NovelToon NovelToon

เกิดใหม่ชาตินี้ฉันต้องแก้แค้น

ตัวอย่าง ตอน ความสุขที่แท้จริง

"ท่านพ่อท่านแม่ พี่มาร์ฟ่า พี่เมฟ เร็ว ๆ เข้าเดี๋ยวก็ไม่ทันการแสดงดนตรีหรอกค่ะ !" เด็กน้อยเอิ่ม...ที่ไม่น้อยเพราะเธออายุจะสิบแปดปีแล้ว

"เมล ลูกไม่ต้องรีบหรอกเพราะการแสดงไม่หนีเราไปไหนหรอกค่ะ " ให้ตายสิลูกนี้อายุจะสิบแปดปีแล้ว ยังทำตัวเป็นเด็กน้อยอยู่เลย

ทั้งสองมองหน้ากันและหัวเราะออกมาทำให้บรรยากาศนั้นครึกครื้น เพราะที่ผ่านมาครอบครัวของเมล เจอเรื่องร้ายๆ มาเยอะแล้ว

สวัสดีทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะ ฉันชื่อว่า เซเกร์ เมล ไมเออร์ ตอนนี้ข้ากำลังศึกษาอยู่ที่อะเคเดมี่ของจักรวรรดิเดบูเลน

ฉันมีความลับจะบอกกับทุกคนด้วยนะ ฉันนั้นได้ย้อนเวลากลับมา ชาตินี้เป็นชาติที่สามแล้วชาติที่หนึ่งนั้น ฉันอาศัยอยู่ที่เมืองไทย กำลังไปเกี่ยวข้าวกับพี่ชาย แล้วฉันไม่มองดูทางก็เลยโดนรถเกี่ยวข้าวทับเสียชีวิต พอข้าตื่นขึ้นมาก็อยู่ในร่างเจ้าของร่างนี้แล้ว ฉันก็ใช้ชีวิตไปเรื่อย ๆ พอมาวันหนึ่งท่านพ่อก็มารับข้าจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าข้างโบสถ์เซนต์พอล แล้วสัปดาห์ต่อมาก็แต่งงานใหม่กับแม่เลี้ยงชื่อ อารีแอน แล้วชีวิตอันสุขสงบของฉันจริงก็หายไปที่ล่ะนิดที่ล่ะหน่อย ดัชเชสนั้นใช้ฉันเยี่ยงทาส ทั้งซักผ้า ล้างจาน ไม่พอใจก็เอาน้ำร้อนมาสาดฉันใช้งานอย่างกับฉันเป็นเด็กรับใช้ เสแสร้งแกล้งเป็นคนอ่อนแอให้ท่านพ่อลงโทษฉัน ในชาติก่อนข้าไม่ได้สนิทกับพวกท่านพ่อและท่านพี่ด้วยซ้ำ ฉันถูกส่งตัวไปเรียนที่อะเคเดมี่ของจักรวรรดิเดบูเลนในห้องธรรมดา ฉันนั้นความสามารถเวทย์มนต์ของฉันนั้นไม่ถึงระดับสูงเลยได้อยู่ห้องธรรมดา ใช่ฉันหนีจากครอบครัวที่ทรมานมาอยู่ที่อะเคเดมี่ พอเรียนจบแล้วก็เปิดร้านขายขนมเล็ก ๆ ที่อยู่ในตัวเมือง วันหนึ่งอารีแอน หรือ เซเกร์ อารีแอน ไมเออร์ ดัชเชสคนปัจจุบัน ได้บังเอิญมาซื้อขนมในร้านของ นางน่าจะซื้อไปฝากพวกพี่ ๆ นางเข้ากับคนอื่นง่ายดายจะตายไป นางหันมามองข้าดูเหมือนนางจะจำได้เลยเดินเข้ามาทัก

...“เมลลูกนี้ลูกก็เรียนจบแล้วทำไมยังไม่กลับบ้านละ รู้ไหมท่านดยุกคิดถึงลูกมากเลยรู้ไหม” หึ อีเด็กนี่ฉันอยากให้แกกลับไปเพราะ ฉันจะได้ให้แกรับใช้ แต่ฉันรีบวิ่งหนีออกมาด้วยอาการสั่นกลัว พวกทหารของตระกูลที่มากับนางสงสัยพี่มาร์ฟ่าจะให้ตามนางเพราะกลัวนางเป็นอะไร ฉันหนีออกมาไม่ทันได้ระวังก็ได้ถูกทหารม้าของพระราชวังทับเสียชีวิต ฉันได้กลับมาเกิดใหม่ชาตินี้เป็นชาติที่สาม และตั้งใจจะแก้แค้นให้ได้...

...สวัสดีคะคุณนักอ่านทุกท่านคะ เราชื่อเจ้หงส์ นามปากกา ...

...เจ้หงส์ J’Hong เป็นนักเขียนหน้าใหม่ยังไงก็ขอฝากผลงานเรื่อง...

