NovelToon NovelToon

เมืองมัจจุราชกับคำสาปมรณะ

บทที่1 เมืองมัจจุราชกับคำสาปมรณะ

ณ จังหวัดกรุงเทพมหานครในช่วงเช้ามีเด็กหนุ่มร่างเล็กมีผมสีชมพูเงางามเขามีนามว่า รันพี ชายหนุ่มร่างเล็กคนนี้อายุ19ปีบริบูรณ์และพึ่งเข้ามหาวิทยาลัยเป็นปีแรก 

ซึ่งเขาก็มีเพื่อนสนิทอยู่คนหนึ่งซึ่งเธอมีลักษณะผมยาวหน้าตาน่ารักดวงตาเล็กและปากที่อมชมพูซึ่งเธอเป็นเพื่อนสนิทของเขาเธอมีนามว่า ยานี 

และในตอนนี้ทั้งสองคนก็กำลังนั่งทานข้าวผัดไข่ในโรงอาหารของมหาวิทยาลัย แต่ว่าในขณะที่ทั้งคู่กำลังกินข้าวอยู่นั้นทั้งสองคนก็แอบมองรุ่นพี่ปี2ผู้ชายคนหนึ่งเขามีนามว่า มาส

โดยพี่มาสนั้นเป็นคนที่ทั้งสอนคนชอบมากบอกเลยว่าพี่มาสเป็นไอดอลของหนูเลยค่ะเพราะว่าใบหน้าของพี่มาสนั้นหล่อเหลาหน้าเข้มเหมือนหลุดออกมาจากนิยายบอกเลยว่าพี่มาสหล่อเอาเรื่องมากๆ 

ความหล่อของพี่มาสนั้นทำให้มักมีสาวๆมารุมจีบมากมาย

ในระหว่างที่รันพีและยานีกำลังกินข้าวและมองพี่มาสกันอยู่นั้นจู่ๆจากที่พี่มาสกำลังเดินหนีสาวๆที่มารุมล้อมอยู่นั้น

พอเขาเห็นว่าทั้งสองคนกำลังจ้องมองเขาอยู่เขาจึงค่อยๆเดินตรงไปหาทั้งสอง

ยานีและรันพีที่เห็นอย่างนั้นเขาก็ถึงกับช็อคทำตัวไม่ถูกอ้าปากค้างในความหล่อของรุ่นพี่ที่เดินเข้ามาหา

เมื่อพี่มาสเดินมาใกล้ๆทั้งสองแล้ว เขาก็หยุดอยู่ตรงหน้าของรันพีก่อนที่เขาจะจับมือของรันพีขึ้นมาและเอ๋ยคำพูดน้ำเสียงเหมือนผู้ชายยุค80ในละครที่นุ่มนวลอ้อนๆ

''น้องชื่ออะไรหรอ ''

''รันพีทำสีหน้าเขินๆเล็กน้อยก่อนจะตอบพี่มาสไปว่าผม..ผมหรอผมชื่อรันพีครับ''

จากนั้นเมื่อรันพีพูดจบทางด้านของรุ่นพี่มาสก็พูดต่อขึ้นมาทันที น้องรันพีพี่ขอจีบเราได้ปะ

ยานีและรันพีรวมถึงสาวๆที่ตามพี่มาสมาพอได้ยินพี่มาสพูดแบบนั้นทุกคนก็ถึงกับช็อกตาค้างไปตามๆกันสวนทางด้านของรันพีเขาก็ทำตัวไม่ถูกได้แต่กลืนน้ำลายและก้มหน้ามองพื้นจากนั้นพี่มาสก็จับคางรันพีเบาๆ

แต่ในขณะเดียวกันก็มีหญิงสาวคนหนึ่งเธอมีชื่อว่าโนรินเธออยู่ปี2อยู่คณะเดียวกับมาสซึ่งขณะที่ทั้งสองอยู่คือนิเทศศาสตร์ และโนรินเธอนั้นแอบชอบมาสมาตั้งนานแล้วสมัยอยู่มัธยม

และหลังจากที่เธอเห็นชายหนุ่มที่เธอชอบจะจีบรันพีเธอก็เกิดความอิจฉาและทำสีหน้าไม่พอใจก่อนที่เธอจะเดินออกจากตรงนั้นจนผู้คนที่อยู่แถวนั้นก็หันมามองเธอและซุบซิบหัวเราะคิกคัก

ส่วนทางด้านของรันพีที่ยังเขินๆและก้มหน้าอยู่เขาก็หันไปมองผู้คนที่มองเขาและพี่มาสจากนั้นรันพีก็กลืนน้ำลายและภายในใจเขาตอนนี้รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูกเป็นอย่างมากก่อนที่เขาจะบอกกับพี่มาสว่า

''ขอตัวก่อนนะครับพอดีผมมีเรียนต่อ ยานีไปเรียนกันเร็ว''

"เรามีเรียนด้วยหรอวะมึง"

"มีๆ ไปกัน"

จากนั้นรันพีก็หยิบกระเป๋าและลุกออกจากโต๊ะรีบเดินหนีพี่มาสและผู้คนเหล่านักศึกษาออกจากตรงนั้นพร้อมกับเพื่อนของเขา

ส่วนทางด้านของพี่มาสนั้นเขาก็ได้แต่ยืนอยู่ที่เดิมพร้อมกับฉีกยิ้มเล็กน้อยๆมองดูรันพีที่กำลังรีบเดินขึ้นบันได

ส่วนทางด้านของโนรินที่เดินออกมาจากตึกเธอก็เดินมาเข้าห้องน้ำหญิงอีกตึกหนึ่ง ซึ่งห้องน้ำหญิงห้องนี้มีศาลไม้เก่าๆผูกผ้าสามสีอยู่ในห้องน้ำซึ่งเคยมีเรื่องเล่าว่าหากใครมาขอพรที่ศาลในห้องน้ำนี้ พรนั้นจะเป็นจริงแต่ว่าหากพรนั้นสำเร็จแล้วผู้นั้นจะต้องตาย แต่ส่วนมากเหล่าวัยรุ่นที่ไม่เชื่อและอยากลองดีสุดท้ายก็จบไม่สวยกันสักคน

