แสงตะวันใกล้ตกดินผ่านกระจกผู้โดยสารบนรถบัสคันหนึ่ง
รถเคลื่อนเข้าสู่เขตป่าใหญ่และผ่านไปด้วยทุ่งหญ้ากว้างๆ
ชายผู้นั่งค้ำคางเหม่อมองหมู่เมฆาเคลื่อนคล้อยตามเขาไป
Luka (ลูก้า) หยิบโทรศัพท์ขึ้นเผยให้เห็นข้อความของเพื่อนสนิทที่ทักเข้ามา
Marcus (มาร์คัส) ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบด้วยความคิดถึง เพราะเนื่องจากหลังเรียนจบมา ก็มีแค่เบอร์โทรศัพท์หรือมากสุดคือการวิดีโอคอลหากัน แต่ถึงกระนั้น ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ยังไม่ผันแปรไปตามกาลเวลา
เมื่อจิ้งจอกเขียวถึงปลายทาง รถเก๋งสีดำพร้อมกับจิ้งจอกผมม่วงผิวสีครีมโบกมือมาแต่ไกล
ลูก้าเดินไปยังรถคันดังกล่าวและนั่งข้างๆ คนที่อยากพบเจอมานาน
จากนี้ เขาจะได้อยู่ที่นี่ถาวร ไม่ต้องทำงานไกลอีกแล้ว
หมู่บ้านแห่งนี้ มองไปทางไหนก็มีแต่หลังคาสีชมพู ทุกหลังเหมือนกันหมด
แสงสีชมพูยามใกล้ค่ำ มันดูสวยกว่าที่อื่นๆ ที่เคยเห็นมา
จนเมื่อรถเคลื่อนไปที่ซอย 4 พร้อมตรงไปยังบ้านหลังหนึ่ง โดยหน้าบ้านจะปลูกดอกทานตะวันและโต๊ะกินข้าวนอกบ้าน
มาร์คัส : เราถึงแล้วก้า ยินดีต้อนรับกลับ
ลูก้า : อันที่จริงมึงส่งกูไปอยู่คอนโดก็ได้นะ
มาร์คัส : ไม่เป็นไร กูซื้อบ้านที่นี่เพื่อรอมึงโดยเฉพาะเลย เชื่อป่ะ ว่าที่นี่มันไม่เหมือนหลายปีก่อนแล้วนะ แม่งเจริญขึ้นเป็นหลายเท่า
ลูก้า : จริงของมึง ที่นี่ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะ
มาร์คัส : เอาล่ะ เข้าบ้านกันเถอะ ว่าแต่...มึงได้กินไรมายัง
ลูก้า : ยัง
มาร์คัส : เค เดี๋ยวกูทำกับข้าวแล้วก็...มึงทำตัวตามสบายได้เลย
ลูก้า : เอิ่ม...ให้กูช่วยไรมั้ย
มาร์คัส : ไม่ต้องก็ได้ กับข้าวแค่ไม่กี่อย่างเอง แล้วก็รีบๆ เข้าบ้านได้แล้ว ตอนนี้มันใกล้จะมืดลงทุกที
แนะนำตัวละคร
Luka (ลูก้า, ก้า)
อายุ 25 ปี
เพศชาย
จิ้งจอกเขียว
รับจ้างวาดรูป (Comission), นักเขียน
Marcus (มาร์คัส, มาร์ค)
อายุ 25 ปี
เพศชาย
จิ้งจอกผมม่วงผิวสีครีม
เกษตรกรรม, ค้าขาย
POV : Luka
ยามเช้าเริ่มแรกของฤดูหนาว
กลิ่นหอมอบอวลพัดผ่านพร้อมสายลมอ่อนๆ
การวิ่งออกกำลังกายรอบบ้านพร้อมกับกลิ่นพญาสัตบรรณบินผ่านหน้าคล้อยตามสายลมอ่อนๆ ทำให้ผมรู้สึกสดชื่นและอารมณ์ดี
แต่ตรงกันข้ามกับมาร์คัสที่ตื่นเช้ามาพร้อมกับเสียงโอดครวญของเขา
ไม่แปลกใจที่ตอนกลับบ้านหลังจากออกกำลังกาย จึงจะเห็นเขานั่งกินข้าวเหมือนร่างกายไร้พลังงาน
“แม่งเอ้ย...กูเกลียด กูเกลียดกลิ่นนี้ชิบหาย ใครมันมาเอามาไว้ในสวนกูวะ!!”