...เกิดใหม่ชาตินี้ฉันต้องแก้แค้น...

...ด้วยนะคะ เอาละคะต่อมาเข้าสู่ช่วงแนะนำต้วละครกันคะ!! ><...

เซเกร์ เมล ไมเออร์ : ชื่อเล่น เมล น้องนางเอกของเราเองค่ะ!!(o^^o) น้องเมลนั้น เกิดใหม่ชาตินี้เป็นชาติที่สามแล้วคะ ขอให้ปะป๊าเฮร์ฟใจดีกับน้องด้วยนะคะ น้องเป็นเด็กดีมากเลย! ในชาติก่อนน้องเมลนั้นพลังเวทย์แทบจะไม่มีเลย เพราะโดนแม่เลี้ยงใจโหดบังคับให้น้องกินยาที่มีส่วนผสมของการแทรกแซงเวทย์มนต์น้องเลยไม่มีพลังเวทย์จนถึงปัจจุบัน แต่ในชาตินี้นั้นไม่ใช่น้องนั้นพกเอาพลังเวทย์มาเต็มเปี่ยมเลยละ!!

องค์ชายลำดับที่สองแอสทัส ฟรอเก็ต เดบูเลน : ชื่อเล่น แอสทัส พระเอกของเรื่องเองค่า!! น้องแอสทัสเองก็ลำบากไม่แพ้หนูเมลเลย เพราะน้องถูกเหล่าหอคอยมืดจับตัวไปพร้อมกับน้องสาวแสนน่ารัก!! ถูก พลัดพรากจากพ่อแม่ตั้งนานหลายปี

ดยุกเซเกร์ เฮร์ฟ ไมเออร์ : ชื่อเล่น เฮร์ฟ ท่านดยุกแห่งทิศเหนือเขตปกครองของเฮร์ฟ เป็นพ่อของน้องเมลเองค่ะ!! จะบอกว่าคุณพ่อ อายุสี่สิบ แต่ยังแจ๋วอยู่นะคะคุณผู้ชม!! อะแฮ่ม ๆ เข้าเรื่อง เฮร์ฟนั้นได้ตามหาเฟพาสและเมลมาตลอดเจ็ดปี !!

ดัชเชสเซเกร์ เฟพาส ไมเออร์ : ชื่อเล่น เฟพาส ดัชเชสแห่งทิศเหนือ เฟพาสเธอนั้นโดนมนต์ดำของหอคอยมืด! ในขณะที่เธอกำลังอุ้มท้องเมลอยู่หนึ่งปีต่อมาเธอก็ให้กำเนิดเด็กสาวทามกลางหิมะในฤดูหนาว ห้าปีต่อมาเธอก็ได้เสียชีวิต!!

เซเกร์ มาร์ฟ่า ไมเออร์ : ชื่อเล่น มาร์ฟ่า อายุสิบแปดปี ลูกชายคนโตของเฮร์ฟและเฟพาส ได้ข่าวว่าจะได้ขึ้นเป็นผู้นำตระกูลคนถัดไปต่อจากเฮร์ฟ กำลังจะเรียนจบจากอะเคเดมี่จักรวรรดิเดบูเลน ตอนนี้ทำงานสังกัดขององค์ชายรัชทายาทวีเซอร์ ฟรอเก็ต เดบูเลน

เซเกร์ เมฟ ไมเออร์ : ชื่อเล่น เมฟ อายุสิบเอ็ดปี ลูกชายคนรองของเฮร์ฟและเฟพาส ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ที่สถาบันอะเคเดมี่จักรวรรดิเดบูเลน ปีหนี่งห้องเรียนพิเศษนั้นเอง !!

องค์ชายรัชทายาทลำดับที่หนึ่งวีเซอร์ ฟรอเก็ต เดบูเลน : ชื่อเล่น วี หรือวีเซอร์ เป็นองค์ชายรัชทายาทที่จะขึ้นเป็นจักรพรรดิในวันข้างหน้า

องค์หญิงลำดับที่หนึ่งซัลเวีย ฟรอเก็ต เดบูเลน : ชื่อเล่น ซัลเวีย เป็นน้องสาวของพี่วีและพี่แอสทัสนั้นเองเป็นเพื่อนกับหนูเมลด้วย!

