"นั้นเฮียจะไปไหน" ร่างบางที่พึ่งเดินออกมาจากห้องน้ำขมวดคิ้วมุ่นเมื่อเห็นว่าคนตัวโตแต่งตัวกำลังจะออกไปข้างนอกอีกแล้ว
"เฮียจะออกไปข้างนอก" ชายหนุ่มเลี่ยงที่จะตอบตรงตัวเพราะไม่อยากทะเลาะกับคนตัวเล็กให้ปวดหัว
"ดึกขนาดนี้เฮียยังจะออกไปอีกหรอ เบลล์ง่วงแล้วนะ" มาเบลล์เดินเข้าไปสวมกอดร่างสูงจากข้างหลัง ใช้อกนุ่มบดเบียดกับแผ่นหลังกว้างอย่างจงใจ
"เบลล์ง่วงก็นอนก่อน ไม่ต้องรอเฮีย" มือหนาแกะแขนเล็กออกเพราะไม่อาจเสียเวลาได้อีก
"เฮียจะออกไปหามันอีกแล้วใช่มั้ย!" มาเบลล์ที่พอจะรู้อยู่แล้วเผลอกระแทกเสียงใส่ชายหนุ่มอย่างลืมตัว
"เบลล์พูดเพราะๆ มันไม่น่ารัก" ราชันย์ดุคนตัวเล็กเสียงเข้มเมื่อเธอพูดไม่เพราะอีกแล้ว
"ใครจะไปน่ารักแบบชู้เฮียล่ะ" หญิงสาวประชดประชัน ราชันย์ส่ายหน้าอย่างเหนื่อยอ่อนทำท่าจะผละออกไปแต่มาเบลล์ไม่ยอมรั้งแขนเขาไว้ "เบลล์ไม่ให้เฮียไปนะ!"
ราชันย์ถอนหายใจหันมาเผชิญหน้ากับคู่หมั้นสาวตรงๆ “เฮียกับดาเราไม่ได้เป็นอะไรกัน เลิกเอาแต่ใจสักที”
"เฮียนั้นแหละเมื่อไหร่จะเลิกนอกใจเบลล์" เธอหรอที่เอาแต่ใจ ถ้ารู้ว่าผัวกำลังจะถูกแย่งดูสิใครยังจะใจเย็นอยู่ไหว "ไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วออกไปหากันบ่อยๆทำไม! มองจากดาวอังคารยังรู้เลยว่ามันคิดจะจับเฮียทำผัว มันคิดจะแย่งเฮียไปจากเบลล์ อ้อ! หรือว่าเป็นผัวมันไปแล้ว"
"เบลล์ พูดอะไรให้เกียรติกันบ้างนะ!" ราชันย์ขมวดคิ้ว รู้สึกว่าครั้งนี้หญิงสาวจะพูดจารุนแรงเกินไปมาก
"โกหก! นี่ก็คงจะออกไปหามันอีกแล้วใช่มั้ย" ก่อนหน้านี้มาเบลล์นอนแช่น้ำอยู่ในห้องน้ำ แต่เพราะได้ยินเสียงโทรศัพท์ของเขาเธอจึงรีบลุกล้างตัวเพราะอยากรู้ว่าใครโทรมา มาเบลล์มั่นใจว่าตนเองเดาไม่ผิด
“เบลล์” ราชันย์หมอคำจะพูดกับคู่หมั้นสาว ไม่รู้ทำไมเธอถึงได้เปลี่ยนไปขนาดนี้ เมื่อก่อนตอนยังเด็กก็น่ารักมากแท้ๆ ไม่ได้เอาแต่ใจขนาดนี้ "พูดให้มันรู้เรื่องหน่อยเบลล์ มันน่ารำคาญนะรู้มั้ย"
"อึก! แค่ตอบมาว่าใช่ไม่ใช่ก็พอเฮียคิงส์" มาเบลล์ขอแค่คำตอบเท่านั้น เพราะรู้ว่าไม่มีทางรั้งเขาไว้ได้ ไม่ว่าจะกี่ครั้งที่ผู้หญิงคนนั้นโทรมา
"ใช่! แต่ดาเขามีเรื่องเดือดร้อนจริงๆ เฮียจำเป็นต้องไป" ตอนนี้ก็เสียเวลามามากแล้ว
"เพื่อนคนอื่นเขาไม่มีแล้วรึไง ทำไมต้องเป็นเฮียตลอด" เบลล์หลับตาพยายามข่มอารมณ์พูดดับคนพี่เสียงอ่อน พยายามใช้เหตุผลคุยกับเขาอย่างที่เคยตกลงกันไว้ ถึงแม้จะเจ็บกับคำพูดของเขามากก็ตามทีแต่เธอรักเขา
"ดาเขาน่าสงสารนะเบลล์ เขาไม่ได้มีเหมือนเรา" เขาไม่เข้าใจว่าทำไมน้องถึงได้มีอคติต่อลดาขนาดนั้น หากน้องได้รู้จักเปิดใจให้ลดาน้องก็คงจะเห็นว่าลดาน่าสงสารจริงๆ
"เบลล์เลยต้องเสียสละผัวของเบลล์ให้มันไปใช่มั้ย! แล้วเบลล์ที่เกิดมารวยเลยต้องไม่น่าสงสารใช่มั้ย! ต้องร้องไห้ไม่ได้อ่อนแอไม่เป็นใช่มั้ย" เพราะเธอไม่อ่อนแอบอบบางหรือไงเขาถึงไม่ถนอมเธอเหมือนที่ถนอมผู้หญิงอีกคน
“เพราะเบลล์ยังไม่เลิกเอาแต่ใจตัวเองแบบนี้ไง ต่อไปใครจะทนอยู่กับเราได้ เฮียก็ไม่ทนหรอกนะ!" ราชันย์ถอนหายใจรู้สึกว่าครั้งนี้พูดแรงไปบ้างแต่หากไม่ใช้ยาแรงหญิงสาวก็คงไม่เลิกนิสัยเอาแต่ใจแบบนี้ ถึงยังไงเธอก็คงจะไม่โกรธเขาอีกตามเคยพรุ่งนี้ก็คงวิ่งตามมาอ้อนอีกนั่นแหละ ค่อยขอโทษตอนนั้นแล้วกัน
คิดได้แบบนั้นราชันย์ก็แกะมือเล็กออกอย่างคนที่ต้องการจะไปเต็มที เขาเสียเวลากับตรงนี้มามากพอไม่รู้ป่านนี้อีกคนจะเป็นยังไงบ้าง
"...." มาเบลล์อึ้งไปสักพักก่อนจะกรีดร้องออกมาอย่างคนเอาแต่ใจ "ไม่อยู่กับเบลล์แต่จะไปอยู่กับอิชู้นั้นใช่มั้ยคะ!" ทุกครั้งที่เขาออกไปเขาจะไม่เคยกลับมาหาเธออีกเลย ไม่ว่าจะตอนไหน ขนาดบางครั้งนั่งกินข้าวอยู่ด้วยกันสองคนเขายังออกไปทั้งๆ ที่มันเป็นวันครบรอบของเราแท้ๆ ยังสำคัญน้อยกว่าเรื่องของผู้หญิงคนนั้น จะให้เธอคิดยังไง!
"เบลล์! พูดให้มันน่ารักหน่อย หยุดโวยวาย! ถ้ายังทำตัวแบบนี้เฮียจะถอนหมั้นกับเบลล์นะ เมื่อก่อนเบลล์ไม่ได้เอาแต่ใจหนักขนาดนี้นะ เราเป็นอะไรไปแล้วเบลล์” สายตาที่มองมาแปรเปลี่ยนเริ่มไม่เหมือนเดิมของราชันย์ ทำให้มาเบลล์แทบทรุด
“เบลล์ก็ไม่ได้อยากเป็นแบบนี้ แต่ที่เป็นแบบนี้มันเพราะใครล่ะ! จะให้เบลล์ใจเย็นเห็นผัวของตัวเองออกไปกับชู้ได้หน้าตาเฉยหรอคะ!”
“เบลล์!!!” ราชันย์ตวาดคู่หมั้นสาวเป็นครั้งแรก
"เพียงเพราะมันเฮียถึงขั้นตวาดเบลล์!" มาเบลล์ตวาดคืนอย่างไม่ยินยอม "คำก็ถอนหมั้น สองคำก็ถอนหมั้น เฮียขู่เบลล์แบบนี้มาหลายครั้งแล้วนะ หมั้นกันมาหลายปีไม่เคยรักกันบ้างรึไง" หมั้นกันมาเจ็ดปีเป็นผัวเป็นเมียกันมาสามปี กี่ครั้งแล้วที่เขาขู่จะถอนหมั้นแบบนี้
“ก็ทำตัวแบบนี้ไงใครมันจะไปรักลง!" ชายหนุ่มสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของมือเล็กจนหญิงสาวเซไปตามแรง นัยต์ตาคมกล้าสั่นไหวเพียงชั่วครู่ก็หันหน้าหนีเปิดประตูห้องออกไป
“….” คล้ายมีน้ำเย็นราดลงหัวมันชาไปทั้งตัวจนขยับไปไหนไม่ได้ มาเบลล์ที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังน้ำตาเม็ดใสค่อยๆ ไหลรินลงมา
.
.
.
