มิสึซากิแอบยืนพิงกำแพงด้านนอกประตูห้องใหญ่ เสียงในห้องแว่วออกมาเป็นเสียงเบา ๆ ของลูซิเฟอร์ที่ดูสงบนิ่ง ทว่ามีความเข้มงวดในน้ำเสียง เธอกลั้นหายใจเงียบสนิท พยายามจับใจความทุกคำพูด
“ลูกสาวโซโลมอน... เธอกำลังฮีตอยู่ และดูเหมือนว่าฉันต้องช่วยเธอด้วยตัวเอง” เสียงของลูซิเฟอร์ดังขึ้น มิสึซากิที่อยู่ด้านนอกเผลอกำมือตัวเองแน่นอย่างไม่รู้ตัว ในใจเธอเต็มไปด้วยความสงสัยและความไม่พอใจ เพราะคำสั่งห้ามของลูซิเฟอร์ยังคงก้องในหัวเขา “อย่าเข้ามาในห้องนี้เด็ดขาด มิสึซากิ”
“ฉันไม่จำเป็นต้องทำตามคำสั่งเขาทุกอย่างเสียหน่อย...” เธอกระซิบเบา ๆ ก่อนจะก้มลงมองสัญลักษณ์ประหลาดที่สลักบนประตู เธอรู้ว่าลูซิเฟอร์ต้องการควบคุมสถานการณ์เองทั้งหมด แต่เธออดไม่ได้ที่จะกังวลว่าสิ่งที่เกิดขึ้นอาจไม่ใช่แค่เรื่องธรรมดา
ข้างในห้อง เสียงฝีเท้าเดินใกล้เข้ามา ลูซิเฟอร์กำลังพูดบางอย่างกับเด็กสาว เธอคิดในใจว่า “เกิดอะไรขึ้นกันแน่? เขาคงไม่คิดจะทำอะไรเกินเลยหรอกนะ...” ความหวงแหนและความรู้สึกปกป้องในตัวลูซิเฟอร์ผลักดันให้เธออยากฝ่าฝืนคำสั่ง แต่เธอเลือกที่จะรอจนกว่าเงียบสงัดอีกครั้ง
หลังจากเสียงภายในเงียบลง เธอเตรียมจะผลักประตูเข้าไปทันที แม้จะรู้ว่าต้องเผชิญกับความโกรธของลูซิเฟอร์เมื่อเขารู้เรื่องนี้...
มิสึซากิยืนพิงกำแพงนอกประตูใหญ่ด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์ปนความอยากรู้อยากเห็น ดวงตาสีฟ้าสดใสของเธอจับจ้องไปยังประตูที่ถูกปิดสนิทและหน้าต่างทุกบานที่ถูกปิดม่านมิดชิด ไม่มีแสงใดเล็ดลอดออกมาเลยแม้แต่น้อย
"ท่านลูซิเฟอร์จะทำอะไรกันนะ ถึงต้องขนาดนี้?" เธอพึมพำเบา ๆ ก่อนที่ริมฝีปากจะยกยิ้มบาง ราวกับจะหยอกล้อกับความลึกลับตรงหน้า เธอพยายามแนบหูฟังเสียงจากในห้อง แต่สิ่งที่ได้ยินมีเพียงเสียงหัวเราะเบา ๆ ของลูซิเฟอร์ที่ฟังดูเยือกเย็น
“เธอชอบแบบนี้ใช่ไหม?” เสียงลูซิเฟอร์ดังขึ้นอย่างเจือความเยาะเย้ย มิสึซากิถึงกับชะงัก เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนที่ความอยากรู้จะผลักดันให้เธอเลื่อนตัวไปอยู่ใกล้ประตูมากขึ้น
“ทำไมลูกสาวโซโลมอน... ถึงต้องไปนั่งระหว่างขาเขางั้นเหรอ?” ภาพในจินตนาการของเธอเริ่มปะติดปะต่อเอง ลูซิเฟอร์ที่นั่งบนเก้าอี้อย่างผ่าเผย ดวงตาสีซีดฉายแววเจ้าเล่ห์ ในขณะที่เด็กสาวนั่งอยู่ระหว่างขาของเขาในท่าที่ชวนให้ตีความไปทางอื่น มิสึซากิยิ้มบางพลางกอดอกตัวเอง ราวกับสนุกกับความคิดนี้
