NovelToon NovelToon

เรื่องลับๆของม.2/2

"คิดแค่เพื่อน"

ห้องเรียนในวันธรรมดา เสียงครูอธิบายเนื้อหาไปเรื่อยๆ แต่ในหัวของโบ๊ทกลับเต็มไปด้วยความคิดที่จับต้องไม่ได้ ความคิดเกี่ยวกับคิว เพื่อนสนิทของเขาที่นั่งอยู่ข้างหน้า ทุกครั้งที่มองไปที่คิว โบ๊ทรู้สึกเหมือนทุกอย่างรอบตัวหยุดหมุน คิวเป็นคนที่มีเสน่ห์มากเกินไป เขามีทุกอย่างที่ผู้หญิงต้องการ ทั้งหล่อ มั่นใจ และมีท่าทางที่ดึงดูด แม้แต่โบ๊ทเองก็ไม่สามารถหลบเลี่ยงได้

คิวมักจะมีสาวๆ มาติดตรึม เขามักจะพูดเล่นๆ กับสาวๆ พูดทีเล่นทีจริงจนทำให้สาวๆ หลายคนตกหลุมรัก โดยที่โบ๊ทไม่เคยรู้สึกอะไรยกเว้นความรู้สึกน้อยใจที่เขาเองไม่ได้รับความสนใจจากคิวเลย

"เฮ้ย โบ๊ท! มึงจะชวนสาวมาเดทหรือยัง?" คิวหันมายิ้มเยาะให้กับโบ๊ท

"เดี๋ยวกูมีเรียนแล้ว จะไปไหนได้" โบ๊ทตอบกลับไป พร้อมกับหลบสายตาคิวที่เต็มไปด้วยการยั่วเย้า

คิวหัวเราะร่าและพูดต่อ "มึงไม่อยากหาคนมาเป็นแฟนหรอ? กูตัวท็อปเลยนะสาวๆ ชอบกูเยอะเลย"

โบ๊ทหัวเราะแห้งๆ แต่ในใจกลับรู้สึกเจ็บปวดที่คิวยังคงพูดถึงสาวๆ ในลักษณะนั้น ทั้งที่ในใจของโบ๊ทมีเพียงคิวอยู่คนเดียว แต่เขาก็ไม่สามารถบอกอะไรได้

เวลาผ่านไปหลายเดือน โบ๊ทก็ยังคงรู้สึกเจ็บปวดที่ไม่สามารถแสดงความรู้สึกที่มีต่อคิวออกมาได้ ทุกครั้งที่เห็นคิวพูดคุยกับสาวๆ หรือแสดงความรักกับใคร โบ๊ทกลับรู้สึกเจ็บในใจ เขาพยายามทำตัวให้เหมือนว่าไม่มีอะไร แต่ภายในกลับเต็มไปด้วยความทุกข์และความเศร้า

จนกระทั่งวันหนึ่ง คิวเดินเข้ามาบอกข่าวที่ทำให้หัวใจของโบ๊ทแทบแตกสลาย

"โบ๊ท...กูมีแฟนแล้วนะ" คิวพูดอย่างสดใส พร้อมรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข

โบ๊ทนิ่งไปครู่หนึ่ง คำพูดนั้นเหมือนทำให้เขาสะดุดกึก เขาพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความเจ็บปวดที่ไม่สามารถพูดออกไปได้

"ดีใจด้วยนะ" โบ๊ทตอบกลับไปพร้อมกับยิ้มเจ็บๆ แต่ภายในใจเหมือนมีบางอย่างที่แตกสลาย

คิวไม่รู้เลยว่าในใจของโบ๊ทกำลังเจ็บปวดอย่างไร เขายังคงพาคู่รักมาหวานต่อหน้าคิวเรื่อยๆ จนโบ๊ทไม่สามารถทนได้อีกต่อไป

ในวันที่โบ๊ททนความรู้สึกไม่ไหวอีกต่อไป เขาตัดสินใจเรียกคิวออกมาคุยที่มุมเงียบของโรงเรียน

"คิว...มาคุยกันหน่อย" โบ๊ทเรียกคิวด้วยเสียงที่สั่นเครือ แต่คิวก็ดูเหมือนจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

"มีอะไรเหรอ?" คิวถามด้วยความสงสัย เขาไม่เข้าใจว่าทำไมโบ๊ทถึงเรียกเขามาคุยในเวลานี้

"กู...ชอบมึง" โบ๊ทพูดออกไปอย่างเต็มใจ แต่เสียงของเขากลับสั่นเครือมากจนแทบจะพูดไม่ออก

คิวเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มเยาะและตอบกลับ “มึง...หมายความว่าไง?”

"กูชอบมึง...มากกว่าคำว่าเพื่อน" โบ๊ทพูดออกไปอย่างยากลำบาก

คิวหยุดมองโบ๊ทราวกับไม่เข้าใจ "กูคิดกับมึงแค่เพื่อนนะ" คิวพูดเสียงเย็นชา พร้อมกับท่าทางไม่สะทกสะท้าน "แล้วมึงก็รู้ดีว่ากูไม่ชอบผู้ชาย"

คำพูดนั้นเหมือนดั่งฟ้าผ่าลงมาในใจของโบ๊ท เขารู้สึกเหมือนทุกอย่างรอบตัวหยุดหมุน เขาพยายามกลั้นน้ำตาไว้และพูดออกไป “งั้น...เราก็ตัดกันไปเลยก็ได้”

คิวมองโบ๊ทด้วยสายตาที่ดูหงุดหงิด "กูบอกแล้วว่าไม่ชอบแบบนั้น" ก่อนที่จะหันหลังเดินไป

โบ๊ทรู้สึกเหมือนหัวใจจะหล่นลงไปในช่องว่าง เขาหมุนตัวเดินออกจากโรงเรียนในทันที เขาตัดสินใจย้ายโรงเรียนทันที เพราะเขารู้ดีว่าอยู่ต่อไปก็จะเจ็บปวดเท่านั้น

