...เรื่อง : The Journey of the Challenger...
...บทนำ จุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง...
...โดย : MOOLEE999...
...ณ ที่แห่งหนึ่งในมิติว่างเปล่าได้มีเทพ2องค์ ยืนประจันหน้ากันอยู่ เทพองค์หนึ่งชื่อว่า เทพผู้สร้าง ส่วนเทพอีกองค์หนึ่งชื่อว่า เทพผู้ทำลาย ...
...: บทสนทนาระหว่างเทพ...
..."เจ้าปรากฏตัวที่นี่เพื่อสิ่งใด?" เทพผู้สร้างเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น แต่แฝงด้วยอำนาจที่ยิ่งใหญ่ ราวกับคำพูดนั้นสามารถสะท้อนก้องไปในจักรวาลอันเวิ้งว้าง...
..."ข้ามาเพื่อสิ่งเดียว...คือการลบล้างเจ้าจากห้วงแห่งการดำรงอยู่!" เทพผู้ทำลายประกาศกร้าว น้ำเสียงเต็มไปด้วยความแค้นลึกล้ำดุจเปลวไฟที่ไม่มีวันมอดดับ...
...หลังจากสิ้นประโยคนั้นเทพผู้ทำลายได้รวบรวมพลังเวทย์สร้างบอลหลุมดำเพื่อหวังจะยิงไปยังเทพผู้สร้าง...
...: บทร่าย...
..."พลังแห่งจักรวาลอันไร้จุดสิ้นสุด...
...จงหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวในห้วงความว่างเปล่า...
...โอ้ แก่นแท้แห่งการทำลาย จงแปรเป็นหลุมดำกลืนกินทุกสรรพสิ่ง!...
...บอลหลุมดำ จงบังเกิด!"...
...เสียงร่ายก้องสะท้อนไปในอากาศ พลังงานมหาศาลพลันถูกบีบอัดจนกลายเป็นบอลสีดำสนิท มันส่งแรงดึงดูดที่รุนแรงจนทำลายทุกสิ่งรอบข้าง...
...เทพผู้สร้างเห็นเช่นนั้นจึงใช้เวทย์มนต์เทเลพอตใส่หลุมดำเพื่อย้ายมันไปที่มิติอื่น ...
...: บทร่าย...
..."โอ้ สายลมแห่งมิติอันไร้ขอบเขต...
...จงเปิดเส้นทางเหนือกาลเวลาและจักรวาล...
...พลังแห่งการเคลื่อนย้าย จงนำสิ่งนี้สู่ห้วงอันไกลโพ้น!...
...เทเลพอร์ต!"...
...เมื่อสิ้นเสียงร่าย เวทย์แห่งการเคลื่อนย้ายได้ก่อตัวขึ้น บอลหลุมดำพลันหายวับจากสถานที่นั้น ราวกับถูกกลืนไปสู่มิติที่ไกลเกินหยั่งถึง เทพผู้ทำลายเห็นดังนั้นไม่รอช้า เขาพุ่งตัวเข้าใส่เทพผู้สร้างด้วยความเร็วเหนือแสง ราวกับสายฟ้าที่ฉีกขาดผืนฟ้า หมัดแต่ละหมัดที่ฟาดลงมาหนักหน่วงดั่งอุกกาบาตถล่มโลก พลังที่แผ่ออกมาจากทุกการโจมตีแทบจะทำลายมิติรอบข้างให้สั่นสะเทือน...
...ทว่าทุกหมัดกลับถูกเทพผู้สร้างปัดป้องได้อย่างง่ายดาย การเคลื่อนไหวของเขาดูราวกับรู้ล่วงหน้าทุกการโจมตี สายตาเยือกเย็นของเทพผู้สร้างจับจ้องมายังเทพผู้ทำลายอย่างมั่นคง...
..."เนตรหลากมิติ... พลังที่สามารถหยั่งรู้ทุกความ เคลื่อนไหวในห้วงกาลเวลา" เทพผู้ทำลายพึมพำในใจ ดวงตาแดงก่ำเปล่งประกายความคั่งแค้น "ช่างเป็นความ สามารถที่น่ารำคาญยิ่งนัก... ข้าจะต้องทำลายมันให้ ได้!"...
...ความคับแค้นในใจเทพผู้ทำลายพลันพุ่งทะยานขึ้นอีกครั้ง เขากัดฟันแน่น และเร่งพลังขึ้นอีกขั้น...
...หลังจากสู้กันไปสักพักเทพผู้สร้างได้ทำการทิ้งระยะห่างออกจากเทพผู้ทำลายพร้อมยื่นมือทั้งสองข้างออกมาและร่ายเวทย์...
...บทร่าย :...
