ในยามที่ท้องฟ้าค่ำคืนถูกฉายด้วยแสงจาดวงดาว ชินเดินลัดเลาะไปตามซอกมุมของเมืองที่เงียบสงัด เสียงลมพัดผ่านทำให้ภาพในใจของเขาชัดเจนขึ้น… ภาพครอบครัวที่จากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ เพราะพวก ยอดมนุษย์ ที่ไร้ความปรานี

"ถ้าฉันแข็งแกร่งกว่านี้…" ชินพึมพำกับตัวเอง ขณะบีบกำปั้นแน่น

ทุกคืน เขาถูกทรมานด้วยภาพความทรงจำที่ไม่อาจลบเลือน ความปรารถนาที่จะปกป้องคนที่รักหล่อเลี้ยงหัวใจให้ยังคงเต้นต่อไป แต่ในโลกนี้ เขาเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา—หรืออย่างน้อยเขาเคยคิดเช่นนั้น… จนกระทั่งคืนนี้

แสงจันทร์เลือนลางสะท้อนกับสิ่งที่อยู่บนพื้นดินเบื้องหน้า ชินพบกับบางอย่างที่แปลกประหลาดและน่าสะพรึง ขณะที่เขาโน้มตัวลงเพ่งดูชัด ๆ พลังอันลึกลับก็แผ่ซ่านเข้าสู่ตัวเขา ทันใดนั้น เหมือนมีเสียงกระซิบเบา ๆ ดังขึ้นในหู

“คุณคือผู้ถูกเลือก…”

ชินสะดุ้ง ก้าวถอยหลังทันที หัวใจเต้นระรัวกับความรู้สึกที่แปลกประหลาดนี้ เมื่อมองลงไปที่มือของเขา ก็พบพลังบางอย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน นี่ไม่ใช่แค่ความฝัน หากเป็นจุดเริ่มต้นของพลังที่ยิ่งใหญ่ พลังที่สามารถส่ง “อวตาร” ของเขาออกไปยังโลกอันตรายอื่น ๆ ได้

เขายิ้มบางเบา เมื่อตระหนักถึงโอกาสที่ได้รับ "ถ้าฉันมีพลังนี้… พวกยอดมนุษย์จะต้องชดใช้"

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

แสงจันทร์สาดส่องบนท้องฟ้า พริบพรายไปด้วยประกายระยิบระยับ คล้ายกำลังสอดส่องบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในตัวชิน หลังจากพบพลังแปลกประหลาดในคืนนั้น ชินพยายามที่จะควบคุมมันอยู่หลายครั้ง แม้ยังไม่เข้าใจว่ามันทำงานอย่างไร แต่พลังนี้ดูเหมือนมีเสียงของตัวมันเอง...เสียงที่คอยบอกทิศทางบางอย่าง

คืนนี้ ชินนั่งอยู่ในห้องที่สลัว แสงเทียนส่องสว่างเพียงพอให้เห็นมือของเขาซึ่งสั่นไหวเล็กน้อย เขาหลับตาลง ปล่อยให้จิตวิญญาณเข้าถึงศูนย์กลางของพลังในตัวเอง เมื่อเขาสัมผัสถึงพลังนี้อีกครั้ง จู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนมีแผงควบคุมบางอย่างปรากฏขึ้นในใจ

["ยินดีต้อนรับสู่ ระบบอวตาร ผู้ใช้สามารถส่ง 'อวตาร' ที่มีความสามารถเฉพาะตัวไปยังมิติอื่นเพื่อค้นหาพลัง ประสบการณ์ และของมีค่าที่จะช่วยเพิ่มพลังให้แก่ผู้ใช้"]

คำแนะนำของระบบนั้นชัดเจน... อวตาร เป็นสิ่งที่สามารถส่งไปยังโลกต่าง ๆ ได้ มันสามารถทำภารกิจแทนตัวเขาเพื่อเพิ่มพูนความแข็งแกร่งและทักษะที่ชินสามารถดึงมาใช้ในโลกจริง

ชินรู้สึกถึงการเชื่อมต่อกับ อวตาร ตัวแรกของเขา มันเป็นร่างเงาสีดำที่ยังไม่มองเห็นรูปร่างชัดเจน แต่มีกลิ่นอายของพลังในท่วงท่าการเคลื่อนไหว มันจะเป็นนักรบ เป็นตัวตนที่จะช่วยเขาต่อกรกับยอดมนุษย์และรวบรวมพลังเพื่อใช้ล้างแค้น

