บทนำ: วันธรรมดาที่กลายเป็นความไม่ธรรมดา
เสียงระฆังดังขึ้นเป็นสัญญาณบอกหมดเวลาของชั่วโมงเรียนสุดท้าย คุโรซาวะ เรียว ลุกขึ้นยืนพร้อมกับหยิบกระเป๋านักเรียนเก่า ๆ ของเขาอย่างเกียจคร้าน เสียงพูดคุยของเพื่อนร่วมชั้นที่ต่างพากันวางแผนไปเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์ ทำให้เขารู้สึกเหมือนตัวเองถูกทิ้งไว้ข้างหลังอย่างไม่ตั้งใจ
"เฮ้ เรียว! ไปคาราโอเกะกับพวกเรามั้ย?" เพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งหันมาถามเขาด้วยรอยยิ้มกว้าง
"ขอโทษทีนะ ฉันต้องไปทำงานพาร์ทไทม์" เรียวยิ้มบาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องโดยไม่รอคำตอบเพิ่มเติม เขาไม่ได้เกลียดการเข้าสังคม แต่ก็ไม่ได้รู้สึกสนุกกับมันนัก ในใจของเขารู้สึกว่างเปล่าและเบื่อหน่ายกับชีวิตที่ไม่มีความตื่นเต้นอะไรเลย
หลังจากเลิกเรียน เรียวเดินตรงไปยังร้านสะดวกซื้อเล็ก ๆ ซึ่งเป็นที่ทำงานพาร์ทไทม์ของเขา ร้านนี้ไม่ค่อยมีลูกค้าในช่วงเย็น ทำให้เขามีเวลาว่างมากพอที่จะปล่อยให้ความคิดล่องลอยไปรอบ ๆ ชีวิตของตัวเอง
“อีกแค่ไม่กี่เดือนก็จบม.ปลายแล้ว แต่ฉันจะทำอะไรต่อดีนะ?” เรียวคิดกับตัวเองขณะเช็ดชั้นวางสินค้า เขาไม่มีเป้าหมายหรือความฝันเหมือนเพื่อนคนอื่น ๆ การใช้ชีวิตไปวัน ๆ จึงกลายเป็นสิ่งที่เขาชินชาไปเสียแล้ว
...****************...
ณ ศาลเจ้าในคืนฝนตก
หลังจากเปลี่ยนกะเสร็จ เรียวเดินออกจากร้านในเวลาค่ำคืน ฟ้าครึ้มมืดและฝนเริ่มตกลงมาอย่างหนัก สายลมหนาวพัดผ่านจนเขาต้องเร่งฝีเท้า ทว่าระหว่างทางกลับบ้าน เขากลับสังเกตเห็นแสงสว่างเล็ก ๆ ริบหรี่จากทางด้านซ้าย
มันคือศาลเจ้าเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในตรอกแคบ ๆ ซึ่งไม่มีใครสนใจ เรียวเคยผ่านทางนี้หลายครั้ง แต่ศาลเจ้าก็ยังคงร้างไร้ผู้คนเช่นเคย ทว่าครั้งนี้ กลับมีแสงประหลาดส่องออกมาจากภายใน
“ไฟ...? แต่ที่นี่มันไม่มีคนอยู่นี่นา” เขาพึมพำกับตัวเอง แต่ด้วยความอยากรู้ เขาจึงตัดสินใจหลบฝนเข้าไปยังศาลเจ้า
เมื่อเขาเข้าไปในศาลเจ้า กลิ่นอับชื้นและความเงียบงันทำให้บรรยากาศดูน่าขนลุก ทุกอย่างดูเก่าคร่ำคร่า ราวกับเวลาหยุดนิ่งอยู่ในที่แห่งนี้ ขณะที่เขากำลังพิจารณาแสงประหลาดที่ส่องมาจากแท่นบูชาหิน จู่ ๆ ก็เกิดเสียงฟ้าผ่าดังสนั่น และแสงสีฟ้าสว่างจ้าก็ปะทุขึ้นรอบตัวเขา
"อะไร... เกิดอะไรขึ้น!" เรียวตะโกนด้วยความตกใจ ก่อนที่ทุกอย่างจะมืดดับไป ความรู้สึกเหมือนตัวเองถูกดูดเข้าไปในหลุมลึก มือและเท้ารู้สึกเหมือนจะหลุดออกจากร่าง ก่อนที่สติของเขาจะดับลงพร้อมกับเสียงกรีดร้องของสายลม
...****************...
