บทที่ 1: เสียงของป้า

แสงอาทิตย์แรกของวันส่องผ่านยอดไม้สูงตระหง่านในป่าดึกดำบรรพ์ เสียงนกและแมลงประสานเสียงกันเป็นท่วงทำนองแห่งชีวิต ใต้ร่มไม้หนาทึบ ชายหนุ่มผู้มีนามว่า ดาเรน ยืนสงบนิ่งอยู่กลางลานเล็ก ๆ ซึ่งล้อมรอบด้วยต้นไม้ใหญ่ มือของเขากำดาบสองเล่มไว้แน่น เล่มหนึ่งเป็นดาบสีดำสนิท ราวกับดูดกลืนแสงอาทิตย์ที่ตกกระทบ อีกเล่มหนึ่งกลับเปล่งประกายสีเงินนุ่มนวล เสมือนเป็นแสงแห่งชีวิต

ดาเรนหลับตาลง ชุดซ้อมสีหม่นบนตัวเขาเปียกโชกด้วยเหงื่อ แต่เขายังไม่หยุด ร่างกายกำยำของเขาเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่กำลังค่อย ๆ หายไปอย่างรวดเร็ว

"พลังของเจ้า... คือของขวัญหรือคำสาปกันแน่?"

ดาเรนพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะสูดลมหายใจลึกและเปิดตาขึ้น

ฉึก!

เขาพุ่งตัวไปข้างหน้าในพริบตา ดาบแห่งความตายในมือซ้ายฟาดผ่านต้นไม้ขนาดใหญ่ตัดมันขาดเป็นสองส่วน ในขณะเดียวกัน ดาบแห่งชีวิตในมือขวาก็วาดเป็นวงกลมสร้างม่านพลังป้องกันจากเศษซากที่กระจายตัวออก

ฟุ่บ!

เสียงใบไม้ไหวแว่วขึ้น ดาเรนหยุดนิ่งและหันไปมอง

"ใครอยู่ตรงนั้น?"

น้ำเสียงเขาเด็ดขาด แต่สายตายังคงสงบนิ่ง

จากเงามืดใต้ต้นไม้ใหญ่ ปรากฏร่างของชายชราในชุดคลุมยาวสีขาว

“ความมุ่งมั่นของเจ้าช่างน่าประทับใจ ดาเรน แต่เจ้า

รู้หรือไม่ว่าพลังที่เจ้าถืออยู่ อาจเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของโลกใบนี้?”

ดาเรนจ้องกลับด้วยแววตามุ่งมั่น

“ข้าจะไม่ยอมให้ชะตากรรมควบคุมชีวิตข้า ข้าจะเป็นคนเขียนมันเอก”

------------------------------------------------------

บทที่ 2: เริ่มต้นการเดินทาง

เช้าวันใหม่ในป่าเริ่มลอยลมมา สายลมเย็นพัดผ่านใบไม้ เสียงนกร้องเพลงแห่งอรุณรุ่ง ดาเรนยืนมองท้องฟ้าที่ใสสะอาดในขณะที่มือของเขาแนบลงกับดาบทั้งสองเล่ม ดาบแห่งชีวิตและดาบแห่งความตายวางอยู่เคียงข้างกันบนพื้นดิน ดาเรนใช้เวลาฝึกฝนทุกวันเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับสิ่งที่จะมาถึง แม้เขาจะยังไม่รู้ว่าหนทางของเขาจะพาไปที่ไหน

ในขณะที่เขากำลังจะเริ่มฝึกต่อไป เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง “ดาเรน...”

เสียงของ ลูซิน่า ผู้รักษาจากเผ่าเอลฟ์ดังขึ้น เสียงของเธอเต็มไปด้วยความกังวล ดาเรนหันไปพบหญิงสาวเอลฟ์ผมยาวสีเงิน ท่าทางของเธอสงบเสงี่ยม แต่ใบหน้าของเธอกลับซ่อนความกังวลไว้

“มีอะไรเหรอลูซิน่า?” ดาเรนถามขณะเช็ดเหงื่อจากใบหน้า

“ข่าวจากจักรวรรดิ... เจ้ากำลังตกอยู่ในอันตราย” ลูซิน่าพูดเบา ๆ ราวกับกลัวว่าจะมีใครได้ยิน

ดาเรนขมวดคิ้ว เขารู้ว่าเวลานี้คือเวลาที่เขาต้องตัดสินใจ เมื่อไม่นานมานี้จักรวรรดิเริ่มมีความไม่สงบ และเขาก็รู้ว่าไม่นานคงจะเกิดการปะทะขึ้น