“พวกเขาทำอะไรกันนะ ถึงต้องปิดทุกอย่างมิดชิดแบบนี้?” เธอหัวเราะเบา ๆ กับตัวเอง ความอยากรู้ที่เดือดพล่านทำให้เธออดไม่ได้ที่จะคิดเล่น ๆ ว่า หากเธอแง้มประตูดู ลูซิเฟอร์จะโกรธหรือเปล่า
ในใจลึก ๆ เธอรู้ว่าไม่ควรเข้าไปยุ่ง แต่ความสนุกที่ได้แอบมองและการได้จินตนาการถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องนั้นช่างหอมหวานเสียเหลือเกิน
มิสึซากิยืนนิ่งตรงหน้าประตูใหญ่ ใบหน้าของเธอเปี่ยมไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นที่ฉายชัด ดวงตาสีฟ้าสดใสเหลือบมองซ้ายขวาให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่แถวนั้น ก่อนจะโน้มตัวเข้าไปใกล้ประตูอีกครั้ง พลางพยายามจับเสียงบางอย่างที่ลอดออกมา
เสียง "ก๊กๆ" เบา ๆ ดังขึ้นเป็นจังหวะ เธอถึงกับยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย พร้อมหัวเราะในลำคอ "เสียงอะไรน่ะ? หรือลูซิเฟอร์กำลัง... ใช้ลูกสาวโซโลมอนทำอะไรบางอย่าง?" เธอกัดริมฝีปากตัวเองพลางครุ่นคิด แต่ใบหน้ากลับร้อนผ่าวขึ้นมาซะอย่างนั้น
“ไม่นะ... เขาคงไม่ทำอะไรเกินไปหรอก ใช่ไหม?” เธอพึมพำเบา ๆ พร้อมกับภาพในหัวที่เริ่มจะเกินเลย เธอจินตนาการถึงลูซิเฟอร์ที่นั่งอย่างสง่างามบนเก้าอี้ เด็กสาวนั่งอยู่ระหว่างขาของเขา และใบหน้าของเขายังคงฉายแววเยือกเย็นเหมือนเดิม ทว่า... มือของเขากำลัง...กดหัวนางลงไประหว่างขาเขา!!!
“โอ๊ย! พอแล้ว!” มิสึซากิส่ายหัวแรง ๆ ไล่ความคิดของตัวเองออกไป แต่หัวใจของเธอกลับเต้นแรงขึ้นทุกที เธอหันกลับมามองประตูอีกครั้ง ก่อนจะยิ้มบาง “ถ้าเปิดดูจะโดนอะไรไหมนะ?”
แต่ทันใดนั้น เธอก็หยุดชะงัก ความคิดหนึ่งแล่นเข้ามาในหัว "ถ้าลูซิเฟอร์รู้ว่าฉันอยู่ตรงนี้... เขาคงจับฉันไปนั่งดูต่อหน้าพวกเขาสองคนแน่ๆ" แค่จินตนาการถึงภาพนั้น เธอก็แทบหน้าร้อนวูบวาบขึ้นมาอีกครั้ง “ฉันคงทนไม่ได้หรอก... ตายแน่ๆ”
มิสึซากิยืนกอดอกพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ เธอรู้ว่าความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองกำลังเล่นงานเธอหนัก แต่การจะเสี่ยงเปิดประตูเข้าไปนั้น เธอไม่แน่ใจว่าความอับอายจะฆ่าเธอก่อนที่ลูซิเฟอร์จะทำหรือเปล่า...