..."โอ้ ห้วงเวลาและมิติอันไร้ที่สิ้นสุด...
...จงตอบรับเสียงเรียกแห่งข้า...
...บิดเบือนสรรพสิ่งให้บรรลัย...
...ระเบิดแห่งมิติอันว่างเปล่า!...
...Dimensional Explosion!"...
...อากาศโดยรอบพลันบิดตัว เสียงกัมปนาทดังสนั่นเมื่อมิติแห่งความว่างเปล่าระเบิดออก ส่งแรงทำลายล้างมหาศาลไปยังเทพผู้ทำลาย...
...เทพผู้ทำลายสบตากับเทพผู้สร้าง ขณะที่พลังรอบกายทั้งสองสั่นสะเทือนด้วยอานุภาพที่ไร้ขอบเขต...
..."นี่จะเป็นการโจมตีครั้งสุดท้ายของข้า!" เทพผู้ทำลายประกาศอย่างเกรี้ยวกราด ราวกับฟ้าดินสั่นสะเทือน...
..."เช่นนั้น ข้าจะสรรค์สร้างพลังที่สามารถหยุดเจ้าได้!" เทพผู้สร้างตอบกลับด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว ทั้งสองต่างร่ายมนตร์พร้อมกัน...
..."นี่เป็นการโจมตีที่รุนแรงที่สุดของข้า"เทพผู้ทำลายเอ่ยและทำการร่ายเวทย์ ...
...บทร่ายของเทพผู้ทำลาย :...
..."พลังแห่งการดับสูญ จงสะท้อนผ่านลมหายใจแห่งจักรวาล...
...สะเทือนแผ่นดินและสลายฟากฟ้า...
...ดั่งคลื่นแห่งความว่างเปล่าที่ไร้การต้านทาน...
...หลอมรวมแสงและเงาให้กลายเป็นหนึ่งเดียว...
...คลื่นแห่งการทำลายล้าง! จงกวาดล้างทุกสรรพสิ่งในจักรวาลนี้ให้สิ้นสุด!"...
...บทร่ายของเทพผู้สร้าง :...
..."จงรวบรวมพลังแห่งธาตุทั้งปวง...
...แสงแห่งการสร้างสรรค์ จงสัมผัสทุกมุมมืดของจักรวาล...
...ให้ความมุ่งมั่นของข้าผสานกับความว่างเปล่าไร้ขอบเขต...
...จากความว่างเปล่าผู้ยิ่งใหญ่ ข้าจะสรรค์สร้างดาบแห่งการกำเนิด...
...ดาบแห่งการกำเนิดใหม่! จงพิพากษาและจงสร้างมันขึ้นมาใหม่!"...
...เสียงคำร่ายทั้งสองก้องกังวานทั่วจักรวาล ...
...หลังจากร่ายเวทย์เสร็จเทพทั้งสองก็ยิงเวทย์ พลังอันมหาศาลปะทะกันจนก่อกำเนิดการระเบิดที่ไม่อาจหยั่งถึง... และจากการปะทะนั้น จักรวาลอันกว้างใหญ่ก็ถือกำเนิดขึ้น ละอองเวทย์ของเทพผู้สร้างและเทพผู้ทำลายกระจายไปทั่วทุกสารทิศ...
...ณ โลกแห่งดาบและเวทย์มนต์...
..."แม่ครับ แล้วสุดท้ายใครชนะเหรอ?" เด็กชายตัวน้อยถามด้วยความใคร่รู้ ดวงตาเป็นประกาย...
...แม่ของเขายิ้มบาง ๆ เอ็นดูลูกชายพลางตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "แม่เองก็ไม่รู้เหมือนกันจ้ะ"...
...คำตอบนั้นทำให้เด็กชายทำหน้าหม่นลงเล็กน้อย "อ๋อ...เหรอครับ" เขาพูดเบา ๆ อย่างผิดหวัง...
...แต่ทันใดนั้น แม่ของเขากลับพูดขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความลึกลับและน่าสนใจ "แต่ถ้าลูกอยากรู้จริง ๆ ล่ะก็ ลองถามเทพแห่งองค์ความรู้ดูสิ"...
...ดวงตาของเด็กชายเบิกกว้างขึ้นอีกครั้ง "แล้วผมจะไปหาเทพองค์นั้นได้ยังไงครับแม่!" เขาถามด้วยความตื่นเต้นจนแทบจะลุกขึ้นยืน...
...แม่หัวเราะเบา ๆ พลางลูบหัวเขาด้วยความรัก "ลูกอาจต้องกลายเป็นหนึ่งในสิบผู้ไร้เทียมทานให้ได้ก่อนล่ะมั้ง ถึงจะมีโอกาสพบเทพองค์นั้น"...
