"เสียวหมิงข้าได้ข่าวว่ากระบี่ซ่งหลัวของประมุขเฉินหายไป" (ซุยเย่เอ่ย) "กระบี่ซ่งหลัวหายไปหรอ" ใช่แล้วมันหายไปได้ยังไง ซุยเย่ ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน
"ข้าว่าอย่างไปยุ่งเลย" (ซุยเย่เอ่ย) ได้ ข้าว่าเราไปท่องยุทธภพกันเถอะ แล้วเจ้าจะไปที่ใดซุยเย่ ข้าว่าจะไปเมือง"ฉางอัน" เมืองฉางอันมันอยู่ในการปกครองของตระกูลเฉินแห่งหุบเขาหลิงซานไม่ใช่หรอซุยเย่ (เสียวหมิงเอ่ย) ห้ะ บังเอิญมากหรือว่าเรื่องนี้พวกเราต้องจัดการกันแน่ เสียวหมิง ข้าว่าคงใช่ ข้าว่าเราไปกันก่อนล่ะกัน "ได้" ซุยเย่
...(ตระกูลเฉินแห่งหุบเขาหุบหลิงซาน)...
ท่านประมุข (มีแม่ทัพคนนึงเดินเข้ามาภายในวังหลวง) มีอะไร ประจำตระกูล เอิม ทำไม กระบี่ประจําตระกูลของพวกเราหายไปขอรับ ว่าไงนะ (ตกใจ) แล้วมันหายไปได้ยังไง เล่าทหารที่เฝ้าหน้าตำหนักมันบอกว่ามีแสงสีแดงที่ไหนไม่รู้ทำให้ทหารบางส่วนตายไปขอรับ พอข้าเข้าไปดูในตำหนักกระบี่ซ่งหลัวก็หายไปแล้วขอรับ (แม่ทัพทหารเอ่ย) บังเอิญมาก บังเอิญที่สุด เป็นใครหรอขอรับท่านประมุข พวกตระกูลเฟยแห่งโม่หลิง ข้าได้ยินว่าตระกูลเฟยแห่งโม่หลิงอยากได้กระบี่ซ่งหลัวมาก วันนี้พวกมันได้กระบี่ไปแล้ว ข้าว่าพวกตระกูลเฟยเอาไปทำในสิ่งที่ไม่ดีแน่ท่านประมุข ใช่ข้าก็ว่าเช่นกัน พวกเราต้องเอากระบี่ซ่งหลัวกลับคืนมาสู่สกุลเฉินให้ได้
...(ตัดภาพมาที่เซียนทั้งสอง)...
แม่นางที่นี่คือเมืองฉางอันใช่หรือไม่ (เสียวหมิงเอย) ใช่แล้วคุณชาย เสี่ยวหมิงเดินไปหาซุยเย่ ซุยเย่ ที่นี่คือเมืองฉางอันพวกเราถึงแล้ว "งั้นพวกเราไปหาท่านประมุขสินกันเถอะ"เสียวหมิงเอ่ย ได้
เสียวหมิงเจ้าว่าเมืองฉางอันนี้ดูอะไรผิดแปลกไปหรือไม่ อะไรหรอซุยเย่ ข้าว่าชาวบ้านในละแวกนี้ดูเหมือนจิตไม่อยู่กับตัว ล่องลอยอยู่ในอากาศ เอิ่ม เหมือนกับ เหมือนกับอะไรหรอ ซุยเย่ ข้าว่าเหมือนกับ ผีดิบนะ ผีดิบอย่างนั้นหรอ ใช่ เจ้าดูจากอะไรหรอ เจ้าไม่สังเกตหรอพวกเขามีดวงตาที่มีสีขาวตัวซีดเซียวผอมแห้งดูเหมือนกับราวตายมานานแล้วนะ
หรือว่าจะเกี่ยวกับกระบี่ซ่งหลัวที่หายไป (ซุยเย่เอ่ย) ข้าว่าต้องใช่รีบไปพบท่านประมุขเฉินกันเถอะ
(เสียวหมิงเอ่ย)
(หน้าวัง)
พี่ชายข้าของเขาพบท่านประมุขได้หรือไหม
เสียวหมิงเอ่ย ได้ขอรับ แต่คุณชายทั้งสองรอข้าสักประเดียวนะขอรับ ได้ ทหารนายหนึ่งเดินเข้าไปภายในวัง