มิสึซากิยืนตัวลีบอยู่หน้าประตูใหญ่ มือหนึ่งทาบอกตัวเองพยายามกลั้นเสียงลมหายใจให้เบาที่สุด ทว่าดวงตาสีฟ้าสดใสของเธอกลับฉายแววซุกซนปนความอยากรู้อยากเห็น “ในห้องนั้นทำอะไรกันนะ?” เธอคิดในใจ ขณะหูพยายามจับเสียง "ก๊กๆ" ที่ดังขึ้นจากด้านใน
แต่ไม่ทันที่เธอจะเลื่อนตัวเข้าไปใกล้ประตูมากกว่านี้ สายตาของเธอเหลือบไปเห็นบางสิ่งที่ทำให้ต้องชะงัก... ลูกน้องของลูซิเฟอร์สี่คน ที่ยืนประจำการเงียบๆ อยู่ด้านหลังลูซิเฟอร์ซึ่งดันตรงกับประตูที่นางแอบฟังอยู่ สายตาของพวกเขาจ้องตรงมายังมิสึซากิอย่างนิ่งเฉย
“พวกเขาเห็นฉันแล้ว?” มิสึซากิแอบกลืนน้ำลาย รู้สึกได้ว่าทุกการเคลื่อนไหวของเธออยู่ในสายตาของพวกเขา เธอพยายามคุมสีหน้าของตัวเองให้เป็นปกติ แต่ในใจกลับเต้นโครมครามอย่างหนัก
"ทำไมพวกเขาไม่พูดอะไรเลย?" เธอคิดในใจพลางเหลือบมองกลับไปทางประตูที่ปิดสนิทอีกครั้ง เสียง "ก๊กๆ" ที่ดังขึ้นเป็นจังหวะทำให้เธออดไม่ได้ที่จะจินตนาการไปไกล ภาพลูซิเฟอร์ที่นั่งอยู่ตรงกลางพร้อมลูกสาวของโซโลมอนที่นั่งอยู่ระหว่างขาเขาเริ่มปรากฏชัดในหัว เธอหน้าร้อนวูบวาบขึ้นมาอีกครั้ง
ลูกน้องทั้งสามยังคงเงียบ ไม่ได้แสดงท่าทีว่าจะห้ามปรามเธอแต่อย่างใด ราวกับว่าพวกเขารู้ดีว่า “ลูซิเฟอร์รู้อยู่แล้วว่ามิสึซากิแอบอยู่ตรงนี้” หรือไม่ก็พวกเขาแค่รอเวลาที่เธอจะก้าวข้ามเส้นไป
“อย่าบอกนะว่า... เขาแกล้งเปิดช่องให้ฉันแอบดู แล้วจะดักจับฉันทีหลัง?” มิสึซากิพึมพำเบา ๆ พลางลอบมองลูกน้องทั้งสามคนที่ยังคงยืนนิ่งเหมือนรูปปั้น เธอเม้มริมฝีปากตัวเองแน่น ความกลัวเริ่มตีตื้นขึ้นในใจ
"ถ้าเขาจับฉันเข้าไปดูจริง ๆ... ภาพนั้นฉันคงไม่ลืมไปชั่วชีวิตแน่ ๆ..." เธอรู้สึกเหมือนหัวใจตัวเองจะหลุดออกมา ทว่ายังมีความคิดบ้าบิ่นในใจที่ผลักดันให้เธอก้าวเข้าไปใกล้ประตูอีกก้าว
ลูกน้องทั้งสามคนหันมาสบตากันเล็กน้อย แต่ยังคงไม่พูดอะไร... ราวกับว่าพวกเขาอยากจะดูว่าเธอจะกล้าทำอะไรต่อไปหรือไม่
เช้าวันต่อมา มิสึซากิที่แอบฟังความลับเมื่อคืนยังคงรู้สึกประหม่ากับสิ่งที่เธอได้เห็นหรือได้ยินมา แม้ว่าเธอจะพยายามไม่คิดถึงเสียง "ก๊กๆ" และภาพที่เธอจินตนาการ แต่ใบหน้าของเธอกลับแดงก่ำไม่หาย
ทว่าทันทีที่เธอก้าวเข้ามาในห้องโถงใหญ่ เธอก็ต้องหยุดชะงักทันทีเมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาของ ลูซิเฟอร์ ที่จับจ้องมาทางเธอ... สายตานั้นไม่ใช่เพียงความคาดโทษธรรมดา แต่เป็นสายตาที่แฝงไปด้วยแรงกดดันราวกับจะเผาผลาญเธอให้มอดไหม้
“เธอ... บังอาจมากเลยนะ มิสึซากิ” เสียงทุ้มต่ำของเขาดังก้องในห้องโถง ลูซิเฟอร์ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยอย่างคนที่รู้อยู่แล้วทุกอย่าง “เธอคิดว่าฉันไม่รู้เหรอว่าเมื่อคืนเธอแอบฟังอยู่หน้าประตู?”
