NovelToon NovelToon

เพื่อน ( ต้อง ) รัก

บทนำ

ตึกตัก!
ตึกตัก!
ตึกตัก!
เสียงฝีเท้าหนักแน่นของผมกระทบลงกับพื้นหินอ่อนอย่างต่อเนื่องเพราะความเร่งรีบ
เมื่อเช้าวันใหม่ที่ควรจะสดใสของผมกำลังจะกลายเป็นเช้าอันน่าเศร้าสลด
เพราะว่าเปิดเทอมวันแรกก็เหมือนกับว่าผมจะมาสาย
เดี๋ยวๆ ไม่เหมือนหรอก
ผมว่าผมต้องสายแน่ๆ แล้วหละ
เพราะว่าป่านนี้แล้วผมยังไม่ถึงห้องเรียนเลย
ตึง!
และเสียงที่ตามมาก็คือเสียงจากฝ่ามือของผมเอง
ตกใจทำไม
ผมก็แค่ผลักประตูเข้าไปในห้องเรียน
อาจารย์
อาจารย์
คุณคิมหันต์
คิม
คิม
มาครับ
ผมรีบยกมือขึ้นแล้วขานรับเสียงดังเมื่ออาจารย์ขานชื่อผมเพื่อเช็คชื่อพอดี
อาจารย์หันมามองผมด้วยหางตานิดหน่อนก่อนจะส่ายหัวไปมาเบาๆ เมื่อเห็นว่าผมส่งยิ้มอย่างเจี๋ยมเจี้ยมไปให้จากนั้นผมก็รีบชิงเดินเข้ามาในห้องโดยก้มหลังอย่างนอบน้อมตอนที่เดินผ่านเธอเข้ามา
แอบดีใจเบาๆ ที่อย่างน้อยผมก็แค่เกือบสาย
เช็คชื่อทันพอดีก็ยังถือว่าไม่สายนั่นแหละน่า
อาจารย์
อาจารย์
ถ้าคุณคิมหันต์เลขที่หนึ่ง
อาจารย์
อาจารย์
ก็ถือว่าสายนะคะ
อาจารย์ป้าหน้าเหี่ยวพูดขึ้นพลางขยับแว่นสายตาเลนส์หนากรอบสีทองบางเฉียบขึ้นเล็กน้อยถึงปานกลาง
คิม
คิม
ผมเลขที่เก้าครับ
ผมตอบอย่างมั่นใจ
ซึ่งพอผมพูดจบผมก็ได้ยินเสียงเพื่อนทุกคนในห้องแอบฮือฮากันเบาๆ มีบ้างที่แอบหัวเราะกันคิกคักๆ แต่สุดท้ายทั้งห้องก็ต้องตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง
เมื่อมีฝุ่นละอองปลิวเข้ารูจมูกของอาจารย์แล้วลื่นไหลไปที่หลอดลม
จนอาจารย์รู้สึกระคายเคืองคอเป็นเหตุให้ไอค่อกแค่ก
อาจารย์
อาจารย์
เชิญ!
คิม
คิม
ขอบคุณครับ
ผมรีบยกมือไหวอาจารย์ทันทีพร้อมกับลอบถอนหายใจ
ก่อนจะพุ่งตัวตรงไปที่บันไดสโลปแล้วรีบกวาดสายตาเพื่อมองหาที่นั่ง
ผมก็แค่ต้องเลือกและมองหาทำเลทองเหมะๆ ในการหลบสายตาของอาจารย์ป้า
ที่ใครๆ ต่างก็เล่าขานและขนานนามกันว่าเวลาตัดเกรด
เธอจะโหลสัสรัสเซียมากกว่าเวลาสอน
ซึ่งเมื่อมองเห็นทำเลที่โดนใจแล้ว
ผมก็รีบสืบเท้าตรงไปที่ชั้นสามมุมห้องฝั่งซ้ายมือของอาจารย์ทันที
ฟู่!!!
แอบถอนหายใจยาวๆ อีกรอบเมื่อทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี
ก้มหน้าลงเปิดกระเป๋าแล้วหยิบสมุดเลคเซอร์กับปากกาขึ้นมาเตรียมความพร้อมรออาจารย์เพราะว่าตอนนี้อาจารย์กำลังเช็คชื่อเพื่อนๆ คนอื่นไปเรื่อยๆ ตามลำดับเลขที่
อาจารย์
อาจารย์
คุณติณภพ
...เงียบ
อาจารย์
อาจารย์
คุณ...
ตึง!
ติณ
ติณ
มาครับ
เสียงเข้มขานรับพร้อมกับเจ้าตัวที่เพิ่งจะโผล่พ้นมาจากด้านหลังประตูที่ถูกผลักเข้ามา
ทุกคนในห้องรีบหันไปมองหน้าตาเพื่อนผู้มาใหม่
และผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเพราะว่าเสียงผลักประตูเข้ามาอย่างรีบร้อน
นั่นทำให้เขากลายเป็นจุดสนใจของคนทั้งห้องไปโดยปริยาย
ร่างสูงยืดลำตัวขึ้นตรงเต็มความสูง
ที่สูงจนสะกดทุกสายตาได้อยู่หมัด
ผมแอบประเมิณด้วยสายตาแล้วนานคนนั้นน่าจะสูงราวๆ ร้อยแปดสิบห้าใบหน้าขาวสะอาดจนทำให้เครื่องหน้าทุกอย่างโดยรวมดูลงตัวไปหมด
ไม่ว่าจะเป็นริมฝีปากสีแดงสดราวกับผลเชอร์รี่
จมูกโด่งเป็นสันเหมือนจะเป็นลูกครึ่งแต่ติดตรงที่เขามีเส้นผมสีดำขลับที่บ่งบอกถึงความเป็นชายไทยแท้ๆ ที่ยิ่งขับสีผิวของเขาให้ขาวเด่นมีออร่ายิ่งกว่าเดิม
อื้มมม...งานดี
งานพรีเมี่ยม
คนห่าอะไรจะหล่อขนาดนี้
หล่อไม่ลืมหูลืมตา
หล่อวัวตายสาววายตะลึง ( กันทั้งห้องไม่เว้นแม้แต่อาจารย์ ) จะมีติหน่อยก็ตรงท่าทางที่ดูกวนๆ และแววตาที่คมเข้มแข็งกร้าว
อาจารย์
อาจารย์
สายค่ะ
ติณ
ติณ
ไม่สายครับ
อาจารย์
อาจารย์
สายค่ะ
ติณ
ติณ
ไม่สายครับ
นั่นไง
เขาไม่ใช่คนที่หงอยอมใครง่ายๆ
อาจารย์
อาจารย์
ฉันบอกว่าสายค่ะ!
ติณ
ติณ
แต่ผมดูเวลาแล้วว่าผมไม่สายครับ
ติณ
ติณ
ผมได้ยินอาจารย์เรียกชื่อผมพอดีตอนก้าวเท้าเข้ามา
ร่างสูงพยายามอธิบาย ( เถียง ) ข้างๆ คูๆ
ผมคิดว่าไม่ใช่แค่ผมหรอกทีากำลังตกตะลึงในความใจกล้าของนายคนนั้น
ที่กล้าต่อปากต่อคำกับอาจารย์ที่คนทั้งคณะไม่กล้าแม้แต่จะสบตาตอนเดินผ่าน
นี่ถ้าไม่ใช่ความกล้า
ก็ต้องเป็นความบ้าแน่ๆ !
ผมได้แต่นั่งมองตามร่างสูงที่กำลังเดินเข้ามาในห้องด้วยความมั่นหน้า
แอบสงสัยว่าไอ้หมอนี่ไปเอาความกล้ามาจากไหนที่ถึงได้เถียงอาจารย์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหด ( ตอนตัดเกรด ) คอยดูเถอะ
ถ้าอาจารย์ประทับใจจนจำชื่อมันได้ขึ้นมา
ผมว่าเกรดคงออกมาไม่น่าประทับใจสักเท่าใหร่
อาจารย์
อาจารย์
โอเค
อาจารย์
อาจารย์
ครั้งนี้ฉันจะอะลุ่มอล่วยให้ก็แล้วกัน
อาจารย์
อาจารย์
แต่ถ้าครั้งหน้าคุณโผล่หน้ามาหลังจากที่ฉันขานชื่อคุณแม้แต่วินาทีเดียว
อาจารย์
อาจารย์
ฉันจะถือว่าสาย
อาจารย์ป้าสรุปสั้นๆ ก่อนจะชักสีหน้าใส่นายคนนั้นแรงๆ จนผมยังเสียวสันหลังแทน
ติณ
ติณ
ครับ
นายคนนั้นขอบคุณอาจารย์ด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำเหมือนเดิม
ใบหน้าเรียบเฉยราวกับว่าไม่ได้ยินดียินร้ายอะไรกับคำเตือนปนประชดของอาจารย์เลยสักนิด
ก่อนที่ร่างสูงจะก้าวเท้าเดินเข้ามาภายในห้อวแล้วสอดส่ายสายตามองหาที่นั่งเหมือนกับผมเมื่อไม่กี่นาทีก่อน
หลังจากที่นายคนนั้นเดินเข้ามา
อาจารย์ก็ยังคงเรียกชื่อเพื่อนคนอื่นๆ ต่อไปเรื่อยๆ ตามลำดับของเลขที่ในการลงทะเบียนรายวิชานี้
แต่เชื่อเถอะว่าตอนนี้ความสนใจของนักศึกษาครึ่งค่อนห้องกำลังพุ่งไปที่ร่างสูงที่ยังคงยืนอยู่ด้านล่าง
ห่างจากจุดที่อาจารย์ยืนอยู่ประมาณสองก้าว
เพราะว่ามันยังคงกวาดสายตามองหาที่นั่งอยู่
แต่แล้วอยู่ๆ สายตาคมเข้มคู่นั้นก็มองมาทางผม
ไม่นะ
อย่าบอกนะว่าหมอนั่นจะมานั่งข้างผมน่ะ
เดี๋ยวก็พาผมซวยไปด้วยหรอก
ซวยหนึ่ง
ผมต้องตกเป็รเป้าสายตา
ซวยสอง
ด้วยออร่าเจิดจรัสนั่นคงทำผมหมองไปมากโข
ฟุ่บ!