หลังจากที่โนรินเธอเข้ามาในห้องน้ำที่มีศาลอีกตึกหนึ่งชั้นสามเธอก็เดินไปใกล้ๆศาลไม้เก่าๆก่อนที่เธอจะพนมมือและทำสีหน้าเกรี้ยวกราดพร้อมกับน้ำตาที่ไหลพรากจากนั้นเธอก็ได้ขอพรศาลไม้เก่าๆในห้องน้ำที่อยู่เบื้องหน้าของเธอ

"ถ้าหากศาลนี้ทำให้พรหนูเป็นจริงต่อให้หนูต้องตายหนูก็ยอมขอแค่ให้พี่มาสหลงรักหนูเป็นแฟนกับหนูและหนูขอให้คนที่พี่มาสกำลังจีบอยู่ตอนนี้หนูขอให้มันตายห่าตายโหงด้วยเทอญสาธุ"

ทันทีที่โนรินพูดจบหลอดไฟในห้องน้ำก็กระพริบๆเหมือนกับว่าพรที่โนรินขอนั้นได้ถูกรับรู้จากบางสิ่งที่อยู่ในศาลแล้ว และในขณะเดียวกันนั้นทางด้านหลังของโนรินก็มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีแดงปรากฏตัวขึ้นมาด้วยสภาพที่ดูสยดสยองน่ากลัวโดยหญิงสาวที่ใส่ชุดเดรสสีแดงที่อยู่ด้านหลังของโนรินนั้นเธอมีรูปปร่างที่ผอมแห้งหนังติดกระดูก

และสีผิวขาวซีดปากฉีกไปถึงใบหูมีดวงตากลมโตสีขาวมีน้ำเลือดน้ำหนองไหลตามตัวเธอจ้องมองมาที่โนรินจากนั้นเมื่อโนรินขอพรจากศาลไม้เก่าๆเสร็จเธอก็เดินออกไปจากห้องน้ำ

และภาพก็ได้ตัดไปทางฝั่งของมาสที่กำลังเดินตามรันพีขึ้นไปบนตึกแต่แล้วจู่ๆก็มีลมเข้ามาปะทะใบหน้าของเขาและหลังจากที่เขานั้นโดนลมปะทะใบหน้ามาสก็ได้หยุดเดินตามรันพี และเหมือนโดนมนต์สะกดอะไรบางอย่างก่อนที่เขาจะหันไปข้างหลังและพบเข้ากับโนริน

และเมื่อมาสเห็นใบหน้าโนรินเขาก็รู้สึกหลงไหลในตัวโนรินเป็นอย่างมากอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ก่อนที่เขานั้นจะเดินไปหาโนรินและเข้าไปกอดโนริน จากนั้นมาสก็ได้ขอโนรินเป็นแฟนท่ามกลางผู้คนในโรงอาหารที่อยู่เป็นจำนวนมาก

และทางด้านผู้คนที่ได้ยินมาสขอโนรินเป็นแฟนทุกคนก็ถึงกับช็อกกันไปอีกและเริ่มซุบซิบนินทามาสกันอย่างเมามัน

ขณะเดียวกันก็มีหญิงสาวที่มีนามว่า รินดา ซุบซิบกับชายหนุ่มหรือเพื่อนของเธอที่มีนามว่า พรานอิน

มึงพี่มาสผีเข้าหรือเปล่าวะตอนแรกบอกจะจีบน้องรันพี ตอนนี้มาขอเป็นแฟนโนรินเนี่ยนะกูว่าอีนั้นทำของใส่มาสหรือเปล่าวะมึง

บ้ากูว่าเพ้อเจอ มันจะเป็นยังงั้นไปได้ไงกูวะ พี่มาสเขาเจ้าชู้หรือเปล่ามึงลองคิดดีๆหล่อขนาดนี้อาจจะเจ้าชู้ก็ได้นะเว้ยแบบคุยหลายคนชอบหลาบคนไรงี้

มึงแต่ว่านะกูก็ตามติดพี่มาสมาตลอดนะแต่ว่ากูพึ่งเคยเห็นเขาแสดงกิริยาท่าทางแบบนี้นี่แหละกูว่าพวกเราต้องสืบ

จากนั้นทางด้านของรันพีและยานีเมื่อพวกเขาขึ้นมาบนตึกมาถึงชั้นสองทั้งสองคนก็เข้าห้องเรียนก่อนเวลาและนั่งรอเพื่อนๆและอาจารย์ที่โต๊ะแต่แล้วในระหว่างที่รันกำลังจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตัวของเขาก็รู้สึกร้อนวูบๆวาบๆไปทั่วร่างกายก่อนที่เขาจะรู้สึกปวดท้องเป็นอย่างมากและเนื้อตัวของเขาก็รู้สึกอ่อนแรง

และในเวลาไม่กี่นาทีรันพีก็ล้มลงไปนอนกับพื้นส่วนยานีที่เห็นเพื่อนล้มก็รีบเข้าไปดูอาการรันพีก่อนที่เธอจะตะโกนขอความช่วยเหลือด้วยน้ำเสียงที่ดังลั่น จากนั้นทางด้านของยานีที่กำลังมองรันพีอยู่เธอก็สังเกตุเห็นว่าตามผิวหนังของรันพีนั้นค่อยๆมีตะปูออกมาตามผิวหนังอย่างน่าสยดสยองและยังไม่พอตามเล็บมือของรันพีนั้นเล็บของรันพีค่อยๆฉีกออกจากกันอย่างน่ากลัว

ทางด้านของยานีที่เห็นเพื่อนตัวเองจู่ๆก็เป็นอะไรก็ไม่รู้จู่ๆก็มีตะปูออกมาตามผิวหนังแถมยังเล็บฉีกอย่างไม่ทราบสาเหตุเธอก็ได้แต่ตะโกนขอความช่วยเหลือและมองเพื่อนตัวเองที่กำลังกรีดร้องอย่างทุกข์ทรมาณ