มิสึซากิสะดุ้งสุดตัว หัวใจเต้นแรงจนแทบหลุดออกมาจากอก เธอพยายามรวบรวมสติ พูดอะไรสักอย่างเพื่อปกป้องตัวเอง แต่เสียงของเธอกลับติดขัดราวกับถูกบีบด้วยพลังมองไม่เห็น
“ฉะ...ฉันไม่ได้ตั้งใจค่ะ!” เธออุทานออกมาในที่สุด
ลูซิเฟอร์เดินตรงเข้ามาใกล้เธอในระยะที่เขาสามารถจับตัวเธอไว้ได้ แขนของเขายื่นออกมาโอบรอบไหล่ของเธอทันที มิสึซากิแทบจะเป็นลมในทันทีที่สัมผัสได้ถึงไออุ่นจากตัวเขา ใบหน้าของเธอร้อนผ่าวจนแทบจะระเบิด
“เมื่อคืนเธอได้เห็นอะไรไปบ้างล่ะ?” เขากระซิบข้างหูเธอ เสียงของเขาช่างอบอุ่นแต่แฝงไปด้วยความข่มขู่ในที
“มะ...มิสึซากิไม่เห็นอะไรเลยค่ะท่านลูซิเฟอร์!!” เธอรีบพูดปฏิเสธ พร้อมกับพยายามเบี่ยงตัวออกห่างจากเขา แต่ลูซิเฟอร์กลับรั้งเธอเข้าไปใกล้มากขึ้นอีก
“อย่าคิดว่าจะโกหกฉันได้” เขาพูดเสียงเย็นเฉียบ ดวงตาของเขาจ้องมองเธอเหมือนจะมองทะลุเข้าไปในจิตใจ “ถ้ากล้าขนาดนี้... ฉันก็คงต้อง ‘สอนบทเรียน’ ให้เธอจำขึ้นใจ ว่ากับฉัน...อย่าแอบดูอะไรโดยไม่ได้รับอนุญาต”
มิสึซากิรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุน เธอหน้าซีดปนแดงจนดูน่าสงสาร มือของเธอเริ่มสั่นระริก แต่สิ่งที่ยิ่งทำให้เธอแทบทรุดคือเมื่อเขาก้มลงมาประชิดจนลมหายใจของเขาอ้อยอิ่งอยู่ที่ใบหูของเธอ
เลือดกำเดาไหลทันทีจากจมูกของมิสึซากิ เธอรู้สึกเวียนหัวจนแทบจะล้มลงในอ้อมแขนของเขา ลูซิเฟอร์หัวเราะเบา ๆ อย่างผู้ชนะ ก่อนจะพยุงเธอเอาไว้ด้วยมือข้างเดียว
“ยังบริสุทธิ์ขนาดนี้... คงไม่เคยสัมผัส ‘ความสนุก’ แบบนี้สินะ” เขาพูดแผ่วเบาพร้อมกับยิ้มมุมปาก “ถ้างั้น... ฉันก็จะค่อย ๆ ‘แนะนำ’ ให้เธอรู้จักเอง”
มิสึซากิในตอนนี้ไม่รู้แล้วว่าตัวเองควรจะดีใจที่ยังมีชีวิตอยู่ หรือควรจะเป็นลมให้เรื่องจบลงตรงนี้ดี...
หลังจากลูซิเฟอร์พูดจบ มิสึซากิก็ยืนนิ่งเหมือนรูปปั้น ดวงตากลมโตของเธอเบิกกว้างจนแทบจะถลนออกมา ใจเธอเต้นรัวเร็วราวกับกลองชุดในคอนเสิร์ต พร้อมกับเสียงในหัวที่เริ่มจินตนาการภาพทุกอย่างที่ (อาจจะ) เกิดขึ้นตามคำพูดของเขา
‘แนะนำอะไร...’ เธอเริ่มคิด ‘อย่าบอกนะว่า...ไม่ ไม่จริง! เขาคงไม่ได้หมายถึงแบบนั้น... หรือว่าเขาหมายถึงแบบนั้นกันแน่?!’
