ณ กรุงเทพมหานคร
"จำปาเเกกลับยังไงหรอ"เสียงของมลเพื่อนสาวคนสนิทของจำปาได้เอ่ยถามซึ่งตอนนี้เธอทั้งสองอยู่ที่มหาลัยเเละถึงเวลาเลิกเรียนเเล้ว ตอนเย็นของวันนี้ฝนก็ได้กระหน่ำตกลงมา
"เดี๋ยวจำปีมารับเเกจะไปพร้อมฉันเลยไม่หรือยังไง"หญิงสาวได้เอ่ยตอบเพื่อนด้วยเสียงที่นุ่มละมุน
"ไม่เป็นไรฉันกลับกับพี่เจมส์พอดีพี่ฉันมารับไปเที่ยวไว้เจอกันอาทิตย์หน้าน่ะจำปา"มลได้โบกมือให้อีกฝ่ายก่อนจะเดินไปที่อีกคณะ
ในขณะที่เธอรอผู้เป็นน้องสาวรับเธอก็ได้ยินคนเรียกชื่อเธอ
"จำปา จำปา~~" เสียงเรียกชื่อหญิงสาวเเว่วมาตามสายลมเเละหญิงสาวเผลอมองไปที่ต้นไม้ที่อยู่ตรงข้ามกับเธอ เธอก็เห็นหญิงสาวคนหนึ่งสวมชุดไทยกำลังฉีกยิ้มให้เธอ เเละในจังหวะเดียวกัน จำปีผู้เป็นน้องสาวของเธอก็ขับรถเก๋งคันสีดำมารับพี่สาว
"ขึ้นรถจร้าสุดสวยวันนี้พี่จะพากลับบ้าน ฮ่าฮ่า" เสียงของจำปีที่ติดตลกทำให้จำปาได้กลับมามีสติเเละเดินไปขึ้นรถเเละนั่งข้างคนขับ
"จำปีเมื่อกี้มีคนเรียกพี่ด้วยเเหละ" ผู้เป็นพี่สาวได้หันมาบอกเธอ
"พี่ได้ขานตอบมันมั้ย" จำปีผู้ที่ใช้สติในการขับรถเเละถามจำปาผู้เป็นพี่สาว
"พี่ไม่ได้ขาน เเต่ผู้หญิงคนนั้นมายืนยิ้มให้พี่" จำปาพูดด้วยเสียงที่สั่นคลอน
ในขณะเดียวกันฝนก็ยังเทลงมาไม่หยุดจำปีที่ขับรถในตอนฝนตกทำให้ถนนลื่นเเต่เธอก็ยังควบคุมได้ เเละตาเผลอไปเห็นสิ่งๆหนึ่งที่อยู่กลางทาง ทันใดนั้นมันก็พุ่งมาหน้ารถ
"อีผีเชี้ยกูตกใจ" จำปีด่าผีตัวนั้นก่อนจะบริกรรมคาถาทำให้ผีตอนนั้นได้หายไป
"ต่อจากนี้ใครเรียกชื่อพี่ พี่ห้ามขานรับน่ะ"จำปีผู้เป็นน้องสาวได้เอ่ยขึ้นด้วยเสียงเเข็งก่อนจะหันไปสนใจในการขับรถ
"พี่เข้าใจวันนี้พี่เลี้ยงขนมดีมั้ยเนื่องในวันที่น้องสาวผู้น่ารักของพี่เสียสละเวลาอันมีค่ามารับพี่เลย" จำปายิ้มเเละมองผู้เป็นน้องสาวที่กำลังขับรถอยู่
"อะเครเลยค่ะพี่สาวคนสวย "
"จำปี!!!" พูดไม่ทันจะจบประโยครถบรรทุกที่ขับมาด้วยความเร็วเเละไม่มองทางก็ได้พุ่งมาชนรถเก๋งคันสีดำเข้าอย่างจังทำให้คนที่อยู่ในรถเก๋งได้เสียชีวิต
"อีผีเชี้ยถึงชาตินี้มึงไม่โดนชาติหน้ามึงก็โดนเเน่!!" จำปีผู้ที่อยู่ในสถานะกึ่งเป็นกึ่งตายได้เอ่ยด่าผีพร้อมกับสายตาเคียดเเค้น
ผีผู้หญิงชุดไทยมายืนอยู่ตรงหน้าของจำปีเเละยืนเเสยะยิ้ม "พี่มึงตายไปหล่ะเหลือมึงหึ!!" มันพูดจบก็หันไปมองร่างของจำปาที่ตอนนี้ได้สิ้นใจไปก่อนเเล้ว
"พี่!!!!! อีผีเชี้ยมึงทำพี่กู!!!!"จำปีได้กัดฟันเเน่นก่อนจะบริกรรมคาถาจนทำให้ผีผู้หญิงได้โดนเผาเเละมันเริ่มกรี๊ดร้อง ก่อนที่จะมองมาที่จำปีเเละวาปหายหนีไป
"พี่!!! " จำปีมองผู้เป็นพี่สาวก่อนจะใช้เเรงทั้งหมดปลกล็อคที่เข็มขัดออกเเละใช้เเรงผลักตัวพยุ่งตัวไปอุ้มร่างที่ไร้วิญญาณของพี่สาวออกจากรถเก๋งคันสีดำก่อนที่จะระเบิด
