แดเนียล ปีเตอร์ (แดเนียล)
นักธุรกิจวงการสื่อนิตยสารชื่อดัง
เขาทำงานเกี่ยวกับวงการบันเทิงมานานโดยที่ตัวเขาไม่เคยคิดว่า
วันหนึ่งตัวเองจะต้องเป็นข่าวบนหน้าสื่อเรื่องผู้หญิง
เมื่อวันหนึ่งเขาได้ไปเจอเด็กชายลูกครึ่งไทย อเมริกา อายุราว 6 ขวบ
ทุกคนที่เห็นต่างพูดเป็นเสียงเดีียวกันว่า เด็กคนนี้มีใบหน้าคล้ายกับเขาเหมือนแกะออกมาจากโรงพิมพ์เดียวกัน
สร้างความสงสัยให้กับแดเนียล ทุกคนพยายามถามว่าเขาแอบไปไข่ทิ้งไว้ที่ไหนหรือเปล่าหรือพลาดไปทำผู้หญิงท้อง
หากแต่ว่าถ้าเขาทำแบบนั้นใครกันแน่ที่จะต้องท้องกับเขาและมีลูกหน้าตาแบบนี้
มนัสนัน พวงพุ่มเจริญ (นัน)
ดารานักแสดงชื่อดังที่ไม่เคยมีข่าวเรื่องความรักแต่แล้ววันหนึ่ง
เธอได้หันหลังให้กับวงการบันเทิง เพื่อที่ตัวเธอจะต้องดูแลลูกชาย
ความโชคดีในวันที่ โชคร้ายข่าวการสูญเสียคนรักพ่อและแม่ คนในครอบครัวของเธอ ฟ้าได้ส่งเด็กชายตัวน้อยเข้ามาอยู่ในท้องแบนราบของเธอ
ซึ่งตัวเธอไม่เคยคิดที่จะ ตามหาว่าพ่อของลูก ถึงแม้เธอจะมารู้ที่หลังว่า
พ่อของลูกชายเธอนั้นเป็นถึงเจ้าพ่อสื่อนิตยสารชื่อด้งที่เธอได้รับเชิญให้ไปถ่ายแบบก็ตาม
เด็กชาย ธัญชนก พวงพุ่มเจริญ (น้องนาย) อายุ 6 ขวบ
ความลับที่ถูกปิดเงียบมานานกำลังจะได้รับการเปิดเผย
ห้องทำงานประธานกรรมการสื่อนิตยสารยักษ์ใหญ่
แดเนียล
ปีเตอร์ ผู้มีอิทธิพลในวงการบันเทิงเขาคือผู้คุมนิตยสารและสื่อต่างมากมายของอเมริกา
บุคลิกที่น่าเกรงขาม ใบหน้าหล่อเหลามีรูปร่างสูงใหญ่และสง่างามนั่งเซ็นเอกสาร
เขาเป็นบุคคลที่มีพื้นที่สื่อเยอะมากในทั่วทุกทวีป
ซานิส ลูกน้องคนสนิทของเจ้าพ่อสื่อที่ยืนตัวตรงอยู่ฝั่งตรงข้าม
เขารับตำแหน่งเลขาและบอดี้การ์ด รับหน้าที่ทำสำคัญคอยดูแลเช็ครายละเอียดความเรียบร้อยของงานเรื่องต่างๆ
ก่อนที่จะส่งมาถึงเจ้าพ่อสื่ออย่างแดเนียล
“แน่ใจนะซานิส
ว่าข้อมูลที่ได้เป็นเรื่องจริง”
“แน่ใจครับ
ผมเช็คมาอย่างละเอียดทุกอย่างทั้งผลตรวจของโรงพยาบาลการยืนยันในผลการตรวจ DNA ตรงทุกโรงพยาบาล”
ซานิสตอบเสียงหนักแน่น ก่อนที่จะวางซองสีน้ำตาลบนโต๊ะทำงานของเจ้านายหนุ่ม
แดเนียลเปิดซองเอกสารออกมา
มองรูปภาพที่นักสืบได้ไปเก็บภาพของผู้หญิงที่หายตัวไปอย่างลึกลับในตอนเช้า
ขนาดมีลูกชายแล้วหนึ่งคนหุ่นทรวดทรงที่ติดอยู่ในห้วงคำนึงทำให้ชายหนุ่มเผลอกลืนน้ำลายลงคอโดยที่ไม่รู้ตัว
“ซานิส
นายสั่งจ่ายเช็คในนักสืบคนนี้ตามที่สมควรกับค่าเสียเวลา
ต่อไปฉันจะทำการทวงลูกชายทายาทของตระกูลปีเตอร์คืน” เสียงพูดรอดไรฟัน
นัยน์ตาคมกริบมองจ้องรูปของ มนัสนัน พวงพุ่มเจริญ และ เด็กชายธัญชนก พวงพุ่มเจริญเพราะข้อมูลทุกอย่างที่ได้มามันชัดเจนแล้วว่า