ราชันย์ที่ขึ้นรถมาแล้วตบพวงมาลัยแรงๆ ไปหนึ่งทีอย่างต้องการระบายอารมณ์ ก่อนจะรีบบึ่งรถออกไปเมื่อคิดว่ายังมีอีกคนที่รอการไปของเขาอยู่
รถยนต์คันหรูจอดเทียบข้างฟุตบาทของป้ายรถเมล์แห่งหนึ่ง หญิงสาวที่รออยู่ก่อนแล้วเมื่อเห็นรถที่คุ้นตาก็รีบเปิดประตูขึ้นรถมาด้วยท่าทางตื่นกลัว
"พรู่ว~ ค่อยยังชั่วหน่อย ขอบคุณนะคิงส์ที่มา" ลดาถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อคิดว่าตัวเองปลอดภัยแล้ว เธอหันไปยิ้มอ่อนให้ชายหนุ่มเจ้าของรถ
"อืม ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว แล้วคนน่าสงสัยคนนั้นไปไหนแล้วให้ฉันพาไปแจ้งความมั้ย” คิงส์กวาดสายตามองหาคนน่าสงสัยที่ทำให้เพื่อนสาวหวาดกลัวจนต้องเรียกเขาให้ออกมารับ
“ไม่ๆๆ ไม่เป็นไรเลยคิงส์ มันรีบวิ่งไปตั้งแต่เห็นว่ามีรถเปิดไฟเลี้ยวมาจอดแล้ว” ลดารีบปฏิเสธก่อนที่เรื่องมันจะลุกลามไปไกล เธอรีบเปลี่ยนเรื่องคุย “ดูทำหน้าเข้า ทะเลาะกับน้องเบลล์มาอีกแล้วใช่มั้ย”
“….” ราชันย์ไม่อยากจะเอ่ยถึงคู่หมั้นลับหลังจึงเงียบไม่ตอบอะไร
“ดาขอโทษนะที่เป็นต้นเหตุทำให้คิงส์ทะเลาะกับน้องเบลล์" หญิงสาวก้มหน้าลง น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
“ไม่ใช่ความผิดของดาหรอก" ราชันย์ไม่คิดจะโทษผู้หญิงที่น่าสงสารคนนี้ ชีวิตเธอน่าสงสารมากพอแล้วหากมีเรื่องมากระทบจิตใจให้คิดมากอีกเขาเกรงว่าเธอจะฆ่าตัวตายเหมือนปีนั้น
“ไม่หรอก ดาผิดเองที่ไม่เข็มแข็ง ขี้กลัว แต่ผู้ชายคนเมื่อกี่ก็น่ากลัวจริงๆนะ ท่าทางดูไม่น่าไว้ใจ ดาไม่รู้จะหันไปพึ่งใครจริงๆ ดากลัว ดาคิดถึงแค่หน้าคิงส์” มือเล็กที่วางไว้บนตักบีบเข้าหากันแน่นราวกับลำบากใจหนักหนา
"อืม ช่างเถอะอย่าคิดมาก” ราชันย์ไม่อยากพูดถึงอีก
"คิงส์คงอึดอัดมาก น้องเบลล์เอาแต่ใจเกินไป ไม่ฟังอะไรเลย ดาก็เคยอธิบายไปหลายครั้งแล้วว่าระหว่างเรามันไม่มีอะไรเกินเลย แต่น้องเขาไม่ฟังเลยบอกว่าดาตอแหล ดาอายคนไม่กล้าเข้าไปคุยกับน้องเขาแล้ว" ลดาเงยหน้าจากตักใช้ดวงตาที่เอ่อคลอไปด้วยน้ำตามองชายหนุ่มจากด้านข้าง
"ดาไม่ต้องไปยุ่งกับเบลล์หรอก เราจัดการเอง ทีหลังดาก็ดูเวลาดีๆนะ เราคงไม่ได้มารับดาได้ตลอด ค่ำมืดมันอันตราย" ราชันย์นึกไปถึงตอนที่เพื่อนสาวเข้าไปคุยกับคู่หมั้นแล้วโดนเธออาละวาดกลับมาจนข้อมือซ้นก็ได้แต่จนใจ
"อืม ดารู้แล้วขอโทษที่โทรรบกวนตอนดึกนะ แต่ดาไม่กล้าโทรหาเพื่อนคนอื่นน่ะ พวกนั้นติดแฟนอย่างกันอะไรดี ดาเกรงใจแฟนพวกเขา เพื่อนผู้ชายที่ดารู้จักก็มีแค่คิงส์คนเดียว” หญิงสาวพูดทั้งยังหัวเราะเสียงเล็กเสียงน้อยเมื่อนึกถึงเพื่อนสาวอีกสองคนที่ป่านนี้คงนอนกกอยู่กับแฟน ดวงตาเรียวเล็กเปล่งประกายพยายามสะกดจิตสะกดใจอีกคนให้อยู่หมัด แต่ก็ไร้ผลซึ่งไม่เป็นไรเพราะเธอยังมีเวลาอีกมาก
"อืม ถึงแล้ว” ราชันย์จอดรถหน้าหอพักราคาถูกของเพื่อนสาว เขาไม่พูดอะไรมากมายซึ่งลดาเองก็ชินแล้ว ปกติคิงส์เป็นคนพูดน้อยอยู่แล้วไม่ว่ากับใครคนไหน แต่มีคนเดียวที่ลดาไม่รู้ก็คือคู่หมั้นของเขา ไม่รู้ว่าเขาพูดน้อยเหมือนกันรึเปล่า แต่ถ้าจะให้เดาก็คงไม่ต่างกันหรอก
"ขอบใจคิงส์นะที่มาส่ง คิงส์ดีกับดาเสมอเลย ถ้าไม่มีคิงส์ดาก็ไม่รู้จะหันไปพึ่งใครแล้ว กรุงเทพมันน่ากลัวสำหรับเด็กบ้านนอกอย่างดา เพราะมีคิงส์ดาถึงอุ่นใจ” หญิงสาวคลี่ยิ้มหวานส่งให้ชายหนุ่มที่ครอบครองหัวใจของเธอมาหลายปี รอยยิ้มที่เธอคิดว่าสวยที่สุด ดีที่สุด
“ดึกแล้ว ดาไปพักเถอะเราก็จะกลับแล้วเหมือนกัน” ราชันย์มองรอยยิ้มของหญิงสาวด้วยท่าทางนิ่งเรียบไม่ต่างจากปกติ ทำให้ลดาเดาไม่เคยออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
“วันนี้ไม่ขึ้นไปดื่มอะไรก่อนหรอ" หญิงสาวพูดราวกับว่าชายหนุ่มเคยขึ้นห้องกับเธอมาแล้วหลายครั้ง
"ไม่ล่ะ เราอยากพักน่ะ" ราชันย์ปฏิเสธเหมือนทุกครั้ง เขาไม่ได้ติดใจกับคำพูดของเพื่อนสาวเพราะมีอะไรให้คิดในหัวอยู่ก่อนแล้ว
"อะ อืม งั้นฝันดีนะคิงส์" พอหญิงสาวเดินเข้าไปในหอพักแล้วรถคันหรูจึงขับออกไป ลดาที่จับสังเกตเสียงรถอยู่ตลอดยิ้มเขินกับตัวเอง เขาคงเป็นห่วงเธอเลยรอเธอเข้าไปในหอก่อนสินะถึงยอมออกรถ
หึ ผู้ชายปากแข็ง!
….
อีกด้านหนึ่ง
หลังจากที่ชายหนุ่มเดินออกจากห้องไปหญิงสาวที่เคยยืนมั่นคงก็ทรุดตัวลงกับเตียงกว้างอย่างหมดแรง เธอผิดมากรึไงที่หึงหวงเขาแบบนี้ “ฮึก ฮึก ฮื้อออ~ ทำไม ทำไมเฮียถึงใจร้ายกับเบลล์"
ร้องไห้อยู่อย่างนั้นเกือบสิบนาทีหญิงสาวก็พยุงตัวเองให้ลุกขึ้นเพื่อเก็บข้าวของบางส่วนออกไปจากห้องเพื่อตรงกลับบ้าน อย่างน้อยกลับไปอยู่บ้านสักหน่อยห่างกันบ้างเผื่อจะทำให้เขาคิดถึงเธอได้บ้างก็เป็นได้
มองดูนาฬิกา มาเบลล์รู้แล้วว่าคืนนี้เขาคงไม่กลับมาอีกตามเคย จึงไม่คิดจะรั้งรออะไรอีก คว้ากุญแจรถขับออกไปทั้งน้ำตานองหน้า ใจทั้งรักทั้งเจ็บจนอยากจะเลิกรักให้มันจบๆไป แต่ทำไม่เคยได้เลยสักที
พอสัญญาณเปลี่ยนเป็นไฟเขียวมาเบลล์ก็เหยียบคันเร่งเพื่อพุ่งไปข้างหน้า แต่ไหนเลยจะคิดว่าเหตุการณ์ไม่คาดฝันจะเกิดขึ้น!
กรี๊ดดดดดด!!!
เอี๊ยดดดด โครมมมม!!!
....
คลับxx
กริ่งงงงง!! กริ่งงงงง!!
