NovelToon NovelToon

ส่งใจข้ามฟ้า

บทที่ 1 จดหมายฉบับแรก

**ส่งใจข้ามฟ้า**

**ตอนที่ 1: จดหมายฉบับแรก**

แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านหน้าต่างกระจกของโรงพยาบาล ข้าวตังยังคงยุ่งอยู่กับงานในห้องฉุกเฉิน เขาเดินไปมาระหว่างเตียงคนไข้ มือถือบันทึกการรักษาพร้อมปากกาที่ใช้จดคำสั่งยาและรายงานของแพทย์คนอื่น ๆ เสียงร้องขอความช่วยเหลือจากผู้ป่วยและเสียงเรียกของพยาบาลเต็มไปหมดในห้องโถงกว้าง แต่ข้าวตังชินกับบรรยากาศเช่นนี้แล้ว

เช้าวันนั้นเป็นวันที่เงียบสงบกว่าปกติ ข้าวตังจึงมีเวลามองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นแสงอาทิตย์ทอแสงอุ่น ๆ ที่กำลังจะกลายเป็นฤดูใบไม้ร่วงอย่างเต็มตัว ใจของเขาหวนคิดถึงภูมิ ทหารหนุ่มที่เขาได้พบเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้าในงานการกุศลเพื่อช่วยเหลือทหารผ่านศึก

ภาพความทรงจำในวันนั้นชัดเจนในความคิด ข้าวตังยังจำได้ดีถึงแววตาเงียบขรึมและน้ำเสียงทุ้มต่ำของภูมิ ที่แม้จะดูเหมือนเป็นคนเงียบขรึมแต่กลับมีรอยยิ้มบาง ๆ ที่ซ่อนความอ่อนโยนไว้ภายใน หลังจากงานนั้น ทั้งคู่ก็เริ่มแลกเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์กัน คุยกันผ่านข้อความสั้น ๆ ในแต่ละวัน และมีการส่งจดหมายเพื่อเล่าเรื่องราวที่ไม่สามารถบรรยายผ่านข้อความได้

ช่วงสาย ข้าวตังแอบไปที่ห้องพักพยาบาลเล็ก ๆ ในช่วงพัก เขาหยิบจดหมายฉบับล่าสุดที่เพิ่งได้รับจากภูมิซึ่งถูกส่งมาจากฐานทัพในต่างประเทศ แค่เห็นซองจดหมายที่มีรอยขาดบาง ๆ ข้าวตังก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นในใจ แม้ภูมิจะไม่ได้พูดอะไรมากมาย แต่ทุกถ้อยคำในจดหมายกลับส่งมาถึงใจอย่างชัดเจน

> "ข้าวตัง,

ตอนนี้ผมอยู่ในฐานทัพที่ต่างประเทศ มันต่างจากบ้านเรามาก ที่นี่อากาศหนาวและรอบตัวเต็มไปด้วยเสียงเครื่องบิน เสียงฝีเท้าของเพื่อนทหารที่เดินเข้าออก ทุกวันเป็นเหมือนการฝึกความอดทน แต่ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่น่าสนใจ

ผมยังจำรอยยิ้มของนายได้ดี ตอนที่เราคุยกันที่งานการกุศล ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ผมรู้สึกว่านายเป็นคนที่น่าอยู่ใกล้ ๆ อาจเป็นเพราะนายมีความอบอุ่นที่ผมไม่ได้รู้สึกมานานแล้วก็ได้

ตอนนี้ทุกอย่างค่อนข้างเงียบสงบ แต่ก็ต้องเฝ้าระวังตลอดเวลา ผมจะพยายามเขียนจดหมายบ่อย ๆ หากมีโอกาสนะ ยังไงก็อย่าลืมดูแลตัวเองด้วย ดูแลคนไข้เหมือนที่นายดูแลผมนั่นแหละ

หวังว่าเราจะได้เจอกันอีกครั้ง

ภูมิ"

ข้าวตังอ่านจดหมายของภูมิซ้ำไปซ้ำมา หลายครั้งจนแทบจะจำทุกคำได้ เขารู้สึกเหมือนเสียงทุ้มต่ำของภูมิยังคงดังก้องในใจ รอยยิ้มอ่อน ๆ ของชายที่ดูเงียบขรึมนั้นยังคงติดตา แต่ทว่า...ความคิดถึงก็แฝงอยู่ในทุกประโยคของจดหมาย เหมือนกับที่ข้าวตังเองก็เก็บความคิดถึงนั้นไว้ไม่ไหวเช่นกัน