ดาราสาวชื่อดังเป็นผู้หญิงในค่ำคืนวันนั้น ผ่านมาเกือบ 7 ปี
ที่มันเหมือนความรู้สึกผิดบาปที่เขาเผลอทำลายความสาวของผู้หญิงคนหนึ่งโดยการที่ตัวเองเข้าใจผิดว่า เป็นผู้หญิงที่คนสนิทเรียกมาเพื่อบำเรอความสุขในแก่เขา
ภาพสุดท้ายที่เห็นคือรูปคู่กับนักแสดงหนุ่มหล่อ
ภายในใจรู้สึก ฉุน
เครียดขรึมมากยิ่งกว่าการประมูลสื่อมากมายหลายโครงการ
“เสร็จจากนี้ฉันจะไปเมืองไทย
นายเตรียมทุกอย่างให้พร้อม ฉันจะไปตามลูกของฉันคืน จากผู้หญิงที่กล้าปิดบังเรื่องสำคัญนี้
เรื่องนี้เธอต้องรับผิดชอบ มนัสนัน พวงพุ่มเจริญ”
ย้อนกลับไปตอนต้นปี
แดเนียลได้เดินทางมางานเปิดตัวภาพยนตร์ของตัวเองที่เมืองไทย
งานเปิดตัวในวันนั้นทำให้แดเนียลสะดุดตากับเด็กชายลูกครึ่ง
เพียงแรกเจอเขากับจำลักษณะท่าทางของเด็กชายคนนั้นได้ทุกอย่าง
และมันปรากฏชัดเจนมากเมื่อเขาเห็นว่าเด็กชายวิ่งกลับไปหาคนที่เรียกตะโกนว่าแม่
ผู้หญิงคนนี้มีบางอย่างที่สะดุดสายตา และห้วงคำนึงสุดท้ายดวงตาและใบหน้าที่สวย
ผู้หญิงคนเดียวที่เขาพลาดปล่อยทายาทเข้าไปภายในร่างกายของหญิงสาวถึง 3 ครั้ง ติด ๆ
“คัท...เลิกกองได้
ขอบคุณทุกคนมากๆ แล้วเราเจอกันวันเปิดตัว”
ผู้กำกับละครคนดังได้สั่งเลิกกองทำให้บรรยากาศที่เคร่งเครียดไป ผ่อนคลายลงไปทันที
ทุกฝ่ายต่างช่วยกันไล่เก็บของ ในเมื่อเวลานี้ล่วงเลยเป็นเช้าของวันใหม่
“เลิกกองแล้วสบายใจขึ้นหรือยัง
งานนี้คนที่ดีใจคงจะเป็นน้องนายที่แม่จะมีเวลาให้สักที” เจ๊สิตางค์เพื่อนสนิทพ่วงด้วยตำแหน่งผู้จัดการส่วนตัว
เดินตรงเข้ามาหานางเอกที่หวนกลับมารับงานละครอีกครั้ง
เจ๊สิตางค์เป็นคนเดียวที่รับรู้ถึงเรื่องราวต่างของเพื่อนทั้งสงสารและเห็นใจเพื่อนรักมาก
มนัสนัน
พวงพุ่มเจริญ ดารานักแสดงที่อยู่ในวงการมาตั้งแต่เด็กฝากผลงานเอาไว้มากมาย
ทำให้ละครทุกเรื่องที่มนัสนันแสดงจะต้องได้รับความนิยมและทำให้เรทติ้งของช่องดีขึ้น
“ตางค์
แกว่างไปทะเลกับฉันไหม” ร่างสวยสมส่วนเอ่ยถามเพื่อนรัก
“ฉันว่าง
แต่ฉันขอตามที่หลังได้ไหม
ฉันขอนอนพักชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มก่อนไปเจอน้องนายได้หรือเปล่า” สิตางค์ที่อยู่กองถ่ายตั้งแต่สิบโมงเช้าจนตอนนี้เกือบจะตีสี่มาสองวันติด
ใจก็อยากจะพักแต่อีกใจหนึ่งก็อยากจะไปเที่ยวทะเลกับหลานชายสุดเลิฟ
ที่นับวันยิ่งโตยิ่งหล่อมากๆ แน่ หากโตเป็นหนุ่ม
“ได้
ถ้ายังไงแกก็ตามฉันไปหัวหินก็แล้วกัน” ดาราสาวที่เปลี่ยนชุดที่ใช้ถ่ายกลับมาเป็นเสื้อยืดกางเกงยีนส์
เตรียมตัวเพื่อกลับไปยังบ้านพักส่วนตัว