ในขณะเดี๋ยวกันชาวบ้านที่อยู่เเถวนั้นก็พากันมามุงดูเเละก็โทรเรียกกู้ภัย ในขณะที่กู้ภัยกำลังมา จำปาก็ได้มองไปที่วิญญาณของพี่สาวที่ตอนนี่กำลังยืนร้องไห้อยู่
"อีหนูเสียใจด้วยน่ะกับเรื่องพี่สาวเอง" ชาวบ้านพากันมาเเสดงความเสียใจ เเละรถกู้ภัยก็มาถึง
"น้องครับ ลุกไหวมั้ย"เสียงของพี่กู้ภัยได้ถามจำปีก่อนที่จำปีจะหมดสติไปในที่สุด
"น่าสงสารเนอะอายุยังน้อยต้องมาตายก่อนวัย เด็กสมัยนี่ไม่ระมัดระวังเลย ส่วนคนขับรถบรรทุกก็ยังไงเมารึปล่าวเนี้ยไม่ดูทางเลย " ชาวบ้านเริ่มส่งเสียงนินทาว่าร้ายเเละมองรถบรรทุก เเต่น่าเเปลกทำไมรถบรรทุกกับคนขับไม่เป็นอะไรเลยเป็นเเค่รถเก๋งกับสองพี่น้อง
"ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด " เสียงเครื่องช่วยหายใจดังขึ้น จำปีตื่นขึ้นมาในห้องพยาบาลเเละมองไปรอบๆ
"ไอจำปีมึงฝื้นเเล้ว!!"เสียงของต้นอ้อเพื่อนสาวคนสนิทของจำปีได้เอ่ยขึ้นมาด้วยความดีใจ
"นะ...น้ำ ขอน้ำ" จำปีได้เอ่ยขขึ้นมาด้วยเสียงที่เเหบเเห้ง
ต้นอ้อที่เห็นอย่างนั้นจึงเทน้ำใส่เเก้วเเล้วเอาให้จำปีดื่ม "เสียใจด้วยกับเรื่องพี่สาวมึง" ต้นอ้อพูดด้วยเสียงเศร้า
"...ชั่งเถอะยังไงพี่กูก็คงไปรอกูอยู่ที่สวรรค์เเล้วมั้งไออ้อ" จำปีได้เอ่ยชื่อเพื่อนขึ้นมา
"อะไรหรอ"
"ถ้ารอบนี้กูไม่อยู่มึงก็เอาลูกกูไปดูเเลดีๆน่ะ"
"มึงพูดเชี้ยไรเนี้ยมันเป็นลางไม่ดีน่ะเว้ยไอจำปี!!"ต้นอ้อที่ได้ยินดังนั้นก็ตะคอกใส่จำปีด้วยความเศร้า
"มึงรับปากกูดิเพื่อนว่ามันจะอยู่ได้จะเลี้ยงลูกกู"จำปีได้เอ่ยขึ้นมาเสียงเข้มทำให้ต้นอ้อได้เเต่กำมือเอาไว้เเน่น
"ได้กูรับปากมึงเเละมึงก็จะไม่จากกูไปไหนด้วยเพราะกูจะปกป้องมึงเพื่อนรัก"ต้นอ้อเอ่ยด้วยเสียงสั่น
ผ่านไปหลายวันจนจำปีได้ออกจากโรงบาล
"ฮะโหล ไอเเก้ว ไอพลอย เตรียมขอให้กู กูจะไปจัดการอีผีชาติชั่ว"จำปีได้เอ่ยบอกทางโทรศัพท์
"ได้จ๊ะเเม่ครู เดี๋ยวพวกข้าสองคนจะทำการเตรียมให้ "ไอเเก้ว ไอพลอยคือลูกสมุนของเเม่ครูจำปีผู้ที่มีวิชาอาคมเเอบทำอาชีพเเม่ครูลับหลังพี่สาว
"เดี๋ยวมึงเจอกูอีผีชาติชั่วหึ!" ในขณะที่จำปีกำลังเดินขึ้นรถทำให้หยุดชะงัก
"พี่ พี่ท่านจะร้ายข้ารึใยถึงผิดคำพูดที่ให้ไว้" เสียงนี้ได้เเว่วมาตามสายลม
"เมื่อกี้คงหูฝาดเเหละมั้ง" จำปีได้เดินขึ้นรถเพื่อนสนิท
"ไอจำปีเเล้วญาติมึงไม่มีสักคนเลยหรอ"ต้นอ้อได้เอ่ยขึ้นมาทำให้จำปีได้มองหน้าเพื่อนสนิท
"ไออ้อพี่กูเเละกูมีเเค่มึงเเละเเม่มึงที่เป็นญาติคนอื่นตายห่าหมดเเล้วมั้ง!!"จำปีพูดด้วยน้ำเสียงโกรษเเละกัดฟันเเน่น
"ขอโทษกูลืมไปเลยตั้งเเต่ที่พ่อเเม่มึงตาย คนพวกนั้นเเม่งก็หวังเเค่สมบัติ" ต้นอ้อพูดด้วยเสียงที่โกรษนิดๆ
"ว่าเเต่ให้กูไปส่งที่บ้านมึงใช่ป่ะ"
