NovelToon NovelToon

หัวใจรัก...พิชาภา

จุดเริ่มต้น

 

การกลับมาบ้านเกิดอีกครั้งในรอบหลายปี บรรยากาศตอนเด็กๆ แสงแดดอ่อนๆที่ทอดผ่านยอดไม้ยามเช้า กลิ่นอาหารที่หอมคละคลุ้งไปทั่วบริเวณบ้าน ทำเอาท้องของเธอร้องอย่างไม่มีเหตุผล ทั้งๆที่พึ่งดื่มนมมาไม่นาน ภาพบ้านไม้เก่าๆของครอบครัวเล็กๆที่มีพ่อ แม่ ลูก อยู่กันอย่างมีความสุข ทุกเช้าแม่จะหุงหาอาหารอย่างมีความสุขเพื่อเตรียมไว้รอพ่อกลับจากสวนมากินข้าวเช้าด้วยกัน พิชาภาเด็กน้อยอายุ5ขวบกะลังซนวิ่งเล่นอย่างมีความสุขรอพ่อกลับมา

จนวันนึงเมื่อแม่ผู้เป็นที่รักมาป่วยและจากไป ทั้งๆที่ตอนนั้นพิชาภาอายุพึ่งจะห้าขวบกว่าๆ ชีวิตแสนสุขก้อเปลี่ยนไปทันที พิชาภาถูกพาไปอยู่กะป้าที่ต่างจังหวัด โดยที่พ่อไม่เคยกลับมาเหลียวแลอีกเลย ทำให้พิชาภาต้องถูกเลี้ยงมาโดยป้าที่แสนจะใจดี สองป้าหลานอยู่กัน2คนมาตลอดอย่างมีความสุข อยู่ๆในวันจบการศึกษาก้อมีโทรศัพท์ทางไกลมาหาพิชาภา บอกให้มารับมรดกของพ่อที่เสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุ.

แม้พิชาภาจะไม่ได้เจอพ่อมานานมาก แต่ความรู้สึกอบอุ่นตอนที่พ่ออยู่กับเธอก้อยังเต็มตื้นอยู่ในหัวใจ

เมื่อคิดถึงใบหน้าของพ่อเวลาส่งยิ้มให้เธอและเดินเข้ามาอุ้มเธอไว้ในอ้อมกอดอย่างสุดรัก

พิชาภาลากกระเป๋าใบใหญ่ เดินเข้าเขตรั้วบ้านอันกว้างใหญ่มีอาณาบริเวณเกือบ200ไร่ มีบ้านหลังใหม่สวยงามตามสมัยนิยมปลูกทับบ้านไม้หลังเก่า

พิชาภามองอย่างเศร้าใจ ไม่มีอีกแล้ว บ้านหลังน้อยของครอบครัวที่เธอรัก

พอก้าวเข้าเขตรั้วบ้านก้อเจอเข้ากับผู้หญิงคนหนึ่งแต่งตัวจัดจ้านกะลังเดินจะไปขึ้นรถ ประเมินด้วยสายตาคงจะอายุประมาณ18-19ปี คงจะเป็นน้องสาวต่างมารดาของเธอเป็นแน่ พิชาภาคิดในใจ

แก้มบุ๋ม

"มาหาใคร" เสียงถามห้วนๆ

พิชาภา

"ไม่ได้มาหาใคร ชั้นเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้" ตอบอย่างมั่นใจในตัวเอง

แก้มบุ๋ม

"หือ!!เธอคือลูกพีชเหรอ" มองตั้งแต่หัวจรดเท้า

"เรียกชั้นว่าพี่พีช" ตอบกลับน้ำเสียงห้วนๆตามอารมณ์

แก้มบุม

"ใช่จริงๆด้วย" หน้าบึ้งเข้าไปอีก

"ก้อแค่ลูกเมียเก่าคุณพ่อ จะให้เรียกพี่ ฝันไปเถอะ" สะบัดบ๊อบใส่อีก

พิชาภา

"ไม่ว่าชั้นจะเป็นลูกเมียไหนแต่เรามีพ่อคนเดียวกันเธอเกิดทีหลังเป็นน้อง ต้องเรียกชั้นพี่สิ" หน้าบึ้งไปอีก

แก้มบุ๋ม

"ฝันไปเถอะ ชั้นเป็นลูกคนเดียว ไม่นับใครเป็นพี่ เข้าใจตรงกันนะ" เบะปากให้ มองบน

พิชาภา

"บ้านนี้เค้าเลี้ยงลูกเก่งจัง เลี้ยงยังไงให้ลูกมีนิสัยยังงี้เนี่ย" มองอย่างตำหนิ

กรกนก

"แกว่าใคร" เสียงแหลมเข้มจัดดังอยู่ด้านหลัง

พิชาภา

"ว่าคนที่เลี้ยงเด็กคนนี้น่ะค่ะ คุณรึเปล่าคะ ดูท่าทางร้อนตัว" หันมามองอย่างสำรวจ ผู้หญิงวัยกลางคนที่ยังสวยสด ใบหน้าถูกฉาบไว้ด้วยเครื่องสำอางค์ราคาแพง ริมฝีปากที่เคลือบไว้ด้วยลิปสติกราคาแพง ขยับขึ้นลงอย่างจีบปากจีบคอ

กรกนก

"เธอเป็นใคร บังอาจมาพูดยังงี้" ใบหน้าบึ้งตึงไปอีก

"หนูชื่อพิชาภา เดชบริรักษ์ค่ะ" ตอบชัดถ้อยชัดคำ

"อ๋อ...ยัยลูกสาวเมียเก่านี่เอง" เบะปากให้มองอย่างดูถูก

พิชาภา

"แล้วตกลงคุณเป็นใครละคะ ชั้นจะได้ตัดสินใจถูกว่าจะนับญาติยังไง" ถามน้ำเสียงเอาเรื่องทีเดียว ยังไม่ทันตอบอะไร

:เสียงรถมาจอดหน้าบ้าน

แก้มบุ๋มกับกรกนกก้อทำตาโตหน้าตาตื่นกลัวทันที

ผู้ชาย4คนลงจากรถมา แต่ละคนหน้าตาดุดันเอาเรื่องทีเดียว หนึ่งในนั้นเดินเข้ามาหาผู้หญิงวัยกลางคนคนนี้ที่ลูกพีชคิดว่าน่าจะเป็นแม่เลี้ยงเธอแน่ๆ แล้วมันก้อพูดออกมาน้ำเสียงดุดันทีเดียว

ชายแปลกหน้า

"อยู่กันครบนะวันนี้ ดีละกุจะได้ไม่ต้องเสียเวลา"

กรกนก

"พวกมึงมาทำไมอีก คุณพลก้อตายไปละ" ถามออกไปเสียงสั่นๆอย่างเห็นได้ชัด หน้าตาก้อซีดเผือดเดินมากอดลูกสาวทำท่าหวงแหน

คนแปลกหน้า

"เพราะมันตายน่ะสิ พวกกุเลยต้องมาหามึง"

กรกนก

"จะมาหาทำไม พวกเราไม่รู้เรื่องไรด้วย"

คนแปลกหน้า

"จะไม่รู้เรื่องได้ยังไง ตอนไปเอาเงินมึงไปกะผัวมึงด้วย มึงเป็นคนเซ็นค้ำด้วย อย่ามาทำหัวหมอ มึงไม่รู้จักนายกุเหรอ ถึงพูดยังงี้ หา!!!" เสียงตวาดกลับมาเสียงดังลั่น สองแม่ลูกตกใจตัวสั่นงันงก

กรกนก

"แต่ชั้นแค่ค้ำไม่ใช่คนกู้ ละอีกอย่างชั้นก้อเป็นแค่เมียที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ไม่ได้มีสิทธื์อะไร ชั้นไม่รับผิดชอบอะไรทั้งนั้น พวกแกอยากได้ก้อไปเอากับคุณพลสิ" ตอบกลับมาอย่างเกรี้ยวกราด