“หมายความว่าอย่างไร?” ดาเรนถามเสียงเข้ม

“องค์ชายอันดับหนึ่ง... พี่ชายของเจ้ากำลังวางแผนบางอย่าง” ลูซิน่าพูดต่อ “เขาไม่ต้องการให้การรวมเผ่าพันธุ์เกิดขึ้น เพราะเกรงว่าตัวเองจะเสียอำนาจ”

ดาเรนยืนนิ่ง เขารู้ดีว่าองค์ชายอันดับหนึ่งคือลูกชายของราชินีจากอาณาจักรแห่งสงคราม ราชินีที่มีอำนาจยิ่งใหญ่และต้องการให้จักรวรรดิยังคงแข็งแกร่ง โดยไม่ต้องการให้เผ่าพันธุ์อื่นมาผสมผสานกัน

“เราจะทำอย่างไรต่อไป?” ดาเรนถาม

ลูซิน่าเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยเสียงที่หนักแน่น

“เราต้องออกเดินทาง เดินทางไปยังเมืองหลวง และเตรียมตัวเผชิญหน้ากับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น”

ดาเรนพยักหน้า เขารู้ดีว่าเขาไม่สามารถหนีจากชะตากรรมได้ ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้กับองค์ชาย หรือการเผชิญหน้ากับการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่กว่า เขาต้องทำตามความฝันของเขา

— การทำให้ทุกเผ่าพันธุ์อยู่ร่วมกันอย่างสงบ

เขาหยิบดาบทั้งสองเล่มขึ้นมาจากพื้น ดาบแห่งความตายและดาบแห่งชีวิตเคลื่อนไหวในมือของเขาอย่างสง่างาม ดาบแห่งความตายที่มีพลังทำลายล้างและดาบแห่งชีวิตที่สามารถรักษาทุกสิ่งได้ เขาทราบดีว่าทั้งสองเล่มนี้จะเป็นอาวุธสำคัญในภารกิจที่ยิ่งใหญ่ของเขา

“เริ่มเดินทางกันเถอะ” ดาเรนกล่าวอย่างเด็ดเดี่ยว ก่อนจะหันไปยังทิศทางที่ไม่คุ้นเคย โดยมีลูซิน่าและเพื่อนร่วมทางคนอื่น ๆ กำลังเตรียมตัวตามไป

การเดินทางของพวกเขากำลังจะเริ่มขึ้น...

บทที่ 3: ทางเลือกและการทดสอบ

การเดินทางเริ่มต้นขึ้นในยามเช้าที่แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องผ่านใบไม้ สร้างแสงระยิบระยับบนพื้นป่า ดาเรนและกลุ่มเพื่อนร่วมทางเดินทางออกจากป่าลึกที่เขาฝึกฝนมาเป็นเวลาหลายปี ลูซิน่าเดินอยู่ข้างเขา มือของเธอยังคงถือคบเพลิงที่ติดไฟเล็กน้อย ขณะที่มองไปยังดวงตาของดาเรนที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

“เจ้าแน่ใจหรือว่าเจ้าพร้อมสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้น?”

ลูซิน่าถามด้วยเสียงที่เงียบสงบ แต่ในดวงตาของเธอมีความกังวลแฝงอยู่

ดาเรนยิ้มบางๆ ส่ายหัวเล็กน้อย

“ไม่มีใครพร้อมหรอก แต่ถ้าไม่ทำตอนนี้ เราจะไม่เคยได้รู้ว่าเราสามารถทำอะไรได้บ้าง”

กลุ่มของพวกเขามีสมาชิกหลายคน หนึ่งในนั้นคือ เอเลียส นักเวทหนุ่มที่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ทุกสาย เขามองดาเรนอย่างสงสัย

“เจ้าไม่คิดหรือว่าการตัดสินใจของเจ้าจะทำให้ทุกคนในที่นี้ตกอยู่ในอันตราย? ข้ารู้ว่าเจ้ามีความฝัน แต่บางครั้งการทำตามฝันอาจทำให้สูญเสียสิ่งที่สำคัญที่สุดไป”

ดาเรนหยุดเดินไปชั่วขณะ หันไปมองเอเลียส ดวงตาของเขาทอประกายอย่างมั่นใจ

“ข้ารู้ว่ามันจะไม่ง่าย แต่หากข้าหยุดตอนนี้... ทุกคนที่ข้าเคยรักจะต้องทนทุกข์ต่อไป”

เอเลียสถอนหายใจ เขารู้ว่าไม่อาจเปลี่ยนใจดาเรนได้ แต่ก็ไม่สามารถทิ้งความกังวลไว้เบื้องหลัง