"อืม เเปปน่ะกูขอเรียกวิญญาณพี่กลับบ้านก่อน "จำปีได้บริกรรมคาถาเพื่อเชิญวิญญาณของจำปากลับบ้าน
"พี่มึงขึ้นรถมาเเล้วใช่มั้ย"ต้นอ้อได้เอ่ยถามด้วยความหวั่นกลัวเพียงนิด
"อืมพี่กูขึ้นมาหล่ะ กลับบ้านกันเถอะ" พอจำปีพูดจบทั้ง2คน 1วิญญาณก็ได้อออกเดินทางกลับบ้าน
ณ บ้านเรือนไทย 2ชั้น
ในขณะที่จำปีกำลังลงจากรถก็ถูกเเขนของต้นอ้อเพื่อนคนสนิทได้จับไว้
"มึงไหวมั้ยให้กูช่วยป่าว"ด้วยความเเป็นห่วงเพื่อนกลัวเพื่อนเสียใจเรื่องการสูญเสียพี่สาวอันเป็นที่รักไป
"คนอย่างจำปีมันไหวอยู่เเล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้มึงมาช่วยกูจัดงานศพพี่กูด้วยน่ะไออ้อเพื่อนรัก" จำปีส่งยิ้มให้เพื่อนรักอย่างต้นอ้อเเละเดินขึ้นบ้าน
"เเม่ครูจ๊ะ พวกข้าจัดของครับเเล้ว" ไอเเก้วได้เอ่ยขึ้น ส่วนไอพลอยมันได้ยกน้ำมาให้จำปีดื่ม
"กูจะไปเเต่งตัวส่วนพวกมึงสองตัวไปเรียกวิญญาณพี่กูมา"เมื่อพูดจบจำปีก็ได้เดินกลับเข้าห้อง
เมื่อพ้นจากสายตาคนอื่น จำปีได้พิงหลังกับประตูเเละได้เริ่มร้องไห้ออกมาด้วยความเศร้าโดยที่พยายามไม่ให้มีเสียงร้องไห้เล็ดลอดมา
"เเม่ง เเม่ง กูกับพี่ยังไม่เคยไปทำใครเลย!!! ทำไมมาเอาชีวิตพี่กูฮึก นั้นเเม่งเป็นพี่สาวของกูด้วยทำไมไม่เอาชีวิตกูไปเเทน พี่กูกำลังมีอนาคตที่ดีทำไม!!! " จำปีลุกขึ้นเเละเดินไปนั่งบนเตียงเเละมองรูปตัวเองกับพี่สาว
"หนูขอโทษพี่ ฮึก หนูขอโทษ หนูไม่สามารถช่วยพี่ได้ หนูมันผิดเอง หนูเรียนวิชาอาคมเพื่อช่วยพี่เเต่หนูกลับช่วยพี่ไม่ได้ ทำไมพี่ต้องจากไปด้วย หนูไม่เหลือใครเเล้วหนูขอโทษพี่ ฮึก ฮือ!!!!" เมื่อไม่สามารถกลั้นน้ำตาไว้ได้จำปาจึงได้เริ่มร้องไห้ออกมา
"กูไม่รู้ว่ากูไปทำไรให้มึงอีผีชาติชั่ว เเต่มึงทำพี่กูตาย ถ้ามึงไม่จายอีกรอบมึงก็ต้องทรมาน!!!"
ตอนนี้เป็นเวลา 2 ทุ่ม เเละวันนี้เป็นเดือนดับ ทำให้เป็นวันที่ดีที่ต้องทำพิธี จำปีได้เดินไปนั่งในห้องพระด้วยชุดนุ่งขาวเเละกำชับกับกุมารทองทั้งสองว่า
"อย่าให้ใครเข้าห้องเเม่น่ะ "ครั้งนี้เป็นครั้งเเรกที่จำปีพูดเพราะกับกุมารทองทำให้ไอเเก้ว ไอพลอยได้พยักหน้า
"เเม่อาจตายคืนนี้ใครจะรู้ อีผีตนนั้นมันมีฤทธิ์มาก ถึงยังไงเเม่ก็ใากพวกเเกทั้งสองให้ป้าต้นอ้อเเล้วน่ะ หนูอย่าดื้อกับป้าเขาน่ะ"
"เเม่ครู พวกข้าจะเป็นเด็กดี" ไอเเก้ว ไอพลอยได้โผล่กอดจำปีเเละร้องไห้ออกมาด้วยความเศร้าเสียใจ จำปีได้ฝืนยิ้มเเละกอดตอบทั้งสอง
"ถึงเวลาเเล้วเดี๋ยวเเม่ต้องจัดการพิธีก่อนน่ะอย่าลืมโทรบอกป้าอ้อด้วยน่ะถ้าไม่เห็นว่าเเม่ไม่หายใจ" หญิงสาวบอกกับกุมารทองทั้งสองเเละได้เดินเข้าห้องพระไปเพื่อทำพิธี
"ยาย ตา ฝากบ้านด้วยน่ะจ๊ะ ฝากดูเเลไอต้นอ้อด้วยน่ะยาย ถึงมันจะเป็นคนที่พยายามเข้มเเข็งเเต่มันก็เป็นคนที่อ่อนไหวง่าย"จำปีได้เอ่ยขึ้นพร้อมกับมองไปที่ ตากับยายที่ยืนอยู่ตรงด้านหน้าก่อนที่พวกเขาทั้งสองจะพยักหน้าตอบรับ
