัวสาวลูกครึ่งอย่างธารารินขึ้นมา
"ฉันขอโทษละกันนะ!"
เซเฟอร์ยกมือไหว้ขอโทษในขณะที่ตัวเขาก็สั่นเป็นเจ้าเข้า ธารารินหยุดทำวางมือลงเอวของเธอแล้วถอนหายใจ
"ช่างเถอะ ไปทัวร์กันดีกว่า! เอาหล่ะเราจะเริ่มจากโซนข้างบนตัวพาร์คให้หมดก่อน จากนั้นเราค่อยลงไปใต้ดินของพาร์คที่เป็นอควาเรี่ยมละกัน!"
ธารารินเดินมาที่ภาพโฮโลแกรมผังของตัวพาร์คและกดให้เซเฟอร์ดูว่าตัวพาร์คนั้นแบ่งออกเป็น 2 ชั้นนั่นคือโซนพื้นดินประกอบไปด้วย สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์ปีก สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ แมลง หนอน สัตว์ขาปล้อง ไดโนเสาร์ สัตว์เลื้อยคลานบินได้ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมดึกดำบรรพ์ สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำโบราณ สัตว์ปีกดึกดำบรรพ์ แมลงดึกดำบรรพ์ สัตว์ในตำนานภาคพื้นดินและท้องฟ้า และ โซนไบโอมชีวภาพ พฤกษศาสตร์ภาคพื้นดิน
เมื่อเซเฟอร์ดูจนครบแล้วธารารินก็ปัดรูปโฮโลแกรมลง ดูชั้นล่างซึ่งจะทำเป็นอควาเรี่ยมขนาดใหญ่ประกอบไปด้วยโซน ปลาที่แยกออกเป็นโซนน้ำจืด น้ำเค็ม ทะเลอีก ต่อมาก็เป็น สัตว์จำพวกหอย สัตว์ทะเลไม่มีแกนกลาง ฟองน้ำทะเล สัตว์เลื้อยคลานทะเล สัตว์น้ำยุคดึกดำบรรพ์ และ สัตว์ในตำนานภาคพื้นน้ำ โซนไบโอมชีวภาพ พฤกษศาสตร์ใต้น้ำ
"พร้อมรึยัง?"
ธารารินหันมายิ้มมุมปากให้เซเฟอร์และกอดอกราวกับว่าเจ้าตัวนั้นอยู่เหนือเซเฟอร์ในการพาทัวร์ครั้งนี้ เซเฟอร์พยักหน้ากลับอย่างตื่นเต้น
"รอเวลานี้มานานแล้ว"
เซเฟอร์ยกยิ้มให้กลับและยืดอกมั่นใจพร้อมกับการทัวร์แล้ว โซนแรกที่ธารารินพาเซเฟอร์ไปคือโซนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
"เอาหล่ะเราจะนั่งรถไฟทัวร์กัน! จะได้ไม่ต้องเหนื่อยเดินและก็ได้เห็นทุกอย่างในโซนนี้เลย!"
ธารารินยื่นตั๋วพิเศษของตนในพนักงานและรรีบขึ้นไปนั่ง เซเฟอร์ไม่รอช้ายื่นตั๋วให้พนักงานไปเหมือนกันและไปนั่งข้างๆธาราริน ทั้งสองรออยู่สิบนาทีได้รถไฟทัวร์จึงออกตามรอบที่กำหนดเอาไว้
"เรียนคณะลูกทัวร์โปรดทราบ ในระหว่างการทัวร์ขอให้ทุกท่านคาดเข็มขัดนิรภัยหรือคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก และไม่ยื่นร่างกายของท่านออกไปทางหน้าต่างมากเกินที่ก่อให้เกิดอันตราย ขอบคุณที่ปฎิบัติตามและขอให้สนุกกับการเยี่ยมชม สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมพันธุ์ผสมค่ะ''
ในระหว่างออกตัวก็มีเสียงประกาศเตือนให้ทราบเพื่อรักษาความปลอดภัยทั้งตัวนักท่องเที่ยว และทรัพย์สิน
"โหๆ! นี่แค่เริ่มก็ตื่นเต้นแล้ว! นั่นมันแรคคูนผสมจิ้งจอก! Racred!"