แล้วก็เป็นไปตามที่คาดการณ์เอาไว้
เพราะว่านายคนนั้นเดินดุ่มๆ ตรงมานั่งลงที่เก้าอี้ตัวข้างๆ ผมจริงๆ แบบไม่สำรวจความยินดีต้อนรัยหรือเปล่าของผมซักนิด
แถมยังนั่งลงซะแรงจนเก้าอี้ของผมสั่นไปด้วย
ติณ
ติณ
น่าเบื่อฉิบ!
ผมได้ยินไอ้คนข้างๆ บ่นพึมพำก่อรที่จะยกเท้าขึ้นมาไขว่ห้างอย่างไร้มารยาท
แต่ว่าผมก็ทำได้แค่มองหมอนั่นอย่างติหนินั่นแหละ
เรื่องของมารยาททางสังคมมันสอนกันไม่ได้หรอก
ติณ
ติณ
ชื่ออะไร
แล้วผมก็ได้ยินเสียงนกเสียงกาดังมาจากข้างๆ
ติณ
ติณ
เฮ้ย
ติณ
ติณ
ถามไม่ได้ยินรึไง
แล้วเสียงนกเสียงก็ดังขึ้นสองระดับ
แต่ทำเอาผมต้องลอบกลืนน้ำลายเพราะว่าเสียงของไอ้หมอนั่น
ทำให้อาจารย์ทีายืนอยู่กลางห้องถึงกับช้อนตามองมาที่เรา
และที่สำคัญเลยคือไอ้หมอนั่นพูดห้วนกับผม
ทั้งที่เราเพิ่งจะเคยเจอหน้ากันครั้งแรก
แถมยังใช้เท้าข้างที่ยกไขว่ห้างสะกิดผมแรงๆ
แอบขีดเส้นไต้ว่ารองเท้าผ้าใบดำมาก
ต่างจากหน้าตาของมันที่ดูดีและน่าจะเป็นผู้ชายรักสะอาด
คิม
คิม
ชื่อคิม
ผมตอบห้วนๆ อย่างจำใจ
เพราะถ้าผมยังคงทำเป็นไม่สนใจดีไม่ดีมันอาจจะกระทืบเท้าผมก็ได้
และเมื่อแนะนำตัวจบผมก็ผมแอบชำเลืองหางตามองไอ้หมอนั่นอย่สงตำหนิอีกครั้ง
แต่ว่าสายตาคู่นั้นกลับไม่ได้มองมาที่ผมสักนิดเพราะว่ากำลังมองไปด้านหน้า
ทำเป็นนั่งหน้านิ่งไปเนียนๆ เหมือนจะรู้ตัวว่าเราสองคนกำลังถูกอาจารย์เพ่งเล็งอยู่
ติณ
ติณ
ติณ
คิม
คิม
อะไร
ติณ
ติณ
กูชื่อติณ
ไอ้หมอนั่นแนะนำตัวสั้นๆ
คิม
คิม
ชื่อมีตั้งเยอะแยะ
คิม
คิม
ทำไมชื่อตีน
ติณ
ติณ
อยากลองกินมั้ยล่ะตีนน่ะ
ไอ้หมอนั่นหันมากัดฟันพูดกับผม
แถมยังมองผมด้วยสายตาไม่เป็นมิตรสักเท่าใหร่
ซึ่งผมเองก็ไม่ได้อยากจะเป็นมิตรกับคนพันธุ์นี้สักหน่อย
ผมไหวไหล่เล็กน้อยเพราะตั้งใจจะกวนประสาทหมอนั่นตั้งแต่แรก
มีอย่างที่ไหนมาชวนผมคุยทั้งที่ตัวเองโดนหมายหัวอยู่ล่ะ
ดูจากสายตาของอาจารย์ผมก็รู้ว่ามันต้องลำบากแน่ๆ อีกอย่างคือเราไม่ได้สนิทกันถึงขนาดจะมาพูดมึงกูใส่กันได้ด้วยและที่สำคัญที่สุดเลยก็คือผมตั้งใจจะนั่งตรงนี้เพราะอยากจะนั่งเรียนคนเดียว
ไม่อยากวุ่นวายกับใคร
แต่ไอ้บ้านี่มันดันดึงความสนใจของทุกคนมาที่เราหมดเลย
ไม่เว้นแม้แต่อาจารย์ที่ยังคงมองมาเป็นระยะๆ ตั้งแต่มันเดินมานั่งลงเนี่ย
ติณ
ติณ
ยินดีที่ได้รู้จัก
มันเอาอีกละ
คิม
คิม
อืม
ติณ
ติณ
กูเพิ่งย้ายมา
คิม
คิม
อืม
ติณ
ติณ
เพิ่งโดนไล่ออกจากมหา'ลัยเก่าเมื่ออาทิตย์ก่อน
ประวัติน่าคบหาด้วยจริงๆ
ติณ
ติณ
มึงไม่อยากรู้เหรอว่าทำไมกูถึงโดนไล่ออก
รู้ทั้งรู้ว่าผมไม่อยากจะพูดด้วยมันก็ยังพล่ามอยู่ได้
ติณ
ติณ
ทะเลาะวิวาท
นี่ผมยังไม่ได้บอกเลยนะว่าผมอยากรู้เรื่องของมัน
ติณ
ติณ
นี่!
มันยังคงใช้เท้าสะกิดผมเป็นระยะๆ เพราะตั้งแต่แนะนำตัวเสร็จผมก็ยังไม่ได้หันไปพูดกับมันอีกเลย
ติณ
ติณ
นี่!
อาจารย์
อาจารย์
เชิญค่ะ!
แล้วอยู่ๆ เสียงอาจารย์ก็ดังขึ้นจนผมสะดุ้งตกใจ
หลังจากที่เมื่อกี้นี้ผมกำลังจะหันไปบอกให้ไอ้ติณหุบปากและเก็บตีนเสียที
อาจารย์
อาจารย์
เชิญทั้งคู่เลยค่ะ
เอ่อ
อาจารย์พูดแล้วมองหน้าผมแบบนั้นหมายความว่ายังไง
อาจารย์
อาจารย์
เชิญออกนอกห้องเรียนค่ะ
อาจารย์
อาจารย์
แล้วเจอกันครั้งหน้า
คิม
คิม
เอ่อ...
ติณ
ติณ
ไปสิ
ติณ
ติณ
เพราะนายคนเดียวทำให้ฉัรโดนไล่ออกจากคลาส
ติณ
ติณ
อุตส่าห์ตั้งใจมาเรียนแท้ๆ
ผมยังไม่ทันจะได้เอ่ยปากถามหรืออธิบายอะไร
อยู่ๆ ข้อมือของผมก็ถูกไอ้ติณกระชากแล้วลากจูงให้ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้ทั้งที่ผมยังงงๆ และนอกจากตัวของผมแล้ว
ไอ้ติณก็ยังมีน้ำใจคว้ากระเป๋าแล้วก็อุปกรณ์การเรียนของผมติดมือมันออกมาด้วย
คิม
คิม
อาจารย์ครับ
อาจารย์
อาจารย์
เชิญค่ะ
อาจารย์ย้ำชัดๆ อีกครั้งพร้อมกับผายมือไปที่หน้าประตูห้องที่ผมเพิ่งจะเดินผ่านเข้ามายังไม่ทันจะได้ครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ
คิม
คิม
คือว่าอาจารย์ครัย
ตึง!
เสียงประตูดังเหมือนตอนที่ผมเปิดมันเข้าไป
แต่มันตรงกันข้ามนั่นก็คือเมื่อกี้นี้มันถูกเปิดออกมาพร้อมกับร่างของผมที่ถูกไอ้ติณลากออกมาจากห้องเรียน
คิม
คิม
นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย
ผมโวยวายใส่ไอ้ติณด้วยความหงุดหงิด
แต่มันกลับไม่ได้มีทีท่าสนใจเลยสักนิดทั้งๆ ที่มันเพิ่งจะทำให้ผมโดนอาจารย์ไล่ออกจากห้องเรียน
ติณ
ติณ
ถามโง่ๆ ก็โดนไล่ออกจากห้องเรียนไง
ไอ้ติณตอบเสียงเรียบ
ก่อนที่มันจะส่งกระเป๋าและข้าวของๆ ผมคืนมาให้พร้อมกับตบบ่าผมเบาๆ สองสามทีแล้วทำเหมือนจะเดินหนีผมไป
คือผมเข้าใจนะว่าทั้งผมและมันโดนอาจารย์ไล่ออกจากห้องเรียนแต่คำถามคือผมทำอะไรผิดต่างหาก!
คิม
คิม
ติณ!