เพื่อเตรียมเดินทางพาตัวแสบลูกชายของเธอไปเที่ยวพักผ่อนที่บ้านเกิด
ทั้งสองกอดและบอกลาเพื่อกลับไปพักผ่อน
มนัสนันเดินไปเปิดประตู ฝั่งคนขับสตาร์ทรถขับออกไปทันที
สิตางค์เมื่อส่งเพื่อนรักขึ้นรถเสร็จก็เดินกลับไปยังรถของตัวเอง
ขับไปตามถนนมุ่งไปยังบ้านพักที่หามาด้วยน้ำพักน้ำแรงของเธอกับมนัสนัน
โชคดีที่ปิดกล้องละครเร็วกว่ากำหนด
เช้าวันรุ่งขึ้น
เสียงพูดหยอกล้อกันไปมาระหว่างสองคนแม่ลูก
โดยเฉพาะน้องนายที่วันนี้รู้สึกจะคึกคักเป็นพิเศษ หลังจากที่คนเป็นแม่ได้นอนพักไปแค่
สามชั่วโมงหลังจากที่กลับมาจากกองถ่ายละคร
เมื่อตื่นขึ้นมาเห็นใบหน้าของเด็กลูกครึ่งไทย อเมริกา
ฉีกยิ้มให้เธอรับเช้าวันหยุดเพื่อพาไปทะเลตามที่ได้สัญญากับลูกชายเอาไว้
“ไปทะเล
ไปทะเล น้องนายจะไปทะเล”มนัสนันอุ้มลูกชายขึ้นมานั่งบนตักพร้อมกับกดหอมแก้มนิ่มๆ
ย้อนกลับไปเมื่อ
7 ปี ที่แล้ว
ตอนที่รู้ว่าตั้งครรภ์ตัวเธอรู้สึกหวาดกลัวไปหมด
ชื่อเสียงทุกอย่าง
เด็กชายคนนี้มาในช่วงเวลาที่ตัวเธอรู้สึกเศร้าเสียใจมากที่สุดในชีวิตการสูญเสียพ่อและแม่
หลังจากที่อยู่ด้วยความเสียใจนานนับเดือน วันที่รู้ตัวว่าท้อง ๆ
ตอนแรกเธอรู้สึกชาวาบไปทั้งตัว ฝ่ามือที่เธอจับไปหน้าท้องแบนราบ ตอนแรกๆ
ที่คิดว่าเธอพลาดไปมีความสัมพันธ์ไม่ได้ตั้งใจกับผู้ชายคนนั้น
ผู้ชายที่เธอไม่อยากจะจำและปิดบังเก็บซ่อนเอาไว้ข้างในลึกว่า พ่อของน้องนายเป็นใคร
“นัน!”
แพทย์หนุ่มพี่ชายคนสนิทเมื่อทำการตรวจเสร็จได้เอ่ยเรียกเบาๆ
เมื่อเห็นอาการช็อกของน้องสาวที่โตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก เขาไม่เคยรู้เลยว่า นันมีแฟนหรือคบอยู่กับใคร
“พี่พฤกษ์!”
มนัสนันเอ่ยชื่ออีกฝ่ายเบาๆ
“นันมีเรื่องอะไรจะบอกพี่ไหม”
นายแพทย์หนุ่มได้เอ่ยถามกลับไปด้วยความเป็นห่วง
“พี่พฤกษ์
นันจะทำยังไง” นัยน์ตาที่น้ำคลออยู่ข้างในมันสั่นไหว
พฤกษ์ย้ายตัวเองมานั่งข้างๆ
น้องสาวคนสนิท พร้อมกับกุมมือเล็กเอาไว้
อาการที่เห็นมันชัดเจนว่าอีกฝ่ายคงจะไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้
เรื่องชื่อเสียงที่กำลังโด่งดังต่อจากนี้อีกฝ่ายจะตัดสินใจยังไง
“นันตั้งใจที่จะมีหรือเปล่า
นันต้องการแบบไหนบอกพี่มา” พฤกษ์พูดกับมนัสนันด้วยน้ำเสียงห่วงใยและปรารถนาดี
“นันไม่ได้ตั้งใจพี่พฤกษ์
ถ้าเขามาขออยู่กับ นันแบบนี้ คิดอีกทีเด็กคนนี้อาจจะเป็นตัวแทนของพ่อแม่ก็ได้ที่อยากให้
นันมีใครอยู่เป็นเพื่อน” มนัสนันเอ่ยพร้อมกับยิ้มหวานส่งกลับไปให้คนตรงหน้า
“นันคิดถึงเรื่องอื่นเอาไว้บ้างไหม
หากสื่อหรือนักข่าวตามสืบ นันจะรับมือกับเรื่องนี้ได้หรือเปล่า พี่ว่า...”