"การตื่นขึ้นในโลกใหม่"
ความรู้สึกหนักอึ้งทำให้เรียวค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ท้องฟ้าสีครามที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนแผ่กว้างอยู่เหนือหัว เขาพบว่าตัวเองนอนอยู่บนพื้นหญ้านุ่ม ๆ ลมเย็นพัดผ่านใบหน้า และกลิ่นสดชื่นของดอกไม้แปลกตาโชยเข้ามา
“ที่นี่มันที่ไหนกัน...” เขาพึมพำขณะพยายามตั้งสติ ทุกอย่างรอบตัวดูแปลกประหลาด ต้นไม้สูงใหญ่มีรูปร่างแปลกตา และเสียงนกร้องที่ไม่คุ้นเคยดังมาจากทุกทิศทาง
ทันใดนั้น เสียงคำรามดังกึกก้องมาจากด้านหลัง เรียวหันกลับไปและพบกับสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่ที่มีเขี้ยวคมกริบ มันกำลังพุ่งตรงเข้ามาหาเขาโดยไม่ให้เขาได้ตั้งตัว
"อะไรเนี่ย!? อย่าบอกนะว่านี่คือฝันร้าย!" เรียวพยายามวิ่งหนี แต่ขาของเขาหนักราวกับถูกโซ่ตรึงไว้ ในขณะที่เขาคิดว่าคงจบชีวิตที่นี่แล้ว เสียงระเบิดดังสนั่นขึ้น มอนสเตอร์ตัวนั้นถูกโจมตีด้วยลูกไฟสีแดงเพลิงจนมันกระเด็นไปไกล
เมื่อเรียวหันไปมองต้นทางของการโจมตี เขาพบหญิงสาวผมสีเงินยาว เธอยืนอยู่พร้อมคทาเวทมนตร์ในมือและสายตาที่เย็นชา เธอมองเรียวด้วยความสงสัยก่อนจะถามขึ้นว่า
“เจ้าเป็นใคร... แล้วมาทำอะไรที่นี่?”
เรียวยังคงสับสนและไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี แต่ที่แน่ ๆ เขารู้สึกว่าชีวิตของเขากำลังจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน
...----------------...
...****************...
คุโรซาวะ เรียว รู้สึกเหมือนหัวใจของเขาหยุดเต้นเมื่อรู้สึกตัวขึ้นมา ร่างกายของเขาแข็งทื่อเหมือนกับว่าถูกจับขังอยู่ในอากาศหนาวเย็น หนักหน่วงไปทั่วทุกเซลล์ของร่างกาย
เขาหายใจแรงจนรู้สึกว่าปอดจะฉีก แต่กลับไม่มีเสียงอะไรออกมา ยิ่งมองไปในความมืด มันยิ่งทำให้เขารู้สึกว่ากำลังอยู่ในที่ที่ไม่รู้จัก ไม่ใช่แค่สถานที่ใหม่ แต่เหมือนกับว่าโลกทั้งใบกำลังเงียบจนเกินไป
น้ำฝนเริ่มโปรยลงมาในที่ที่เขายืนอยู่ แต่กลับไม่มีเสียงฝนตก หยดน้ำบางเบาไม่สามารถทำลายความเงียบที่ครอบงำได้ เรียวค่อย ๆ ลุกขึ้น พยายามควบคุมลมหายใจที่แสนยากเย็น และหันมองไปรอบตัว ในแสงจาง ๆ ของพระจันทร์ที่ครึ่งดวง มันทำให้เขาเห็นเพียงแต่เงามืดที่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นอะไร
ท่ามกลางความมืดนั้น เขาเห็นเงาที่เคลื่อนไหวอย่างช้า ๆ มันเหมือนจะเป็นรูปร่างของมนุษย์ แต่ท่าทางของมันไม่ได้เป็นไปตามธรรมชาติที่เขาคุ้นเคย มันผิดแผกจากทุกสิ่งที่เขาเคยรู้จัก หญิงสาวในชุดดำที่ยืนอยู่นั่นจ้องมาที่เขาอย่างไม่กระพริบตา
“หลงทางหรือ?” เสียงของเธอดังขึ้นในความเงียบ ไร้ความรู้สึกเหมือนเสียงของคนที่ไม่ได้มีชีวิตจริง ๆ
เรียวรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังบดบังการหายใจของเขา เขารู้สึกถึงความหนาวเย็นในอากาศที่เริ่มทะลุเข้าไปในกระดูก ทุกอย่างรอบตัวเขามืดมนจนไม่สามารถหาทางออกได้ เขาไม่สามารถหนีจากการพูดคุยกับหญิงสาวที่ไม่เหมือนใคร
“เจ้าอยู่ใน ‘เซรัลเซีย’ โลกที่ไม่ยินดีต้อนรับผู้มาเยือน” หญิงสาวกล่าว ประโยคที่เธอพูดมาคล้ายกับการตัดสินชะตากรรม เสียงนั้นก้องอยู่ในหัวของเขา “และถ้าตัวตนของเจ้ามีค่าแค่ไม่กี่เศษเสี้ยวในสายตาของโลกนี้ เจ้าอาจไม่เหลือเวลามากนัก”
เรียวพยายามจะถามว่า “แล้ว... ฉันจะกลับบ้านได้ไหม?” แต่คำพูดติดอยู่ในลำคอเหมือนถูกพันธนาการ
หญิงสาวยิ้มร้าย ๆ ราวกับรู้คำตอบของเขาล่วงหน้า ก่อนที่ร่างของเธอจะค่อย ๆ จางหายไปในเงามืด เสียงฝนตกยังคงเงียบเชียบ แต่เขารู้สึกเหมือนถูกทิ้งไว้ในที่ที่ไม่มีการหวนคืน
ทุก ๆ สิ่งรอบตัวดูเหมือนจะมองเห็นเขา แต่เขากลับรู้สึกเหมือนเขาเป็นแค่เงาของตัวเอง ท่ามกลางโลกที่ไม่คุ้นเคย เขาถูกทดสอบด้วยสิ่งที่ไม่สามารถมองเห็นได้
“ที่นี่ไม่มีที่หลบซ่อน...” เรียวพึมพำในความมืด สองมือของเขาสั่นเทา ขณะที่เขาเดินต่อไปในเส้นทางที่ไม่รู้ว่ามันจะพาไปที่ไหน
เรียวเดินต่อไปในความมืด เสียงฝนกระทบลงบนพื้นดินเหมือนจะกลบเสียงฝีเท้าของเขา เขารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังตกอยู่ในฝันที่ไม่สามารถตื่นขึ้นมาได้ บรรยากาศรอบตัวหนาวเย็นและหนักหน่วง จนแทบหายใจไม่ออก ท่ามกลางเงามืดเหล่านั้น เขาสามารถเห็นสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์เดินผ่านไปมาอย่างเงียบเชียบ
บางสิ่งที่ยืนอยู่ในความมืดทำให้หัวใจของเขาหยุดเต้น ชายคนหนึ่งในชุดคลุมดำยืนอยู่ไกลๆ ห่างจากเขาประมาณสิบก้าว ความเงียบเหมือนมีชีวิต มันคลุมตัวตนของเขาไว้ภายใต้การมองเห็นที่ไม่สมบูรณ์
“เจ้าเป็นใคร?” เสียงแหบแห้งจากชายในชุดคลุมนั้นดังขึ้น ขณะที่เขาก้าวเดินไปข้างหน้า เสียงนั้นเหมือนกำลังสอดประสานกับเสียงฝนที่ตกลงมาให้รอบข้างเป็นการทักทายที่ไม่ต้องการคำตอบ
เรียวไม่ได้ตอบกลับ เขารู้สึกเหมือนตัวเองถูกดูดเข้าไปในดวงตาของชายคนนั้น สายตาของเขาไม่แสดงถึงความรู้สึกใด ๆ ชายคนนี้เหมือนกับเป็นส่วนหนึ่งของความมืด ทั้งตัวเขาดูเหมือนจะหลอมรวมกับมันจนยากจะมองเห็น
ชายในชุดคลุมเดินเข้ามาใกล้ ขณะที่เรียวพยายามจะถอยหลัง แต่การเคลื่อนไหวของเขากลับช้าเหมือนขาไม่สามารถขยับไปข้างหน้าได้ เสียงฝีเท้าของชายในชุดคลุมดังก้องอยู่ในหัวใจของเขา เสียงฝีเท้าที่บิดเบี้ยวราวกับดังก้องในโลกที่ไม่เคยมีใครได้ยิน
