NovelToon NovelToon

ก่อนนี้ข้าคือหนึ่งในใต้หล้า

จุดกำเนิด (1)

หญิงสาวแบกร่างเสือขาวตัวหนึ่งออกจากป่าลึก หัวใจนางเต้นรัวแรงยิ่งนัก เสือขาวตัวนี้นอนหายใจรวยระรินอยู่กลางป่านางไม่รู้ที่มาที่ไปของมันเพียงแต่รู้สึกถูกชะตากับมันนัก นางจึงพยายามแบกร่างของมันออกมา ตามร่างกายของเสือขาวตัวนี้เป็นแผลเต็มตัว ร่างกายบอกช้ำหนัก แววตานั้นดูอ่อนแรงเต็มที

        นางแบกเสือขาวออกมาจนถึงลำธารสายหนึ่ง นางตักน้ำขึ้นมาล้างรอยเลือดตามตัวของมัน และฉีกกระโปรงของนางออกมาใส่ยาสมุนไพรที่หาได้ โปะแผลให้กับมัน

        เจ้าเสือขาวมองหญิงสาวผู้นี้ด้วยแววตาอบอุ่นในใจนัก นางค่อย ๆ พันแผลให้มันอย่างอ่อนโยน เสือขาวตัวใหญ่ ร่างกายหนักมิใช่น้อย แต่หญิงนางนี้สู้อุตส่าห์แบกมันออกมาได้

        'ดีเหมือนกัน ข้าไม่อยากตายอยู่ที่นั่น มันเจ็บปวดยิ่งนัก การถูกทรยศหักหลังมันเจ็บปวดเหลือเกิน'

เสือขาวคิดในใจ ก่อนจะหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน มันเอ่ยคำสุดท้ายก่อนจากไป

"ข้าขอบใจเจ้านัก ข้าขอตอบแทนเจ้าในชาติภพหน้าของข้า"  หญิงสาวตกใจเมื่อได้ยินเสียงกล่าวลาจากสัตว์หน้าขนที่ไม่เคยมีใครได้ยินว่ามันสามารถพูดได้เช่นนี้ ก็ให้ร่างสั่นสะท้านไปทั้งกาย

ผ่านไปห้าเดือน ท้องของหญิงสาวนูนเด่นขึ้นมา ลูกสาวเสนาธิการทหารผู้กล้าหาญเด็ดเดี่ยว เป็นที่หมายปองของคนทั้งเมืองหลวง จดหมายทาบทามขอนางเป็นสะใภ้ถูกส่งมาจากบ้านคนใหญ่คนโตแทบจะทุกหลัง รวมถึงฮ่องเต้เองก็หมายปองนางไว้อยากได้มาเป็นสนม เพียงแต่หลายปีมานี้มิอาจหักใจเรียกนางเข้าวังมาได้ ด้วยเพราะองค์รัชทายาทก็ถูกตาต้องใจนางอยู่เช่นกัน แต่ไหนเลยโชคชะตากลับพลิกผัน เกิดเหตุไม่คาดคิด

        เสียงร่ำลือขจรไปทั่วหล้า บุตรสาวเสนาธิการทหารท้องไม่มีพ่อ ช่างงามหน้านัก นางถูกบิดาจับขังและคาดคั้น ถามว่าชายชั่วว่าเป็นใคร แต่หญิงสาวปิดปากสนิท ไม่ยอมบอกผู้ใด

บอกไปใครจะเชื่อเล่า นางยังมิเคยต้องมือชายใด แม้แต่จะจับมือใครก็หาเคยทำไม่ เช่นนี้แล้วนางจะท้องได้อย่างไร

"เจ้าลูกชั่ว เจ้าบอกข้ามาเดี๋ยวนี้ ว่ามันผู้นั้นเป็นใคร"

         หญิงสาวกัดปากแน่น ดวงตาที่เด็ดเดี่ยวสั่นไหว เจ็บปวดนัก

        "ท่านพ่อ ข้าไม่เคยทำผิดต่อวงศ์ตระกูล เรื่องเสื่อมเสียเช่นนั้นข้าหาทำไม่ ข้าไม่รู้ว่าข้าท้องได้อย่างไร"