เซเฟอร์มองดูแรคคูนที่มีหู หางและสีเหมือนจิ้งจอกแดง แต่ที่หางยังคงมีลายสีดำพาดแบบแรคคูน
"นายนี่รู้ดีไปหมดทุกเรื่องจริงๆเลย"
ธารารินส่ายหน้าและหยักไหล่ขบขันแต่ก็ประทับใจในความรู้ของเซเฟอร์
"ก็แบบว่า! ฉันเป็นแฟนคลับของที่นี่ตั้งแต่เด็กๆเลย! ฝันว่าจะมาที่นี่ตลอด! โอ้ๆนั่นมัน ม้าลายผสมกับกวางแฟลโลว์นี่น่า! งดงามสุดๆไปเลย!"
Zebra Fallow ลักษณะรูปร่างของมันคือม้าลายที่ค่อนไปทางรูปลักษณ์กวางผสม และมีเขาแบบกวางแฟลโลว์ ส่วนลายของมันก็ยังคงแบบม้าลาย แค่มีจุดลายเหมือนกวางแฟลโลว์เพิ่มขึ้นมา
การทัวร์ดำเนินไปเรื่อยๆอย่างราบรื่น วิทยากรนั้นก็ให้ความรู้ตามเดิม แต่ดูเหมือนเซเฟอร์จะเถียงกับวิทยากรบางเรื่องไปบ้าง เมื่อจบทัวร์ธารารินก็พาไปโซนอื่นตามลำดับ สัตว์ปีก สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ แมลง หนอน สัตว์ขาปล้อง สัตว์เลื้อยคลานบินได้ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมดึกดำบรรพ์ สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำโบราณ สัตว์ปีกดึกดำบรรพ์ แมลงดึกดำบรรพ์ สัตว์ในตำนานภาคพื้นดินและท้องฟ้า และ โซนไบโอมชีวภาพ พฤกษศาสตร์ภาคพื้นดิน..
"เอาหล่ะเหลือโซนสุดท้าย..ไดโนเสาร์!"
ธารารินพานั่งรถกอล์ฟไปและดูแผนที่ในขณะที่เซเฟอร์นั้นชมบรรยากาศรอบๆ พลางถ่ายรูป
"พูดตามจริงนะ! โซนสัตว์ในตำนานที่โครตสุดยอดเลย! ฉันชอบฮิปโปกริฟฟ์! มันเกิดจากม้าผสมนกอินทรี! เวลามองมันสัมผัสได้ถึงความเย่อหยิ่งทะนงตนจากมันเลย!"
เซเฟอร์กดดูรูปที่ถ่ายมาทั้งหมดในกล้องไล่ดูไปเรื่อยๆ ธารารินหัวเราะและยกยิ้ม
"งั้นหรอ? แต่ฉันชอบเพกาซัสนะ! ม้ากับนกพิราบผสมกัน! เวลามองแล้วให้ความรู้สึกแข็งแรงและอิสรภาพหน่ะ"
"อื้มๆ เพกาซัสก็เท่! แต่ตอนไปโซนมังกรฉันขนลุกจริงๆ! คุณแองเจิลลิน่า ฟราบิเคเตอร์ คืออัจฉริยะชัดๆ!"
หลังเซเฟอร์เอื้อนเอ่ยชื่อของของนักวิจัยพันธุศาสตร์สาวขึ้นมา ธารารินกอดอกและยักคิ้วของเธอขึ้น
"รู้จักคุณฟราบิเคเตอร์ด้วยหรอ?"
