เเสงภายใต้ตะเกียงส่องกระทบ ม่านสีขาวบางอย่างเเผ่วเบาในความมืด สะท้อนใบหน้าที่งดงามเเละศักดิ์สิทธ์ราวเทพพระเจ้า กู่ตู่เหยากวงยกมือปิดปากไอสองสามครั้งเเล้วกระอักเลือดออกมา ใบหน้าที่ซีดจางอยู่เเล้วของนางก็จางลงไปอีก ราวกับจะเเหลกสลายไปได้ทุกเมื่อ
เธอมีใบหน้าที่สวยงามราวอมตะ ศักดิ์สิทธ์เเละไม่อาจลบหลูได้ ท่ามกลางม่านสีขาวที่พันกัน ภายใต้เเสงตะเกียง ดูชั่วร้ายเล็กน้อย
" หยุดบรรยายได้เเล้ว เเค่ไอก็ต้องบรรยายด้วยหรอ? " กู่ตู่เหยากวงพูดไม่ออก อะไรคือชั่วร้าย นางรู้ดีว่านางสวย เเต่ไม่รู้ทำไมระบบชอบบรรยายฉากต่างๆจนนางอดไม่ได้ที่จะเขิลอาย เมื่อใดที่ได้ยินนางก็เผลอทำท่าทางตามคำบรรยายโดยไม่รู้ตัว รู้สึกราวกับว่าตัวนางเป็นอมตะ
กู่ตู่เหยากวง " .... "
จริงๆเเล้วนางไม่ได้มาจากโลกนี้ ฮาฮ่า ใช้เเล้วมันเป็นอย่างที่ทุกคนคิด เดินทางข้ามเวลา? "..." นางไม่เคยคาดคิดเเละคิดคาด เเต่มันก็เป็นไปเเล้วอะ
"มันเป็นไปไม่ได้ !!!"
เเละร่างที่นางสวมอยู่ ก็คือนางร้ายในนิยายเรื่อง เดินทางข้ามเวลาผู้เป็นอมตะตกหลุมรักฉัน
เป็นนวนิยายที่นางเขียนเอง เนื่อเรื่องที่เต็มไปด้วยหลุมเเละไม่เคยกลบ โลกที่เต็มไปด้วยเวทมนท์เเละอมตะ มีความลึกลับอยู่ทั่วทุกที่ โดยเนื้อเรื่องจะกล่าวถึง ตัวเอกหญิง ไป๋มู่จือ เกิดใหม่ในร่างของคุณหนูใหญ่เย่ชิงซีสาวงามอันดับหนึ่งเเห่งตระกูลเย่
เเต่นางกลับเป็นขยะที่ไม่มีรากจิตวิญญาณ เจ้าของร่างเดิมใช้ชีวิตอย่างลำบากจนกระทั่งเจ้าชายที่นางรักมายุติการหมั้นหมาย นางจึงกระโดดลงไปในน้ำ
กระทั่งสิ้นใจตายด้วยความสิ้นหวัง เเละไป๋มู่จือนักบุญการเเพทย์จาก ศตวรรษที่21 ก็ตื่นขึ้นมาในร่างของเย่ชิงซี เพื่อทวงทุกอย่างที่เป็นของนางเเละให้ทุกคนที่ทำร้ายนางต้องชดใช้!
' ต่อจากนี้ข้าคือเย่ชิงซี ' ด้วยความช่วยเหลือของนิ้วทอง เย่ชิงซีได้สร้างรากทางจิตวิญญาณขึ้นมาใหม่ เป็นรากไฟเเห่ง สวรรค์ ทำสัญญากับสัตว์ศักดิ์สิทธ์ นางจึงเริ่มต้นเส้นทางการโต้กลับเเละโกงไปตลอดทาง จนนางได้มาพบกับ
นางฟ้าตงเหยาสาวงามอันดับหนึ่ง เเห่งสำนักชิงหยุนเหมิน ผู้ถือกำเนิดมาพร้อมกระดูกหยกน้ำเเข็งซวนหยิน นางเป็นหนึ่งในคู่เเข่งความรักของนางเอก
ที่เกือบฆ่านางเอกได้หลายครั้ง เเละนางเอกเเทบไม่อาจสู้กลับได้ เเต่ในท้ายที่สุดนางก็ตายภายใต้เขตต้องห้ามเพื่อปกป้องพระเอก หนานกงหยู จากผู้เป็นอมตะนับ10องค์
ถึง เเม้ว่านางจะตายไปในท้ายที่สุดเเละไม่อาจเป็ยภัยคุกคามนางเอกอีกต่อไป เเต่ในทางกลับกันนางสามารถทำให้หัวใจพระเอกสั่นไหวได้ชั่วขณะหนึ่ง ทำให้เขาไม่อาจลืมนางไปได้ชั่วชีวิต เขาทำได้เพียงฝังเรื่องราวของนางลงไปในส่วนลึกของความทรงจำ
ว่าครั้งหนึ่งเคยมีคนผู้หนึ่งที่ทำทุกอย่างถึงขั้นยอมตายเพื่อเขา เเลกกับการเป็นที่จดจำของเขาตลอดไปเเม้ไม่ได้หัวใจของเขาก็ตาม
ใช่เเละนางก็คือนางฟ้าตงเหยา หรือชื่อที่เเท้จริงของนาง กู่ตู่เหยากวง คุณหนูใหญ่เเห่งตระกูลกู่ตู่ เป็นหนึ่งในมหาอำนาจลึกลับที่สืบทอดมาตั้งเเต่สมัยโบราณ
เเม้ มรดกที่เเท้จริงจะถูกตัดขาด ตระกูลกู่ตู่ก็ยังคงเป็นมหาอำนาจโบราณอันยิ่งใหญ่เเละไม่อาจล่วงเกินได ถ้าหากเชื้อสายโบราณของนางบรรลุความเป็นอมตะ กู่ตู่เหยากวงก็จะสามารถปลุกความทรงจำทางสายเลือดที่เเท้จริงของตระกูลกู่ตู่ขึ้นมาได้
จะบอกว่านางสวมร่างก็ไม่ถูก เพราะนางเกิดเป็นกู่ตู่เหยากวง ทั้งร่างกายเเละจิตวิญญาณล้วนเป็นนางทั้งสิ้น ตอนเเรกนางไม่เคยคิดว่านี้คือนิยายที่นางเเต่งจนกระทั่ง
เมื่ออายุ 10ปี นางเข้าร่วมพิธีปรุกรากจิตวิญญาณนางเเละได้ปลุกกระดูกหยกน้ำเเข็งซวนหยินขึ้นมาตามเนื้อเรื่อง
โดยไม่คาดคิด ร่างกายของนางพัฒนาเป็นร่างกายศักดิ์สิทธิ์ซวนหยินโบราณ ล่วงหน้า
เพราะมรดกที่เเท้จริงถูกตัดขาด พลังจิตวิญญาญที่เพิ่มขึ้นกระทันหันของนางเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนถึงระดับจักรพรรดิ์ขั้นสูงสุดในพริบตาเเละไม่มีท่าทีว่าจะหยุด
ในทางกลับกัน นางไม่อาจควบเเน่นเเก่นเเท้เเห่งจิตวิญญาญเเละก้าวสู่ขั้นราชันย์ได้ พลังศักดิ์สิทธิ์ที่มากเกินไปกัดกร่อนร่างกายของนาง ราวกับถูกเข็มน้ำเเข็งหมืนปีนับไม่ถ้วนทิ่มเเทงทั่วร่างกาย ทำให้นางไม่อาจควบเเน่นเเก่นเเท้จิตวิญญาณเเล้วก้าวสู่ขั้นราชันย์ได้ นางจึงต้องเผชิญกับความทุกทรมานอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
เส้นผมสีดำ เเปรเเปลี่ยนเป็นสีขาวราวหิมะเเม้กระทั่งคิ้วเเละขนตา สัญญลักษณ์แห่งกฎสีทองปรากฎขึ้นระหว่างคิ้ว
ในดินเเดนที่ถูกตัดขาด เเละมีเพียงการฝึกวิชาอมตะปิงซวนจื่อที่หายสาบสูญ ไปในสมัยโบราณถึงจะทรงพลังพอที่จะสามารถขวบเเน่นเเก่นเเท้พลังต้นกำเนิดได้ของร่างกายศักดิ์สิทธิ์ซวนหยินโบราณ
เเละกาวสู้ขั้นราชันย์ได้สำเร็จ เเละอีกวิธีหนึ่งที่เป็นไปไม่ได้เช่นกันนั้นก็คือการ ดูดซับเเก่นเเท้จิตวิญาณอมตะ น่าเสียดายที่ทวีปนี้ถูกตัดขาดเเละไม่มีอมตะที่เเท้จริงอีกต่อไป
ผู้คนในทวีปจิ่วเทียนล้วนทราบกันดีว่าผู้ที่สามารถบันลุถึงขั้นจักรพรรดิคือจุดสูงสุดเเละไม่อาจไปต่อได้ทำได้เพียงมีอายุไขเพียงหนึ่งหมื่นปีเท่านั้น เเต่ในตระกูลโบราณล้วนทราบกันดีว่าต่อจากระดับจักรพรรดิยังมีระดับที่สูงกว่าคือ ขั้นราชันย์ ขั้นวิญญาญสวรรค์ เเละ ผู้เป็นอมตะ