“นันจะเก็บเด็กคนนี้ไว้”
มนัสนันดาราสาวดาวรุ่งเอ่ยออกมา
หลังจากสูญเสียพ่อแม่ แรกๆ เธอก็เหมือนเคว้งไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ในเมื่อมีเด็กคนนี้เข้ามาอยู่ในท้องของเธอ
เธอก็จะเลี้ยงดูเด็กคนนี้ให้ดีที่สุดเพราะชีวิตเธอก็ไม่ได้ขัดสนอะไร
หากจะต้องออกจากวงการ ติดตรงที่นักข่าวจะต้องตามสืบว่าพ่อของเด็กในครรภ์ของเธอคนนี้เป็นใครต่างหาก
“แม่ครับ
แม่ครับ”
เสียงเด็กชายร้องสะกิดเรียกแม่ที่ตอนนี้นิ่งค้างไป
ไม่พูดอะไรต่อน้องนายจับผมยาวๆ ของแม่ขึ้นมาหอมและจูบไปบนแก้มออดอ้อน
จนหญิงสาวได้สติว่าตัวเองเผลอหวนคิดไปถึงเหตุการณ์ในอดีต
มนัสนันอมยิ้มน้อยในความออดอ้อนของลูกชาย
แม้ตอนเด็กเธอต้องเลี้ยงน้องนายเอง แม้ว่ามันจะเหนื่อยมากแค่ไหน
ความออดอ้อนเอาใจของน้องนายมักจะทำให้เธอยิ้มได้เสมอรอยยิ้มของน้องนายเป็นกำลังใจให้ตัวเธอกล้าเผชิญทุกอย่างแม้แต่เรื่องข่าวที่เป็นประเด็นร้อนแรงเมื่อสองปีก่อน
ความจริงถูกเปิดเผยว่าที่เธอหนีหายไปจากวงการ
เพราะว่าเธอท้องโดยที่ไม่รู้ว่าพ่อของเด็กเป็นใคร
“น้องนายตื่นแล้ว
เราเตรียมกลับไปบ้านของตากับยายกันดีกว่า”
มนัสนันลงจากที่นอนจัดการอุ้มลูกชายเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อ
หลังจากนั้นก็รีบเข้าไปอาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดคู่กันระหว่างแม่กับลูก
ที่ตัวเธอทำเสื้อผ้าเองเพราะจะได้ไม่ต้องไปตามหาชุดให้ลูกชาย ไหนๆ ก็ต้องเสื้อเงินซื้อแล้วก็ทำมันเองเสียเลยจะดีกว่า
เมื่อเธอจัดเตรียมทุกใส่เอาไว้ในรถสปอร์ตคันโปรด
ก็พร้อมออกเดินทางไปหัวหินเพื่อพักผ่อน มนัสนันสวมใส่ชุดเอี๊ยมด้านในใส่เสื้อยืดรัดรูป
โดยที่ลูกชายน้องนายก็แต่งชุดคล้ายกันกับผู้เป็นแม่
ทั้งสองเตรียมตัวเพื่อไปพักผ่อนที่หัวหินบ้านเกิดของดาราสาว
แม่ลูกต่างพากันแวะหาของกินไปตลอดทางเสียงเพลงที่ทำให้ลูกชายร้องและโยกตามจังหวะ ทำให้คนเป็นแม่รู้สึกมีความสุขมาก
รถสปอร์ตคันหรูแล่นเข้าไปจอดบริเวณหน้าบ้านพักบ้านกึ่งปูนกึ่งไม้ รายล้อมไม้เขียวชอุ่ม
มองเลยไปทางด้านหลังก็เป็นชายหาดส่วนตัวเล็ก ๆ
ซึ่งน้องนายรู้สึกตื่นเต้นเพราะไม่ได้มาบ้านของคุณตาคุณยายนานมากแล้ว
“น้องนาย
ครับมาช่วยคุณแม่เอาของลงจากรถก่อน” มนัสนันเรียกลูกชายที่ตอนนี้ร่าเริงมาก ๆ
เตรียมที่จะวิ่งไปเล่นน้ำทะเล
เด็กชายตัวน้อยวิ่งไปมาด้วยอารมณ์ที่ร่าเริง
โชคดีที่น้องนายเป็นเด็กอารมณ์ดีเลี้ยงง่าย
เลยไม่มีปัญหาเวลาไปไหนมาไหนกันสองคนแม่ลูก
“โอเค
ครับผม” เด็กชายตัวน้อยยกมือขึ้นทำความเคารพคนเป็นแม่
จากนั้นก็ช่วยหยิบของชิ้นเล็ก ๆ วิ่งเข้าไปบ้าน
ภาพของผู้หญิงที่อยู่ในห้วงคำนึงของเขาตลอด
7 ปี แม้ว่าตัวเขาจะมองไกลๆ เสียงหัวเราะ รอยยิ้มของทั้งสองคน แดเนียล มองภาพที่เห็นตรงหน้าหัวใจของเขาเต้นแรง
นอกจากผู้หญิงคนนี้แล้วก็ยังมีเด็กชายที่วิ่งเล่นไปมา หัวใจของเขายิ่งรู้สึกตื้นเต้นมันบีบแน่นอยู่ด้านใน
แดเนียลเดินเข้าไปเพื่อมองทั้งสองคนใกล้