“เจ้าไม่สามารถหนีจากมันได้” ชายคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น เสียงนั้นเหมือนเสียงสะท้อนจากความมืด เขาเอื้อมมือออกไปข้างหน้าแล้วจับที่ไหล่ของเรียวเหมือนจับจุดที่มันต้องการให้หยุด
เรียวสะดุ้งและพยายามดึงตัวเองออกจากการจับกุม แต่ทุกการขยับของเขากลับเป็นไปอย่างไร้ความหมาย เขารู้สึกถึงความเย็นยะเยือกที่แพร่กระจายจากมือของชายในชุดคลุม มันเหมือนกับมีอะไรบางอย่างกัดกินไปในจิตใจของเขา
“ที่นี่ไม่มีที่หลบซ่อนหรอก…” ชายคนนั้นพูดเสริมขึ้น ก่อนที่เขาจะเดินหายไปในความมืดและความเงียบเริ่มกลับมาอีกครั้ง
เรียวยืนสั่นเทาอยู่ในที่เดิม มือของเขาเย็นเฉียบ ขณะที่หัวใจของเขายังคงเต้นแรง เขามองไปที่พื้นดินที่เต็มไปด้วยความเปียกชื้นจากฝน ตลอดเวลาในโลกนี้เหมือนกับเวลาหยุดนิ่ง แม้แต่เสียงของฝนยังรู้สึกแปลกไป เหมือนมันจะหยุดทุกครั้งที่เขาพยายามจะหายใจ
เขารู้สึกเหมือนถูกติดอยู่ในฝันร้ายที่ไม่มีที่สิ้นสุด
“ที่นี่...คือโลกที่ไม่มีทางกลับ...” เขาพึมพำในใจ ขณะที่ท้องฟ้าครึ่งดวงเริ่มมืดลงในคืนที่ไม่มีที่สิ้นสุด
และในเวลานั้นเอง เสียงแปลก ๆ ดังขึ้นมาจากทางด้านขวาของเขา เสียงที่ไม่เหมือนเสียงฝนหรือสิ่งใดที่เคยได้ยิน มันดังเหมือนเสียงบางอย่างกำลังยืดหยุ่นและเคลื่อนไหวไปตามลม
เรียวหันไปตามเสียงนั้นอย่างรีบเร่ง คำถามหลายคำถามพรั่งพรูออกมาจากในใจ แต่ก็ไม่มีคำตอบ
“ทำไม?” เขาถามเสียงต่ำ “ทำไมถึงเป็นแบบนี้?”
แต่โลกนี้ไม่ให้คำตอบ แม้แต่เสียงฝนก็ยังเหมือนจะหายไปในความมืด ที่นี่ไม่ใช่โลกที่เขาคุ้นเคยอีกต่อไป
...****************...
...****************...
เรียวเดินต่อไปในความมืด เสียงฝนกระทบลงบนพื้นดินเหมือนจะกลบเสียงฝีเท้าของเขา เขารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังตกอยู่ในฝันที่ไม่สามารถตื่นขึ้นมาได้ บรรยากาศรอบตัวหนาวเย็นและหนักหน่วง จนแทบหายใจไม่ออก ท่ามกลางเงามืดเหล่านั้น เขาสามารถเห็นสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์เดินผ่านไปมาอย่างเงียบเชียบ
บางสิ่งที่ยืนอยู่ในความมืดทำให้หัวใจของเขาหยุดเต้น ชายคนหนึ่งในชุดคลุมดำยืนอยู่ไกลๆ ห่างจากเขาประมาณสิบก้าว ความเงียบเหมือนมีชีวิต มันคลุมตัวตนของเขาไว้ภายใต้การมองเห็นที่ไม่สมบูรณ์
“เจ้าเป็นใคร?” เสียงแหบแห้งจากชายในชุดคลุมนั้นดังขึ้น ขณะที่เขาก้าวเดินไปข้างหน้า เสียงนั้นเหมือนกำลังสอดประสานกับเสียงฝนที่ตกลงมาให้รอบข้างเป็นการทักทายที่ไม่ต้องการคำตอบ
เรียวไม่ได้ตอบกลับ เขารู้สึกเหมือนตัวเองถูกดูดเข้าไปในดวงตาของชายคนนั้น สายตาของเขาไม่แสดงถึงความรู้สึกใด ๆ ชายคนนี้เหมือนกับเป็นส่วนหนึ่งของความมืด ทั้งตัวเขาดูเหมือนจะหลอมรวมกับมันจนยากจะมองเห็น