ในฐานะผู้เเต่งนิยายเรื่องนี้ กู่ตู่เหยากวงรู้ดีว่าใครคือผู้เป็นอมตะที่สามารถช่วยนางควบเเน่นเเก่นเเท้อมตะ เเละอาจช่วยนางได้ นั่น ก็คือพระเอกหนานกงหยู ในนิยายเนื้อเรื่องหลักหนานกงหยู คือจักรพรรดิ์อมตะที่ตกลงมาสู่โลก เเละอีกผู้หนึ่งก็คือ เสินหลางกวน ศัตรูคู่อาฆาตของพระเอก เทพอมตะผู้เต็มไปด้วยความชั่วร้าย
กู่ตู่เหยากวงพยายามควบคุมพลังทางจิตวิญญาณอย่างสุดกำลังขนะคิดเเละอดไม่ได้ที่จะพึมพำ " ยุ่งยาก " ไม่ใช่ว่ามันเป็นไปไม่ใด้ที่จะเข้าใกล้พระเอกหรือบอสจอมวายร้าย
เเต่ ในฐานะผู้เขียนนิยายเรื่องนี้ นางรู้ดีว่าเรื่องราวมันไม่ง่ายเช่นนั้น เพราะเนื้อหาในนิยายมันเป็นเเค่ส่วนเล็กๆเท่านั้น ในฐานะนักเดินทางข้ามเวลานางก็มีนิ้วทองเช่นกัน
นางมีโลกสมุดเเห่งความทรงจำที่วุ่นวาย มันเก็บบันทึกความคิดเเละความทรงของนาง รวมถึงเนื้อเรื่องต่างๆในนิยาย เเละรวมนิยายหลายๆเรื่องที่นางเเต่งเเละอ่าน เเละจินตนาการต่างๆในความคิดของนางก็เเยกอยู่ในหนังสือเหล่านั้น
มันยังมีเเผนมากมายที่นางไม่เค่ยเขียนลงไปในนิยาย เเละเเค่คิดไว้ในหัว ทำให้นางรู้ว่าโลกนี้มันไม่ง่ายอย่างที่คิดถ้าคนเหล่านั่นสั่งเกตุเห็นนางละก็ นางก็คงจะตายโดยไม่รู้ตัว กู่ตู่เหยากวงขมวดคิ้วด้วยความเจ็บปวดความหนาวเย็นเเผ่ออกมาจากกระดูกจมลงทั่วร่างกาย ของนาง
พลังทางจิตวิญญาณที่มากเกินไม่อาจทะลวงผ่านได้สะสมมากยิ่งขึ้นในร่างของนาง
เเค่เพียงพลังที่เล็ดรอดออกมาก็ทำให้อากาศเเข็งตัวเเละกลายเป็นน้ำเเข็ง โลหิตสีเเดงไหลลงที่มุมปาก ร่างกายของนางเต็มไปด้วยความเจ็บปวด รู้สึกชาจนนางไม่อาจขยับมือได้ ราวกับถูกเเช้เเข็งในน้ำเเข็งมานับหมื่นปี
[ ติ๊ง! ระบบร่างโคลนอมตะเปิดใช้งาน ]
[ นับถ่อยหลังการเข้าสู่ระบบ 5 ปี ]
" ระบบ " กู่ตู่เหยากวงส่งเสียงผ่านริมฝีปากที่ไม่อาจขยับได้ ดวงตาของนางก็มืด นางล้มลงในอ้อมเเขนของกู่ตู่หยวนด้วยใบหน้ซีดเซียว "เหยาเอ๋อ " กู่ตู่หยวนพูดอย่างกังวล รอบข้างผู้อาวุโสที่กำลังตื่นเต้น กับรากจิตวิญญาณน้ำเเข็งซวนหยิน ต่างตกตะลึงเเทบไม่อาจรักษาสติไว้ได้ จักรพรรดิ์ อายุ10ปี!!
เสียงเย็นชาดังขึ้นจากเเท่นบันลังด้านบน
" จากนี้ไปใครที่กล้าเผยเเพร่เรื่องราวออกไปข้างนอก ตาย! " กู่ตู่ซิงเฉินสะบัดมือไปด้านหลัง ด้วยใบหน้าเย็นชา เขามีผมสีดำยาวสามพันเส้นปลิวไปด้านหลังสวมมงกุฎหยก ผ้าคลุมสีขาวกระพือไปตามลม เสียงที่เย็นชาของเขาดังขึ้นในหัวของสาวกเเละเหล่าผู้อาวุโสทุกคน
ทำให้เหล่าสาวกเเละผู้อาวุโสรู้สึกหนาวสั่นราวกับว่าวิญญาญจะถูกบดขยี้ไปได้ทุกเมื่อ กู่ตู่ซิงเฉินเหลือบมองกู่ตู่เหยากวงในอ้อมเเขนกู่ตูหยวน สะบัดเเขนเสื้อร่างของทั้งสามก็หายไป
ปรากฏตัวในส่วนลึกสุดของตระกูลกู่ตู่ เขตหวงห้ามเยือกเเข็ง สถานที่ที่สัตว์ประหลาดเฒ่าอายุนับหมื่นปี คือบรรพบุรุษเเห่งตระกูลกู่ตู่
ภายในเขตหวงห้ามเต็มไปด้วยความหนาวเย็น เต็มไปด้วยต้นไม้สีขาว คริสตัลน้ำเเข็งกระจัดกระจายบ้างลอยบนอากาศ บ้างวางอยู่บนพื้น เปล่งกลิ่นอายที่หนาวเย็นจนอากาศความเเน่นเป็นน้ำเเข็งจนเเม้เเต่ยอดฝีมือขั้นราชาก็อาจเเข็งตายได้
ในส่วนลึกของเขตหวงห้าม
ชายหนุ่มอายุราว20ปี เอนตัวบนตั่งหยกน้ำเเข็ง เส้นผมสีขาวราวหิมะพระองค์มีใบหน้าที่อ่อนโยนดั่งหยก ในอาภรณ์สีขาวคลุมทับด้วยผ้าคลุมสีดำ ราวกับอมตะที่ตกผู้สู่โลก
บนโต๊ะหมากล้อมขยับอย่างเเผ่วเบาบนกระดานหมาก โดย ชายหนุ่มอีกคน เขามีเส่นผมสีดำสามพันเส้นยาวระพื้นในอาภรณ์สีดำ ใบหน้าหล่อเหลาของเขาเรียบเฉยปิดทับด้วยหน้ากากครึ่งซีก
" กู่ตู่ซิงเฉินทำความเคารพบรรพบุรุษปิงหยิน เเละบรรพบุรุษหยุนอิง" กู่ตู่เฉินก้มตัวลงคารวะ ชายหนุ่มทั้งสองอย่างเข้มครึมโดยมีกู่ตู่หยวนทำตามด้านหลัง โดยยังคงอุ้มกู่ตู่เหยากวงไว้ในอ้อมเเขน
ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขาคือ บรรพบุรุษปิงหยินเเละชายหนุ่มที่เล่นหมากรุกคือบรรพบุรุษหยุนอิง
ชายหนุ่มทั่งสองคือยอดฝีมือขั้นวิญญาณสรรค์ที่มีชีวิตอยู่มานับหมื่นปี ในตระกูลกู่ตู่ เป็นรากฐานที่ลึกที่สุดในตระกูลกู่ตู่ โดยที่เท้าข้างหนึ่งของพระองค์ ทรงเก้าสู่ขั่นอมตะ
" ไม่ต้องมีมารยาท "
กู่ตู่ปิงหยินพูดด้วยเสียงอ่อนโยน สบัดมือเเล้วลุกขึ้นนั่งตัวตรง
ร่างของกู่ตู่เหยากวงลอยขึ้นขากอ้อมเเขนของกู่ตู่หยวน มาที่ตั้งน้ำเเข็ง อย่างนุ่นนวน
กู่ตู่เหยากวงอายุราว10 ปี ใบหน้ากลมผิวขาวซีดราวกับศพเย็นๆ เส้นผมสีขาวเงินของนางกระจัดกระจาย โดยมีสัญลักษณ์กฎสีทองระหว่างคิ้ว มีเลือดสีเเดงไหลที่มุมปากตาเเละหู ราวกับตุ๊กตานางฟ้าตัวน้อยที่เเตกหัก
กู่ตู่หยินขมวดคิ้วกล่าวด้วยเสียงเเผ่วเบา " ร่างกายศักดิ์สิทธิ์ซวนหยินโบราณ "
"ขอ บรรพบุรุษโปรดให้ความกระจ่าง เเก่ซิงเฉิน" กู่ตู่ซิงเฉินตกตะลึง เขาไม่เคยได้ยินเกี่ยวร่างกายศักดิ์สิทธ์นี้ จงอดไม่ได้ที่กล่าวถาม
บรรพบุรุษปิงหยินชะงัก เเล้วกล่าวช้าๆ" ผู้ที่ปลุกร่างกายศักดิ์สิทธิ์ซวนหยินโบราณจะเลื่อนขั้นเป็นระดับอมตะโดยตรง กล่าวอีกอย่างก็คือ "
" อมตะโดยกำเนิด "ว่ากันว่าในอดีตผู้ก่อตั้งตระกูลกู่ตู่คือเทพมังกรซวนหยิน อสูรศักดิ์สิทธิ์จากที่ถือกำเนิดในเขตต้องห้ามลึกลับเยือกเเข็ง