ธารารินถามด้วยน้ำเสียงเป็นกลางแต่สีหน้าของเธอดูค่อนข้างไม่ค่อยชอบใจนัก เซเฟอร์เห็นท่าทีแบบนั้นถึงกับขมวดคิ้ว
"ก็เคยเห็นถามอินเทอร์เน็ตหน่ะ แบบวีดีโอสัมภาษณ์อะไรแบบนั้นแถมคุณฟราบิเคเตอร์ก็สวยเหมือนนางฟ้าเลย ทำไมหรอริน?"
"ไม่มีอะไรหรอกฉันเคยเจอเธออยู่สองครั้ง แค่เซ้นต์ผู้หญิง..มันบอกว่าคุณฟราบิเคเตอร์..เอ่อช่างมันเถอะ"
ธารารินถอนหายใจ ส่ายหน้าและปัดมือให้สัญญาณว่าไม่ค่อยอยากพูดถึงเท่าไหร่ เซเฟอร์ได้แต่ขมวดคิ้วสงสัยแต่ก็จะไม่ถามไปมากกว่านี้
รถกลอฟ์ได้จอดหน้าโซนไดโนเสาร์ ดูเหมือนโซนนี้จะนักท่องเที่ยวเยอะเป็นพิเศษมากกว่าโซนอื่นๆเลย เซเฟอร์อ้าปากค้างอยู่หน้าทางเข้าก่อนจะกดชัตเตอร์ไปหนึ่งที ธารารินหัวเราะกับสีหน้าของเซเฟอร์อย่างมาก เธอจึงแอบถ่ายเก็บไว้แต่เซเฟอร์รู้ทัน
"ขำอะไรหรอ?! นี่เอามาดูเลยนะ!"
"ก็หน้านายมันตลกมากเลย!"
ธารารินหัวเราะชอบใจ เดินหลบเซเฟอร์ไปมาเพื่อไม่ให้เพื่อนใส่แว่นคนใหม่ของเธอได้โทรศัพท์ของเธอไป ทั้งคู่เล่นกันจนไปชนเข้ากับใครบางคน
"เอ๊อะ ขอโทษนะ! เจ็บตรงไหนรึเปล่า?"
เซเฟอร์เกาหัวตัวเองและมองไปที่คนที่เขาชน เขาเป็นผู้ชายที่ตัวพอๆกับเซเฟอร์ ทรงผมกะลากลม..ทรงผมเห็ดยอดฮิตของประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง เขาท่าทางเย็นชามากๆ เขามองมาทางทั้งสองคน
"เอ่อขอโทษนะคะ"
ธารารินกล่าวขอโทษอีกคน ทั้งสองนั้นรอปฎิกริยาของชายคนนั้น
"ไม่เป็นไร"
เขาตอบกลับมาแค่นั้น เขานำมือเข้ากระเป๋ากางเกงคาร์โก้ตัวเองและสาวเท้าก้าวไปในโซนไดโนเสาร์อย่างไม่ใส่ใจ เมื่อพ้นระยะแล้ว ทั้งสองตัวติดกันและกระซิบ
"โครตแอ็คเลยนี่หว่า คงคิดว่าตัวเองเป็นพระเอกอนิเมะเย็นชาที่ขายเกลื่อนตลาดอนิเมะญี่ปุ่น"
ธารารินกระซิบนินทาทันที เซเฟอร์เอาหูมาฟังใกล้ๆและพยักหน้าตามน้ำธารารินไป เมื่อกระซิบนินทากันเสร็จทั้งคู่ก็นึกขึ้นได้ว่าการทัวร์ในโซนนี้ต้องนั่งรถไฟโมโนเรล รถไฟรางเดี่ยวแถมใกล้จะถึงรอบออกตัวแล้ว ทั้งคู่เลยรีบสับเท้าไปทันที โชคดีที่มาทันไม่งั้นคงต้องรออีกรอบนึงเลย
"โชคดีที่มาทัน เพราะเธอเลยมัวแต่นินทา"
เซเฟอร์หัดแซะเพื่อนสาวที่พึ่งรู้จักกัน จนเธอมองจิกกลับมา
"นี่! นายก็เออออนินทาไปกับฉันด้วยไม่ใช่หรอ!"