คนแปลกหน้า

"มันตายห่าไปละ จะให้กุไปเอายังไง มึงแหละต้องรับผิดชอบ มึงต้องไปหาเงินมาจ่าย ตอนไปเอากุเห็นระริกระรี้ พอตอนคืนทำไม่รู้เรื่อง เป็นยังงี้ตลอดมึงนึกว่าพวกกุใจดีมากรึไง" ทำหน้าเอาเรื่อง กระชาก2แม่ลูกออกจากกันอย่างแรง ทำเอา2แม่ลูกกระเด็นไปคนละทิศละทาง ล้มลุกคลุกคลานกันไป

แก้มบุ๋ม

"โอ๊ย!!" ล้มก้นกระแทกกับพื้นนั่งหน้านิ่วอยู่อย่างเจ็บปวด

กรกนก

"แก้มบุ๋ม!!เป็นไงมั่งลูก" รีบเข้าไปดูลูก

แก้มบุ๋ม

"เจ็บซิคะแม่ ถามได้" ร้องครวญครางหน้าตาเหยเก

พิชาภา

"ทำไมต้องทำรุนแรงไรแบบนี้ด้วย" จะเข้าไปช่วยอีกคน

คนแปลกหน้า

"ละนี่ใครอีกล่ะ อยากเจ็บตัวด้วยรึไงถึงได้เข้ามาเสือกด้วย" จะเข้ามาเอาเรื่องอีกคน

กรกนก

"จริงสิ!!" ทำท่านึกไรขึ้นได้ "นังนี่ไงล่ะที่เป็นลูกสาวที่แท้จริงของคุณพล พวกแกจะทวงก้อทวงกะมันสิ"

กะลังจะเข้าไปช่วยกรกนกก้อผลักออกมาอย่างแรงจนไอ้คนที่ยืนนิ่งอยู่อีกคนรีบเข้ามารับ แทบไม่ทัน มันเป็นหนึ่งในสี่คนที่ดูหน้าตาดีคมคายและสูงสง่าอย่างที่เรียกว่าหล่อและสมาร์ททีเดียว

คนแปลกหน้า

"นังนี่น่ะเหรอ" หันมาทางพิชาภา"แกเป็นลูกสาวไอ้พลวัฒน์เหรอ" ถามน้ำเสียงเกรี้ยวกราด

พิชาภา

"ใช่!!"ตอบอย่างไม่เกรงกลัวรีบถอยห่างออกจากคนที่เข้ามาประคองทันที

"พวกแกเป็นใคร มีสิทธิ์อะไรมาทำร้ายและข่มขู่คนในบ้านหลังนี้" ถามออกไปเสียงแข็งไม่ได้นึกเกรงกลัวอะไรเลย

คนแปลกหน้า

"กุก้อเป็นตัวแทนของเจ้าหนี้ของพวกมึงน่ะสิ รู้เอาไว้ซะด้วย" ทำหน้าเหี้ยมเดินเข้าหาอย่างคุกคาม

"หน้าตาสวยใช้ได้หนิ แบบนี้น่าจะพอขัดดอกได้ เห้ยพวกมึงจับตัวนังนี่ไว้ เอาตัวไปให้คุณอาชา เงินไม่ได้ได้คนไปก้อยังดีนะ คงจะพอขัดดอกได้ ดีกว่าไม่ได้ไรกลับไปเลย" อีกสองคนรีบเข้ามาจับ

เจ้าคนที่ช่วยพิชาภา เดินออกมาขวาง อีก2คนหยุดทันที

"พวกมึงไม่ต้องกุจัดการเอง" มันจับแขนของพิชาภาไว้มั่น พิชาภาหันมามองหน้าตื่น

พิชาภา

"พวกแกไม่มีสิทธิ์มาทำงี้นะ ที่พวกแกทำมันผิดกฎหมายนะ ชั้นจะแจ้งตำรวจจับพวกแก" ตวาดกลับอย่างไม่เกรงกลัว

คนแปลกหน้า

"5555 แจ้งตำรวจงั้นเหรอ ถ้าพวกกุกลัวตำรวจพวกกุคงไม่กล้ามาแต่แรกหรอก" มันหัวเราะได้อย่างน่าเกลียดสุดๆ

พิชาภา

"พวกแกจะจับชั้นไปไม่ได้นะ ชั้นยังไม่รู้เรื่องไรเลยต้องคุยกันก่อนสิ ชั้นพึ่งมาถึงยังไม่ทันเข้าบ้านเลยพวกแกก้อจะจับตัวไป บอกเหตุผลดีๆมาซิ ว่ามันเรื่องอะไรกัน" ถามออกไปอย่างไม่เกรงกลัว

คนแปลกหน้า

"ไอ้พลวัฒน์พ่อของมึงน่ะ มันกู้เงินคุณอาชาไป50ล้าน รวมต้นรวมดอก แล้วมันไม่จ่าย แล้วยังเสือกหนีไปตายก่อนด้วย "

พิชาภา

"หา!!!!50ล้าน" ตาโตตกใจกะยอดเงิน

คนแปลกหน้า

"ใช่50ล้าน ทีนี้พวกกุพอจะเอาตัวมึงไปขัดดอกได้ยังล่ะ"

พิชาภา

"ทำไมมันมากมายยังงั้นล่ะ ยืมไปทำไมตั้งมากมาย"

คนแปลกหน้า

"ก้อถามแม่เลี้ยงมึงดูสิ ไม่ก้อตามไปถามพ่อมึงในนรกโน่น จะมาถามกุทำไม กุคนทวงไม่ใช่คนยืม แม่งไอ้พวกยืมละไม่จ่ายเนี่ย พอทวงตอบแบบนี้ทุกที ยืมไปทำไร ไม่รู้เรื่อง ถุย!!!"

"ไม่ต้องพูดมาก เอาตัวไป" หันมาสั่งอีก

พิชาภา

"บ้านหลังนี้กะที่ดินแปลงนี้ราคาน่าจะเกือบ100ล้านชั้นว่าชั้นน่าจะขายมันใช้หนี้ให้พวกแกได้นะ" ต่อรองอีก

คนแปลกหน้า

"5555 บ้านหลังนี้กะที่ดินแปลงนี้น่ะเหรอ แม่เลี้ยงของมึงเอาโฉนดไปจำนองค้ำเงินกู้กะเจ้านายกุเรียบร้อยละ มึงไปอยู่ไหนมาถึงไม่รู้เรื่อง"

พิชาภา

"หา!!!!😲😲😲" หน้าซีดทันทีพอได้ยินอย่างนั้นหันไปหาคุณกรกนกตาขวาง

"เรื่องจริงเหรอคะคุณน้า"

กรกนก

"เรื่องจริงทุกอย่าง" ตอบหน้าตาเฉย

พิชาภา

"เงินตั้งเยอะแยะเอาไปทำไรกันคะ"

กรกนก

"ไปถามพ่อเธอสิ ทำงานยังไงให้บริษัทเจ๊งไม่เป็นท่า จนต้องเป็นหนี้เป็นสิน ต้องเอาสมบัติทุกอย่างไปจำนองแถมยังติดหนี้เป็นเงินอีกไม่รู้เท่าไหร่"

แก้มบุ๋ม

"ใช่ๆๆพ่อเธอน่ะ ทำงานเจ๊งเองอย่ามาโทษพวกเรานะ" ช่วยเสริมอีกคน

พิชาภา

"พ่อเธอ!!พูดอะไรน่ะ" ถามงงๆ

กรกนก

"เธอไม่ต้องสงสัยหรอก แก้มบุ๋มก้อแค่ลูกติดท้องชั้นไม่ใช่ลูกของเค้าหรอก" บอกหน้าตาเฉย

พิชาภา

"หา!!" ตกใจกะเรื่องที่ได้รับรู้

คนแปลกหน้า

"ไม่ต้องพูดไรกันละ ตกลงจะเอาไง จะไปดีๆรึให้พวกกุจับตัวไป"

พิชาภา

"ก้อได้ พ่อชั้นติดหนี้พวกแก ชั้นจะไปกะพวกแกแต่ขอเวลาชั้นไปไหว้กระดูกพ่อ-แม่ชั้นก่อนได้มั๊ย!!"