        เพี๊ยะ !!! เสียงฝ่ามือกระทบกับใบหน้านวลดังลั่น เสียงกรีดร้องของแม่นมดังโหยหวล นางนั้นร้องไห้จนน้ำตาแทบจะเป็นสายเลือดออกมา แต่คนถูกตบกลับกัดปากอดทนต่อความเจ็บปวดไม่มีแม้แต่เสียงร้องสักแอะ

เสนาธิการทหารโกรธจนหน้าแดงหน้าดำ

        "จับมันไปขังไว้ในคุกทหารเสีย นับแต่นี้นางมิใช่ลูกข้าอีกต่อไป"

        เขาประกาศกล้าวก่อนที่จะเดินหันหลังออกไปอย่างเจ็บปวด

จุดกำเนิด (2)

หญิงสาวถูกขังไว้ในคุกทหาร ข้าวปลาที่ถูกส่งมาให้ล้วนเป็นอาหารที่จืดชืดไร้รสชาติ ข้าวที่ทั้งเย็นและแข็งนั้นยากที่จะกลืนลงท้องไปได้ แต่นางก็กล้ำกลืนฝืนทน กินมันลงไปให้มากที่สุด เด็กในท้องเริ่มดิ้นแล้ว นางสัมผัสกับสิ่งมีชีวิตภายในก็น้ำตาคลอออกมาด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด

"เจ้าเป็นใครกัน เข้ามาอยู่ในท้องของข้าได้อย่างไร" นางที่ตั้งครรภ์โดยไม่มีพ่อ ไม่ได้นึกรังเกียจเด็กในท้องแม้แต่น้อย หัวใจอันเด็ดเดี่ยวของนาง เต็มใจที่จะโอบอุ้มเด็กคนนี้และเลี้ยงดูให้ดีที่สุดตราบที่นางจะสามารถทำได้ หญิงสาวที่เข้มแข็งดวงตาแน่วแน่ ไม่มีแววหวั่นไหวแม้แต่น้อย  นางหยิบข้าวขึ้นมากลืนกินลงท้องไป นางกินจนหมดชามไม่มีเหลือแม้แต่เม็ดเดียว

            "ในเมื่อเจ้ามาอยู่กับข้า เช่นนั้นเราย่อมมีวาสนาต่อกัน ข้าจะรักและดูและเจ้าให้ดีที่สุดนะเจ้าเด็กน้อย"

ความรักจากมือมารดาที่ลูบลงบนท้องนาง ทำเอาคนที่อยู่ภายในรู้สึกอบอุ่นนัก

"คุณหนูซิ่วอิ่ง ท่านเสนาบดีให้หาขอรับ"

            หญิงสาวเพียงแปลกใจเล็กน้อย แต่ก็พยักหน้าและลุกขึ้นเดินตามหลังทหารออกไป

ภายในห้องนอกจากผู้เป็นบิดาของนางแล้วยังมีชายที่นางไม่ปรารถนาที่จะพบอีกหนึ่งคน

            "คาระวะท่านพ่อ คาระวะท่านอ๋องเจ็ด"

            บิดาของเขามองนางด้วยสายตาเจ็บปวดนัก ส่วนชายอีกผู้หนึ่งนั้นก็มองมาด้วยสายตาเจ็บปวดไม่แพ้กัน ซิ่วอิ่งก้มหน้าน้อย ๆ มิอาจมองสายตาเจ็บปวดของคนทั้งคู่ได้

"พรุ่งนี้ ท่านอ๋องเจ็ด จะมารับตัวนางเข้าจวน ข้าต้องรบกวนท่านอ๋องแล้ว"

            "ท่านเสนาบดี ข้าควรจะรับผิดชอบนางในฐานะพ่อของเด็ก ก็ถูกต้องแล้ว"

            ซิ่วอิ่งตกใจมองไปยังคนทั้งสอง ชายผู้นี้อ้างตัวเป็นเด็กในท้องของนาง อ๋องเจ็ดผู้ไม่เป็นที่ต้องพระทัยของฝ่าบาท ชีวิตแต่ละวันจึงหมดไปกับเรื่องเสเพล เที่ยวเตร่ไปวัน ๆ นางเกลียดคนผู้นี้นัก

"ข้าต้องขอบคุณท่านแล้ว แต่เด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของท่าน"

            เสนาบดีทหารแววตาดุดันโกรธแค้นขึ้นมาอีกระลอก

            "เจ้าลูกชั่ว ตกลงเจ้ามีสัมพันธ์กับคนกี่คนกันแน่ จึงไม่รู้ว่าใครคือพ่อของเด็ก"