ภาพในหัวเธอเริ่มล่องลอยไปไกลเกินควบคุม เธอจินตนาการถึงตัวเองที่ถูกลูซิเฟอร์จับให้นั่งบนตักเขาเหมือนลูกสาวโซโลมอนเมื่อคืนนี้ พร้อมกับบรรยากาศในห้องที่ร้อนระอุขึ้นเรื่อย ๆ ท่าทางของลูซิเฟอร์ที่ก้มลงมาใกล้เธอในหัวนั้นช่าง... “ไม่ไหวแล้ว!”
และนั่นคือวินาทีที่เลือดกำเดาของเธอพุ่งออกมาราวกับเขื่อนแตก มิสึซากิรีบยกมือขึ้นปิดจมูกตัวเองทันที ใบหน้าของเธอแดงซ่านราวกับไฟลุก
“หืม?” ลูซิเฟอร์เลิกคิ้วมองเธอด้วยความสงสัย แต่สายตาของเขากลับมีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ซ่อนอยู่ “แค่พูดเท่านี้ เธอก็คิดอะไรไปถึงไหนแล้วล่ะเนี่ย? หรือว่า...สิ่งที่ฉันพูด มันโดนใจเธอ?”
คำพูดของเขาทำให้มิสึซากิเหมือนถูกโยนลงไปในหม้อเดือด ‘เขารู้เหรอว่าฉันคิดอะไรอยู่?!’ เธอพยายามจะตอบปฏิเสธ แต่ยิ่งทำให้เสียงของเธอสั่นจนพูดอะไรไม่เป็นคำ
“ไม่ ไม่ใช่นะคะ! ฉันไม่ได้คิดอะไรแบบนั้น!” เธอพยายามปฏิเสธสุดความสามารถ แต่ใบหน้าของเธอกลับฟ้องหมดทุกอย่าง
ลูซิเฟอร์หัวเราะเบา ๆ อย่างอารมณ์ดี “โอ้ จริงเหรอ? งั้นทำไมเลือดกำเดาเธอถึงไหลขนาดนั้นล่ะ?” เขาโน้มตัวเข้าใกล้เธออีกครั้ง มือของเขาเอื้อมไปจับปลายคางเธอเบา ๆ จนมิสึซากิแทบทรุด
“ถ้าคิดไปไกลขนาดนี้แล้ว... คืนนี้ฉันจะทำให้เธอรู้เอง ว่าฉันหมายถึงอะไรจริง ๆ” เขากระซิบเสียงต่ำ ใบหน้าของเขายิ้มมุมปากที่ทำให้มิสึซากิรู้สึกเหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจ
มิสึซากิในตอนนี้รู้สึกเหมือนกำลังจะละลายลงไปกับพื้น ‘ทำไมมันเป็นแบบนี้ไปได้!’ เธอคิดพลางปิดหน้าแน่น เลือดกำเดาไหลไม่หยุดจนเธอแทบจะหมดสติ
มิสึซากิยังนั่งพิงกำแพง พึมพำกับตัวเองอย่างลืมตัว หน้าขึ้นสีแดงจัดจนแทบกลายเป็นมะเขือเทศสุก เธอพูดไม่หยุดด้วยน้ำเสียงราวกับล่องลอยในโลกของตัวเอง
"แต่ทำไม… เขาถึงทำแบบนั้นได้นะ… หรือว่ามีเทคนิคพิเศษ? แล้วลูกสาวโซโลมอน…เธอคิดอะไรอยู่ตอนทำแบบนั้น? อา…ไม่ ไม่! ฉันจะไม่คิดเรื่องนี้แล้ว!"
อีกมุมหนึ่งไม่ไกลนัก กามิจิน, มาร์บาส, บัวร์ และมอแรกซ์ แอบมองดูมิสึซากิอยู่เงียบ ๆ แต่ละคนต่างกลั้นหัวเราะจนไหล่กระตุก
มาร์บาสกอดอกพร้อมกระซิบเบา ๆ กับมอแรกซ์ "นี่เธอกำลังสงสัยเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนอยู่สินะ?"