["ท่านสามารถสร้างอวตารหลายร่าง แต่ละร่างสามารถพัฒนาทักษะเฉพาะด้านตามภารกิจที่ได้รับ เช่น นักรบ, ผู้รักษา, นักเวทย์ หรือแม้กระทั่งนักฆ่าในเงามืด"]

ระบบอวตารและความสามารถ

[การพัฒนาอวตาร: อวตารสามารถเลื่อนขั้นผ่านการฝึกฝนและการต่อสู้ในโลกต่าง ๆ เมื่ออวตารสะสมประสบการณ์หรือของวิเศษ ชินจะได้รับผลพวงที่ส่งผลต่อความแข็งแกร่ง ทักษะ หรือการมองเห็นอนาคต

ทักษะเฉพาะ: แต่ละอวตารมีทักษะเฉพาะตามที่ชินสร้าง เช่น นักรบจะมีพลังป้องกันและพลังโจมตีสูง ส่วนผู้รักษาจะเชี่ยวชาญในการฟื้นฟูพลังและบาดแผล สามารถช่วยเพิ่มความสามารถให้ชินในภารกิจที่ยากขึ้น

การส่งอวตารไปสำรวจโลกใหม่: ชินสามารถส่งอวตารไปยังมิติต่าง ๆ เพื่อเก็บเกี่ยวพลังและความสามารถ โดยเขาจะปลอดภัยอยู่ในโลกของเขา ขณะที่อวตารทำภารกิจให้สำเร็จ เมื่ออวตารกลับมา ชินจะได้รับความสามารถที่อวตารค้นพบทั้งหมด]

ชินลืมตาขึ้น รอยยิ้มเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้า เขารู้สึกถึงความแข็งแกร่งที่กำลังจะได้รับ ความหวังในการก้าวข้ามขีดจำกัดเพื่อยืนหยัดต่อกรกับเหล่ายอดมนุษย์ที่เคยพรากทุกสิ่งไปจากเขาเริ่มเป็นจริงขึ้นทุกขณะ

"นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น ฉันจะกลายเป็นตำนานในแบบของฉันเอง... และพวกยอดมนุษย์จะต้องสำนึกผิดกับสิ่งที่พวกเขาทำไว้"

ในห้องที่เงียบสงบ ชินนั่งลงอย่างนิ่งเงียบ จิตใจของเขาจดจ่อไปที่การควบคุมพลังที่พึ่งค้นพบ เมื่อหลับตาลง เขารู้สึกถึงการเชื่อมต่อกับ ระบบอวตาร ที่เริ่มทำงานอีกครั้ง และเสียงนั้นก็ดังก้องในหูเขา ราวกับมีคนอยู่ตรงหน้า

["ท่านต้องการส่งอวตารไปยังต่างโลกหรือไม่?"]

"ไปเลย" ชินตอบอย่างไม่ลังเล

ทันใดนั้น ภาพเบื้องหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป ราวกับจิตของเขาถูกส่งผ่านช่องทางอันลึกลับไปยังอีกโลกหนึ่ง โลกที่ดูเหมือนจะไร้ซึ่งความหวัง ท้องฟ้าหม่นครึ้ม แสงแดดถูกบดบังด้วยกลุ่มเมฆฝุ่นและเถ้าถ่าน พื้นดินแตกระแหง มีพืชพันธุ์ที่แห้งแล้งรกร้างตลอดทาง กองซากอาคารพังทลายเกลื่อนกลาดเต็มไปด้วยเศษเหล็กและอิฐที่ถูกทำลาย

อวตารของเขาปรากฏในรูปนักรบ ใส่เกราะที่ดูเก่าแต่แข็งแกร่ง หอกยาวในมือข้างหนึ่งและดาบในอีกข้างหนึ่ง ขณะที่เขากวาดสายตามองไปรอบ ๆ ทันใดนั้นเอง เสียงกรีดร้องของสิ่งมีชีวิตที่ไม่ควรมีอยู่ในโลกนี้ก็ดังขึ้นจากทางไกล