(ภายในวัง)
ท่านประมุขมีคุณชายสองท่านมาหาขอรับ คุณชายจากตระกูลไหนกัน ไม่ทราบขอรับ งั้นให้พวกเข้าเขามา ขอรับท่านประมุข กลับมาที่หน้าวัง คุณชายท่านประมุขบอกให้พวกท่านเขาไปถายในวังได้แล้วขอรับ "ได้"ซุยเย่เอ่ย ทั้งสองเดินเข้าไปภายในวัง คาราวะท่านประมุขเฉิน พวกท่านเป็นใครกันมาที่เมืองฉางอันได้ยังไง ข้าของแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ ข้าซุยเย่จากตระกูลซุยเย่แห่งหุบเขาต้านฟาน ส่วนข้าเสียวหมิงจากตระกูลเสียวแห่งฉิงเหอ ที่เป็นคุณชายแห่งสองตระกูลนี่เอง ว่าแต่คุณชายซูยกับคุณชายเสียวมาหาข้ามีเรื่องอะไรเหรอ ข้าได้ข่าวกระบี่ซ่งหลัวกระบี่ประจำตระกูลของท่านหายไป "พวกท่านรู้ได้ยังไร" ท่านประมุขเฉินเอ่ย พวกข้ารู้มาจากที่ได๋ไม่สำคัญ แต่ที่พวกข้ามา พวกข้าจะมาช่วยท่านตามหากระบี่ซ่งหลัว พวกท่านจะมาช่วยพวกข้าหรือ "ใช่" แล้วนี้พวกท่านทั้งสองมาจากที่ใด๋กันหรือ พวกข้ามาจากเมืองผิงผิงมุ่งหน้ามาสู่เมืองฉางอันนี่ละท่านประมุขเฉิน "อ๋อ" แล้วนี่พวกท่านพักกันที่ไหนหรอ "ยังไม่มีที่พักเลยท่านประมุข" ซุยเย่เอ่ย งั้นท่านทั้งสองพักอยู่ที่ตำหนักเฉินนี้และ ขอบคุณท่านประมุขทั้งสองคนพูดขอบคุณท่านประมุขเฉิน เดียวข้าจะให้สาวใช่พาไปที่พักนะ ทั้งสองก้มคำนับท่านประมุข แล้วเดินตามสาวใช่ไป ถึงแล้วเจ้าค่ะคุณชาย คุณชายทั้งสองพักที่ห้องนี่ได้เลยเจ้าค่ะ "ขอบคุณ" ทั้งสองคนเดินเข้าห้องไป(บทสนทนาระหว่างซุยเย่กับเสียวหมิง) ซุยเย่ข้าว่าเรื่องนี้ดูแปลกๆนะ กระบี่ซ่งหลัวอยู่ในตำหนักมาเป็นร้อยๆปี อยู่ดีๆมันก็หายไป ข้าก็คิดเช่นเจ้าข้าว่าต้องสื่อเรื่องนี้อย่างลับๆแล้วล่ะ อย่าให้ใครรู้เป็นเด็กนคาด "ได้" เจ้าคิดว่าเจ้าจะเริ่มจากที่ใด๋ ข้าก็ยังไม่รู้ เอาแบบนี้วันรุ่งขึ้นเราไปหาท่านประมุขแล้วให้ท่านพาไปที่ตำหนักหมิงซานเพื่อหา
รองรอยของคนร้ายว่ามันเป็นใคร ได้งั้นพวกเราพักผ่อนกันเถอะ รุ่งขึ้นพวกเราค่อยไปหาท่านประมุขกัน
(วันรุ่งขึ้น)