จำปีได้เริ่มทำพิธีกรรมโดยมีวิญญาณของผู้เป็นพี่สาวอย่างจำปามายืนมองอยู่ข้างๆ เมื่อเริ่มสวดคาถาต่างๆไปไม่นาน ก็เกิดเสียงกรี๊ดเเสบหูดังตามสายลมเเละประตูหน้าต่างทุกบ้านก็เปิดปิดๆได้ด้วยตัวเอง
"ไม่มึงก็กูที่ต้องมาตายอีผีชาติชั่ว" จำปีได้เอ่ยออกมาด้วยความเคียดเเค้น
"กรี๊ดดดดดดดด" เสียงกรี๊ดเเสบเเก้วหูได้ดึงขึ้น
"มึงสิกรี๊ดหาเเม่มึงเบาะอีห่า" (มึงจะกรี๊ดหาเเม่งมึงหรออีห่า)
จำปีได้เริ่มทำพิธีจนใกล้เสร็จ พิธีนี้คือพิธีที่ตาทวดของเธอได้บอกไว้ว่า เมื่อใดที่พี่สาวของจำปีเสียชีวิตให้ทำพิธีนี้ไม่เกิน 2วันหลังเสียชีวิต โดยที่ตาทวดของจำปีพูดไว้ว่า เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม จำปีกับจำปาจะได้กลับไปอยู่ในที่ๆควรอยู่
ในขณะที่จำปีได้สวดมนต์จนถึงบทสุดท้ายเธอจึงยิ้มเเสยะให้ผีผู้หญิงชุดไทยโบราณก่อนจะพูดคำๆหนึ่งออกมา
" ผกาเอ๋ย ชาติไหนเจ้าก็ไม่มิใช่คู่ครองของข้าดอก ปล่อยวางเถอะ" อยู่ๆฉันก็ขมวดคิ้วด้วยความงงทำไมฉันถึงพูดเเบบนั้น เเต่มันทำให้ผีผู้หญิงชุดไทยได้โกรษมาก
"เพราะมัน!!! มันทั้งพี่ทั้งน้องมันทำให้กูต้องคลาดรักจากมึง อีจำปีมึงต้องเป็นของกู มึงคือของกูนานเเล้ว!!!! กรี๊ดดดดดดด"เมื่อผีชุดไทยพูดจบมันก็ใช้อิทธิฤทธิ์ทำให้ท้องฟ้าเเปรปรวนเเละทำให้เกิดพายุโหมกระหน่ำ
บัดนี้จำปีเริ่มสวดคาถาบทสุดท้าย ซึ่งบทนี้ต้องเเลกกับชีวิตของเธอ เเต่จำปีก็ยอมเสียสละชีวิตเพื่อจองจำวิญญาณผีที่ชื่อว่า ผกา เเละช่วยวิญญาณของจำปาซึ่งตอนนี้ไม่สามารถไปเกิดได้เพราะถูกผีผกากักขังไว้ไม่ให้ไปผุดไปเกิด
"ข้าพเจ้า นางสาว กัณญาภัคร มณีจันทร์ ชาตินี้หมดเวรหมดกรรมเเละขอใช้บุณที่สะสมมาทั้งหมดกักขังวิญญาณร้ายผู้นี้ ด้วยการเเลกด้วยชีวีของข้าพเจ้า " เมื่อพูดจบจำปีก็ได้หยิบมีดอาคมที่ลงยันต์อักขระมาเเทงที่ท้องของตัวเอง เพื่อสังเวยชีวิต
ในขณะที่ผกา ผีสาวชุดโบราณในตอนนี้กำลังกรี๊ดร้องด้วยความทรมานเเละได้เห็นจำปี เสียสละชีวิตตัวเองเพื่อกักขังเธอ ทำให้ผกาก็เกิดความเศร้าปนความโกรษ
"จะชาติไหนถ้ามึงไม่ได้เป็นของกู กูก็จะไม่ปล่อยมึงถึงมึงจะจองจำกูนานเพียงใดกูจะหาทางออกไปให้ได้" ผกาได้กรี๊ดเสียงดัง จนวิญญาณของผกาได้ถูกยมทูตลากลงกรงขัง เเละจำปีก็ได้ยิ้มก่อนจะสิ้นใจในที่สุด
เมื่อถึงรุ่งเช้าของอีกวัน กุมารทองอย่าง ไอเเก้ว ไอพลอยมันรู้ว่านายของมันได้เสียชีวิตไปเเล้วมันจึงโทรหาต้นอ้อ ทำให้เพื่อนสนิทอย่างต้นอ้อได้ร้องไห้ออกมาเเละรีบพาเเม่งมาที่บ้านเรือนไทยโบราณของจำปี
"มึงมันเเย่ไอจำปีมึงเเม่งทิ้งกู ฮึก " ต้นอ้อได้ร้องไห้เสียงดัง ทำให้ผู้เป็นเเม่อย่างเเสงจันทร์ต้องมากอดปลอบ