มอแรกซ์พยักหน้าเล็กน้อย "ดูเหมือนเธอจะไม่รู้ว่าเราเห็นทุกอย่างแล้วนะ… พวกเรายืนอยู่ข้างหลังท่านลูซิเฟอร์แท้ๆ แต่ดูเหมือนเธอจะลืมมองเราไปเลย"
บัวร์ยิ้มมุมปาก หรี่ตามองมิสึซากิที่ยังนั่งพึมพำกับตัวเอง "ขำดีนะ เหมือนเธอกำลังเถียงกับสมองตัวเองอยู่"
กามิจินยืนกอดอกพลางหัวเราะเบาๆ "แต่ถ้าให้เดา… เธอคงอยากรู้มากกว่านี้ล่ะมั้ง เห็นหน้าแดงแบบนั้นคงไม่ใช่แค่คิดธรรมดาแน่ๆ"
"งั้นเราควรบอกท่านลูซิเฟอร์ดีไหม ว่ามิสึซากิยังเก็บเรื่องเมื่อคืนมาคิดอยู่?" มาร์บาสเสนอความคิดเห็นพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
แต่บัวร์รีบส่ายหน้า "ไม่เอาหรอก ลูซิเฟอร์คงเล่นงานเธอหนักกว่าเดิมแน่ๆ ถ้ารู้ว่าเธอยังไม่เลิกคิด"
มอแรกซ์ยกมือแตะคางครุ่นคิด "ถ้าจะเล่นสนุกกับเธอหน่อย… เราแกล้งถามเธอเกี่ยวกับเรื่องเมื่อคืนดูดีไหม? ให้เธอเล่าความคิดของตัวเองออกมา จะได้ดูว่าเธอไปไกลถึงไหนแล้ว"
ทุกคนพยักหน้าพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเดินเข้าไปหามิสึซากิที่ยังไม่รู้ตัวว่าถูกแอบดูอยู่ตั้งแต่แรก…
"มิสึซากิ…" กามิจินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลแต่น่ากดดัน
มิสึซากิสะดุ้งเฮือก รีบหันมามองพวกเขาด้วยหน้าตาตื่นตระหนก "พะ…พวกนายมาตั้งแต่เมื่อไหร่!?"
แต่พวกเขากลับยืนล้อมเธอพร้อมรอยยิ้มขี้เล่น สร้างบรรยากาศที่ทำให้มิสึซากิแทบจะมุดดินหนีไปให้พ้นจากสายตาพวกเขา…
มิสึซากิสะดุ้งสุดตัวเมื่อเห็นสายตาทั้งสี่คู่จ้องเธออย่างเจ้าเล่ห์ เธอพยายามหาข้อแก้ตัวและหลบสายตา แต่ยิ่งพูดก็ยิ่งพลาด
"ฉัน… ฉันไม่ได้พูดอะไรสำคัญทั้งนั้น! พวกนายฟังผิดไปเองแน่ๆ!" เธอปฏิเสธลนลานพร้อมก้าวถอยหลังอย่างหวาดระแวง
มาร์บาสยิ้มบางๆ พร้อมกอดอกมองเธอ "จริงเหรอ? แต่เราคิดว่าได้ยินเธอพูดถึงอะไรที่เกี่ยวกับ… 'เมื่อคืน' นะ?"
มิสึซากิหน้าแดงก่ำแทบจะลามไปถึงหู รีบโบกมือปฏิเสธ "ไม่ใช่! ฉันไม่ได้พูดอะไรแบบนั้น!"
แต่ก่อนที่เธอจะหมุนตัวหนีไป กามิจินก้าวเข้ามาขวางพร้อมคว้าแขนเธอไว้แน่น "จะหนีไปไหนล่ะ? เราก็แค่อยากคุยด้วยเฉยๆ"
มิสึซากิดิ้นขลุกขลัก พยายามสะบัดแขนออก แต่กามิจินใช้แรงไม่มากก็จับเธอไว้ได้อย่างง่ายดาย "ปล่อยนะ! ฉันไม่ต้องการคุยอะไรทั้งนั้น!"