นั่นหมายความว่านางเป็นเชื้อสายหลักตระกูลกู่ตู่ ส่วนร่างศักดิ์สิทธ์ซวนหยินโบราณ
เป็นร่างกายโบราณที่เกิดจากสายเลือดที่หลอมรวมกันของมังกรซวนหยินเเละเทพโบราณ "
" นับตั้งเเต่มรดกที่เเท้จริงถูกตัดขาดเเละสายเลือดตระกูลกู่ตู่ก็เจือจางลงไปเรื่อยๆ เพราะไม่อาจปลุกสายเลือดที่เเท้จริงได้ "
" เเต่นี่เป็นปัญหาเพราะ พลังของร่างกายศักดิ์สิทธิ์ซวนหยินโบราณเเข็งเเกร่งเกินไปเเละมีเพียงการฝึกวิชาอมตะปิงซวนจื่อ
ที่สืบทอดในสมัยโบราณของตระกูลกู่ตู่ถึงจะทรงพลังพอที่จะสามารถขวบเเน่นเเก่นเเท้พลังต้นกำเนิดของร่างกายศักดิ์สิทธิ์ซวนหยินโบราณอมตะได้ เเละอีกวิธีหนึ่งคือดูดซับพลังอมตะ "
" น่าเสียดายที่พลังอมตะถูกตัดขาด พวกเราทำได้เพียงผนึกพลังของนางของไว้ นิเช่นนั้นนางจะต้องทนทุกทรมานจากพลังทางจิตวิญญาณ เช่นนี้กระทั่ง "
" หลับไหลไปนับหมืนปีไม่ถ่วนเเล้วตื่นขึ้นกลายเป็นเครื่องจักรสังหารที่ไร้อารมณ์ ไม่ก็ทนไม่ไหว ระเบิด " บรรพบุรุษปิงหยินยิ้มมุมปากเล็กน้อย " ตาย? "
กู่ตู่ซิงเฉินเเละกู่ตู่หยวนตกตะลึง รู้สึกหนาวสั่น ทั่งสองรีบพูดอย่างกังวล " บรรพบุรุษโปรดช่วยเหยาเอ๋อด้วย "
"นั่นเป็นเรื่องที่เเน่นอน "
บรรพบุรุษหยุนอิงปรากฎตัวด้านของบรรพบุรุษปิงหยิน ทั้งสองพยักหน้าให้กัน
นิ้วมือราวกับหยกขยับอย่างรวดเร็วด้วยพลังจิตวิญญาณอันทรงพลัง สัญญลักษณ์กฎลึกลับนับไม่ถ้วนของทั่งสองล้อมรอบร่างของกู่ตู่เหยากวงผสานรวมเข้ากับร่างของนาง กระทั่งร่างกายของนางไร้พลังทางจิตญาณ
บรรพบุรุษหยุนอิงขยับนิ้วใต้เเขนเสื้อ เม็ดโอสถสีทอง ก็ล่องลอยเข้าหาปากของกู่ตู่เหยากวง ร่างกายที่เเทบจะพังทลายของนางก็ดีขึ้นอย่างรวดเร็วตาเปล่า
ขนตาภายใต้ดวงตาที่ปิดสนิทสั่นเทา ขยับเปิดขึ้นอย่างช้าๆ เเม้ความเจ็บปวดทั่วร่างจะยังอยู่ เเต่ยางก็รู้สึกดีขึ้นอย่างมากไม่ทรมานเหมือนตายอีดต่อไป ใบหน้าที่กลมเเละหน้ารักของนางหลั่งน้ำทันทีเมื่อพบเข้ากับกู่ตู่ซิงเฉิน
" พ่อ" เสียงน้ำนมดูเเหบเเห้งเเละเจ็บปวดดังขึ้นทันที่." พ่อ เหยาเอ๋อเจ็บ "
" เหยาเอ๋อไม่ต้องกลัวพ่ออยู่นี่ " กู่ตู่ซิงเฉินพูดด้วยความรัก ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด โดยไม่คาดคิดเมื่ออายุยังน้อย ลูกสาวตัวน้อยของเขาก็เผชิญความเจ็บปวดราวกับตายทั่งเป็นโดยที่เขาไม่อาจช่วยสิ่งใดได้
บรรพบุรุษปิงหยินเหลือบมองทั้งสอง พูดขึ้นอย่างเเผ่วเบา " ผนึกนี้อยู่ได้เพียงหนึ่งปีเท่านั้น ทุกหนึ่งปีที่ผนึกกำลังจะคลายให้มาที่นี้อีกครั้ง "
ท้ายบท
ยังไม่เเก้คำผิด
ผ้าม่านสีขาวปลิวอย่างเเผ่วเบา กู่ตู่เหยากวงพูดไม่ออกกับระบบ นับตั้งเเต่ตอนนั่นก็ผ่านมา 5 ปีเเล้วตั้งเเต่ระบบปรากฎตัวขึ้น
มันก็ไม่มีประโยชน์ อะไรเลยนอกจากพูดคุยหรือ หรือพรรณาถึงความงดงามเละศักดิ์สิทธิ์ของนาง
เเละในที่สุด 5ปี เเห่งการนับถอยหลังของระบบก็มาถึง กู่ตู่เหยากวงเอนกายบนเตียง ทั้งตำหนังของนางทำจากหยกหลิวหลี ที่เเกะสลักอย่างงดงาม
เส้นผมสีดำสามพันเส้นราวกับขนอีกา เเผ่ขยายทั่วเตียง นางสวม อาภรณ์สีขาว บริสุทธิ์ ผิวสีขาวซีดราวหิมะ ใบหน้าครึ่งซีก สะท้อนเเสงสีทอง ของไฟใต้ตะเกียงราวกับรูปปั้นเทพอมตะผู้ตกสู่โลก รอคอยการนับถ่อยหลังของระบบอย่างเงียบๆ
[ ติ๊ง! ระบบร่างโคลนอมตะเปิดใช้งาน ]
[ ร่างโคลนตัวเเรกจะเชื่อมต่อกันกับร่างหลักโดยสมบูรณ์ ]
[ การกลับชาติมาเกิดของร่างโคลน ]
[ โปรดเลือกพรสวรรค์ ต่อไปนี้ 3 ตัวเลือก ]
[1. คุณเกิดมาเป็นขยะเเละเมื่อถูกถอนหมั้นสายฟ้าก็ฟาดลงมา คุณตบหน้าทุกคนเเละกลายเป็นอัจฉริยะที่ไม่ใครเทียบได้]
[2.กระแสเศษไม้ (อย่ารังแกเด็กจนจน อย่ารังแกวัยกลางคนว่าจน อย่ารังแกคนแก่จนจน คนตายสำคัญที่สุด) ]
[3.การควบคุมเท้า (เสียงฟู่)]
[4. ของขวัญจากปรมาจารย์ลัทธิเต๋า (มีโอกาสได้รับไอเทมพิเศษ)]
[5. บุตรแห่งโชคชะตา (คุณต้องเป็นผู้ชาย) ]
[ 6.พรสวรรค์โดยกำเนิด ]
[ 7.คุณเกิดใน เเดนลับที่เต็มไปด้วยอมตะ ( โหมดฮาร์ดคอร์]
[ 8. พระเจ้ากำลังมา ( อย่าเชื่อทุกคนผายลม )]
[9. รุ่นที่สองที่เป็นลบ (สืบทอด IOU ที่มีน้ำใจ)]
[10 (อาวุธ "พิษ" ไม่สามารถสร้างความเสียหายร้ายแรงให้กับคุณได้)]
[กรุณาเลือก! - ]
" เชี้ยไรวะเนี่ย "
ตัวเลือกที่ 1 ถูกนางละเลย นางไม่อยากเเกล้งตบหน้าเเละถูกดูถูกไปตลอดทาง
ตัวเลือกที่สองนางถึงกับพูดไม่ออก " ..."เออข้าม"
นางไม่ค่อยเข้าใจตัวเลือกที่ 3 เช่นกันเเละขี้เกียจค้นหาในความทรงจำ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย ให้ข้ามไป
ตัวเลือกที่ 4 เหยากวงครุ่นคิด
ของขวัญจากผู้รู้แจ้ง คนที่เรียกได้ว่าเป็นปรมาจารย์ลัทธิเต๋าจะต้องเป็นผู้ฝึกฝน อมตะหรือเเม้เเต่สูงกว่านั้น
ข้อ5ข้ามไปเถอะเเม้นางจะอยากลองเป็นผู้ชายหล่อเเต่ เก็บไว้ก่อนอื่น
เมื่อมองไปที่ข้อ6 ดวงตาของนางก็อดไม่ได้ที่จะเป็นประกาย "เก็บไว้ก่อน "
กู่ตู่เหยากวงพิจารณา 4 ข้อสุท้าย อย่างถี่ถ้วน นางเพิกเฉยต่อ ข้อ8เเละ9 โดยตรง ".." ใครเป็นคนใส่ตัวเลือก นางเเค่หวังว่าสักวันจะมีโอกาสได้กระโดดถีบคนผู้นั้น
นางคิดอย่างลึกซึ้ง ในท้ายที่สุดก็เลือก ข้อ6ข้อ7ข้อ10 อย่างเด็ดขาด
[คุณเลือกพรสวรรค์ 6 พรสวรรค์ 7 และพรสวรรค์ 10 สุ่มสร้างคุณลักษณะส่วนบุคคลของคุณ...]