จักรพรรดิแอสเตอร์ ฟรอเก็ต เดบูเลน : ชื่อเล่น แอสเตอร์ เป็นพ่อของวี แอสทัส และซัลเวียนั้นเอง!! เป็นจักรพรรดิปกครองจักรวรรดิเดบูเลน และเป็นเพื่อนสมัยเรียนที่อะเคเดมี่ของเฮร์ฟและเฟพาสอีกด้วย

จักรพรรดินีจูเลีย ฟรอเก็ต เดบูเลน : ชื่อเล่น จูเลีย เป็นแม่ของวี แอสทัส และซัลเวียนั้นเอง!! เป็นจักรพรรดินีปกครองจักรวรรดิเดบูเลนช่วยแอสเตอร์อีกด้วย และเป็นเพื่อนสมัยเรียนที่อะเคเดมี่ของเฮร์ฟและเฟพาสอีกด้วย

ดยุกบีลุค แฮสเซส : ชื่อเล่น บี หรือ แฮสเซส ดยุกได้ฉายาว่า ดยุกแห่งความอมตะ บีนั้นปกครองที่ทิศใต้ และเป็นเพื่อนสมัยเรียนที่อะเคเดมี่ของเฮร์ฟและเฟพาสอีกด้วย

ดยุกเซอร์ลอง เวลล์ : ชื่อเล่น เวลล์ ดยุกผู้ได้ฉายาว่า ดยุกแห่งเวทย์มนต์ เวลล์ปกครองที่ทิศตะวันออก และเป็นเพื่อนสมัยเรียนที่อะเคเดมี่ของเฮร์ฟและเฟพาสอีกด้วย

ดัชเชสเมเบล ชาริอุส : ชื่อเล่น เมเบล ดัชเชสได้ฉายาว่า วีรสตรีแห่งสนามรบ เมเบลมีเขตปกครองที่ทิศตะวันตก และยังเป็นพี่น้องกับเฟพาสอีกด้วย!!

...ส่วนตัวละครอื่นๆ จะมีบทไม่ค่อยเยอะนะคะ ถ้ามีก็จะมาแนะนำอีกแน่คะว่ามีใครบ้าง!!(^o^)...

...สำหรับตอนที่ 1 จะมาในไม่ช้าแน่คะ\~\~...

...みんなさんどうもありがとうございます😊...

Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank youThank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank youThank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank youThank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank youThank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you Thank you

ตอนที่ 1 เข้าช่วยคุณหนู

ที่นี่ที่ไหนกัน เอ๊ะ เราจำได้ว่าตอนนั้นเราโดนม้าของพระราชวังทับตายนี้นะ งั้นชาติที่สามแล้วหรอให้ตายเถอะท่านเทพพระเจ้า ทำไมไม่ให้ฉันตายแล้วขึ้นสวรรค์ไปเลยเนี่ย !! แล้วว่าแต่ที่นี่เหมือนจะคุ้น ๆ แฮะ หรือว่าจะเป็นโรงค้าทาส !  ถ้าจำไม่ผิดชาติก่อนท่านพ่อมาซื้อค้าทาสไปนี้แล้วสัปดาห์ต่อมาท่านพ่อก็แต่งงานกับอารีแอน เราต้องขัดขวางไว้สภาพของเมลในตอนนี้ถูกล่ามโซ่ เนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยแผลทั้งตัว

"เอาละครับสินค้าชิ้นต่อไปคือบุตรสาวของตระกูลเซเกร์ เซเกร์ เมล ไมเออร์ ครับ ความสามารถพิเศษคือ การใช้เวทย์มนต์ ระดับกลางได้ครับ เด็กคนนี้เริ่มต้นที่ หนึ่งพันเหรียญทองครับ! " เด็กสาวอายุเจ็ดขวบถูกบริกรชายลากออกมากลางเวที ที่มีผู้คนมากมายกำลังจับจองเธออยู่ มีทั้งสายตาโลภมาก มีทั้งรังเกียจ แต่มีชายผู้นึงมองเด็กสาวที่กำลังหวาดกลัว ด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่นแบบแปลก ๆ ที่เด็กสาวไม่เคยรับมาก่อนในชาติที่แล้ว 

"ให้ตายสิทำไมเด็กนี่ถึงได้ราคาแพงหูฉีกขนาดนี้ ข้าว่าข้าคงสู้ไม่ไหหรอกใครไหวไปก่อนเลย" ผู้คนที่มาประมูลทาสเริ่มโวยวาย มีทั้งบอกว่าราคาแพงบ้าง ทุกคำสารพัดแต่มีชายผู้นึงชูป้ายสีทองอร่ามขึ้นมาทำให้ผู้คนมองไปทางเดียวกับผู้ชายที่ชูป้ายขึ้น

"ห้าพันเหรียญทองครับ!! มีใครให้มากกว่านี้อีกไหมครับ งั้นเราจะขอปิดการประมูลสินค้าใน ห้า สี่ สาม สอง หนึ่ง สินค้าเซเกร์ เมล ไมเออร์ ปิดการประมูลครับ !! ขอยินดีสำหรับผู้ที่ประมูลได้ด้วยครับ เชิญท่านตามบริกรหญิงไปทางด้านหลังเลยครับ" หึ หึ ในที่สุดก็เจอตัวสักทีตามหามาตั้งนานตั้งแต่เฟพาสแม่ของลูกไปจากดัชชี ชายผู้นั้นยิ้มออกมาเหมือนเจอของที่ตามหามานาน