มอแรกซ์หัวเราะเบา ๆ "เธอดูตื่นตระหนกเกินไปแล้วนะมิสึซากิ เหมือนคนมีความลับอะไรอยู่เลยล่ะ"
"ใช่… หรือว่าเธอกำลังคิดเรื่องที่เห็นเมื่อคืนกันแน่?" บัวร์เสริมด้วยน้ำเสียงที่เจือความขบขัน
คำพูดนั้นทำให้มิสึซากิหน้าแดงยิ่งกว่าเดิม เธอรีบปฏิเสธเสียงดัง "ฉันไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้น! พวกนายเลิกยุ่งกับฉันสักที!"
กามิจินหัวเราะเบา ๆ พลางโน้มตัวเข้ามาใกล้ "งั้นเหรอ? ถ้าไม่ได้คิดอะไรจริง ๆ ทำไมถึงดูร้อนรนแบบนี้ล่ะ?"
มิสึซากิกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก พยายามสะบัดแขนออกอีกครั้ง แต่ไม่สำเร็จ เธออยากจะมุดดินหนีให้รู้แล้วรู้รอด แต่ถูกสายตาเจ้าเล่ห์ของพวกเขากดดันจนแทบหมดทางหนี…
''พวกนายมัน… ปีศาจชัดๆ!" เธอพึมพำเสียงเบา แต่พวกเขากลับหัวเราะเบาๆ ราวกับสนุกที่ได้แหย่เธอ
มิสึซากิที่พึมพำออกมาด้วยความลืมตัว "พวกนายมันปีศาจชัดๆ!" กลายเป็นที่มาของเสียงหัวเราะครืนจากทั้งกามิจิน มาร์บาส บัวร์ และมอแรกซ์
กามิจินยิ้มพลางยักคิ้ว "เธอลืมไปแล้วหรือไง ว่าตัวเองก็ปีศาจเหมือนกัน?"
มิสึซากิชะงักไปเหมือนเพิ่งนึกได้ ดวงตาเบิกกว้างก่อนจะหน้าแดงจัดกว่าเดิมอีกหลายเท่า "ฉันหมายถึง... พวกนายมันเลวต่างหาก! ไม่ใช่ในทางนั้น!"
มอแรกซ์หัวเราะเบาๆ "โอ้? แล้วทางไหนล่ะที่เธอคิดถึงอยู่?"
คำถามนั้นทำให้มิสึซากิรู้สึกเหมือนโดนต่อยกลางใจ เธอรีบสะบัดแขนออก แต่กามิจินก็ยังไม่ยอมปล่อยง่ายๆ
"ฉันไม่คุยกับพวกนายแล้ว! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!"
บัวร์เดินเข้ามาใกล้พร้อมเอียงศีรษะมองเธอ "เธอนี่ตลกดีนะ เมื่อคืนกล้าแอบดู แต่ตอนนี้กลับเขินจนแทบมุดดินหนี"
มิสึซากิแทบอยากจะร้องไห้ เธอกัดฟันพูด "ฉันไม่ได้ตั้งใจจะดูอะไรทั้งนั้น! พวกนายมัน…มัน…โอ๊ย!"
มาร์บาสส่ายหน้าเล็กน้อยด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ "แต่สายตาเธอตอนนั้นบอกอีกอย่างนะมิสึซากิ… หรือฉันควรเล่าให้เจ้านายฟังดีล่ะ ว่าเมื่อคืนเธอมองอะไรอยู่?"
คำพูดนั้นทำให้มิสึซากิสะดุ้ง เธอรีบพูดแทรก "อย่า! ฉัน…ฉันขอโทษ! อย่าบอกเขานะ!"
พวกเขายิ้มกว้างพร้อมกัน รู้สึกเหมือนได้เปรียบเธอเต็มที่ ส่วนมิสึซากิที่ยืนสั่นอยู่นั้นก็คิดในใจ "ใครช่วยเอาฉันออกไปจากตรงนี้ทีเถอะ!"
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!