เขาหยิบกระดาษกับปากกาออกมา เขียนตอบกลับถึงภูมิด้วยใจที่อบอุ่น แม้จะมีระยะทางที่ห่างกัน แต่จดหมายเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ทั้งสองรู้สึกเหมือนยังคงใกล้กัน

> "ภูมิ,

ขอบคุณที่เขียนมาหา ฉันดีใจมากที่ได้ยินว่าทุกอย่างยังเป็นไปด้วยดีที่นั่น ที่โรงพยาบาลช่วงนี้ค่อนข้างยุ่งแต่ฉันก็พยายามทำงานให้เต็มที่ บางครั้งเหนื่อยก็คิดถึงข้อความจากนายที่ส่งมาทำให้ยิ้มออกได้

ฉันเองก็หวังว่านายจะดูแลตัวเองดี ๆ นะ ที่นั่นคงหนาวมากกว่าที่บ้านเรามาก อย่าลืมใส่เสื้อผ้าให้อุ่น ๆ ฉันจะรอจดหมายจากนายนะ

รักษาตัวดี ๆ ภูมิ

ข้าวตัง"

จดหมายฉบับนั้นถูกใส่ลงในซองสีขาวสะอาด ข้าวตังรู้ดีว่ามันอาจจะต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะถึงมือของภูมิ แต่เขาก็หวังว่ามันจะช่วยเติมพลังใจให้ชายคนนั้นเหมือนที่จดหมายของภูมิช่วยปลอบโยนเขาในวันที่เหนื่อยล้า

วันเวลาผ่านไปพร้อมกับความหวังและความคิดถึงที่เพิ่มขึ้นทุกครั้งที่พวกเขาส่งจดหมายถึงกัน เรื่องราวของทั้งคู่ยังคงดำเนินต่อไปท่ามกลางความไม่แน่นอนของอนาคต แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขารู้แน่ชัดคือ ความรู้สึกที่มีต่อกันจะไม่เปลี่ยนไป แม้จะมีระยะทางแค่ไหนก็ตาม

บทที่ 2 ความเงียบที่เจ็บปวด

**ส่งใจข้ามฟ้า**

**ตอนที่ 2: ความเงียบที่เจ็บปวด**

เสียงฝนตกกระทบหลังคาฐานทัพดังเป็นจังหวะซ้ำๆ ข้างนอกเต็มไปด้วยความหนาวเย็นที่แทรกผ่านเข้ามาทุกซอกมุมของค่ายทหาร ภูมิยืนมองออกไปยังขอบฟ้าหม่นเทา เขากระชับเสื้อคลุมทหารหนาๆ ที่เริ่มชื้นด้วยละอองฝน ใบหน้าของเขาเคร่งเครียด แต่ในมือของเขากลับกำจดหมายฉบับล่าสุดจากข้าวตังไว้อย่างแน่นหนา

ข้าวตังส่งจดหมายมาตอบกลับเขาอีกครั้ง และเหมือนเดิม ทุกตัวอักษรในจดหมายเต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ช่วยเติมเต็มหัวใจของเขาในยามที่ต้องเผชิญกับความโดดเดี่ยวและเสียงปืนที่ดังก้องเป็นระยะๆ จากการซ้อมรบ

ภูมิเหลือบมองเพื่อนทหารที่อยู่รอบตัว บางคนกำลังเช็ดปืน บางคนคุยกันอย่างเบาๆ เพื่อคลายความตึงเครียดจากการฝึกหนัก ในขณะที่ภูมิกลับเลือกที่จะเปิดจดหมายอ่านซ้ำอีกครั้ง ความคิดถึงคนที่อยู่ไกลห่างเกินกว่าที่เขาจะเอื้อมถึงทำให้ใจเขาเจ็บหน่วง

> "ภูมิ,

ฉันดีใจมากที่ได้อ่านจดหมายจากนาย มันทำให้ฉันรู้สึกว่า...แม้ระยะทางจะไกลแค่ไหน เราก็ยังมีสายใยที่เชื่อมถึงกันได้อยู่ ทุกครั้งที่ฉันมองออกไปเห็นท้องฟ้า ฉันนึกถึงว่านายอาจจะกำลังมองฟ้าเดียวกันอยู่ แม้ว่าฟ้าที่นี่จะไม่เหมือนที่นั่น แต่ก็หวังว่ามันจะทำให้นายรู้สึกอบอุ่นขึ้นบ้างนะ