หลายเดือนผ่านไป คิวเริ่มรู้สึกถึงการหายไปของโบ๊ท ในตอนแรกเขาก็ไม่ได้คิดอะไรมากนัก แต่พอเวลาผ่านไป เขากลับรู้สึกถึงความว่างเปล่าที่โบ๊ททิ้งไว้

"ทำไมกูถึงไม่เคยรู้สึกว่า...กูชอบโบ๊ทมาก่อนเลย?" คิวถามตัวเองในใจ แต่ไม่สามารถหาคำตอบได้

เขารู้สึกว่าโบ๊ทคือส่วนสำคัญในชีวิตของเขา ตอนนี้เขาถึงได้รู้ว่าที่จริงแล้วเขาก็ชอบโบ๊ทเหมือนกัน แต่เมื่อโบ๊ทจากไป คิวก็ไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว

เขาคิดถึงโบ๊ทมาก แต่โบ๊ทก็ไม่กลับมาหาเขาอีกแล้ว

คิวยืนอยู่หน้าห้องเรียนที่เคยเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและเสียงพูดคุยของโบ๊ท ตอนนี้มันเงียบสงบ เหมือนทุกอย่างได้หายไป

“โบ๊ท...กูขอโทษ” คิวพูดกับตัวเองพร้อมกับยิ้มเศร้า

คิวรู้ดีว่าเขาทำผิดพลาดไปแล้ว และตอนนี้เขาต้องอยู่กับความรู้สึกผิดที่ไม่มีทางกลับไปแก้ไขได้

เขาไม่สามารถทำอะไรได้อีกแล้ว นอกจากคิดถึงโบ๊ทและสำนึกผิดที่ไม่เคยเข้าใจความรู้สึกของโบ๊ท มาก่อน

"รักนี้ที่ต้องแอบ"

บทนำ

---

ไนท์และภูมิเป็นเพื่อนร่วมห้องกัน ทั้งสองไม่ได้เข้ากันตั้งแต่แรก ไนท์ผู้เย็นชากับรอยยิ้มที่แสนหายาก มักจะทำให้ใครหลายคนรู้สึกว่าเขาเข้าถึงยาก แต่แท้จริงแล้ว หากได้รู้จักเขาจะพบว่าไนท์คือคนที่ซุกซน ติดตลก และแปลกในแบบที่คนรอบข้างไม่คาดคิด ส่วนภูมิ ชายหนุ่มที่ดูนิ่งเงียบแต่กลับมีอารมณ์ขันในแบบของตัวเอง เขาไม่เด่นในกลุ่มเพื่อนมากเท่าไนท์ ทั้งส่วนสูงและความหล่ออาจจะไม่เทียบเท่า แต่เขากลับมีเสน่ห์ที่ชวนให้อยากค้นหา

ทั้งสองคนอยู่ชมรมกีฬาเดียวกัน ชมรมที่เต็มไปด้วยกฎเกณฑ์แปลกๆ หนึ่งในนั้นคือ "ห้ามสมาชิกคบกันเป็นแฟน" กฎข้อนี้ถูกบังคับใช้อย่างเคร่งครัดโดยประธานชมรมผู้ดุร้าย

---

ไนท์กับภูมิไม่ค่อยถูกกันตั้งแต่แรกเริ่ม ช่วงเวลาซ้อมกีฬาเต็มไปด้วยคำประชดประชันและการท้าทายกันตลอด ไนท์มักหาเรื่องภูมิ ไม่ว่าจะเป็นการแกล้งยั่วโมโหหรือแสดงความเหนือกว่าในสนาม ส่วนภูมิก็ไม่เคยยอมแพ้ พวกเขาเหมือนจะไม่ถูกกัน แต่กลับอยู่ใกล้กันเสมอ จนเพื่อนๆ ในชมรมเริ่มเรียกพวกเขาว่า “คู่กัดประจำชมรม”

ในวันหนึ่ง ขณะที่ฝนตกหนักและทั้งคู่ติดอยู่ในโรงยิมเพราะลืมร่ม การพูดคุยเล็กๆ น้อยๆ กลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนไป จากการกัดกันในสนามกลายเป็นการช่วยเหลือกัน ฝึกซ้อมด้วยกัน และการสนทนาที่ลึกซึ้งกว่าที่เคย

เมื่อทั้งคู่เริ่มสนิทกันมากขึ้น ความรู้สึกบางอย่างก็ค่อยๆ เติบโตโดยไม่รู้ตัว ไนท์เริ่มมองภูมิในมุมที่ต่างออกไป เขาชอบเวลาอีกฝ่ายทำหน้าจริงจังตอนซ้อมกีฬา และมักจะหลุดยิ้มออกมาเมื่อภูมิพยายามเอาชนะเขา ส่วนภูมิเองก็เริ่มรู้สึกว่าชีวิตในชมรมไม่เงียบเหงาอีกต่อไปเมื่อมีไนท์อยู่ใกล้ๆ

แต่กฎของชมรมที่ห้ามคบกันกลายเป็นอุปสรรคใหญ่ ทั้งสองเลือกที่จะเก็บความรู้สึกไว้และแอบคบกันอย่างลับๆ โดยไม่มีใครรู้

ทุกอย่างเหมือนจะเป็นไปได้ด้วยดีจนกระทั่งวันหนึ่ง สาวสวยคนหนึ่งชื่อ "มายด์" เข้ามาในชมรม เธอแสดงออกอย่างชัดเจนว่าชอบไนท์และตามจีบเขาอย่างหนัก ภูมิที่เห็นทุกอย่างอดรู้สึกหึงไม่ได้ ถึงแม้ไนท์จะยืนยันกับภูมิว่าไม่มีอะไร แต่ความรู้สึกไม่สบายใจก็ยังคงอยู่

เหตุการณ์พีคเกิดขึ้นเมื่อมายด์แกล้งล้มและเผลอเข้ามากอดไนท์ต่อหน้าภูมิ ภูมิที่เห็นภาพนั้นกับตาตัวเองรู้สึกเหมือนหัวใจถูกบดขยี้ เขาเลือกที่จะเดินหนีออกไปพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาโดยไม่สามารถควบคุมได้