ผมเดินมานั่งข้างๆ เขาและกินข้าวที่เขาเตรียมให้ ในขณะนั้นตาสีม่วงของเขากรอกมามองหน้าผม
“มึงไม่เหม็นดอกไม้เชี่ยนี่หรอ โอยยย...เหม็นชิบหาย”
ผมมองหน้าเขาพร้อมกลับตอบกลับ
“กูว่ามันก็สดชื่นดีนะ”
ทันทีทันใด เขาเบิกตากว้างและอุทานด้วยความแปลกใจพร้อมกับไม่เชื่อปนกัน
“สดชื่น!? ห้ะ!? จมูกมึงพังแล้วหรอวะ? มึงไม่เหม็นเลยหรอ”
“ใช่ กูว่ามันก็ไม่ได้เหม็นขนาดนั้น ว่าแต่มันอยู่ในสวนมึงอยู่แล้วไม่ใช่หรอ ตอนมึงทำสวนครั้งแรก มึงอาจจะสร้างตรงที่มีต้นตีนเป็ดอยู่ก็ได้ อีกทั้งบ้านมึงอยู่ใกล้สวนด้วย”
เขาพยักหน้าและผมก็เข้าใจว่ามันคงหดหู่สำหรับเขา
มือขวาผมคว้าแขนของอีกฝ่ายขึ้นรถพร้อมกับออกจากบ้านไปในตอนนั้น
ระหว่างทาง
มาร์คัส : มึงจะพากูไปไหน
ลูก้า : ขี่รถเล่นน่ะ เผื่อมึงรู้สึกดีขึ้น
มาร์คัส : มั่นใจนะ แล้วมันจะช่วยเรื่องจมูกกูได้หรอ?
ลูก้า : อย่างน้อยมึงก็ไม่ต้องมานั่นมานอนโอดครวญทรมานจิตใจตนเองหรอก เผลอๆ มึงก็ได้กลิ่นนี้น้อยลง เอางี้ มึงใช้ยาดมกู
มาร์คัส : ขอบคุณมากเลยนะ
ห้างสรรพสินค้า
ผมกับมาร์คัสเดินมาตรงโซนอุปกรณ์และข้าวของเครื่องใช้ตกแต่งบ้าน
ก้านไม้หอมปรับอากาศเข้ามาเตะตาผมจนมองดูมันหลายๆ แบบ
มาร์คัสเห็นแบบนั้นก็แตะไหล่ผม
“ซื้อเลย...กูรอเวลานี้มานานแล้ว...เวลาที่กูจะอยู่กับกลิ่นที่พึงประสงค์!”
ผมก็เพิ่งเห็นเขายิ้มก็ตอนนี้แหละ ผมหมายถึงวันนี้นะ
หลังจากนั้น เพื่อนผมก็ชวนไปมุมนั้นที มุมนี้ที จากเดิมที่มีแค่ก้านไม้หอม เพิ่มเติมคือมีหมอนข้าง, เสื้อผ้าใหม่, ตุ๊กตาและวัตถุดิบที่ใช้ประกอบอาหาร
ระหว่างทางกลับบ้าน
เพื่อนผมนั่งผ่อนคลายแทบจะหลับเลยล่ะ
แต่หายนะทางอากาศก็กลับมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้จะหดหู่กว่าเดิม
เมื่อทางปกติมีอุบัติเหตุอยู่ ผมเลยเลือกไปอีกแยกและอ้อมเพื่อความสะดวก
ระหว่างทางไป เสียงโอดครวญดังตลอดทางจนผมเริ่มรำคาญ
และยิ่งอยู่เลนถนนที่ใกล้ต้นตีนเป็ด เพื่อนผมแทบอยากจะตายให้ได้
มาร์คัส : มึง...กูจะตายห่าแล้ว! ช่วยเร่งรถได้มั้ย!
ลูก้า : กูเร่งแล้ว! และก็เลิกส่งเสียงเหมือนวัวโดนเชือดได้มั้ย!