คนแปลกหน้า

"ไม่ได้ เกิดมึงหนีไป พวกกุจะทำไงล่ะ ไปกะพวกกุซะดีๆ" หันมาพยักหน้ากะลูกน้อง

คนแปลกหน้าอีกคน

"ไม่ต้องกุพาไปขึ้นรถเองพวกมึงไปจัดการ2แม่ลูกนั่นเหอะ" บอกน้ำเสียงเย็นชาสุดๆ

คนแปลกหน้า

"งั้นก้อได้ พวกมึง2คนไปจัดการขนของในบ้านทั้งหมดของ2แม่ลูกนี่ออกมาทิ้งแล้วปิดบ้านซะ"

กรกนก

"ปิดก้อปิดไปสิพวกเราก้อกำลังจะไปพอดีแค่บ้านหลังแค่นี้เราไม่สนใจหรอก ไปลูกไปหาที่อยู่ใหม่กัน อย่างน้อยๆก้อยังมีรถขับละวะ" กำลังจะพากันขึ้นรถ

คนแปลกหน้า

"เดี๋ยว!!" เดินเข้ามาขวาง 2 แม่ลูกหยุดกึก

"รถคันนี้ด้วย พวกมึงมาเอารถไป" เดินไปดึงกุญแจออกจากมือเฉย

กรกนก

"นั่นมันรถชั้นนะ" ตวาดแหว

คนแปลกหน้า

"ละไง...กุจะเอา" พูดจบเดินไปหน้าตาเฉย

กรกนก

"กรี๊ดๆๆพวกแกเอาไปจนหมด ละชั้นกะลูกจะทำไงล่ะ" ร้องอย่างกะคนบ้า

คนแปลกหน้า

"เรื่องของพวกมึงป่ะ" ตอบอย่างไม่สนใจ

กรกนก

"กรี๊ดๆๆ" ยังกรีดร้องอย่างไม่พอใจ

คนแปลกหน้า

"มึง2คนจะไปดีๆมะ รึอยากนอนไส้แตกเลือดนองพื้นอยู่ตรงนี้ รึอยากได้ผัวเพิ่มซัก2-3คน หา!!!" มันหันมาตวาดเสียงดัง

กรกนก

"หา!!!" รีบหุบปากทันที

แก้มบุ๋ม

"ไปเหอะค่ะแม่ หนูยังไม่อยากได้ผัวเพิ่ม วันนี้หนูไม่มีอารมณ์" พูดพลางหิ้วกระเป๋าออกไปยืนโบกรถหน้าบ้านอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก

กรกนกรีบลากกระเป๋าตามไปอย่างไว พอคนแปลกหน้าหันมาหาอีก

พิชาภามองหน้าคนตรงหน้าทำไรไม่ถูกพูดไม่ออก ชีวิตเธอกำลังจะไปได้ดีทำไมมาเจอเรื่องแบบนี้เนี่ย

พิชาภา

"พ่อนะพ่อ..ฮือๆๆๆ" ร้องออกมาเบาๆ

คนแปลกหน้า

"จะร้องทำไม น่าจะดีใจมากกว่านะ ที่ได้ไปอยู่กับคุณอาชา" บอกยิ้มๆ พิชาภาหันมองหน้าตอนเขายิ้ม นึกในใจ

พิชาภา

//ทำไมเขาดูมีความสุขจัง นี่ชั้นกะลังมีความทุกข์อยู่นะ// หน้าบึ้งใส่

คนแปลกหน้า

"ทำไม มองหน้า อยากมีผัวเป็นลูกน้องก่อนรึไง" ทำพูดเสียงเข้ม

"ตามมาดีๆอย่าให้ต้องใช้กำลัง" พาเดินไปขึ้นรถคันหรูขับออกไปหน้าตาเฉย

พิชาภา

"แกไม่ต้องรอไอ้พวกนั้นเหรอ" ถามอย่างสงสัย

คนแปลกหน้า

"ต้องรอทำไม" พูดพลางหันมายิ้ม

"ตอนนี้ชั้นอยากกลับไปอยู่กัน2คนกับเธอเร็วๆมากกว่า" หันมายิ้มอีก

พิชาภา

"พูดไรของนาย"ทำหน้างงๆ

//ทำไมดูคุ้นๆจังวะ// คิดพลางมองหน้าพลางๆสลับไปมาอย่างสงสัยไปตลอดทาง

คนแปลกหน้า

"มองหน้าทำไมรึอยากโดนตรงนี้" หันมามองยิ้มๆ

พิชาภา

//เวลายิ้มดูมีเสน่ห์เป็นบ้า// มองตาค้างไป

คนแปลกหน้า

"ทำหน้าแบบนี้ ชั้นว่า ชั้นคงรอไม่ไหวละ ขอซักนิดก่อนละกัน" หันหัวรถเข้าข้างทาง จอดแต่ไม่ดับเครื่องหันมาหาคนข้างๆที่มองเขาตาโตค้างอยู่

พิชาภา

"จอดรถทำไม" หันมาถามพอเริ่มรู้สึกตัว มองออกไปด้านนอกเห็นแต่ป่า2ข้างทาง

ยังไม่ทันได้ถามต่อ ก้อต้องตกใจตาโตอีกรอบ

พิชาภา😲😲😲

คนข้างๆถอดสายเบลท์แล้วหันมาจับท้ายทอยเธอให้หันไปหาเขา แล้วก้มลงมาหา กดจูบลงมาอย่างถนัดถนี่และตั้งใจ พิชาภาตกใจดิ้นขลุกขลัก ก่อนถูกเค้าเอาอีกมือดันตัวเธอให้แนบอกของเขาอย่างแนบชิด เขาจูบอยู่เนิ่นนานอย่างเรียกร้องและรุนแรง ในตอนแรกและเปลี่ยนเป็นนุ่มนวลในเวลาต่อมา พิชาภาเผลอครางออกมาเบาๆและอ้าปากรับจูบของเขาอย่างเต็มใจ เขาสอดลิ้นเข้าหารสหวานในปากของเธออย่างลืมตัว ทำเอาพิชาภาที่ไม่ประสีประสาต้องกลั้นหายใจอย่างไม่รู้ตัว พอเขาถอยออกมาก้อเล่นเอาเธอต้องหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่

พิชาภา

"เฮือก!!อึก.." หันไปหอบหายใจหยั่งกะคนจมน้ำพึ่งขึ้นมาเหนือน้ำได้ หน้าแดงอย่างไม่รู้ตัวทันที ทำไรไม่ถูก สั่นไปทั้งตัว

คนแปลกน้า มองเธอยิ้มๆอย่างพอใจ แล้วหันไปขับรถออกไป หน้าตาเฉย

 

ข้อตกลง

เขาขับรถออกไปอย่างตั้งใจไม่หันกลับมามองเธออีก พิชาภาได้แต่นั่งนิ่งพูดไรไม่ออก นั่งตัวสั่นเป็นลูกนกตกน้ำไปตลอดทาง มือที่ประสานกันบนตักเย็นเฉียบรู้สึกถึงความเย็นของแอร์ที่ผ่านช่องออกมา มันช่างเย็นยะเยือกจนจับขั้วหัวใจยังไงยังงั้น

เขาปรายตามามองคนข้างๆอย่างตั้งใจ ภาพสาวน้อยที่นั่งตัวสั่นเพราะความกลัว และความเขินอายของเธอทำให้เขาอดยิ้มไม่ได้ รสจูบของเธอยังติดปากเขาอยู่ มันทำเค้าหัวหมุนไปหมดละ เพราะต้องพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ที่กะลังก่อตัวขึ้นด้านล่างระหว่างขาหนีบทั้งสองข้างของเขา

เค้าต้องเก็บกดความรู้สึกอยากปลดปล่อยเอาไว้อย่างหนัก สายตามองเห็นป้ายโรงแรมและรีสอร์ตหลายๆแห่ง อยากจะเลี้ยวเข้าไปนัก แต่ก้อต้องสะกดกลั้นเอาไว้

เพราะกลัวจะเสียงานใหญ่และกลัวจะทำให้คนข้างๆตื่นตกใจหนักไปอีก

คนแปลกหน้า

"จะไม่พูดไรหน่อยเหรอ"

พิชาภา

"ชั้นต้องพูดไรล่ะ"