ธารารินหยิกแก้มเซเฟอร์จนเขาร้องจ้ากออกมา ทำให้คนทั้งรถไฟโมโนเรลหันมามองทั้งคู่
"ขอโทษครับแฮะๆ.."
"ฮ่าๆ ขอโทษค่าา"
ทั้งคู่หยุดการกระทำและไปนั่งตรงที่ของตัวเอง ในระหว่างที่รถกำลังออกตัว ธารารินก็ตาไวเห็นหนุ่มทรงหัวเห็ดเย็นชานั่นอีกแล้ว เธอชี้ให้เซเฟอร์ดู เซเฟอร์ได้แต่ถอนหายใจและยักไหล่ตอนนี้เขาไม่สนใจใครนอกจากไดโนเสาร์พันธุ์ผสมที่กำลังได้ชมหรอกนะ
รถไฟฟ้าโมโนเรลคันขาวลายสีม่วงพาดด้วยตัวอักษรและโลโก้ประจำพาร์คเริ่มเคลื่อนตัวตามรางเดี่ยว โมโนดีลนี้ทำรางไม่สูงมากเพื่อให้ลูกทัวร์สัมผัสประสบการณ์ได้อย่างใกล้ชิดแต่ก็ยังคงมีมาตราฐานความปลอดภัยสูง
"ยินดีต้อนรับสู่โซนไดโนเสาร์หรือที่เราเรียกกันอีกชื่อว่าโซนมหายุคมีโซโซอิก ขอให้ทุกท่านโปรดปฎิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด ถ้าพร้อมแล้วมาเริ่มท่องไปในโลกแห่งมหายุคมีโซโซอิกกันเถอะ!"
จบการประกาศ รถไฟรางเดี่ยวเริ่มแล่นด้วยความเร็วอันเหมาะสมเคลื่อนเข้าใกล้ประตูอันใหญ่ ประตูบานนั้นเปิดอัตโนมัติเมื่อระบบเซนเซอร์ทำงาน
ภาพทิวทัศน์แห่งยุคมหามีโซโซอิกชัดเจนในสายตาของทัวร์สร้างความตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ประจวบกับแสงตอนบ่ายยิ่งชวนให้น่าหลงใหลและเข้ากันกับสีเขียวขจีของพืชพรรณและทะเลสาบขนาดใหญ่ ราวกับย้อนไปในสมัยเมื่อตั้งแต่ 251-66 ล้านปีก่อน เหมือนยกโลกเมื่อหลายล้านปีก่อนมาที่นี่..
ไดโนเสาร์ที่ถูกตัดต่อพันธุกรรมมากมายนั้นเดินป้วนเปี้ยน ส่วนใหญ่เป็นชนิดกินพืชที่อยู่กันเป็นฝูง พวกมันอยู่กันอย่างสงบ...
"นี่ฉันกำลังฝันแน่ๆ!! ฉันอยากจะกระโดดลงไปดูใกล้ๆพวกมันจริงๆ! นั่น! Tricerhinotop! ไทเซราท็อปส์ที่ตัดต่อพันธุกรรมรวมกับแรด! แล้วนั่นก็ StegoAmar! สเตโกซอรัสกับอมาร์ก้าซอรัสรวมกัน!"
Tricerhinotop รูปร่างของมันเป็นเหมือนไทเซราท็อปส์ มีแผงคอมีเขาคู่ยื่น แต่มีนอแรดและหูเพิ่มเข้ามา ส่วน StegoAmar ตัวของมันก็เหมือนสเตโกซอรัสแค่คอของมัันยื่นยาวขึ้นและมีหนามเหมือนอมาการ์ซอรัส เซเฟอร์แทบอยากกระโดดไปสัมผัสใกล้ๆ เขายกกล้องถ่ายรูปถ่ายทุกช็อตเท่าที่เขาจะทำได้
"นายนี่ตื่นเต้นเกินเบอร์ไปแล้วนะ"
"ช่วยไม่ได้ฉันไม่ได้อยู่ที่นี่บ่อยเหมือนเธอนี่น่า! โว้ววววว ใกล้มาก!!"