และตัดมาทางด้านของโนรินที่กำลังโดนมาสกอดด้วยความหลงไหล เธอก็รู้ดีใจก่อนที่เธอจะบอกให้มาสตามเธอมาจากนั้นโนรินก็จับมือมาสและทั้งสองก็เดินออกไปจากโรงอาหาร

แต่ว่าในระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังเดินออกไป

รินดาและพรานอินก็จ้องมองตาไม่กระพริบและทั้งสองก็หันมามองหน้ากันและจากนั้นรินดาก็ได้ถามพรานอินด้วยน้ำเสียงที่สั่นคลอนว่า

"ฉันว่าพี่มาสต้องโดนของอะไรจากอีนางโนรินแน่นอนแต่ว่ามันไปทำที่ไหนกันล่ะทำไมถึงไวขนาดนี้"

เห้ยเพ้อเจ้อ แกอย่าคิดมากดิ

"แกเชื่อฉัน อาการแบบนี้โดนของชัวร์ฉันเคยเห็นมาก่อนนะแบบนี้"

จากนั้นรินดาและพรานอินก็เดินตรงไปที่บันไดและพวกเขาก็กำลังจะขึ้นไปเรียนที่ชั้นสามที่ตึกนี้โดยตึกโรงอาหารและวิชารวมถึงห้องเรียนที่พวกเขาจะเรียนอยู่ตึกเดียวกันกับโรงอาหาร แต่แล้วเมื่อพวกเขาได้เดินขึ้นมาที่ชั้นสองรินดาและพรานอินก็เห็นนักศึกษาอาจารย์อยู่หลายคนยืนมุงดูอะไรบางอย่างอยู่ในห้องเรียนห้องหนึ่งฝั่งซ้ายมือ

รินดาและพรานอินด้วยความที่พวกเขาสองคนสงสัยพวกเขาจึงเดินเข้าไปมุงดูด้วยปรากฏว่าสิ่งที่พวกเขาเห็นก็คือ น้องรันพีนอนกรีดร้องอยู่ที่พื้นพร้อมกับมีเศษตะปูเป็นก้อนๆออกมาจากตามผิวหนังทั่วร่างกายและเมื่อทั้งสองสังเกตุดีๆทั้งคู่ก็เห็นว่าเล็บของรันพีนั้นฉีกขาดออกจากกันทุกนิ้ว

"จากนั้นรินดาก็มองหน้าพรานอินและเธอก็บอกให้พรานอินตามเธอมา จากนั้นทั้งสองคนก็วิ่งลงมาจากตึกและตรงไปที่ตึกที่มีศาลไม้เก่าๆในห้องน้ำหญิงแต่ในระหว่างทางที่ทั้งคู่กำลังวิ่งไป พรานอินที่ยัง งงอยู่เขาก็ได้ถามกับรินดาว่าด้วยน้ำเสียงเหนื่อยๆเอ่ยออกมาว่า"

"ทำไมมีงถึงรีบขนาดนั้น อย่าบอกนะมึงรู้ว่าน้องรันพีโดนอะไร"

"ต้องใช่แน่ๆ นางโนรินอาจจะไปขอพรที่ศาลในห้องน้ำหญิงที่ห้องน้ำนั้นแน่ๆเลยโอ้ยคนที่ตายส่วนมากก็ตายเพราะไปลองดีไปขอพรที่ศาลในห้องน้ำนั้น"

"เอิ่ม..หมายความว่าไงแล้วมันเกี่ยวอะไรกับมาสและน้องรันพี"

"เรื่องมันยาวเดี๋ยวฉันมาเล่าทีหลัง "

ทันทีที่รินดาพูดจบพวกเขาทั้งสองก็มาถึงชั้นสามและได้เข้าไปในห้องน้ำที่มีศาลในห้องน้ำหญิงหลังจากที่ทั้งคู่เข้ามาในห้องน้ำกันแล้วรินดาก็ทำสีหน้าไม่พอใจก่อนที่เธอจะกล่าวาจาท้าทายบางสิ่งในศาล

"ถ้าแกอย่างอยากอยู่สุขสงบฉันขอเตือนแกให้ปล่อยน้องคนนั้นไปรวมถึงมาสด้วย หากแกยังดื้อไม่เชื่อฟังศาลนี่ แกก็ไม่ต้องอยู่"

จากนั้นยานีก็หยิบรูปปั้นนางรำที่อยู่ในศาลโยนลงมาที่พื้นเต็มแรงจนรูปปั้นนางรำนั้นแตกออกจากกัน 

พรานอินหลังจากที่เขาเห็นรินดาโยนรูปปั้นนางรำโยนลงไปที่พื้นเขาก็เข้าไปจับตัวรินดา

"เห้ยรินดาแกทำอะไรวะ"

"แกอย่ามาหยุดฉันนะเว้ย อีศาลเหี้ยนี่แหละมันเป็นคนทำน้องรันพีและพี่มาสให้เป็นแบบนั้นหากเราไม่หยุดมันตอนนี้ทั้งน้องรันพีและมาสจะแย่เอานะ ฉันไม่อยากให้ใครต้องมาตายเพราะอีศาลสันตีนนี่อีก"

ทันที่รินดาพูดจบประตูในห้องน้ำก็ปิดดังลั่นก่อนที่กระจกและหลอดไฟในห้องน้ำจะแตกออกและตามมาด้วยเสียงของหญิงสาวปริศนาที่น้ำเสียงดูโกรทเกรี้ยว

"มึงกล้าดียังไงถึงคิดจะมาทำลายศาลที่กูอยู่ เดี๋ยวกูจะหักคอพวกมึงสองคนให้ต่ายห่าในห้องน้ำนี่แหละ"

ตอนที่ 1 เมืองมัจจุราชกับคำสาปมรณะ

บทที่2 เมืองมัจจุราชกับคำสาปมรณะ

หลังจากที่เสียงของหญิงสาวปริศนาพูดจบ

รินดาก็เดินเข้าไปใกล้ๆศาลก่อนที่เธอจะพูดขึ้นมาว่า

"งั้นแกก็ลองมาฆ่าเราสองคนดูสิ แต่ศาลของแกก็ต้องพังตอนนี้แหละ"

