"นี่คือ ภรรยาของท่านขุนนะ สีเผือกไหว้เค้าสิ"
"เอ่อ...ครับ"
สีเผือกชายหนุ่มวัย 25 ขานรับ
"สวัสดีค่ะ คนนี้คือสีเผือกเหรอคะ ท่านพี่?" จอมขวัญ หญิงสาวอายุราว 23 ปีเอ่ยถามผู้เป็น สามี
"ใช่ คนนี้คือสีเผือกรับหน้าที่ในครัว ต่อจากนี้เขาจะเป็นผู้เตรียมอาหารให้คุณนะ"
ขุน ชัญญ์ มองหน้าสีเผือกก่อนตอบด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยยินดีนัก
"เอาเป็นว่า...ผมไปทำงานต่อก่อนนะครับ"
สีเผือกพูดก่อนเดินหันหลังจากไป
"อะ สี-" ชัญญ์หยุดพูดกระทันหัน
"อะไรหรือคะ ท่านพี่?" คุณหญิงจอมขวัญถาม
"ฮ่า...เปล่าหรอก"
ก่อนพิธีสมรส 16 วัน...
"นี่คุณ ฉันว่าคุณก็รู้นะว่าชัญญ์ไม่ต้องการจะสมรสกับคุณหญิงจอมขวัญ "
เสียงหญิงอายุราว 40 ดังขึ้น
"แล้วจะให้ทำอย่างไรละ ในพินัยกรรมของคุณปู่ก็บอกไว้หนิว่า ลูกชายใครได้สมรสก่อนก็จะได้เรือนใหญ่ไป " พ่อของชัญญ์ตอบ
"แต่พวกเขาไม่ได้รักกัน!" ท่านหญิง พิกุล รีบเถียงผู้เป็นสามี
"อยู่ๆไปก็รักก็ต้องกันอยู่ดี" พ่อขุนตอบด้วยความรำคาญ
"...ค่ะ" ท่านหญิงพิกุลตอบ
"ถึงพูดไป ชายก็เป็นใหญ่ก็ว่าหญิงอยู่ดี นิ่งเสียดีกว่า แค่แต่งเข้ามาเป็นภรรยาเอกได้ก็ดีแล้ว"
ท่านหญิงพิกุลคิดในใจ
ก่อนพิธีสมรส 14 วัน...ณ ห้องครัวใหญ่
"พี่...จะแต่งงานหรือครับ?"
"เจ้า รู้เรื่องนี้ได้อย่างไร"
"คนในครัวใหญ่เขาพูดกันว่าพี่จะแต่งงานกับคุณหญิงจอมขวัญ"
"ใช่...ข้าจะแต่งงานแต่เจ้ายังเป็นที่หนึ่งในใจข้าอยู่เสมอนะสีเผือก"
ชัญญ์รีบจับมือสีเผือกมากุมไว้แน่นเพื่อให้อีกฝ่ายเชื่อใจ
"ข้าจะเชื่อใจท่านพี่ได้อย่างไร"
"ที่ข้าแต่งเพราะข้าไม่สามารถขัดขืนคำสั่งของท่านพ่อได้ ข้าไม่ได้แต่งเพราะความรักแต่เพราะพ่อข้าต้องการจะครองเรือนใหญ่ เจ้าก็รู้ว่าข้าต้องหาหญิงมาแต่งออกเรือน"
"พี่จะรักคุณหญิง จอมขวัญหรือไม่"
"ข้าจะไม่นอกใจนอกกายจากเจ้า ข้าสัญญา"
"ข้าจะเชื่อท่านพี่ ท่าน...จะไม่ผิดคำสัญญาใช่หรือไม่"
"ข้าไม่อาจ"
ชัญญ์พูดพร้อมดึงสีเผือกเข้ามากอด
"ข้าจะไม่ทำให้เจ้าเสียใจ แม้สักวินาทีเดียว"
"ข้าเชื่อท่าน"
สีเผือกเชื่อชัญญ์อย่างที่สุดถึงไม่รู้ว่าคำพูดนั้นมาจากใจจริงรึไม่...