พูดออกมาหลังจากนั่งเงียบมาเป็นชั่วโมง

คนแปลกหน้า

"ก้อถามอะไรก้อได้ ที่เธอสงสัย รึอยากรู้"

"ขยับมาหน่อยก้อได้นะ ชั้นขับรถอยู่ คงไม่กินเธอหรอก" เขายิ้มออกมาเบาๆ

พิชาภา

"เมื่อกี้นายก้อขับรถอยู่ นายยังจอดรถแล้ว...."อายหน้าแดง บิดมือไปมาอีก

คนแปลกหน้า

"เธอหน้าแดงใหญ่ละ ...หึ..หึ.." เค้าหัวเราะออกมาเบาๆ

"จูบแรกละซิ" คำพูดนั้นทำเอาพิชาภาสะอึก

พิชาภา

"อึก!!..." กลั้นหายใจไปอีก มองจ้องมือตัวเองที่วางบนตักอย่างทำไรไม่ถูก

"มันน่าขำเหรอ กะอิแค่ไม่เคยจูบใครเนี่ย" พูดออกมาเบาๆ

คนแปลกหน้า

"ก้อแปลกน่ะสิ ดูเธอก้อไม่น่าจะเด็กละนะ ไม่น่าเชื่อ จะยังไม่เคยมีใครจูบ หน้าตาก้อออกจะสะสวย" หันมามองเสี้ยวหน้าหวานอย่างชื่นชมอีก

ดวงตากลมโตของเธอกระพริบขึ้นลงภายใต้ขนตางอนหนานั่นอย่างประหม่า แววตาที่ดูสดใสในตอนแรกตอนนี้สั่นระริกเหมือนดวงตาของลูกกวางน้อยที่กะลังหวาดกลัวอะไรบางอย่าง

แก้มใสๆนั่นออกแดงระเรื่อ คงกะลังอายอย่างหนักกับสิ่งที่เขาทำลงไปเมื่อไม่นานมานี้

เครื่องหน้าปากนิดจมูกหน่อยภายใต้ใบหน้ารูปไข่นั่น ช่างน่ามองจนไม่อยากละสายตาเลยทีเดียว

เขาเอื้อมมือไปดึงกันแดดด้านบนลงมากั้นแสงแดดที่สาดส่องเข้ามา จนผิวขาวๆนวลเนียนน่าสัมผัสของเธออมชมพูระเรื่อไปหมดเพราะไอความร้อน

พิชาภา หดตัวหนีสะดุ้งตกใจ เมื่อเห็นเขาขยับเข้ามาใกล้แค่เอื้อมเพื่อดึงกันแดดลง

พิชาภา

"คนที่เป็นลูกน้องอย่างคุณสามารถทำไรกะคนที่เป็นลูกหนี้อย่างชั้นก้อได้เหรอ" ตัดสินใจถามออกไป หลังจากที่เงียบมานาน

คนแปลกหน้า

"ก้อไม่นะ ไม่รู้สิอันนี้มันอยู่ที่ว่าลูกหนี้เป็นยังไงมากกว่ามะ" ตอบออกมายิ้มๆ

พิชาภา

"ยังไง" หันมองงงๆ

คนแปลกหน้า

"ก้อลูกหนี้อย่างคุณมันน่าทำอะไรๆน่ะสิ ไม่น่าถาม!!!"

พิชาภา

: เงียบกริบไปอึดใจ //แสดงว่าถ้าเกิดมันหื่นมาก้อสามารถทำไรก้อได้งั้นเหรอ//คิดในใจ

"อึ๋ย!!😖😖😖" แค่คิดก้อกลัวจนทำไรไม่ถูกละ

//แบบนี้จะทำไงดีวะเรา//

"แล้วตกลง เราจะไปไหนกันเนี่ย" ถามออกไปอีกเมื่อเห็นรถวิ่งออกถนนใหญ่ มุ่งสู่เส้นทางสายภาคใต้ของประเทศ

คนแปลกหน้า

"ก้อไปหาเจ้านายผมไง คุณอาชา เลิศมงคลศิริ"

พิชาภา

//ทำไมคุ้นๆชื่อกะนามสกุลนี้นะ//คิดในใจอีก

คนแปลกหน้า

"ไม่รู้จักคุณอาชาเหรอ" เขาถามกลับ

พิชาภา

"คุ้นๆแต่นึกไม่ออก" พูดออกมาตรงๆ

คนแปลกหน้า

"ก้อมาเฟียขาใหญ่ประจำภาคใต้ไง เจ้าของบ่อนคาสิโนบนเกาะส่วนตัวและเป็นเจ้าของท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ด้วย"

พิชาภา

"อ๋อ...ที่ข่าวว่าเป็นคนโหดเหี้ยมมากๆน่ะเหรอ" หันมาถามหน้าตื่น

คนแปลกหน้า

"คงไม่ใช่มั๊ง ไปเอาที่ไหนมาพูด"

พิชาภา

"ชั้นเคยดูข่าว เจ้าของซุ้มมือปืนที่เอาพวกทหารรับจ้างมาเป็นมือปืนไว้รับจ้างอุ้มฆ่าโดยเฉพาะ ตะละคนโหดๆทั้งนั้น" ทำหน้าตื่นกลัวไปอีก

คนแปลกหน้า

"ก้อรู้จักหนิ แล้วทำไมถึงปล่อยให้พ่อไปเล่นการพนันจนต้องกู้เงินแบบนั้นล่ะ" หันมาถามอีก

พิชาภา

"หา!!นายหมายความว่า พ่อชั้นกู้เงินไปเล่นพนันเหรอ"

คนแปลกหน้า

"ถูกต้อง!! " หันมามองอย่างสงสัย

"อย่าบอกนะว่าเธอไม่รู้"

พิชาภา

"ก้อไม่รู้น่ะสิ ถ้าชั้นรู้ ชั้นก้อต้องห้ามแล้วสิ ใครจะอยากให้พ่อตัวเองไปเล่นการพนันอย่างนั้นล่ะ"

คนแปลกหน้า

"แล้วทำไมเธอถึงไม่รู้ล่ะ"

พิชาภา

"ชั้นไม่ได้อยู่กะพ่อน่ะสิ"

"พ่อพาชั้นไปฝากป้าเลี้ยงตั้งแต่ชั้น 5 ขวบ หลังจากที่แม่ของชั้นเสีย ในรอบ 15 ปีชั้นพึ่งได้กลับบ้านนี่แหละ"

เขาหันมามอง ในแวบแรกพิชาภาหันไปสบตาพอดี รู้สึกถึงความอบอุ่นในสายตานั้น และดูเหมือนเขาจะสงสารเธอรึเปล่า ก้อไม่ค่อยแน่ใจนัก

คนแปลกหน้า

"มิน่าล่ะ มาบ้านนี้หลายครั้งละไม่เคยเจอ เจอแต่สองแม่ลูกนั่น"

พิชาภา

"ดูนายก้อไม่ใช่คนร้ายกาจอะไร นายช่วยชั้นหน่อยได้มั๊ย!!" ตัดสินใจพูดออกมาหลังจากครุ่นคิดอยู่นาน

คนแปลกหน้า

"ช่วยอะไร" ถามยิ้มๆเหมือนจะพอเดาถูก

พิชาภา

"ช่วยปล่อยชั้นไปได้มะ ทำเป็นว่าชั้นหนีไป รึชั้นกระโดดลงไปในน้ำหนีไปรึตายไปเลยก้อได้ ได้มะ" พูดออกไปละก้อต้องนั่งกลั้นหายใจลุ้นกะคำตอบอีก

"ว่าไงล่ะ อย่าเงียบสิ"

คนแปลกหน้า

"กำลังคิดอยู่" ทำท่าครุ่นคิด นานจนคนรอฟังรู้สึกหงุดหงิด หันมาจ้องหน้ารอคำตอบนิ่งอย่าลุ้นระทึก

รถติดไฟแดงพอดี เขาหันมามองคนข้างๆที่เอาแต่จ้องรอคำตอบเพลินๆจนไม่ทันระวังตัว จึงถูกเขาก้มลงหาจุมพิตเอาอีกรอบอย่างตั้งใจ