แอ๊ดดด

เสียงประตูนั้นได้ถูกเปิดออกได้มีชายร่างสูงปกปิดใบหน้าเดินนำต่อด้วยชายหญิงเดินตามหลังมา

"เชิญคะท่านชาย ชิลล์ ไคเซอร์ นี้คือทาสของท่านคะเชิญตามสบาย...นี่รับใช้เจ้านายคนใหม่ให้ดีล่ะอย่าให้เดือดร้อน"  หลังจากที่บริกรหญิงเดินออกจากห้องไปแล้ว เอิ่มเราได้อยู่ด้วยกันสี่คนมันอึดอัดนะโถ่! ฉันก็ได้แต่บ่นนั้นแหละ แต่นี้ท่านพ่อหรอฉันแทบจำไม่ได้เลยเพราะว่าชาติก่อนท่านพ่อไม่เคยมองฉันด้วยซ้ำ

"อะ...เออ...คือสวัสดีนายท่านคะ"  จะ เจ้าปากไม่รักดีฉันจะพูดว่าสวัสดีท่านพ่อตั้งหากล่ะ 

"หื้อ...นายท่านเด็กคนนี้จะใช่คุณหนู ๆ จริงหรือครับ ทำไมสภาพตัวถึงได้มอมแมมขนาดนี้ไปโดนอะไรมาบ้างเนี่ย" พ่อขอโทษที่รักษาเฟพาสกับลูกไม่ได้ลูกต้องเจออะไรมาบ้างตลอดเจ็ดปีกันนะเรื่องนี้ต้องสืบแล้วล่ะ เรื่องนี้ต้องมีลับลมคมในเป็นแน่

"สวัสดี หนูน้อยตอนนี้ได้เวลานอนของเด็กแล้วนะ เฌอร่า...จงหลับ" จากนั้นฉันก็หลับโดยที่ไม่รู้ตัวและอยู่ในอ้อมกอดอันอบอุ่น

"เอาล่ะก่อนกลับดัชชี เรามาสะสร่างงานกันดีกว่า มาเชลเจ้าไปเตรียมทหารล้อมที่นี้ไว้เราออกไปแล้วจัดการเลย ส่วนรีย์เชลเจ้ามากับข้า"

"รับทราบครับ/คะท่านดยุก" หลังจากนั้นเหตุการณ์ทำลายสถานค้าทาสและค้าบริการที่ผิดกฎหมายก็ได้เริ่มขึ้นเหล่าผู้คนมากมายที่มาค้าทาสก็ไม่รอดเพราะท่านดยุกแห่งทิศเหนือลงมาดูเองกับมือ ผู้คนที่ร่ำรวยพากันมาค้าทาสและซื้อบริการกันถ้วนหน้า จนเป็นกลายเรื่องปกติไปแล้ว 

"บุกเข้าไป!! อย่าให้เหลือรอดแม้แต่คนเดียวจับส่งพวกมันไปที่ดัชชี ทหารที่ว่างอยู่ให้ไปช่วยเหลือผู้ต้องขังที่ถูกจับมาให้ปลอดภัย" ทำงานได้ดีกว่าที่คิดนะมาเชลเนี่ย

"ท่านดยุกคะ ดิฉันว่ารีบไปกันเถอะคะ ก่อนที่คุณหนูจะโดนลูกหลง" 

"อืม" จากนั้นท่านดยุกและผู้ติดตามก็ได้ออกมาหลบอยู่ภายในป่าไม่ใกล้ไม่ไกลจากสถานค้าทาส

"ไม่นะดัชชีอย่างงั้นหรอ หรือว่าจะเป็น...ดัชชีของท่านดยุกเซเกร์ เฮร์ฟ ไมเออร์ ว่าแต่ท่านดยุกรู้ได้อย่างไรว่าพวกเราอยู่ที่สถานค้าทาส"

"ก่อนที่จะถามว่ารู้ได้อย่างไรเราต้องรีบหนีก่อนจะถูกส่งตัวไปดัชชีจะเจ้าพวกโง่!" ให้ตายเถอะ ทำไมถึงเสียงดังขนาดนี้นะข้าอยากรีบกลับไปหาภรรยาสุดสวยของข้าแล้วนะ สงสัยต้องรีบจัดการซะแล้วอยากไปหาเมียเว้ยยยยย!!!