ก่อนพิธีสมรส 10 วัน...ณ ห้องครัวใหญ่
"สีเผือก ถ้าเจ้าจะออกไปข้างนอกฝากเจ้าไปเก็บสายบัวมาให้ข้าหน่อยวันนี้ท่านหญิงพิกุลอยากกินแกงสายบัวนัก" ป้าแช่มตะโกนบอกสีเผือกที่กำลังเดินออกจากห้องครัว
"ได้ครับ" สีเผือกยิ้มรับ
"อืม~ เดือนนี้เป็นฤดูฝนอีกไม่นานฝนคงตกรีบไปเก็บจะดีกว่า" สีเผือกคิดในใจ
ระหว่างนั้นสีเผือกได้ยินเสียงคนหลายคนกำลัง
สนทนากัน พอฟังดีๆจึงรู้ว่าเป็นเพื่อนของชัญญ์
สีเผือกจึงถือวิสาสะเข้าไปแอบฟังอย่างเงียบๆ
?1: "แล้วเจ้าสีเผือกละ"
ชัญญ์: "ข้าไม่ได้คิดอะไรกับมันเกิน'คู่นอน'เลย มันแค่เป็น'ของเล่น'ให้ข้ายามเบื่อก็เท่านั้น"
?2: "งั้นข้าขอต่อได้รึไม่ สีเผือกของเจ้าดูน่าชังนัก"
ชัญญ์: "จะเอาก็เอา ข้ายกให้"
?3: "ฮ่าๆ ง่ายเช่นนี้เชียวหรือ สงสัยเจ้าคงจะไม่ได้คิดอะไรกับมันเลยจริงๆ"
?1: "เจ้าไม่กลัวสีเผือกมาได้ยินรึอย่างไร"
ชัญญ์: "ถ้าได้ยินก็ได้ยินไป ให้มันรู้สถานะตนเองสักบ้าง จะเป็นอะไร"
?1: "คนดีๆอย่างสีเผือกไม่ควรมาอยู่กับเจ้าเลยจริงๆ"
สีเผือกรีบเดินออกมาจากวงสนทนาเพราะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ แต่จะมีที่ใดเล่าที่ทาสอย่างเขาจะไปนั่งร้องไห้อย่างเงียบๆได้นอกจากห้องพักของตนเอง ขณะเดินสีเผือกพึมพัมกับตนเองอยู่บ่อยครั้งจนถึงห้อง
ในห้อง...
"ไม่จริงพี่ชัญญ์ไม่ใช่คนแบบนั้น!"
"ไม่จริงพี่ชัญญ์ไม่ใช่คนแบบนั้น!"
ขณะนี้สีเผือกร้องไห้จนแทบคลั่งไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ตนเองได้ยินมา
"นี่เราถูกหลอกมาตลอดเลยเหรอ? ความรักที่เราได้จากเขามันเป็นกลลวงหรือนี่? แล้วคำพูดหวานหยดย้อยปานน้ำผึ้งนั่นมันอันใดกัน! "
สีเผือกมีคำถามมากมายที่อยากจะถามชัญญ์ แต่บัดนี้แค่เจอหน้าเขาก็ไม่อยากจะเจอ
"สีเผือกนี้เจ้าเป็นอันใด!?" เสียงหญิงสาวอายุราวสีเผือกดังขึ้น
"บุหลัน เจ้ามาทำอันใดที่นี่" สีเผือกพูดพร้อมเช็ดน้ำตา
"ป้าแช่มให้ข้ามาตามเจ้าเห็นว่าเจ้าออกไปนานแล้ว แล้วเจ้ามาร้องไห้อยู่อย่างนี้ได้เยี่ยงไร?"
"ข้า...ข้าว่าข้าถูกพี่ชัญญ์หลอกมาตลอด"
"ไอ้ชัญญ์ งั้นเหรอ! มันกล้ามาทำเพื่อนข้าได้เยี่ยงไรถึงจะเป็นนายก็ไม่ควรมาร้ายจิตใจบ่าวเยี่ยงนี้!"