...คำพูดนั้นทำให้เด็กชายตกตะลึง ก่อนที่ใบหน้าของเขาจะเปลี่ยนเป็นความมุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยม "จริงเหรอครับแม่! ผมจะเป็นหนึ่งในสิบผู้ไร้เทียมทานให้ได้เลย!" เขาประกาศด้วยเสียงดังและดวงตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น...
...และนี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราว… เด็กชายผู้ใฝ่ฝันจะกลายเป็นหนึ่งในสิบผู้ไร้เทียมทาน การเดินทางของเขาเต็มไปด้วยความสนุกสนาน มิตรภาพ ความรัก การสูญเสีย ความพ่ายแพ้ และเป้าหมายที่จะค้นพบความจริงในโลกอันกว้างใหญ่ใบนี้......
... เรื่อง : The Journey of the Challenger...
...บทที่1 วันแห่งความแค้น...
...โดย : MOOLEE...
...ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่งในแถบชนบทของอณาจักรPagosในทวีปEuforiaได้มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งชื่อ โชน เขามุ่งมั่นที่จะแข็งแกร่งขึ้นเพื่อทำตามความฝันของเขา...
..."เพื่อที่จะเป็น1ใน10บุคคลสุดแกร่งเราต้องพยายามมากกว่านี้" โชนพูดในขณะที่กำลังฟันหุ่นสำหรับฝึกซ้อมด้วยดาบไม้ ...
...:ปีศักราชเทพศาสตราที่531 เดือนตุลา วันที่8 ณ เวลา14:00น ...
...โชนได้ยินเสียงแม่ของเขาตะโกนมาว่า "โชนจำได้มั้ยว่าวันนี้วันอะไร" โชนครุ่นคิดอยู่สักพักแล้วนึกขึ้นในใจว่า"วันนี้วันเกิดเราสินะ" ก่อนแม่ของโชนจะพูดขึ้นมาว่า "วันนี้แม่จะทำอาหารอย่างสุดฝีมือเลย"...
... จากนั้นก็มีเสียงผู้ชายวัยกลางคนตะโกนมาว่า "โชน ไปล่าสัตว์สำหรับการเฉลิมฉลองในค่ำคืนนี้กันเถอะ" โชนหันไปตามเสียงและเห็นว่าผู้ที่พูดอยู่คือพ่อตน...
... โชนจึงตะโกนกลับไปว่า "ได้ครับท่านพ่อ" หลังจากโชนและพ่อของเขาเตรียมอุปกรณ์เสร็จสิ้นแม่ของโชนเดินมาและพูดว่า"ขอให้กลับมาอย่างปลอดภัย"แม่พูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน พ่อและโชนพยักหน้าตอบเบาๆก่อนออกไปล่าสัตว์ ...
...:ปีศักราชเทพศาสตราที่531 เดือนตุลา วันที่8 ณ ป่าใกล้หมู่บ้าน เวลา18:00น ...
..."ว้าววว เราล่าได้เยอะมากเลยนะครับพ่อ" โชนพูดด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น ...
..." ใช่ คงถึงเวลากลับแล้วล่ะ" พ่อของโชนพูดด้วยน้ำเสียงที่รื่นเริง ...
...ขณะที่เดินทางกลับโชนและพ่อของเขาสังเกตุเห็นควันไฟสีดำมาจากทางหมู่บ้านจึงรีบวิ่งไปดู ...
...:ปีศักราชเทพศาสตราที่531 เดือนตุลา วันที่8 ณ ทางออกจากป่า เวลา18:30น ...
...ภาพตรงหน้าของโชนและพ่อของเขาคือภาพที่หมู่บ้านกำลังถูกไฟเผาโดยมีเสียงกรีดร้องของผู้คนที่ร้องด้วยความเจ็บปวดโชนและพ่อของเขารีบวิ่งเข้าไปที่หมู่บ้านและเจอชาวบ้านที่กำลังหนีตายพ่อของโชนจึงได้ถามชาวบ้านคนนั้นว่า...
..."มันเกิดอะไรขึ้น "เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่ร้อนรน ชาวบ้านที่กำลังหนีตายคนนั้นตอบด้วยน้ำเสียงที่หวาดกลัวว่า "มีพวกโจรมาบุกโจมตีพวกมันปล้น ฆ่า ข่มขืน และ เผาทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง" ...
... หลังจากได้ยินคำตอบนั้นพ่อของโชนได้พูดบอกกับโชนด้วยน้ำเสียงที่กังวลและโกรธว่า "โชนลูกจงไปขอความช่วยเหลือจากทหารรับจ้างจากหมู่บ้านใกล้ๆนี่ซะ" ...