ไนท์ที่เห็นภูมิหนีก็รีบวิ่งตามไปง้อ แต่ภูมิเริ่มเย็นชาและถอยห่างจากไนท์ไปทีละนิด เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าตัวเองไม่สำคัญ

ภูมิเริ่มมีปากเสียงกับไนท์มากขึ้นในช่วงหลัง เขาต้องการให้ไนท์เปิดตัวความสัมพันธ์เพื่อพิสูจน์ความจริงใจ แต่ไนท์กลับปฏิเสธเพราะกลัวผลกระทบจากกฎของชมรม ทั้งสองทะเลาะกันหนักขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดภูมิก็ตัดสินใจขอเลิก เขาออกจากชมรมและพยายามตัดขาดจากไนท์

ไนท์รู้สึกเสียใจและพยายามขอโอกาส แต่ภูมิไม่ฟัง เขาเลือกที่จะหันหลังให้กับไนท์และเริ่มต้นชีวิตใหม่

เวลาผ่านไปหลายปี หลังจากทั้งคู่เรียนจบและแยกย้ายไปตามเส้นทางของตัวเอง ในงานเลี้ยงรุ่นครั้งหนึ่ง ไนท์และภูมิบังเอิญกลับมาเจอกันอีกครั้ง ไนท์ที่ไม่เคยลืมภูมิพยายามขอโทษและขอโอกาสอีกครั้ง

ไนท์แสดงออกอย่างจริงใจ เขาพยายามแสดงให้ภูมิเห็นว่าเขาเปลี่ยนไปแล้ว และครั้งนี้เขาจะไม่ทำให้ภูมิเสียใจอีก

หลังจากที่ไนท์พยายามพิสูจน์ตัวเองทุกวัน ในที่สุดภูมิก็เปิดใจให้อีกครั้ง ทั้งสองคนกลับมาคบกันโดยไม่มีอะไรมาขวางกั้นอีกต่อไป ไนท์สัญญาว่าจะดูแลภูมิและรักเขาให้เป็นที่หนึ่งเสมอ

เรื่องราวจบลงอย่างมีความสุข พร้อมกับการเริ่มต้นใหม่ของทั้งสองคนที่เต็มไปด้วยความรักและความเข้าใจ

---

"เพื่อเธอ...ฉันจะเปลี่ยน"

 

บทนำ

โรงเรียนมัธยมต้นwkpตั้งอยู่ในหุบเขาที่ล้อมรอบด้วยธรรมชาติและอากาศบริสุทธิ์ แม้จะดูเหมือนโรงเรียนธรรมดา ๆ ในต่างจังหวัด แต่ภายในกลับเต็มไปด้วยชีวิตชีวาและเรื่องราวของเหล่านักเรียนที่ต่างมีเอกลักษณ์

แชมป์ เด็กหนุ่มวัย 14 ปีที่เพิ่งย้ายมาจากกรุงเทพฯ พร้อมความตั้งใจที่จะใช้ชีวิตเรียบง่ายในโรงเรียนแห่งนี้ เขาเป็นคนเงียบขรึม ไม่ชอบสุงสิงกับใคร แต่ความหล่อเหลาที่เป็นธรรมชาติ ผิวแทนสุขภาพดี และรูปร่างแข็งแรงจากการเล่นตะกร้อ กลับทำให้เขาโดดเด่นโดยไม่ตั้งใจ

ในทางตรงกันข้าม กัน เป็นตัวแทนของความวุ่นวายและความปั่นป่วน เพลย์บอยที่เต็มไปด้วยความมั่นใจและความเจ้าชู้ เขาคบสาวหลายคนในเวลาเดียวกัน ใช้คำพูดหวาน ๆ และรอยยิ้มเจ้าเล่ห์เพื่อให้ตัวเองได้เปรียบเสมอ แต่ภายใต้เสน่ห์ที่แพรวพราวนี้ มีนิสัยที่ทั้งกวนประสาทและไม่สนใจความรู้สึกของคนอื่น

เมื่อทั้งสองพบกัน โลกของแชมป์ที่เงียบสงบกลับถูกเขย่า และกันเองก็พบกับคนที่ทำให้เขาเริ่มตั้งคำถามกับตัวเอง ความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นจากความไม่ลงรอย จะพัฒนาไปสู่จุดไหน?

สนามตะกร้อในช่วงเช้าของโรงเรียนwkpเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและเสียงตะโกนของเด็กนักเรียนชายที่กำลังซ้อม แชมป์ยืนมองจากระยะไกล เขาชื่นชอบการเล่นตะกร้อมาตั้งแต่เด็ก และการได้เห็นสนามนี้ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลาย

ขณะที่เขากำลังคิดว่าจะเข้าไปลองเล่นดู เสียงทักที่ดังมาจากด้านหลังทำให้เขาสะดุ้ง “เฮ้ นายเด็กใหม่ใช่ไหม?”

แชมป์หันไปมอง พบกับกัน เด็กหนุ่มในชุดนักเรียนที่ปล่อยชายเสื้อหลุดลุ่ย เนกไทผูกแบบหลวม ๆ กันยืนพิงเสาประตูด้วยรอยยิ้มกวน ๆ และแววตาที่เหมือนกำลังประเมินคนตรงหน้า

“ใช่” แชมป์ตอบสั้น ๆ ก่อนจะเบือนหน้าหนีเหมือนไม่อยากเสียเวลา

กันหัวเราะเบา ๆ แล้วเดินเข้ามาใกล้ “หยิ่งแฮะ หรือว่าเด็กกรุงเทพฯ เขาพูดกันแบบนี้?”