ไม่นานนักเขาก็เห็น Brachiolophus แบรคคิโอซอรัสตัวสีเขียวแก่ขนาดเล็กดูเหมือนจะเป็นตัวลูก และมันทมีหงอนแบบพาราซอโรโลฟัส กำลังเคี้ยวใบไม้ต้นไม้ใกล้ๆโมโนเรล เซเฟอร์ตาลุกวาวหัวใจเต้นแรงจนแทบหลุดออกมา เขากดถ่ายรูปทันที
"โซนนี้ทั้งหมดนั้นเป็นไดโนเสาร์กินพืชที่ถูกตัดต่อพันธุกรรมทั้งหมด และพวกมันทุกตัวอยู่ร่วมกันได้ และระบบนิเวศทั้งหมดต้องขอขอบคุณทีมวิจัยไบโอมชีวภาพ พฤกษศาสตร์ ขอให้ท่านเพลิดเพลินวิวทิวทัศน์ของอุทยานโลกล้านปี"
เสียงประกาศจบลงไป ดูเหมือนโมโนเรลจะเคลื่อนตัวช้าลงเพื่อให้นักท่องเที่ยวสัมผัสบรรยากาศได้เต็มที่ และให้เวลาถ่ายรูปหรืออัดวีดีโอ
"นี่ทำไมพวกเราไม่ไปเดินเหมือนคนข้างล่างบ้างอ่ะ?"
เซเฟอร์มองลงผ่านกระจกโมโนเรล มีกลุ่มนักท่องเที่ยวบางส่วนกำลังเดินเข้าไปในโซนทุ่งไดโนเสาร์พันธุ์ผสม
"อ่าคนพวกนั้นชอบความท้าทายมันอันตรายนิดหน่อยหน่ะ แต่พวกเขาไม่ได้เดินหรอกพวกเขาจะเช่า Hover Jeep รถจี๊ปลอยได้ที่แข็งแรงมากๆ ใช้ระบบเดียวกับโฮเวอร์บอร์ด นั่นไงนายเห็นมั้ย?"
ธารารินชี้ไปที่กลุ่มนักท่องเที่ยวที่ขึ้นรถโฮเวอร์จี๊ปคันสีแดงไป เซเฟอร์พยักหน้าและกดถ่ายรูปอีกเช่นเคย
"ฉันจำได้ว่ามันแข็งแรงมากจนถึงขั้นลูกตุ้มหางของแองคิโลซอรัสฟาดไม่พังนี่น่า"
"ใช่เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวหน่ะ ไม่งั้นโดนเรียกร้องความเสียหาย ชดใช้จนขาดทุนเลยมั้ง"
"เรียนคณะลูกทัวร์ให้ทราบ ตอนนี้โมโนเรลของเรากำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่โซนไดโนเสาร์กินเนื้อ ขอให้ทุกท่านปฎิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัยเหมือนเดิมค่ะ และทางเราขอไม่อนุญาตให้เปิดแฟลชกล้องเวลาถ่ายภาพค่ะ"
เสียงเครื่องจักรแผ่เบาๆเมื่อโมโนเรลเริ่มออกตัวอีกครั้ง ไม่กี่นาทีโซนของไดโนเสาร์กินพืชก็ลับสายตาไป แทนที่ด้วยความมืดมนจากเงาของต้นไม้สูงรอบทางโมโนเรลปกคลุม อันเป็นสัญญาณว่าเข้าสู่โซนกินเนื้อแล้ว เพื่อความปลอดภัยระดับสูง จึงมีกรงขังแต่ละสปีชีส์ไม่เปิดแบบตัวกินพืช..
"ว้าว..นั่นมัน..Carchakylo..คาร์ชาโรดอนโตซอรัสผสมกับแองคิโลซอรัส!"