[ ชื่อ : กู่ตู่เหยากวง ]
[ เผ่าพันธ์ : มังกรซวนหยิน ]
[ โชคลาภ : 9 ]
[ ชื่อเสียง : 10 ]
[ร่างกวย : 20 ]
[ 7.คุณเกิดใน เเดนลับที่เต็มไปด้วยอมตะ ( โหมดฮาร์ดคอร์] ความสามารถพิเศษ:6.พรสวรรค์โดยกำเนิด 10 (อาวุธ "พิษ" ไม่สามารถสร้างความเสียหายร้ายแรงให้กับคุณได้)] ]
[นับถอยหลัง: 10, 9, 8]
[ นับถอยหลังศูนย์]
จิตสำนึกของกู่ตู่เหยากวงค่อยๆ ถอนตัวออกจากร่างของนาง
กู่ตู่เหยากวงลืมตาขึ้นมาด้วยความงุนงง ทุกสิ่งรอด้านมืดมิดในรอยเเยกด้านบนเเสงสีขาวสาดสองเข้ามาราวกับเเสง เสียงเเตกดังขึ้น ไขใบใหญ่สีขาวเเตกออกจนหมด
เผยให้เห็นงูตัวน้อยสีขาวบริสุทธิ ถ้ามองดีๆจะเห็นขาเล็กๆเเละเขาเล็กๆสองข้างบนหัว
นี่คือร่างที่สองของ กู่ตู่เหยากวง ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นร่างโคลนซึ่งเป็นสัตว์ประหลาด
ร่างหลักของกู่ตู่เหยากวงและร่างที่สองมีจิตสำนึกเดียวกัน ร่างหลักอยู่ในตระกูลกู่ตู่ ในขณะที่ร่างโคลนมังกรซวนหยินอยู่ในพื้นที่ลึกลับที่ไม่รู้จัก
กู่ตู่เหยากวงคิดอย่างเงียบๆ' ว้าว!! สารฝันอยากเป็นมังกร ' ถ้าตามนิยายหลายๆเรื่องที่นางอ่านส่วนใหญ่มังกรที่เกิดมาจะกินเปลือกใข่ของตัวเอง ในถานะสัตว์ศักดิ์สิทธิ์สิ่งเหล่านี้ต้องมีค่าไม่มากก็น้อย
มังกรน้อยมองเปลือกใข่ด้วยดวงตากลมโตรู้สึกหิวขึ้นมาหน่อยๆ นางก็ไม่ลังเลที่จะกินเปลือกใข่
ในพริบตาเปลือกใข่สีขาวขนาดใหญ่ก็หายไปกู่ตู่เหยากวงรู้สึกง่วงนอนเเละไม่อาจต้านทานได้ นางต้องหลับเพื่อย่อยพลัง ความทรงจำมากมายปรากฎขึ้นในหัวของนาง นางจึงหลับลึกทันทีโดยไม่คำนึงถึงเวลา
500ร้อยปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว จิตสำนึกที่จมอยู่กับความทรงจำของนางก็หยุดนิ่งทันที และนางก็ไม่สามารถแม้แต่จะคิดได้
กู่ตู่เหยากวงลืมตาขึ้นมา เป็นเวลา500ร้อยปีเเล้วที่นางซึมซับความทรงจำทางสายเลือดของมังกรซวนหยิน
ทันใดนั้นเสียงที่เป็นกังวลก็ดังขึ้นจากด้านนอก " คุณหนูใหญ่ "
เมื่อ กู่ตู่เหยากวงลืมตาขึ้น นางก็ได้ยินเสียงร้องไห้ดังออกมาจากหูของนาง พวกเขามาจาก กู่ตู่ซังยี่และ กู่ตู่มู่เอ๋อ และนางก็คิดกับตัวเอง นี่ไม่ดี!
ทันทีที่ซังยี่เห็นกู่ตู่เหยากวงตื่นขึ้นมา นางก็รีบมาด้านข้างกู่ตู่เหยากวง ด้วงน้ำตาและพูดว่า "คุณหนู ในที่สุดท่านก็ตื่นแล้ว! ท่านหลับไปครึ่งค่อนวันเเล้วนะเจ้าคะ "
จิตสำนึกของกู่ตู่เหยากวงถูกครอบงำโดยร่างที่สอง นางจึงลืมเวลาไปโดยสิ้นเชิงนางใช้ข้ออ้างที่ว่านางต้องการงีบหลับ แต่นางนอนหลับนานเกินไป
โดยธรรมชาติแล้ว ซังยี่ และ มู่เอ๋อ สังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ พวกเขาคิดว่ากู่ตู่เหยากวงป่วยอีกครั้ง ดังนั้นพวกเขาจึงรีบโทรหาหมอ
เมื่อ5ปีก่อนในพิธีปลุกรากฐานทางจิตวิญญาณ นางได้ปลุกกระดูกหยกซวนหยินขึ้นมา เเต่ไม่รู้เพราะเหตุใด กระดูกหยกซวนหยินของนางได้หายไป ทำให้นาง อ่อนแอและป่วยตั้งเเต้นั้น
เมื่อหมอประจำตระกูลมา เขาพบว่าแม้กู่ตู่หยินจะอ่อนแอ แต่ชีพจรของนางก็ยังคงไม่เปลี่ยนเเปลงจากก่อนหน้านั้นมากนัก เเละพิษความหนาวเย็นก็ไม่ได้กำเริบ
แต่มันเป็นเรื่องจริงที่กู่ตู่เหยากวงไม่สามารถตื่นขึ้นมาได้ไม่ว่ายังไงก็ตาม มันไม่ควรจะเป็นเช่นนี้จริงๆ ถ้านางหลับอยู่
โชคดีที่ตอนนี้กู่ตู่เหยากวงตื่นได้ด้วยตัวเอง
กู่ตู่เหยากวงยกตัวขึ้นเอนกายพิงหัวเตียงและปลอบใจซังยี่ "เอาล่ะ อย่าร้องไห้ ข้าสบายดี จู่ๆ ข้าแค่เหนื่อยนิดหน่อย ข้าแค่นอนต่ออีกสักหน่อย"
นางยกมือปิดปากไอเบาๆสองสามครั้ง โดยมีเลือกสีเเดงไหลซึมออกมาจากร่องนิ้ว ใบหน้าของนางซีดจางลง เหลือบมองเลือดสีเเดงบนนิ้วด้วยดวงตาลึกซึ้ง พร้อมคิดกันบตัวเอง
นางคงใช้จิตสำนึกทางจิตวิญญาณมากเกินไป จนเเละในตอนนี้ผนึกกำลังจะคลายลงทำให้พลังปราณเล็ดลอดออกมาโดยไม่ตั้งใจ
หมอประจำตระกูลที่อยู่ด้านข้างพูดอย่างออนโยน " หากคุณหนูใหญ่ไม่รังเกียจ ข้าจะพาท่านไปพบบรรพบุรุษ "
" ขอบคุณท่านผู้อาวุโสที่เสียเวลาพาเหยากวงไปส่ง " เขาก้มลงอุ้มเหยากวงอย่างอ่อนโยน เขามีใบหน้าหล่อเหลาเส้นผมสีขาวยาวถึงเอวผูกไว้ด้วยผ้าไหมสีเงิน ดวงตาสีเขียวส่องเเสงเล็กน้อย
เขาคือกู่ตู่เย่วเหอผู้อาวุโสลำดับที่7ของตระกูลกู่ตู่ เป็นปรมาจารย์นักเล่นเเร่เเปรธาติระดับ9 เพียงคนเดียวในตระกูล ผู้คนมากมายล้วนให้เกียจเเละเคารพเขาอย่างมาก
เขาหันหลังกลับก้าวเท้าไปข้างหน้าโดยอุ้มกู่ตู่เหยากวงเอาไว้ เพียงพริบตาร่างของเขาก็ปรากฎหน้าเขตุหวงห้ามเยือกเเข็ง
เส้นผมสีดำราวกับขนอีกาของนางเเปรเปลี่ยนเป็นสีขาวเงิน สัญญลักษณ์แห่งกฎสีทองปรากฎขึ้นระหว่างคิ้ว โดยพลังจิตวิญญาณปั่นป่วนทั่วร่างกายเล็ดล็อดออกมา เเม้กระทั่งเเขนของกู่ตู่เย่วเหอเต็มไปด้วยน้ำเเข็ง ที่หนาวเย็นจนเเทบจะกัดกร่อนเขา เเม้ว่าระดับพลังของเขาจะถึงครึ่งก้าวจักรพรรดิ์ก็ตาม
กู่ตู่เย่วเหอก้าวเข้าไปในเขตุต้องห้ามโดยไม่หยุดฝีเท้า จนกระทั่งเข้าสู่ส่วนลึก