แชมป์หันกลับมามองด้วยสายตาเรียบเฉย “เปล่า ฉันแค่ไม่คุยกับคนเสียงดัง”

คำตอบตรง ๆ ทำให้กันชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มกว้าง “โอเค เด็กใหม่ นายน่าสนใจว่ะ ฉันชื่อกัน เป็นคนดังของโรงเรียนนี้ ถ้านายต้องการอะไร บอกฉันได้เลย”

“ไม่ล่ะ ฉันอยู่คนเดียวได้” แชมป์ตอบ ก่อนจะเดินหนี ทิ้งให้กันยืนมองตามด้วยรอยยิ้มมุมปาก

“เห้ย เด็กใหม่นี่เจ๋งว่ะ” กันพูดกับตัวเองเบา ๆ

หลังจากหลายวันของการตามติด กันเริ่มเปลี่ยนวิธีเข้าหาแชมป์จากการแกล้งเป็นการพยายามสร้างมิตรภาพที่จริงจังมากขึ้น แม้ว่าแชมป์จะยังคงระวังตัว แต่ก็เริ่มเห็นว่ากันมีมุมที่จริงใจ

เช้าวันหนึ่งในสนามกีฬา แชมป์กำลังเตรียมซ้อมตะกร้อคนเดียวเหมือนที่เขาชอบทำ แต่ครั้งนี้กลับมีคนเดินเข้ามาพร้อมลูกตะกร้อในมือ

“ขอเล่นด้วยได้ไหม?” กันถามพร้อมรอยยิ้มที่ดูจริงใจ

แชมป์มองเขาอย่างไม่ไว้ใจนัก ก่อนจะพยักหน้า “ถ้านายไม่แกล้งฉัน”

“โอ๊ย นายคิดว่าฉันจะกล้าทำหรือไง?” กันหัวเราะ ก่อนจะโยนลูกตะกร้อให้แชมป์ “นายเก่งกว่าฉันเยอะอยู่แล้ว ฉันอาจจะโดนแก้เกมแทน”

การเล่นตะกร้อครั้งนั้นเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและการล้อเลียนที่ไม่ถึงกับกวนประสาทจนเกินไป เมื่อจบเกม กันหอบเหนื่อยพลางหัวเราะ “โห นายเก่งจริง ๆ ฉันยอมรับเลย”

แชมป์ยิ้มนิด ๆ “ก็แค่ออกกำลังกาย ไม่ได้จริงจังขนาดนั้น”

“แต่ก็ดีกว่าคนอย่างฉันที่เก่งแต่เรื่องไม่เป็นเรื่อง” กันตอบเสียงเบา และนี่เป็นครั้งแรกที่แชมป์เริ่มรู้สึกว่ากันมีมุมที่ไม่ได้หยิ่งยโสอย่างที่เขาคิด

วันต่อมา กันยังคงตามแชมป์เหมือนเดิม แต่ครั้งนี้การเข้าหากลับดูแตกต่างออกไป เขาไม่ได้กวนประสาทหรือพยายามพูดจาเจ้าเล่ห์เหมือนเคย แต่พยายามพูดคุยในเรื่องธรรมดาแทน

“นายเล่นตะกร้อมานานหรือยัง?” กันถามระหว่างที่พวกเขากำลังเดินกลับห้องเรียน

“ตั้งแต่เด็ก พ่อฉันชอบเล่น เลยสอนฉันตั้งแต่ยังเล็ก” แชมป์ตอบเรียบ ๆ

“นั่นสินะ ดูจากวิธีเตะของนายก็รู้เลยว่าได้รับการฝึกมาดี” กันพูดพลางยิ้ม “ฉันเล่นกีฬาไม่เก่งเลยแฮะ ถนัดแต่เรื่องวุ่นวาย”

“ก็เปลี่ยนซะสิ” แชมป์ตอบสั้น ๆ

คำพูดนั้นทำให้กันนิ่งไปชั่วขณะ เขามองแชมป์อย่างพิจารณา ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ “อาจจะลองดู ถ้ามันทำให้ฉันเป็นคนที่ดีกว่านี้”

แชมป์แอบยิ้มในใจ แม้จะไม่ได้แสดงออกมาก แต่เขาเริ่มรู้สึกว่ากันอาจไม่ใช่คนที่เลวร้ายอย่างที่เขาคิดในตอนแรก

ช่วงเวลาที่กันและแชมป์เริ่มใกล้ชิดกันมากขึ้น พวกเขากลายเป็นคู่หูในสนามกีฬาและห้องเรียน แม้ว่าแชมป์จะยังคงเงียบขรึมและกันยังมีนิสัยกวน ๆ อยู่บ้าง แต่ทั้งคู่เริ่มเรียนรู้ที่จะยอมรับในความแตกต่างของกันและกัน

วันหนึ่งหลังเลิกเรียน พวกเขานั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ในสนามโรงเรียน ขณะที่ดูพระอาทิตย์ตกดิน

“นายรู้ไหม ฉันไม่เคยมีเพื่อนแบบนายมาก่อน” กันพูดขึ้น พร้อมยิ้มบาง ๆ

“เพราะนายไม่เคยหยุดยุ่งกับคนอื่นต่างหาก” แชมป์ตอบ แต่ครั้งนี้น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยความอ่อนโยน

กันหัวเราะ “จริงของนาย แต่ฉันว่าดีนะที่นายไม่ผลักไสฉันออกไป ไม่งั้นฉันคงเบื่อแย่”

“ถ้านายทำตัวดี ๆ ก็คงไม่มีใครผลักไสนายหรอก”

คำพูดนั้นทำให้กันเงียบไปสักพัก ก่อนจะพูดเบา ๆ “บางที ฉันก็แค่อยากให้คนอื่นสนใจ... แต่มันก็แปลกดีนะ นายสนใจฉันโดยที่ฉันไม่ต้องพยายามเลย”

แชมป์หันไปมองกัน เขาไม่พูดอะไร แต่ในใจกลับรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก

ในโรงอาหารช่วงพักกลางวัน กลุ่มสาว ๆ ที่ชื่นชอบกันเริ่มเข้ามารายล้อมรอบตัวเขา แชมป์ที่กำลังเดินถือถาดข้าวอยู่ไม่ไกลหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงพูดคุยและหัวเราะคิกคักดังขึ้น

“พี่กันคะ พรุ่งนี้พี่ว่างไหม? หนูอยากชวนพี่ไปดูหนังด้วยกัน” เด็กสาวคนหนึ่งพูดด้วยน้ำเสียงสดใส

“ใช่ ๆ หนูด้วยค่ะ พี่กันช่วยติวเลขให้หนูหน่อยได้ไหมคะ? หนูไม่เข้าใจเลย” อีกคนเสริมพร้อมจับแขนกันอย่างสนิทสนม