ไม่กี่นาทีต่อมาภารกิจปราบปรามสถานค้าทาสและค้าบริการก็สำเร็จลุล่วง หลังจากนั้นผู้คนที่มาประมูลทาสและค้าบริการก็โดนจับและถูกส่งตัวไปที่ดัชชีก่อนหน้านี้ส่วนผู้ต้องขังที่ถูกจับมาค้าทาสและบริการก็ถูกส่งตัวไปยังสถานที่ที่ปลอดภัยแล้ว ระหว่างนี้พวกทหารที่เหลือก็เดินทางกลับดัชชีพร้อมกับท่านดยุก

"เม...เมล...เมล ไม่เป็นไรใช่มั้ย นี้ทานยานะจะได้หาย" เสียงเด็กผู้ชายอายุประมาณแปดถึงเก้าขวบเรียกเมลในความฝันก่อนที่เด็กน้อยจะลืมตาตื่นนอนจากความฝันที่คุ้นเคยเมื่อตะกี้นี้

"ลูกตื่นแล้วหรอ? ตอนนี้เรากำลังกลับดัชชีกัน ลูกอยากทานอะไรมั้ยเดี๋ยวพ่อให้ทหารไปซื้อให้" จริงด้วยสินะเรานอนหลับไปเพราะเวทย์มนต์ของท่านพ่อนิ แต่ทำไมท่านพ่อที่ไม่เคยสนใจฉัน กลับหันมามองเด็กที่เป็นภาระอย่างฉันกันล่ะไม่เข้าใจเลยจริง ๆ 

"นะ...หนูไม่หิวหรอกค่ะ" เด็กอย่างเมลในตอนนี้เป็นวัยที่กำลังโตเพราะฉะนั้นต้องให้ทานของที่มีประโยชน์ขนาดเราอุ้มมายังเบาขนาดนี้เลยถ้าใช้เทเลพอร์อาการจะไม่หนักเหรอก่อนอื่นต้องให้ลูกทานอะไรสักอย่างก่อน

"ไม่ได้ ลูกจะต้องทานอาหารครบห้าหมู่เพราะงั้นเราจะจอดรถม้าตรงเมืองที่อยู่ใกล้ ๆ นี้" ว่าแล้วตรงโดนท่านพ่อปฏิเสธ อ๊ะ... ทันใดนั้นก็มือที่ใหญ่กำลังจะลูบหัวเด็กน้อย ที่รู้สึกกลัวทำให้เด็กน้อยเผลอสบตากับผู้เป็นพ่อ ที่มีแววตาสีแดงสดกำลังมองเด็กน้อยด้วยความรู้สึกผิด 

"ทะ...ท่านดยุกคะเราจะไปที่ไหนกันหรอคะ" อึก!! ความรู้สึกที่เจ็บถึงทรวงอกนี้มันอะไรกันเราอยากให้เมลเรียกเราว่าท่านพ่อหรือไม่ก็พ่อเห้อ...สงสัยต้องรอเมลปรับตัวให้ได้อีกนิดหน่อย ไหน ๆ แล้วขอส่องพลังมานาของลูกหน่อย...นี้มัน

"ถึงแล้วครับท่านดยุก" เสียงของทหารชายที่ดูไม่ทุ้มแถมออกนุ่มนวลบอกกับท่านดยุกผู้เป็นนาย

"อืม...บอกรีย์เซลด้วยจัดเตรียมเสื้อผ้าของเมลและอาหารค่ำ" 

"ได้ครับ ท่านดยุกเดี๋ยวผมจะไปบอกรีย์เซลให้ตอนนี้ครับ" พูดเสร็จมาเชลก็รีบวิ่งไปบอกรีย์เซลและแยกย้ายไปทำหน้าที่ของแต่ล่ะคน 

"คุณหนูค่ะ เราไปอาบน้ำกันเถอะคะ" แย่แล้วถ้าพวกสาวรับใช้เห็นแผลล่ะก็จะ...ต้องถูกเกลียดแแน่เลยท่าทางของหนูน้อยที่สั่นกลัว

"ไม่เป็นไรคะ เดี๋ยวหนูอาบน้ำเองก็ได้ค่ะ" ถ้าสาวใช้เห็นแผลแบบนั้นล่ะก็...

"เอาสิ รีย์เชลก่อนที่เธอไปทำหน้าที่อื่นนำทางเมลไปห้องอาบน้ำก่อน" 

"รับทราบคะท่านดยุก ขออนุญาตอุ้มคุณหนูนะคะ" ฟึ่บ หญิงร่างสูงเรียวสวยอุ้มเด็กน้อยที่ตัวเล็กกว่า ตัวเบาจังแถมไม่ค่อยมีน้ำมีนวลเหมือนเด็กคนอื่น ๆ ด้วย ต้องบอกท่านดยุกให้เพิ่มปริมาณอาหารด้วยและทานอาหารให้ครบห้าหมู่เน้นไขมันกับผักน่าจะดี และหญิงสาวก็นำทางเด็กน้อยไปยังห้องน้ำ 

"ถึงแล้วคะคุณหนู แชมพูสระผมกับสบู่อาบน้ำสามารถหยิบใช้ได้ตามสะดวกเลยนะคะ สวนเสื้อผ้าดิฉันเตรียมไว้ให้แล้วนะคะ" 

"ระ...เรียกหนูว่าเมลเถอะคะ มะ...ไม่ต้องเรียกหนูว่าคุณหนูหรอกคะ"