["ภารกิจ: กำจัด สัตว์กลายพันธุ์ในทั่วบริเวณ และตามหาพลังแห่งโลกที่ซ่อนอยู่ในซากปรักหักพัง"]

ในขณะที่เขามองไปข้างหน้า เขาเห็นเงามืดขนาดใหญ่เคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว กลิ่นเหม็นสาบโชยมา อวตารของเขาก้าวเท้าขึ้นหน้า แขนทั้งสองยกอาวุธเตรียมพร้อม แล้วจู่ ๆ สิ่งมีชีวิตที่คล้ายกับมนุษย์แต่มีเขี้ยวและกรงเล็บแหลมก็พุ่งเข้ามาใส่

การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือด อวตารของชินหลบการโจมตีและสวนกลับอย่างคล่องแคล่ว หอกพุ่งทะลวงเข้ากลางร่างสัตว์กลายพันธุ์ เสียงกรีดร้องดังขึ้นก่อนที่มันจะล้มลงกับพื้น ทันทีที่มันล้ม ร่างของมันก็กลายเป็นเถ้าถ่านเหลือเพียงผงที่หายไปกับสายลม

ระหว่างการต่อสู้ ชินเริ่มเข้าใจระบบอวตารมากขึ้น เขาสามารถรู้สึกถึงพลังงานและทักษะที่อวตารของเขาใช้ และทุกครั้งที่สัตว์กลายพันธุ์ถูกกำจัด พลังของอวตารก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อย เช่นเดียวกับทักษะในการรับมือกับสิ่งมีชีวิตพวกนี้ที่พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ

หลังจากจัดการกับสัตว์กลายพันธุ์ไปได้หลายตัว อวตารของเขาก็มาถึงซากปรักหักพังที่เคยเป็นตึกใหญ่ ที่ใจกลางมีแสงเรืองรองส่องออกมาจากหินก้อนหนึ่ง เขารู้ทันทีว่านี่คือพลังที่เขาตามหา

"ฉัน...จะเก็บพลังนี้...ไว้เพื่อเติบโต และยืนหยัดเพื่อต่อสู้ในโลกของฉัน..."

เมื่ออวตารยื่นมือออกไปแตะหินก้อนนั้น พลังลึกลับก็แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของอวตารและสะท้อนกลับมายังชินในโลกของเขาเอง เขารู้สึกถึงพลังที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในทันที

["คุณได้รับพลังจากโลกแห่งวันสิ้นโลกแล้ว"]

ตอนท้ายของภารกิจนี้ ชินได้รับความรู้ใหม่เกี่ยวกับการควบคุมอวตารและเห็นถึงผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่จากภารกิจนี้ เขายิ้มบาง ๆ ก่อนที่ภาพตรงหน้าจะจางหายไป และเขาก็กลับมาสู่โลกของตนเองอีกครั้ง ความมุ่งมั่นในการใช้พลังนี้เพื่อสู้กับยอดมนุษย์ยิ่งเข้มแข็งขึ้นกว่าเดิม

หลังจากที่อวตารของชินพบกับพลังแห่งโลกวันสิ้นโลกและทำการเก็บพลังนั้นไว้ในตัว แต่เขากลับพบว่าพลังนั้นยังไม่ถูกโอนมาให้เขาใช้งานในโลกจริง เหมือนมีกำแพงล่องหนที่ขวางกั้นอยู่ และในขณะเดียวกัน ระบบ ก็ดังขึ้นในจิตของเขาอีกครั้ง

[“การได้รับพลังจากมิติอื่น ๆ จำเป็นต้องได้รับการยอมรับจาก ‘พลังแห่งโลก’ นั้นก่อนถึงจะใช้พลังในโลกจริงได้”]

ชินรู้สึกสับสน นี่เป็นเงื่อนไขที่ระบบไม่ได้บอกเขาไว้ตั้งแต่แรก แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพยายามทำความเข้าใจเงื่อนไขนี้ ระหว่างที่เขากำลังไตร่ตรอง ระบบก็แจ้งเตือนใหม่ปรากฏขึ้น

[“อวตารของคุณยังคงอยู่ในโลกวันสิ้นโลก ภารกิจใหม่: ค้นหาวิธีได้รับการยอมรับจากพลังแห่งโลก”]