ฉันขอโทษถ้าจดหมายของฉันฟังดูเหมือนจะเพ้อเจ้อ แต่ฉันอยากให้นายรู้ว่าฉันยังคิดถึงนายเสมอ หวังว่านายจะกลับมาบ้านอย่างปลอดภัย ฉันจะรอวันที่เราได้เจอกันอีกครั้ง

ข้าวตัง"

ภูมิยิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อนึกถึงใบหน้าของข้าวตัง เขาจำได้ถึงแววตาที่อบอุ่นและรอยยิ้มที่ทำให้เขารู้สึกถึงความสบายใจในยามที่เขาเจอกับความเครียดและความกดดัน แต่ท่ามกลางความรู้สึกอันแสนหวานนั้น ก็มีความจริงที่เขาต้องยอมรับ คือไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้กลับบ้าน และไม่รู้ว่าภารกิจที่นี่จะต้องใช้เวลานานแค่ไหน

"เฮ้ย ภูมิ! ไปเตรียมตัวได้แล้ว มีการประชุมเรื่องภารกิจใหม่" เสียงเพื่อนร่วมหน่วยดังขึ้นดึงภูมิออกจากภวังค์ ภูมิพยักหน้าเก็บจดหมายไว้ในกระเป๋าเสื้อทหาร ก่อนจะเดินตามเพื่อนทหารไปยังเต็นท์ประชุมที่ตั้งอยู่ไม่ไกล

ในการประชุม คำสั่งใหม่ถูกประกาศขึ้น ภารกิจของพวกเขากำลังจะเริ่มต้นขึ้นในไม่กี่วันข้างหน้า มันเป็นภารกิจที่ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก และภูมิรู้ดีว่าอันตรายที่พวกเขาต้องเผชิญนั้นไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เขาตั้งใจฟังรายละเอียดทุกอย่าง แม้ใจจะว้าวุ่นด้วยความกังวลที่ซ่อนอยู่ในใจลึกๆ

หลังจากประชุมเสร็จ ภูมิกลับมายังที่พัก เขานั่งอยู่คนเดียวในมุมหนึ่งของเต็นท์ ความกดดันจากภารกิจที่ใกล้เข้ามาทำให้เขารู้สึกถึงความเหนื่อยล้าที่สั่งสมมา แต่ทุกครั้งที่นึกถึงข้าวตัง เขาก็รู้สึกว่าตนเองต้องเข้มแข็งขึ้น เขาหยิบปากกาและกระดาษออกมา แล้วเริ่มเขียนจดหมายตอบกลับข้าวตัง

> "ข้าวตัง,

ขอบคุณมากสำหรับจดหมายของนาย ทุกคำของนายมันทำให้ฉันรู้สึกอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก ฉันเองก็นึกถึงนายบ่อยๆ เวลาที่มองออกไปเห็นฟ้ากว้างที่นี่ ฉันอยากให้นายรู้ว่าฉันยังสบายดี ถึงแม้ว่าที่นี่จะเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าและอันตราย แต่ฉันจะพยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด

ฉันคิดถึงนายมากนะ ข้าวตัง บางครั้งเวลาที่คิดถึงรอยยิ้มของนาย มันทำให้ฉันมีแรงที่จะสู้ต่อไป ฉันหวังว่านายจะดูแลตัวเองให้ดี อย่าลืมพักผ่อนบ้างนะ ฉันไม่อยากให้นายต้องเหนื่อยเกินไป

ฉันสัญญาว่าจะกลับไปหานายให้ได้ รอฉันนะ

ภูมิ"

เขาเขียนจดหมายเสร็จและเก็บมันลงซอง ก่อนที่จะส่งให้หน่วยจดหมายของกองทัพเพื่อส่งกลับไปยังประเทศไทย ภูมิรู้ว่ากว่าจะถึงมือข้าวตังคงใช้เวลาเป็นสัปดาห์ แต่เขาหวังว่าจดหมายฉบับนี้จะทำให้ข้าวตังรู้สึกได้ถึงความคิดถึงที่เขามีให้ แม้ระยะทางจะห่างกันมากแค่ไหน