พอจะถอยออกก้อถูกเขากุมท้ายทอยไว้แน่น จนไม่สามารถถอยหลังได้

เขายิ้มออกมาอย่างมีเสน่ห์หลังจากถอยออกมา ดวงตาสีสนิมนั่นช่างกรุ้มกริ่มชวนให้คิดฝันไปไกลทีเดียว

พิชาภา

"นายจูบชั้นอีกแล้วนะ" แหวใส่ทันที

เขาหันมามองริมฝีปากอมชมพูนั่นที่กำลังสั่นระริกอยู่ยิ้มๆ

คนแปลกหน้า

"ก้อปากเธอน่าจูบ แถมยังหวานชะมัดเลยล่ะ ผมชักติดใจรสจูบคุณแล้วนะ" พูดจบก้อออกรถไปหน้าตาเฉย ปล่อยให้คนฟังนั่งลมออกหูอยู่อย่างโมโหสุดๆ

พิชาภา

"นายจูบชั้น 2 ครั้งละ"

"ตกลงนายจะช่วยชั้นมั๊ย!!" ถามอีก

คนแปลกหน้า

"แล้ว...ผมจะได้อะไรถ้าช่วยคุณ"

พิชาภา

"นายอยากได้อะไรชั้นจะให้ แก้วแหวนเงินทองชั้นพอมีมั่งแต่ก้อไม่มากหรอก แต่ถ้าขอคุณป้าคุณป้าคงให้แหละ ท่านรักชั้นมาก ท่านพอจะมีฐานะด้วยนะ ว่าแต่นายอยากได้เท่าไหร่ล่ะ" ถามยิ้มๆอย่างมีความหวัง

เขาหันมามองพอเห็นรอยยิ้มนั้นก้อถึงกับตะลึงไป แทบจะลืมหันกลับไปขับรถทีเดียว

พิชาภา

"ว่าไงล่ะ นาบจะเอาเท่าไหร่" ถามย้ำอีก

คนแปลกหน้า

"ผมได้เงินไปก้อไม่รู้จะได้ใช้รึเปล่า เพราะการปล่อยลูกหนี้รายใหญ่ไป โทษของผมก้อคงถึงตายเชียวล่ะ" ทำหน้าเครียดเหมือนคิดหนัก

พิชาภา

"ขนาดนั้นเลยเหรอ😲😲😲" หน้าตื่นไปอีก

คนแปลกหน้า

"แต่ถ้าคุณให้ผมมากพอผมก้ออาจจะลองเสี่ยงนะ"

พิชาภา

"จริงเหรอ!!! แต่นายต้องเสี่ยงมากนะ"

คนแปลกหน้า

"ก้อนั่นไง ผมถึงต้องยื่นข้อเสนอให้คุ้มๆหน่อยไง"

"เท่าไหร่ดีน้าาา" ทำท่าคิดๆๆๆ

พิชาภา

ลุ้นๆๆๆ แทบจะลืมหายใจ

"นายอย่าเรียกมากนะ ล้าน 2 ล้านคงพอได้ มากกว่านั้นคุณป้าคงไม่มี" 🙄🙄🙄

คนแปลกหน้า

"ว้า!!งั้นก้อไม่คุ้มสิ" ทำท่าถอนหายใจเซ็งๆ

"งั้นเอางี้!! 2 ล้านรวมกะตัวคุณด้วย ได้มะ" หันมาถามยิ้มๆ

พิขาภา

"นายจะเอาชั้นไปทำไร ชั้นทำงานไรไม่เป็นหรอกนะ"

คนแปลกหน้า

"ทำไม่เป็นก้อไม่ต้องทำ ผมค่อยทำเองแหละ " 😁

หันมายิ้ม

"ตกลงมะ"

พิชาภา

"ระยะเวลานานเท่าไหร่"

คนแปลกหน้า

"ซัก 1 ปีก้อพอ"

พิชาภา

"ถ้าชั้นไปอยู่กะนายอาชา เค้าอาจจะเอาชั้นไปขายหรือบังคับขืนใจชั้นไปตลอดชีวิต"

"ถ้าอยู่กะคุณ1 ปี มันก้อน่าจะคุ้มกว่านะ"

"ว่าแต่ ชั้นต้องทำไรมั่งล่ะ"

คนแปลกหน้า

"ผู้ชายกับผู้หญิง อยู่ด้วยกันเค้าทำไรกันล่ะ"

พิชาภา

"หา!!!!"ทำหน้าตื่นๆคิดหนักทันที

"ชั้นออกจะผอม หน้าอกก้อไม่มี แถมยังขาวซีดหยั่งกะศพ นายจะไหวเหรอ"

"คงไม่เหมาะมั๊ง นายออกจะหน้าตาดี รูปหล่อ หุ่นก้อสมาร์ทขนาดนี้ จะมามัวเสียเวลากะชั้นทำไม"

"ไปอยู่กะคนรักของนายไม่ดีกว่าเหรอ"

คนแปลกหน้า

"ผมรู้มานานละว่าผมอ่ะหล่อและหุ่นดีขนาดไหน"

"ผมจะตัดสินใจเอง ว่าผมจะนอนกะใครยังไง คุณไม่ต้องมาสอนผมหรอก" ทำท่าหงุดหงิดขึ้นมา

"ถ้าไม่ตกลงตามนี้ก้อยกเลิกเรื่องการช่วยไป ก้อแค่นั้น" ยักไหล่ทำท่าไม่สนใจอีก

พิชาภา

"นายอย่าพูดงั้นสิ ช่วยชั้นเหอะ นะๆๆๆ" กอดแขนอ้อนอย่างน่าเอ็นดู

"พระท่านบอกว่าช่วยชีวิตคนเหมือนสร้างเจดีย์ 7 ชั้นเชียวนะ นายคิดดูดีๆก่อนเหอะ"

คนแปลกหน้า

"ไม่ต้องพูดละ ถ้าไม่ตกลงก้อไม่ต้องมาพูด ปิดจ๊อบ!!" 😤😤😤

พิชาภาทำท่าคิดหนักถึงกะน้ำตาร่วงผล็อยลงมาอย่างไม่รู้ตัว น้อยใจกะวาสนาของตัวเองนัก

คนแปลกหน้า

"แล้วจะร้องทำไมละนั่น"

พิชาภา

"ก้อชั้นเสียใจ...ชั้นตัดสินใจไรไม่ได้เลย..ฮือๆๆๆๆ"

ซบหน้ากับฝ่ามือร้องออกมาอย่างเอาจริงเอาจัง

คนแปลกหน้า

"หยุดร้องๆหนวกหู ผมจะไม่ทนกับเสียงร้องไห้นะ...ขอบอก"

อยู่ๆก้อหงุดหงิดขึ้นมาโดยไม่รู้สาเหตุ

พิชาภา

"ฮือๆๆๆๆ" ยิ่งร้องดังขึ้นไปอีก

คนแปลกหน้า

หันมาตวาด

"บอกว่าให้หยุด!!!" ตวาดเสียงดังหยุดรถทันที

พิชาภาตกใจ หันมามองตัวสั่นงันงก หน้าซีดเผือด

คนแปลกหน้า

"โน่นก้อไม่เอา นี่ก้อไม่ได้ มันอะไรกันนักหนาวะ!!!"😤😤😤

เขาระเบิดอารมณ์ออกมา ทำเอาพิชาภาตกใจกลัวกลับไปนั่งขดตัว อยู่ข้างประตูเหมือนเดิม

"ตกลงจะเอาไง จะยอมไม่ยอม รีบบอกมา" ทำหน้าดุไปอีก

พิชาภา

"เอาก้อเอา "รีบตอบปากสั่น ตัวสั่น

คนแปลกหน้า

"พูดดีๆ" ตวาดมาอีก

พิชาภา

"เอาก้อเอาค่ะ!!!"😖😖😖

คนแปลกหน้า.