ติณ
ติณ
อะไรของมึงอีกล่ะ
ติณ
ติณ
ไม่มีเรียนแล้ว
ติณ
ติณ
จะไปตายที่ไหนก็ไปสิ
ไอ้ติณย้อนผมแล้วทำสีหน้าหงุดหงิด
ผมสิต้องเป็นคนหงุดหงิด
มันจะมาหงุดหงิดอะไรในเมื่อมันนั่นแหละที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้ผมต้องโดนไล่ออกจากห้องเรียนทั้งๆ รีบมาจนเกือบเช็คชื่อไม่ทัน
แต่ไหงพอทันเวลาและทุกอย่างน่าจะไปได้ดีผมกลับต้องมาถูกอาจารย์ไล่ตะเพิดออกจากห้องล่ะ
คิม
คิม
นายตั้งใจจะทำให้เราโดนไล่ออกมาจากห้องงั้นเหรอ
ติณ
ติณ
ก็เออดิ
ติณ
ติณ
แรมมึงน้อยรึไงถึงได้ฉลาดช้านัก
คิม
คิม
แต่เราตั้งใจมาเรียนหนังสือนะ
ติณ
ติณ
เรียนมาครึ่งชีวิตแล้ว
ติณ
ติณ
มึงไม่เบื่อบ้างรึไง
ฟังมันย้อนถามผมสิ
ผมว่าแล้วเชียวว่าทำไมมันถึงได้สะกิดผมนักทั้งๆ ที่มันน่าจะเงียบปากไปได้ที่รู้ว่าอาจารย์มองแล้วที่แท้มันก็ตั้งใจจะให้อาจารย์ไล่ออกมานี่เอง
ติณ
ติณ
มองหน้านี่หิวตีนรึไง
ติณ
ติณ
หรืออยากจะลองกิน
คิม
คิม
นายคงกินบ่อยสินะ
คิม
คิม
สมองนายถึงได้มีแต่เรื่องตีนๆ
ติณ
ติณ
ไอ้เหี้ยคิม
ไอ้ติณตะคอกเรียกผมเสียงดังปถมเดินเข้ามากระชากคอเสื้อผมเข้าหาตัวแล้วง้างหมัดขึ้นกลางอากาศทำท่าเหมือนอยากจะชกปากผมชะเต็มประดา
ซึ่งเมื่อเห็นแบบนั้นผมก็รีบหลับตาปี๋
เห็นหมัดเต็มตาแบบนี้ใครบ้างล่ะจะไม่กลัว
แต่ว่าผมโกรธนี่นา
มันไม่อยากเรียนแต่ดันทำให้ผมเดือดร้อนไปด้วย
ติณ
ติณ
ฝากไว้ก่อนเถอะมึง
ติณ
ติณ
ปากดีมากคราวหน้าได้แดกตีนสมใจแน่
ไอ้ติณขู่ผมเสียงเข้มก่อนที่มันตะผลักหน้าอกผมออกมาแรงๆ แล้วหุนหันเดินออกไปโดยไม่สนใจผมที่ต้องซวยเพราะมันเลยสักนิด
โธ่ว้อยยย!
ผมมาเพื่อเช็คชื่อแล้วก็โดนไล่ออกจากห้องสินะ
ช่างเป็นการเริ่มต้นปีการศึกษาที่แสนพิเศษจริง

Chapter 1

คิม
คิม
ขอบคุณที่มาใช้บริการครับ
ผมยกมือไหว้และยิ้มให้ลูกค้าก่อนจะรับหน้าที่เปิดประตูร้านเพื่อส่งลูกค้าคู่สุดท้ายที่เพิ่งจะเช็คบิลตอนได้เวลาปิดร้านพอดี
ฟู่ว์
เก็บร้านกลับห้องได้สักที
เดินจนขาล้าไปหมดแล้ววันนี้
หลังจากที่ลูกค้าที่น่าจะเป็นคู่รักข้าวใหม่ปลามันเดินพ้นประตูร้านออกไป
ผมก็รีบปิดแล้วล็อกประตูร้านเอาไว้ทันทีและไม่ลืมที่จะพลิกป้ายแขวนที่ประตูกระจกกลับอีกด้านเพื่อบ่งบอกว่าวันนี้ร้านปิดบริการแล้ว
ก่อนที่ผมจะเดินกลับเข้ามาทำความสะอาดร้าน
เดี๋ยวจะได้รีบกลับไปนอนผึ่งพุงที่ห้องสักทีหลังจากที่ต้อนรับลูกค้ามาตั้งแต่ช่วงเย็น
ผมทำงานพาร์ทไทม์เป็นพนักงานเสริฟที่ร้านขนมเล็กๆ ใกล้ๆ กับมหา'ลัยน่ะ
ช่วงนี้เพิ่งจะต้นเดือนคนมักจะเยอะเป็นพิเศษ
แต่ผมชอบนะ
เพราะคนเยอะ
ทิปก็เยอะตามไปด้วย
ต่างจากช่วงกลางเดือนไปจนถึงเกือบสิ้นเดือรทีาชั่วโมงนึงผมจะได้ยินเสียงกระดิ่งหน้าร้านดังขึ้นสักครั้งสองครั้ง
พี่ไทม์
พี่ไทม์
วันนี้กลับไปพักเถอะคิม
พี่ไทม์
พี่ไทม์
ที่เหลือเดี๋ยวพี่จัดการเอง
พี่ไทม์ผู้จัดการร้านเดินมาบอกผมด้วยความใจดี
คิม
คิม
ไม่เป็นไรครับพี่
คิม
คิม
ช่วยๆ กัน
พี่ไทม์
พี่ไทม์
ไปเถอะ
พี่ไทม์
พี่ไทม์
วันนี้เราเหนื่อยกันมาตั้งแต่ช่วงเย็นแล้ว
พี่ไทม์
พี่ไทม์
พี่อนุญาต
พี่ไทม์
พี่ไทม์
เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยมาลุยกันต่อ
พี่ไทม์พูดพลางตบบ่าผมเบาๆ สองสามที
ก่อนจะส่งซองสีขาวในมือให้ผม
แต่ว่าอย่าตกใจไปล่ะ
เพราะว่าไอ้ซองนั่นมันเป็นซองเงินเดือนของผมเอง
คิม
คิม
ยังไม่ถึงกำหนดเงินเดือนออกเลยนะครับ
คิม
คิม
พี่จะรีบให้ผมไปไหน
ผมรีบถามด้วยความเกรงใจ
พี่ไทม์
พี่ไทม์
เอาน่า
พี่ไทม์
พี่ไทม์
อีกอย่างอีกไม่กี่วันก็ต้องจ่ายอยู่แล้ว
พี่ไทม์
พี่ไทม์
จ่ายเร็วไปแค่วันสองวันคงไม่เป็นไรหรอก
พี่ไทม์
พี่ไทม์
รับๆ ไปเถอะ
คิม
คิม
ขอบคุณครับพี่
ผมบอกพร้อมกับยิ้มกว้าง
ก่อนจะรับซองเงินเดือนมาถือไว้ให้อุ่นใจ
เห็นเงินแล้วรู้สึกกระชุ่มกระช่วยขึ้นมาสองขีด
พี่ไทม์
พี่ไทม์
เดือนนี้พี่มีเงินพิเศษให้ด้วยนะ
พี่ไทม์
พี่ไทม์
เห็นว่าช่วงนี้ลูกค้าเยอะ
พี่ไทม์
พี่ไทม์
อีกอย่างคิมเองก็ทำงานมาตั้งหลายเดือนแล้วพี่ยังไม่เห็นคิมจะลาป่วยหยุดบ้างเลย
พี่ไทม์
พี่ไทม์
ถือซะว่าเป็นค่าตอบแทนของความขยัน
คิม
คิม
ขอบคุณครับพี่ไทม์
พี่ไทม์
พี่ไทม์
รับเงินแล้วก็รีบกลับได้แล้ว
พี่ไทม์
พี่ไทม์
มืดค่ำเดินคนเดียวมันอันตราย
พี่ไทม์
พี่ไทม์
เดี๋ยวนี้ต่อให้จะเป็นผู้ชายก็น่ากลัว
พี่ไทม์
พี่ไทม์
อีกสักพักพี่ก็จะกลับแล้วเหมือนกัน
พี่ไทม์เตือนซึ่งผมเห็นด้วยกับประเด็นหลังพอสมควร
เพราะเมื่อสองสามวันก่อนแถวๆ ร้านก็มีผู้ชายคนหนึ่งโดนกระชากสร้อยไปเหมือนกัน
คิม
คิม
ครับ
คิม
คิม
ถ้างั้นวันนี้ผมกลับก่อนนพ
คิม
คิม
พรุ่งนี้เจอกันครับพี่ไทม์
ผมบอกยิ้มๆ ก่อนจะยกมือไหว้พี่ไทม์อีกรอบแล้วเดินกลับเข้ามาเอากระเป๋าของตัวเองที่เก็บเอาไว้ด้านหลังร้านแต่ว่าพอเดินกลับออกมาอีกทีผมกลับเห็นว่าพี่ไทม์ยืนกวาดร้านอยู่งกๆ
คิม
คิม
อ้าว
คิม
คิม
ไหนว่าจะกลับไงครับ
พี่ไทม์
พี่ไทม์
พี่บอกว่าอีกสักพักจะกลับต่างหาก
พี่ไทม์
พี่ไทม์
เอาน่า
พี่ไทม์
พี่ไทม์
เดี๋ยวเรากลับพี่ก็กลับเองนั่นแหละ
พี่ไทม์พูดพลางส่งยิ้มให้ผมนิดหน่อย
ไม่รู้ทำไมเห็นพี่เขายิ้มให้ทีไรผมต้องใจสั่นทุกที