ๆ อยู่หลังต้นไม้ใหญ่ เขาได้ยินเสียงหัวเราะการหยอกล้อของสองแม่ลูกได้ถนัดมากขึ้น
ซานิสที่ยืนมองเจ้าพ่อสื่อห่าง
ๆ อาการที่แปลกไปตั้งแต่ที่รู้ว่าตัวเองมี ลูกชายการที่เจ้าพ่อสื่อรู้เรื่องการมาเที่ยวของคุณมนัสนันและลูกชายไม่ยาก
เนื่องจากเจ้าพ่อสื่อแอบให้คนติดตามสองคนแม่ลูก คอยส่งตารางงานทุกอย่างให้อีกฝ่ายทราบจนรู้เกือบจะทุกเรื่องของคุณมนัสนัน
แดเนียลที่แอบเดินตามทั้งสองออกไปยังชายทะเลด้านหลังอย่างเงียบๆ
เขามองเห็นสองแม่ลูกที่กำลังวิ่งไล่จับกันไปมาบนพื้นทรายละเอียด
แดเนียลกำลังประมวลผลโดยใช้สมองที่แสนจะฉลาดของตัวเองคิดวิเคราะห์ว่า
จะเข้าไปใกล้ชิดสองคนแม่ลูกนี่ยังไง สายตายามที่มองแม่ลูกที่วิ่งเล่นอยู่ตรงนั้น
ลูกชายเขาที่มีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ
ทำให้คนที่พึ่งรู้ตัวว่าเป็นพ่อต้องเผลอหลุดรอยยิ้มออก
แดเนียล
มองเลยไปยังคนที่เป็นแม่ดูสวยผิวพรรณเปล่งปลั่ง
สวยกว่าตอนที่เขาเผลอไปมีความสัมพันธ์เกินเลยในค่ำคืนที่ต่างฝ่ายต่างเหงาและเมา
ผู้หญิงที่อยู่ในห้วงคำนึงตลอดเวลา 7 ปี ไม่ว่าเขาจะมีความสัมพันธ์กับดารา
นางแบบหรือผู้หญิงคนอื่น ๆ มากมายแต่เขาไม่เคยรู้สึกสุขใจได้เท่ามนัสนัน
เกือบชั่วโมงที่แดเนียล
แอบดูทั้งสองอยู่ตรงหลังต้นไม้ใหญ่ เขามองอยู่เงียบนานเกือบชั่วโมง
ใจก็นึกอยากจะเดินเข้าไปทักทายเรียกร้องความเป็นพ่อ
แต่รอยยิ้มเสียงหัวเราะของลูกชายทำให้เขาจำต้องหยุดไม่รีบร้อน แดเนียล มองเข้าไปเห็นเด็กชายที่กำลังวิ่งแก้ผ้าวิ่งเล่นไปมาในบ้าน
และเขาไม่ได้คิดไปเอง เขาเห็นว่าเด็กชายส่งยิ้มมาให้เขา
หัวใจของคนที่พึ่งรู้ตัวว่ามีลูกชายต้องกระตุกแอบส่งยิ้มกลับไป คนเป็นพ่อแอบคิดว่ารอยยิ้มของเด็กชายช่างเหมือนกับเขาเสียจริง
ๆ สีผมและดวงตา DNA ของเขาถูกถ่ายทอดไปยังเด็กชายคนนี้เกือบจะทั้งหมด
เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญต่อตระกูลปีเตอร์
ตระกูลร่ำรวยที่ไร้ทายาท หากพ่อกับแม่เขารู้ท่านจะต้องดีใจแน่ๆ
เมื่อเขาเดินกลับเข้าไปยังบ้านพักตากอากาศที่ตัวเองลงทุนซื้อเพื่อจะได้ใกล้ชิดสองแม่ลูก
ตัวเขาไม่รอช้าทุกอย่างมันชัดเจนแล้วว่าเด็กชายคนนี้เป็นทายาทของตระกูลปีเตอร์แน่นอน
ทั้ง DNA เมื่อมาเจอตัวจริง ซานิส และคนใกล้ชิดต่างลงความเห็นว่า เด็กชายธัญชนก
พวงพุ่มเจริญ เหมือนตัวเขามากเขารีบต่อสายไปบอกเรื่องสำคัญนี้กับมาดามใหญ่แห่งปีเตอร์...มาดามอเมร่า
คุณโดราธีและมาดามอเมร่า ทั้งสองกำลังยืนมองต้นแคคตัส กระบองเพชรต้นเล็กที่ถูกวางเรียงรายในโรงเพาะชำ
หลังจากเกษียณตัวเอง ปล่อยให้ลูกชายคนเดียวของตระกูลบริหารธุรกิจของตระกูลต่อไป
“คุณเมื่อคืนฉันฝันว่า
ลูกของเราพาเด็กผู้ชายหน้าตาน่ารัก มาพบเราด้วย
เด็กผู้ชายคนนั้นหน้าตาเหมือนเจ้าลูกชายของเรามากเลย”
มาดามอเมร่าพูดเรื่องความฝันกับผู้เป็นสามี
ที่กำลังยืนตัดแยกเนื้อเยื่อของต้นกระบองเพชรเพื่อย้ายกระถาง
คุณโดราธีที่ยังไม่ได้บอกคนเป็นแม่ของลูกชายว่า