ด้วยภารกิจใหม่ที่ยังคงดำเนินอยู่ อวตารของชินต้องค้นหาวิธีที่จะเชื่อมต่อกับพลังอันลึกลับที่ครอบคลุมอยู่ในโลกวันสิ้นโลก บางทีอาจต้องทำอะไรบางอย่างที่พิสูจน์ถึงความกล้าหาญ หรือแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นมิตรแท้ที่มีจิตใจอันยุติธรรม ซึ่งเป็นคุณค่าที่โลกแห่งวันสิ้นโลกนี้เคารพ

ในห้วงแห่งการเชื่อมต่อทางจิต ชินนั่งลงจดจ่ออยู่กับระบบอวตาร เสียงกังวานดังขึ้นในใจของเขาอย่างชัดเจน ราวกับมีใครบางคนกระซิบเรียกเขา

["ท่านได้ตั้งชื่อให้กับอวตารแล้วหรือยัง?"]

ชินมึนงงเล็กน้อยว่าเขาต้องตั้งชื่อด้วยหรอ

["การตั้งชื่อให้อวตารจะช่วยจำแนกอวตารเพื่อให้ไม่เกิดการสับสนในอนาคตเมื่อคุณมีอวตารตัวอื่น"]

["การตั้งชื่อให้อวตารยังช่วยให้อวตารมีประสิทธิภาพในการปรับตัวเข้ากับโลกได้ง่ายขึ้น"]

ชินยิ้มบาง ๆ พร้อมกับตอบเบา ๆ ในใจของเขา

“ใช่...เขาชื่อ เร็น เร็นที่มาจากผู้ที่ยืนหยัดและพร้อมปกป้องคนอ่อนแอ”

ทันใดนั้นเอง ภาพของอวตารก็ปรากฏขึ้นในจิตใจของเขาอีกครั้ง เร็น สวมเกราะที่เปื้อนฝุ่นแห่งโลกวันสิ้นโลก ใบหน้าแสดงถึงความมุ่งมั่นและความพร้อมในการต่อสู้ เขากวาดตามองไปรอบ ๆ พร้อมกับรับรู้ถึงภารกิจที่ต้องทำ

["ภารกิจ: สำรวจพื้นที่ที่วันสิ้นโลก และค้นหาพลังที่ซ่อนอยู่ในดินแดนนี้"]

เร็นเริ่มเดินหน้าไปข้างหน้า เตรียมพร้อมเผชิญหน้ากับศัตรูที่รออยู่ และเริ่มภารกิจหลัก

เมื่อเขาลองสำรวจตัวเองเขากลับพบว่า ร่างของเขาเต็มไปด้วยรอยขีดข่วนและความเหนื่อยล้าหลังจากการต่อสู้กับสัตว์กลายพันธุ์เมื่อวันก่อน ชินสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของอวตารที่กำลังเรียกร้องถึงการเหนื่อยล้านี้ในขณะที่เขาก้าวออกจากซากปรักหักพังของตึกที่เขาอาศัยอยู่

เมื่อเขามองไปที่ชุดเกราะเก่าของเขา เขาพบว่ามันไม่สามารถป้องกันภัยจากสัตว์ที่อันตรายได้อีกต่อไป เขาตัดสินใจที่จะไปหาชุดใหม่ที่ร้านขายเสื้อผ้าที่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่

“การหาชุดใหม่อาจจะช่วยให้ฉันพร้อมสำหรับการต่อสู้ครั้งต่อไป” เขาพูดกับตัวเองก่อนที่จะมุ่งหน้าไปที่ร้าน

ระหว่างทาง เร็นได้ยินเสียงดังแปลก ๆ เสียงคล้ายกับการกัดกินของบางสิ่ง เขาหยุดก้าวเดิน และระมัดระวังขณะมองไปรอบๆ สายตาของเขาหยุดอยู่ที่มุมหนึ่ง มีหนูกลายพันธุ์ขนาดใหญ่ที่มีเขี้ยวแหลมและดวงตาสีแดงกำลังกินซากเหยื่ออยู่

“ช่างน่าสะอิดสะเอียน…” เขาคิดในใจ แต่ก่อนที่เขาจะสามารถเตรียมตัวรับมือ หนูก็พุ่งเข้ามาหาเขาในอัตราเร็วที่น่าตกใจ