"มันถึงเวลาของจำปีเเล้วลูกปล่อยเพื่อนไปเถอะ อย่างน้อยจำปีมันก็รู้หน้าที่เเละบอกหนูไว้ไม่ใช่หรอลูก " ป้าเเสงจันทร์ได้เดินไปปลอบต้นอ้อผู้เป็นลูกสาวก่อนจะมองไปที่ ไอเเก้ว ไอพลอย กุมารทองทั้งสอง
ป้าเเสดงจันทร์เเกเป็นหมอดูเเกจึงสามารถเห็นวิญญาณได้ "มานิม่ะเดี๋ยวยายเลี้ยงหนูทั้งสองเเทนเเม่เอง"
ไอเเก้ว ไอพลอยเมื่อเห็นเเบบนั้นจึงวิ่งไปกอดป้าเเสดงจันทร์ก่อนจะร้องไห้ออกมา
"ขอให้มึงกับพี่มึงไปสู่สุคติน่ะ ถ้าชาติหน้ามีจริงมึงก็มาเป็นเพื่อนกูอีกนะจำปีเพื่อนรัก" ต้นอ้อได้เดินไปกอดร่างที่ไร้วิญญาณของจำปี พ่อม่านพ่อของต้นอ้อได้เดินมาอุ้มร่างของฉันก่อนจะพาไปจัดการพิธีศพ
ลุงม่านหรือ พ่อม่าน คือสัปปะเหร่อ ลุงเเกรู้หน้าที่ดีว่าควรทำเช่นไรต่อ "เดี๋ยวพ่อดูลูกให้ด้วยน่ะ "
พ่อม่านได้เอ่ยบอกจำปีที่ตอนนี้เป็นเพียงวิญญาณเเละกำลังยืนยิ้มให้กับทุกคน
"จำปีเเบบนี้ดีเเล้วหรอ" จำปาผู้เป็นพี่ได้เอ่ยขึ้นมา
"พี่เเบบนี้ดีเเล้วนี่ไม่ใช่ที่ของเราตั้งเเต่เเรก เรากลับไปอยู่ในที่ ที่เราควรอยู่จะดีกว่า "จำปีได้เดินจับมือผู้เป็นพี่สาวออกจากบ้านก่อนที่ทั้งสองจะกลายเป็นเพียงละอองล่องลอยไปในอากาศ
ในวัดมีเเต่เสียงร้องไห้ของต้นอ้อที่ร้องไห้หน้าศพ ของเพื่อนรักอย่างจำปี
พ่อม่านได้เดินมาหาต้นอ้อเเละหยิบกระดาษบางอย่างให้ต้นอ้ออ่าน
"กระดาษอะไรหรอค่ะพ่อ"ต้นอ้อได้มองกระดาษในมือของผู้เป็นพ่อ
"ลองอ่านเอาสิลูก" ลุงม่านได้หยิบกระดาษใบนั้นใส่มือของผู้เป็นลูกเเละเดินเลี่ยงออกจาตรงนั้น
ต้นอ้อได้อ่านกระดาษใบนั้นเเละน้ำตาเริ่มไหลออกมาเรื่อยๆ
'ถึงไออ้อเพื่อนรักของจำปี รักน่ะมุมุ
อย่าร้องไห้ดิเพื่อนคนสวยของจำปี
จำปีไม่อยากเห็นคนสวยร้องไห้
ฮึบไว้ ดีที่ให้ลุงเอามาให้อ่านไม่งั้นคงบ้าเเน่นอน
ยิ่งคนอย่างต้นอ้อบ้าๆบอๆอยู่
เอาหล่ะเข้าเรื่องดีกว่า
ขอโทษน่ะต้นอ้อ กูขอโทษที่ต้องจากมึงเเต่มันคือสิ่งที่ถูกกำหนดมา ขอบคุณช่วงเวลาดีๆที่มึงคอยอยู่เป็นเพื่อนกูตลอด ถึงกูจะเป็นคนไม่ดีมึงก็ยังเป็นเพื่อนกับกู ตั้งเเต่ที่กูถูกหาว่าไอลูกไม่มีพ่อไม่มีเเม่ก็ไม่มีใครอยากเป็นเพื่อนกับกู มีเเค่มึง ตั้งเเต่เล็กยันตอนโตกูขอบคุณมึงมากน่ะที่คอยอยู่กับกูไม่ว่าจะลำบากเเค่ไหน มึงฮึบดิ กูไม่อยากให้เพื่อนคนสวยอย่างต้นอ้อร้องไห้ กูฝากลูกกูด้วยน่ะ ไอเด็กสองตัวนั้นก็น่าสงสารเนอะ ถูกคนในครอบครัวฆ่าจนกลายเป็นผีเร่ร่อน มันไม่ได้รับไออุ่นจากครอบครัวหลังจากนี้มึงก็ช่วยเป็นครอบครัวให้มันหน่อยน่ะ ถึงกูจะไม่อยู่กับมึงเเล้ว มึงจนรู้ไว้ว่า กูอยู่ในหัวใจมึงเสมอ ฮั่นเเน่ อย่าคิดลึกดิ๊เตง อย่าลืมทำบุญเพื่อพี่ด้วยน่ะน้อง ของขนมอร่อยไมาให้กินน่ะกูเป็นผีเลือกกิน 5555
สุดท้ายอยากบอกว่า กูรักมึงเพื่อนรักของกู '