จากนั้นรินดาก็หยิบสิ่งของที่อยู่ในศาลโยนลงพื้นที่ละชิ้นทีละชิ้นบางอันก็เหยียบใช้เท้าขยี้ๆสิ่งของเหล่านั้น

"เดี๋ยวๆ..กูยอมแล้วกุไม่ได้เป็นคนทำ"

จากนั้นยานีและพรานอินก็หันไปที่ด้านหลังตามเสียงและพบเข้ากับหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีแดงลักษณะใบหน้าดูน่ากลัวพร้อมกับปากที่ฉีกอย่างน่าสยดสยอง

"มึงคิดว่าผีอย่างกูจะสามารถทำให้              อีสองคนนั้นเป็นได้ขนาดนั้นเลยหรอ ผิดแล้วอีแก่นั้นมันอยู่เบื้องหลังทั้งหมดกูไม่มีพลังอะไรทั้งนั้นแหละพวกมึงพอใจหรือยังส่วนพรที่พวกมึงทั้งหลายมาขอก็ไม่ใช่กูที่ให้พรพวกมันกูอยู่ในศาลนี้มานานแล้วกูไม่เคยให้พรใครเลยหรือว่าจะเป็นท่านยายแก่ตนนั้น..... "

"เดี๋ยวนะแล้วท่านยายแก่ที่แกพูดมันเป็นใคร"

"กูบอกไม่ได้มันไม่ให้กูบอกหากกูบอกพวกมึง...."

ทันใดนั้นเองก็มีร่างของยายแก่ใส่ชุดพื้นเมืองสีน้ำเงินตัวสูงมีดวงตาสีขาวกลมโตมีเส้นเลือดสีแดงอยู่ตามผิวหนังทั่วร่างกายมันได้ใช้มือทั้งสองข้างจับไปที่ศรีษะของผีชุดแดงพร้อมกับท่องมนต์คาถาบางอย่างจนผีชุดแดงนั้นถึงกับต้องกรีดร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวดทรมาณจากนั้นร่างของผีสาวชุดแดงก็ได้สลายกลายเป็นฝุ่นควันสีดำลอยหายไปในอากาศ

"มันก็จะต้องมาเป็นสภาพนี้ไงล่ะ "

ทางด้านของรินดาและพรานอินที่เห็น ทั้งคู่ก็ถึงกับช็อกอ้าปากค้างและตัวสั่น

ส่วนทางด้านของมาสตอนนี้ก็เดินจับมือเดินตามโนรินและทั้งคู่ก็เดินมาหยุดที่ห้องเก็บของของมหาวิทยาลัยจากนั้นโนรินที่เห็นว่าไม่มีใครอยู่เธอก็ได้ใช้จังหวะนี้ล็อกประตูห้องเก็บของก่อนที่เธอจะจูบปากมาสอย่างดุเดือดและหวังจะมีอะไรด้วยกับมาส แต่ว่าทางฝั่งของมาสหลังจากที่เขาจูบปากของโนรินอย่างดุเดือดอยู่สักพักมาสก็ได้หยิบค้อนที่หยุดบนโต๊ะด้านหลังของโนรินขึ้นมา

ก่อนที่เขาจะถอยห่างจากโนรินประมาณก้าวสองก้าวและใช้ค้อนที่อยู่ในมือฟาดไปที่หน้าของโนรินเต็มแรงจากนั้นโนรินเธอก็ได้ล้มลงไปนอนที่พื้นด้วยความเจ็บปวด

หลังจากที่มาสใช้ค้อนฟาดไปที่หน้าของโนรินแล้วเขาก็ได้หยิบเลี้อยตัดกิ่งไม้ที่อยู่บนโต๊ะใกล้ๆตัวๆของเขามาแทงไปในปากของโนรินที่กำลังคลานหนี

จากนั้นเมื่อมาสนำเลื้อยตัดกิ่งไม้แทงเข้าไปในปากโนรินเสร็จแล้วเขาก็กับมารู้สึกตัวอีกครั้งและเขาก็พบเข้ากับโนรินที่ตอนนี้เธอได้นอนตายอยู่ที่พื้นพร้อมกับเลื้อยตัดไม้ที่แทงคาปากไว้อยู่

มาสทำสีหน้าตกใจอยู่สักพักก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้นและพบเข้ากับยายแก่ใส่ชุดพื้นเมืองสีน้ำเงินมีลักษณะร่างกายแววตาและท่าทางดูน่ากลัว

"ยายเป็นใครหรอครับ แล้วผมมาอยู่ที่นี่ได้ไงแล้วเกิดอะไรขึ้นกับเธอทำไม..."

"เจ้าไม่ต้องรู้หรอก ว่าแต่เจ้าอยากสมหวังกับน้องรันพีที่เจ้าชอบมั้ยล่ะข้าทำให้เจ้าสมหวังได้นะเพียงแค่เจ้าพูดตามข้า"

"ไม่เอาครับผมไม่อยากสมหวังอะไรทั้งนั้นแหละผมจะออกไปจากที่นี่ตอนนี้"

จากนั้นมาสก็เดินสวนทางร่างของยายแก่ไปและเขาก็เดินตรงไปที่ประตูและกำลังจะเปิด

"เจ้าแน่ใจจะออกไปสภาพนี้จริงๆหรอ เสื้อเจ้าก็เปียกชุ่มไปด้วยเลือดและเจ้าจะออกไปทั้งๆที่ฆ่าคนแบบนี้เลยหรอ หากออกไปตอนนี้ผู้คนจะมองเจ้ายังไงดีนะหนุ่มหล่อหน้าตาดีฆาตกรรมหญิงสาวอย่างโหดเหี้ยมข้าบอกเลยอนาคตเจ้าคงจบไม่สวยแน่นอนแต่..ถ้าเจ้าพูดตามข้าข้าก็จะบันดาลพรให้และเจ้าจะได้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้าอยากได้รวมถึงไม่ต้องเป็นฆาตกรอีกด้วยและไม่ต้องมารู้สึกผิดที่ฆ่าคนตาย"