"ได้สิจ๊ะ งั้นก็เรียกพี่ว่ารีย์เชลก็ได้นะจ๊ะ" จากนั้นไม่นานเด็กน้อยก็เข้าไปอาบน้ำแหละมีหญิงสาวจ้องมองดูด้วยความสงสารและตกใจมาก เพราะว่าเธอคิดว่าเด็กน้อยตรงหน้าเธอต้องเจออะไรมาบ้าง และเธอก็พอรู้เหตุผลที่เด็กน้อยคนน้ีไม่อยากให้เธออาบน้ำให้สักหน่อยแล้ว ไม่ใช่เพราะว่ากลัวโดยรังเกียจแต่เพราะเธอนั้นอายที่จะให้คนอื่นเห็นร่างเล็กที่เต็มไปบาดแผล มีทั้งแผลสดที่พึ่งได้มาไม่นาน แผลติดเชื้อ รอยโดนฝาดรอยชำรอยโดนทำร้าย หลังจากนั้นเธอก็ได้รู้ว่าเด็กคนนี้คงผ่านอะไรมามาก หญิงสาวได้รีบออกไปบอกดยุกผู้เป็นนายของเธอโดยที่ไม่ให้เด็กหญิงผู้หน้าสงสารคนนี้รู้ตัว

ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูได้ดังขึ้น

"เข้ามา"

"ดิฉันเองคะท่านดยุก" หญิงสาวร่างเล็กเรียวทำใจให้สงบก่อนที่จะเข้าห้องท่านดยุกผู้เป็นนาย

"รีย์เชลเหรอ มีอะไรเรื่องเมลรึเปลา เกิดอะไรขึ้น" 

"ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นค่ะท่านดยุก ดิฉันแค่จะมาแจ้งเรื่องของคุณหนูเมลคะ" 

"เชิญนั่งก่อนสิ" หญิงสาวได้เดินเข้ามานั่งที่โซฟายาวตัวใหญ่

"เรื่องอะไร"

"ก่อนอื่นดิฉัน ได้เห็นตอนที่คุณหนูอาบน้ำ ที่ตัวเต็มไปด้วยแผล ดิฉันก็พอจะทราบสาเหตุที่คุณหนูไม่อยากให้ดิฉันอาบน้ำให้แล้วคะ เพราะอาจจะกลัวหรืออายถ้าคนอื่นมาเห็นสภาพของตัวเองที่เต็มไปด้วยรอยแผลคะ ดิฉันมีน้องสาว ที่อายุพอ ๆ กับคุณหนูอยู่คนนึงนะค่ะ อาจจะเป็นเพื่อนกับคุณหนูได้ แล้วก็อีกเรื่องคะ เป็นเรื่องอาหาร ดิฉันจะให้พ่อครัวทำอาหารที่เหมาะสมกับวัยของคุณหนูคะ เพราะเด็กวัยนี้จะเจริญเติบโตได้เร็วคะ พอถึงดัชชีแล้วดิฉันอยากจะให้คุณหนูปรับตัวเข้ากับสถานที่ก่อนคะ แล้วค่อยเรียกหมอเชาว์มาดูอาการของคุณหนูคะ"

"หมอ?" 

"ใช่คะ ดิฉันคิดว่าสภาพจิตใจของคุณหนูก็อาจจะย่ำแย่ ไม่ต่างอะไรกับร่างกายหรืออาจจะหนักกว่านั้นคะ เลยจะติดต่อหมอเชาว์ให้มารักษาให้คะ เพราะในตอนที่คุณหนูยังไม่เกิดและ ตอนที่ดัชเชสกำลังหลบหนีจากหอคอยมืด แล้วเวทย์ประจำตระกูลอาจจะใช้การไม่ค่อยได้เนื่องจากติดมนต์ดำ แต่ดิฉันยังไม่ทราบสาเหตุที่ท่านเสียชีวิต"

"งั้นเอาตามที่เจ้าบอกแล้วกัน ส่วนเรื่องหมอเชาว์เดี๋ยวเราจะทำการติดต่อให้ แล้วก็เรื่องดัชเชสเราเจอศพแล้วจะนำไปฝั่งไว้ที่ชั้นใต้ดินของดัชชี ไม่นานมานี้ทางจักรวรรดิจะจับเราแต่งงานกับอารีอะไรสักอย่างน้ีแหละ แต่เราปฏิเสธไปทางจักรวรรดิก็รับเรื่องแล้ว จากนั้นผู้หญิงคนนั้นก็ตามไม่หยุด เจ้าพอจะมีวิธีไหม"

"ดิฉันก็คิดไม่ออกหรอกคะท่านดยุก งั้นลองไปถามคุณชายทั้งสองและคุณหนูดูมั้ยล่ะคะ เผื่ออาจจะช่วยท่านดยุกได้นะค่ะ"

"นั้นสินะ ขอบใจเจ้ามากตอนนี้ก็ดึกมากแล้วเจ้าเองก็ไปพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้ต้องเดินทางแต่เช้า" 