ในขณะเดียวกัน ข้าวตังก็ยังคงใช้ชีวิตในโรงพยาบาลอย่างที่เคยเป็น แต่วินาทีที่ได้เห็นซองจดหมายที่มีชื่อของภูมิอยู่บนมุมซอง ความสุขที่ไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้ก็เกิดขึ้นในใจเขาอีกครั้ง เขาเก็บจดหมายเหล่านั้นไว้ในกล่องใบเล็กที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง อ่านมันซ้ำๆ ในทุกค่ำคืนที่เหนื่อยล้าจากการทำงาน

แม้ในใจจะยังมีความกังวลที่ปะปนไปกับความคิดถึง ข้าวตังยังคงเชื่อมั่นว่าความรักของพวกเขาจะสามารถฝ่าฟันความท้าทายนี้ไปได้ และเขาจะรอจนถึงวันที่ภูมิจะกลับมาอยู่เคียงข้างเขาอีกครั้ง

แต่ในขณะที่ทั้งสองยังคงส่งจดหมายและความคิดถึงไปหากัน ความเงียบสงบก่อนพายุใหญ่กำลังคืบคลานเข้ามา ภารกิจใหม่ของภูมิอาจจะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง และบททดสอบที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นกำลังรออยู่ตรงหน้า...

บทที่ 3 พายุแห่งการรอคอย

**ส่งใจข้ามฟ้า**

**ตอนที่ 3: พายุแห่งการรอคอย**

สองสัปดาห์ผ่านไปนับจากวันที่ภูมิส่งจดหมายฉบับล่าสุด ข้าวตังก็ยังไม่ได้รับจดหมายตอบกลับใด ๆ จากภูมิ ความกังวลเริ่มแทรกซึมเข้ามาในใจของเขามากขึ้นทุกวัน เขาเฝ้ารอจดหมายอย่างใจจดใจจ่อ ไม่ว่าเมื่อไรที่ได้ยินเสียงรถไปรษณีย์จอดอยู่ที่หน้าประตูโรงพยาบาล ใจเขาก็เต้นแรงทุกครั้ง หวังว่าจะได้เห็นซองจดหมายที่มีชื่อของภูมิอยู่มุมซอง

แต่ทุกวันผ่านไปพร้อมกับความเงียบงัน ข้าวตังนั่งอยู่ในห้องพักพยาบาล มองออกไปนอกหน้าต่าง ท้องฟ้าวันนี้หม่นหมองเหมือนกับหัวใจของเขา ในห้องพักเงียบสนิท มีเพียงเสียงนาฬิกาเดินดังเบาๆ แต่เสียงเหล่านั้นกลับดังชัดในความคิดของเขา

"ทำไมยังไม่ส่งข่าวมาเลยนะ..." ข้าวตังพึมพำกับตัวเอง ความกลัวเริ่มซึมซับในใจ ทุกคำพูดให้กำลังใจที่เขาพยายามบอกตัวเองเริ่มจะไม่เพียงพอที่จะดับความกังวลที่เพิ่มพูนขึ้น

หลังจากเสร็จงานในวันนั้น ข้าวตังกลับไปยังห้องพักของตน เขาหยิบกล่องใส่จดหมายของภูมิออกมา เปิดอ่านจดหมายฉบับเก่าๆ ที่ภูมิเคยส่งมา ทุกคำที่ภูมิเล่าให้เขาฟังเกี่ยวกับชีวิตประจำวันในค่ายทหาร การฝึกหนัก และความฝันที่จะกลับมาเจอข้าวตังอีกครั้ง ทำให้ข้าวตังอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา แต่ยิ่งอ่านเท่าไร หัวใจเขาก็ยิ่งหนักอึ้งขึ้นเท่านั้น

เขานั่งพิงเก้าอี้ หยิบจดหมายฉบับหนึ่งมาแนบอก แล้วหลับตา นึกถึงภาพภูมิในวันแรกที่พวกเขาพบกัน ภาพที่ภูมิยืนยิ้มเงียบ ๆ ท่ามกลางผู้คนในงานการกุศล ภาพนั้นยังคงชัดเจนในใจของข้าวตังเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน

"ภูมิ...นายจะปลอดภัยใช่ไหม?" ข้าวตังพึมพำออกมาเบาๆ ความคิดถึงที่เต็มเปี่ยมเริ่มปะปนกับน้ำตาที่ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว เขาเชื่อในสัญญาที่ภูมิเคยให้ไว้ เชื่อว่าภูมิจะต้องกลับมาหาเขา แต่การรอคอยอย่างไร้ข่าวสารเช่นนี้ก็ทำให้เขาอดทนได้ยากขึ้นทุกที

ในขณะเดียวกันที่อีกฝั่งของโลก ภูมิอยู่ท่ามกลางภารกิจที่ยากลำบาก พวกเขาต้องปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ที่อันตรายและเป็นเขตสงครามกลางเมือง ความกดดันและความระมัดระวังเป็นสิ่งจำเป็นในการรอดชีวิต ภูมิแทบไม่มีเวลาคิดถึงความเหนื่อยล้า ความรู้สึกถึงอันตรายที่คืบคลานเข้ามาทุกวินาทีทำให้เขาต้องรวบรวมสมาธิทั้งหมดในการทำภารกิจ

ภูมิไม่ได้รับจดหมายจากข้าวตังมาหลายวันแล้วเช่นกัน เขาเองก็รู้สึกว่างเปล่า แม้จะพยายามบอกตัวเองว่าภารกิจคือสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญที่สุด แต่ใจของเขากลับพะวงถึงคนที่อยู่ไกลห่าง ทุกครั้งที่มีช่วงเวลาว่าง เขาจะนึกถึงข้อความของข้าวตังที่เต็มไปด้วยคำพูดอ่อนโยน คำพูดที่ทำให้เขามีกำลังใจ

ยามค่ำคืนที่อากาศหนาวเย็น ภูมิยืนมองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว ในใจเขาหวังว่าข้าวตังคงจะมองฟ้าเดียวกันจากที่ไกลออกไป ราวกับว่าการมองดาวเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขารู้สึกเชื่อมถึงกันได้แม้จะอยู่คนละซีกโลก

แต่ในขณะที่ภูมิกำลังดำดิ่งอยู่ในความคิด ภารกิจอันตรายก็กำลังมาถึง กองทัพของเขาได้รับคำสั่งให้เคลื่อนย้ายไปยังพื้นที่ใหม่ซึ่งเต็มไปด้วยความเสี่ยง การสู้รบใกล้เข้ามาทุกขณะ ภูมิรู้ดีว่านี่อาจเป็นภารกิจที่ยากที่สุดที่เขาเคยเจอมา แต่เขาก็ต้องไปพร้อมกับคำสัญญาที่เขาให้ไว้กับข้าวตัง ว่าเขาจะกลับไปหา

คืนวันนั้นก่อนที่เขาจะออกเดินทาง ภูมิหยิบกระดาษและปากกาออกมา เขียนจดหมายฉบับหนึ่งสั้นๆ ด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความคิดถึงและความหวัง

> "ข้าวตัง,

ฉันได้รับคำสั่งให้ไปยังพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง แต่ฉันอยากให้นายรู้ว่าฉันจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้กลับไปหา ขอโทษที่อาจจะไม่ได้ส่งข่าวไปสักพัก แต่ฉันจะคิดถึงนายเสมอ...และขอให้นายรอฉันนะ

ฉันสัญญาว่าจะกลับไปให้ได้ ไม่ว่ามันจะยากแค่ไหน

ภูมิ"

ภูมิพับจดหมายเก็บใส่ซอง เขาหวังว่าหลังจากจบภารกิจนี้เขาจะสามารถส่งจดหมายนี้ไปหาข้าวตังได้ด้วยตนเอง เขามองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เขาจะเตรียมตัวออกเดินทางไปยังพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความเสี่ยง...พร้อมกับหัวใจที่ยังคงยึดมั่นในคำสัญญาที่ให้ไว้กับคนที่อยู่ไกล

แต่สำหรับข้าวตังที่ยังคงเฝ้ารอคอยอยู่ที่บ้าน เขายังไม่รู้ว่าอนาคตกำลังจะนำพาความเปลี่ยนแปลงใดมาสู่ชีวิตของพวกเขา ทั้งความหวังและความกลัวค่อยๆ สะสมในใจข้าวตังมากขึ้นทุกวัน เมื่อไร้ข่าวสารจากภูมิ ความเงียบงันนั้นช่างเจ็บปวดจนแทบจะทนไม่ไหว...

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!