คิม
คิม
พี่แน่ใจนะว่าจะไม่ให้ผมอยู่ช่วย
ผมรีบถามด้วยความลังเลอีกรอบเห็นเจ้าของร้านทำงานงกๆ โดยไล่ลูกจ้างกลับก่อนแล้วผมรู้สึกผิดยังไงก็ไม่รู้
พี่ไทม์
พี่ไทม์
ก็บอกว่าไม่ต้องไง
พี่ไทม์
พี่ไทม์
พูดไม่รู้เรื่องรึไงนะเราเนี่ย
พี่ไทม์
พี่ไทม์
ไปๆ รีบไปได้แล้ว
พี่ไทม์
พี่ไทม์
พี่ก็ทำทีเป็นกวาดร้านรอส่งเราแค่นั้นแหละ
พี่ไทม์เริ่มพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดแต่พอได้ยินเขาพูดว่าเขาแค่อยู่รอส่งผม
ในหัวผมมันก็คิดไปไกลถึงไหนต่อไหนทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วพี่ไทม์เขาก็แค่รอส่งผมเพื่อปิดประตูร้านเท่านั้นเอง
คิม
คิม
งั้นผมไปนะพี่
พี่ไทม์
พี่ไทม์
อืม
พี่ไทม์
พี่ไทม์
พรุ่งนี้เจอกัน
พี่ไทม์ยังคงบอกยิ้มๆ พร้อมกับโบกมือลาผม
แล้วก้มหน้าก้มตากวาดร้านต่อไปเงียบๆ
คงจะมีแค่ผมเท่านั้นแหละที่ยังรู้สึกว่าใจสั่น
เพราะผมรู้ดีว่าพี่ไทม์เขาไม่ได้รู้สึกอะไรเป็นพิเศษกับผมหรอก
แต่ไหนแต่ไรมาพี่ไทม์เป็นห่วงเด็กทุกคนในร้านเสมอซึ่งตอนนี้พนักงานในร้านเหลือแค่ผมคนเดียว
เพราะคนอื่นๆ ที่มาสมัครก็มักจะทำงานได้ไม่นาน
ทำได้สักพักก็ออก
ไม่มีใครทนทำงานได้ทนอย่างผมหรอกทั้งที่งานก็ไม่ได้หนักหนาเลยสักนิด
หรือผมอาจมีแรงจูงใจในการทำงานที่นี่มากกว่าคนอื่นก็ได้
บอกตรงๆ ก็ได้ว่าที่ผมยังทำงานอยู่ที่ร้านนี้ก็เป็นเพราะว่าผม...อยากเจอพี่ไทม์
พี่ไทม์เป็นคนใจเย็น
ใจดี
มีความเป็นผู้ใหญ่ที่ผ่านมาพี่ไทม์ดูแลเอาใจใส่ลูกน้องทุกคนเป็นอย่างดีไม่ว่าใครจะเดือดร้อนเรื่องอะไร
ถ้ารู้ถึงหูพี่ไทม์
ผมก็มักจะเห็นว่าเขายื่นมือไปช่วยเหลือในทันทีโดยไม่ต้องรอให้ใครเอ่ยปาก
เหมือนอย่างที่เขาเอาเงินเดือนมาให้ผมก่อนครบกำหนดวันเงินเดือนออก
ก็เป็นเพราะพี่ไทม์รู้ว่าวันพรุ่งนี้เป็นวันครบกำหนดจ่ายค่าเช่าอพาร์ตเม้นของผมนั่นเอง
และทุกอย่างที่ผมพูดมา
ผมก็แค่อยากบอกว่าพี่ไทมฺเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมไม่เคยคิดอยากจะหยุดหรือลางานเลยแม้แต่วันเดียว
อืม
ลูกจ้างกลับก่อน
เจ้าของร้านกลับทีหลัง
คิดซะว่าทำงานตามค่าจ้างก็แล้วกันนะครับพี่
ผมแอบหันกลับไปมองพี่ไทม์ที่ยังคงเดินกวาดร้านไปผิวปากไปเรื่อยๆ แล้วแอบยิ้มคนเดียว
ก่อนจะรีบเก็บซองเงินเดือนใส่กระเป๋าเป้เอาไว้
พรุ่งนี้คงได้เวลาเคลียร์ค่าใช้จ่ายกันหน่อย
พี่ไทม์จ่ายพิเศษมาแบบนี้เดือนนี้ผมคงมีพอจะเหลือเก็บบ้าง
โจร
โจร
หลบไป!
คิม
คิม
เฮ้ย
ผมอุทานออกมาเสียงดังเมื่ออยู่ๆ ก็มีใครที่ไหนก็ไม่รู้วิ่งมาชนผมจากทางด้านหลัง
แถมยังชนแรงมากจนผมกระเด็นตกฟุตบาธมาชนเข้ากับรถที่จอดเทียบฟุตบาธพอดี
แหม!
รถหรูซะด้วย
ดีนะที่ผมไม่ได้ทำรถเขาเป็นรอย
พับผ่าสิ
คิม
คิม
จะรีบไปตายที่ไหนวะ!
ผมตะโกนถามเสียงดังด้วยความหงุดคนกำลังอารมณ์ดีๆ อยู่แท้ๆ เลย
ไอเดีย
ไอเดีย
ช่วยด้วยค่ะ
ไอเดีย
ไอเดีย
ช่วยด้วย
ไอเดีย
ไอเดีย
มีโจรกระชากกระเป๋าค่ะ
แล้วระหว่างที่ผมกำลังอารมณ์เสียเพราะไอ้บ้าที่วิ่งชนผมเข้าอย่างจัง
ผมก็ได้ยินเสียงร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ
ซึ่งพอเงยหน้าขึ้นไปมอง
ผมก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังวิ่งตามนายคนนั้นมาด้วยท่าทีรีบร้อน
ดวงตาของเธอเบิกโพลงและกำลังมองมาที่ผม
สีหน้าของเธอตื่นตระหนก
แถมเธอยังชี้นิ้วตรงไปที่นายคนนั้นอย่างชัดเจน
ไอเดีย
ไอเดีย
ช่วยด้วยค่ะ
ไอเดีย
ไอเดีย
มันกระชากกระเป๋าฉันค่ะ
คิม
คิม
เวรละ!
ผมสบถพึมพำแล้วรีบวิ่วตามไอ้โจรกระชากกระเป๋านั่นไปตามสัญชาติญาณของตัวเองในทันที
ปกติแล้วผมไม่ค่อยยุ่งเรื่องของคนอื่นนะ
แต่ตอนนี้ดูเหมือนเลือดรักความยุติธรรมของผมมันจะพุ่งพล่านตั้งแต่ได้เห็นใบหน้าตื่นๆ ของเธอคนนั้น
...เธอสวย...ผู้หยิงอะไรตกใจแล้วยังสวย
คิม
คิม
หยุดนะเว้ย!
ผมแหกปากตะโกนบอกพร้อมกับยังคงวิ่งไล่กวดไอ้โจรกระจอกนั่นไปติดๆ เห็นหลังไวๆ เหมือนจะทิ้งห่างผมไปไม่ไกลเท่าใหร้
แต่ทำไมวิ่งตามเท่าไหร่ก็ยังไม่ทันสักที
คิม
คิม
บอกให้หยุดเดี๋ยวนี้
คิม
คิม
จับได้พ่องจะอัดให้น่วมเลย
โจร
โจร
ไปตามพ่องมึงมาสิโว้ย
อุ๊บ๊ะ!
เป็นแค่โจรกระจอกริอ่านมาต่อปากต่อคำกับคนอย่างผมเดี๋ยวๆ ให้มันรู้ซะบ้างว่าแถวนี้ถิ่นใคร
ผมเร่งความเร็วของฝีเท้าตามไอ้โจรกระจอกนั่นมาจนเกือบจะถึงตัวมันแล้วแต่ว่ามันกลับเลี้ยวหลบเข้าซอยใกล้ๆ ไปได้ซะก่อน
แต่คิดว่าแค่นี้จะหนีผมพ้นรึไง
ผมวิ่งไปมหา'ลัยตั้งแต่ปีหนึ่งจนนี่ขึ้นปีสาม
เรียกได้ว่าทุกตรอกซอกซอยแถวนี้ต้องเคยผ่านเท้าผมมาหมดแล้วทั้งนั้นเดี๋ยวไปเจอกันซอยข้างหน้าเลยไอ้โจรสามาน!
โจร
โจร
โอ๊ย!
แล้วเสียงร้องโหยหวนของไอ้โจรกระจอกก็ดังจนผมเหยียดยิ้ม
แต่เดี๋ยวนะ
มันร้องทำไม
ผมยังไม่ทันจะก้าวเท้าออกไปจากซอกตึกที่อุตส่าห์รีบว้่งมาซ่อนตัวรอมันอยู่เลยนะ
โจร
โจร
ปล่อยกู!
แล้วผมก็ได้ยินเสียงไอ้โจรกระจอกนัรนดังขึ้นอีกรอบ
ซึ่งผมก็ยังไม่เห็นตัวมันอยู่ดี
ใครจับมันไว้กันนะ
ผมยืนดักรออยู่ตรงนี้แท้ๆ เพราะยังไงซะถ้ามันเข้าซอยเมื่อกี้นี้มา
มันก็ต้องวิ่งผ่านซอยที่ผมวิ่งเข้ามาดักรอสิ
โจร
โจร
กูบอกให้ปล่อย!