บรรพบุรุษปิงหยินยืนหันหลังพูดขึ้อย่างสงบ " พวกเจ้ามาเเล้ว "
กู่ตู่เหยากวงก้าวลงจากอ้อมเเขนกู่ตู่เยว่เหอ พลังระดับจักรพรรดิ์อันทรงพลังระเบิดออกมา จนอากาศในรอยเเตกจับตัวเป็นน้ำเเข็ง
กู่ตู่เหยากวงมองบรรพบุรุษปิงหยินอย่าง ไร้อารมณ์ เส้นผมสีขาวเงินยาวจนถึงข้อเท้า โลหิตสีเเดงไหลที่มุมปาก ทั้งร่างของนางผสานไว้ด้วยอักษรกฎสีทอง ที่ค่อยๆสลายไปช้าๆ
ขยับปากพูดเบาๆด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์" บรรพบุรุษโปรดลงมือช่วยเหยาเอ๋อ"
บรรพบุรุษปิงหยินหันกลับมา นิ้วของเขาขยับอย่างรวดเร็ว ส่งเสียงพูดอย่างเเผวเบา " ผนึก " อักษรโบราณนับร้อยปรากฎขึ้นกลางอากาศ
บินล้อมรอบกู่ตู่เหยากวงเเล้ว ผสานรวมเข้ากับร่างของนาง
เส้นผมสีขาวเปลี่ยนกลับเป็นสีดำ ทั้งร่างของนางร่วงล่นจากอากาศล้มลงด้านหน้าบรรพบุรุษปิงหยิน โดยยกมือจับเเขนเสื้อบรรพบุรุษปิงหยินไว้เเน่น
กู่ตู่เหยากวงเปิดปากกระอัก ด้วยไปหน้าซีดเซียว " ขอบคุณบรรพบุรุษ ที่ช่วยเหยาเอ๋อ "
บรรพบุรุษปิงหยินยกมือลูบหัวกู่ตู่เหยากวงด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน " เหยาเอ๋อตัวน้อยอย่ากังวน บรรพบุรุษหยุนอิงได้ออกไปค้นหาของวิเศษที่สามารถช่วยเจ้า ได้ ด้วยฝีมือของเขาคงใช้เวลาไม่นานนัก ตอนนี้ว่ากันว่าในสำนักชิงหยุนเหมิน มีของวิเศษที่เรียกว่าน้ำพุเเห่งจิตวิญาณ มันสามารถซ่อมเเซมร่างกายของเจ้าได้เล็กน้อย "
"สำนักชิงหยุนเหมิน จัดงานฉลองการเก้าสู่ระดับราชาของอัจฉริยะหมานกงหยู่พอดี "
" เจ้าลองไปเที่ยวดูซักรอบ ยังไงเจ้าก็ไม่เคยได้ออกไหน "
" เหยาเอ๋อทราบเเล้วบรรพบุรุษ "
กู่ตู่เหยากวงกอดมือที่จับหัวของบรรพบุรุษปิงหยิน พูดด้วยรอยยิ้ม " บรรพบุรุษเอ๋อไปเเล้วนะเจ้าค่ะ "
นางปล่อยมือจากบรรพบุรุษปิงหยิน เดินไปหากู่ตู่เย่วเหอ " ไปกันเถอะผู้อาวุโส "
กู่ตู่เย่วเหอพยักหน้าอย่างอ่อนโยน ยื่นเเขนเสื้อออกไปทางกู่ตูเหยากวง
นางเดินไปข้างหน้ากอดเเขนเสื้อของกู่ตู่เยว่เหอ
ร่างทั่งสองก็หายไป ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าเขตุห้ามเยือกเเข็ง "คุณหนูใหญ่เราจะไปที่ไหนต่อ "
" ไปหาท่านพ่อที่ห้องโถงหลัก "
กู่ตู่เย่วเหอพยักหน้า เพียงพริบตาร่างทั้งสองก็ปรากฎตัวในห้องโถง
บนบังลังกู่ตู่ซิงเฉินเอนหลังอย่างเกียจคร้าน ทั้งสองข้างประกอบไปด้วย ผู้อาวุโสลำดับที่2 ผู้อาวุโสลำดับ5 เเละผู้อาวุโสลำดับที่7 เเละเหล่าลูกศิษย์ที่โดดเด่นของตระกูลกู่ตู่
กู่ตู่เหยากวงเเละกู่ตู่เยว่เหอคารวะกู่ตู่ซิงเฉินพร้อมกัน
" ท่านพ่อบรรพบุรุษบอกว่าอยากให้เหยาเอ๋อเข้าร่วมงานเลี้ยงของสำนักชิงหยุนเหมินที่จะจัดขึ้นในสามเดือนข้างหน้า"
"ในชิงหยุนเหมินมีบางสิ่งที่สามารถบรรเทาอาการป่วยของเหยาเอ๋อได้ "
กู่ตู่ซิงเฉินพูดอย่างอ่อนโยน " เหยาเอ๋อไม่เคยออกไปไหน เเละนี้เป็นครั้งเเรกของเจ้าที่จะออกไปดูโลกภายนอก ตระกูลกู่ตู่กำลังจะส่งคนไปร่วมงานเลี้ยงที่สำนักหยุนเหมินพอดี งั้นเจ้าก็เดินทางไปด้วยกันในวันพรุ้งนี้ "
" เหยาเอ๋อทราบเเล้วท่านพ่อ"
" งั้นเหยาเอ๋อจะไปเตรียมตัว "
"เอาละ "
เมื่อกลับมาถึงตำหนักหลิวหลี กู่ตู่เหยากวงนั่งข้างหน้าโต๊ะเครื่องเเป้ง มีกระจกเเก้วอันงดงามวางอยู่นางมองภาพสะท้อนในกระจก คิดอย่างลึกซึ้งกับตัวเอง ถ้าไปสำนักชิงหยุนเหมินนางก็น่าจะได้พบกับหนานกงหยู เเละต่อจากงานเลี้ยง5ปีต่อมาก็เป็นการเริ่มต้นเนื้อเรื่องหลัก โดยสมบูรณ์
" ข้าไม่สามารถไปขัดขวางเนื้อเรื่องได้ มิเช่นนั้นจะเกิดปัญหา " เเล้วอีกวิธีละ ได้หรือไม่ได้ กู่ตู่เหยากวงมองภาพสะท้อนในกระจกอย่างไร้ความปราณี
กู่ตู่เหยากวงหลับตา ลืมตาขึ้นมาอีกครั้งดวงตาที่ไร้ความปราณีของนางก็เปลี่ยนไป เป็นดวงตาที่ใส่สะอาดเต็มไปด้วยความอ่อนโยน
นางพูดกับซังยี่เเละมู่เอ๋อด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"ไปเก็บของพรุ่งนี้ข้าจะเดินทางไปสำนักชิงหยุนเหมิน "
" เจ้าค่ะคุณหนู "
" ไท่ซวน "
เงาด้านข้างกู่ตู่เหยากวงสั่นไหว ปรากฎเป็นชายร่างสูง ในอาภรณ์สีดำ ใบหน้าที่หลอเหลาเเละไร้อารมณ์ บนดวงตาปิดทับด้วยผ้าไหมสีดำ ทั่วร่างเปล่งรัศมีที่อันตราย เขาหยิบม้วนภาพยื่นให้นางด้วยความเคารพ
" พูด " กู่ตู่เหยาเอนกายบนโต๊ะ คลี่ม้วนภาพ ด้วยความสนใจ เขาคือไท่ซวน เป็นผู้พิทักเงาของนางที่ท่านเเม่ของนางทิ้งไว้ให้เพื่อปกป้องนาง ก่อนที่นางจะจากไป "
" ในภูมิภาคกลาง ประกอบไปด้วย4ตระกูลใหญ่เเปดสำนัก ที่เป็นขุมอำนาจระดับจักรพรรดิ์
ตระกูลเสินเป็นตระกูลที่มีอำนาจอันดับหนึ่งของภูมิภาคกลาง รองลงมาตระคือตระกูลหาน ตระกูลหลี ตระกูลเย่
ว่ากันว่านายน้อยคนที่สองตระกูลเสิน คือการกลับชาติมาเกิด ของปรามาจารย์ผู้มีอำนาจระดับจักรพรรดิ์
เเต่น่าเสียดายที่หัวหน้าตระกูลไร้ความเท่าเทียม เมื่อนายน้อยใหญ่เกิดมาเขาคิดว่าเขาคือการกลับชาติมาเกิดของยอดฝีมือเขาจึงปฎิบัติต่อนายน้อยเสินคนที่สองอย่างโหดร้าย