"ก้อแค่นั้น"

"งั้นเรามาทำความรู้จักกันก่อน"

"ชั้นชื่อเทวา เรียกคุณวา ก้อได้"

"แล้วเธอชื่ออะไร"

พิชาภา

"ชั้นชื่อ พิชาภา คุณพ่อกะคุณแม่เรียกลูกพีช" ตอบเสียงสั่น

คนแปลกหน้า

"งั้นผมจะเรียก ลูกพีช นะ ถ้าตกลงละ ผมก้อจะพาคุณหนีไป " ทำเสียงเข้มไปอีก

พิชาภา

"คะ...ค่ะ" ตอบเสียงสั่นๆ

ทำเอาคนข้างๆที่ทำเข้มใส่แทบกลั้นขำไม่อยู่ หันมามองยิ้มๆ

พิชาภา

"แล้วตกลงเราจะไปไหนกันคะ" ถามออกมาเสียงสั่น

คนแปลกหน้า

"จะหนีไง ผมจะพาคุณไปอยู่เกาะ บ้านญาติห่างๆของผม"

พิชาภา

"แล้วเรื่องเงินล่ะ"

คนแปลกหน้า

"ไม่เป็นไรไว้เสร็จงานครบ 1 ปี ค่อยให้ผมก้อได้"

พิชาภา

"ที่จริง คุณก้อดูใจดีนะ งั้นชั้นขอโทรหาคุณป้าชั้นก่อนไปเกาะได้มะ"

คนแปลกหน้า

"ค่อยไปโทรที่เกาะ"

พิชาภา

"ชั้นกลัวจะไม่มีสัญญาณ"

คนแปลกหน้า

"ไม่มีจริงๆน่ะแหละแต่ผมมีไวไฟส่วนตัวไม่ต้องห่วงเดี๋ยวจะจัดการให้เอง"

พิชาภา

"ออ..ค่ะ"

เกินห้ามใจ

ผ่านไปหลายชม.รถยนต์เก๋งสปอร์ตที่พิชามานั่งมาก้อมาจอดที่ท่าเรือแห่งหนึ่งในเวลาดึกพอสมควรละ

เทวา

"ลูกพีช ถึงแล้วครับ ตื่นเถอะ" เขาก้มลงมาปลุกที่ข้างหู

ไม่มีเสียงตอบรับมีเพียงเสียงหายใจสม่ำเสมอที่ดังรอดออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่มน่าจูบนั่น

"ลูกพีชครับ" เรียกอีกเบาๆที่ริมฝีปากแล้วประกบริมฝีปากลงไปอย่างตั้งใจ หนักหน่วงแล้วเลื่อนต่ำบงไป มือก้อควำไปที่อกอวบของสาวน้อยอย่างลืมตัว

พิชาภา

"อุ้ย!!กรี๊ด!!😲😲" พอรู้สึกตัวก้อกรี๊ดทันที เมื่อเห็นชายหนุ่มกะลังก้มๆเงยๆอยู่ที่อกอวบ

"คนบ้า!!นั่นคุณทำไรน่ะ" ถอยไปชิดประตู กำคอเสื้อไว้แน่นมองมาที่เขาอย่างหวาดกลัวสุดขีด

เทวา

"ก้อทดสอบสินค้าไง" เขาตอบยิ้มๆ

"ว่ายังสภาพดี พอจะคุ้มกับที่ต้องเสี่ยงรึเปล่า"

พิชาภาสบสายตาคมกล้าสีสนิมเหล็กที่ชวนให้หลงไหลนั่นอย่างลืมตัว

มันดูกรุ้มกริ่ม ชวนให้ขนลุกเมื่อคิดถึงว่ากะลังจะทำอะไร

พิชาภา

"จะมาทดสอบไรตรงนี้ล่ะ" หันมองรอบๆบริเวณ ที่ตอนนี้มีแต่ความมืด

"แล้ว" มองอย่างหวาดกลัว "ที่นี่มันที่ไหนละคะ ทำไมมันมืดจัง ชั้นกลัว"

"คุณคงไม่ได้คิดจะเอาชั้นมาฆ่าทิ้งหรอกนะ" ห่อตัวเข้าอย่างระวังตัว

เทวา

" คิดไรแบบนั้นล่ะ สวยๆอย่างคุณฆ่าทิ้งก้อเสียดายแย่สิ"

"สู้อยู่ให้ผมตักตวงความสุขจากตัวคุณซะให้พอ ไม่ดีกว่าหรอกเหรอ"

พูดพลางไล้นิ้วมือยาวเรียว ดูสวยไม่แห้งกร้านหยาบกระด้างเหมือนพวกลูกน้องทั่วๆไป ที่มักจะมือหยาบและกระด้างเพราะจับอาวุธและใช้งานบ่อยๆ

เข้าไล้นิ้วมือไปบนแก้มใสที่ตอนนี้อมชมพูเพราะความเขินอายอย่างลืมตัว

ความนุ่มนวลของวัยสาวชวนให้เข้าอดใจไม่ไหวขยับตัวเข้าหาอย่างไม่รู้ตัว

นิ้วเรียวไต่ไล้ไปที่ริมฝีปากอีกครั้ง วนอยู่อย่างนั้นอย่างลืมตัว

แล้วก้มลงไปหาอีกอย่างห้ามใจตัวเองไม่ไหว

เขาจูบเอาๆอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ อีกมือของเขาก้อดึงรั้งร่างบางให้หันมาหาเขาอย่างถนัดถนี่

จากที่ตั้งใจจะจูบเพียงเพื่อหยั่งเชิงดูในตอนแรก เขากลับห้ามใจตัวเองไม่ได้ จูบเรียกร้องขึ้นเรื่อยๆอย่างรุกเร้ารุนแรง ทำเอาสาวน้อยตัวสั่นชาวาบไปทั้งตัว

ฝ่ามือแข็งแรงของเขาลูบไล้อยู่ที่อกอวบอย่างที่ใจของเขาต้องการ

"อีกมือที่รองรับท้ายทอยอยุ่ก้อเลื่อนต่ำลงมาลูบไล้แผ่นหลัง และสอดเข้าไปใต้ชายเสื้ออย่างตั้งใจ

เขาเลื่อนปลายนิ้วไปปลดตะขอยกทรงอย่างชำนาญ จนพิชาภาเองยังแทบไม่รู้สึกตัวอะไรเลย

"อืมมม..." เสียงครางเบาๆเล็ดรอดออกมาจากเรียวปากอวบอิ่มอย่างลืมตัวเมื่อเขายกชายเสื้อม้วนขึ้นไปไว้เหนืออกทั้ง 2 ชิ้น โดยที่สาวน้อยยังหลับตาพริ้มเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบของเขา

และต้องสะดุ้งสุดตัว เมื่อรู้สึกได้ถึงความเย็นชื้นที่ครอบครองปลายยอดบัวตูมคู่งามของตนเองอยู่อย่างเมามัน ฝ่ามือของเค้าก้อวุ่นวนอยู่กับการกอบกุมอกอวบอีกข้างอยู่อย่างทะนุถนอม

พิชาภา

"อื้อ!!!" พยายามผลักใบหน้าหล่อที่ก้มๆเงยๆอยู่บนอกอวบอยู่อย่างยากลำบาก สิ่งที่เค้าทำเล่นเอาสาวน้อยที่ไม่เคยถูกใครล่วงล้ำแบบนี้มาก่อนถึงกับสั่นขนลุกไปทั้งตัว

มือไม้อ่อนปวกเปียก ใจสั่นไปอีก มันวาบหวิวในอกอย่างบอกไม่ถูก

พิชาภา

"พอได้แล้วค่ะ โอยยย.." พยายามดันใบหน้าของเค้าเอาไว้แต่มือเจ้ากรรมก้อไม่มีแรงเอาเสียเลย

"โอยยย " ครางออกมาเบาๆอย่างเกินจะเก็บกดไว้ได้ กัดริมฝีปากแน่น สะกดกลั้นอารมณ์รัญจวนที่เค้าปลุกเร้าขึ้นมาอย่างถึงที่สุด

แทนที่จะหยุดเขาก้อวกกลับขึ้นมาหาริมฝีปากอีก จูบแสนเร่าร้อนที่เค้ามอบให้ ทำเอามือไม้หมดเรี่ยวแรงไปอีก