มาสทำหน้าเครียดตึงอยู่สักพักก่อนที่เขาจะยื่นมือไปเปิดประตู แต่แล้วสิ่งที่ยายแก่ตนนั้นพูดทำให้มาสไม่สามารถที่จะรับได้เขาจึงหันหลังมามองยายแก่ตนนั้นก่อนที่เขาจะพยักหน้าให้กับยายแก่อย่างไม่เต็มใจ

"งั้นเจ้ากล่าวตามข้า พุทโธ เสนียดจังไรเข้าหา ธัมโมสิงสู่ในร่าง สังโฆเข้าสู่ด้านมืด"

"พุทโธ...เสนีดจังไรเข้าหา ธัมโมสิงสู่ในร่าง สังโฆเข้าสู่ด้าน...มืด"

จากนั้นก็มีเสียงหญิงสาวตะโกนดังลั่นมาหามาสว่า อย่า ก่อนที่เธอจะเปิดประตูเข้ามาในจังหวะที่มาสท่องบริกรรมคาถาจบพอดีความจริงแล้วผู้หญิงคนนั้นที่เปิดประตูเข้ามาเธอคือรินดานั้นเอง

รินดาที่เห็นว่ามาสท่องคาถาจบในจังหวะที่เธอเข้ามาพอดีเธอก็ทำสีหน้าเคร่งเครียดและหันไปมองยายแก่ตนนั้น

จากนั้นภาพก็ได้ตัดไปก่อนที่รินดาจะมาที่ห้องเก็บของ

หลังจากที่ยายแก่ได้ปรากฏตัวต่อหน้ารินดาและพรานอินที่ห้องน้ำที่มีศาลไม้เก่าๆในห้องน้ำหญิงทั้งคู่ก็ถึงกับตัวสั่นไปด้วยความกลัวจากนั้นรินดาก็นึกถึงเรื่องราวในอดีตตอนที่เธอเป็นเด็ก

ณ บ้านหลังหนึ่งในแทบชนบทมีหญิงสาวร่างเล็กอายุ7ขวบนั้นก็คือรินดานั้นเองตอนที่เธอยังเป็นเด็กพ่อกับแม่ของเธอเป็นเป็นหมอผีและพวกเขาทั้งสองคนก็มักจะคอยช่วยเหลือชาวบ้านที่โดนผีเข้าทุกครั้ง แต่มีอยู่วันหนึ่งในค่ำคืนที่ฝนตกหนักมีพายุรุนแรงและเธอก็อยู่ในบ้านกับพ่อและแม่ของเธอ

พ่อกับแม่ของรินดาได้สั่งให้รินดาไปหลบอยู่ที่ใต้เตียงและไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นห้ามออกมาเด็ดขาดรินดาสับสนมืนงงอยู่เล็กน้อยแต่ด้วยความเป็นเด็กเธอจึงไม่ได้ถามพ่อและแม่ของเธอว่าจะออกจากบ้านไปไหนจากนั้นพ่อของรินดาก็ได้มอบสร้อยคอที่เป็นรูปยมฑูตให้กับเธอ จากนั้นรินดาในวัยเด็กก็เข้าไปหลบใต้เตียงตามที่พ่อกับแม่สั่ง 

และพ่อกับแม่ของรินดาก็เดินหยิบมีดเล่มหนึ่งและเดินออกไปนอกบ้านกันสองคนในยามค่ำคืนที่ฝนตกหนักและมีพายุลมแรง

แต่แล้วเมื่อพ่อกับแม่เธอออกไปจากนอกบ้านไปได้ไม่กี่นาที เธอก็ได้ยินเสียงพ่อกับแม่ของเธอกรีดร้องขอความช่วยเหลือแต่แล้วเสียงพ่อแม่เธอก็ได้หยุดลง

ตามมาด้วยเสียงคนเดินรอบบ้านจากนั้นประตูเบื้องหน้าเธอก็ได้เปิดออกเผยให้เห็นเท้าขนาดใหญ่แห้งๆเหี่ยวๆเปิดประตูเดินเข้าในห้องของเธอและพ่อกับแม่ ตึก ตึก ตึก  

เสียงเท้านั้นที่เหยียบลงไปที่พื้นมันค่อยๆเดินตรงมาทางเตียงที่รินดาอยู่และในจังหวะที่เท้านั้นเหยียบลงไปที่พื้นบ้านและสิ่งของต่างๆก็สั่นสะเทือนไปด้วยเหมือนเกิดแผ่นดินไหว

จากนั้นเท้าที่เดินตรงมาทางเตียงที่เธอหลบอยู่ก็ได้หยุดลงก่อนที่จะมีเสียงแหบๆแห้งๆพูดขึ้นมาว่า

"อยู่นี่เองสินะ พ่อกับแม่มึงตายแล้วนะต่อไปเป็นมึง"

รินดาในวัยเด็กได้แต่ปิดปากนิ่งเงียบถึงแม้ในใจจะหวาดกลัวก็ตามจนกระทั้งเท้าที่อยู่เบื้องหน้าเธอมันค่อยๆก้าวท้าวขึ้นไปบนเตียง และเมื่อรินดาในวัยเด็กหวาดกลัวเธอก็หายใจถี่ขึ้นแรงขึ้นเรื่อยๆ

ก่อนที่เธอจะก้มหน้าไปดูสร้อยคอในมือที่พ่อเธอให้มา และเงยหน้ามองที่เบื้องหน้าอีกครั้งแต่แล้วเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมาเธอก็พบกับหัวของยายแก่ก้มลงมาใต้มาที่เตียงจ้องมองเธออยู่พร้อมกับฉีกยิ้มเผยให้เห็นฟันในปากที่แหลมคม

รินดาในวัยเด็กกรี๊ดดังลั่นปล่อยน้ำตาที่เต็มไปด้วยความกลัวออกมา

และเมื่อรินดากรี๊ดดังลั่นจู่ๆก็มีพวกชาวบ้านที่ได้ยินเสียงรินดากรี๊ดพวกเขาก็ได้เข้ามาในบ้านและพบเข้ากับรินดาที่นอนหลบอยู่ใต้เตียงพร้อมกับกำลังร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่