เสียงเรียกเข้าติดกันหลายๆ สายไม่ได้ทำให้ราชันย์ที่มองหน้าจออยู่ตลอดมีทีท่าว่าจะรับแต่อย่างใด
“มึงไม่รับสายน้องเขาหน่อยหรอ ทะเลาะกันยังไงก็ขึ้นชื่อว่าเป็นเมีย เป็นคู่หมั้นนะ” เจตน์เอ่ยเตือนเพื่อนชายที่เย็นชากับทุกคนไม่เว้นแม้กระทั่งเมียของตนเอง
“รอให้เบลล์ใจเย็นกว่านี้ก่อนค่อยคุยกัน” ราชันย์คิดว่าหญิงสาวคงโทรมาจิกเขาเหมือนเคย หากพูดอะไรไปตอนนี้เธอก็ไม่เชื่ออยู่ดีต้องรอให้ใจเย็นลงก่อนถึงจะคุยกันรู้เรื่อง และมันก็เป็นแบบนี้มาตลอด
“มึงก็รู้ว่าน้องเขาขี้หึงแล้วยังจะทำให้เขาหึงอีก” เจตน์ส่ายหน้า ก่อนจะยกแก้วในมือขึ้นดื่มไปตามประสาของตัวเอง เรื่องผัวๆ เมียๆ ยุ่งมากไปก็ใช่จะได้
กริ่งงงงง!! กริ่งงงง!! สายยังคงโทรเข้ามาอีกครั้งหลังจากที่เงียบหายไปสักพัก ราชันย์ตัดสายพร้อมกับปิดเครื่องเพื่อไม่ให้คู่หมั้นสาวโทรมาอีก
"ตัดสายเลยหรอ" ลูกจันทร์หนึ่งในบรรดาเพื่อนสนิทพ่วงตำแหน่งแฟนสาวของเจตต์พูดขึ้น
“โทรจิกแบบนี้เป็นกูก็ตัดสายเหมือนกัน น่ารำคาญจะตายไป" เซนกลับเห็นด้วยในสิ่งที่ราชันย์ทำเพราะตนเองก็มีแฟนสาวจอมจู้จี้อยู่คนหนึ่งเหมือนกัน ทั้งขี้หึงทั้งอารมณ์ร้อนสลัดยังไงก็ไม่หลุดสักที พวกผู้หญิงนี่ไม่รู้จะอะไรหนักหนา
ลูกจันทร์เผลอขมวดคิ้วมองเพื่อนชายทั้งสองด้วยสายตาไม่พอใจ สำหรับเธอแล้วน้องมาเบลล์เป็นเด็กน่ารักขี้อ้อนคนหนึ่งเพียงแค่เอาแต่ใจเล็กน้อยเท่านั้นตามประสาลูกคุณหนูก็เท่านั้น “มึงไม่ควรปิดเครื่องใส่น้องเขาแบบนั้นนะคิงส์”
“เบลล์ไม่มีเหตุผล นับวันยิ่งทำตัวไม่น่ารักกูแค่อยากดัดนิสัยน้อง น้องเอาแต่ใจเกินไป” สาเหตุที่ได้หมั้นกันก็เป็นเพราะผู้ใหญ่ไว้ใจฝากฝั่งให้เขาดูแลเธอในทุกๆ ด้าน ถ้ายังเอาแต่ใจแบบนี้โตมาอีกหน่อยคงแก้ยากคงต้องดัดกันบ้าง จะได้รู้ว่าบนโลกนี้ไม่ได้มีอะไรได้ดั่งใจทุกเรื่อง
“จันทร์ว่านะคิงส์ ในฐานะผู้หญิงด้วยกันถ้าแฟนจันทร์ออกไปข้างนอกกับผู้หญิงคนอื่น แถมยังเป็นคนที่มีข่าวลือคู่จิ้นอีก จันทร์ก็ไม่โอเคนะ มีข่าวลือในมหาลัยลอยเข้าหูจันทร์อยู่บ่อยๆ ว่าคิงส์กับผู้หญิงคนนั้นเหมาะสมกันอย่างนั้นอย่างนี้ คนหนึ่งก็เย็นชาคนหนึ่งก็อ่อนหวานเหมือนพระเอกนางเอกในนิยายรัก
ขนาดจันทร์ยังได้ยินแล้วคู่หมั้นอย่างน้องเบลล์จะไม่ได้ยินหรอคิงส์ ยิ่งคิงส์ปกปิดสถานะไม่ประกาศออกไปแบบนี้น้องเบลล์คงยิ่งคิดมากนั่นแหละ คิงส์ควรจะเปิดใจคุยกับน้องนะ" ลูกจันทร์ออกตัวให้มาเบลล์เต็มที่เพราะเข้าใจถึงสิ่งที่มาเบลล์เป็นอยู่
“ฉันกับดาเราเป็นแค่เพื่อนกัน ข่าวลือพวกนั้นคนก็พูดกันไปเอง" เขาเคยบอกเบลล์ไปแล้วแต่เธอไม่เชื่อเขาเองก็จนใจจะอธิบายซ้ำๆ สาเหตุที่เขาไม่ประกาศเรื่องหมั้นหมายออกไปก็เป็นเพราะไม่อยากให้น้องเสียชื่อเสียงหากวันหนึ่งต้องถอนหมั้นกัน
“แต่ในฐานะคู่หมั้นน้องเบลล์คงไม่คิดแบบนั้นนะ ทะเลาะกันทีไรคิงส์ไม่กลับห้องตลอดเลยไม่ใช่หรอ ไม่ใช่ว่าน้องเขายิ่งคิดไปไกลหรอกหรอ" ทะเลาะกันทีไรหนีมาขลุกอยู่กับเพื่อนตลอด บางครั้งก็ไปนอนอู่แทนที่จะกลับไปหาคู่หมั้นที่นอนรออยู่ในห้อง
"ฉันคงไม่ได้มานั่งอธิบายให้ฟังได้ทุกเรื่อง เบลล์ควรโตได้แล้ว โดนตามใจทุกเรื่องจนเสียคน ถ้ายังหวาดระแวงกันแบบนี้จะอยู่กันลำบาก กูกลัวว่าถ้าน้องยังเป็นแบบนี้อยู่ความรู้สึกเอ็นดูที่มีต่อน้องมันจะหายไป” คิงส์เริ่มกรึมๆ มาบ้างเพราะยกแก้วไม่พักตั้งแต่มาถึง เขาเริ่มพูดสิ่งที่อยู่ข้างในมากขึ้นเพราะอัดอั้นไม่รู้จะเอาไปพูดปรึกษาเรื่องนี้กับใคร
"ถ้ามึงไม่รักน้องเขามึงจะจับน้องเขาทำเมียทำไมวะ" พูดไปแบบนั้นแท้จริงเจตต์ก็พอจะเข้าใจอยู่บ้าง ก็เนื้อเข้าปากเสือจะให้คายก็คงยาก จับน้องเขาทำเมียตั้งแต่ปีหนึ่งแต่ปากบอกไม่ได้รัก แต่ดูแลอย่างดี พาไปกินไปเที่ยว เปย์เก่ง หาของขวัญให้ตลอด ไม่รู้จะปากแข็งไปถึงเมื่อไหร่
“….” ตอนนั้นมันคือความไม่ตั้งใจ แต่พอได้มีอะไรกันครั้งหนึ่งแล้วมันก็หยุดไม่ได้อีก
"งั้นก็ถอนหมั้นสิ มึงเคยพูดว่าอยากถอนหมั้นไม่ใช่หรอ" ภูผาที่นั่งฟังมาตั้งแต่ต้นเอ่ยขึ้น เขายกยิ้มมุมปากเมื่อคิดว่าทั้งสองจะถอนหมั้นกัน ครั้งหนึ่งตอนเมาราชันย์เคยพูดเอาไว้ว่าอยากถอนหมั้นกับคนที่พ่อแม่จัดให้ เขาอยากกำหนดเรื่องชีวิตคู่ด้วยตัวเอง แต่นั้นมันก็เมื่อนานมาแล้ว
"ถ้าหนักข้อเข้าอาจจะต้องเป็นแบบนั้น" แต่ตอนนี้ถ้าหากว่าน้องยังไม่ปรับปรุงตัวเขาเองก็คงทนอยู่ประสาทกินกับเธอทุกวันไม่ไหวเช่นกัน
"น้องเบลล์น่าสงสาร คิงส์ใจร้าย" ลูกจันทร์หน้างอ ยังไงเธอก็อยู่ทีมน้องเบลล์เต็มที่ แม่ลดาอะไรนั้นชีวิตน่าสงสารก็จริง แต่ดูก็รู้ว่าขี้แอ๊บใส จะเอาความจนมาอ้างแล้วแย่งผัวคนอื่นไปหน้าด้านๆ ไม่ได้หรอกนะ
“….” ราชันย์ไม่ตอบอะไร เขากำลังจมอยู่กับห้วงความจำในอดีตเมื่อหลายปีก่อน
“ผมไม่มีทางหมั้นกับน้องเบลล์ ผมเห็นเบลล์เป็นแค่น้องสาว พ่อกับแม่อย่ามาบังคับผม”
“หมั้นกันไปเดี๋ยวก็รักกันเองนั้นแหละ น้องเป็นเด็กน่ารักแกอย่าต่อต้านให้มากนัก พ่อบอกอะไรก็ทำตามบ้างเถอะ”
“ไม่! ผมจะไม่มีวันรักผู้หญิงที่พ่อกับแม่บังคับแน่นอน”
“ฉันไม่รู้แหละ แกต้องหมั้นไม่อย่างนั้นไม่ต้องมาเรียกแม่ว่าแม่ จะเอายังไง”
“ได้! พ่อกับแม่จะเอาแบบนี้ใช่มั้ย ผมบอกไว้เลยนะว่าผมจะไม่มีวันรักเบลล์เด็ดขาด วันหนึ่งถ้าผมเจอคนที่ผมรักผมจะถอนหมั้นทันที"
"ได้ ถ้าถึงวันนั้นแกไม่เปลี่ยนใจก็เอาเลย"
"ผมไม่เปลี่ยนใจ"
####
คุยกับไรท์ ❤️
ไปจ๊ะ ภาคปฐมบทตอนแรกเอาไปเลยจุกๆ ปูเนื้อหาให้เข้าที่เข้าทางให้คนอ่านทำความเข้าใจของที่ไปที่มาของทุกอย่างก่อนจะเข้าเรื่องนะคะ เจอกันตอนหน้าค่า
อย่าลืมคอมเมนท์เป็นกำลังใจให้ไรท์กันน้า เรื่องใหม่แกะกล่องเลยค่า❤️❤️❤️❤️❤️
.
.
.
....
มาเบลล์นั่งนิ่งๆ ให้หมอตรวจอาการหลังจากที่ฟื้นขึ้นมาจากความตาย หญิงสาวหลับไปนานถึงเจ็ดวัน แต่ในห้วงเวลาหนึ่งเธอกลับใช้เวลายาวนานถึงสามสิบปี ตอนนี้มาเบลล์ยังคงจับต้นชนปลายไม่ค่อยถูกอาจจะต้องใช้เวลาสักพัก
"เบื้องต้นไม่เป็นอะไรแล้วนะครับ หลังจากนี้อาจจะมีอาการแพคนิคร่วมด้วย แต่เดี๋ยวก็จะดีขึ้นเองครับอยู่ที่สภาพจิตใจของคนไข้ ส่วนแผลตามตัวก็เริ่มตกสะเก็ดแล้วนะครับ อีกสองวันก็ไม่มีอะไรแทรกซ้อนก็กลับบ้านได้"
"ขอบคุณค่ะคุณหมอ" มาเบลล์ยกมือไหว้หมออาวุโสเจ้าของไข้ก่อนที่คณะหมอและพยาบาลจะพากันออกไป
“ไม่เป็นไรแล้วนะลูกนอนพักก่อนนะ” คุณหญิงอ่อนนุชลูบหัวลูกสาวแผ่วเบา หญิงสาวเอนตัวพิงไปกับหัวเตียงที่ถูกคุณพ่อปรับระดับให้ก่อนหน้า
มาเบลล์กวาดสายตามองหาชายหนุ่มใจร้ายคนนั้นหนึ่งครั้ง เมื่อไม่พบจึงเอ่ยถาม “พ่อคะแม่คะ เฮียคิงส์เขาไม่มาเยี่ยมเบลล์เลยใช่มั้ยคะ”
“ใครบอกล่ะลูก มาสิพี่เขามาตั้งหลายครั้งนะตอนลูกหลับน่ะ” คุณหญิงอ่อนนุชเอ่ยบอกลูกสาวไปตามความจริง “แม่ไม่ต้องโกหกหนูก็ได้ค่ะ” มาเบลล์ไม่ค่อยอยากจะเชื่อเท่าไหร่ เพราะในสิ่งที่เธอรับรู้มาเขาไม่เคยมาเยี่ยมเธอเลยสักครั้ง
“แม่จะโกหกหนูไปทำไม พี่เขามาจริงๆ พี่เขามาเฝ้าลูกทุกคืนเลยนะรู้มั้ย” คุณหญิงอ่อนนุชยังคงว่าต่อ
"หรอคะ..."