กันยิ้มกว้าง เขามองพวกเธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความมั่นใจและเจ้าเล่ห์ “ได้สิ แต่พี่ขอคิดค่าตอบแทนนะ”

“ค่าตอบแทนอะไรคะ?” เด็กสาวถามพร้อมหัวเราะคิกคัก

กันโน้มตัวไปใกล้ ๆ พร้อมยิ้มกว้าง “ขอเป็นรอยยิ้มของพวกเธอก็พอ”

สาว ๆ ต่างหัวเราะเขินจนหน้าแดง แชมป์ที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ห่าง ๆ เริ่มรู้สึกไม่สบายใจในแบบที่เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อน

ในเย็นวันนั้น หลังจากโรงเรียนเลิก กันเดินมาหาแชมป์ที่สนามตะกร้อเหมือนทุกวัน แต่วันนี้บรรยากาศระหว่างพวกเขากลับรู้สึกเงียบงัน

“นายเป็นอะไรหรือเปล่า?” กันถามหลังจากเห็นแชมป์เงียบผิดปกติ

“เปล่า” แชมป์ตอบสั้น ๆ ขณะโยนลูกตะกร้อขึ้นและเตะมันโดยไม่มองหน้าอีกฝ่าย

“นายดูเหมือนจะไม่พอใจอะไรฉันเลยนะช่วงนี้” กันพูดพร้อมเดินเข้าไปใกล้ แต่แชมป์ยังคงนิ่ง

“นายชอบเล่นกับคนอื่นแบบนั้นเหรอ?” แชมป์ถามขึ้นในที่สุด เสียงของเขาเรียบนิ่งแต่แฝงความหนักแน่น

กันเลิกคิ้ว “นายหมายถึงอะไร?”

“เรื่องผู้หญิงพวกนั้น ฉันเห็นนายบอกตกลงกับทุกคน ทั้งที่นายไม่ได้จริงจังอะไรเลย” แชมป์พูดพร้อมหันมามองกันตรง ๆ

กันหัวเราะเบา ๆ “มันก็แค่สนุก ๆ น่ะ ไม่มีอะไรเสียหาย”

“แต่มันไม่แฟร์กับพวกเธอ” แชมป์ตอบทันที น้ำเสียงของเขาเริ่มแฝงไปด้วยความไม่พอใจ

กันชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะยักไหล่ “พวกเธอก็แค่ชอบฉัน ฉันไม่ได้ไปบังคับให้ใครมาสนใจฉันนี่”

คำตอบนั้นทำให้แชมป์นิ่งไป เขาไม่พูดอะไรอีก แต่ในใจกลับรู้สึกหนักอึ้ง

หลายวันหลังจากที่สาว ๆ ในโรงเรียนเข้ามาแสดงความสนใจในตัวกัน กันก็เริ่มตอบตกลงคบกับพวกเธอแบบไม่จริงจัง ในสายตาของกัน มันเป็นเพียงเรื่องสนุกและเป็นเกมที่เขาควบคุมได้เสมอ

เขาเลือกที่จะคบกับเด็กสาวคนหนึ่งในกลุ่มนั้น ซึ่งมักจะอยู่เคียงข้างเขาตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นในโรงอาหาร สนามกีฬา หรือแม้แต่เวลาที่เขาเดินกลับบ้าน

แชมป์มองเห็นทุกอย่างด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งความเจ็บปวด ความสับสน และความโกรธที่ไม่อาจแสดงออกได้ เขาเลือกที่จะไม่พูดอะไร และเริ่มหลีกเลี่ยงที่จะอยู่ใกล้กัน

ในสายตาของคนอื่น กันดูเหมือนผู้ชายที่โชคดี เขามีแฟนสาวที่น่ารักและเป็นที่อิจฉาของคนทั้งโรงเรียน แต่ความจริงแล้ว ทุกอย่างเป็นเพียงภาพลวงตา

“พี่กันคะ พรุ่งนี้เราไปเที่ยวกันไหม?” เด็กสาวถามขณะที่เธอจับแขนกันแน่น

“ได้สิ เดี๋ยวพี่จัดเวลาให้” กันตอบพร้อมรอยยิ้มประจำตัว แต่สายตาของเขากลับมองไปยังสาวอีกคนในกลุ่มเดียวกัน

วันหนึ่งในช่วงพักกลางวัน แชมป์เห็นกันกำลังอยู่กับเด็กสาวอีกคน ทั้งที่เขาควรจะไปทานข้าวกับแฟนสาวของตัวเอง เขาอดไม่ได้ที่จะเข้าไปพูด

“นายทำแบบนี้ไม่รู้สึกผิดเหรอ?” แชมป์ถามเสียงเข้ม

กันเลิกคิ้ว “ทำอะไร?”

“นายกำลังเล่นกับความรู้สึกของพวกเธอ” แชมป์พูดตรง ๆ

กันหัวเราะเบา ๆ “พวกเธอก็รู้ว่าฉันเป็นยังไง และถ้าไม่ชอบใจก็เลิกไปสิ”

แชมป์กัดฟันแน่น “นายไม่คิดเลยเหรอว่ามันจะทำให้คนอื่นเจ็บ?”

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนาย?” คำพูดของกันเหมือนมีคมมีดที่กรีดลงกลางใจของแชมป์

“มันเกี่ยว เพราะฉันไม่อยากเห็นนายเป็นคนแบบนี้” แชมป์พูด น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความจริงจัง

กันเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ “นายนี่แปลกจังนะ สนใจชีวิตฉันทำไมขนาดนั้น?”