มาร์คัส : กูจะทำได้ก็ต่อเมื่อกูผ่านต้นไม้บ้าๆ นี่ไปแล้ว!
ลูก้า : กูรู้ว่ามึงเกลียดขนาดไหน แต่อดทนก่อน
กูจะบ้า...กูจะบ้าไปกับมันนี่แหละ
ที่บ้าน
เมื่อผมนอนบนโซฟาพร้อมกับดูรายการเดิมๆ ที่ฉายผ่านโทรทัศน์
มาร์คััสเดินมานั่งข้างผมและอ่านหนังสือของเขาแบบที่เคยทำ
“ลูก้า มึงมีวิธีไหนบ้างที่จะกำจัดต้นเชี่ยนี่”
มันยังไม่เลิกคิดถึงเรื่องนี้หรอวะ?
“มึงควรจะจ้างคนมาตัดต้นตีนเป็ดสิ”
ทันใดนั้น เขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรไปจ้างคนมาตัดต้นไม้
พอถึงวัน
ขณะที่เขายืนใส่แมสก์กอดอกมองดูต้นไม้
ตัดน่ะไม่เท่าไร แต่ไม่รู้ว่าเขาทำอีท่าไหนต้นไม้ถึงล้มไปทับทุ่งข้าวโพดที่ปลูกไว้
มาร์คัสมองดูทุ่งข้าวโพดที่ถูกทำลายด้วยความตกใจปนโกรธ
หลังจากวันนั้น มาร์คัส ก็เริ่มตัดต้นข้าวโพดหมดทุ่งและปลูกใหม่หมด
“ไอ้ต้นไม้เวร มึงทำให้กูดูแย่ กูจะจำมึงในบัญชีดำว่ามึงคือต้นไม้แห่งการทำลายล้าง”
ผ่านจากความวุ่นวายแห่งอารมณ์สู่ความสงบผ่านกลิ่นก้าน
ช่วงเช้าของวันเสาร์ เพื่อนผมปลูกต้นไม้เล็กๆ หน้าบ้าน
วันนี้วันพระ อารมณ์และท่าทางของเขาก็จะดูสงบๆ กว่าวันอื่นๆ (นั่งสมาธิทั้งวัน)
และในวันเดียวกัน กับข้าวช่วงเช้าหมดพอดี พอไปซื้อข้าวกล่องและนำมาวางที่โต๊ะกินข้าวข้างๆ ห้องครัว
ผมขึ้นไปเคาะประตูที่ห้องของมาร์คัส
ทันทีที่สิ้นเสียง เขาเปิดประตูออกมาและยิ้มแย้มอย่างกับเขาได้สัมผัสสวรรค์
มาร์คัส : มีอะไรหรอจ๊ะ?
ลูก้า : คือกูซื้อข้าวกล่องมา มึงจะลงไปกินตอนนี้มั้ย
มาร์คัส : กินก่อนเลย เดี๋ยวไปกินทีหลัง
2:00 PM.
การงีบคือการทำให้ร่างกายได้พักผ่อนและมีประสิทธิภาพ
ไม่นานความเงียบกลับถูกแทนที่ด้วยความดังของมาร์คัสที่ตกใจกับอะไรบางอย่าง
มือขวาบิดประตูพร้อมดันเข้าไป สัตว์แปดขากระโจนใส่หน้าหงายหลังล้มกระแทกพื้นและไม้กวาดบนซ้ายมือมาร์คัสพุ่งฟาดเข้าใบหน้า
“มันไปยัง!!?”
เค...ตบะแตกจนได้เพราะแมงมุม
“มึงเป็นบ้ารึไงมาตีหน้ากูเนี่ย!?”
“แล้วมึงจะเปิดประตูทำห่าอะไร!?”
จากนั้น เขาก็ไล่ตีแมงมุมไปทั่วบ้าน...วุ่นวายสุดๆ
Night
“มึง กูจะทำไงดี คืนนี้กูนอนไม่หลับแน่”
ผมยกคิ้วข้างหนึ่งกินในขณะกินข้าวอยู่
“มันยังไม่ออกจากบ้านอีกหรอ?”