...โชนจึงถามพ่อของเขาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า "แล้วพ่อล่ะครับ" พ่อของโชนตอบกลับโชนก่อนจะรีบวิ่งไปว่า "พ่อจะรีบไปช่วยแม่ รีบไปตอนนี้ไม่มีเวลาแล้ว" โชนจึงรีบวิ่งไปเพื่อขอความช่วยเหลือ ...
...:ปีศักราชเทพศาสตราที่531 เดือนตุลา วันที่8 ณ ฐานของทหารรับจ้างหมู่บ้านใกล้เคียง เวลา19:10น...
...โชนได้พบกับเหล่าทหารรับจ้างและหัวหน้าของเหล่าทหารรับจ้างชื่อของเขาคือ บิลเลียด โชนได้อธิบายเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นให้พวกเขาฟังหลังจากได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดบิลเลียดและพวกพ้องของเขารับปากว่าจะช่วยจึงรีบเตรียมอุปกรณ์และรีบไปที่หมู่บ้านของโชน ...
...:ปีศักราชเทพศาสตราที่531 เดือนตุลา วันที่8 ณ หมู่บ้านของโชน เวลา19:30น ...
...โชน บิลเลียดและกองทหารรับจ้างได้มาถึงที่หมู่บ้านของโชนภาพที่อยู่ตรงหน้าของพวกเขาคือหมู่บ้านถูกปกคลุมไปด้วยเปลวไฟไม่มีเสียงกรีดร้องใดๆโชนและกองทหารรับจ้างจึงช่วยกันรีบดับไฟ ...
...:ปีศักราชเทพศาสตราที่531 เดือนตุลา วันที่8 ณ หมู่บ้านของโชน เวลา20:30น ...
...ไฟได้ดับลง จากหมู่บ้านที่เคยสวยงามตอนนี้เหลือแต่เพียงซากปรักหักพัง ...
...โชนรีบวิ่งไปที่บ้านของตนก่อนเห็นร่างของคน2คนที่ถูกไฟคลอกจนจดจำไม่ได้ว่าคือใครแต่โชนรับรู้ได้ทันทีว่านี่คือพ่อและแม่ของเขาร่างของทั้งสองโอบกอดกันอย่างแน่นแฟ้น หลังจากที่เห็นภาพตรงหน้าโชนกำหมัดแน่นและร้องไห้ ความรู้สึกในตัวโชนตอนนี้มันตีกันไปหมด...
... มีทั้งความรู้สึกเศร้าเสียใจความรู้สึกที่อยากแก้แค้นกับศัตรูที่สังหารพ่อกับแม่ของเขา บิลเลียดมองโชนด้วยความเห็นอกเห็นใจจึงเดินเข้ามาหาโชนและพูดว่า...
... "เจ้าอยากที่จะแก้แค้นไหม เจ้าหนู" ...
...โชนตอบกลับด้วยความแค้นทั้งน้ำตาว่า "ผมจะแก้แค้นพวกมันทุกตัว" จากเด็กที่สดใสและมีความมุ่งมั่นในตอนนั้นตอนนี้กลายเป็น...
...คนที่เต็มไปด้วยความรู้สึกอาฆาตเเค้น...
...และความกระหายในพลัง ...
...:ปีศักราชเทพศาสตราที่531 เดือนตุลา วันที่8 ณ ฐานของทหารรับจ้าง เวลา21:00น ...
...บิลเลียดมองโชนและคิดในใจว่า "ภายในจิตใจของเด็กคนนี้ตอนนี้เต็มไปด้วยความแค้นถ้าปล่อยไปตอนนี้ต้องเป็นปัญหาแน่"...
..."เจ้าต้องการแก้แค้นใช่หรือไม่" บิลเลียดพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ...
..."ครับ" โชนตอบด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉยแต่แฝงไปด้วยความแค้น "งั้นเจ้าสนใจมาเป็นทหารรับจ้างร่วมกันกับพวกข้าไหม" บิลเลียดพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง โชนครุ่นคิดอยู่สักพักเขาคิดในใจว่า"นี่จะเป็นหนึ่งในโอกาสที่เขาจะสามารถแก้แค้นพวกโจรได้"โชนตอบรับการเข้าร่วมกลุ่มทหารรับจ้างเพื่อหวังว่าตนจะแข็งแกร่งขึ้นและแก้แค้นให้พ่อกับและทุกคนในหมู่บ้านของเขา... ...
...เพิ่มเติม ...
...ข้อมูลเกี่ยวกับโชน(ตัวเอก) ...
...ชื่อ : โชน ...
...อายุ : 12 ปี ...