หลังจากนั้นหญิงสาวได้ออกจากห้องของผู้เป็นนาย เดินกลับไปยังห้องของตัวเอง

"เมล...พ่อไม่รู้ว่าลูกต้องเจออะไรมาบ้าง ระหว่างที่แม่หนีไป พ่ออยากขอโทษลูกมาตลอด พ่อไม่รู้ว่าต้องปรับตัวเข้าหาลูกยังไง เห้อ...เรานี่เป็นพ่อที่ไม่ได้เรื่องจริง ๆ ขนาดตามหาลูกมาตั้งนานอุตส่าห์...เจอลูกแล้วแท้ๆ" 

พ่อ ไม่ใช่ว่าหนูไม่อยากคุยกับพ่อนะ แต่หนูไม่นึกว่าพ่อจะเป็นห่วงขนาดนี้ เพราะที่ท่านพ่อพูดมาทั้งหมดหนูได้ยินหมดทุกคำ หนูขอโทษนะคะ ทันใดนั้นก็ได้มีมือปริศนามาลูบหัวเด็กน้อยและก็ได้หลบไหลไปราวกับโดนมนต์สะกดอยู่ไหนห้วงนิทรา แล้วเงาผู้หญิงผมสีขาวยาวนั้นก็ได้หายไป 

แอ๊ดดด เสียงเปิดประตูออกอย่างช้า ๆ 

"เมลทำไมลูกมานอนอยู่ตรงนี้ล่ะ งั้นคืนนี้นอนมากับพ่อนะ" ท่านดยุกผู้แสนเย็นชาและเงียบขรึมได้อุ้มเด็กน้อยมายังเตียงของตัวเอง "จริงด้วยต้องส่งจดหมายไปหามาร์ฟ่าก่อน อัญเชิญสหาย 'ลากอส' นำจดหมายนี้ไปส่งให้มาร์ฟ่าที่ดัชชีแล้วบอกให้เตรียมห้องนอนของเมลเอาไว้ด้วย" ไม่นานหลังจากที่เฮร์ฟพูดจบลากอสผู้เป็นสัตว์เวทย์และสหายก็ได้หายตัวไปอย่างกับฝุ่น...

"นายท่าน...เมื่อกี้คุณหนูได้ยินที่นายท่านพูดหมดแล้ว นายท่านจะเอายังไงต่อ"

"ก็คงต้องบอกเรื่องเฟพาสให้เมลรู้ เฟพาสบอกว่ามีอะไรก็ให้คุยกันอยู่ด้วย เจ้ากลับเข้าไปได้แล้วกิม" หลังจากนั้นกิมสัตว์เวทย์ก็ได้หายไป

วันต่อมา 

"อืออออ...ง่วงจัง เอ๊ะ ที่นี่ไม่ใช่ห้องนอนเรานิ" เด็กน้อยกำลังสะลึมสะลือลืมตาตื่นยังไม่เต็มที่

"ลูกตื่นแล้วหรอ เมื่อวานพ่อเห็นหนูนอนอยู่หน้าของห้องพ่อ พ่อก็เลยพามานอนด้วย เดี๋ยวลูกลุกมาอาบน้ำนะ พ่อจะเตรียมชุดที่หนูจะใส่ไว้ตรงนี้นะ ทานอาหารเช้าเสร็จ เราจะได้ออกเดินทางกันเพราะมีพี่ ๆ ของหนูกำลังรอหนูกลับบ้านจนแทบใจจะขาดแล้ว" ท่านพ่อพูดจบฉันก็ลุกไปอาบน้ำก่อนที่จะลุกไปฉันก็ไม่ลืมที่จะพับผ้าห่ม เหมือนเป็นนิสัยติดตัวไปแล้วล่ะมั้ง

ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นขณะที่เด็กน้อยกำลังอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาด

"ท่านดยุกครับมีจดหมายตอบมาจากคุณชายใหญ่ครับ" เสื้อผ้าเด็กผู้หญิง? สงสัยท่านดยุกจะพาคุณหนูมานอนด้วยแน่ ๆ 

"หื้ม...จดหมายจากมาร์ฟ่าหรอ ส่งมาเร็วกว่าที่คิดอีกแหะ ที่แรกคิดว่าจะพาเมลไปเซอร์ไพร์ถึงดัชชีสักหน่อย" ทหารได้ส่งจดหมายให้ท่านดยุกผู้เป็นนายได้อ่าน 'ตาแก่ในที่สุดเราก็หาน้องเจอแล้ว ลำบากแทบตายเลยแต่เพื่อน้องถึงผลิกแผ่นดินหาก็ต้องหาให้เจอ จริงด้วยห้องนอนของน้องฉันได้เตรียมเอาไว้ให้แล้วนะไม่ต้องห่วง วันพรุ่งนี้ฉันกับเมฟไม่ได้มีภาระกิจออกไปไหนจะอยู่ต้อนรับน้องกลับบ้าน ฉันก็ให้หัวหน้าพ่อครัวทำอาหารที่อร่อยมาก ๆ ไว้ให้แล้ว ทางนี้ไม่ต้องห่วงให้ตาแก่กับน้องเดินทางปลอดภัยก็พอ จาก เซเกร์ มาร์ฟ่า ไมเออร์ ผู้ส่ง' หึ ก็เหมาะสมกับเป็นผู้ที่จะขึ้นเป็นผู้นำตระกูลคนต่อไปนะ "จงเป็นโล่ที่ปกป้องตระกูล จงเป็นหมาป่าที่ดุร้าย จงเป็นผีเสื้อที่อ่อนโยน" 