เซเฟอร์กดปิดแฟลชก่อนจะถ่ายเจ้าตัวใหญ่นั่น มันคือคาร์ชาโรดอนโตซอรัสที่มีแผงหลังและหางแบบแองคิโลซอรัส
"นายคิดว่าตัวนั้นใหญ่แค่ไหน?"
"ตัวนี้ฉันคิดว่าจากความสูงที่สะโพก 4 เมตร..ยาวประมาณ13 เมตร..แบบคาชาโรดอนทั่วไป.."
เซเฟอร์กวาดสายตาอย่างรวดเร็วไปที่กรงถัดไป Pantheraraptor ลูกผสมระหว่างเวโลซีแร็พเตอร์กับกับเสือโคร่ง รูปร่างของมันนั้นคงสภาพเหมือนเวโลซีแร็พเตอร์ แต่มันมีขนและลวดลายเหมือนเสือโคร่ง พวกมันอยู่กันเป็นฝูงที่เห็นในกรงมีประมาณ 5 ตัวได้
รถโมโนเรลเคลื่อนตัวไปเรื่อยๆ พาดผ่านสัตว์ดุร้ายแห่งอดีตกาลมากมาย ความตื่นเต้นของเซเฟอร์นั้นก็ยังคงไม่หายไป มันช่างน่าอัศจรรย์ จนตอนนี้มาถึงกรงสุดท้าย ราชาแห่งไดโนเสาร์ทั้งปวงที่ถูกตัดต่อพันธุกรรมกับจักรพรรดิแมงป่อง Tyranscorpion ตัวชูโรงของที่นี่ ดูเหมือนว่ากำลังถึงเวลาให้อาหารพอดี
ระบบให้อาหารนั้นค่อยๆขยัยไปทางกรงของมัน โดยมีเนื้อวัวขนาดใหญ่พิเศษห้อยอยู่ ทุกคนอัดวีดีโอ และรออย่างใจจดใจจ่ออดทนอย่างมาก เสียงฝีเท้าหนักเริ่มได้ยินชัดเจน มันสั่นสะเทือนจนต้นไม้ใบหน้าในกรงขยับ เผยร่างของไทแรนโนซอรัสเร็กซ์สีดำมันเงาเมื่อยามมันตกกระทบกับแสงอาทิตย์ ผิวของมันกลับสะท้อนเป็นสีน้ำเงินหรือเขียว และที่โดดเด่นคือหางแมวป่องอันยักษ์ มันคำรามออกมาและฉีกกระชากเนื้อที่เป็นอาหารของมันอย่างรุนแรง จนคนโฮ่ร้องด้วยความประทับใจ
"โว้วววว!! สมแล้วที่เป็นราชา!!!"
เซเฟอร์อัดวีดีโอต่อไปเรื่อยๆ ธารารินเองก็เก็บรูปถ่ายตัวเองกับเซเฟอร์เล็กน้อยและลงสตอรี่ไอจีของเธอ ทัวร์ก็ได้จบลงในโซนนี้รถไฟฟ้าโมโนเรลเลี้ยวกลับตามทาง แต่ในระหว่างนั้นเองหางตาของเซเฟอร์ก็ไปสังเกตกรงใหญ่โตมโหฬารมากกว่าของ Tyranscorpion อีกแต่มันเขียนไว้ว่า Coming Soon และ ห้ามเข้าสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเท่านั้น นั่นหมายความว่ากรงนี้ยังว่างสำหรับ ตัวอะไรบางอย่างที่ยักษ์ใหญ่
"เห้ อันนี้กรงอะไรหรอ?"