...ภูมิหลัง : เกิดในหมู่บ้านชนบทของอณาจักรPagosเกิดในครอบครัวชนชั้นกลางช่วยวัยเด็กของเขาในตอนแรกนั้นดูมีความสุขมีครอบครัวที่อบอุ่นแต่ภายหลังมีโจรบุกโจมตีทำให้เขาสูญเสียทุกอย่าง ...
...ความฝัน : โชนเป็นตัวละครที่มีความฝันอยากจะเป็น1ใน10บุคคลสุดแกร่งเพื่ออยากรู้เกี่ยวกับเทพผู้สร้างแต่ความฝันของเขาก็ได้พังทลายลงจากเหตุการณที่ไม่คาดคิดทำให้โชนคิดเพียงแต่การแก้แค้น ...
...ความสามารถ : มีทักษะดาบวายุในขั้นเริ่มต้นที่ได้รียนรู้มาจากบิลเลียด ...
...รูปลักษณ์ภายนอก : ผมสีดำของเขาหยักศกและไม่ได้ยาวมาก เขามีดวงตาสีเทาคล้ำ เขามีผิวสีน้ำผึ้ง ส่วนสูง 162cm น้ำหนัก39kg ...
...ลักษณะนิสัย : โชนเป็นคนที่เครียดตลอดเวลาและยังเป็นคนใจร้อนชอบคิดมาก (สาเหตุที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้เกิดจากเหตุการณ์ในบทที่1) ...
...ข้อมูลเกี่ยวกับบิลเลียด ...
...ชื่อ : บิลเลียด ...
...อายุ : 34 ปี ...
...ภูมิหลัง : เป็นหัวหน้าของกลุ่มทหารรับจ้างที่ชื่อว่ากลุ่ม อินทรีย์เงินและคนของสำนักดาบวายุซึ่งเขาถือเป็นนักดาบระดับสูงแต่ในตอนเด็กเขาเป็นเด็กกำพร้าและได้กลายเป็นขอทานจนนักดาบขั้นสูงของสำนักเทพวายุมาเจอบิลเลียดเข้าจึงรับเขาเป็นศิษย์ของสำนัก ...
...ความฝัน : ช่วยเหลือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเพราะในตอนเด็กบิลเลียดรู้ว่าการไร้ความช่วยเหลือเป็นอย่างไร...
...ความสามารถ : มีทักษะดาบวายุในขั้นสูง มีทักษะในการอ่านสถานการณ์และความเป็นผู้นำ ...
...รูปลักษณ์ภายนอก : สูง182cm น้ำหนัก74kg มีดวงตาสีเขียว มีผมสีน้ำตาลผมของเขาค่อนข้างยาว มีผิวสีแทน ...
...ลักษณะนิสัย : บิลเลียดเป็นคนที่มีความอดทนสูง ชอบช่วยเหลือผู้อื่นเสมอและเป็นผู้ที่มีภาวะผู้นำด้วยเหตุนี้ทำให้บิลเลียดเป็นผู้นำที่ไว้ใจได้ ...
...บทที่ 2 นกน้อยที่ออกจากรัง...
...เรื่อง : The Journey of the Challenger...
...บทที่2 นกน้อยที่ออกจากรัง...
...โดย : MOOLEE...
...1เดือนต่อมา...
...หลังจากที่โชนได้เข้าร่วมกลุ่มทหารรับจ้างอินทรีย์สีเงินโชนได้พักอยู่ที่บ้านของบิลเลียดและได้รับการฝึกฝนทักษะดาบเทพวายุจากเขา บ้านของบิลเลียดเป็นบ้านไม้สองชั้นที่เรียบง่ายและอบอุ่น ตั้งอยู่ในมุมสงบของหมู่บ้าน ตัวบ้านมีขนาดกลางไม่ใหญ่โตจนเกินไปแต่เพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตของครอบครัว ห้องนอน 3 ห้องถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบ โดยห้องหนึ่งเป็นของบิลเลียดและลิเลีย อีกห้องเป็นของมีเดีย ส่วนอีกห้องหนึ่งถูกจัดเตรียมไว้สำหรับแขกหรือสมาชิกใหม่อย่างโชน...
...ชั้นล่างของบ้านประกอบไปด้วยห้องนั่งเล่นที่ตกแต่งอย่างเรียบง่ายด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ เช่น โต๊ะกลางและโซฟาผ้าสีน้ำตาลอบอุ่น มีเตาผิงอยู่มุมห้องเพื่อสร้างความอบอุ่นในคืนหนาว บริเวณข้างๆ คือห้องครัวที่มีอุปกรณ์ครบครันสำหรับการทำอาหาร ส่วนชั้นสองเป็นพื้นที่สำหรับห้องนอนทั้งหมด มีทางเดินเล็กๆ ที่ปูด้วยพรมสีน้ำตาลเข้ม...