"...แม่คะพ่อคะคือเบลล์อยากคิดอะไรเงียบๆ สักหน่อยจะเป็นไรมั้ยคะ ตอนนี้เบลล์ไม่เป็นไรแล้วคุณพ่อกับคุณแม่ไปทำงานเถอะค่ะเบลล์อยู่ได้ วันนี้พ่อมีประชุมประจำเดือนตอนบ่ายโมงด้วยไม่ใช่หรอคะ" ถึงดูเหมือนจะไม่สนใจอะไรแต่มาเบลล์กลับรับรู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในบริษัท เนื่องจากเธอเป็นทายาทคนเดียวที่อีกหน่อยก็ต้องเข้าบริหารงานต่อ
"หืม ไม่คิดว่าลูกจะจำได้นะ" ท่านอดิศรยิ้มยาวให้กับลูกสาวตัวน้อย "เบลล์จำได้หมดนั้นแหละค่ะ เห็นแบบนี้เบลล์ใส่ใจพ่อมากนะคะ"
"หึหึ งั้นตอนเย็นพ่อจะกลับมาหานะ" ประชุมประจำเดือนครั้งนี้เป็นวาระสำคัญที่เลี่ยงไม่ได้ ท่านอดิศรจึงจำใจต้องผละออกไปจริงๆ
"ค่ะพ่อ คุณแม่ก็ด้วยนิคะ คุณแม่ก็มีประชุมเหมือนกัน ไปเถอะค่ะเบลล์อยู่ได้" คุณแม่ทำธุรกิจเกี่ยวกับจิวเวลรี่ วันนี้เป็นวันสรุปยอดขายไตรมาสแรกสำหรับเครื่องประดับคอลเลคชั่นใหม่ ยังไงคุณแม่ก็ต้องไป
"เดี๋ยวแม่รอป้าละไมมาถึงก่อนนะแม่ค่อยไป" คุณหญิงอ่อนนุชไม่อยากให้ลูกสาวอยู่คนเดียว
"ไม่เป็นไรค่ะ เบลล์อยู่ได้จริงๆ" มาเบลล์ต้องการอยู่คนเดียวเงียบๆ คุณหญิงอ่อนนุชสบตากับลูกสาว พอเห็นความต้องการในแววตาของลูกแล้วจึงยอมตามใจ “เอางั้นก็ได้จ๊ะ มีอะไรก็โทรหาแม่นะเบลล์อย่าคิดมาก"
"ค่ะคุณแม่" มาเบลล์สวมกอดผู้เป็นพ่อกับแม่เต็มรักก่อนจะมองส่งทั้งสองคนออกไปด้วยแววตาเปี่ยมรัก เธอเองก็อยากมีรักดีๆ แบบนี้บ้าง
หลังจากที่ทุกคนออกไปกันหมดแล้วมาเบลล์ที่มีโอกาสได้อยู่คนเดียวก็นึกไปถึงเรื่องราวในความฝันที่เธอพบเจอมา ในความฝันทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก ภาพตัดสลับกันไปมาโดยหลักๆ จะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากนี้ที่เธอพบเจอมา
เธอจะเริ่มอารมณ์ร้ายมากขึ้น อาละวาดหนักขึ้น เริ่มตบตีผู้หญิงคนนั้น ตามหึงหวงราชันย์คู่หมั้นหนุ่มหนักขึ้น จนเขาเอือมระอาและขอถอนหมั้นสินะ สุดท้ายเพราะความเสียใจ ความเคียดแค้นทำให้เธอเผลอก่ออาชญากรรมอย่างการลักพาตัวผู้หญิงคนนั้นไปตบตีทำร้ายร่างกายเพื่อความสะใจล้วนๆ
สุดท้ายเฮียคิงส์ก็มาช่วยผู้หญิงคนนั้นไว้ทัน ส่วนเธอก็โดนเขาจับไปทิ้งไว้บนเขาที่ห่างไกลไร้ผู้คนโดยแลกกับการที่ผู้หญิงคนนั้นจะไม่เอาความทางคดี เธอต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากอยู่บนเขานานนับเดือน
จนกระทั่งกลางดึกของคืนๆ หนึ่งที่เธอในห้วงฝันเสมือนจริงเดินออกไปเข้าห้องน้ำช่วงกลางดึกและโดนงูพิษกัดตายโดยไร้คนเหลียวแลในวาระสุดท้าย ส่วนเรื่องราวหลังจากนั้นเธอไม่รับรู้อะไรอีก ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเหมือนจริงจนเธอสับสนระหว่างความจริงกับความฝัน รู้สึกเหมือนเป็นวิญญาณล่องลอยอยู่ไม่นาน
ก็รู้สึกเหมือนว่าตัวเองโดนดึงไปที่ไหนสักแห่ง เป็นสถานที่ใหม่ เหตุการณ์ใหม่ ตัวตนใหม่ โดยมีความทรงจำเดิมที่ถูกเธอฝั่งไว้ในส่วนลึกของจิตใจ เธอใช้ชีวิตอยู่ที่นั้นยาวนานถึงสามสิบปี แต่พอฟื้นขึ้นมาเธอกลับหลับไปเพียงแค่เจ็ดวัน
สามสิบปีที่เธออยู่ที่นั้นเธอได้ใช้ชีวิตใหม่ เป็นคนใหม่ พยายามลืมเลือนทุกสิ่งอย่างที่เคยเกิดขึ้น เป็นนักธุรกิจหญิงที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ชีวิตกลับไร้สีสัน เต็มไปด้วยความอ้างว้างไร้ซึ่งครอบครัวและเพื่อนฝูงให้คบหา ไร้ซึ่งคนรักข้างกายเพราะหัวใจเหมือนโดนบางอย่างผูกเอาไว้
ก่อนตายเธอจำได้ว่าเธอลองหยิบนิยายที่ไม่เป็นกระแสเท่าไหร่เรื่องหนึ่งขึ้นมาอ่านด้วยความเบื่อหน่าย สยบใจคุณชายน้ำแข็ง เป็นนิยายรักหวานแหววที่กำลังเป็นที่พูดถึงขึ้นมาอ่าน โดยที่ไม่รู้เหมือนกันว่ามันมาอยู่บนโต๊ะทำงานได้ยังไงทั้งๆที่เธอมั่นใจว่าตัวเองไม่มีทางซื้ออะไรแบบนั้น เปิดอ่านตั้งแต่ต้นจนจบก็ยิ่งพบว่าเรื่องราวช่างน่าเหลือเชื่เหลือเชื่อ
ชีวิตของเธอในชาติก่อนเป็นเพียงตัวละครบทหนึ่งในนิยายเท่านั้น ไม่ได้มีชีวิตจริงๆ เป็นเพียงตัวละครที่ถูกสมมุติขึ้นโดยปลายปากกาของใครบางคน แต่คนคนนั้นจะรู้ดีไปกว่าเธอได้ยังไงในเมื่อเธอคือคนที่ได้ใช้ชีวิตจริงๆอยู่ในโลกนั้น
เธอผู้ซึ่งมีบทในนิยายเพียงสามบท ถูกพูดถึงแค่ในฐานะคู่หมั้นของพระเอกแค่ไม่กี่ฉาก แต่เธอกลับใช้ชีวิตอยู่ในนั้นมาตั้งแต่เกิดถึงยี่สิบเอ็ดปี ได้เล่น ได้หัวเราะ ได้หกล้มร้องไห้เหมือนเด็กทั่วไป พอโตมาก็ได้มีความรัก ได้มีเซ็กส์ ได้เที่ยว ได้เมา ได้สนุกจริงๆเหมือนคนปกติทุกอย่าง ทั้งๆที่ในนิยายไม่ได้มีกล่าวเอาไว้
ยิ่งอ่านยิ่งวางไม่ได้ ไม่ใช่ว่ามันสนุกอะไรหรอก แต่เพราะเธออยากรู้เรื่องราวหลังจากที่เธอตายต่างหาก สยบรักคุณชายน้ำแข็งมีนางเอกของเรื่องนี้มีชื่อว่าลดา หญิงสาวหน้าตาไร้พิษภัยดูไม่ทันโลก กริยามารยาทอ่อนหวานเรียบร้อย แต่ฐานะยากจน สู้ชีวิตหนักเบาเอาสู้
มีพระเอกชื่อราชันย์ เป็นชายหนุ่มผู้หล่อเหลา ทายาทผู้นำเข้ารถยนต์และเจ้าของอู่ครบวงจรผู้มีนิสัยเย็นชากับทุกคนยกเว้นนางเอกของเรื่อง ปากแข็งแต่การกระทำอ่อนโยน แน่นอนว่ามันถูกอธิบายในมุมมองของนางเอกที่ชื่อลดา
มีนางร้ายชื่อแพรวพรัตตราหญิงสาวหน้าตาน่ารักดูแสบซนแต่ร้ายลึก ดีกรีเด็กจบนอกลูกสาวหนึ่งในผู้ถือหุ้นที่จะได้เข้าไปทำงานมีตำแหน่งในบริษัทของครอบครัวราชันย์ และมักจะใช้เรื่องงานเพื่อให้ได้ใกล้ชิดกับราชันย์อยู่หลายครั้งจนนางเอกของเรื่องต้องเสียน้ำตา
มีพระรองชื่อหมอชานนท์ ผู้ชายหน้าตาหล่อเหลานิสัยอบอุ่น เสมือนพี่ชายที่แสนดีของนางเอก คอยปลอบใจนางเอกทุกครั้งที่นางเอกเสียใจมาจากพระเอก และยังเป็นตัวละครที่ทำให้พระเอกนางเอกรักกันเร็วขึ้นอีกด้วย
และมีตัวร้ายชื่อวศิน เป็นลูกนักการเมืองท้องถิ่นที่ตกหลุมรักนางเอกของเรื่องจนถอนตัวไม่ขึ้น และพยายามแข่งกับพระเอกทุกเรื่องโดยมีนางเอกเป็นเดิมพัน แน่นอนว่าพระเอกของเรื่องไม่มีทางเอานางเอกของเรื่องอย่างลดาไปเป็นเดิมพันอะไรทั้งนั้น
ในเรื่องนางร้ายหลักของเรื่องถูกพระเอกจัดการด้วยการถอนหุ้นออกจากบริษัทของพ่อนางร้ายทำให้ที่บ้านของนางร้ายเกือบล้มละลาย เป็นเหตุให้นางร้ายต้องโดนระเห็จออกนอกประเทศเพราะพระเอกขู่เอาไว้ว่าหากพบเจอนางร้ายที่ใดเขาจะจัดการหล่อนทันที