ตอนนี้สิ่งที่ภรรยาคู่ใจฝันนั้นมันเป็นเรื่องจริง
หลังจากที่ลูกชายนำซองเอกสารสำคัญมาให้เขาดูก่อนที่จะเดินทางไปเมืองไทยเพื่อภารกิจทวงลูกชายคืน
“แล้วถ้าเรื่องที่คุณฝันมันดันเป็นเรื่องจริง
คุณจะรู้สึกยังไงที่รัก” คุณโดราธีแอบหยอดคำถามไปยังมาดามอเมร่า
“คุณ! ไม่น่าถามฉันก็ต้องดีใจสิ
ทุกวันนี้เรื่องเจ้าชู้ของลูกชายเราก็ดังหยอกสะที่ไหน
คบแต่ไม่ผูกพันนิ้วของฉันยังนับไม่พอเลย คิดๆ แล้วปวดหัวใจ คนเป็นแม่”
มาดามอเมร่าพูดน้ำเสียงเศร้าเพราะตัวเธอต้องการอยากจะมีหลานเต็มทน
“ถ้าอย่างนั้นคุณก็เตรียมใจรอฟังข่าวจากลูกชายตัวดีของคุณเลย” คุณโดราธีพูดยิ้ม ๆ
สร้างความแปลกใจและงุนงงกับภรรยามากๆ
“คุณรู้เรื่องอะไรมาแล้วไม่บอกฉันหรือเปล่า
ห๊ะ! คุณโดราธี”
ซึ่งตัว มาดามอเมร่าหันกลับไปสนใจในสิ่งที่สามีเอ่ยออกมาแต่จำต้องหยุดเมื่อเจ้า ลูกชายตัวดีของเธอโทรเข้ามาพอดิบพอดี
มาดามอเมร่ารับสายได้ก็ยิงคำถามใส่ลูกชายทันที
ซึ่งสิ่งที่สามีพูดทิ้งเอาไว้สร้างความแปลกใจและสงสัย พร้อมกับหันไปส่งสายตาดุๆ
ให้คุณโดราธี
“โทรมาได้เวลาเลยนะ
แดเนียล แม่กับพ่อพึ่งจะพูดเรื่องของเรา เมื่อคืนแม่ฝันว่าลูกพาเด็กผู้ชายหน้าตาน่ารักใบหน้าเหมือนลูกมาก
ๆ แม่พึ่งจะเล่าให้พ่อฟังเมื่อครู่ อยู่ ๆ พ่อของลูกมาพูดอะไรก็ไม่รู้ทำให้แม่ตกใจ”
มาดามอเมร่าพูดเหมือนอัดอั้น
“สรุปคุณพ่อเขาบอกแม่แล้วใช่ไหมเรียกของลูกชายผม”
แดเนียล พูดออกมาตรงๆ
มาดามอเมร่ายืนถือโทรศัพท์นิ่งค้างยืนเงียบ
ซึ่งคุณโดราธีเห็นอาหาร
ช็อกของภรรยาคู่ใจ
“เดี๋ยวนะแดเนียล
ลูกกำลังล้อแม่เล่นใช่ไหม” มาดามอเมร่ารีบถามด้วยอารมณ์ที่ตกใจ
“เรื่องจริงครับ
ตอนนี้ลูกชายผมอายุ 6 ขวบแล้ว” แดเนียล พูดบอกแม่ของตัวเองไปตรงๆ
“แดเนียลแม่ขอร้องให้ลูกพูดกับแม่มาตรงๆ
เล่ามาตั้งแต่ต้น”
มาดามอเมร่าที่ฟังลูกชายเล่าถึงอดีตจะถึงวันที่ตัวของลูกชายพึ่งจะรู้ว่า ตัวเองมีลูกเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้
เมื่อฟังสิ่งที่ลูกชายเล่าจนจบ มาดามอเมร่าก็เปิดฉากต่อว่าทันที
“แม่ไม่รู้จะด่าลูกว่าอะไร
ด่าไปก็เหมือนด่าตัวเองและพ่อของลูก เราเนี่ยนะทำไมทำตัวแย่มากขนาดนี้
แล้วหลานแม่หล่อไหมลูก” เมื่อด่าลูกชายคนเดียวเสร็จก็ยังมีแวะมาถามถึงหลานชาย
“แม่ขอที่คุณพ่อเถอะครับ”
มาดามอเมร่าปรายตาหันไปจ้องสามีที่ยืนโบกมือไปมาเหมือนไม่เกี่ยวกับเรื่องที่ลูกให้ปิดบัง
“คุณแม่คงไม่โกรธหรือรังเกียจลูกของผมนะครับ”
แดเนียลเอ่ยถามมาดามอเมร่าออกไปตรงๆ
“จะรังเกียจได้ยังไง
หลานแม่ทั้งคนถ้าเรามั่นใจว่าเป็นลูกชายของลูกจริงๆ
แม่กลับดีใจมากกว่าที่รู้ว่ามีหลานชายเอาไว้สืบทอดตระกูลปีเตอร์ของเรา”
“เอ่อ...แดเนียลแม่ลืมถามแล้วผู้หญิงที่ลูกไปทำให้เธอท้อง
เธอเป็นใครลูกพ่อจะบอกแม่ได้ไหม”
มาดามอเมร่าร้องตกใจเกือบลืมไปเลยเรื่องแม่ของหลานชายเธอที่พึ่งจะรู้
“แม่ของลูกชายผมเธอเป็นดาราของเมืองไทยชื่อ