...นอกตัวบ้านล้อมรอบด้วยรั้วหินสูงประมาณเอว ปูด้วยเถาวัลย์สีเขียวขจี ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ บริเวณหน้าบ้านมีลานฝึกซ้อมที่กว้างพอสมควร ลานนี้มีหุ่นฟางสำหรับฝึกดาบ โต๊ะไม้สำหรับจัดวางอุปกรณ์ และพื้นที่โล่งสำหรับฝึกฝนการเคลื่อนไหวหรือการต่อสู้...
...นอกจากนั้น ยังมีต้นไม้ใหญ่อยู่มุมหนึ่งของลานฝึก ให้ร่มเงาในช่วงกลางวัน และม้านั่งไม้ยาวสำหรับพักผ่อนหลังการฝึกซ้อม บรรยากาศโดยรอบบ้านเงียบสงบ มีเสียงนกร้องและสายลมพัดผ่าน เป็นที่เหมาะสมสำหรับการฝึกฝนและพักผ่อนในเวลาเดียวกัน...
...ณ ลานฝึกที่บ้านของบิลเลียด...
...ได้มีเสียงดาบไม้กำลังปะทะกันดังกึกก้องอยู่หลายครั้ง...
..."ตอนนี้เจ้าสามารถใช้ทักษะคมดาบสายลมได้แล้ว" ชายวัยกลางคนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขึม "เพียงเท่านี้ข้าก็สามารถไปทำภารกิจกับท่านได้แล้วใช่ไหม" เด็กหนุ่มถามชายวัยกลางคนพร้อมกับหายใจหอบ "ยังหรอก..เจ้าต้องฝึกฝนอีกมาก" ชายวัยกลางคนตอบเด็กหนุ่มขณะที่ดาบปะทะกัน ซึ่งชายวัยกลางคน คนนั้นก็คือบิลเลียดและเด็กหนุ่มที่ถามเขาก็คือโชน หลังจากที่โชนและบิลเลียดฝึกกันอยู่สักพักก็ได้ยินเสียงเด็กผู้หญิงตะโกนเรียกพวกเขา "คุณพ่อ! โชน! ถึงเวลากินข้าวแล้วนะ!!" เด็กสาวตะโกนมาด้วยน้ำเสียงที่ดูสดใส เด็กสาวคนนี้ชื่อว่า มีเดีย เป็นลูกสาวของบิลเลียด...
...อธิบายลักษณะของ มีเดีย...
...ขื่อ : มีเดีย...
...อายุ : 12 ปี...
...ภูมิหลัง : เป็นลูกสาวของบิลเลียดที่เป็นหัวหน้าของกลุ่มทหารรับจ้างอินทรีย์เงินทำให้มีเดียได้รับการฝึกทักษะดาบเทพวายุตั้งแต่ยังเด็ก...
...ความฝัน : มีเดียต้องการเป็นทหารรับจ้างที่แข็งแกร่งและชอบช่วยเหลือผู้อื่นเหมือนพ่อของมีเดีย...
...ความสามารถ : ทักษะดาบเทพวายุขั้นกลาง...
...รูปลักษณ์ภายนอก : เธอมีดวงตาสีเขียวและผมที่ยาวและมีสีน้ำตาล ที่คล้ายกับพ่อของเธอ เธอมีผิวที่ค่อนข้างขาว...
...มีส่วนสูงอยู่ที่162cm และมีน้ำหนักอยู่ที่ 45 kg...
...ลักษณะนิสัย : มีความมุ่นมั่นตั้งใจ เป็นคนมีน้ำใจและอัธยาสัยดี ทำให้เป็นที่รักของทุกคน...
...ภายในบ้านของบิลเลียด...
...มีคน4คนกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารและกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อยจากนั้นได้มีเสียงผู้หญิงวัยกลางคนพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลว่า "เป็นไงบ้าง..อาหารอร่อยรึป่าวล่ะโชน"...
...โชนจึงตอบกลับผู้หญิงคนนั้นด้วยน้ำเสียงปกติไปว่า "อร่อยมากครับ คุณ ลิเลีย" ผู้หญิงคนนี้ชื่อว่าลิเลียเธอคือภรรยาของบิลเลียด "งั้นเหรอ" ลิเลียพูดขึ้น "หลังกินข้าวเสร็จนายจะทำอะไรต่อเหรอ โชน" มีเดียถามโชน โชนจึงตอบกลับไปว่า "ฉันคิดว่าจะฝึกต่อหน่ะ " มีเดียจึงพูดขึ้นมาอีกว่า"งั้นมาซ้อมกับฉันไหม" โชนจึงตอบกลับไปว่า "ได้สิ"...