สาเหตุเป็นเพราะนางร้ายของเรื่องแพรวพรัตราได้วางยาปลุกเซ็กส์ให้พระเอกกินหวังรวบหัวรวบหางให้พระเอกรับผิดชอบโดยการเรียกคนมาดูให้มากๆ คล้ายโรงละครฉากหนึ่ง
แน่นอนว่าคนที่พระเอกลงเอยบนเตียงด้วยย่อมเป็นนางเอกแน่นอนอยู่แล้วแถมยังตลบหลังนางร้ายได้อย่างเจ็บแสบ เพราะทำให้หญิงสาวมั่วชายถึงสามคนให้คนมากมายได้ดู
ส่วนตัวร้ายชายของเรื่องมีจุดจบนอนคุกเพราะลักพาตัวนางเอกของเรื่องไปหวังจับทำเมีย แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด โดนพระเอกล้อมจับพร้อมกับฟาดหลักฐานการฉ่อโกงของสส.ศิวะพ่อของวศินทำให้วศินขาดคนวิ่งเต้นคดีจนถูกจับขังคุกในที่สุด
ส่วนมาเบลล์เป็นเพียงชื่อของนางร้ายเบอร์รองที่ตายตั้งแต่ต้นเรื่องเท่านั้น เป็นตัวละครที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่ทำให้พระเอกนางเอกได้มีโอกาสใกล้ชิดกันยิ่งกว่าเดิม ส่วนครอบครัวของเธอไม่มีบทอะไรในนิยายเรื่องนั้นอีก ส่วนตัวเธอเองหลังจากตายไปแล้วก็ไร้ซึ่งบทบาทไม่เป็นที่พูดถึงเช่นกัน
จากเท่าที่อ่านมาจนจบเรื่องราวทั้งหมดในนิยายเหมือนจะถูกถ่ายทอดในมุมมองของนางเอกของเรื่องที่แสนบริสุทธิ์เพียงเท่านั้น ลดาใช้ความดีของตัวเองหลอมละลายใจน้ำแข็งของพระเอก ทั้งสองต้องฝ่าฝันอุปสรรคไปด้วยกันทั้งเรื่องความรัก เรื่องฐานะ เรื่องธุรกิจ จนกระทั่งได้ครองรักกันอย่างมีความสุข
มาเบลล์รู้มาแค่นั้นผ่านตัวหนังสือในมุมมองของนางเอก แต่ไม่ได้รู้ตื่นลึกหนาบางว่ามีอะไรมากกว่านี้อีกหรือไม่ เพราะอย่างที่บอกเรื่องราวถูกถ่ายทอดผ่านมุมมองของลดาเพียงด้านเดียว
ซึ่งมาเบลล์ในตอนนี้ที่ผ่านโลกมาแล้วกลับมองว่าผู้หญิงคนนี้ก็แค่ผู้หญิงโง่ๆ คนหนึ่งที่ตามเกมอะไรกับคนอื่นเขาไม่ทัน ผู้หญิงโง่ๆ ที่ใช้มารยาไต่ขึ้นที่สูง ผู้หญิงดักดานไร้ความสามารถ ที่ดันคว้าใจของพระเอกของเรื่องเอาไว้ได้ ที่ผ่านมามีหลายครั้งที่นางเอกของเรื่องกระทำการโง่ๆ ให้พระเอกต้องคอยตามล้างตามเช็ดอยู่บ่อยครั้ง
และยังมีในตอนช่วงใกล้ท้ายเรื่องก็เปิดร้านเบเกอรี่ก็แต่ดันเจ้งจนพระเอกต้องมาคอยอุ้ม แน่นอนว่าในนิยายบรรยายเอาไว้ว่านางเอกแสนซื่อถูกเพื่อนสนิทโกงเพราะไว้ใจมากเกินไป
และเธอมั่นใจมากว่าหากทั้งสองใช้ชีวิตด้วยกันไปหลังจากจบฉากสุดท้ายของนิยาย สักวันนางเอกอย่างลดาจะต้องนำพาความฉิบหายมาให้พระเอกอย่างแน่นอน
ในมุมมองของเธอเท่าที่อ่านมาแบบไม่อวย มีหลายตัวละครที่ถูกนางเอกของเรื่องใช้เป็นบันไดในการเหยียบขึ้นไปเพื่อให้ตัวเองคู่ควรกับพระเอก แน่นอนว่าตัวละครแรกก็คือตัวของมาเบลล์เองที่จะโดนผู้คนเอามาเปรียบเทียบเรื่องนิสัยความร้ายกาจ ถึงแม้จะสวยแค่ไหน กลับได้ฉายาลับๆ ว่าสวยแต่รูปจูบไม่หอม
พอทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้เข้าใจพอประมาณสรุปก็คือเธอตายแล้วไปเกิดใหม่พร้อมกับความจำเดิมทั้งยังมีความทรงจำจากเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นกับตัวเองหลังจากนี้อย่างปาฏิหาริย์ ไปใช้ชีวิตในตัวตนใหม่อยู่อีกโลกหนึ่งเกือบสามสิบปี ก็ตายอีกครั้งและกลับมาที่เดิมจุดๆเดิมก่อนที่ทุกอย่างจะเลวร้ายไปมากกว่าเก่า
มาเบลล์หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเสิร์ตหาข้อมูลโครงการธุรกิจต่างๆ พบว่าโครงการที่เธอจัดทำในโลกก่อน พบว่ามันไม่มีอยู่เลยสักอย่าง แต่พื้นที่ที่ต้องการตรงนั้นกลับมีอยู่จริงทุกอย่างเพียงแต่ต่างชื่อต่างเวลาเท่านั้น
ตอนนี้พื้นที่ตรงนั้นยังคงเป็นเพียงห้องเช่า อพาร์ตเมนต์ ตลาดสดเพียงเท่านั้น ต่างจากโลกก่อนที่เป็นเพียงพื้นที่โล่งๆ ของนายทุนที่ดินคนหนึ่งที่เคยซื้อไว้เท่านั้น
ปีนี้ปี 64 แต่ปีที่เธอตายในโลกก่อนคือปี 75 หากเรื่องราวของมาเบลล์เป็นเพียงแค่หนังสือนิยายเธอก็คือนางร้ายเบอร์รองที่จะไม่มีวันได้คู่กับพระเอก เป็นนางร้ายที่ต้องแพ้ภัยตัวเองและจะตายไปในที่สุด ซึ่งนับเวลาหลังจากนี้อีก 2 ปี เธอจะโดนงูกัดตายตอนปี 66
ซึ่งนิยายไม่ได้มีบอกเอาไว้ว่าเธอตายด้วยสาเหตุอะไร มาเบลล์คาดว่านางเอกของเรื่องคงไม่รู้สาเหตุการตายของเธอ ในนิยายจึงไม่ได้บรรยายเอาไว้ หลังจากนั้นเรื่องราวของนิยายช่วงที่ทั้งสองพัฒนาความสัมพันธ์กันจะดำเนินไปในปี67 และ ปี68
เธอในตอนนั้นยามที่ไปใช้ชีวิตใหม่ในอีกโลกหนึ่ง มีชื่อใหม่ หน้าตาใหม่ เป็นนักธุรกิจที่เก่งกาจแต่กลับมีหัวใจแต่ไร้รัก ส่วนเธอในตอนนี้เป็นเพียงนักศึกษาธรรมดา เป็นลูกคุณเอาแต่ใจ เป็นหญิงสาวผู้มีหัวใจไว้รักแค่ผู้ชายที่ชื่อราชันย์คนเดียวมานานหลายปี
และหากทุกอย่างดำเนินไปตามแบบที่นิยายบรรยายเอาไว้ เธอก็คงมีจุดจบไม่ต่างจากในห้วงเสมือนจริงที่ได้เผชิญมา ถามว่าในตอนนี้เธอรักราชันย์อยู่มั้ย เธอไม่มั่นใจ แต่จะให้วิ่งตามขอความรักจากเขาเหมือนที่ผ่านมาคงไม่ทำอีก มาเบลล์ทบทวนตัวเองพบว่าแท้จริงแล้วที่ผ่านมาเธอค่อนข้างจมปลักเกินไป เธอสวยขนาดนี้ รวยขนาดนี้ ทำไมต้องลดคุณค่าตัวเองด้วยการไปนั่งหึงหวงผู้ชาย ต้องคอยอาละวาดตามการยั่วยุของผู้หญิงอีกคนด้วย
ในเมื่อผู้ชายคนเก่าอยู่ด้วยแล้วมันแย่มาก อยู่ด้วยแล้วประสาทจะกินต้องคอยระแวงเรื่องผู้หญิง เธอก็แค่ถอยออกมาก็แค่นั้นรึเปล่า อย่างเธอในตอนนี้เธอมั่นใจมากว่ามีคนให้เลือกอีกเป็นร้อยเป็นพัน
และตอนนี้ดูเหมือนตอนนี้เรื่องราวในนิยายจะยังอยู่แค่ช่วงเริ่มต้น เป็นช่วงที่นิยายบรรยายไว้ว่าพระเอกกับนางเอกรู้จักกันยังไง เป็นเพื่อนสนิทกันแค่ไหน บริสุทธิ์ใจในความสัมพันธ์มากเท่าไหร่ นางเอกโดนคู่หมั้นของพระเอกตามอาละวาดหึงหวงอย่างไร้เหตุผลยังไง
หากใครได้มาอยู่จุดที่เธออยู่ตอนนี้ก็คงจะอยากตะโกนไปว่าตอแหล!! นิยายในมุมมองของนางเอกทุกคนคือตัวร้ายส่วนตัวเองคือคนดี ที่บรรยายแบบนั้นเพื่อที่นางเอกของเรื่องอย่างลดาจะได้ไม่โดนคนอ่านด่าสาปแช่งว่าไปยุ่งของคนอื่นมากกว่า
เดี๋ยวหลังจากนี้ไม่นานตามที่นิยายบรรยายไว้ เดี๋ยวทั้งสองก็คงควงกันมาเยี่ยมเธออย่างแน่นอน ซึ่งในนิยายบรรยายเอาไว้ถึงความดีความใจกว้างของนางเอกที่ไม่เคยถือโทษโกรธนางร้ายอย่างเธอที่มักจะด่าทอต่อว่านางเอกของเรื่องทุกครั้งที่เห็นหน้า เนื้อหาหลังจากนี้นางร้ายอย่างมาเบลล์จะต้องอาละวาดปาข้าวของโมโหร้ายที่เห็นคู่หมั้นมาด้วยกันกับผู้หญิงคนอื่น
.