ชายในชุดคลุมเดินเข้ามาใกล้ ขณะที่เรียวพยายามจะถอยหลัง แต่การเคลื่อนไหวของเขากลับช้าเหมือนขาไม่สามารถขยับไปข้างหน้าได้ เสียงฝีเท้าของชายในชุดคลุมดังก้องอยู่ในหัวใจของเขา เสียงฝีเท้าที่บิดเบี้ยวราวกับดังก้องในโลกที่ไม่เคยมีใครได้ยิน
“เจ้าไม่สามารถหนีจากมันได้” ชายคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น เสียงนั้นเหมือนเสียงสะท้อนจากความมืด เขาเอื้อมมือออกไปข้างหน้าแล้วจับที่ไหล่ของเรียวเหมือนจับจุดที่มันต้องการให้หยุด
เรียวสะดุ้งและพยายามดึงตัวเองออกจากการจับกุม แต่ทุกการขยับของเขากลับเป็นไปอย่างไร้ความหมาย เขารู้สึกถึงความเย็นยะเยือกที่แพร่กระจายจากมือของชายในชุดคลุม มันเหมือนกับมีอะไรบางอย่างกัดกินไปในจิตใจของเขา
“ที่นี่ไม่มีที่หลบซ่อนหรอก…” ชายคนนั้นพูดเสริมขึ้น ก่อนที่เขาจะเดินหายไปในความมืดและความเงียบเริ่มกลับมาอีกครั้ง
เรียวยืนสั่นเทาอยู่ในที่เดิม มือของเขาเย็นเฉียบ ขณะที่หัวใจของเขายังคงเต้นแรง เขามองไปที่พื้นดินที่เต็มไปด้วยความเปียกชื้นจากฝน ตลอดเวลาในโลกนี้เหมือนกับเวลาหยุดนิ่ง แม้แต่เสียงของฝนยังรู้สึกแปลกไป เหมือนมันจะหยุดทุกครั้งที่เขาพยายามจะหายใจ
เขารู้สึกเหมือนถูกติดอยู่ในฝันร้ายที่ไม่มีที่สิ้นสุด
“ที่นี่...คือโลกที่ไม่มีทางกลับ...” เขาพึมพำในใจ ขณะที่ท้องฟ้าครึ่งดวงเริ่มมืดลงในคืนที่ไม่มีที่สิ้นสุด
และในเวลานั้นเอง เสียงแปลก ๆ ดังขึ้นมาจากทางด้านขวาของเขา เสียงที่ไม่เหมือนเสียงฝนหรือสิ่งใดที่เคยได้ยิน มันดังเหมือนเสียงบางอย่างกำลังยืดหยุ่นและเคลื่อนไหวไปตามลม
เรียวหันไปตามเสียงนั้นอย่างรีบเร่ง คำถามหลายคำถามพรั่งพรูออกมาจากในใจ แต่ก็ไม่มีคำตอบ
“ทำไม?” เขาถามเสียงต่ำ “ทำไมถึงเป็นแบบนี้?”
แต่โลกนี้ไม่ให้คำตอบ แม้แต่เสียงฝนก็ยังเหมือนจะหายไปในความมืด ที่นี่ไม่ใช่โลกที่เขาคุ้นเคยอีกต่อไป
เรียวยังคงยืนอยู่ท่ามกลางความเงียบสงัด ไม่มีทางออก ไม่มีคำตอบ เพียงแค่ฝนที่หยดลงอย่างไม่หยุดหย่อน แต่เขาไม่สามารถรู้ได้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน บางครั้งเขารู้สึกเหมือนเขาแค่ฝันไปทั้งหมด แต่การสัมผัสที่เย็นเยียบจากฝนและความเหน็บหนาวจากการถูกจับจ้องโดยสิ่งที่ไม่เห็นทำให้รู้สึกว่ามันไม่ใช่แค่ความฝัน
เขาไม่รู้ว่าเสียงแปลก ๆ ที่เขาได้ยินมาจากทิศทางไหน เป็นเสียงจากสิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถมองเห็นหรือเป็นแค่เสียงจากความกลัวที่เขากำลังก่อขึ้นในใจ
แต่ในที่สุด เรียวตัดสินใจเดินไปในทิศทางนั้น เขายังไม่มีทางเลือกอื่น ทุกย่างก้าวที่เขาก้าวไปเหมือนกับยิ่งเข้าใกล้กับบางสิ่งที่เขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ความเงียบที่เคยปกคลุมแผ่ขยายออกไปและคลุมโลกใบนี้ไว้หมดสิ้น