หลังจากเวลาผ่านไปไม่นาน กันก็เริ่มเบื่อผู้หญิงคนแรกที่เขาคบ เขาเริ่มหันไปหาคนใหม่โดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกอย่างไร และเมื่อเด็กสาวคนเก่าเริ่มตั้งคำถาม เขาก็พูดตัดบทอย่างไร้เยื่อใย

“เธอทำให้ฉันเบื่อแล้วน่ะ เราเลิกกันเถอะ” กันพูดอย่างเย็นชา

เด็กสาวร้องไห้ด้วยความเสียใจ แต่กันไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง เขาเดินออกไปพร้อมรอยยิ้มที่ดูเหมือนไม่สะทกสะท้าน

แชมป์ที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดจากมุมหนึ่งของสนามกีฬา รู้สึกถึงความโกรธที่พุ่งขึ้นมาอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาไม่เลือกที่จะเงียบอีกต่อไป

“นายมันแย่ที่สุด” แชมป์พูดเสียงดังขณะที่เดินเข้าไปหากัน

กันหันมามองเขา “นี่นายมายุ่งอะไรกับฉันอีก?”

“ฉันยุ่ง เพราะนายทำให้คนอื่นต้องเจ็บปวด!” แชมป์พูดเสียงสั่น น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความผิดหวัง “นายไม่ได้แค่เล่นกับคนอื่น แต่นายกำลังทำลายความรู้สึกของทุกคนรอบตัว”

กันหัวเราะเยาะ “ทำไม? หรือว่านายเองก็เจ็บปวดกับเรื่องนี้?”

“ใช่!” แชมป์ตะโกน “ฉันเจ็บปวดที่เห็นนายทำแบบนี้ เพราะฉันคิดว่านายจะดีกว่านี้...”

คำพูดของแชมป์ทำให้กันนิ่งงันไปชั่วขณะ เขามองแชมป์ด้วยสายตาที่ไม่อาจอ่านความรู้สึกได้

เย็นวันหนึ่งหลังเลิกเรียน กันเดินเข้าไปหาแชมป์ที่สนามตะกร้อ แต่ครั้งนี้บรรยากาศระหว่างพวกเขาหนักอึ้งจนแทบจะหายใจไม่ออก

“แชมป์ นายจะหลบหน้าฉันอีกนานแค่ไหน?” กันถาม น้ำเสียงเริ่มไม่พอใจ

แชมป์วางลูกตะกร้อลงก่อนจะหันมามองเขา “นายมาที่นี่ทำไม?”

“เพราะฉันอยากคุยกับนายให้รู้เรื่อง!” กันพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“คุย? นายอยากคุยเรื่องอะไรล่ะ?” แชมป์ถามกลับ สีหน้าเย็นชาของเขาทำให้กันรู้สึกไม่มั่นใจ

“เรื่องที่นายโกรธฉัน... นายโกรธเรื่องอะไร? เพราะฉันคบกับคนอื่นเหรอ? หรือเพราะอะไร?” กันถามพร้อมกอดอก

“ใช่ ฉันโกรธ” แชมป์ตอบตรง ๆ “แต่สิ่งที่ทำให้ฉันโกรธที่สุด คือการที่นายทำเหมือนไม่มีใครสำคัญสำหรับนายเลยสักคน”

กันชะงักไป “นี่นายกำลังบอกว่าฉันไม่แคร์ใครเลยเหรอ?”

“ใช่!” แชมป์พูดเสียงดัง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเจ็บปวด “นายไม่แคร์ใครเลยจริง ๆ แม้แต่ฉัน... คนที่นายบอกว่าเป็นเพื่อนสนิท”

คำพูดนั้นเหมือนมีดที่กรีดลงกลางใจของกัน เขารู้สึกถึงบางอย่างที่พังทลายลง แต่เขายังไม่ยอมแพ้

“แชมป์... ฉันไม่ได้ตั้งใจให้นายรู้สึกแบบนี้” กันพูดเสียงอ่อนลง

“มันไม่สำคัญอีกแล้ว” แชมป์พูดเสียงนิ่ง สายตาของเขาเต็มไปด้วยความผิดหวัง “จากนี้ไป เราไม่ต้องเป็นเพื่อนกันอีก”

คำพูดนั้นทำให้กันชะงักราวกับถูกตบหน้า เขาพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่แชมป์เดินจากไปโดยไม่หันกลับมา

ในช่วงแรก หลังจากที่แชมป์ตัดความสัมพันธ์กับกัน กันกลับไม่ได้รู้สึกเสียใจมากนัก เขายังคงใช้ชีวิตเหมือนเดิม มีเพื่อน มีผู้หญิงที่เข้าหา และยังคงหัวเราะไปกับเรื่องต่าง ๆ

แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความเงียบงันเริ่มเข้ามาแทนที่ ความรู้สึกที่ขาดบางสิ่งบางอย่างเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ

ทุกครั้งที่เขาเห็นแชมป์เดินผ่านไปโดยไม่มองหน้า หัวใจของเขาก็รู้สึกหน่วงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาเริ่มคิดถึงช่วงเวลาที่พวกเขาเคยหัวเราะและเล่นด้วยกัน

เย็นวันหนึ่ง ขณะที่กันนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ที่พวกเขาเคยใช้เวลาอยู่ด้วยกัน เขาเริ่มรู้สึกชัดเจน

“ฉันคิดถึงนาย...” กันพึมพำกับตัวเอง

หลังจากคิดทบทวนอยู่นาน กันตัดสินใจว่าจะไม่ยอมเสียแชมป์ไป เขาเดินไปหาแชมป์ที่สนามตะกร้อ

“แชมป์ เราคุยกันหน่อยได้ไหม?” กันพูดขึ้น

แชมป์เหลือบมองเขาเพียงแวบเดียวก่อนจะตอบเสียงเย็นชา “ไม่มีอะไรต้องคุย”

“ได้โปรด ฉันรู้ว่าฉันทำผิด และฉันอยากแก้ตัว” กันพูดเสียงจริงจัง

แชมป์หยุดมือที่กำลังโยนลูกตะกร้อ มองกันด้วยสายตาที่เย็นชา “แก้ตัว? นายคิดว่าฉันจะเชื่อนายอีกเหรอ?”