คาราวะท่านประมุข "ข้ามีเรื่องที่อยากจะขอให้ท่านช่วย" ว่าไง พวกข้าของเข้าไปดูที่ตำหนักหมิงซานได้หรือไม่เพื่อที่จะมีร่องรอยของผู้ร้าย ได้สิ เชิญคุณชายทั้งสอง ทั้งสองคนมองกันแล้วเดินตามท่านประมุขไป ถึงแล้วคุณชายที่นี่คือตำหนักหมิงซาน เชิญคุยชายสำรวจได้เลย ขอบคุณท่านประมุขทั้งสองมองหน้าแล้วเดินเข้าไปให้ตำหนักหมิงซาน ทั้งสองเดินสำรวจภายในตำหนักหมิงซาน จนซุยเย่เห็นอะไรบ้างอย่างตกอยู่ที่พื้น เสียวหมิงข้าเจออะไร (ซุยเย่หยิบสิ่งนั้นขึ้นมาดูแล้วเสียวหมิงก็เดินมาดูเช่นกัน) "นี่มันหยกของตระกูลเฟยหรือตระกูลเฟยแห่งโม่หลิงจะเป็นคนเอาไป"เสียวหมิงเอ่ย "แล้วหยกนี่เป็นของใครกับในตระกูลเฟย" ซุยเย่เอ่ย ข้ายังไม่แน่ใจแต่ต้องเป็นให้ตระกูลเฟยนี่และ หาแบะแสต่อไป ได้ ซุยเย่กับเสียวหมิงทางสำรวจในตำหนักหมิงซานสักพัก ทั้งสองเดินมาหาท่านประมุข ท่านประมุขพวกข้าเจอหยกของตระกูลเฟยอยู่ใต้ที่ตั้งกระบี่ของท่าน พวกท่านรู้ไหมว่าเป็นใคร พวกข้ายังไม่อยากตัดสินว่าเป็นใครต้องหาแบะแสเพิ่มอีก พวกเราถึงจะรู้ได้ว่าเป็นใคร "รบกวนพวกท่านทั้งสองแล้ว" (ท่านประมุขเฉินเอ่ย) ไม่เป็นไร
ท่านประมุขเฉิน"งั้นพวกข้าของออกเดินทางก่อนนะ"(เสียวหมิงเอ่ย) ได้เดินทางปลอดภัย ขอบคุณทางประมุขที่ให้พวกเราได้พักที่นี่ พวกข้าของลา คาราวะท่านประมุข (ทั้งสองคำนับท่านประมุขพร้อมกัน) ทั้งสองเดินออกจากตระกูลเฉินไป เสียวหมิงเจ้าว่าเป็นใครกัน "ข้าคิดว่าเป็นเฟยหลง"เสียวหมิงเอ่ย แล้วเหตุใดเมื่อครู่เจ้าไม่บอกท่านประมุขเฉินไปล่ะ ข้าไม่อยากให้ท่านประมุขเฉินแตกตื่น อีกอยากข้าไม่อยากให้ท่านประมุขเฉินทำอะไรไปโดยที่ไม่ปรึกษาใคร หรือทำอะไรไปที่แก้ไขไม่ได้ อ๋อ ไปกันเถอะเราไปหาเบาะแสกัน ได้ ผ่านไปเป็นเวลาหนึ่งชั่วยาม เรามาถึงแล้วซุยเย่ ที่นี่คือที่ไหนหรอ ที่นี้คือที่นี่เฟยหลงอาศัยอยู่ แล้วตอนนี้เขาไปอยู่ที่ไหนกัน ที่นี่เหมือนไม่มีใครอยู่มาเป็นเวลานานแล้วนะ ที่นี่เป็นที่ที่ท่านประมุขเฟยอยากได้มาครอบครองมากเลยฆ่าพ่อแม่ของเฟยหลง ทำให้เฟยหลงต้องกำพร้าพ่อแม่ ท่านประมุขเฟยเลยรับเลี้ยงเฟยหลงเป็นบุตรบุญธรรม เดิมเฟยหลงชื่อว่าอาถง หลังจากท่านประมุขเฟยรับไปเลี้ยงเลยเปลี่ยนชื่อเป็นเฟยหลง อ๋อที่แท้เฟยหลงเป็นบุตรบุญธรรมของท่านประมุขเฟยนี่เอง "แล้วเหตุใดเฟยหลงผู้นี่เป็นคนอันตพาเช่นนี้" ซุยเย่เอ่ย "จะไม่ให้อันตพาได้อย่างไร เห็นพ่อแม่ตายต่อหน้าต่อตา ทำให้เฟยหลงผู้นี้ขาดความอบอุ่นทำให้เป็นเด็กอันตพาเช่นนี้และ"เสียวหมิงเอ่ย อ๋อ "ข้าว่าหาโรงเตี๋ยมพักกันก่อนเถอะ"ซุยเย่เอ่ย ได้
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!