มนัสนัน พ่วงพุ่มเจริญครับ คงไม่ยากสำหรับมาดามอเมร่าที่จะสืบค้นหาข้อมูลของเธอ”
แดเนียล แอบประชดผู้เป็นแม่ที่มักจะรู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงของเขาทั้งหมดและรู้ลึกด้วย
ไม่รู้ว่าแม่ไปจ้างนักสืบสำนักไหนถึงได้รู้ลึกรู้จริง
หลังจากที่วางสายจากคนเป็นแม่
เสร็จก็ยืนมองไปยังบ้านพักตรงหน้าที่มี มนัสนันนั่งมองดวงดาวอยู่กับลูกชายของเขา
มนัสนันนั่งมองพระจันทร์ดวงกลมโต
โดยที่ลูกชายน้องนายนั่งอยู่บนตัก วันนี้เธอรู้สึกมีความสุขมาก ๆ
ที่ได้ยินเสียงหัวเราะ รอยยิ้มถึงแม้จะเหนื่อยจากการถ่ายละครเกือบจะทั้งเดือน
เมื่อทุกอย่างลงตัวแบบนี้เธอก็รู้สึกสุขใจ
“แม่ครับ
แม่คิดว่าพ่อจะมองเห็นผมหรือเปล่า” คำถามของเด็กชายอายุ 6 ขวบ
คำถามที่ทำให้คนเป็นแม่เจ็บและจุกอยู่ข้างใน ซึ่งข่าวคราวของคนเป็นพ่อของลูกชายเธอ
มีเยอะมาก ๆ ในเรื่องผู้หญิง ความเจ้าชู้
“เห็นสิพ่อของน้องนายจะมองน้องนายมาจากดาวดวงนั้น
พ่อเขาจะรู้และเป็นห่วงน้องนายมาก
ถ้าน้องนายอยากให้พ่อมีความสุขน้องนายห้ามดื้อกับคุณแม่รู้ไหมครับ” เด็กชายพยักหน้าพร้อมกับกดหอมแม่คนเป็นแม่
“แม่ครับ
ลุงคนนั้นยืนมองเราสองคนตั้งนานแล้วนะครับ” เด็กชายรู้สึกสงสัยจึงพูดบอกคนเป็นแม่
มนัสนันมองตามนิ้วเล็ก
ๆ ที่ชี้ตรงไปยังบ้านฝั่งตรงข้าม ก็เห็นใบหน้าของผู้ชายที่ที่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลย
ผู้ชายที่เป็นผู้ผลิตน้องนายให้ถือกำเนิดขึ้นมา
แดเนียลก้าวเดินข้ามฝั่งมายังบ้านสองชั้นที่มีแม่ของลูกชายเขา
และรอยยิ้มที่ลูกชายของเขาแอบส่งยิ้มให้มาตั้งแต่บ่าย
“สวัสดีครับ
น้องนาย” แดเนียลทักทายพร้อมกับพูดชื่อ
เขาเห็นใบหน้าของมนัสนันที่ยืนจ้องเขานิ่งไม่ขยับ
ชายหนุ่มนั่งลงไปตรงด้านหน้าของน้องนาย
ยื่นมือหมายจะไปจับแก้มแต่ถูกคนเป็นแม่ปัดมือเขาให้ออกไป
“คุณเป็นใคร”
แดเนียลกำลังจะไล่คว้าต้นแขนของหญิงสาวที่ไม่รอให้เขาตอบแต่กลับอุ้มลูกชายขึ้นมาแนบอก
เดินหนีกลับเข้าไปในบ้าน มนัสนันตกใจแทบจะสิ้นสติที่เห็นเขามาปรากฏตัวที่นี่
แดเนียลที่ยังไม่ยอมขยับไปไหนมองจ้องประตูหน้าบ้าน
มองเห็นแสงไฟในบ้านถูกดับหมดทุกดวง
เขาเชื่อว่าอีกฝ่ายต้องการสื่อให้เขาหยุดคุกคามและตามเข้าไป แต่ในเมื่ออีกฝ่ายเห็นเขาแล้ว
ชายหนุ่มตัดสินใจเดินไปเคาะประตู
“มนัสนัน
เปิดประตูให้ผมเดี๋ยวนี้” แดเนียล พูดชื่อเต็มๆ ของหญิงสาว
คนที่พาลูกชายหนีเข้ามาภายในบ้านถึงกับสะดุ้งนี่เขารู้จักชื่อและชื่อของน้องนายได้ยังไง
ตัวเธอบอกให้น้องนายเงียบๆ
“มนัสนัน
เปิดประตูให้ผมหน่อย เราสองคนต้องมีเรื่องมานั่งตกลงกันนะ” แดเนียลเคาะประตูหนัก ๆ
เสียงเรียกตะโกนดังมากกว่าเดิม
“แม่ครับ
ลุงคนนี้รู้จักชื่อแม่กับชื่อผมนะครับ” น้องนายจับใบหน้าของแม่ที่มีอาการตกใจ
“อย่าเสียงดังลูก
ลุงคนนี้เขารู้จักแม่ตามข่าว คนพวกนี้เราต้องระวังตัว ลุงอาจจะเป็นแฟนคลับของแม่”
มนัสนันพูดตอบลูกชายเพื่อให้คลายความสงสัย
“มนัสนันเปิดประตูให้ผมเข้าไปเจอลูกชายของผมด้วยเถอะนะครับ”