จาก จำปีเพื่อนสาวสุดหล่อ
"ฮึก ฮื้อ~"เมื่อต้นอ้อได้อ่านกระดาษเเผ่นนั้นจบก็ร้องไห้หนักกว่าเดิมเเต่ก็ต้องฮึบไว้ จนผ่านไปหลายวันงานศพก็ได้เสร็จสิ้นไปด้วยดี
"เฮือก!!! " จำปาได้ตื่นขึ้นมาพร้อมกับเหงื่อที่ไหลออกมาเเละสายตาก็กวาดมองไปรอบห้อง
"ยายพี่จำปาตื่นเเล้ว!!" เสียงของเด็กผู้ชายอายุราว6-7ขวบได้ ร้องลั่นขึ้นมาเเละวิ่งออกจากห้อง
จำปีเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับเเม่เเละไอจุกหลานชาย
"ขวัญเอ๋ยขวัญมาลูกเเม่ เเม่นึกว่าจะต้องเสียพวกเองไปเเล้ว" เเม่พรได้เอ่ยขึ้นพร้อมกับกลั้นน้ำตา
"ข้าดีใจที่พี่ฝื้นขึ้นมาน่ะพี่จำปา"จำปีผู้เป็นน้องสาวได้เอ่ยทักขึ้นก่อนจะส่งยิ้มบางให้กับผู้เป็นพี่
"ไอจุกไปบอกผู้ใหญ่บ้านเร็วว่า จำปามันฝื้นเเล้ว" ยายพรได้เอ่ยบอกกับหลานชาย
"ได้จ๊ะยาย"เมื่อฟังคำพูดของผู้เป็นยายจบไอจุกก็รีบวิ่งออกจากห้องของจำปาทันที
"ฉะ...ฉันอยู่ที่ไหนเนี้ย"จำปาจับหัวเเละมองคนตรงหน้าด้วยความสงสัยเเละปวดหัว
"เเม่จ๊ะเดี๋ยวให้พี่จำปาเขาพักก่อนน่ะเเม่ พี่จำปลาอาจจะเบลอก็ได้ เดี๋ยวข้าจักจะเฝ้าพี่จำปาให้เองเเม่ไม่ต้องเป็น" จำปีได้เอ่ยขึ้นเเละส่งยิ้มให้กับผู้เป็นเเม่
"งั้นเดี๋ยวข้าไปทำกับข้าวต่อน่ะ จำปีเอ็งก็ดูเเละพี่เองด้วยน่ะ" พรได้เอ่ยขึ้นมาก่อนจะเดินออกจากห้องเเละปิดประตู
"จะ..จำปีที่นี่ที่ไหนนี่ไม่ใช่บ้านเราเลย"จำปาได้เอ่ยขึ้นมาพร้อมกับสีหน้ากังวล
"พี่ตอนนี้เราอยู่ในยุค 90 เเละที่พี่เห็นอยู่คือเราทะลุมิติมายุคนี้ เเละจำที่ตาทวดเคยบอกได้มั้ยว่า เมื่อถึงเวลาที่กำหนดโชคชะตาจะพามาเอง "จำปีได้เอ่ยขึ้นพร้อมกับส่งยิ้มให้คนตรงหน้า
"ยุค 90 หรอ ยุคที่มักจะมีเเต่พวกเล่นของไสยศาสตร์ เเละโจรเยอะๆน่ะหรอ" จำปามองผู้เป็นน้องด้วยความสงสัย
"ก็ใช่พี่ เรามาอยู่ยุคนี้เเล้ว คำพูดกับการกระทำต้องเปลี่ยนด้วยน่ะ" เมื่อจบคำพูดของจำปีจำปาก็ได้มองเครื่องนุ่งห่มของตัวเองที่เป็นเสื้อเเขนยาวโบราณเเละมองจำปีที่สวมสไบสีซีด
"เเล้วมันเกิดอะไรขึ้นทำไมพี่เป็นเเบบนี้" จำปามองที่มองทั้งสองข้างเเละสายสิญจน์ที่ผูกมัดไว้ที่มือ
"ข้าก็มีพี่ ข้าได้ฟังมาจากไอจุกเเล้วว่า ก่อนเราจะเข้ามาอยู่ร่างนี้ สองพี่น้องร่างนี้เคยถูกผีพรายมันลากลงน้ำเเละจมน้ำเเต่ดีที่ไม่ตายเพราะถูกช่วยขึ้นก่อน พอถูกช่วยมาเเล้วถึงไม่ตายเเต่ก็หลับไหลเป็นเจ้าหญิงนิทรา" จำปีส่งยิ้มให้จำปาเเละเดินไปเปิดหน้าต่างห้องของจำปา
"งั้นเราก็มาขออาศัยร่างคนอื่นอยู่สิน่ะ"จำปาพูดด้วยเสียงที่สั่นพรางมองไปที่จำปีที่กำลังเปิดหน้าต่าง
"อะไรกันเนี่ยพี่ไม่เข้าใจหรอ มันไม่ใช่ร่างคนอื่น เเต่เดิมทีนี่มันคือร่างของเราตั้งนานเเล้วพี่!!" จำปีเอ่ยเสียงอ่อนโยนกับผู้เป็นพี่