ก่อนที่หนึ่งในชาวบ้านเหล่านั้นก็มีผู้ใหญ่บ้านพูดเสียงดังด้วยน้ำเสียงที่แรงทุ้มว่า อีผีเหี้ยกูจะตามไล่ล่ามึงไปทุกที่นี่แหละ นับแต่จากนี้ไปพวกเราทุกคนทั้งหมู่บ้านจะต้องจัดพิธีไล่ปอบทุกอาทิตย์ และที่หมู่บ้านแห่งนี้จะต้องไม่มีปอบอยู่ในหมู่บ้านของพวกเรา ส่วนเจ้าหนูนี่เองไอ้ทินข้าฝากเจ้าเด็กนี่ไปดูแลด้วยพ่อกับแม่มันตายแล้วเพราะอีปอบเหี้ยนั้นแท้ๆ

จากนั้นความทรงจำของรินดาในวัยเด็กก็กลับคืนมาอีกครั้ง

และตัวเธอที่กำลังยืนตัวสั่นกลัวๆกับพรานอินอยู่ในห้องน้ำ

"แกนั้นเอง...อีปอบยายแก่ที่ชาวบ้านตามหา"

"มึงรู้แล้วหรอว่ากูเป็นใคร กูกลับมาแล้วนะคิดถึงกูมั้ยล่ะ"

ทันทีที่ปอบยายแก่ตนนั้นพูดจบรินดาก็ล้วงไปหยิบสิ่งของบางอย่างในกระเป๋าสะพายข้างที่เธอสะพายอยู่จากนั้นเมื่อเธอหยิบสิ่งของนั้นออกมาปรากฏว่าสิ่งของนั้นคือสร้อยคอที่พ่อเคยให้รินดาในตอนเด็กไว้ใช้ป้องกันตัวจากผีตนนี้นั้นเอง

จากนั้นรินดาก็เดินเข้าหาปอบยายแก่พร้อมกับเอาสร้อยคอที่พ่อเธอเคยให้มายื่นไปเบื้องหน้าเข้าหาปอบยายแก่ที่กำลังนิ่งๆฉีกยิ้มอยู่

ทันใดนั้นทันทีที่สร้อยคอที่รินดาถือเริ่มเข้าใกล้ปอบยายแก่ตนนั้นจากนั้นความทรงจำในวัยเด็กในตอนที่เธฮหลบอยู่ใต้เตียงและกร่ำสร้อยแน่นก็กลายเป็นภาพซ้อน หลังจากที่ยายแก่ตนนั้นก้มหน้ามาจ้องมองรินดาในวัยเด็กที่ใต้เตียงรินดาในวัยเด็กก็ได้ยื่นสร้อยนี้ไปข้างหน้าและกรี๊ดดังลั่นพร้อมกับปล่อยน้ำตาด้วยความกลัวออกมา

จากนั้นยายแก่ที่จ้องมองรินดาใต้เตียงก็ได้กรีดร้องด้วยความเจ็บปวดหลังจากที่สร้อยนี้มาใกล้หน้ามันก่อนที่เสียงนั้นจะเงียบหายไปพร้อมกับมีชาวบ้านและผู้ใหญ่บ้านที่ตามไล่ล่าผีปอบยายแก่ตนนี้เข้ามาในบ้านและพบกับรินดาในวัยเด็กที่กำลังนอนหลบร้องไห้อยู่ใต้เตียงนั้นเอง

และแล้วรินดาในตอนโตที่อยู่ในห้องน้ำกับพรานอินก็เดินเข้าไปใกล้ๆปอบยายแก่ตนนั้นพร้อมกับยื่นสร้อยคอที่พ่อเธอให้มายื่นไปเบื้องหน้าของมันและทันทีที่สร้อยคอนี้เริ่มเข้ามาใกล้ตัวผีปอบยายแก่มันก็ได้พูดขึ้นมาว่า

"ถ้ากูให้ไอ้มาสท่องคาถาจบเมื่อไหร่ กูจะบอกไว้เลย ว่าสร้อยคอนี้ก็ทำร้ายกูไม่ได้"

จากนั้นปอบยายแก่ก็หายไปต่อหน้าต่อตาทั้งสองคน

ตอนที่ 2 เมืองมัจจุราชกับคำสาปมรณะ

บทที่3 เมืองมัจจุราชกับคำสาปมรณะ

และเมื่อปอบยายแก่หายไปต่อหน้าต่อตาทั้งรินดาและพรานอินทั้งคู่ก็หันหน้าเข้าหากันก่อนจะรีบวิ่งออกจากห้องน้ำและตามหามาสและโนรินนั้นเองแต่ในจังหวะที่ทั้งคู่ออกมาจากตึกท้องฟ้าจากที่มีแดดอ่อนๆก็แปรเปลี่ยนเป็นมืดครึ้ม

จากนั้นภาพก็ได้ตัดมายังรันพีที่นอนหลับอยู่ในโรงพยาบาลและเขาก็พึ่งได้สติและลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมกับหันไปมองรอบๆห้องและพบกับยานีที่กำลังนั่งบนโซฟาและร้องไห้อยู่และเมื่อรันพีมองดูตัวเองเขาก็พบว่าตัวเขานอนอยู่บนเตียงและมีผ้าพันแผลทั่วร่างกาย

"เอ้ารันพีแกตื่นแล้วหรอเพื่อนเลิฟ"

"อืมตื่นแล้วว่าแต่เกิดอะไรขึ้นหรอ แล้วฉันมาอยู่ที่นี้ได้ไงวะเพื่อน"

ยานีทำสีหน้าเศร้าน้ำตาคลอเบ้าและตอบรันพี "โอ้ยก็แกอะจู่ๆก็มีตะปูออกมาตามผิวหนังเล็บก็ฉีกฉันนี่แทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยนะแล้วฉันก็ตะโกนขอความ่ชวยเหลือจนอาจารย์และนักศึกษาที่ได้ยินเสียงฉันเขาก็จะเข้ามาช่วย แต่ก็ไม่กล้าแตะตัวแกเพราะตามที่ฉันบอกนั้นแหละตะปูที่ออกมาตามผิวหนังแกโครตสยองใครเห็นก็ไม่กล้าแตะเนื้อต้องตัวหรือมาช่วยหรอก"