ทำได้เพียงยกขึ้นดันหน้าอกแกร่งของเค้าเอาไว้เบาๆ

เขาจับมือบางให้พาดไปบนต้นคอของเขาแล้วซุกไซร้ลงมาตามลำคอระหงอีกอย่างลืมตัว

"อาาาาร์" เสียงครางไม่เป็นภาษาลอดออกมาจากริมฝีปากของเขา อย่างขาดๆหายๆ

พิชาภาพูดไรไม่ออกเมื่อโดนปลุกเร้าหนักขนาดนี้จากผู้ชายที่แทบจะไม่รู้จักเลยตรงหน้า

และต้องถดตัวหนีอย่างไว เมื่อมือเรียวของเขาปลดตะขอกางเกงยีนตัวเก่งของเธอและล้วงมือเข้าไปด้านหน้า

แทรกปลายนิ้วเข้าไปใต้ขอบกกน.ตัวจิ๋วของเธอ

อีกมือของเขาก้อปรับเบาะลงเป็นเอนราบแล้วขึ้นไปคร่อมอยู่บนตัวของพิชาภา

พิชาภาพยายามดันตัวไว้อีก

"พะ..พอ..พอก่อน" เสียงหวานลอดไรฟันออกมาอย่างยากลำบาก

"อืมมม" เขาครางออกมาเบาๆอย่างขัดใจ

พิชาภารวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดผลักอกหนาแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อเพียงสัมผัสภายนอกไว้

"ขอร้องค่ะ ครั้งแรกของชั้น "

"ขอไม่ใช่บนรถ ได้มั๊ยคะ" หลับตาพูดออกมาอย่างยากลำบาก

เขายอมหยุดอย่างขัดใจ แต่ก้อถอยออกมาโดยดี มองร่างบางที่ตอนนี้รีบจัดการกับเสื้อผ้าตัวเองอย่างเสียดาย

เทวา

"คุณทำเอาผม เสียการควบคุมตัวเองไปเลยนะ รู้มั๊ย"

"ทีแรกว่าแค่จะจูบ ชิมๆดูแต่แล้วผมกลับห้ามใจตัวเองไม่ได้เลย"

"บอกตามตรงผมอยากทำต่อ ร่างกายของคุณมีผลกับอารมณ์ผมมากๆ"

"ผมไม่เคยสติหลุดไปกับผู้หญิงคนไหนเท่าคุณเลย" เขาพูดยังมองมาที่ร่างบางอย่างเสียดาย

"เอาเหอะ!! ผมจะอดทนไว้ก่อน เรารีบไปลงเรือกันเถอะ" เขาพูดจัดการกดเบาะให้กลับมาเหมือนเดิมแล้วเปิดประตูลงไป อ้อมมาเปิดอีกด้านให้พิชาภาอย่างไว

พิชาภามองเขาอย่างแปลกใจ

พิชาภา

"คุณคงจะเปิดประตูให้เจ้านายจนเคยตัว คงลืมไปว่าชั้นเป็นแค่ลูกหนี้ที่คุณจับมาล้างหนี้"

พูดออกมาละ ก้อทำเอาใจหายแว้บ เมื่อเห็นแววตาเกรี้ยวกราดปรากฎขึ้นแว้บหนึ่ง บนดวงตาสีสนิมเหล็กนั่น

เทวา

"งั้นก้อรีบลงมา มัวโอ้เอ้อยู่ทำไมล่ะ" น้ำเสียงเขาเปลี่ยนไปทันที

เขาพาสาวน้อยไปหยุดอยู่ที่เรือที่จอดอยู่บนท่าเรือที่ไหนซักแห่งของภาคใต้

เรือยอร์ชลำหรูดูแล้วน่าจะของพวกเศรษฐี มากกว่าจะเป็นเรือโดยสาร

พิชาภา

"ทำไมเรือโดยสารหรูจัง" เผลอพูดออกมาเมื่อลงไปยืนอยู่บนเรือโดยมีเขาเดินนำเข้าไปอย่างคุ้นเคยยังกะเจ้าของ

"คุณทำยังกะเป็นเจ้าของเรือเลยนะ" เอ่ยขึ้นมาอีก

เทวา

"อย่าพูดมาก รีบหาที่นั่งเข้า ผมจะไปดูคนขับเรือ หน่อย"

"คงจะหลับอยู่ตรงไหนซักแห่ง" เดินหาอย่างปากว่า

พิชาภาเดินลงไปสำรวจอย่างละลานตาละลานใจ มันดูหรูหรา เกินกว่าลูกน้องกระจอกๆอย่างเขาจะมีได้

เทวา

"ไอ้โหนด!!!"เสียงเขาดังอยู่อีกด้านของเรือ

พิชาภาเดินตามไปดู เห็นเด็กหนุ่มตัวดำๆผมหยิกๆ ดูยังไงๆก้อไม่น่าจะอายุเกิน 15 ยังดูเด็กมากๆ

เขาตบที่ขาแรงๆเพื่อปลุก แต่ยังไม่รู้สึกตัว เขาดึงแขนอย่างแรงทำเอาร่างผอมบางของเด็กหนุ่มหล่นตุ๊บลงมา

"โอ๊ย!!" เด็กหนุ่มร้องออกมา

โหนด

"นายหัว😲😲😲!!!" เด็กน้อยส่งภาษาสำเนียงใต้ออกมา. ตกใจตาลีตาเหลือกไปอีกเมื่อเห็นว่าเป็นใคร

"มาถึงแล้วเหรอครับ"นั่งกะพื้นพูดอย่างนอบน้อม

เทวา

"ยังมั๊ง" ตบหัวอีกที "กุยังไม่มา ละหมาไหนที่ยืนอยู่นี่ ห๊ะ!! บอกให้เตรียมเรือรอ มาหลับเฉย ไปขับเรือไป" ตบหัวอีก2-3ที เด็กหนุ่มยิ้มแหะๆให้คนที่มันเรียกว่านายหัวแล้วหันมายิ้มกะเธออย่างกว้างขวางชนิดที่เห็นฟันทุกซี่กันเลยทีเดียว

โหนด

"ครับๆๆนายหัว" รีบลุกขึ้นโค้งคำนับวิ่งแจ้นไปประจำที่แล้วสตาร์ทเครื่อง

"หลบเกาะเลยช่ายม้ายคับ!!เด็กหนุ่มส่งภาษาอีก

เทวา

"ไม่มั๊ง!!" เขาหันมาดุอีก"ไปหาพ่องมึงก่อนดีมะ" เขาทำตาดุไปอีกทำยกมือจะไปตบอีก

โหนด

"โอ๊ะๆๆ พ่อผมตายไปหลายปีแล่ว นายหัวกะรู้" ส่งสำเนียงมาอีก ยิ้มอย่างกวนๆให้คนที่มันเรียกนายหัวอีก

"คนนี้สวยเด็ดไปเลย นายหัวเฮ้อ!!นางฟ้าชัดๆ"

เด็กหนุ่มพูดและหันมายิ้ม

เทวา

"ไม่ต้องเสือก!!มีหน้าที่ขับก้อขับไป" ดุใส่อีก

โหนด

"เอ๊า!!ก้อสวยจริงๆ ผมกะอดชมม้ายด้าย" พูดลากเสียงกวนๆ หันมายิ้มหวานให้พิชาภาอีก

พิชาภายิ้มตอบอย่างหวานหยดเช่นกัน เค้าหันมองแล้วเดินมารั้งเอวบางเข้ามากอด

เทวา

"ยิ้มแบบนี้น่ะ เอาไว้ยิ้มให้ผม คนเดียวพอ😤😤"

พิชาภา

"ไรของคุณ ชั้นแค่ยิ้ม🙄🙄" มองท่าทางของเค้างงๆ

เทวา

"แค่ยิ้มก้อไม่ได้" ดันให้ร่างบางเยียดเข้าหาอกหนาอีกอย่างหงุดหงิด

"จำไว้นะ ผมห้ามคุณห้ามยิ้มแบบนี้ให้ใครอีก ลูกพีช" ทำหน้าดุอีก

พิชาภา

"ไรของคุณ ก้อแค่ยิ้มป่ะ" มองงงๆ

เทวา

"ไม่ต้องพูดมาก คุณตัดสินใจมาอยู่กะผมละ ไม่ต้องพูดไรละทำตามคำสั่งของผมก้อพอ" หน้าบูดไปอีก