มาร์คัส : ถ้าออกแล้วกูจะถามหรอ
ลูก้า : ครั้งสุดที่มึงเห็นมัน มันอยู่แถวไหน
มาร์คัส : ห้องกูและก็ไม่รู้ว่ามันอยู่หลืบไหนด้วยซ้ำ ขามันแม่งก็ยาวอีก อร้า!
ลูก้า : งั้นกินข้าวหรือทำเชี่ยอะไรให้เสร็จมึงก็ไล่แมงมุมซะ
จนกระทั่งเวลาสามทุ่ม เสียงตึงตังๆ พร้อมกับเสียงหวีดว้ายจากข้างห้องก็ได้เริ่มขึ้น
ไม่นานหลังจากนั้น ผมผลอยหลับไป
POV : Marcus
ผมไม่รู้ว่าจะตกใจดีมั้ย เพราะภาพที่ผมเห็นและรื้อตู้ออกมา ผมเจอกับแมงมุมขายาวเป็นสิบๆ ตัว
ทั้งเหงื่อและแขนขาเริ่มสั่นไหวจนกรี๊ดออกมาและขาแทบก้าวไม่ออก
ถ้ามันอยู่เฉยๆ ก็น่ากลัวอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ทำให้ผมเยี่ยวราดได้ก็คือมันเคลื่อนไหวมาหาผม
ไม้กวาดในมือฟาดเหวี่ยงไปยังไอ้แปดขาแบบไม่สนสี่สนแปด
จนเพื่อนผมเดินผ่านและแมงมุมทุกตัวพุ่งเข้ามาหาผม
ผมวิ่งกระโจนกอดลูก้าพร้อมกับฉี่ราดบนเสื้อเขาด้วยความไม่ตั้งใจ
ลูก้า : มึงปวดฉี่จนอั้นไม่ไหวหรอ?
มาร์คัส : ไม่! กูกลัว! มึงช่วยกูด้วย!
ลูก้าวางผมลงกับพื้นและถือไม้กวาดเข้าห้อง
ไม่นาน 10 นาที
เขาก็ออกจากห้องพร้อมกับแมงมุมในกำมือและก็...ท่อนบนที่เปลือยเปล่า
ลูก้า : มึงเป็นอะไร? ตัวกูมีอะไรอีกนอกจากแมงมุม
มาร์คัส : เอ่อ...ไม่ แล้วมึงถอดเสื้อทำไม
ลูก้า : กูเหม็นฉี่มึง มึงบ้ารึเปล่ามาฉี่ราดใส่กู กูเข้าใจว่ากลัว แต่มึงช่วยวิ่งไปทางอื่นก็ได้ (กลิ่นมึงแรงชิบหาย)
มาร์คัส : กูขอโทษ เอางี้ เดี๋ยวพรุ่งนี้ซักเสื้อให้
ลูก้า : ก็ได้ แต่มึงก็ให้มันเบาๆ บ้างนะ
มาร์คัส : ก..ก็ได้
ลูก้า : แล้วมึงไม่นั่งสมาธิหรือปฏิบัติธรรมแล้วหรอ?
มาร์คัส : เอ่อ...กูว่า...ช่างมันเถอะ
ลูก้า : แต่มึงเคยบอกกูหนิ ว่าเวลามึงนั่งสมาธิจิตใจจะสงบสบายไง
มาร์คัส : กูก็มีความพยายามนะ แต่กูขอพอดีกว่า เพราะถ้ากูนั่งสมาธิและสติกูเป็นแบบนี้ กูขอทำสมาธิด้วยวิธีอื่นดีกว่า เช่น ปลูกต้นไม้
ลูก้า : เออๆ เอาที่มึงสบายใจ เดี๋ยวกูไปข้างล่างและขึ้นมานอนนะ
มาร์คัส : แล้ว...มึงจะนอนสภาพนี้หรอ เอาเสื้อกูไปใส่ก็ได้นะ
ลูก้า : ไม่เป็นไรหรอก มึงไม่ต้องคิดมากก็ได้
มาร์คัส : เค...เจอกันพรุ่งนี้
ลูก้า : เช่นกัน
“กลิ่นมึงโคตรเหม็นชิบหาย อาบน้ำตอนนี้จะได้มั้ยวะ...”
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!