"ยานีแกว่าเรื่องแบบนี้มันปกติมั้ยวะ"

"ไม่จะไม่ปกติเลยค่ะดีนะที่มีพ่อหนุ่มนักศึกษาใจดีคนหนึ่งเขาอุ้มแกไปที่รถของเขาและก็พาแกไปส่งโรงบาลไม่งั้นแกได้นอนตายในห้องเรียนแน่"

"แล้วพ่อหนุ่มที่แกบอกนี่ใครหรอ"

"เอิ่ม...นึกแปปพี่เขาอยู่ปี2เหมือนกับพี่มาสที่มาจีบแกอะ...หน้าตาดีพอๆกับพี่มาสเลย ชื่อ..อ่อรู้แล้วพี่ พาราน คนนี้แหละจริงแท้แน่นอนแกนอนพักก่อนตอนนี้อะ เอิ่มแล้วก็ส่วนค่ารักษาเดี๋ยวพี่พารานเขาจ่ายให้นะ"

จากนั้นรันพีก็ทำสีหน้าช็อกตาค้างไปสักพักใหญ่หลังจากที่ได้ยินชื่อชื่อนั้นก่อนรันพีที่จะพยักหน้าให้กับยานีและรันพีก็หันไปมองนาฬิกาเพื่อดูเวลา ปรากฏว่าเวลาตอนนี้ประมาณห้าโมงเย็น 

"โอ้ย..เจ็บ"

"เห้ยรันพีแกเป็นไร "

"รู้สึก..เจ็บท้องมากๆและก็ตามผิวหนังทั่วร่างกายรู้สึกเหมือนมีบางอย่างเคลื่อนที่อยู่ใตผิวหนังเลยว่ะมึง"

ยานีทำสีหน้าไม่สบายใจพร้อมกับกลืนน้ำลายจากนั้นเธอก็บอกให้รันพีอดทนหน่อย และยานีก็หยิบโทรศัพท์ที่วางไว้บนโต๊ะขึ้นมาก่อนที่เธอจะโทรหาใครคนหนึ่ง

"พี่เพื่อนหนูมันตื่นแล้วนะ แต่ว่าพี่จะมาตอนไหนหรอคือ.."

"เพื่อนหนูมันรู้สึกปวดท้องมากและมันก็บอกหนูว่าใต้ผิวหนังทั่วร่างกายมันเหมือนมีบางอย่างเคลื่อนที่อยู่ มันบอกหนูแบบนี้อะพี่รีบๆมานะ"

"ได้ๆพี่ พี่รีบมานะหนูไม่รู้ว่ามันจะเป็นอะไรอีก"

จากนั้นเมื่อยานีวางสายโทรศัพท์และมองดูเพื่อนที่กำลังนอนด้วยความเป็นห่วง

ตัดทางฝั่งของรินดาพรานอินหลังจากที่ทั้งคู่ออกมาจากห้องน้ำจู่ๆก็มีเสียงของเด็กผู้หญิงมากระซิบข้างหูของรินดา

"พี่ตามหนูมาสิหนูจะพาพี่ไปหาชายหนุ่มคนนั้น ส่วนพี่รันพีตอนนี้เขาอยู่โรงพยาบาลมัจจุราชลับแลนะพี่ต้องรีบไปช่วยเขาให้ได้นะ"

ทันทีที่เสียงกระซิบข้างหูของรินดาพูดจบด้านหน้าของรินดาไกลๆก็ปรากฏเด็กผู้หญิงใส่ชุดไทยสีแดงหน้าตาน่ารักเนื้อตัวเปล่งประกายยืนมองรินดาอยู่ไกลๆก่อนที่เธอจะกวักมือเรียกรินดาและวิ่งไปหลังตึก

จากนั้นรินดาก็ได้วิ่งตามเด็กผู้หญิงคนนั้นไปจนเธอได้มาเห็นเด็กผู้หญิงยืนอยู่ที่หน้าห้องเก็บของและชี้นิ้วไปที่ประตูจากนั้นเด็กผู้หญิงคนนั้นก็ได้หายไปและเมื่อรินดาวิ่งไปประเปิดประตูคาถาที่ผีปอบยายแก่บอกจะให้มาสท่อง มาสก็ได้ท่องบริกรรมคาถาของผีปอบจบในจังหวะที่รินดาเข้ามาพอดี

จากนั้นรินดาที่เห็นว่ามาสท่องคาถาจบแล้วเธอก็พูดขึ้นมาว่า" อย่า "และทำสีหน้าเคร่งเครียดก่อนจะหันไปมองปอบยายแก่

และตอนนี้ก็เป็นช่วงปัจจุบันหลังจากที่รินดาหันไปมองปอบยายแก่เธอก็ทำสีหน้าไม่พอใจมากนักก่อนจะรีบคว้ามือมาสออกมาจากห้องเก็บของและเธอก็ได้ปิดประตู

และสั่งให้พรานอินที่วิ่งตามเธอมาทีหลังให้เอาเสื้อกันหนาวที่ตนใส่ใส่ให้มาสก่อนเพื่อปิดบังเสื้อที่เปื้อนเลือดส่วนรินดาก็ได้สั่งมาสและพรานอินรีบไปที่รถของเธอเดี๋ยวเธอจะตามไปทีหลัง จากนั้นพรานอินก็พยักหน้าให้รินดาและรีบวิ่งไปที่รถพร้อมกับมาส

และทันทีที่ทั้งสองวิ่งไปที่รถแล้วและเหลือแค่รินดาคนเดียวเธอก็ได้เปิดประตูห้องเก็บของและเผชิญหน้ากับปอบยายแก่แต่เมื่อเธอเปิดประตูเข้ามาจะเผชิญหน้ากับปอบยายแก่และในตอนนี้มันได้กลายเป็นของเหลวสีดำเคลื่อนที่เข้าไปใกล้ๆศพของโนรินที่ตอนนี้ยังมีเลื้อยตัดไม้ที่แทงคาปากไว้อยู่