...หลังจากกินข้าวเสร็จโชนและมีเดียจึงไปที่ลานหน้าบ้าน...
...อธิบายลักษณะของ ลีเลีย...
...ขื่อ : ลิเลีย...
...อายุ : 43ปี...
...ภูมิหลัง : เป็นภรรยาของบิลเลียดที่เป็นหัวหน้าของกลุ่มทหารรับจ้างอินทรีย์เงินและเป็นแม่ของมีเดีย...
...รูปลักษณ์ภายนอก : เธอมีผิวที่ขาว ผมของเธอยาวและมีสีดำดวงตาของเธอมีสีเขียว สูง 168 cm หนัก 55 kg...
...ลักษณะนิสัย : มีความมุ่นมั่นตั้งใจ เป็นคนมีน้ำใจและอัธยาสัยดี ทำให้เป็นที่รักของทุกคน...
...ณ ลานหน้าบ้าน...
..."ตอนนี้นายอยู่ในขั้นไหนล่ะ" มีเดียถามโชนด้วยน้ำเสียงที่สดใส...
...โชนตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉยว่า "ตอนนี้ฉันอยู่ในขั้นฝึกฝนของทักผษะดาบเทพวายุ...แล้วเธออยู่ในขั้นไหนเหรอ" โชนถามมีเดียด้วยความสงสัย มีเดียจึงตอบกลับโชนด้วยน้ำเสียงที่ดูภูมิใจว่า "ตอนนี้ฉันอยู่ในขั้นกลางของทักษะดาบเทพวายุแล้ว" โชนทำหน้าตกใจเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าเด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกับเขาอยู่ในในขั้นกลาง "งั้นเรามาเริ่มการฝึกกันเลยไหม" มีเดียพูดขึ้นและหลังจากนั้นก็โยนดาบไม้สำหรับฝึกให้โชน "เข้ามา!!" มีเดียตะโกนบอกโชน...
...หลังสิ้นเสียงนั้นโชนไม่รอช้าตั้งท่าเตรียมใช้ทักษะที่ตนได้เรียนรู้มาจากบิลเลียด โชนรวบรวมพลังเวทย์และสมาธิไว้ที่ดาบ จากนั้นเขาก็ใช้ทักษะ "คมดาบสายลม" โชนฟันพร้อมตะโกนชื่อท่า คมดาบสายลมพุ่งออกไปหามีเดียเมื่อมีเดียเห็นอย่างนั้นเธอจึงใช้ทักษะวายุไร้ร่องรอยเพื่อหลบหลีก โชนทึ่งอยู่ชั่วขณะหลังจากได้เห็นการเลื่อนไหวของมีเดีย ในขณะเดียวกันมีเดียได้ตั้งท่ารวบรวมสมาธิและพลังเวทย์ไว้ที่ดาบจากนั้นเธอได้ฟันดาบในลักษณะแนวนอน โชนรู้ได้ทันทีว่านั่นคือทักษะ คมดาบสายลม โชนพูดขึ้นในใจว่า "คมดาบสายลมของมีเดียเร็วและดูจะรุนแรงกว่าของเขามาก" เมื่อคิดได้เช่นนั้นโชนจึงต้องรีบหลบการโจมตีนี้เพราะเกรงว่าไม่น่าจะสามารถป้องกันได้...
...โชนพยายามจะหลบการโจมตีนี้แต่ด้วยความเร็วของคมดาบสายลมที่มาจากมีเดียนั้นรวดเร็วมากโชนจึงโดนการโจมตีนั้นเข้าอย่างจังร่างของโชนกระเด็นไปไกลและมีบาดแผลที่ท้องเล็กน้อย...
...ในขณะนั้นโชนรับรู้ได้ทันทีแล้วคิดขึ้นในใจว่า "นี่น่ะเหรอ..ความต่างของขั้นฝึกฝนกับขั้นกลาง" หลังจากนั้นโชนก็ฝึกกับมีเดียจนถึงเย็น...
...ณ บ้านของบิลเลียด...
...บิลเลียดกลับมาถึงบ้านหลังจากวันอันเหนื่อยล้า และภาพแรกที่เขาเห็นคือโชนกำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้ไม้ตัวเล็กในห้องนั่งเล่น โดยมีลิเลียกำลังทำแผลให้เขาด้วยความใส่ใจ โชนมีรอยฟกช้ำและบาดแผลเล็กๆ เต็มแขนขา สีหน้าของเขาแม้จะดูเจ็บปวด แต่ยังคงฝืนยิ้มให้ลิเลีย...