เร็นหลบหลีกได้อย่างเฉียบคม แต่หนูกลับหันกลับมาและกัดเข้าที่แขนของเขาอย่างแรง ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย เขารู้สึกได้ว่าพลังบางอย่างไหลผ่านเข้ามาในตัวเขา

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?!” เขาสะดุ้งเมื่อรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในร่างกาย แรงกดดันที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนเกิดขึ้น ทำให้เขาเริ่มกลัวว่ามันจะส่งผลอะไรกับเขา

“ฉันต้องไปหาชุดใหม่และหาคำตอบเกี่ยวกับสิ่งนี้!” เขาตัดสินใจ ก่อนที่จะรีบมุ่งหน้าไปที่ร้านขายเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว

เมื่อถึงร้าน เร็นพบว่าที่นี่มีเสื้อผ้าหลายแบบ แต่เขาไม่สามารถสนใจสิ่งใดได้มากนัก ขณะที่เขากำลังเลือกเสื้อ เขาสังเกตเห็นว่าร่างกายของเขาเริ่มเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ รอยกัดจากหนูกำลังทำให้เขากลายพันธุ์ โดยเฉพาะสีของผมที่เริ่มกลายเป็นสีขาวและนัยน์ตาที่เปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม

“ฉันต้องรีบหาคำตอบเกี่ยวกับพลังนี้…” เขาพึมพำ ขณะที่จิตใจเริ่มระวังภัยจากความเปลี่ยนแปลงในตัวเขา

สุดท้าย เขาได้เลือกเสื้อคอเต่าและเสื้อฮู้ดกางเกงขายาวสีดำจากร้าน ซึ่งเขาคิดว่าน่าจะช่วยปกปิดรูปลักษณ์ใหม่ที่กำลังเกิดขึ้น โดยไม่รู้ว่าความสามารถใหม่ที่เขาได้รับจะช่วยเขาในภารกิจต่อไปอย่างไร

.

.

.

เร็นยืนอยู่ในร้านขายเสื้อผ้าระบบอวตารก็ดังขึ้นในใจเขาอีกครั้ง

["การประเมินพลังของเร็นกำลังเริ่มต้นขึ้น..."]

"อะไรนะ?" เร็นถามด้วยความงุนงง

["พลังที่ได้รับจากการกลายพันธุ์:

การแพร่เชื้อ: สามารถแพร่เชื้อไปยังศัตรูเพื่อสร้างความเสียหายและเพิ่มพลังให้ตัวเอง

การรักษาตัวเอง: มีความสามารถในการรักษาบาดแผลภายในเวลาอันรวดเร็ว

การเติบโตที่รวดเร็ว: สามารถพัฒนาความแข็งแกร่งและความสามารถได้อย่างรวดเร็ว

ประสาทสัมผัสขั้นสูง: เพิ่มความไวในการรับรู้และตอบสนองต่อสถานการณ์รอบตัว"]

เร็นรู้สึกตื่นเต้นและมั่นใจขึ้นในพลังที่เขามี "ใช่! นี่แหละสิ่งที่ฉันต้องการ"

ทันใดนั้น กลุ่มสัตว์กลายพันธุ์ที่ดูน่ากลัวก็พุ่งเข้ามาจากทางด้านข้าง สายตาของเร็นมั่นคง ขณะที่เขารับรู้ถึงพลังที่พลุ่งพล่านในร่างกาย

["เริ่มการต่อสู้: ระวัง! ศัตรูเข้ามา!"]

การสั่งการของระบบช่วยเตือนให้เขารู้ตัวและ

เร็นก้าวออกไปอย่างรวดเร็ว ใช้พลังการแพร่เชื้อในการโจมตี โดยตรงเข้าหาศัตรูตัวแรก

"ฉันไม่รู้สึกว่าจะแพ้เลย!" เขาร้องด้วยความมุ่งมั่น ขณะที่เขาใช้หอกโจมตีออกไป

การต่อสู้เริ่มขึ้นอย่างเข้มข้น เร็นสามารถใช้ความสามารถในการรักษาตัวเองเมื่อได้รับบาดเจ็บ ขณะเดียวกันก็กระโดดหลบการโจมตีของสัตว์กลายพันธุ์ด้วยการเคลื่อนไหวที่ว่องไว

.