"เจ้าอย่าเสียงดังไปบุหลัน หากมีคนได้ยินเข้าอาจจะนำไปบอกท่านชายก็เป็นได้ "
"ข้าไม่สน! สีเผือกเจ้าต้องออกจากเรือนหลังนี้ไปกับข้านะ ข้าว่าพวกเราทนกับเรือนหลังนี้มามากพอแล้ว!"
"ได้อย่างไร เป็นเช่นนั้นท่านหญิงพิกุลไม่ยอมแน่"
"งั้นเราก็หนีไปเลยสิ! เจ้าอยากเห็นท่าน- เอ้ย ไอ้ชัญญ์มันแต่งงานหรือ แบบนั้นเจ้าได้เจ็บใจกว่าเดิมแน่!"
"ก็จริง...แล้วเราจะออกไปตอนไหนล่ะ?"
"อืม...ช่วงนี้เป็นหน้าฝนคงออกไม่ได้อีกสักพัก ต้องรออีก 11 วันถึงจะออกไปได้เพราะถ้าออกไปตอนนี้ทางเดินจะลำบาก"
"เอาที่เจ้าว่าละกัน"
"แต่...ชิบหายแล้วไอ้เผือก! นั้นมันวันที่คุณหญิงจอมขวัญจะย้ายมาอยู่บนเรือนมิใช่เหรอ!? "
"อ่า...จริงด้วย"
"พวกเราคงต้องไปทักทายคุณหญิงจอมขวัญก่อน ถึงจะหนีไปได้ ข้าสงสารเจ้านักที่ต้องมาเห็นไอ้ชัญญ์ชาติสุนัขนั้นอยู่กับผู้หญิงคนอื่น!"
แต่ระหว่างที่บุหลันจะได้ด่าขุนชัญญ์ไปมากกว่านี้ พวกเขาไม่รู้เลยว่าได้มีผู้ที่ได้ยินทุกคำพูดอยู่เสียแล้ว...
"อีเฟื้องฟ้าๆ! "
เสียงทาสสาวตะโกนดังลั่นเรือน
"เจ้ามีกระไรรึอีปิ่น?"
"ข้าได้ยินอีบุหลันกับเจ้าสีเผือกมันนินทา
ท่านขุนชัญญ์ล่ะ!"
"ว้าย! จริงรึ ไม่สมควรยิ่งนัก ท่านขุนเขาอุสารูปเลี้ยงมากับมือยังมีหน้าด่าเขาลับหลัง"
"ข้าเห็นด้วย!"
ระหว่างที่กำลังนินทากันอย่างออกรสออกชาติ ท่านขุนชัญญ์ที่เดินผ่านมาพอดีบังเอิญได้ยินเข้า
"อีปิ่น! เมื่อกี้เจ้าว่ากระไรรึ"
"เอ่อ...ท่านขุน"
ทาสสาวทั้งสองรีบนั่งคุกเข่าแล้วมองหน้ากันอย่าง
เลิ่กลักไม่รู้ว่าควรพูดอะไรต่อไป
"ถ้าเจ้าไม่พูดข้าจะควักลูกตาเจ้าเสีย!"
"บอกแล้วเจ้าค่ะๆ...คือว่า ข้าได้ยิน เจ้า สีเผือก กับ บุหลัน กำลังด่าท่านขุนลับหลังเจ้าค่ะ"
"อีบุหลันงั้นรึ?"
"เจ้าค่ะ"
"มันอยู่ที่ใดกัน?"
"ที่เรือนของสีเผือกเจ้าค่ะท่านขุน"
"อืม...ขอบใจเจ้ามาก"
ขุนชัญญ์รีบเดินจากไปปล่อยให้ทาสสาวทั้งสองมองหน้ากันอย่างไรรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
"อีเฟื้อง! ข้าควรทำอย่างไรดี ข้าบอกท่านขุนไปแล้ว แล้วเจ้าสีเผือกกับบุหลันจะโดนโทษกระไรมั่ง!?"