เมื่อเขาทราบว่าเเท้จริงเเล้วนายน้อยคนที่สองอาจเป็นการกลับชาติมาเกิดของยอดฝีมือระดับจักรพรรดิ์ เเม้จะเป็นของปลอม เเต่ลูกที่เขาเลี้ยงมาเเละลงเเรงไปมาก เขาจะทำใจเกลียดชังได้อย่างไร
เขาจึงตัดปัญหาด้วยการวางยาพิษเเห่งจิตวิญญาณ เเละหักขาของนายน้อยคนสอง อย่างไร้ความปราณี ทำให้เขากลายเป็นคนโง่ที่เเทบจำอะไรไม่ได้ เเละพิการอีก เเม้จะรู้ว่าเขาอาจเป็นการกลับมาเกิดของยอดฝีมือเเต่ก็ยังคงปฎิบัติต่อเขาด้วยความอาฆาตพยาบาท
กู่ตู่เหยากวง " โอ้ โดยไม่คาดคิดว่าตระกูลเสินจะโง่เขลาถึงเพียงนี้ " ไม่น่าเเปลกใจเลยที่ร่างจุติการกลับชาติมาเกิดของเขารังเกียจตระกูลเสิน เเละเมื่อความทรงจำของเขากลับมา ก็สังหารคนในตระกูลเสินทั่งหมด นี่สินะเรื่องราวของตัวร้ายที่ไม่ได้เอ่ยถึง
ว่าทำไมตัวร้ายที่ปรากฎตัวในตอนเเรกถึงได้น่าสงสาร นางเอกเเค่ปฎิบัติต่อเขาอย่างดี เขาก็ตกหลุมรักนางอย่างช่วยไม่ได้ เเม้จะรู้ว่านางเป็นศัตรูก็ปฎิบัติต่อนางอย่างดี
คำพูดของไท่ซวนขัดจังหสะความคิดของนาง " ฝ่าบาท ข้าพระองค์คิดว่ามันไม่ง่ายเช่นนั้น ระดับพลังของคนผู้นั้นอาจจะสูงกว่าระดับจักรพรรดิ์ "
กูตู่เหยากวงไม่เเปลกใจนางพูดอย่างสงบ" ใช่เเล้วมันเป็นอย่างที่เจ้าคาดเดา " กู่ตู่เหยากวงรี่ตาเล็กน้อย
"เพียงเเต่มันอาจจะมิใช่การกลับชาติมาเกิด "
ไท่ซวนตกตะลึงถ้าไม่ใช่การกลับชาติมาเกิด ก็มีเพียงเเค่ผู้เป็นอมตะ เท่านั้น
เขาไม่คิดว่ากู่ตู่เหยากวงจะรู้มากถึงเพียงนี้ เขาจึงลองพูดความคิดของเขาเพื่อหยั่งเชิงว่านางรู้มากเพียงใด" ฝ่าบาทหรือว่าจะเป็นร่างจุติของผู้เป็นอมตะที่เเท้จริงจากโลกเบื่องบน "
กู่ตู่เหยากวงยิ้มมุมปาก "เป็นอย่างที่เจ้าคิด เเค่ว่าเขาอาจจะไม่ใช่เเค่อมตะที่เเท้จริงธรรมดา เเต่ระดับพลังที่เเท้จริงของเขาอาจจะเเม้กระทั่ง "
.... เทียบเท่าจักรพรรดิ์อมตะ "
ยังไม่เเก้คำผิด
ไท่ซวนตกลึงพึมพำอย่างเหมอลอย. " จักรพรรดิ์อมตะ ฝ่าบาทท่านหมายความว่าอย่างไร"
กู่ตู่เหยากวงหันข้างมองไท่ซวนนางกระพริบตา พูดอย่างไร้เดียงสา " เจ้ารู้หรือไม่ว่าหนานกงหยูคือใคร "
" ว่ากันว่าหนานกงหยูเป็นอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้ เขาใช้เวลาเพียง30ปีก็มาถึงระดับราชา ตัวตนของเขาลึกลับมาก ราวกับว่าปรากฎตัวออกมาจากอากาศ "
" ข้าพระองค์คิดว่าเขาอาจจะเป็นอัฉริยะจากตระกูลอมตะในโลกบน
เหตุใดพระองค์ ถึงถามถึงหนามกงหยู หรือว่า?เขามีความเกี่ยวข้องกับนายน้อยตระกูลเสิน "
กู่ตู่เหยากวงลูบม้วนภาพวาดอย่างเเผ่วเบา " เเน่นอนว่ามันเกี่ยวข้อง หมานกงหยู หรืออาจเป็น จักรพรรดิ์อมตะจวินเทียนอู๋
" ท่านจะบอกว่า ศิษย์อัจฉริยะเเห่งสำนักชิงหยุนเหมิน หนานกงหยู คือร่างจุติของจักรพรรค์อมตะจวินเทียนอู๋เเห่งราชวงค์ อู๋ฮวง ที่หายตัวไปนับพันปี " ใบหน้าที่ไร้อารมณ์ราวกับหุ่นเชิดของไท่ซวนตกตะลึง
" ไม่มันคือร่างกายที่เเท้จริง " น้ำเสียงของกู่ตู่เหยากวงหนักเเน่น หากไม่มีระบบคอยอยู่เคียงข้างนางคงไม่กล้าพูดสิ่งนี้ออกมา
เเละการบอกไท่ซวนตอนนี้ มันจะทำให้นางทำอะไรได้มากขึ้น
กู่ตู่เหยากวงหรี่ตา พูดต่อด้วยความสนใจ " นั่นสิ เเล้วทำไมนายท่านคนที่3เเห่งตระกูลไท่ถึงมายังโลกเบื้องล่างที่ถูกตัดขาดเเห่งนี้ "
" เจ้าไม่รู้หรือ "
ไท่ซวนหยุดชะงักงัน เขาคุกเข่าลงเงยหน้ามองลึกเข้าไปในดวงตาของนาง ทั้งที่ดวงตาปิดทับด้วยผ้าสีดำเเต่ก็ราวกับว่าเขามองตานางอย่างลึกซึ้ง
ไท่ซวนหัวเราะเบาๆ " ฝ่าบาทพระองค์ทรงรู้ได้เช่นไร" นับตั้งเเต่ที่ไท่ซวนคอยปกป้องนางมา10กว่าปีเขาเห็นเพียงนางอยู่เเค่ภายในตระกูลกู่ตู่ เเม้เเต่ครั้งเดียวไม่เคยเก้าเท้าออกจากตระกูลกู่ตู่ เขาคิดไม่ออกจริงๆว่านางรู้เรื่องราวมากมายได้อย่างไร หรือว่า
" เพราะข้าได้ดูดซับเศษเสี้ยวเต๋าสวรรค์ "
"ภายในเศษเสี้ยวเต๋าสวรรค์ ข้าได้ปลุกกระดูกหยกน้ำเเข็งซวนหยินขึ้นมา ตอนอายุ10ปี เเละได้เข้าร่วมสำนักชิงหยุนเหมิน มีชื่อลัทธิเต๋าว่าตงเหยา
เมื่ออายุ15ปี ข้าได้พบกับหนานกงหยู นับตั้งเเต่มองเข้าไปในดวงตาของเขา ข้าก็ตกหลุมรักเขาอย่างโง่เขลา น่าเสียดายที่ข้าไม่เคยเข้าไปในหัวใจของเขาเลย "
"ข้าใช้เวลาทั้งหมดพื่อไล่ตามความเเข็งเเกร่งของเขาเเค่ว่าสักวันหนึ่ง ข้าจะสามารถเคียงข้างเขาได้ เเต่ว่าวันหนึ่งก็มีสตรีนางหนึ่งที่มีทั้งภูมิหลังเเละพรสวรรค์ต้ำต่อยปรากฎตัวขึ้นข้างๆเขา ด้วยความอิจฉาข้าทำทุกอย่างเพื่อสังหารนางผู้นั้น เเต่นอกจากนางจะไม่ตายนางกลับเเข็งเเกร่งขึ้นเรื่อยๆ เเม้กระทั่งหนานกงหยูลงมือโจมตีข้าเพื่อปกป้องนาง
กลายเป็นการสงเสริมความรักของนางเเละหนานกงหยู ให้พวกเขารักกันมากยิ่งขึ้น "
" ในท้ายที่สุดเมื่อข้าทะลวงสู่ระดับจักรพรรดิ์ ขั้นสูงสุด ข้าคิดว่าในที่สุดข้าก็เเข็งเเกร่งมากพอที่จะเคียงข้างเขาเเละทำให้เขารู้ว่าข้าดีกว่านางมากเพียงใด"
" ตัวตนที่เเท้จริงของหนานกงอยู่ก็ถูกเปิดเผย ความจริงเเล้วเขาคือจักรพรรดิ์อมตะ เขาถูกอมตะมากมายล้อมรอบสังหาร เเละนางผู้นั้นกลับสนใจเเต่ชีวิตของบุรุษอีกคนเเละใช้ร่างปกป้องเขาทั้งที่นางเป็นคนรักของหนานกงหยู"