เสียงของไอ้โจรนั่นทำให้ผมต้องค่อยๆ เดินออกมาจากซอกตึกที่ลงทุนวิางทะลุจากซอยที่แล้วเข้ามายืนดักรอสกัดขาไอ้โจรกระจอกนั่นค่อยๆ เดินตรงเข้าไปในซอยที่คิดว่าเสียงของไอ้โจรนั่นดังมาจากมุมนััน
แล้วสิ่งที่ผมเห็นกับตาก็คือราางของไอ้โจรกระจอกนั่นกำลังลอยอยู่เหนือพื้น ( นิดเดียว ) เพราะโดนใครบางคนจับคอเสื้อของมันเอาไว้แน่นแล้วยกจนขามันลอยขึ้นจากพื้น
ติณ
ติณ
กระเป๋า
คิม
คิม
ไอ้ติณ!
บ้าชะมัด
ทำไมผมต้องมาเจอไอ้บ้านี่อีกแล้ว >_<
ผมหลุดปากเรียกชื่อติณออกไปก่อนจะก้าวเท้าออกไปยืนมองมันนิ่งๆ ผมเห็นนะว่าเมื่อกี้นี้มันชำเลืองหางตามองผมแล้ว
แต่ว่ายังไม่ได้หันมามองตรงๆ เพราะว่ามันกำลังจ้องมองไอ้โจรกระจอกนั่นอยู่
ติณ
ติณ
หูแตกเหรอมึง
ติณ
ติณ
กูบอกให้มึงส่งกระเป๋ามา
ไอ้ติณย้ำเสียงเข้มแล้วกำคอเสื้อของไอ้โจรกระจอกแน่นขึ้นพร้อมกับเขย่าแรงๆ จนมันต้องแกว่งเท้าไปมากลางอากาศเพราะกำลังจะขาดอากาศหายใจตาย
ใบหน้าของไอ้โจรนั่นแดงก่ำ
แถมตาเหลืแกราวกับจะถลนออกมาจากเป้า
โจร
โจร
ค่อกๆ แค่กๆ ค่ะๆ คืนแล้วๆ
ติณ
ติณ
ก็แค่เนี้ย
ติณ
ติณ
พ่อแม่มึงไม่สั่งสอนบ้างเหรอว่าไม่ให้ขโมยของคนอื่น
ไอ้ติณพูดไปเข่าคอไอ้โจรกระจอกนั่นไปด้วยทำเอาผมรู้สึกอึดอัดแทนกลัวจริงๆ ว่าไอ้โจรนั่นจะตายคามือไอ้ติณ
ไม่เข้าใจเลยว่าไอ้ติณมันจะเสียเวลาสั่งสอนโจรทำไม
ในเมื่อถ้ามันคิดได้
มันคงไม่เลือกอาชีพโจรหรอก
โจร
โจร
สะ
โจร
โจร
สะ
โจร
โจร
สอน
ติณ
ติณ
สอนแล้วก็หัดจำใส่กะโหลกเอาไว้ด้วย
ติณ
ติณ
แล้วอย่าให้กูเห็นหน้ามึงอีกนะ
ติณ
ติณ
ไม่งั้นจะเตะให้ตายคาตีนเลย
ติณ
ติณ
ไป๊!
แล้วก็ลงท้ายด้วยเสียงห้าวๆ ของไอ้ติณที่ตวาดใส่หน้าไอ้โจรกระจอกในกำมือ ( มันกำแน่นจริงๆ ) ก่อนที่มันจะเหวี่ยงไอ้โจรกระจอกนั่นออกจากมือลงไปนั่งหน้าเหียกอยู่กับพื้น
ซึ่งที่ผมไม่เข้าใจอีกเรื่องหนึ่งก็คือมันเหวี่ยงไอ้โจรบ้านั่นมาทางผมทำไม
ผมรีบหลบฉากมายืนทำตัวลีบอยู่ข้างกำแพง
ไม่ได้กลัวไอ้โจรนั่นหรอกนะแต่ว่ารังเกียจ
ไอ้โจรกระจอกนั่นกุลีกุจอวิ่งออกไปแต่ก็ยังไม่วายจะหันมามองผมด้วยสายตาอาฆาต
มันอาฆาตผมทำไม
แน่จริงไม่หันไปมองไอ้ติณล่ะ
อ่ะเด่อ!
โจรเผ่นแนบไปแล้ว
ตรงนี้ก็เหลือแค่ผมกับไอ้ติณและ...กระเป๋าสะพายใบนั้นของเธอ...ที่ตอนนี้อยู่ในมือของไอ้ติณ
ติณ
ติณ
ยืนมองเหี้ยอะไรของมึง
อืม
สงสัยพ่อแม่มันคงไม่สอนเหมือนกันว่าเวลาพูดจากับคนรู้จักมันควรใช้คำพูดที่น่าฟังกว่านี้
ไม่ใช่เอะอะก็มึงกู
เอะอะก็ปล่อยสัตว์เลื้อยคลานออกจากปาก
คิม
คิม
มอง...
ผมย้อนบอกโดยตั่งใจเว้นช่องว่างให้ไอ้ติณเติมคำเอาเองแล้วมองหน้ามันด้วยสายตาไม่สะทกสะท้าน
แต่พอมันขยับ
ผมกลับสะดุ้ง
ติณ
ติณ
อ่ะ
คิม
คิม
อะไรของนาย
ผมรีบถามเมื่ออยู่ๆ ไอ้ติณก็เดินมาหาผมจริงๆ แต่ว่าไม่ได้เดินมาเอาเรื่องผมแบบที่ผมแอบกลัวหรอก
เพราะว่ามันแค่เดินเข้ามาส่งกระเป๋าใบนั้นให้ผมต่างหาก
บอกตรงๆ นะว่าตั้งแต่เห็นมันยกไอ้โจรกระจอกนั่นขึ้นจนลอยอยู่เหนือพื้นด้วยมือเดียวแล้วผมรู้สึกเสียวสันหลังแทบไม่อยากจะอยู่ใกล้มันด้วยซ้ำ
คิม
คิม
อะไร?
ผมถามด้วยความงุนงง
ไม่เข้าใจนี่นาว่ามันจะส่งกระเป๋าให้ผมทำไม
ติณ
ติณ
กระเป๋า
คิม
คิม
กระเป๋านี่ไม่ใช่ของเรา
ผมรีบบอก
ติณ
ติณ
ไม่ใช่ก็เอาไปคืนเจ้าของเขาสิวะ
ติณ
ติณ
มึงวิ่งตามไอ้โจรนั่นมาเอากระเป๋าไม่ใช่รึไง
ไอ้ติณถามพลางส่ายหัว
มันจะทำหน้าตาหงุดหงิดใส่ผมทำไมในเมื่อผมยังไม่ทันจะทำอะไรให้มันหงุดหงิดเลย
คิม
คิม
นายรู้ได้ยังไง
ติณ
ติณ
กูได้ยินมึงตะโกนพูดกับไอ้โจรนั่น
ติณ
ติณ
โง่นะมึงอ่ะ
ติณ
ติณ
คิดว่ามึงถือปืนอยู่รึไงถึงได้ตะโกนสั่งโจรให้หยุดวิ่งแล้วคิดว่ามันจะหยุดเนี่ย
มันด่าผมอีกแล้ว
คิม
คิม
แล้วนายเห็นได้ยังไง
ติณ
ติณ
วะ?
ติณ
ติณ
เรื่องมากนักนะมึง
ติณ
ติณ
จะเอาหรือไม่เอา
ไอ้ติณย้อนถามผมด้วยน้ำเสียงหงุดหงิเเบอร์แปด
แถมมันยังทำท่าพับแขนเสื้อเหมือนจะหาเรื่องผมก็เลยอดไม่ได้ที่จะรีบดึงกระเป๋าใบนั้นมาถือเอาไว้ ( จริงๆ แล้วผมแค่ตกใจ )
ติณ
ติณ
รสนิยมมึงไม่เลวเลยนะ
ไอ้ติณประชดเจือเสียงแค่นหัวเราะออกมาก็แหม
ถึงมันจะเป็นกระเป๋าสีดำแต่ว่าเลื่อมแพรวพราวขนาดนี้ดูก็รู่ว่าน่าจะเป็นของผู้หญิง
คิม
คิม
ก็บอกแล้วไงว่าไม่ใช่ของเรา
ติณ
ติณ
กูหมายถึงผู้หญิง
ไอ้ติณพูดพลางชำเลืิงหางตามองไปที่เก้านาฬิกา
ซึ่งพอผมมองตามไปผมถึงได้รู้ว่าเธอคนนั้นผู้เป็นเจ้าของกระเป๋ากำลังเดินมาที่เรา
ไอเดีย
ไอเดีย
นาย!
เธอคนนั้นเดินมาหยุดอยู่ตรงกลางระหว่างผมกับไอ้ติณ
ทั้งผมและไอ้ติณก็เลยต่างฝ่ายต่างก็หันไปมอง
แต่ว่าสายตาของเธอคนนั้นกลับจ้องมองเพียงกระเป๋าของเธอที่ตอนนี้มันอยู่ในมือของผมๆ ก็เลยรีบส่วมันคืนให้เธอ
คิม
คิม
อ่ะ
คิม
คิม
นี่กระเป๋าเธอ
ดูจากสายตาแล้วมันคงมีความหมายกับเธอมาก
ไม่อย่างนั้นคงไม่วิ่งตามมาตั้งไกลแถมยังมองมันแบบไม่ละสายตาแบบนั้นหรอก
ดีไม่ดีมันอาจจะมีของมีค่าอยู่ในกระเป๋าใบนี้ของเธอก็ได้
ไอเดีย
ไอเดีย
ขอบใจนายมากนะ
คิม
คิม
ไม่เป็นไร
คิม
คิม
คือว่าจริงๆ แล้ว...