            "ท่านพ่อ ข้าไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดกับท่านอ๋องเจ็ด ข้าจึงไม่อาจยอมรับ และเด็กผู้นี้ก็มิได้เป็นบุตรของใคร เขาเพียงแค่เข้ามาอยู่ในท้องข้า จึงไม่มีใครสามารถอ้างสิทธิเป็นบิดาของเขาได้ เด็กคนนี้ข้าจะเลี้ยงของข้าเองท่านพ่อหาต้องมาใส่ใจกังวลไม่"

            ท่านเสนาบดีปราดเข้าไปเงื้อมือตบนางดังฉาดใหญ่ ซิ่วอิ่งมองบิดาด้วยแววตาเจ็บปวดนัก แต่นางมิอาจกล่าวโทษบิดานางได้ ที่ผ่านมานางถูกเลี้ยงดูมาอย่างดี นางต้องการสิ่งใดเพียงแค่เอ่ยปากไม่เคยมีสิ่งใดที่นางมิได้ มาบัดนี้นางกลับทำให้ผู้เป็นพ่อผิดหวังนัก

อ๋องเจ็ดมองสองพ่อลูกนั้นนิ่งเงียบ ฟังที่นางพูดแล้วให้ประหลาดใจนัก นางไม่เคยมีความสัมพันธิ์กับผู้ใด เด็กเพียงแต่เข้ามาในท้องนางเอง จะเป็นไปได้อย่างไรกัน หากแต่แววตาของนางก็มั่นคงนัก ไม่มีวี่แววว่าเป็นคำโป้ปดเลยแม้แต่น้อย

"ท่านเสนาบดี ข้าขอคุยกับนางเพียงลำพังสักครู่" เสนบดีเดินคับแค้นข้องใจนัก ได้แต่กัดฟันระงับความโกรธมิให้ฆ่าลูกชั่วนี้ต่อหน้าอ๋องเจ็ด จึงได้แต่พยักหน้าแล้วเดินออกไป

ซิ่วอิ่งที่ยืนนิ่งอยู่นั้น ได้แต่นิ่งเงียบ บนแก้มขาวนวลมีรอยฝ่ามือเป็นปื้นสีแดงประทับอยู่รอยใหญ่ อ๋องเจ็ดเดินเข้าไปใกล้นาง

"ข้าได้ยินว่าเจ้าตั้งครรภ์ คราแรกคิดว่าเป็นเพียงข่าวลือ เมื่อได้มาเห็นกับตาก็ต้องเชื่อว่าเจ้าตั้งครรภ์จริงๆ"

        "แต่มันก็มิใช่สิ่งที่ท่านต้องมาใส่ใจ รู้แล้วท่านก็กลับไปเสียเถิด"

        "ได้อย่างไรกัน ยิ่งเจ้าปากแข็งปกป้องพ่อของเด็กหนักแน่นเช่นนี้ ข้ายิ่งอยากรู้นักว่ามันเป็นใคร"

        "ด้วยความสัตย์จริง ไม่มีใครเป็นบิดาของเด็กคนนี้ เขาเป็นบุตรของข้าผู้เดียว" ซิ่วอิ่งมองตาอ๋องเจ็ดแน่วแน่ไม่หลบหลีก ไม่มีแววโกหกเลยแม้แต่น้อย

จุดกำเนิด (3)

ชายหนุ่มมองหญิงสาวตรงหน้า นางเพียงผู้เดียวที่ทำให้พ่อลูกต้องทะเลาะกัน พี่น้องต้องแตกแยก ฮ่องเต้ผู้เป็นบิดา หลงรักเด็กสาวคราวลูก หวงไท่จื่อนั้นยิ่งคลั่งรักนางเสียจนต้องผิดใจกับเสนาธิการท้องพระคลัง ตำแหน่งพระชายาเอกถูกกำหนดไว้แล้วแต่หวงไท่จื่อก็กลับดื้อรั้นไม่ยอมรับผู้ใดมาเป็นชายานอกจากบุตรสาวท่านเสนาธิการทหารผู้นี้