"...." จำปาได้เงียบเเละคิดทบทวนก่อนจะปรับความเข้าใจอีกครั้ง
"ดีจังเลยเนอะพี่ เราอยู่ในยุคไสยศาสตร์ หนูจะได้เล่นของเเละเบี- เเค่กๆๆ" จำปีได้สำลักน้ำลายตัวเอง
"ดีได้ยังไง มันอันตรายทั้งนั้นเลยทั้งโจร ทั้งพวกหมอผี" จำปาได้เอ่ยเสียงดุ
"°^°" จำปีได้ทำเเต่หน้ายู้ พองเเก้ม ทำให้จำปาเอ็นดู
'มันคือเรื่องดีพี่ยุคนี้มีคนเล่นของเยอะพอจะหาช่วยกำจัดอีผีบ้านั้น ถึงจะขังมันได้เเต่เเม่งก็ออกมาได้เหมือนเดิม' จำปีได้จมอยู่กับความคิดของตัวเอง
"จำปี จำปี" จำปาได้เอ่ยเรียกชื่อของน้องสาวที่ตอนนี้ไม่มีท่าทีว่าจะมีสติ
"จำปี!!! " จำปาได้ตะโกนลั่นห้องทำให้จำปีสะดุ้งโหยง
"ว่าไงพี่จำปามีอะไรรึ" จำปีได้เดินมานั่งที่ขอบเตียงของจำปาเเละมองผู้เป็นพี่สาว
"เหม่ออะไรอยู่ทำไมเรียกหลายรอบเเล้วไม่ได้ยิน"จำปาพูดด้วยความสงสัยเเละมองน้องสาวของตนเอง
"กำลังคิดคำอยู่พี่ว่ายุคนี้ต้องใช้คำอะไร"จำปีได้เอ่ยพลางยิ้มหวาน
"เเล้วคิดคำได้หรือยัง"จำปาได้เอามือไปลูบหัวของจำปีอย่างอ่อนโยน
"คิดได้เเล้วพี่ ยุคนี้มันต้องคำนี้ กางอณาเขต พรมเเดนไร้เข- โอ้ย!!!"ไม่ทันที่จำปีจะพูดจบจำปาก็ตบหน้าผากของจำปี
"เบียวเก่งน่ะเราเนี้ยมันใช่เวลามั้ย!!"จำปาเอ่ยเสียงเข้มเเละถอนหายใจ
"เเปปๆจำปีขอตั้งสติก่อน อา~~วู้- โอ้ย!!" จำปาได้ทำการตีหน้าผสกของจำปีอีกครั้งเเละส่ายหัวด้วยความเหนื่อยใจ
"เอาดีๆไอน้องคนนี้"จำปาดุจำปีเเละหันไปหยิบน้ำมาดื่ม
"ก่อนอื่นที่นี้คือภาคอีสานตอนใต้ ซึ่งเราอยู่ที่จังหวัด สุรินทร์ ซึ่งจากประวัติศาสตร์ได้บอกมาว่า ทางภาคอีสานตอนใต้มักจะมีเเต่พวกโจร เล่นของมนต์ดำ หมอผี เเละผีต่าง เเละยุคนี้ต้องใช้คำโบราณ เเบบว่า ข้า เอ็ง มึง กู พี่ น้อง เเละทางภาคนี้มีภาษาถิ่นด้วย มีภาษาเขมร ส่วย ลาว เพราะฉะนั้นพี่ต้องรู้จักใช้คำที่เหมาะสมกับยุคด้วยน่ะ "จำปีได้เอ่ยขึ้นมายาวเหยียด~~~
"พูดมาส่ะยาวเลยเอาสั้นๆหน่อย"จำปามองผู้เป็นน้องสาว
"นี่คือย่อมาเเล้วน่ะพี่ ต้องขอขอบคุณไส-เอ้ย ประวัติศาสตร์ที่สอนมาเเหะๆ"จำปีขำเเห้งเเละมองจำปา
"อีกสักเเปปลุงผู้ใหญ่บ้านคงมา เเละพี่ไม่ต้องรนน่ะพี่เป็นตัวของตัวเองเลยเพราะว่านิสัยพี่กับร่างนี้ไม่อยากจะพูดไปดีกว่า" จำปีได้เดินออกจากห้องเเละลงไปช่วยเเม่ทำกับข้าวปล่อยให้จำปามึนงง
ในขณะนั้นประตูห้องก็ได้เปิดขึ้นมา ลุงสมพงษ์ลุงผู้ใหญ่บ้านเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับไอจุกเเละอีกคนที่เดินมาตามหลัง
"นังหนูเอ็งกับน้องเอ็งยังคงมีบุญถึงทำให้ฝื้นขึ้นมาได้ มาเดี๋ยวลุงจะให้พ่อครูอัคคีเรียกขวัญให้น่ะ ไอจุกเอ็งไปเรียก จำปีมาด้วยจะได้ทำการเรียกขวัญพร้อมกันเลย"สิ้นสุดคำพูดของลุงสมพงษ์ไอจุกก็รีบวิ่งไปเรียกจำปีมา