“ฉันรู้ว่าฉันทำให้นายเจ็บ ฉันรู้ว่าฉันมันแย่” กันพูด น้ำเสียงเริ่มสั่น “แต่ได้โปรด... ให้อีกโอกาสฉันเถอะ”

แชมป์นิ่งไป เขามองกันที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชาและความผิดหวัง

“กัน ฉันเคยเชื่อนาย... แต่ตอนนี้ฉันไม่รู้ว่านายพูดจริงหรือแค่เล่น” แชมป์พูดเสียงนิ่ง

“ฉันพูดจริง!” กันตอบเสียงดัง “ฉันรู้ตัวแล้วว่าฉันขาดนายไม่ได้ ฉันสัญญา... ฉันจะเปลี่ยนตัวเอง”

คำพูดของกันทำให้แชมป์ชะงักไปเล็กน้อย แต่เขายังคงรักษาท่าทีเย็นชา “ถ้านายพูดจริง นายต้องพิสูจน์ให้ฉันเห็น ไม่ใช่แค่คำพูด”

ตอนที่ 14: การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง

หลังจากวันนั้น กันเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างจริงจัง เขาหยุดนิสัยเจ้าชู้ เลิกยุ่งกับผู้หญิงหลายคน และตั้งใจที่จะพิสูจน์ให้แชมป์เห็นว่าเขาเปลี่ยนไปแล้ว

กันเริ่มทำสิ่งเล็ก ๆ ที่เคยทำให้แชมป์ยิ้มได้ เขาเอาขนมที่แชมป์ชอบไปวางไว้บนโต๊ะตอนพักกลางวัน โดยไม่บอกว่าเป็นของใคร เขาช่วยเก็บลูกตะกร้อหลังการซ้อมโดยที่ไม่พูดอะไร และเขาเริ่มใช้เวลาอยู่คนเดียว ไม่ออกไปเที่ยวเล่นแบบเดิม

แชมป์สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงนั้น แต่เขายังคงรักษาระยะห่างและไม่ยอมเปิดใจง่าย ๆ

วันหนึ่ง ขณะที่แชมป์กำลังซ้อมตะกร้ออยู่ตามลำพังในสนาม กันเดินเข้ามาหาเขา พร้อมกับถือลูกตะกร้อในมือ

“ฉันขอซ้อมกับนายได้ไหม?” กันถามด้วยสีหน้าจริงจัง

แชมป์ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้า “ได้”

ทั้งสองเริ่มเตะตะกร้อไปมาในความเงียบที่เต็มไปด้วยความรู้สึกอัดอั้น กันพยายามตั้งใจเล่นและไม่พูดอะไรจนกระทั่งเขาหยุดเตะลูกสุดท้าย

“แชมป์...” กันพูดขึ้น น้ำเสียงของเขาอ่อนโยน “ฉันอยากขอโทษนายอีกครั้ง”

แชมป์หันมามองเขาโดยไม่พูดอะไร

“ฉันรู้ว่าคำขอโทษมันอาจไม่พอ แต่ฉันอยากให้นายรู้ว่าฉันกำลังพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเป็นคนที่ดีกว่านี้” กันพูดต่อ สายตาของเขาสื่อถึงความจริงใจ

แชมป์นิ่งไปสักพัก ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง “ฉันเห็นว่านายเปลี่ยนไป... แต่ฉันยังกลัว”

“ฉันเข้าใจ” กันพยักหน้า “ฉันไม่ขอให้นายให้อภัยฉันทันที แต่ฉันจะรอ... รอจนกว่านายจะเชื่อใจฉันอีกครั้ง”

หลายเดือนผ่านไป การกระทำของกันเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ เขาทำทุกอย่างเพื่อพิสูจน์ว่าเขาเปลี่ยนไปจริง ๆ แชมป์เริ่มยอมให้กันเข้ามาในชีวิตอีกครั้งทีละน้อย ทั้งคู่กลับมาคุยกันเหมือนเมื่อก่อน แม้จะยังมีความระมัดระวังอยู่

วันหนึ่งหลังเลิกเรียน กันและแชมป์นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ที่พวกเขาเคยใช้เวลาอยู่ด้วยกัน

“นายรู้ไหม...” แชมป์พูดขึ้นหลังจากเงียบไปนาน “ฉันเคยคิดว่าคงไม่มีทางที่เราจะกลับมาเหมือนเดิมได้”

กันยิ้มบาง ๆ “ฉันเองก็เคยคิดแบบนั้น แต่ฉันไม่ยอมแพ้ เพราะฉันรู้ว่าฉันต้องการนายในชีวิต”

แชมป์มองกัน สายตาของเขาเต็มไปด้วยความอบอุ่นที่เริ่มกลับมา “นายมันดื้อจริง ๆ นะ”

“ก็เพราะฉันไม่อยากเสียคนสำคัญไปอีก” กันพูดพร้อมจับมือของแชมป์ไว้

ครั้งนี้ แชมป์ไม่ได้ดึงมือออก แต่กลับยิ้มบาง ๆ เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน

ในที่สุด ทั้งคู่ก็กลับมาเป็นเพื่อนที่สนิทกันเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้ มันมีบางอย่างที่เปลี่ยนไป พวกเขาเรียนรู้ที่จะใส่ใจความรู้สึกของกันและกันมากขึ้น และช่วยเหลือกันในทุกเรื่อง

กันเลิกนิสัยเจ้าชู้และเริ่มโฟกัสกับสิ่งที่สำคัญจริง ๆ ในชีวิต ส่วนแชมป์เองก็เริ่มเปิดใจและมองกันในมุมใหม่ พวกเขาทั้งสองต่างเติบโตขึ้นจากความผิดพลาดที่ผ่านมา

วันหนึ่ง ขณะที่พวกเขานั่งมองพระอาทิตย์ตกดินด้วยกัน แชมป์พูดขึ้นเบา ๆ

“กัน... ขอบคุณนะที่ไม่ยอมแพ้”

กันหันมามองและยิ้ม “ฉันสัญญา ฉันจะไม่มีวันทำให้นายเสียใจอีก”

ทั้งสองมองหน้ากันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น และในตอนนั้นเอง พวกเขารู้ว่ามิตรภาพที่เคยพังลงได้กลับมาอีกครั้ง พร้อมกับความรู้สึกใหม่ที่ลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิม

หลังจากที่แชมป์และกันกลับมาคุยกันอีกครั้ง ความสัมพันธ์ของพวกเขาค่อยๆ พัฒนาไปอย่างไม่เร่งรีบ ทั้งสองเริ่มเข้าใจกันมากขึ้น และกันเริ่มรู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้น

ในช่วงบ่ายวันหนึ่ง หลังเลิกเรียน ทั้งสองนั่งอยู่ที่มุมหนึ่งของสนาม แชมป์หันไปมองกันและยิ้มบาง ๆ

“กัน... นายเปลี่ยนไปเยอะเลยนะ” แชมป์พูดขึ้นอย่างธรรมดา

กันยิ้มเล็กน้อยก่อนจะตอบ “ก็เพราะรู้สึกว่าตัวเองต้องเปลี่ยนแค่บางอย่างเพื่อทำให้ตัวเองดีขึ้น”

แชมป์พยักหน้า “นายดูมั่นใจขึ้นเยอะเลย”

กันยักไหล่ “ก็คงเพราะฉันเริ่มรู้ว่า... ฉันเป็นแบบนี้ก็ได้ ไม่ต้องทำตามใครหรอก”

แชมป์มองกันอย่างสนใจ “ดีนะ... แล้ว... ตอนนี้นายคิดว่าเราเป็นอะไรกัน?”

กันหัวเราะเบา ๆ “ก็เป็นเพื่อนกันอยู่”

แชมป์ยิ้มและมองไปที่ฟ้า “ฉันดีใจที่เราได้กลับมาเป็นเพื่อนกันอีกครั้ง”

กันยิ้มตอบและพยักหน้า “ฉันก็เหมือนกัน"

เมื่อเวลาผ่านไป แชมป์เริ่มรู้สึกถึงความสำคัญของกันมากขึ้น เขารู้สึกว่าไม่อยากให้แค่ความสัมพันธ์ของพวกเขาเป็นแค่เพื่อนธรรมดา แต่เขาต้องการมากกว่านั้น

ในช่วงหนึ่งที่พวกเขานั่งอยู่ในห้องเรียนหลังเลิกเรียน แชมป์หันไปมองกันด้วยสายตาที่จริงจัง

“กัน... ฉันคิดว่ามันถึงเวลาที่เราควรจะพูดบางอย่างแล้ว” แชมป์พูดเสียงเบา

กันหันไปมองแชมป์และเลิกคิ้ว “พูดอะไร?”

แชมป์ลึกซึ้งขึ้นเล็กน้อย “คือ... ฉันคิดว่าเราไม่ควรจะเป็นแค่เพื่อนกันอีกแล้ว”

กันมองแชมป์ด้วยความสงสัย “หมายความว่ายังไง?”

แชมป์สูดหายใจลึก ๆ แล้วพูดออกไปอย่างมั่นใจ “ฉันอยากให้เราคบกัน... ฉันชอบนาย ไม่ใช่แค่เพื่อน”

กันนิ่งไปสักครู่และมองไปที่แชมป์ เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่แชมป์เป็นคนพูดออกมา แต่แล้วเขาก็ยิ้มออกมาอย่างอบอุ่น

“ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน” กันตอบเสียงเบา “แค่... ไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไงดี”

แชมป์ยิ้มอย่างโล่งใจ “ไม่ต้องรีบหรอก แต่ฉันแค่คิดว่าเราไม่ควรพลาดโอกาสนี้ไป”

กันยิ้มกว้างขึ้น “เอาสิ... ถ้านายมั่นใจ แล้วเราจะเริ่มต้นกันอย่างไร?”

หลังจากที่แชมป์สารภาพความรู้สึกของตัวเอง ทั้งสองเริ่มเปิดใจให้กันมากขึ้น ความสัมพันธ์ของพวกเขาค่อยๆ พัฒนาไปโดยที่ไม่มีความกดดัน แชมป์เริ่มแสดงให้กันเห็นถึงความจริงจังในการคบหากัน

ในวันหนึ่ง ขณะที่ทั้งสองเดินไปที่ร้านกาแฟในโรงเรียน แชมป์หันไปมองกันด้วยสายตาที่อบอุ่น

“กัน... ฉันดีใจนะที่เราได้คบกัน” แชมป์พูดเสียงนุ่ม

กันยิ้มและมองแชมป์ “ฉันก็เหมือนกัน... ทุกอย่างดูดีไปหมดเลย”

แชมป์พยักหน้า “จริงๆ ฉันอยากให้เราได้เป็นแบบนี้ไปนานๆ”

กันหยุดเดินและหันไปมองแชมป์ “นายแน่ใจเหรอว่าเรา... คบกันแล้ว?”

แชมป์ยิ้มกว้าง “แน่ใจสิ... ไม่ต้องรอให้มีคำถามแล้ว เราแค่ต้องอยู่ด้วยกันแบบนี้”

กันยิ้มตอบและเดินต่อไปเคียงข้างแชมป์ “ฉันก็ไม่คิดว่าต้องรอแล้วเหมือนกัน”

ความสัมพันธ์ของแชมป์และกันเริ่มแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาค่อยๆ เข้าใจกันและกันมากขึ้น และเริ่มแสดงความรักออกมาโดยไม่ต้องกังวล

ในวันหนึ่ง ขณะที่ทั้งสองเดินเล่นในสวนสาธารณะ แชมป์จับมือกันไว้และพูดด้วยความมั่นใจ

“กัน... ฉันรู้ว่าเราทั้งสองได้ผ่านอะไรมาเยอะ แต่ตอนนี้ ฉันมั่นใจว่าเราจะไปด้วยกันได้”

กันหันมามองแชมป์ด้วยสายตาที่จริงจัง “ฉันก็มั่นใจเหมือนกัน... เราจะไปข้างหน้าด้วยกัน”

แชมป์ยิ้มและบีบมือกันเบา ๆ “ขอบคุณที่ไว้ใจฉันนะ”

กันยิ้มตอบ “ขอบคุณที่เป็นคนขอคบ... เพราะถ้าไม่ใช่นาย ฉันคงจะไม่ได้เปิดใจให้ใครง่าย ๆ แบบนี้”

 

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!