.
.
ก็อกๆๆ
คุยกับไรท์ ❤️
นิยายที่น้องมาเบลล์ของเราสมบทเป็นนางร้ายเบอร์รองเป็นนิยายที่ถูกถ่ายทอดผ่านมุมมองนางเอกอย่างลดานะคะ ไม่ว่าจะเป็นความรักจากพระเอก ความรักจากตัวร้าย ความร้ายกาจของนางร้ายเบอร์หลักเบอร์รองเป็นสิ่งที่นางเอกอย่างลดาเห็นและรับรู้ค่ะ ส่วนเหตุการณ์ตื้นลึกหนาบางของเรื่องนี้จะเป็นยังไงกันแน่ มาติดตามไปพร้อมๆกับน้องมาเบลล์ดีกว่าค่ะ5555
อย่าลืมคอมเมนท์กันไว้น้า จบภาคประฐมบทของนิยายแล้วค่ะหลังจากนี้จะมีแต่ความเด็ด ความแซ่บให้ตามลุ้นกันจนนั่งไม่ติดเก้าอี้แน่นอนค่ะ อิอิ
ก็อกๆๆ
มาเบลล์ที่นั่งเหม่อลอยพิงหัวเตียงหันไปมองตามเสียงประตู ไม่ต้องเสียเวลาเดานานเจ้าของเสียงเคาะก็เปิดเข้ามา คนมาใหม่สองคนไม่ได้เกินความคาดหมายของเธอเสียเท่าไหร่
"ขอบคุณนะคิงส์" ภาพที่ผู้หญิงอีกคนเงยหน้าสบตาหวานเชื่อมเอ่ยขอบคุณคู่หมั้นของตัวเองที่เปิดประตูให้ผู้หญิงอีกคน ช่างบาดตาบาดใจคนมองเหลือเกิน ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเธอในตอนนั้นถึงอาละวาดทันทีที่ทั้งสองมาถึง
“ฟื้นแล้วหรอ เป็นยังไงบ้าง” เสียงทุ้มติดเย็นชาของคู่หมั้นหนุ่มยังคงติดตราตึงใจอยู่ข้างในไม่มีเปลี่ยน
ประโยคที่เขาบอกไม่รัก ประโยคที่เขาบอกรำคาญ ทั้งยังประโยคถอนหมั้นทุกอย่างยังชัดเจน ภาพที่เขาทิ้งเธอไปในวันสำคัญๆ ต่างๆ ภาพหลังจากนี้ที่เขาเอาเธอไปปล่อยป่า ภาพที่จะโดนผลัก จะโดนต่อว่า ภาพที่เขาจะกางแขนปกป้องใครอีกคน เธอไม่มีทางลืมมันได้
มาเบลล์เผลอจ้องหน้าเขาด้วยสายตาแบบไหนไม่รู้ได้จนชายหนุ่มต้องสะกิด หญิงสาวจึงรู้ตัวและสะดุ้งออกจากภวังค์ รู้ตัวอีกทีคู่หมั้นหนุ่มอย่างราชันย์ก็นั่งลงบนเตียงคนไข้กับเธอแล้ว
“เหม่ออะไร เฮียถามว่าเป็นยังไงบ้าง"
“…ก็ดีค่ะ ยังไม่ตาย" ถามใจว่าเจ็บมั้ยก็เจ็บมาก ถึงแม้นี่จะเป็นเพียงโลกนิยาย แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเกิดขึ้นจริง เจ็บจริง ตายจริง เสียใจจริงๆ รักก็รักจริงๆ มันคือชีวิตจริงของเธอเอง
"เฮียไม่ให้เบลล์ตายหรอก" มือหนาเกี่ยวกับปอยผมเล็กให้คู่หมั้นสาว
“หรอคะ" ถ้าเป็นเธอในยามที่ยังไม่ได้รับรู้อะไรก็คงทราบซึ้งจนน้ำตาไหลเลยล่ะ แต่เพราะเธอยังไม่เคยตายมาแล้วไง
"อืม เรื่องคดีเฮียจัดการให้เราแล้วนะ เบื้องต้นทางนั้นเขาครอบครัวเขาจะรับผิดชอบจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ทุกอย่าง” มาเบลล์เพียงพยักหน้าเท่านั้น
“กลัวมากใช่มั้ย ไม่เป็นไรแล้วนะ” มือใหญ่บีบมือเล็กเอาไว้พร้อมกับลูบคลึงไปมาคล้ายอยากปลอบประโลมให้หายขวัญเสีย มาเบลล์ก้มมองมือหนาที่กุมมือของเธอเอาไว้แล้วคลึงไปมา หากเป็นก่อนหน้านี้เธอคงจะโผล่เข้าซบอกของเขาแบบไม่ต้องคิดเลย
แต่ตอนนี้…เธอกลับไม่มีความรู้สึกอยากทำแบบนั้นเลยสักนิด
“วันหลังน้องเบลล์ต้องขับรถให้ระมัดระวังมากกว่านี้นะคะ จะได้ไม่มีใครเจ็บตัวหรือเป็นอะไรไปอีก" มาเบลล์หันไปมองผู้หญิงที่ไม่รู้จะมาทำไมด้วยสายตาเรียบเฉย ตามเนื้อหาในนิยายผู้หญิงจะต้องโดนเธออาละวาดใส่ตั้งแต่เดินเปิดประตูเข้ามา
ซึ่งเรื่องนี้ที่มาเบลล์ไม่อาละวาดลดาเองก็แอบหงุดหงิดใจอยู่เช่นกันที่ทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่คิด เธอไม่ได้วางแผนอะไร เธอก็แค่อยากให้คิงส์ตาสว่างไร้พันธะจากผู้หญิงร้ายกาจคนนี้แล้วเปิดใจให้คนอื่นได้เรียนรู้หาความสุขให้ตัวเองบ้าง เธอแค่สงสารที่เขาต้องทนอึดอัดกล้ำกลืนกับคู่หมั้นคุณหนูเอาแต่ใจที่ตัวเองไม่ได้รัก
“ทำไมเขาถึงฝ่าไฟแดงมาหรอคะเฮีย" มาเบลล์ไม่สนใจเสียงนกเสียงกาที่พยายามทำตัวมีตัวตน ไม่สนด้วยว่าผู้หญิงคนนี้จะเหม่อลอยคิดอะไรอยู่ หลังจากนี้หากเธอไม่ตาย
หากว่าตอนนี้เธอยังอยู่ตรงนี้ เป็นคนใหม่ เป็นมาเบลล์ที่ใครก็คาดไม่ถึง ผู้หญิงคนนี้จะมีอะไรเทียบเธอได้บ้าง แน่นอนว่าเธอไม่คิดแข่งผู้หญิงคนนี้ไม่มีอะไรให้เธอต้องแข่ง เธอก็แค่อยากเป็นเธอในเวอร์ชั่นที่ดีกว่าเดิม
"หลับในน่ะ เบลล์อยากเอาความมั้ย เราสามารถทำได้นะ" ราชันย์เอ่ยถามคู่หมั้นสาวให้เธอได้ตัดสินใจ
“เบลล์…” หญิงสาวไม่ทันจะตอบอะไรก็โดนอีกคนแทรกขึ้นมาก่อน
"พี่ว่าน้องเบลล์ไม่ควรเอาความคู่กรณีนะคะ ตอนนี้เขายังนอนไม่ได้สติอยู่เลย บ้านเขาก็ไม่ได้มีเงินมากมายอะไรด้วย น้องเบลล์เองก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่ค่ารักษาพยาบาลของที่นี้ก็แพงมากอยู่แล้ว อย่าทำให้คนอื่นลำบากไปมากกว่านี้เลยนะคะ ถือว่าพี่ขอ" ลดาลุกจากโซฟาเยี่ยมไข้เดินมาหยุดอยู่ข้างๆ เพื่อนชายคนสนิท
เธอดึงมือของคนบนเตียงมากุมเอาไว้เองแทนมือของชายหนุ่มที่เธอแอบรัก ลดายอมจับมือของคุณหนูร้ายกาจคนนี้ยังดีกว่าปล่อยให้ทั้งสองได้จับมือกัน
มาเบลล์ดึงมือออกจากการเกาะกุมของลดา ทั้งยังเช็ดมือข้างนั้นไปกับเสื้อของราชันย์อย่างไม่เกรงใจ สายตามีแต่ความรังเกียจฉายชัดจนใครก็มองออก
แต่ยังไม่ทันที่ใครจะได้อ้าปากเอ่ยอะไรออกมา มาเบลล์ก็สวมบทโดนรังแกพุ่งตัวเข้าไปซบหน้าลงบนอกแกร่งของราชันย์พร้อมทั้งบีบน้ำตาสะอึกสะอื้นอยู่ในทีจนราชันย์ที่ตั้งตัวไม่ทันมึนงงกับอารมณ์ที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วของมาเบลล์ แต่ถึงอย่างนั้นเขารีบปลอบคนตัวเล็กไปโดยสัญชาตญาณในตัวเองตลอดหลายปีที่ผ่านมา หลงลืมไปว่าก่อนหน้านี้น้องทำตัวไม่น่ารักยังไง
"กึก!" ลดาไม่คิดว่าอีกคนจะมาไม้นี้ แววตาที่เคยกระจ่างใสเต็มไปด้วยอารมณ์บางอย่างที่มาเบลล์มองปราดเดียวก็อ่านออก
คนตัวเล็กที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ในอกแกร่งเหลือบตามองผู้หญิงอีกคนที่ยืนตัวสั่นเทิ่มทั้งยังแอบยิ้มเยาะส่งไปให้อีกฝ่ายได้เห็นรอยยิ้มของเธออย่างไม่คิดปกปิดอีกด้วย ยังไงเธอมันก็นางร้ายอยู่แล้วไม่มีความจำเป็นอะไรต้องญาติดีกับแม่นางเอกสมองตีบนี่หรอก!