และแล้วเมื่อของเหลวสีดำมันเข้าซึมเข้าไปในร่างของโนรินแล้วจากนั้นร่างของโนรินก็ค่อยๆลุกขึ้นมาพร้อมกับหยิบเลื้อยตัดไม้ที่อยู่ในปากออกมา

ส่วนทางด้านของรินดาเองที่ตอนนี้ความทรงจำทุกอย่างของเธอได้กลับคืนมาเธอจึงโกรทแค้นผีร้ายตนนี้เป็นอย่างมากที่ฆ่าพ่อแม่ของเธอและหวังจะกำจัดมันได้ในครั้งนี้เพราะรินดาเองก็เฝ้ารอเวลาที่จะได้เจอมันอีกครั้ง จากนั้นรินดาจึงยื่นสร้อยคอที่อยู่ในกำมือของเธอที่พ่อให้เธอเคยให้มายื่นไปที่เบื้องหน้าของร่างของโนรินที่ไร้วิญญาณมีเพียงแค่ปอบยายแก่ที่เข้ามาสิงสู่ในร่างเธอ

 จากนั้นสร้อยคอที่รินดาถืออยู่นั้นก็ค่อยๆสลายหายไปเป็นกลุ่มควันสีขาวสลายหายไปต่อหน้าต่อหน้าของเธอจากนั้นปอบยายแก่ที่อยู่ในร่างของโนรินมันก็พูดขึ้นว่า

"โชคดีจริงๆที่มาสมันท่องคาถาจบตอนนี้กูได้เป็นปอบห่าก้อมแล้ว ต่อให้มึงคิดจะหาทางฆ่ากูยังไงมึงก็ทำไม่ได้หรอกมีงมาช้าไป"

รินดาทำสีหน้าโกรทจนเส้นเลือดขึ้นด่าและเธอก็ได้ด่าปอบห่าก้อมยายแก่อย่างไม่เกรงกลัว

"อีผีเหี้ยอย่างมึงกูจะไม่มีวันให้อภัยมึงเด็ดขาด"

ปอบห่าก้อมยายแก่หัวเราะให้กับรินดาก่อนที่มันจะบังคับร่างของโนรินให้เดินถอยหลังหายเข้าไปในความมืดและมันก็พูดพูดประโยคสุดท้ายให้กับรินดาว่า

"แล้วมึงจะทำอะไรกูได้  อีเด็กไร้สมองอย่างมึงจะไม่มีวันมาหยุดกูได้"

"และตอนนี้กูมีพลังอำนาจเหนือผีทุกสิ่งต่อให้ของขลังต่างๆก็เอากูไม่ลงหรอกนะ"

"ถ้างั้นกูขอตัวไปจักการเหยื่อที่กูเล็งไว้ก็แล้วกัน ไว้เจอกันใหม่นะรินดา...."

จากนั้นร่างของโนรินที่อยู่ในความมืดชิ้นส่วนร่างกายของเธอก็ได้ระเบิดออกกระเด็นมาที่เท้าของรินดาก่อนที่ชิ้นส่วนร่างของโนรินนั้นจะถูกดูดลงไปในพื้นส่วนทางด้านของรินดานั้นหลังจากที่เธอได้ฟังสิ่งที่ปอบห่าก้อมยายแก่พูดตัวเธอก็ค่อยๆนั่งคุกเข่าลงไปที่พื้นก่อนจะร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจและด้วยความสิ้นหวัง

และในระหว่างที่พรานอินและมาสกำลังนั่งอยู่ในรถรอรินดาอยู่นั้นทั้งสองก็ได้พูดคุยกันเล็กน้อย

"และทำไมเราสองคนถึงรู้ว่าพี่อยู่นี่ล่ะแแต่ก็ขอบคุณนะที่ช่วยพี่ออกจากตรงนั้น"

"เรื่องมันยาวครับพี่ว่าแต่...พี่มาสพอจะทราบอะไรหรือเปล่าว่าเกิดอะไรขึ้น"

มาสเงียบอยู่สักพักก่อนจะตอบพรานอินไปว่า"พี่หรอ พี่จำได้แค่พี่จะตามรันพีไปแต่จู่ๆก็มีลมเข้ามาปะทะหน้าพี่แล้วพี่ก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย แต่ว่าพอพี่ได้สติพี่ก็พบว่าตัวพี่ใช้เลื้อยตัดไม้แทงเข้าไปในปากโนรินแต่พี่ไม่ได้อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเลยนะ"

"ผมเข้าใจแล้วครับมันไม่ใช่ความผิดพี่หรอก ผมว่าต้องเป็นฝีมือยายแก่น่าตาน่ากลัวตนนั้นแน่ๆ"

"ห๊ะน้องรู้ดวยหรอว่าเป็นยายแก่พี่เองก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกันแต่พี่คิดว่าใช่แหละเพราะตอนที่พี่ได้สติ พี่ก็พบแกใส่ชุดพื้นเมืองสีน้ำเงินมายืนอยู่หน้าพี่แล้วแววตาท่าทางแกน่ากลัวมาก"

"ส่วนผมพึ่งมาเจอพร้อมกับรินดานี่แหละพี่ ผมว่ายายแก่ตนนั้นไม่น่าใช่ผีธรรมดาแน่ๆและแกก็น่าจะมีความลับบางอย่างที่พวกเราไม่รู้ ผมว่าเราต้องมาปรึกษาพูดคุยกันหาทางหยุดเรื่องนี้กันนะครับ"

"พี่ก็คิดงั้นเหมือนกัน"

จากนั้นเมื่อพี่มาสกล่าวจบรินดาก็วิ่งเข้ามานั่งในรถและบอกให้พรานอินขับรถไปที่โรงพยาบาลด่วน

"โอ้ยเหนื่อย พรานอินแกรีบขับรถฉันไปโรงพยาบาลด่วนน้องรันพีกำลังจะเกิดอันตราย อีผีนั้นมันบอกจะจักการเหยื่อของมันที่มันเล็งไว้ฉันคิดว่าต้องเป็นน้องรันพีแน่ "

ตอนที่ 3 เมืองมัจจุราชกับคำสาปมรณะ

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!