คำพูดของคุณลุงที่อยู่ตรงหน้าบ้านทำให้คนที่หลบอยู่ภายในบ้านดวงตาเบิกกว้าง
ตกใจและยิ่งกว่านั้นคือน้องนายเมื่อได้ยินคำว่าพ่อ จึงพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดจากอ้อมแขนเล็ก
ๆ ของแม่ วิ่งตรงไปยังหน้าประตู
มนัสนันรู้สึกโกรธคนที่มายืนตะโกนเรียกร้องสิทธิของความเป็นพ่อกับลูกชายของเธอ
เมื่อตามลูกชายออกมาตรงบริเวณหน้าประตูก็เห็น ผู้ชายที่มีสายตาเจ้าเล่ห์
“คุณเป็นใครถึงมาพูดว่าเป็นพ่อของลูกชายฉัน
คุณมาจากทางไหนก็กลับไปทางนั้นเลยนะ ฉันกับลูกชายไม่รู้จักคุณ”
มนัสนันเอ่ยเสียงเข้ม
“น้องนายครับ
พ่อเป็นพ่อของลูกจริง ๆ พ่อขอโทษที่ทำให้แม่ของลูกโกรธแม่เลยไม่ยอมให้พ่อพบกับลูก”
“นี่คุณพูดบ้าอะไร
ห๊ะ!มาทำให้ลูกของฉันสับสนทำไม
ออกไปเลย” มนัสนันพูดเสียงดัง รีบวิ่งหมายจะเข้าไปอุ้มลูกชายกลับเข้าไปในบ้านแต่ไปเสียแล้ว เมื่ออีกฝ่ายจัดการยึดน้องนายเอาไว้ด้วยท่อนแขนแกร่ง
“แม่ครับ
แม่ครับ” น้องนายตะโกนเรียกผู้เป็นแม่ มือเล็กที่พยายามดันท่อนแขนแกร่งให้ปล่อย”
“ปล่อยลูกฉันเดี๋ยวนี้นะ!”
“ไม่ปล่อย
คุณทำให้ลูกหวาดกลัวผมซึ่งเป็นพ่อของน้องนาย” แดเนียล พูดเสียงเข้มเมื่อเห็นว่ามนัสนันดื้อและพยศ
“แม่! ช่วยนายด้วยนายกลัว”
เสียงทะเลาะกันระหว่างคนเป็นแม่กับคุณลุงทำให้น้องนายสะดุ้งตกใจก่อนจะเปล่งเสียงร้องไห้ทันที
แดเนียลเห็นลูกชายของตัวเองร้องไห้ถึงกับหยุดชะงัก
มนัสนันดูจะตกใจเมื่อเห็นลูกชายของตัวร้องไห้ อ้าแขนเล็กให้คนแม่เข้าไปอุ้ม ใบหน้าเปื้อนไปด้วยคาบน้ำตา
ซานิสที่ยืนอยู่ห่างต้องรีบวิ่งเข้ามารับลูกชายของเจ้านายไป
พร้อมกับโยกเด็กชายในอ้อมแขนตัวเองปลอบใจเบาๆ
“ไม่ร้องนะครับ
เด็กดี ลุงพาไปเล่นข้างในบ้านมีของเล่นเยอะเลย”
ซานิส
รีบพาตัวเด็กชายแยกออกไปจากคนที่เป็นพ่อและแม่ ท่าทางคงจะตกลงกันยาว
มนัสนันมองตามร่างของลูกชายที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นซบไปบนไหล่แกร่งน่าจะเป็นลูกน้องของแดเนียล
“ลูกไปแล้ว
ที่นี่คุณกับผมเรามาพูดคุยกันตรงๆ” แดเนียลเอ่ยเสียงเข้ม
“พูดอะไร
ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับคุณ” มนัสนันแวดใส่อีกฝ่ายทันที
“เรื่องลูกของเรา”
แดเนียลเอ่ยเสียงแข็ง แดเนียลมองดวงตาที่เบิกกว้าง
“อะไรทำให้คุณรู้สึกมั่นใจว่า
น้องนายเป็นลูกของคุณ” มนัสนันพยายามระงับอาการประหม่า บังคับให้เสียงของตัวเองนิ่งไม่มีพิรุธ
“เพราะผมได้ข้อมูลทุกอย่างของน้องนายมาหมดแล้ว
ผมเช็กมาทุกโรงพยาบาลผลDNA ออกมาตรงกันทั้งหมดว่า น้องนายคือลูกชายของผม แน่นอน”
แดเนียลบอกเสียงเข้มน้ำเสียงจริงจัง มนัสนันถึงกับกัดริมฝีปากแน่น
“นี่มันดึกแล้วฉันขอพาน้องนายกลับไปนอนก่อน”
มนัสนันตัดสินใจพูด ไหนๆ อีกฝ่ายรู้ความจริงแล้ว
เธอจึงตัดสินใจเดินเข้าไปหาลูกชายแล้วอุ้มเด็กชายเมื่อเห็นผู้เป็นแม่จึงซบใบหน้าไปบนบ่า
ดวงตายังแอบมีน้ำตาคลออยู่
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!