“….” ลดาโมโหจนตาแดงก่ำแต่ทำอะไรไม่ได้ ทั้งที่ใจอยากจะเข้าไปกระฉากผู้หญิงร้ายกาจคนนี้ให้ออกห่างจากราชันย์ให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็ยังทำแบบนั้นไม่ได้ แต่จะให้ทนมองเฉยๆ เธอก็ทำไม่ไหวจริงๆ หญิงสาวฝืนยิ้มแกนๆคุยกับราชันย์ "ดาว่าคิงส์อย่าพึ่งให้น้องเบลล์กอดเลยนะ อาจจะกระทบกระเทือนแผลที่มองไม่เห็นก็ได้นะ”
ราชันย์นิ่งไปเมื่อได้ฟังแบบนั้น เขาลืมไปว่ามาเบลล์อาจจะยังไม่หายดี แผลรอยช้ำตรงหน้าอกของหญิงสาวยังไม่หายดี
"อึก! เฮียไม่ให้เบลล์กอดหรอคะ แต่เบลล์อยากกอดนิ" มาเบลล์ช้อนตามองคนตัวโตออดอ้อนอยู่ในทีจนเขาใจอ่อนยวบไปหมด รู้สึกเหมือนย้อนกลับไปมองมาเบลล์ในร่างเด็กสิบขวบในวันวาน
"ใครว่าล่ะ เบลล์จะกอดเฮียตอนไหนก็ได้ทั้งนั้นแหละ" แขนแกร่งโอบกอดร่างเล็กเอาไว้ด้วยความระมัดระวังอย่างถึงที่สุด เพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนรอยช้ำ "แบบนี้เจ็บมั้ย"
"ฮึก! ไม่ค่ะ" เสียงในลำคอสะอึกสะอื้นแต่สายตากลับส่งไปเยาะเย้ยยั่วอารมณ์ผู้หญิงอีกคนจนลดาเจ็บใจจนแทบจะร้องไห้อยู่แล้ว
แต่มาเบลล์หาได้มีความสงสารผู้หญิงคนนี้เลยสักนิด ชอบแย่งมากก็เอาไปเถอะเธอจะอุทิศให้อยู่หรอกแต่ขอปั่นหัวเอาคืนสักหน่อยจะเป็นไรไป
กรี๊ดสิคะ กรี๊ดเลย กรี๊ดออกมา หึ!
“ชู่วๆ ไม่ร้องนะเด็กดี เฮียอยู่นี่นะ” ราชันย์ที่ตอนนี้ยังไม่ได้รับรู้ความแสบของหญิงสาวเลยแม้แต่น้อยก็ยังปลอบเธอไม่หยุด เขาปลอบมาเบลล์เหมือนโอ๋เด็กคนหนึ่งทั้งตบหลังทั้งโยกตัวไปมา
ลดามองภาพแสนอ่อนโยนของเพื่อนชายคนสนิทด้วยความรู้สึกร้อนรุ่มไปทั้งใจ มือเล็กกำแน่นจนเล็บสวยที่เจียดเงินออกไปทำทุกเดือนจิกเข้าหาฝ่ามือจนเลือดแทบซิบแต่ลดาก็ยังไม่ได้รู้สึกเจ็บไปมากกว่าหัวใจในตอนนี้
"..กึด!” หัวใจของคนแอบรักมันทรมานไปหมดยามที่เห็นเขาโอบกอดคนอื่นต่อหน้าต่อตา อ้อมกอดนั้นมันควรเป็นของเธอ! ไม่ใช่ผู้หญิงร้ายกาจไม่เห็นหัวใครคนนี้!
“ไหนเป็นอะไรบอกเฮียสิ เบลล์เจ็บตรงไหน” ความอ่อนโยนที่เกิดขึ้นทำให้มาเบลล์แปลกใจเหมือนกัน ปกติทุ้มเสียงแบบนี้จะมีแค่เฉพาะตอนอยู่บนเตียงด้วยกันเท่านั้น แต่นี่ไม่ใช่เวลาสงสัยหรอกเป็นเวลาปั่นหัวนางเอกต่างหาก
“ฮึก~ เบลล์ผิดหรอคะเฮีย เบลล์ขับของเบลล์มาดีๆ เขาฝ่าไฟแดงมา อึก! ตอนนั้นเบลล์กลัวมากเลยค่ะ เบลล์เกือบไม่รอดกลับมาแล้ว อึก! เบลล์... เฮีย~" มาเบลล์หยุดหายใจไปชั่วขณะในตอนที่ถูกนำส่งโรงพยาบาล แต่แพทย์เอากลับมาได้
"ไม่หรอก เบลล์ไม่ผิดเลย เบลล์เป็นผู้เสียหายมีสิทธิ์เรียกร้องทุกอย่าง ไม่เป็นไรนะไม่ต้องกลัวไป" มือใหญ่ลูบปลอบประโลมคนตัวเล็กเบาๆ
ก่อนจะขยับอุ้มคู่หมั้นสาวขึ้นมานั่งบนตัก ทั้งยังจูบซับขมับขาวไปหลายครั้งอีกด้วย ตอนนี้ชายหนุ่มดูเหมือนจะลืมไปแล้วว่าในห้องนี้ไม่ได้มีแค่เขากับคู่หมั้นสาวเพียงเท่านั้น
การกระทำของเขาในตอนนี้แม้แต่ตัวเขาเองยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำไปว่ากำลังทำอะไรอยู่กันแน่ มาเบลล์ก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันว่าราชันย์จะทำถึงขนาดนี้ เขาไม่กลัวจะทะเลาะกับลดาเลยรึไง
"แต่พี่ลดาเพื่อนสนิทของพี่เขาบอกว่าเบลล์สร้างปัญหา เบลล์สร้างปัญหาหรอคะเบลล์ไม่ได้อยากเจ็บตัวสักหน่อย” มาเบลล์ส่งสายตาท้าทายให้ผู้หญิงอีกคนที่ยืนตัวสั่นหน้าตาบิดเบี้ยวน่าเกลียด
เหอะ! แม่นางเอกแสนดีเก็บอาการให้เก่งกว่านี้หน่อยสิ!
“พี่ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นนะคะ น้องเบลล์อย่าพูดแบบนั้นสิ! ถ้าน้องเบลล์ไม่ขับรถออกไปน้องเบลล์ก็คงไปเจ็บตัวแบบนี้จริงมั้ยคะ น้องเบลล์ลองคิดกลับกันสิคะถ้าเกิดว่าคู่กรณีไม่ได้ชนกับน้องเบลล์แต่ลงข้างทางแทนเขาก็คงไม่ต้องมานั่งเสียค่ารักษาพยาลแสนแพงให้ลูกคุณหนูอย่างน้องเบลล์จริงมั้ยคะ น้องเบลล์ถึงไม่สมควรเอาเรื่องเขาอีกไงคะเพราะน้องเบลล์ก็มีส่วนผิดที่ขับรถออกไป” คำพูดแปลกๆ คำอธิบายแปลกๆ ที่ลดาเอ่ยออกมาทำให้มาเบลล์แทบจะร้องไห้ต่อไม่ออกแล้ว
"???" ในใจได้แต่สบทออกมาว่า 'นี่มันความคิดอะไรกันว่ะเนี่ย!'
ราชันย์มองเพื่อนสาวด้วยสายตาเย็นชาไร้ก้นบึ้งอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนจนลดาสะท้านไปทั้งตัว เธอรีบพูดอีกให้บรรยากาศดีขึ้นกว่านี้ “คู่กรณีของน้องเบลล์เขาไม่ได้ร่ำรวยนะคะ ตอนนี้เขายังนอนอยู่ที่โรงพยาบาลรัฐอยู่เลย น้องเบลล์ช่วยเห็นใจคนไม่มีด้วยเถอะค่ะ”
“พอเถอะดา เลิกพูดสักทีมันไม่ใช่ธุระอะไรของเธอ” ราชันย์ตำหนิเพื่อนสาว เสียงของเขาราบเรียบจนลดาหน้าเสีย มาเบลล์เองยังคาดไม่ถึงว่าราชันย์จะตำหนิคนรักของตัวเองต่อหน้าเธอแบบนี้
เพราะแบบนั้นเธอต้องปั่นอีกหน่อย แตกคอกันไปเลยก็ดี! ที่ผ่านมาการกระทำของสองคนนี้ทำให้เธอเจ็บปวดมาหลายครั้งจนแทบไม่อยากให้อภัย ผัวที่ผู้หญิงคนอื่นโทรตามได้ทุกเวลา เธอไม่ต้องการ!
หึ! “เฮียคิงส์~ กลายเป็นว่าเบลล์ใจร้ายจริงๆ อย่างที่พี่ลดาว่าหรอคะ” มาเบลล์เงยหน้าถามคู่หมั้นหนุ่ม เธอใช้ปลายจมูกถูไถไปกับคางหนาเพื่อเป็นการยั่วอารมณ์หญิงสาวอีกคนเข้าไปอีก
“ไม่เลยเบลล์ ของแบบนี้เป็นคดีอาญายังไงตำรวจก็ต้องจัดการอยู่แล้ว" ราชันย์ไม่มีความคิดแปลกๆ แบบนั้นเลยแม้แต่น้อย เขาเกลี่ยน้ำตาให้คนตัวเล็ก ยิ่งเห็นเธอร้องไห้หัวใจของเขายิ่งรู้สึกคันยุบยิบไปหมด นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้เห็นคู่หมั้นสาวเสียน้ำตาแบบนี้
"แต่มันยอมความกันได้นิคะ น้องเบลล์ไม่ได้บาดเจ็บหนักอะไรสักหน่อย" ลดาพยายามพูดให้ราชันย์เห็นด้วยกับที่ตัวเองบอก พยายามให้ราชันย์มองว่านี่เป็นความผิดของคู่หมั้นตัวเอง
แน่นอนว่าเธอพยายามทำทุกอย่างเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของตัวเองโดยไม่สนสิ่งใด เพราะเธอคิดว่าสิ่งที่เธอคิดที่เธอทำนั้นถูกต้องที่สุด และเป็นสิ่งที่คนดีคนมีน้ำใจเขาทำกัน และทุกคนต้องเห็นด้วยกับเธอถึงจะสมควร
มาเบลล์ที่เกิดมารวยควรเห็นใจคนจนและเสียควรเสียสละอะไรบ้าง!