เมื่อเดินทางไปได้สักพัก พวกเขามาถึงชายแดนของอาณาจักรที่กำลังถูกสงครามปกคลุม ทั้งจักรวรรดิและเผ่าพันธุ์ต่าง ๆ เริ่มขัดแย้งกันมากขึ้น สัญญาณของการต่อสู้กำลังใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว

ทันใดนั้น เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นจากหุบเขาใกล้เคียง ดาเรนและกลุ่มของเขาหันไปมองและเห็นเงาร่างหนึ่งกำลังเคลื่อนที่มาทางพวกเขา ร่างนั้นเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและดูเหมือนจะมุ่งตรงมาที่พวกเขา

“ระวังตัว!” ลูซิน่าตะโกนขณะเงยหน้ามองไปยังร่างนั้น

ดาเรนรีบหยิบดาบทั้งสองเล่มขึ้นมาในทันที ดาบแห่งความตายในมือข้างซ้าย ดาบแห่งชีวิตในมือขวา เขาพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับภัยคุกคามใหม่ที่มาพร้อมกับความมืด

ร่างที่เข้ามาใกล้ขึ้นเผยให้เห็นว่าเป็น เผ่ามังกร หญิงสาวครึ่งมังกรครึ่งมนุษย์คนหนึ่ง เธอมีปีกมังกรสีดำขลับและตาสีแดงที่เต็มไปด้วยความโกรธ

“หยุด!” เธอตะโกนเสียงดังก้อง ก่อนที่จะถอยหลังไปอย่างรวดเร็วเหมือนมังกรที่พร้อมจะโจมตี

ดาเรนและเพื่อนร่วมทางยืนพร้อมรับศัตรูที่ไม่คาดคิด ทุกคนมีท่าทางระมัดระวัง แต่ไม่อาจคาดเดาได้ว่าเธอจะทำอย่างไรต่อไป

“เจ้าคือใคร?” ดาเรนถามเสียงเข้ม แต่ในใจของเขารู้ดีว่าเธอไม่ใช่ศัตรูที่พวกเขาคุ้นเคย

หญิงสาวครึ่งมังกรหายใจหนักๆ ก่อนจะพูดขึ้น “ข้า... ชื่อ คีลาร์ เป็นหนึ่งในเผ่ามังกรที่พยายามจะปกป้องเผ่าพันธุ์ของเราไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของจักรวรรดิ หากพวกเจ้ากำลังเดินทางไปยังเมืองหลวง ข้าขอเตือนว่ามันไม่ปลอดภัยสำหรับพวกเจ้าที่จะเข้าไป”

ดาเรนไม่รู้ว่าจะเชื่อเธอหรือไม่ แต่เขารู้ดีว่าเขาไม่มีทางเลือก เขาต้องไปเมืองหลวงเพื่อปกป้องครอบครัวและทำตามฝันของเขา

“เราต้องไปที่นั่น” ดาเรนกล่าวเด็ดขาด “แต่เราขอคำแนะนำจากเจ้าหากเจ้ารู้จักเส้นทางที่ปลอดภัยกว่า”

คีลาร์พยักหน้าเล็กน้อย

“พวกเจ้าจะต้องระวัง... และหากพร้อมแล้ว ข้าจะช่วยพาพวกเจ้าผ่านทางที่อันตรายที่สุดในอาณาจักรนี้”

------------------------------------------------------

บทที่ 4: ข้ามพรมแดน

หลังจากการเผชิญหน้ากับ คีลาร์ ผู้หญิงครึ่งมังกร ดาเรนและกลุ่มของเขาตัดสินใจร่วมเดินทางไปกับเธอ โดยหวังว่าจะได้รับความช่วยเหลือในการเดินทางผ่านเส้นทางที่เต็มไปด้วยอันตรายจากสงครามและปัญหาภายในจักรวรรดิ

การเดินทางเข้าสู่เขตแดนของเมืองหลวงเต็มไปด้วยความตึงเครียด ทุกย่างก้าวของพวกเขาดูเหมือนจะใกล้เข้ามาสู่จุดเสี่ยงมากขึ้นเรื่อยๆ คีลาร์นำทางพวกเขาผ่านป่าลึกไปตามทางแคบๆ ที่ซ่อนอยู่จากการตรวจจับของทหารจักรวรรดิ ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่ค่อยระวังเส้นทางเหล่านี้

ขณะที่เดินทางไป ดาเรนสัมผัสได้ถึงความเย็นเยียบที่แผ่ไปทั่วตัว มันเป็นบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดและความกังวล เขาเงียบและคิดถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต

"เจ้าเคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อนหรือไม่?"