" ไม่คิดว่าข้าจะเป็นคนดีเช่นนี้" กู่ตู่เหยากวงก้มลงมองไท่ซวนที่มองนางอย่างเงียบๆ นางเม้มปากเบาๆ
ข้าเเผดเผาสายเลือดไท่อินของข้าปลุกร่างกายศักดิ์สิทธ์ซวนหยินโบราณขึ้นมาเเละ กลายเป็นอมตะในโลกที่ถูกตัดขาดเเห่งนี้ได้สำเร็จ
เเม้ในท้ายที่สุดข้าจะต้องตาย ข้าก็ตายในอ้อมเเขนของหนานกงหยู เเละเข้าไปอยู่ในใจของเขาได้ "
กู่ตู่เหยากวงหัวเราะอย่างสมเพช " ฮาฮ่า " /ความจริงนางอยากสปอยนิยายที่นางเขียนมานานเเล้วเเต่ไม่มีใครฟังเลยในชาติก่อนคันปากอยากเล่ามาก
คิดไม่ถึงว่าจะมีโอกาศเล่าเนื้อเรื่องในนิยายให้ไท่ซวนฟัง " น่าเสียดายในความเป็นจริงนางไม่ได้ดูดซับเศษเสี้ยวเต๋าสวรรค์ เเต่นางเป็นผู้เขียนนิยายเรื่องนี้ขึ้นมา5555 เเละเรื่องที่นางรู้บางสิ่งมากมายก็ไม่เเปลกอีกต่อไป
" โดยไม่คาดคิดว่านี่คือชะตาที่กำหนดไว้ของฝ่าบาท "ไท่ซวนไม่เเปลกใจ อีกต่อไปเขารู้ดีว่าเศษเสี้ยวเต๋าสวรรค์คือสิ่งใด
" ฝ่าบาทครั้งนี้ ตระกูลไท่ก็เข้าร่วมด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีอัจฉริยะอีกหลายคนในโลกเบื้องบนที่จะปรากฎตัวในเเดนที่ถูกตัดขาดนี้ "
" ในเมื่อฝ่าบาททรงรู้หลายสิ่งหลายอย่างเเล้วข้าก็จะไม่ปิดบังอีกต่อไป " ไท่ซวนมอบตราหยกสีเเดงเเกะสลักด้วยอักขระไท่ สีทองอันทรงพลังให้เหยากวง " นี่คือตราหยกไท่อินสัญลักณ์ของนักบุญศักดิ์สิทธิ์เเห่งตระกูลไท่ มารดาของฝาบาทให้ข้ามอบให้ท่านเมื่อท่านอายุ100ปีเเละบรรลุระดับจักรพรรค์เเละตระหนักถึงตระกูลไท่ในอนาคต "
"เพียงเเค่ฝ่าบาทหยดเลือดลงไป "
กู่ตู่เหยากวงคว้าปิ่นปักผมบนหัวมาจิ้มนิ้วด้วยใบหน้าไร้อารม เลือดสีเเดงสองหยดหลอมรวมเข้ากับตราหยกโดยทันทีที่สัมผัดเลือด
กู่ตู่เหยากวงหลับตานางรู้สึกถึงความเชื่อมโยงบางอย่างกับตราหยกไท่อิน
ทันไดนั้นตราหยกไท่อินบินเข้าสู่ร่างกายของนาง กู่ตู่เหยากวงลืมตาขึ้น มองไท่ซวนที่นั่งคุกเข่าอยู่ข้างหน้านางพูดด้วยน้ำเสียงเกียจคร้าน " ท่านไปเถอะ ข้าจะพักผ่อนอย่าลืมเตรียมตัวให้พร้อมพรุ่งนี้ข้าจะร่วมเดินทางไปสำนักชิงเหยาเหมิน " พูดจบนางก็ยืนขึ้นเดินไปที่เตียงโดยไม่หันกลับมามอง
" ทราบเเล้วฝ่าบาท " ร่างที่คุกเข่าของไท่หยินจมหายลงไปในเงา เเละภายในห้องก็มีเพียงร่างหญิงสาวที่งดงามราวกับพระเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์
กู่ตู่เหยากวงหลับตาจิตสำนึกของกู่ตู่เหยากวงค่อยๆ ถอนตัวออกจากร่างของนาง
ภายในถ้ำ มังกรสีขาวลืมตาที่ปิดสนิทของมันอย่างช้าๆ ดวงตาสีเเดงกระพริบด้วยเเสงอันดุร้าย
ภายใน500ร้อยปีนางได้ย่อยพลังไปเป็นเพียงส่วนเล็กๆเท่านั้น ก็ทำให้นางทะลวงระดับจักพรรดิ์ขั้น1ได้ ถ้านางดูดซับพลังทางสายเลือดจนสมบูรณ์นางก็จะกลายเป็นอมตะโดยตรง เเละถ้าไม่มีสิ่งใดสำคัญเกิดขึ้นกับร่างหลักนางก็คงจะใช้ชีวิตในร่างโคลนไปอีก700กว่าปี
จากความทรงจำที่สืบทอดของนาง สถานที่ที่นางอยู่เรียกว่าเศษซากอมตะโบราณ
เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยอันตราย
มังกรหยินสีขาวเลื้อยออกมาจากถ้ำ มองสภาพรอบข้างอย่างระมัดระวัง ข้างหน้าเป็นทะเลสาบน้ำเเข็งขนาดใหญ่
ตรงกลางมีดอกบัวน้ำเเข็งที่กำลังบานอย่างงดงาม ตามความทรงจำทางสายเลือดมันคือ ดอกบัวเยือกเเข็งพันปีที่กำลังกลายเป็นหมื่นปี สามารถช่วยนางย่อยพลังทางสายเลือดเเละเลื่อนระดับได้
กู่ตู่เหยากวงไม่คิดมากนางย่อขนาดจากมังกรซวนหยินขนาดใหญ่ กลายเป็น มังกรน้อยขนาดเล็กลำตัวเล็กเท่านิ้ว ถ้าไม่ดูให้ละเอียดคงคิดว่าเป็นงูขาวธรรมดาตัวหนึ่ง
ร่างที่เหมือนงูพุ่งเข้าสู่ใจกลางดอกบัวเยือกเเข็งขดตัวดูดซับพลังของดอกบัวเยือกเเข็ง เพื่อย่อยความทรงจำอย่างช้าๆ
5 ปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ดาบน้ำเเข็งบินผ่านท้องฟ้าเเทงทะลุร่างชายชุดเเดง จนร่างเขาร่วงตกลงสู่พื้น
ตรงข้ามเขาคือชายสองคนในชุดขาวเเละฟ้า ชายชุดขาวนามของเขาคือมู่หรงหลานเเละในชุดฟ้าชื่อ เย่หลิน
มู่หรงหลานหันมองเย่หลินด้วยใบหน้าเขร่งครึม " พี่เย่ ตอนนี้อาจจะไม่ใช่เเค่เราที่ค้นพบว่าสมบัติลึกลับหมื่นปีกำลังถือกำเนิด "
" อาจจะมีอีกหลายคนที่มาเข้าร่วมสนุก "
เย่หลินพยักหน้า " ไปกันเถอะ "
ทั้งสองคนเข้าสู่ส่วนลึกของเเดนลับเยือกเเข็งโดยไม่หยุด นอกจากพวกเขาเเล้วยังมี ยอดฝีมืออีกหลายคนซ่อนตัวบ้าง บ้างเร่งรีบพุ่งเข้าสู่ส่วนลึกของเเดนลับ
ภายในทะเลสาบน้ำเเข็ง ดอกบัวน้ำเเข็งเเปร่งรัศมีเย็นออกมาท่ามกลางเเสงจันทร์ ชายหนุ่มระดับจักรพรรดิ์ขั้น1คนหนึ่งพุ่งเข้าหาดอกบัวท่ามกลางสายตาผู้คนมากมายที่ซ่อนตัวอยู่
งูน้ำเเข็งยักษ์ พุ่งออกมาจากทะเลสาบ กลืนทั้งร่างของชายคนนั้นเเล้วหายลงไปในทะเลสาบท่ามกลางสายตาสมเพชที่ซ่อนตัวอยู่
ชายชราเหลือบมองชายหนุ่มในชุดม่วงเเละหญิงสาวในชุดเเดง " เจ้าคิดว่าอย่างไรถ้าเราร่วมมือกันกำจัดงูน้ำน้ำเเข็งตัวนั้นกัน ส่วนดอกบัวน้ำเเข็งหมื่นปีก็อยู่ที่ความสามารถ