“ตรรกะของพี่ลดาแปลกดีนะคะ พึ่งเคยได้ยิน แล้วก็นะเบลล์ไม่รู้ว่าทำไมพี่ลดาต้องวุ่นวายขนาดนี้ด้วยก็ไม่รู้ เป็นคนนอกไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้แท้ๆ แค่เสนอหน้ามาเยี่ยมก็เกินพอแล้วแหละค่ะ” มาเบลล์ใช้คำพูดแทนที่จะโวยวายอย่างที่ควรจะเป็น แน่นอนว่าคำพูดที่ออกมาจากปากของมาเบลล์ที่มีต่อลดาไม่ได้น่ารักอย่างที่ใครบางคนอยากให้เป็น จะให้เธอปั้นหน้าพูดจาดีใส่ผู้หญิงที่จ้องจะแย่งคนนี้เธอไม่ทำหรอก!
"…." ลดาส่งสายตาตัดพ้อไปให้ราชันย์ช่วยออกหน้าปกป้องอย่างทุกที
หึ! มาเบลล์เค้นเสียงผ่านลำคออย่างดูแคลน สายตาของลดาอ่านง่ายเสียจริง ไม่รู้เมื่อก่อนทำไมเธอถึงโง่ตามยัยนี้ไม่ทันกันนะ บางทีอาจจะเป็นสกิลนางเอกก็เป็นได้
และคล้ายกับว่าก่อนหน้านี้ไม่เคยมีหญิงสาวที่เคยกอดร้องไห้ออดอ้อนเขา "พรึ่บ!"
มาเบลล์หมดความอดทนจะเล่นละครต่อไปแล้ว เธอผละตัวออกจากอ้อมกอดของผู้ชายใจร้ายแล้วปาดน้ำตาออกลวกๆ ใบหน้าก็เรียบเฉยเหมือนคนเบื่อหน่ายเต็มทน “เอาละค่ะ เอาเป็นว่าเรื่องคดีเบลล์จะปรึกษากับคุณพ่อคุณแม่อีกที ขอบคุณเฮียนะคะที่เป็นธุระให้ ตอนนี้เบลล์อยากพักผ่อนแล้วค่ะ เฮียช่วยพาคนของเฮียกลับไปทีเถอะก่อนที่เบลล์จะหายใจไม่ออกไปมากกว่านี้”
“คืนนี้เฮียจะมาเฝ้านะ” ถึงจะงงที่อยู่ๆก็โดนคู่หมั้นตัวเล็กผลักไส แต่เพราะราชันย์ไม่อยากให้คนน้องอาละวาดจึงยอมทำตามที่เธอบอกแต่โดยดีด้วยการกลับไปก่อน
“ไม่ต้องหรอกค่ะ เบลล์อยู่คนเดียวสะดวกกว่า ที่ผ่านมาก็อยู่ได้ไม่เห็นต้องให้เฮียมาเฝ้า” น้ำเสียงนิ่งๆ ของมาเบลล์ไม่ได้ทำให้ราชันย์เอะใจ ชายหนุ่มคิดว่าเธอคงยังจะโกรธเรื่องราวก่อนหน้านั้นอยู่
เขาโน้มตัวลงกระซิบข้างหูเล็กให้ได้ยินกันแค่สองคน ชายหนุ่มไม่ได้ใส่ใจสายตาของใครอีกคนที่มองอยู่ตลอด “เผื่อเบลล์จะไม่รู้นะว่าเฮียมาเฝ้าเบลล์ทุกคืน ทั้งยังเป็นคนเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เบลล์อีกด้วย”
มาเบลล์หันขวับมองสบตากับเขาด้วยความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน ก่อนจะเอ่ยปากไล่ทั้งสองอีกครั้ง “กลับไปได้แล้วค่ะ แล้วก็ไม่ต้องพาชู้ ไม่สิ! มันไม่สุภาพเนาะมันไม่น่ารักเฮียคงไม่ชอบ ไม่ต้องพาคนของเฮียมาอีกนะคะ เฮียก็รู้ว่าเบลล์ไม่ได้ใจเย็นขนาดนั้น”
“เห้อ~ โอเคเฮียจะกลับก่อนก็ได้” ราชันย์ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจที่โดนยัดเยียดข้อหานอกใจให้อีกแล้ว เขาหันไปพยักหน้าให้เพื่อนสาวอีกคนที่บังเอิญเจอกันหน้าโรงพยาบาลให้กลับได้แล้ว
มาเบลล์มองตามหลังของคนทั้งคู่ออกไปด้วยสายตาบางอย่าง "เห้อ แล้วไอ้นิยายเรื่องนี้มันยังไงกันแน่นะ"
หากเป็นก่อนหน้าที่เธอจะรู้เรื่องราวทุกอย่างเธอก็คงเชื่อสนิทใจว่าทั้งสองมีอะไรกันแล้วลับหลังเธอ แต่พอได้รับรู้เนื้อหาในนิยายความคิดทุกอย่างก็ต้องเรียบเรียงใหม่
มาเบลล์ไม่มั่นใจว่าสองคนนี้มีความรู้สึกให้กันยังไงในตอนนี้ ไปถึงไหนกันแล้ว และเนื้อหาในนิยายเชื่อได้มากแค่ไหนในเมื่อเป็นแค่ตัวหนังสือที่ถูกถ่ายถอดผ่านมุมมองเดียวให้นางเอกอย่างลดาดูดีเท่านั้น
ไม่มีใครรู้ถึงสิ่งที่นางเอกนึกคิดทั้งหมด รู้เพียงแค่เท่าที่ลดานางเอกของเรื่องอยากให้รู้ผ่านตัวหนังสือเท่านั้น
"จิ๊! ยุ่งยากเสียจริงคงต้องรีบหาโอกาสคุยกับพ่อแม่เรื่องถอนหมั้นให้เร็วขึ้นสินะ" มาเบลล์รู้ว่าเรื่องนี้ไม่ง่าย ถึงพ่อกับแม่จะตามใจเธอมากแค่ไหนก็ตามแต่มันไม่ใช่กับเรื่องนี้แน่นอน เพราะทั้งสองรักราชันย์ไม่ต่างจากลูกหลานเลย
ซึ่งก็ไม่ต่างกับพ่อกับแม่ราชันย์ที่รักเธอไม่ต่างจากลูกหลานเช่นกัน ความสัมพันธ์ของสองครอบครัวแน่นแฟ้นเกินกว่าจะทำอะไรตามใจตัวเองได้ง่ายๆ เธออาจจะต้องหาเหตุผลให้ดีๆ และหลักฐานรวมไปถึงเหตุการณ์ที่มีน้ำหนักมากพอ เพื่อที่จะได้ไปคุยกับที่บ้านได้ง่ายขึ้นและทั้งสองครอบครัวได้ยอมรับการตัดสินใจของเธอ
เรื่องนี้คงต้องคุยกับเฮียราชันย์คู่หมั้นคนใจร้ายของเธอด้วยให้ช่วยกันพูด เพราะยังไงเขาก็ไม่ได้อยากหมั้น ไม่ได้รักใคร่อะไรในเธออยู่แล้ว
พอคิดว่าเขาไม่รักอยู่ๆน้ำตามันก็ไหลออกมาเสียดื้อๆ มาเบลล์รีบปาดออกอย่างไม่ใยดี เธอแค่อยากจะถามเขาสักคำก่อนที่จะถอนหมั้นกัน
"...ถ้าเฮียไม่รักแล้วเอาเบลล์ทำเมียทำไม"
คุยกับไรท์ ❤️
เออใช่! ถ้าไม่รักแล้วจะเอาน้องทำเมียทำไม เอาไม่พักด้วยนะเออ เอาอย่างบ่อย กินอย่างดุ หึ! ค่อยๆมาติดตามกันไปนะคะว่าน้องเบลล์จะทำยังไงต่อจากนี้ ให้น้องลองทำแบบที่อั๊ยเฮียคิงส์มันทำดีมั้ยคะ 5555 เผื่อมันจะรู้สึก!
เห็นน้องร้องไห้อย่าหาว่าน้องอ่อนแอเลยนะคะ น้องก็รักของน้องมานาน มีอ่อนไหวบ้าง มันฝั่งใจรักมาหลายปี ต้องใช้เวลาสักหน่อย แต่จะไม่เป็นคนเดิมแล้วค่ะ น้องจะฟาดยับสับๆฉบับนางร้าย555
ย้ำนะคะ น้องเป็นนางร้ายค่ะอย่าคาดหวังความนางเอกโลกสีชมพูจากน้องค่ะ มีแต่ความแซ่บพริกทั้งสวนจะเอามั้ย 5555
ตอนนี้ก็ยาวมากอีกเหมือนกัน ค่อยๆเกริ่นก่อนนะคะ ต้นเรื่องอยู่ใจเย็นๆ เดี๋ยวได้นัวๆแน่นอน
เรื่องนี้จะมีอีบุ๊คแน่นอนค่ะ ขอเวลาเรียบเรียงเนื้อหานิดนึงนะคะแล้วจะสามารถบอกวันที่ที่ชัดเจนได้ หลักๆคือไรท์อยากทำเรื่องนี้ให้เสร็จก่อนคลอดค่ะ (เดือนที่6กว่าแล้วค่ะ) เพราะหลังคลอดคงหัวหมุนมาก5555
อย่าลืมคอมเมนท์เอาไว้ด้วยน้า ❤️❤️❤️❤️

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!