ติณ
ติณ
📞 ฮัลโหล
แล้วเสียงไอ้ติณก็ดังทะลุขึ้นมากลางปล้อง
ไอ้ห่านี่ไม่เคยมีมารยาทเลยรึไง
ถ้าจะรับโทรศัพท์ก็ไม่เห็นต้องเสียงดังเลย
หรือไม่ผมว่ามันก็ควรจะเดินไปรับไกลๆ นะ
ไอเดีย
ไอเดีย
ฉันชื่อไอเดียนะ
เอ่อ
เธอคนนั้นเริ่มแนะนำตัวแล้วส่งยิ้มให้ผมสายตาของเธอเป็นประกายวิบวับจนผมอดจะยิ้มตอบให้เธอไม่ได้
คิม
คิม
เราชื่อคิม
ผมตอบกลับไปแบบไม่รู้จะเลี่ยงยังไง
ในเมื่อเธอก็ยังคงยืนมองผมด้วยสายตาเป็นประกายวิบวับอยู่แบบนั้น
ผมไม่ปฏิเสธหรอกนะว่าเธอสวย
ยิ่งได้เห็นใบหน้าของเธอใกล้ๆ พร้อมกับรอยยิ้มหวานๆ แบบนี้ผมก็ยิ่งรู้สึกว่าเธอสวยกว่าเมื่อตอนที่ผมเห็นเธอวิ่งเมื่อกี้นี้ซะอีกซึ่งผมอาจจะพูดอะไรกับเธอได้มากกว่านี้
ถ้าไม่ติดตรงที่ติณยืนทำตัวเป็นจระเข้ขวางคลองอยู่
ไอเดีย
ไอเดีย
ยินดีที่ได้รู้จักนะคิม
คิม
คิม
อืม
คิม
คิม
ยินดีที่ได้รู้จัก
ผมตอบตะกุกตะกักแล้วชำเลืองหางตามองไปที่ไอ้ติณ

Chapter 1 ( 2 )

แต่ปรากฏว่ามันก็ยังคุยโทรศัพท์อยู่อย่างนั้น
แถมไม่ยอมเดินไปไหน
ทำเหมือนผมกับไอเดียเป็นแค่อากาศที่ไร้ตัวตน
คิม
คิม
เอ่อ
คิม
คิม
หมอนี่ชื่อติณน่ะ
ผมรีบแนะนำไอ้ติณอีกคนเพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาท
เพราะว่าเห็นเธอกำลังมองไปที่มันเหมือนที่ผมกำลังมอง
คิดดูเถอะว่ามีสายตาสองคู่จ้องมันอยู่
มันก็ยังไม่รู้ตัว
อย่างน้อยมันก็น่าจะรู้ตัวบ้างนะว่ายังมีผมกับไอเดียยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้
มันควรจะรักษามารยาทด้วยการวางโทรศัพท์หรือไม่ก็เดินไปคุยไกลๆ แต่มันก็ยังเลือกจะยืนอยู่ตรงนี้เหมือนตั้งใจ
คิม
คิม
ลองเปิดดูกระเป๋าสิว่ามีอะไรข้างในหายไปรึเปล่า
ผมแนะนำออกไปเมื่อไอเดียยังเอาแต่ยืนยิ้ม
แต่กลับไม่เดินไปไหน
เหมือนจะรออะไรอยู่
ซึ่งพอพูดจบเธอก็รีบทำตามคำแนะนำของผมทันที
แต่คงไม่มีอะไรหายหรอกมั้งไอ้โจรบ้านั่นยังไม่ทันจะเปิดกระเป๋าเธอด้วยซ้ำ
ไอเดีย
ไอเดีย
ยังอยู่ครบเลย
ไอเดีย
ไอเดีย
ขอบใจมากนะคิม
ไอเดีย
ไอเดีย
ไม่งั้นฉันต้องไม่มีเงินไปจ่ายค่าเทอมแน่ๆ
คิม
คิม
ไม่เป็นไร
คิม
คิม
คือว่า...
ติณ
ติณ
📞 อะไรนะ!
ผมว่าผมเริ่มเกลียดไอ้ติณแล้วหละ
อยากจะยกเท้าถีบมันไปไกลๆ ซะด้วยซ้ำ
อยู่ๆ มันจะพูดเสียงดังขึ้นมาทำไม
คนอื่นเขาตกใจกันหมด
ไอเดีย
ไอเดีย
ขอโทษนะคิม
ไอเดีย
ไอเดีย
แต่ว่าถ้าฉันคงต้องกลับก่อน
ไอเดีย
ไอเดีย
ถ้าฉันอยากจะขอเบอร์นายไว้จะได้รึเปล่า
คิม
คิม
เอ่อ...
มันจะดีเหรอวะ? ( ผมแอบถามตัวเองเบาๆ ) เหล่มองไอ้ติณนิดหน่อยเพื่อขอความคิดเห็น
สลับกับการมองโทรศัพท์มือถือที่ไอเดียส่งมาให้ผมเพื่อให้ผมกดเบิร์ของตัวเอง
จริงๆ ผมก็ไม่ได้อยากจะถามความเห็นของไอ้ติณหรอกนะ
แต่อย่างน้อยสองหัวก็ดีกว่าหัวเดียว
แต่ว่าไอ้ติณมันไม่มองผมเลยสักนิดนี่สิ
ไอ้เวร!
ไอเดีย
ไอเดีย
ถ้านายไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรนะ
ไอเดีย
ไอเดีย
ฉันแค่ลองถามดู
ไอเดีย
ไอเดีย
เผื่อว่ามีโอกาสที่ฉันอาจจะได้ตอบแทนนายน่ะ
คิม
คิม
ดะ
คิม
คิม
ได้สิ
ผมตอบตะกุกตะกักอีกรอบแล้วรับโทรศัพท์มือถือของไอเดียมากดเบอร์โทรศัพท์ของตัวเองลงไป
จากนั้นก็กดโทรออก
พอรู้สึกว่าโทรศัพท์ในกระเป๋าสั่น
ผมก็กดวางสายแล้วส่งมันคืนให้เธอไปตามมารยาท
ไอเดีย
ไอเดีย
แล้วจะโทรไปนะ
คิม
คิม
อ่ะ
คิม
คิม
อืม
ผมตอบงงๆ ทั้งที่ยังงงๆ เพราะว่ายังงงๆ นั่นแหละ
ไอเดียโบกมือลาผมก่อนจะหันไปส่งยิ้มลาไอ้ติณอีกคนโดยไม่พูดอะไรเพราะไอ้ติณยังคงเอาจริงเอาจังกับดารคุยโทรศัพท์
ผมยืนยิ้มให้เธอกระทั่งเธอเดินลับสายตาไปตรงมุมตึก
พอหันกลับมาอีกทึก็เห็นว่าไอ้ติณวางสายโทรศัพท์ข้ามชาติของมันได้สักที
ติณ
ติณ
หน้าม่อนะมึง
มันด่าผมอีกละ
รู้จักกันแค่วันเดียว
พูดกันไม่ถึงห้าประโยคไม่มีประโยคไหนที่บ่งบอกว่าคนอย่างมันจะเป็นมิตรที่ดีเลยสักประโยคเดียว
คิม
คิม
ไม่ได้ม่อ
ติณ
ติณ
แล้วจะเอามั้ย
คิม
คิม
เอาอะไร
ติณ
ติณ
ไอเดีย?
ติณ
ติณ
ใช่มั้งถ้ากูฟังไม่ผิด
ไอ้ติณพูดพลางเหล่สายตามองไปทางที่ไอเดียเพิ่งจะเดินกลับออกไป
ถามแบบนี้ผมว่ามันนั่นแหละที่หน้าม่อเพราะผมยังไม่ทันจะคิดอะไรกับเธอเลยด้วยซ้ำไป
คิม
คิม
เพ้อเจ้อ
ติณ
ติณ
กูรู้นะว่ามึงชอบ
เอ๊ะ
ไอ้ห่านี่ท่าจะเป็นเอามาก
คิม
คิม
เราถึงได้บอกว่านายเพ้อเจ้อไง
ผมบอกฉุนๆๆ ก่อนจะหันหลังใหัไอ้ติณเพราะไม่อยากคุยกับมันเรื่องไร้สาระ
จริงๆ ผมยอมรับนะว่าไอเดียเป็นผู้หญิงสวย
ขนาดมองเห็นไกลๆ ความสวยของเธอยังทำให้ผมวิ่งตามไอ้โจรกระจอกนั่นมาโดยไม่คิดหน้าคิดหลังเลย
เมื่อกี้นี้ที่ยอมให้เบอร์เธอไปก็แค่ไม่อยากเสียมารยาท
อีกอย่างกลัวเธอจะเสียหน้าด้วย
ดีไม่ดีเธออาจจะคิดว่าผมหยิ่งก็ได้
แต่ดูไอ้ห่าติณมันคิดวันๆ ในสมองมันเคยคิดเรื่องดีๆ บ้างมั้ยเนี่ย
ติณ
ติณ
ไอ้เหี้ยคิม
นั่นไง
ชาติที่แล้วมันคงตายคาคู่มือการใช้ภาษาพ่อขุนรามคำแหงสินะ
มันถึงได้พูดคำด่าคำตลอดเวลา
คิม
คิม
อะไรของนายอีกล่ะ
ติณ
ติณ
ตกลงมึงจะไม่จีบไอเดียจริงๆ เหรอ
ติณ
ติณ
กูว่าผู้หญิงเขาอ่อยมึงแล้วนะ
คิม
คิม
เราว่านายคิดมากไปแล้วหละ
ผมตอบเบื่อๆ ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมผมต้องมาเสียเวลาตอบคำถามมากมายของไอ้ติณทั้งๆ ที่ผมง่วงมาก
อยากจะกลับห้องไปนอน ( รับเงินเดือน ) ใจจะขาด
ติณ
ติณ
กูรู้
ติณ
ติณ
กูดูออก
คิม
คิม
นายจะรู้ได้ยังไงในเมื่อๆ กี้นายคุยแต่โทรศัพท์
คิม
คิม
นายยังไม่ทันจะได้มองหน้าไอเดียเลยด้วยซ้ำ
ติณ
ติณ
กูบอกว่ากูรู้ก็รู้สิวะ
ไอ้ติณยังคงพยายามเถียงด้วยใบหน้าจริงจัง
คิม
คิม
ประสาท
ติณ
ติณ
เอ้าไอ้เหี้ยนี่
ติณ
ติณ
ถามดีๆ ยังจะด่า
ติณ
ติณ
นี่จริงจังนะเว้ย
ติณ
ติณ
ผู้หญิงอ่อยขนาดนี้แล้วไม่เอานี่โง่มากเลยนะมึง
คิม
คิม
ถ้านายฉลาดนายก็เอาไปสิ
คิม
คิม
ไม่ต้องมายัดเยียดให้เรา
ติณ
ติณ
ผู้ดีชะมัด
ติณ
ติณ
นี่มึงแดกหนังสือสมบัติผู้ดีแทนข้าวเย็นรึไง
ไอ้ติณยังคงพูดคำด่าคำ
แถมมันยังเดินมาดักหน้าผผมและปลักไหล่ผมให้ถอยหลังกลับมายืนที่เดิมเหมือนอยากจะหาเรื่องผมเพราะว่าผมพยายามจะเดินหนีมัน
คิม
คิม
แล้วนายล่ะ
คิม
คิม
เกิดในสมัยพ่อขุนรามฯเหรอ
คิม
คิม
ถึงไได้พูดคำด่าคำ
ติณ
ติณ
ก็มึงกับกูเพื่อนกันไม่ใช่รึไง
คิม
คิม
เป็นเพื่อนกันยิ่งต้องเกรงใจสิ
คิม
คิม
ไม่ใช่คำก็เหี้ยสองคำก็สัตว์
ติณ
ติณ
ไอ้สัตว์นี่!