จำปามองไปที่ลุงผู้ใหญ่บ้านเเละเหลือบมองไปที่พ่อครูรูปงามร่างกายกำยำ หุ่นดีสวมเเค่กางเกงสีดำขายาว ร่างกายของพ่อครูท่อนบนมีรอยยันต์อักขระเต็มร่างกายเเต่ไม่ได้ทำให้ดูรกตา
เมื่อพ่อครูจับสังเกตจำปาที่ตอนนี้ได้เเอบมองมาที่เขา เขาก็มองไปที่จำปาเเละส่งยิ้มอ่อนโยนให้เธอ เขาพิจารณาใบหน้าของจำปา ที่ขาวสวย ใบหน้าทรงรูปไข่ ปากกระจับ ดวงตากลมโตพวงเเก้มที่หน้าหยิกหน้ากัด ผิวที่ขาว จมูกโด่ง ทำให้พ่อครูเผลอหยุดหายใจไปชั่วขณะ
"จังหวะตกหลุมรักเป็นเเบบนี้" จำปีที่ตอนนี้ยืนพิงประตูหน้าห้องพี่สาวเเละมองการกระทำของทั้งสองก่อนจะร้องเพลง เเกล้งเล่น ทำให้คนทั้งสองคน สะดุ้งโหยก
"มาเเล้วรึจำปีเอ็งมานั่งกับพี่สาวเอง เดี๋ยวลุงจะให้พ่อครูอัคคีเรียกขวัญให้" ลงสมพงษ์ได้เอ่ยขึ้น
"ของข้าไม่ต้องเรียกขวัญหรอกจ๊ะลุ- "ยังพูดไม่จบประโยคจำปีได้หันไปมองหน้าพี่สาวที่ตอนนี้ทำหน้าไม่พอใจใส่เธอ จำปีจึงต้องเข้าร่วมพิธีการเรียกขวัญ โดยมีเสียงหัวเราะเล็ดออกมาจากพ่อครูอัคคี
"เอาหล่ะกูจะเรียกขวัญให้พวกมึง เพราะงั้นช่วยอยู่นิ่งๆด้วยน่ะ"พ่อครูอัคคีได้เอ่ยเสียงทุ่มขึ้น จำปาที่เผลอยิ้มออกไปโดยไม่รู้ตัว โดยมีสายตาจากจำปีที่เหล่มองเเละมองไปที่พ่อครู
"พี่กู กูไม่ให้จีบ" จำปีได้พูดออกมาโดยไม่มีเสียงโดยที่พ่อครูอัคคีก็รู้ว่าหมายความว่ายังไงเเต่เขาก็ยังส่งยิ้มให้จำปาต่อหน้าต่อของจำปี
"พี่ก้มลงหน่อยข้าเห็นอะไรมันติดหัวของพี่" จำปาได้ดึงสติเเละก้มหัวลงให้ เเละในขณะที่จำปาก้มลง จำปีที่อดทนอดกลั้นอยู่ก็ ชูนิ้วกลางให้กับพ่อครูอัคคี เเละรีบเก็บเมื่อจำปาเงยขึ้น
"อะไรหรอ"จำปาได้เอ่ยขึ้นมาด้วยความสงสัย
"มันเป็นเเมงมุมจ๊ะพี่ ข้าเอาออกให้เเล้ว"จำปีเเถ่ไปเรื่อยเเต่จำปาก็ไม่ได้จับผิดอะไร
พ่อครูที่นั่งงงเป็นไก่ตาเเตกกับสัญลักษณ์เมื่อกี้ที่จำปีส่งให้หมายถึงอะไร เพราะเขานั้นไม่รู้จัก พ่อครูอัคคีทำได้เเค่เก็บความสงสัยไว้ในตัวเเละเริ่มทำพิธีเรียกขวัญ
"ข้าวขวัญเเก้ว ตบเเต่งเเล้วดอมดาดี สายสิญจน์นี้ให้คลอมคุ้มคีง ปกป้องโพยภัย มาเยอขวัญเยอ ขวัญเจ้าเอ๋ยมาเยอ ขวัญบินไกลไปตก ย่อนชูชกเอาไม้ไล่ตี เสือนอนขวางไว้ ขวัญตกใจเจิดหนี ให้เจ้าคืนมาเยอมาอยู่คีงเจ้า"
เมื่อจบบทเรียกขวัญ ของพ่อครูอัคคี พ่อครูจึงผูกสายสิญจน์ ให้กับจำปาเเละจำปี
จำปาที่ตอนนี้ยิ้มอ่อนโยนเเละมองพ่อครูในขณะที่พ่อครูเองก็ส่งยิ้มหวานให้
"อะเเฮ่ม!!! ผูกเสร็จเเล้วก็กลับไปส่ะพ่อครู "จำปีมองตาขวางเเละไล่พ่อครู
"จำปีนิสัยไม่ดีเลยไล่พอครูไปได้ยังไง"จำปาที่เห็นเเบบนั้นจึงดุน้องสาว
จำปี :พี่กูมึงอย่ามาจีบไม่งั้นเดี๋ยวเเม่เสกความธนูเข้าท้องเเม่ง
นักเขียน : มึงก็ห่วงพี่เกินไป ปล่อยเขาสองคนไป๊!!!!
เเอดอัพวันละตอนหน้าทุกคนนน
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!