...บิลเลียดขมวดคิ้วก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมึนงง “นี่มันเกิดอะไรขึ้น ลิเลีย? ทำไมตัวของโชนถึงมีแต่บาดแผลแบบนี้?”...
...ลิเลียเงยหน้าขึ้นจากงานที่ทำพลางยิ้มบางๆ ก่อนจะตอบ “โชนซ้อมต่อสู้กับมีเดียหน่ะ”...
...คำตอบนั้นทำให้บิลเลียดนิ่งไปครู่หนึ่ง เขาหันมองไปทางมีเดียที่กำลังเช็ดดาบของเธอด้วยท่าทางสบายๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น บิลเลียดถอนหายใจยาว ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงปนความเหนื่อยใจ...
...“เห้อ... นี่ลูกแค่หาใครซ้อมดาบด้วยสินะ”...
...มีเดียเงยหน้าขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มสดใส “ใช่ค่ะพ่อ! โชนเขาอยากลองฝึกจริงๆ หนูเลยจัดให้เต็มที่เลย”...
...บิลเลียดวางดาบที่เขาถืออยู่พิงกำแพงอย่างระมัดระวัง ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้มีเดีย เขาเปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจัง และพูดด้วยน้ำเสียงเข้มข้นที่มีน้ำหนักของความเป็นผู้นำและครูผู้ฝึกฝน...
...“มีเดีย ฟังพ่อให้ดีนะ การฝึกซ้อมมันไม่ใช่การต่อสู้จริง ลูกไม่ควรลงแรงเต็มที่โดยไม่ดูว่าคู่ซ้อมของลูกพร้อมรับมือไหม โชนเพิ่งเริ่มต้นฝึกดาบ เขายังไม่พร้อมสำหรับการซ้อมแบบจริงจังแบบนี้”...
...มีเดียชะงักเล็กน้อยเมื่อได้ยินน้ำเสียงนั้น ก่อนจะลดรอยยิ้มลงและก้มหน้ารับฟัง “แต่โชนบอกว่าอยากลองทดสอบตัวเองดูนี่คะ...”...
...บิลเลียดพยักหน้าเบาๆ “ใช่ ความตั้งใจแบบนั้นมันดี แต่หน้าที่ของลูกในฐานะคู่ซ้อมคือช่วยให้เขาเรียนรู้ ไม่ใช่ทำให้เขาเจ็บจนเดินไม่ไหว ถ้าลูกไม่ระวัง คู่ซ้อมของลูกอาจจะหมดกำลังใจหรือเจ็บหนักจนไม่ได้ฝึกต่อเลยก็ได้”...
...มีเดียพยักหน้าช้าๆ สีหน้าของเธอเริ่มแสดงความเข้าใจ “หนูขอโทษค่ะพ่อ หนูจะระวังให้มากกว่านี้”...
...บิลเลียดเอามือวางบนไหล่ของมีเดีย พร้อมกับพูดเสียงอ่อนลง “ดีแล้ว การเป็นนักดาบที่แข็งแกร่งไม่ได้แปลว่าเราต้องใช้พลังเต็มที่กับทุกคน มันหมายถึงการควบคุมตัวเองให้ใช้พลังในทางที่ถูกต้องและเหมาะสม จำไว้นะ”...
...หลังจากอบรมลูกสาวเสร็จ เขาหันมาทางโชนที่ยังนั่งเงียบอยู่ “แล้วโชน ฟังไว้ด้วย ถ้ารู้สึกว่าเกินขีดจำกัดของตัวเอง ต้องบอก อย่าเงียบหรือฝืน เพราะมันจะทำให้ทั้งตัวเราและคู่ซ้อมเสียเปรียบ การฝึกไม่ได้มีไว้เพื่อให้ร่างกายพัง แต่เพื่อให้เราเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง เข้าใจไหม?”...
...โชนพยักหน้าด้วยสีหน้าสำนึกผิด “เข้าใจครับ ขอโทษครับที่ผมไม่พูดอะไรออกมา”...
...บิลเลียดยิ้มบางๆ พร้อมตบบ่าโชนเบาๆ “ดี พักให้หายก่อน แล้วค่อยเริ่มใหม่ ”...
...บรรยากาศตึงเครียดจางหายไป มีเดียมองพ่อด้วยแววตาเคารพและสำนึก ลิเลียยิ้มบางๆ ขณะเก็บอุปกรณ์ทำแผล เหลือเพียงสายลมเบาๆ ที่พัดผ่านหน้าต่างบ้าน เสริมให้บรรยากาศครอบครัวกลับมาอบอุ่นอีกครั้ง....
...บทที่ 3 เส้นทางที่เลือกเดิน...
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!