.

.

หลังจากเร็นผ่านพ้นการต่อสู้กับกลุ่มสัตว์กลายพันธุ์ไปอย่างไม่ยากเย็น เขายังคงมุ่งหน้าไปข้างหน้าท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงัด ขณะที่พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า ความมืดเริ่มปกคลุมไปทั่วพื้นที่ ท้องฟ้าเป็นสีส้มปนแดง ให้ความรู้สึกทั้งเงียบงันและอันตราย

เมื่อเดินทางมาถึงบริเวณซากตึกที่ผุพัง เร็นหยุดฝีเท้า รู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่แฝงตัวอยู่ในเงามืด เมื่อกวาดสายตาดู เขาพบกลุ่มหนูกลายพันธุ์หลายสิบตัวอยู่ใกล้ ๆ เหล่านั้นมีขนาดใหญ่กว่าหนูธรรมดาหลายเท่า มีดวงตาสีแดงวาววับและเขี้ยวแหลมคมที่พร้อมจะขย้ำเหยื่อ กลิ่นเหม็นสาบโชยมาตามสายลม ทำให้บรรยากาศยิ่งน่าขนลุก

เร็นหยิบอาวุธออกมาทันที เตรียมพร้อมรับมือ ทันใดนั้นเสียงปืนดังขึ้นจากด้านบนตึก มันดังชัดเจนท่ามกลางความเงียบงัน สร้างความแปลกใจให้เร็น ก่อนเขาจะหันไปมองตามทิศทางของเสียงปืน เขาเห็นเงาร่างหนึ่งกำลังยิงสู้กับฝูงหนูกลายพันธุ์บนชั้นบนสุดของตึก

เสียงปืนที่ดังขึ้นดึงดูดให้ฝูงหนูหันไปยังเป้าหมายใหม่ เหล่าหนูกลายพันธุ์ส่งเสียงคำรามและรีบปีนป่ายตึกขึ้นไปด้วยความเร็ว นำไปสู่การต่อสู้อันดุเดือดระหว่างมนุษย์ผู้ถือปืนและฝูงหนูที่กำลังไต่ขึ้นมา

เร็นตัดสินใจที่จะเข้าร่วมการต่อสู้ครั้งนี้ แต่เขายังระวังตัวอยู่เพราะไม่แน่ใจว่าคนที่อยู่ด้านบนนั้นจะเป็นมิตรหรือศัตรู

“ระบบ” เสียงเร็นดังในใจ "ตรวจสอบสถานการณ์รอบ ๆ ได้ไหม?"

ทันใดนั้นเสียงระบบก็ดังขึ้นในจิตของเขา: ["ตรวจพบสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์จำนวนมากรอบตัวท่าน การต่อสู้ครั้งนี้อาจเป็นโอกาสในการเพิ่มพลังให้กับท่าน"]

เมื่อได้รับข้อมูล เร็นกระชับอาวุธของเขาแน่น เตรียมพร้อมรับมือกับฝูงหนูที่อยู่รอบ ๆ และเร่งฝีเท้าเข้าไปในสนามรบ พลางใช้ความเร็วของตนหลบหลีกการโจมตีของหนูที่พุ่งเข้ามาหาอย่างคล่องแคล่ว จากนั้นเขาก็เริ่มสังหารหนูตัวแล้วตัวเล่า ช่วยลดภาระให้คนด้านบนตึกได้อย่างมาก

การต่อสู้นี้ทำให้เร็นเริ่มรู้สึกถึงพลังในตัวที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกครั้งที่เขาสังหารสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ ระบบบอกว่าการเชื่อมต่อระหว่างเร็นกับพลังของโลกนี้แข็งแกร่งขึ้น มอบพลังแห่งการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและประสาทสัมผัสที่เฉียบคมกว่าเดิม

ในจังหวะที่เร็นจัดการกับหนูตัวสุดท้าย เสียงปืนด้านบนตึกก็หยุดลง เขาตัดสินใจปีนขึ้นไปบนตึกเพื่อหาตัวคนที่กำลังต่อสู้อยู่ด้านบน และเผชิญหน้ากับใครสักคนที่อาจกลายเป็นพันธมิตร...หรือศัตรู