เขากอดพาเดินไปนั่งบนหัวเรือที่มีเก้าอี้นอนวางเรียงรายอยู่2-3ตัว พึ่งสังเกตุเห็นว่าบนเรือมีสระน้ำเล็กๆด้วย น้ำใสน่าอาบมากๆ

พิชาภามองตาละห้อย เพราะอยากอาบน้ำเต็มที

ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้คงดึกพอสมควรละ เธอยังไม่ได้อาบน้ำเลย เทวาหันมองอย่างรู้ทัน

เทวา

"อยากเล่นน้ำป่ะล่ะ" เขาถามออกมา

พิชาภา

"ได้เหรอคะ😁😁"ถามอย่างไม่แน่ใจยิ้มออกมาอย่างดีใจ

เทวา

"ได้สิ." เขาหันมาบอกยิ้มๆอีก

พิชาภา

"แต่คงไม่ได้ ชั้นไม่ได้เอาเสื้อผ้ามา"

เทวา

"ดึกป่านนี้ละ มืดๆใครจะเห็น"

พิชาภา มองไปรอบๆ ที่ปกคลุมไปด้วยความมืดและมีแต่ทะเลสีดำรอบๆตัว คิดๆอยู่เค้าก้อหันมาจับเธอถอดเสื้อผ้า

พิชาภา

"อุ้ยๆๆ" รีบดึงคอเสื้อไว้

เทวา

"จะอายไร ไอ้โหนดมันขับเรืออยู่ ผมไม่สั่งมันไม่กล้ามาแถวนี้หรอก" จับถอดๆๆ

พิชาภา

"คุณน่ะ" มองอายๆ

เทวา

"ก้อเห็นหมดแล้วป่ะ ตะกี้ ยังจะอายไร" พูดอมยิ้มอย่างมีเลสนัย

พิชาภา

"ไม่เอา. ชั้นอาย" ยังยืนบิดอยู่

เทวา

"ถอด ละลงไป" ทำหน้าเหี้ยมใส่😤😤

พิชาภา🙄🙄🙄

"ไรของเค้าวะ ตะกี้ยังยิ้มดีๆอยู่" บ่นออกมาเบาๆ

เทวา

"เร็วสิ!!" ตวาดมาอีก

พิชาภารีบลนลานถอดเสื้อผ้าจนเหลือแต่ชุดชั้นในตัวน้อย 2 ชิ้น เขานั่งมองอย่างตะลึงงัน พอเห็นชัดๆยังงี้ รอยยิ้มผุดขึ้นมาที่มุมปาก ทำเอาพิชาภาถึงกับขนลุกซู่ไปทั้งตัวอีก

เทวารั้งร่างบางเข้ามาหาเขากอดเอวบางไว้แน่นดันให้อกอวบเบียดเข้ามาหาช่วงใบหน้าของเขา แล้วละดมปากและจมูกลงมาหา อย่างเกินห้ามใจ

พยายามดิ้นจะให้หลุด เขากลับพลิกตัวให้ร่างบางเอนลงไปกับเบาะนอนข้างๆ แล้วทั้งจมูกทั้งปากก้อระดมจูบไปทั่ว ฝ่ามือหนาก้อลูบไล้แผ่นหลังอย่างปลุกเร้าอารมณ์ไปอีก

เทวา

"อาาาร์" เขาครางออกมาอย่างถูกใจ

พิชาภา

"อืมมม "ครางออกมาอย่างลืมตัวเช่นกัน

เทวา ลงมือลูบไล้ไปทั่วตัวจนมาหยุดที่อกอวบส่งปลายนิ้วไปปลดตะขอยกทรงตัวจิ๋วของเธอ แล้วดึงออกไปอย่างรวดเร็ว แล้วระดมจูบลงมาที่ยอดอกงาม มือและปากทำงานประสานกันอย่างชำนาญ

"อืมมม" เขาครางออกมาอีก

"อาาาาร์" เสียงครางประสานกันอยู่

ขณะที่ปากก้อระดมจูบทำเอาสาวน้อยอ่อนปวกเปียก มืออีกข้างก้อไต่ลงไปหาชั้นในตัวบางที่แทบจะกั้นอะไรเอาไว้ไม่ได้ เขาไล้ฝ่ามือเบาๆที่จุดกึ่งกลางนั่น

พิชาภา

"อือ..."ครางออกมาเบาๆ

เทวา

" ครางออกมา ไม่ต้องเก็บกดเอาไว้ สาวน้อย" เขาบอกเสียงสั่น

"โอยยย ผมต้องการคุณ ลูกพีช"

เขาบอก พิชาภาใจเต้นโครมครามทำไรไม่ถูก เมื่อเขาดึงชั้นในตัวบางที่เป็นปราการด่านสุดท้ายออกไป แล้วไล้มืออยู่ตรงนั้นอย่างเรียกร้องและปลุกเร้า

พิชาภา

"ไหนคุณว่าจะให้ชั้นลงเล่นน้ำไง" ถามออกไปอายๆ

เทวา

"ขอผมสนุกกับตัวคุณก่อน" เขายังก้มหน้าก้มตาทำตามใจตัวเองต่อไป

เขาขึ้นคร่อมแล้วจูบอย่างเรียกร้อง มือก้อปลุกเร้าอารมณ์อยู่ที่อกอวบ สาวน้อยครางออกมาเบาๆ

"อาาาร์" เสียงหวานดังประสานกะเขาไปอีก

เขาไล่จูบลงไปเรื่อยๆตามลำคอและลาดไหล่ ดูดขบเม้มแรงๆ จนห้อเลือดตามปากไป เลาะเล็มลงไปเรื่อยๆจนถึงอกอวบ เขาอ้าปากครอบครองปลายยอดอย่างเต็มอารมณ์ มือนึงก้อเคล้นคลึงอกอวบ อย่างถึงอารมณ์ อีกมือก้อไล้ไปตามเรียวขาและเนินเล็กๆนั่นอย่างเรียกร้อง เขาสอดปลายนิ้วเล้าไปหาอย่างตั้งใจ

พิชาภา

"อ๊ะ!!" เสียงเธอกรีดร้องออกมาเบาๆ

เทวา

"คุณสุดยอดมากๆเลยลูกพีช" เขาเงยหน้าขึ้นมาหายังไล้นิ้วอยู่ที่จุดสงวนอย่างหนักหน่วง

พิชาภา

"อื้อ..อื้มม!!"ครางอย่างลืมตัวแอ่นตัวขึ้นอย่างสุดจะต้านทาน เมื่อเขาทำนิ้วเข้าออกอย่างตั้งใจ

"อื้อ!!!!😖😖😖" ครางออกมาเสียงดัง เขายิ้มแล้วก้มลงจูบไล่ตามลงมาจนถึงจุดที่มือหนากะลังวุ่นวนอยู่

เทวา

"อาาร์ สวยงามจริงๆ" เขาก้มลงไปหาอย่างตั้งใจแล้วทั้งมือและปากก้อทำงานประสานกันอย่างชำนาญ

พิชาภาแอ่นอกบิดไปมาอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้

"...โอยยยย...อาาาร์..."ครางแทบไม่เป็นภาษาเลยทีเดียว

"โอยยยย...พะ..พะ..พอ..ได้มั๊ย!!" พยายามห้าม

"ชะ..ชั้น..ใจจะขาดแล้ว..โอยยย" แอ่นตัวบิดไปมา

เขาเงยหน้าขึ้นมามองยิ้มกริ่ม

เทวา

"ผมจะทำให้คุณกรีดร้องอย่างไม่รู้ตัว คุณจะได้รู้ว่าสวรรค์มันเป็นยังไง" ยิ้ม และก้มลงไปหาอีก

พิชาภาหลับตาปี๋ อย่างเกินต้านทานอารมณ์หวามไหวกัดริมฝีปากแน่น แอ่นตัวเข้าหาเขา จิกเล็บกับไหล่แน่นนั่นอย่างลืมตัว

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!