"ข้ามิเคยมีความสัมพันธ์กับชายใด เด็กผู้นี้หาได้มีผู้ใดมาแอบอ้างเป็นบิดาได้ ส่วนท่านที่อ้างเป็นบิดาเขา แม้ท่านจะโกหกคนทั่วหล้าได้แต่ข้าและท่านย่อมรู้ดีว่าเรามิเคยมีความสัมพันธ์ใดต่อกัน"

        อ๋องเจ็ดมองหญิงสาวตรงหน้า ความเด็ดเดี่ยวกล้าหาญมั่นคงนี้เองที่ต้องพระทัยเสด็จพ่อและหวงไท่จื่อ(องค์รัชทายาท) หากเขาไม่ยอมลงให้ ยังขืนดื้อดึงจะเป็นพ่อเด็กต่อไป ก็อาจไม่สามารถต่อรองกับนางได้อีก

"เช่นนั้น เจ้าจะทำอย่างไรต่อไป กลับไปอยู่ในคุกทหารนั่นรึ"

ซิ่งอิ่งที่ยืนนิ่งมั่นคงมาตลอดก็ต้องสั่นไหวกับคำถามนั้น

        "ใช่ แม้ข้าต้องอยู่ในคุกทหาร หรือคุกหลวง ข้าก็จะรับผิดชอบเขาด้วยตัวข้าเองผู้เดียวเท่านั้น"

เด็กทารกในครรภ์ยิ้มกับคำตอบที่ได้ยิน นับว่าข้าเลือกเกิดในครรภ์ที่ดีนัก

"หากเป็นชาย เด็กคนนี้ย่อมผ่านทุกอย่างไปได้ไม่ยาก แต่หากเด็กในครรภ์เจ้าเป็นสตรีเล่า นางจะมีชะตาชีวิตเช่นไร เจ้าเป็นมารดา หากคิดให้ไกลออกไป การให้เขาไปอยู่กับข้าก็หาใช่ตัวเลือกที่แย่นัก"

ซิ่วอิ่งรู้สึกหวั่นไหวในอก คำพูดของอ๋องเจ็ดนั้นถูกต้องทุกประการ หากบุตรที่คลอดออกมานั้นเป็นสตรีย่อมจะใช้ชีวิตได้ลำบากยิ่งนัก

"ข้าขอบคุณท่านมาก เพียงแต่ข้ามิอาจสร้างความลำบากให้ท่านได้" นางอึดอัดลังเลอยู่ครู่หนึ่งในที่สุดก็ยอมกล่าวออกไป

        "เพียงแต่ข้าเองก็มิอาจให้ลูกข้าต้องเกิดในคุกได้เช่นกัน"

        อ๋องเจ็ดเกิดแววตาปิติขึ้นมาแวบหนึ่งมองหญิงสาวตรงหน้า คิดไม่ผิดที่เอาอนาคตของลูกนางมาเป็นข้อต่อรอง

        "ข้าขอความเมตตาจากท่าน ช่วยข้าให้ออกไปจากที่นี่ แค่นั้นก็เป็นพระคุณมากแล้ว"

อ๋องเจ็ดตกใจกับคำตอบ นางปฏิเสธที่จะรับความช่วยเหลือจากเขา แต่เลือกที่จะออกไปเผชิญกับภายนอกเพียงลำพังเช่นนั้นหรือ

        "เฮอะ ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะเด็ดเดี่ยวเช่นนี้ ได้ ข้าจะช่วยเจ้า" อ๋องเจ็ดหันกายเดินจากไปด้วยความขุ่นเคืองยิ่งนัก นางเป็นสตรีที่เขาหมายปองแต่ก็มิอาจเอื้อมเข้าแข่งกับทั้งเสด็จพ่อและหวงไท่จื่อ บัดนี้นางไม่เป็นที่เหลียวแลของผู้ใด เขาจึงสู้อุตส่าห์โยนศักดิ์ศรีและเกียรติทั้งหลายทิ้งไปเพื่อมารับหน้าเป็นบิดาของเด็กนั่น แต่นางก็กลับปฏิเสธไม่เหลือเยื่อใย

         "พรุ่งนี้ข้าจะให้คนมารับเจ้า เตรียมตัวไว้ให้พร้อม"

         ซิ่วอิ่งมองหน้าชายตรงหน้าอย่างตื้นตันนัก นางตั้งปณิธานไว้ในใจ หากวันหน้ามีโอกาสนางจะตอบแทนเขาอย่างแน่นอน

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!