จนกระทั่งเขาเห็นมัน…
มันยืนอยู่ท่ามกลางความมืด ชุดคลุมยาวสีดำปลิวไสวไปตามลม เหมือนเป็นร่างที่ลอยออกมาจากโลกอื่น ตัวมันเองดูไม่สมจริง เหมือนจะเป็นเพียงภาพลวงตาที่แค่รอให้เขามองเห็น
“เจ้าตัดสินใจแล้วหรือ?” เสียงนั้นอีกครั้งดังขึ้นจากท่ามกลางความมืด ขณะที่แสงจากพระจันทร์ตกกระทบทำให้เห็นเงาร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา
เรียวหายใจถี่ขึ้น มองไปที่สิ่งที่ยืนอยู่ตรงหน้า มันไม่มีใบหน้า ไม่มีการเคลื่อนไหว เหมือนกับแค่ความมืดที่รวบรวมมาเป็นรูปร่างหนึ่ง
“ตัดสินใจอะไร?” เรียวถามเสียงแผ่ว แต่ก็รู้สึกเหมือนเสียงของเขาหายไปกับลม
ร่างนั้นค่อย ๆ ขยับไปข้างหน้า และทันใดนั้น ร่างของมันเริ่มสลายกลายเป็นหมอกสีดำที่ลอยไปในอากาศ ทิ้งไว้เพียงคำถามที่วนเวียนในหัวของเขา
“เจ้าไม่สามารถหนีจากมันได้”
เสียงนั้นดังอยู่ในหัวของเขา แม้จะไม่มีใครพูด แต่กลับราวกับมันกำลังสะท้อนจากความมืด
เรียวสติหลุดไปชั่วขณะ ก่อนจะกลับมารู้ตัว เขารีบหันหลังและวิ่งไปในทิศทางที่เขาคิดว่าเป็นทางออก แต่ยิ่งวิ่งไป เขากลับรู้สึกว่าโลกนี้เริ่มหมุนไปกับตัวเขา ทุกสิ่งรอบตัวเริ่มเบลอจนไม่สามารถแยกแยะได้
เขาล้มลงไปบนพื้นหญ้า แขนของเขาเต็มไปด้วยรอยแผลจากการล้มลง และร่างกายของเขาเริ่มสั่นเทาอีกครั้ง ความรู้สึกไม่ต่างจากการล่องลอยในโลกที่ไม่มีน้ำหนัก ไม่มีอะไรที่จะยึดถือได้
แต่ทันใดนั้น ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากข้างหลังเขา
“อย่าหนีจากมัน…”
เสียงนั้นมาจากผู้หญิงคนหนึ่ง ร่างของเธอสวมชุดคลุมคล้ายกับหญิงสาวคนเมื่อครู่ แต่เธอมีดวงตาสีแดงอันแหลมคมที่จ้องมองมาอย่างลึกลับ เสียงของเธอไม่เหมือนเสียงจากมนุษย์ เสียงนั้นเหมือนเสียงของผู้ที่รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับโลกนี้
“ทำไม...ทำไมถึงพูดแบบนั้น?” เรียวถามเสียงสั่น ขณะที่เขากลัวว่าโลกนี้จะกลืนกินเขาไป
หญิงสาวยิ้มบาง ๆ ก่อนจะค่อย ๆ เดินเข้ามาใกล้ เขาสามารถรู้สึกได้ถึงความเย็นจากการมองไปที่เธอ ราวกับเธอเป็นบางสิ่งที่ไม่ควรมีอยู่ในโลกนี้
“เพราะเจ้าไม่มีทางหลบหนี... เจ้าไม่สามารถต้านทานมันได้” เธอพูดเสียงเยือกเย็น ขณะที่มือของเธอยื่นออกมาและจับที่แขนของเขา
เรียวรู้สึกเหมือนกับตัวเองกำลังถูกดึงไปในโลกที่มืดมิด ขณะที่เขาพยายามดิ้นรน แต่ก็ไม่สามารถขยับตัวได้ ร่างของเขาเริ่มรู้สึกหนักและช้า เขาเหมือนถูกจับจ้องจากสิ่งที่มองไม่เห็น
หญิงสาวยิ้มอีกครั้ง ก่อนที่จะพูดว่า “เจ้ามาที่นี่... เพราะมันเลือกเจ้าแล้ว”
...****************...
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!