"อ๋ออันนั้นฉันก็ไม่แน่ใจ แต่พ่อของฉันบอกว่าเป็นสัตว์ตัวใหม่หน่ะ"
ธารารินยักไหล่ เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสิ่งมีชีวิตนั้นที่จะถูกใส่มาในกรงนี้คืออะไรกันแน่ เมื่อจบทัวร์ส่วนภาคพื้นดินแล้ว ธารารินก็พาเซเฟอร์ดำดิ่งสู่โซนใต้ท้องทะเลที่อยู่ใต้เกาะและทำเป็นแบบอควาเรี่ยม แต่ที่น่าตื่นเต้นจริงๆคงเป็นโซนของตัวที่ชื่อ Neptune ภายในนั้นเป็นเหมือนที่นั่งโรงหนังขนาดใหญ่และรอบๆก็เป็นตู้กระจกหนาตึบ มองออกไปก็เจอแต่สีน้ำเงินมหาสมุทร ปลาเล็ก ปลาน้อยพันธุ์ผสม
"ต่อไปนี้ท่านจะได้สัมผัสประสบการณ์อันใกล้ชิดของสัตว์ยักษ์ใหญ่ใต้ท้องทะเล Neptune มันเกิดจาก ลีดส์ซิคทีส โมซาซอรัส วาฬลิเวียธาน เมกะโลดอน ดังเคิลออสเตียส และ หมึกยักษ์ค่ะ มันเป็นตัวผู้มีขนาดราว 29 เมตรซึ่งตอนนี้ยังโตไม่เต็มที่ค่ะ ดร.เจียวฉง ศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพันธุกรรมวิศวกรรมศาสตร์ และเป็นหัวหน้านักวิจัยพันธุวิศวกรรมศาสตร์ ผู้สร้างมันได้บอกว่าถ้ามันโตเต็มที่จะมีขนาดราว 35.6 เมตรค่ะ"
หลังเสียงประกาศจบเนปจูนก็ปรากฎตัวขึ้น แหวกว่ายไปรอบๆด้าน จนนักท่องเที่ยวส่งเสียงตื่นเต้นต่างพากันถ่ายรูปและอัดวีดีโอ มันตัวใหญ่จนเหมือนหลุดมาจากเรื่องเล่าที่เกินจริงเซเฟอร์เข้าใจแล้วว่าทำไมมันถึงชื่อเนปจูน เพราะสีผิวมันเหมือนดาวเนปจูน
ใต้ท้องทะเลสีครามมืดกระทบกับร่างเพรียวยักษ์อันคลองตัวและแข็งแรงเหมือนโมซาซอรัส ผิวกายเกล็ดอันหนาแน่นดั่งดังเคิลออสเตียสของมันสะท้อนแสงกับผิวน้ำได้เป็นอย่างดี ขากรรไกรของมันกว้างดั่งเมกะโลดอนฟันแหลมคมเรียงอย่างดีพร้อมฉีกกระชากวาฬสีน้ำเงินให้ตายภายในครั้งเดียว ตรงกลางตัวมันนั้นมีครีบอันทรงพลังราวกับวาฬลิเวียธาน แถมมันยังมีหนวดลื่นยาวของหมึกยักษ์หลายเส้นพร้อมที่จะฉุดกระชากเหยื่อ
"นี่มันราชาแห่งท้องทะเลในพาร์คนี้ชัดๆ!!"
การทัวร์ก็จบลงในช่วงหนึ่งทุ่ม ทั้งคู่ไปหาร้านเบอร์เกอร์ในพาร์คนั่งกินพักเหนื่อย คุยสนทนากันอย่างสนิทสนม ดูเหมือนเซเฟอร์จะดีใจมากไม่ใช่แค่ได้มาที่นี่ แต่เพราะเขาได้เพื่อนใหม่ที่ไม่รังเกียจเขาแล้วต่างหาก เสร็จแล้วก็ต่างแยกย้ายกัน เซเฟอร์กลับห้องพักมาไม่เจอเซย์เดนพี่ชายของตน พออ่านข้อความที่พี่ชายทิ้งไว้ก็พบว่าวันนี้เซย์เดนต้องรักษาความปลอดภัยศูนย์วิจัยกะกลางคืน เซเฟอร์เลยอาบนตั้งนาฬิกาปลุก โทรศัพท์คุยกับแม่ก่อนเข้านอน เพื่อทำงานในเช้าวันถัดไป
จบ Chapter 3 Tour
To be continued
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!