ดาเรนถามคีลาร์ขณะที่พวกเขาหยุดพักกลางทาง

คีลาร์มองไปรอบ ๆ ก่อนจะตอบเสียงเบา

“เรามังกรเคยถูกล่าจากฝีมือของมนุษย์... อาณาจักรเคยพยายามกำจัดเราเพื่อให้จักรวรรดิของพวกเขามีอำนาจมากขึ้น แต่ตอนนี้พวกเขากลับต้องการใช้เผ่ามังกรในการต่อสู้ในสงครามเพื่อรักษาความเป็นใหญ่ของตนเอง”

ดาเรนพยักหน้า

“ข้าก็มีภารกิจของข้าเหมือนกัน การต่อสู้ไม่เพียงแต่เพื่อครอบครัว แต่เพื่อทุกเผ่าพันธุ์ที่จะได้อยู่ร่วมกันอย่างสงบ”

คีลาร์มองเขาอย่างสนใจและพยักหน้า

“แต่การต่อสู้กับจักรวรรดิไม่ใช่เรื่องง่าย เจ้าต้องเตรียมพร้อมรับทุกการทดสอบที่มา”

หลังจากเดินทางต่อไปเรื่อยๆ จนเข้าสู่เขตแดนที่สงครามกำลังดำเนินอยู่ กลุ่มของดาเรนก็พบกับการเผชิญหน้าครั้งแรก นอกจากพวกทหารจักรวรรดิที่ลาดตระเวนตามเส้นทางแล้ว ยังมีกลุ่มขโมยและผู้ที่หนีภัยจากสงครามคอยจู่โจมพวกเขาอยู่ตลอดเวลา

ทันใดนั้น เสียงแหลมของธนูดังขึ้น ขณะที่ลูกธนูบินตรงมาที่พวกเขา ดาเรนรีบหมุนตัวไปข้างหลังและใช้ดาบแห่งชีวิตขึ้นป้องกันในทันที ดาบสีเงินสะท้อนแสงของลูกธนูที่พุ่งเข้ามาและทำให้ลูกธนูหล่นลงไปบนพื้น

“ระวัง!” ลูซิน่าตะโกนเตือน ขณะยกคันธนูของเธอขึ้นพร้อมที่จะตอบโต้

แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้ทำอะไร ร่างของคนกลุ่มหนึ่งโผล่ออกมาจากป่าข้างทาง ดาเรนจึงชะงักและมองดูพวกเขาด้วยความสงสัย

พวกเขาคือกลุ่ม ผู้ลี้ภัย ที่พยายามหนีจากความโกลาหลของสงคราม แต่ในขณะเดียวกัน ดาเรนก็เห็นว่ามีผู้คุมจากจักรวรรดิที่ตามมาด้วย ใบหน้าของผู้คุมแสดงถึงความโกรธเคือง

“พวกเจ้าทำอะไรกับพวกเขา!”

“พวกเขาไม่ได้ทำอะไรเลย!”

คีลาร์โพล่งขึ้นทันที ปีกของเธอยกขึ้นเล็กน้อยขณะที่เตรียมตัวปะทะ

ดาเรนมองสถานการณ์อย่างรวดเร็ว เขารู้ว่าทุกอย่างกำลังจะเกิดการปะทะ เขาหันไปมองคีลาร์และพูดเสียงเด็ดขาด

“เราจะช่วยพวกเขา แต่ต้องระวังไม่ให้ใครบาดเจ็บ”

ทันใดนั้นเอง เขาก็รู้สึกถึงพลังที่ไหลผ่านร่างกาย ดาบแห่งความตายในมือซ้ายของเขาคล้ายกับกำลังจะมีการปลดปล่อยพลังออกมา ดาเรนรู้ว่าเขาต้องควบคุมมันให้ดีหากไม่อยากให้พลังทำลายล้างนั้นเสียหาย

เขาพุ่งเข้าไปในกลุ่มทหารจักรวรรดิ ดาบแห่งชีวิตที่ใช้ป้องกันพร้อมกับการโจมตีอย่างแม่นยำด้วยดาบแห่งความตาย ทุกการเคลื่อนไหวของเขาแสดงให้เห็นถึงการฝึกฝนที่หนักหน่วงและความมุ่งมั่นในการต่อสู้

ศึกการต่อสู้ครั้งแรกในเส้นทางนี้เกิดขึ้นแล้ว มันเป็นการทดสอบว่าดาเรนและกลุ่มของเขาจะสามารถทำภารกิจนี้ได้สำเร็จหรือไม่

------‐-----------------------------------------------