"ข้า...ข้าก็ไม่รู้ คงจะโดนเฆี่ยนละมั้ง"
ทาสสาวทั้งสองนั่งกลุ้มใจ เพราะถึงอย่างไร สีเผือกและ บุหลัน ก็เป็นคนที่ดีมาก มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อคนในเรือนอยู่เสมอ
"สีเผือก!"
ท่านขุนชัญญ์ตะโกนดังลั่นพร้อมเปิดประตูเข้ามา
"พี่- ท่านขุน ท่านเข้ามาทำไม?"
"อ้ะ!...ท่านขุนชัญญ์"
เสียงหนุ่มสาวอุทานเพราะความตกใจก่อนจะลงมานั่งคุกเข่าอย่างสงบเสงี่ยมต่อหน้าท่านขุนชัญญ์
"ข้าได้ยินว่าพวกเจ้ากำลังนินทาข้าลับหลังรึ!"
"ข้า...ข้าไม่อาจหรอกเจ้าค่ะท่านขุน!"
"กล้าโกหกข้ารึ! ข้าเห็นอยู่ซึ่งๆหน้า"
ขณะนี้ท่านขุนโกรธจัด จนกระชากผมของบุหลันขึ้นมา
"บังอาจ! ไอ้หมาย! เอานางไปเฆี่ยนประเดี๋ยวนี้!"
ท่านขุนสั่งลูกน้องของตนเองให้จับตัวบุหลันไว้ก่อนจะเดินเข้าไปหาสีเผือก
"นี่เจ้าได้นินทาข้าด้วยรึไม่?"
สีเผือกยังไม่ทันจะตอบเสียงของบุหลันดังขึ้นมาเพราะเป็นห่วงเพื่อนของตนเอง
"ท่านจะทำอะไรเขา!"
"นี่เจ้ายังกล้ามีหน้ามาพูดกับข้าอีกรึ?"
"ก็เออสิ! อีท่านขุนทุเรศ ข้ายังไม่ทันจะพูดท่านก็มาใสความข้า แล้วนี่ท่านจะทำอะไรกับเพื่อนข้าอีก!"
ผัวะ!
เสียงฝ่ามือกระทบกับเนื้ออย่างรุนแรง ทำให้ภายในห้องเงียบไปชั่วขณะ ไม่มีใครกล้าทำอะไร ไม่มีใครกล้าพูดอะไร
"เหอะ ใครไปขุดความกล้าของเจ้ามาขนาดนี้กัน?"
บุหลันที่โดนตบจนเลือดกลบปากเอาแต่นิ่ง ก่อนหันมาพูดกับคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า
"ท่านช่างทุเรศนัก...เสียแรงที่เพื่อนข้าหลงไปรักท่าน!"
ท่านขุนนิ่งไปชั่วขณะหนึ่ง ก่อนหันไปมองหน้า
สีเผือก เพราะไม่มีผู้ใดรู้ว่าท่านขุนชัญญ์และสีเผือกแอบลอบรักกัน
"เจ้าว่ากระไรนะ? หาว่าข้ารักกับเพศรึ กล้ามาใส่ความข้าได้อย่างไร!?"
"ไอ้หมายลากนางไปเฆี่ยน 40 ครั้ง!"
"ส่วนสีเผือก...เจ้า...เจ้ากล้ามาก ลากสีเผือกไปเฆี่ยน 20 ครั้ง!"
ขุนขัญญ์พูดพร้อมกัดฟันแล้วเดินจากไปโดยไม่หันหลังกลับมาอีก ทิ้งไว้แต่สีเผือกที่ยืนอยู่ในห้อง สีเผือกทรุดลงกับพื้นทันที ขณะนี้สีเผือกแทบใจสลาย คนที่ตนเองรักมาหักหลังอย่างนี้ได้เยี่ยงไร?
แถมเพื่อนที่โตมาด้วยกันในตอนเด็กต้องถูกลงโทษเพราะตนเองอีก
สีเผือกนั่งคิดโทษตนเองอยู่นาน
จนท้องฟ้าจากสีแสดในยามเย็นก็เปลี่ยนเป็นสีฟ้าหม่นบอกเวลามืดค่ำ...
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!