ติณ
ติณ
ก็กูเป็นของกูแบบนี้
ติณ
ติณ
ทำไม
ติณ
ติณ
หรือถ้ากูจะเป็นเพื่อนมึงกูต้องนุ่งโจรกระเบนแล้วคลานเข่าเลยมั้ยไอ้เหี้ย!
ผมล่ะเบื่อจะอธิบายกับมันจริงๆ แต่จะเดินหนีมันก็ยืนขวางซะเต็มปากซอยเลย
นี่ตัวมันจะใหญ่ไปไหน
คิม
คิม
ไม่ต้อง
คิม
คิม
เราก็แค่ไม่ชอบให้พูดคำด่าคำ
ติณ
ติณ
ครับ
ไอ้ห่านี่จะกวนประสาทผมทำไมวะ...ครับ
ติณ
ติณ
ตกลงมึง
ติณ
ติณ
เชี่ยเอ๊ย
ติณ
ติณ
ไม่ชินปากว่ะ
ติณ
ติณ
ตกลงคิมจะเอาไอเดียมั้ย
ผมว่าผมเริ่มรำคาญมันแล้วหละ
อีกอย่างยิ่งฟังมันพูดเพราะผมก็เริ่มรู้สึกเหมือนมันกำลังจะทำใหห้ภาษาไทยวิบัติชอบกล
คิม
คิม
นายพูดปกติตามสันดานก็แล้วกัน
คิม
คิม
ไม่ต้องดัดจริตหรอก
คิม
คิม
เราจะพยายามฟัง
อืม
แล้วผมก็พยายามจะพูดคำด่าคำแบบมันบ้าง
กระดากปากนิดหน่อยแต่มันคงเข้าใจแหละ
ติณ
ติณ
เออ
ติณ
ติณ
กว่าจะปั้นคำได้
ติณ
ติณ
นานๆ เราๆ ลิ้นกูจะพันกันตาย
ไม่เคยคิดเลยว่าการพูดจาสุภาพมันจะเป็นเรื่องยากขนาดนั้นแต่ผมว่าผมเข้าใจนะ
เพราะถ้าให้ผมพูดคำด่าคำแบบมันผมก็ทำได้ไม่ดีเหมือนมันหรอก
ฮ่าๆ
ติณ
ติณ
เฮ้อ!
ติณ
ติณ
มึงไม่เสียดายของบ้างเหรอวะ
ติณ
ติณ
ดูจากสายตาแล้วกูว่าไอเดียคงประทับใจมึงนะ
ไอ้ติณพูดพลางเอื้อมมือมาตบบ่าผมราวกับว่าเราสนิทสนมกันมานานสามชาติกว่า
คิม
คิม
เราว่าน่าจะเป็นเพราะไอเดียเข้าใจผิดเรื่องกระเป๋ามากกว่า
ติณ
ติณ
ก็คงจริง
คิม
คิม
ถามมากขนาดนี้นายชอบไอเดียเหรอ
คิม
คิม
ถ้าชอบไอเดียแล้วเมื่อกี้นายแกล้งไม่สนใจเธอทำไมๆ ไม่บอกเธอไปว่าจริงๆ แล้วนายเป็นคนแย่วกระเป๋าเธอจากไอ้โจรนั่นคืนมาได้
ผมรีบถามเพราะเริ่มสงสัย
แต่ไอ้ติณกลับรีบส่ายหัวปฏิเสธ
ติณ
ติณ
กูก็ถามไปตามมารยาท
คิม
คิม
ไม่เคยรู้เลยว่านายมีคุณสมบัตินั้น
คิม
คิม
อีกอย่างไม่เสียดายของเหรอ
ผมแอบกระแนะกระแหน
ติณ
ติณ
กูเลือกมีมารยาทกับบางคน
ติณ
ติณ
อีกอย่างเรื่องเสียดายของใช้ไม่ได้กับคนอย่างกู
ติณ
ติณ
เพราถ้าคนอย่างกูจะเอา
ติณ
ติณ
รับรองว่ามึงไม่ได้แดกหรอกกูบอกเลย
ไอ้ติณพูดด้วยความมั่นอกมั่นใจแล้วมองผมด้วยสายตาเย้ยๆ จนปมเริ่มจะหมั่นไส้
อะไรมันจะมั่นหน้าเบอร์นั้น
ติณ
ติณ
แล้วนี่มึงจะไปไหน
ติณ
ติณ
ดึกดื่นแล้วทำไมยังไม่กลับบ้านไปกินนมนอน
เป็นอันว่าเปลี่ยนประเด็นสนทนาได้สักที
เฮ้อ!
ผู้ชายอะไรคำถามเยอะชะมัด
จุกจิกมากกว่าแม่ผมอีก
คิม
คิม
แล้วนายล่ะ
ผมย้อนถามเซ็งๆ จริงๆ คือตั้งใจจะไม่ตอบคำถามมัน
เพราะเกลียดปากมัน
ดูก็รู้ว่ามันตั้งใจด่าว่าผมเป็นเด็กหน่อมแน้ม
ติณ
ติณ
กูก็มาหานมกินนี่ไง
ไอ้ติณตอบกลับมาตรงๆ แต่สายตาบ่งบอกว่านมมันกับนมผมน่าจะคนละความหมาย
เป็นอันว่าผมจะไม่เถียงกับมันเรื่องต่ำๆ ( กว่าใต้สะดือ ) อีกก็แล้วกันเพราะว่าผมคงสู้ความหยาบคายและหยาบดระด้างของมันไม่ได้หรอก
ผมถอนหายใจเซ็งๆ เพราะไม่อยากจะใส่ใจอะไรกับไอ้ติณมากนักตั้งแต่คุยกับมันมา
ผมไม่เห็นทีท่าว่ามันจะจริงจังกับเรื่องอะไรที่พูดออกมาสักเรื่องเลย
แล้วนี่ผมเดิรออกมาจากซอยพร้อมไอ้ติณมาได้ยังไง
มารู้ตัวอีกทีผมกับมันก็เดินย้อนกลับมาเกือบจะถึงจุดที่โดนไอ้โจรกระจอกนั่นวิ่งชนเมื่อกี้นี้แล่ว
ติณ
ติณ
ตกลงว่าบ้านมึงอยู่ไหน
ติณ
ติณ
ถ้าไม่ไกลกูไปส่งได้นะ
คิม
คิม
ไม่เป็นไร
คิม
คิม
เราเดินกลับเองได้
ติณ
ติณ
เออดีไม่เปลืองน้ำมันกู
ไอ้ติณพูดพลางไหวไหล่เล็กน้อยก่อนจะเดินกลับไปที่รถของมัน
ซึ่งก็คือรถคันที่ผมโดนไอ้โจรนั่นชนจนล้มไปชนนั่นแหละแต่ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกที่คนอย่างมันจะขับรถหรูๆ ดูจากรูปร่างหน้าตาและการใช้ชีวิตของมันแล้ว
มันก็คงจะเป็นลูกคุณหนูที่ถูกสปอยด้วยเงินมาตั้งแต่เด็ก
ผมแยกกับไอ้ติณแล้วหมุนตัวเดินย้อนกลับอีกทาง
เมื่อกี้นี้ผมมัวแต่คุยกับไอ้ติณเพลินไปหน่อยก็เลยเดินเลยซอยน่ะ
เพราะทางเข้าอพาร์ตเม้นต์ของผมมันอยู่เลยจากร้านไปแค่สองซอย
แต่เมื่อกี้นี้วิ่งไล่ไอ้โจรนั่นเลยไปหลายซอยก็เลยต้องเดินย้อนกลับมา
ซึ่งก็ย้อนเลยไปอีก
สรุปก็คือผมเดินย้อนไปย้อนมาอยู่แค่นี้เอง
แค่กกก!