"เอาเช่นนั้นก็ได้ งั้นท่านมู่ฮวงโปรดลงมือก่อน " ซินหนิง ยิ้มอย่างมีเสน่ให้ชายชุดม่วง
มู่ฮวงไม่พูดมากเขาเมินซินหนิง ลอยขึ้นกลางอากาศ ขยับมือเป็นสัญลักษ์ เเสงสีม่วงหมุนวนเป็นเเส่ยาวพุ่งลงทะเลสาบหลากงูน้ำเเข็งขนาดใหญ่ขึ้นมา ชายชราก็ใช้พลังที่เเข่งเเกร่งที่สุด เรียกอาวุธสักดิศิทธิ์ออกมากระบี่สีดำ ยาวฟาดร่างงูน้ำเเข็งด้วยพลังอันทรงพลัง " ตัดเมฆา "
ตามมาด้วยเสียงที่มีเสน่ห์ของสาวชุดเเดง " ทลายดารา "อุกกาบาตอันร้อนระอุร่วงล่นสู่ร่างของงูน้ำเเข็ง
เมื่อทั่งสามจักรพรรดิ์ลงมื่อร่วม " งูน้ำเเข็งกลับบ้าคลั้ง มันคำรามด้วยความโกรธ ใช้การโจมตีครั้งสุดท้ายที่ทรงพลังที่สุด
" ไม่ดีงูตัวนี้ก่อกำเนิดจิตวิญญาณเเล้ว "
ชายชราหันมองมู่ฮวงยกฝ่ามือเตรียมโจมตีในตอนที่เขาไม่อาจลงมือได้
"ไม่ดี" มู่ฮวงถอนพลังจากงูน้ำเเข็งเพื่อหลบเลี่ยงเขาหันฝ่ามือสวนกลับ
ซินหนิงถอยหลังเพื่อหันกลับ เเต่ฝ่ามือของชายชราเเละมู่ฮวงกลับฟาดมาที่นางโดยไม่คาดคิด ร่างของนางลอยไปทิศทางการโจมตีครั้งสุดท้ายของงูยักษ์
ร่างของทั้งสองบินเข้าหาดอกบัวน้ำรวดเร็วราวสายฟ้าเมื่อมือของชายชราจะคว้าดอกบัวน้ำเเข็งเขาก็สดุดเท้าของมู่ฮวงจนร่างตกลงไปในน้ำที่เต็มไปด้วนพิษของงูน้ำเเข็ง
มู่ฮวงหัวเราะอย่างเย้ยหยันคว้าดอกบัวน้ำเเข็งหมื่นปีมาไว้ในมือ หันหลังบินกลับขึ้นฝั่ง เมื่อเท้าเเตะพื้น เขาก็กะอักเลือดสีดำออกมามู่ฮวนนึกถึงซินหนิงในตอนที่นางยิ้มให้เขาก่อนหน้านั้น " เจ้านังสารเลว! "
มู่ฮวงล้มลงด้วยความไม่เต็มใจคำรามออกมาด้วยความโกรธ " ซินหนิง!! "
เมื่อดอกบัวน้ำเเข็งล้มลง มูหรงหลานเเละเย่หลินที่พึ่งมาถึงตกตะลึง
มู่หรงหลานพูดด้วยรอยยิ้ม" พี่เย่ พี่ก็รู้เหยียนตัวน้อยเกิดมาพร้อมกับร่างกายพิเศษ นางจำเป็นต้องใช้ดอกบัวเยือกเเข็งหมื่นปีนี้ ส่วนของที่เหลือเหล่านั้นมอบให้ท่าน"
" เอาละตกลง ยังไงเราก็เป็นสหายกันมาหลายปีเจ้าคิดอย่างไรถ้าจะให้อาเหยีนน้อยหมั้นหมายกับเย่เฉิน เผื่อว่าทั้งคู่จะเข้ากันได้ถ้าหากว่า เมื่อโตขึ้นเเล้วนางพบคนที่นางรักค่อยถอนหมั้นก็ยังไม่สายเกินไป "
" ตกลง " มู่หรงหลานพยักหน้า เก็บดอกบัวน้ำเเข็งไว้ในเเหวนเก็บของ " พี่เย่งั้นมูหรงขอตัวก่อนอาเหยียนไม่อาจรอได้อีกต่อไป "
เมื่อพูดจบมู่หรงหลานก็ออกไปจากเเดนลับโดยไม่ได้สำรวจต่อ
3ปีผ่านไป ร่างชายหนุ่มในชุดขาวปรากฎตัวขึ้นกลางอากาศในตระกูลมู่หรง เป็นเวลายาวถึง6ปีเเล้วที่เขาออกจากตระกูลมู่หรงเพื่อไปตามหาดอกบัวน้ำเเข็งหมื่นปีในอาณาจักลับโบราณ
ร่างของเขากระพริบปรากฎตัวขึ้นภายในลานบ้านเเห่งหนึ่ง หญิงสาวตัวน้อยอายุราว15ปีในอาภรณ์สีฟ้า นางมีใบหน้าที่สวยงามเเละมีเสน่ห์ กวัดเเกว่งดาบ อยู่ใต้ต้นไม้สีขาว
มู่หรงเหยียนเง่ยหน้าขึ้น นางเห็นพ่อที่นางไม่เคยพบมา6ปีปรากฎตัวขึ้นข้างหน้านาง
" ท่านพ่อ " มู่หรงเหยียนวิ่งเข้าสู่อ้อมกอดมู่หรงหลาน เป็นเวลานานเเล้วที่พ่อของนางจากไปเป็นเวลานาน
มู่หรงหลานคุยกับมู่หรงเหยียนอยู่นาน เขาเอาดอกบัวน้ำเเข็งหมื่นปีมอบให้นาง " เหยียนเอ๋อเพียงเเค่เจ้าดูดซับมันปัญหาทางร่างกายเจ้าก็จะถูกคลี่คลาย "
ภายในบอกบัวเยือกเเข็งมังกรสีขาวเงินน้อยขดตัวหลับอยูเหยากวงปรากฎตัวขึ้นท่ามกลางเศษซากปรักหักพัง ด้วยจิตวิญญาณที่เเท้จริงของนาง
ร่างสีขาวลอยอยู่กลางอากาศราวกับอมตะผู้ศักดิ์สิทธ์ เส่นผมสีขาวยาวถึงข้อเท้าราวเส่นไหม
กู่ตู่เหยากวงคิดในใจนี่คือความทรงจำทางสายเลือดของนาง นางไม่คาดคิดว่าความทรงจำที่นางดูดซับไปเป็นเเค่เพียงส่วนเล็กๆของภูเขาน้ำเเข็ง กู่ตู่เหยากวงล่องลอยสำรวจสถานที่ต่างๆ ทันใดนั้นอากาศสั่นไหวเเละเเตกออก เศษซากปรักหักพังก็ หายไป
ปรากฎเป็นทิวเขาที่งดงามเรียงรายไปด้วยพระราชวังหยก หอคอยโบราณสีขาวตั้งตระหง่าน นกฟีนิกซ์ เเละมังกร บินผ่านทั่วท้องฟ้า
ท้องฟ้าสถานที่เเห่งนี้เเตกต่างจากทวีปจิ่วเทียน ดวงอาทิตย์เเละดวงจันทร์ขึ้นพร้อมกับ ดวงดาวที่ควรปรากฎตอนกลางคืนกลับปรากฎบนท้องฟ้าสีครามอันงดงาม ราวกับความฝัน
กู่ตู่เหยากวงตกตะลึงเมื่อมองไปยังหอคอยโบราณเเละฉากบนท้องฟ้า ถ้านางเดาไม่ผิด นี่คือความเป็นมาของตัวละครหนึ่งในเทพโบราณที่นางเคยเเต่งเอาไว้เเยกออกมาเป็นเนื้อเรื่องพิเศษ เเต่ไม่ได้เขียนลงไปในนิยาย
สถานที่เเห่งนี้ควรเป็น1ใน8อาณาจักลับโบราณเเห่งอาณาจักรเทพโบราณ
เมื่อนึกถึงเนื้อเรื่องของนิยายภาคต่างๆที่นางเเต่งไว้เป็นเรื่องลับความเป็นมาเเละเเผนการต่างๆอีกมากมาย เเละในที่สุดก็กลายเป็นนิยายเรื่องเดินทางข้ามเวลาผู้เป็นอมตะตกหลุมรักฉัน
กู่ตู่เหยากวงก็อยากจะเป็นลม โชคดีมากที่นางไม่ได้เกิดใหม่ในภาคของเนื้อเรื่องเหล่านั้น เมื่อกู่ตู่เหยากวงกำลังจมอยู่ในดราม่าภายใน
ฉากที่สวยงามก็เปลี่ยนไป
ยังไม่เเก้คำผิดเเละเเก้ไขเนื้อหาบางส่วน( เนื้อเรื่องอาจมีการเเก้ไขได้ทุกเมื่อเพื่อความสมเหตุสมผล )
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!