ผมได้ยินเสียงอะไรสักอย่างถูกลากไปกับพื้น
เสียงของมันดังมากและดังยาวไปเรื่อยๆ จนผมต้องละสายตาจากโทรศัพท์มือถือที่กำลังเมมเบอร์ไอเดียไว้ขึ้นไปมอง
แต่สิ่งที่ผมเห็นมันไม่ชัดนัก
เพราะจากจุดที่ผมมองเห็นมันค่อนข้างมืดเหมือนว่าผมจะเห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังเดินสวนผมไป
แต่จากระยะห่างของเราทำให้ผมเห็นใบหน้าของเขาไม่ชัดสักเท่าไหร่
รู้แต่ว่าในมือของผู้ชายคนนั้นมีอะไรสักอย่างที่เขาลากมันไปกับพื้นจนเกิดเสียงดังน่ารำคาญ
ผมมองตามแผ่นหลังของผู้ชายคนนั้นไปเรื่อยๆ ด้วยความแปลกใจกระทั่งผู้ชายคนนั้นเดินเข้าไปใกล้แสงสว่างขอวไฟส่องสว่างบริเวธเสาไฟมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งใกล้
ผมก็ยิ่งเห็นใบหน้าของเขาชัดขึ้น
ยิ่งเห็นชัดขึ้นผมก็ยิ่งรู้สึกคุ้นกระทั่งสังเกตเห็นว่าผู้ชายคนนั้นกำลังเดินตรงไปที่ไอ้ติณ
ที่ยังยืนคุยโทรศัพท๋อยู่ข้างตัวรถ
ทั้งๆ ที่มันเปิดประตูรถแล้วแต่ยังไม่ยอมเข้าไปนั่งในรถ
ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้ผมมองย้อนกลับมาที่ผู้ขายคนนั้นอีกครั้ง
และภาพใบหน้าของผู้ชายคนนั้นก็ชัดเจนขึ้นเมื่อเขาเดินผ่านเสาไฟตรงนั้นพอดีและมันก็คือไอ้โจรกระจอกคนเมื่อกี้นี้
แต่สิ่งที่น่าตกใจกว่าการได้เจอมันอีกครั้งก็คือมันกลับมาพร้อมกับไม้หน้าสามท่อนยาวหนึ่งช่วงแขนในมือ
คิม
คิม
ติณ
คิม
คิม
ระวัง!
แล้วผมก็ตัดสินใจตะโกนเรียกไอ้ติณแล้วร้องบอกออกไป
ไอ้ติณตวัดสายตาขุ่นๆ มองกลับมามองผม
แต่ว่าดวงตาคู่นั้นของมันก็ถึงกับเบิกโพลงขึ้นทันทีเมื่อหันมาเห็นไม้หน้าสามท่อนนั้นก่อนจะได้เห็นหน้าผม
เพลิง!
เสียงกระจกรถของไอ้ติณแตกเพราะถูกไม้หน้าสามท่อนนั้นฟาดเข้าให้อย่างจัง
โชคดีที่ไอ้ติณหมอบหลบได้ทันเวลาก่อนที่มันจะรีบวิ่งออกมาตั้งหลักห่างจากนายคนนั้นออกมาแค่ไม่กี่ก้าวผมเห็นกับตาว้าไม้ท่อนนั้นหักเป็นสองท่อนอย่างง่ายดาย
อละเมื่อครั้งแรกพลาด
ไอ้โจรนั่นก็ยังไม่ถเดใจเพราะว่าผมเห็นมันเตรียมเงื้อไม้หน้าสาม ( ที่หักครึ่งไปแล้ว ) ในมือขึ้นกลางอากาศอีกรอบ
ดูจากสายตาโกรธแค้นของมันแล้วเหมือนว่ามันจะไม่ยอิมเลิกราง่ายๆ แต่ว่าครั้งนี้มันไม่ทันจะได้ฟาดลงมาก็โดนไอ้ติณยกเท้าถีบสวนเข้าไปเต็มๆ กลางลำตัวของมันซะก่อน
อุุ่ก!
ติณ
ติณ
กูเตือนแล้วนะว่าอย่ามาให้กูเห็นหน้าอีก
ติณ
ติณ
ไอ้โจรกระจอก!
ผมได้ยินไอ้ติณตวาดเสียงดังลั่น
ก่อนที่มันจะเดินตรงเข้าไปเอาเรื่องไอ้โจรนั่นที่กำลังยืนจุกอยู่อย่าบไม่เว้นช่วงให้ไอ้โจรนั่นได้ตั้งหลักเสียงหนักแน้รของฝีเท้าไอ้ติณดังขึ้นเมื่อมันเตะซ้ำเข้าไปที่กลางลำตัวของไอ้โจรนั่นทั้งที่ยังนอนคู้ตัวอยู่กับพื้นจนผมเริ่มรู้สึกสงสาร
ไม่สิ
ผมแค่กลัวไอ้ติณกลายเป็นฆาตกรต่างหาก
ติณ
ติณ
ลอบกัดหมาๆ แบบนี้
ติณ
ติณ
อย่าอยู่มห้รกโลกเลยมึง
อั่ก!
คิม
คิม
พอแล้วติณ
คิม
คิม
เดี๋ยวมันก็ตายหรอก
ผมรีบเข้าไปห้ามพร้อมกับพยายามจะดึงไอ้ติณออกมา
แต่ไอ้ติณกลับผลักผมออกมาแล้วมองผมด้วยดวงตาของวาวโรจน์ฉายแววความโกรธออกมาเต็มๆ
ติณ
ติณ
อย่ามาห้ามกู
คิม
คิม
แต่นายจะฆ่าคนค่นไม่ได้
คิม
คิม
ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจไปสอ
คิม
คิม
อยากติดคุกนักรึไง
ติณ
ติณ
มึงก็ตามมาสิ!
ไอ้ติณตะคอกบอก
แต่วินาทีที่ผมกำลังยืนเถียงกับมันอยู่
ผมกลับเห็นหน้าของใครบางึนแทรกเข้ามา
วินาทีนั้นสิ่งเดียวที่ผมคิดออกตอนที่ได้สบตากับไอ้โจรกระจอกนั่นที่ลุกขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้คือการกระชากไอ้ติณออกมาแล้วกระโดดถีบไอ้โจรนั่นออกไป
อุ่ก!
ผมไม่ได้ตั้งใจจะกระโดดถีบมันทั้งสองขาคู่หรอกนะ
แต่ทำไปแล้วว้ากกก
ผมทำได้!
พลั่ก!
แล้วผมก็ส่งหมัดหลุนๆ ตามออกไปสุดแรง
เสียงดังแน่นๆ ยืนยันว่าผมชกไม่พลาดเป้าแน่นอนแต่ว่าผมยังไม่ทันจะได้ชื่นชมผลงานของตัวเองก็โดนไอ้ติณกระชากถอยกลับมาซะก่อน
ติณ
ติณ
ตีนหนักนะมึง
มันใช่เวลามายืนชมกันรึไง
คิม
คิม
เราก็แค่ป้องกันตัว
ผมรีบบอก
ผมแค่เคยเรียนวิชาป้องกันตัวมาบ้างก็เลยพอจะรู้เทคนิคการต่อสู้แต่นั่นไม่ได้แปลว่าผมเก่งหรอก
เพราะถ้าไอ้เวรนั่นตั้งหลักได้แล้วกลับมาเอาคืนอีกรอบ
ผมเองก็คงสู้ไม่ไหวเหมือนกัน
ติณ
ติณ
มึงโทรแจ้งตำรวจไป
ติณ
ติณ
เดี๋ยวกูจัดการมันเอง
คิม
คิม
อย่าฆ่ามันนะไอ้ติณ
ติณ
ติณ
กูมีแค่มือเปล่า
ติณ
ติณ
แต่มันถือไม้หน้าสามมาจะฟาดหัวกูนะ
ติณ
ติณ
มึงเข้าข้างกูบ้างเถอะ
ไอ้ติณหันมาพูดแล้วทำหน้าเซ็ง
ผมได้แต่พยักหน้าเออออกับมันไปแล้วรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
ก่อนจะรีบโทรแจ้งตำรวจซึ่งทุกอย่างก็ใช้เวลาเพียงไม่นาน
สมกับที่มีหน้าที่การบริการประชาชร
แต่เพียงแค่เสี้ยววินาทีที่ผมก้มหน้าลงเพื่อจะเก็บโทรศัพท์
ผมก็เห็นบางอย่างสะท้อนออกมาจากกระจกรถของไอ้ติณที่จอดอยู่ตรงหน้า
โจร
โจร
เสือกนักเหรอมึง!
เพล้ง!
ตามมาด้วยเสียงกระจกรถของไอ้ติณแตกไปอีกหนึ่งบาน
เสียงทุ้มต่ำด้วยแรงอาฆาตดังมาจากทางด้านหลัง
แต่ว่าผมยังไม่ทันจะได้หันไปมองเพราะว่าถูกไอ้ติณกระชากออกมาจากจุดที่ยืนอยู่เมื่อกี้นี้ซะก่อน
ซึ่งผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าก่อนหน้านี้ไอ้ติณมันทำอะไรอยู่กรอว่ามันยืนอยู่ตรงไหน

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!