"ท่านดยุกพูดว่าอะไรครับ"

"ไม่มีอะไรหรอกเจ้าออกไปได้แล้ว" สิ้นสุดคำพูดของผู้เป็นนายทหารก็ได้เดินออกไป เด็กน้อยก็ได้อาบน้ำแต่งตัวเสร็จพอดี

"ทะ...ท่านพ่อ หนูเสร็จแล้วเราไปทานอาหารได้เลยใช่ไหมค่ะ" เด็กน้อยถามผู้เป็นพ่อที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่

"เมื่อกี้ลูกเรียกพ่อว่ายังไงนะ" ชายที่ร่างใหญ่ รีบวางหนังสือพิมพ์ลงไว้บนโต๊ะและรีบเดินไปทางเด็กน้อยที่เรียกเขาว่า ‘ท่านพ่อ’ ด้วยอาการดีอกดีใจอย่างกับเด็กที่ได้ของขวัญ

"หนูถามท่านพ่อว่าเราไปทานอาหารด้วยกันได้เลยใช่ไหมคะ" เด็กน้อยได้ถามผู้เป็นพ่ออีกครั้งด้วยอาการที่สั่นกลัวเหมือนเจอสิ่งที่น่ากลัว

ฟึ่บ มือใหญ่ก็ได้ลูบหัวเด็กน้อยเป็นนัยต์ว่าไม่ต้องกลัวเขานะ

"อืม เราไปกันเถอะ ปานนี้ท้องของลูกน่าจะหิวแล้ว"

อีกด้านนึงทางทิศเหนือของจักรวรรดิ มีดัชชีที่อยู่ของดยุกผู้เหี้ยมโหด และเหล่าลูกชายของเขาทั้งสองคน ผู้ที่กล่าวได้ว่า เป็นบุคคลอันตรายรองจากท่านดยุก คือลูกชายคนโตมีแววตาสีแดงอมส้มผมสีดำราวกับความมืดที่มืดมิด ผู้นำตระกูลเซเกร์คนต่อไปทำงานเป็นผู้ช่วยองค์ชายรัชทายาทแห่งจักรวรรดิ เดบูเลน ที่ทำงานไม่เคยขาดตกบกพร่องแม้แต่งานเดียวขึ้นชื่อว่าโหดจนคุมองค์รัชทายาทได้อยู่หมัด เซเกร์ มาร์ฟ่า ไมเออร์ ต่อมาลูกชายคนรองหน้าตาสดใสมีดวงตากลมโตสีส้มอมแดงเล็กน้อย มีผมสีดำอมเทายาวถึงบาไหล่ เป็นนักเวทย์ประจำตระกูล เรียนที่อะเคเดมี่จักรวรรดิเดบูเลน อะเคเดมี่ประจำจักรวรรดิ พลังเวทที่สูงจนควบคุมได้ยากถูกท่านดยุกส่งไปที่หอคอยเวทเคนส์เพื่อควบคุมพลัง เซเกร์ เมฟ ไมเออร์ ทั้งสองขึ้นชื่อว่าเหี้ยมโหดรองลงมาจากท่านดยุก แต่ในตอนนี้พวกเขาทั้งสองคนกำลังดีใจที่ท่านพ่อกำลังพาน้องสาวที่พรากจากกันนานไปหลายปีกลับมา แน่นอนว่าบุคคลสำคัญของดัชชีจะกลับมาทั้งทีก็ต้องมีงานฉลองกันบ้าง ตอนนี้พวกเขาได้จัดเตรียมห้องเตรียมห้องนอนที่เต็มไปด้วยสีชมพูอ่อนผสมผสานกับสีขาวเล็กน้อยทำให้ห้องนอนไม่ดูสบายตาจนเกินไป พวกเขาสองคนคิดเล่น ๆ ว่าน้องสาวที่น่ารักจะต้องชอบมันเป็นแน่ ไม่พ้นสายตาของสาวใช้และทหารประจำตระกูลที่กำลังดูพวกเขาสองพูดคุยกันอย่างเป็นธรรมชาติพากันดีใจยิ้มแก้มปริ กันออกมาอย่างล้นเหลือและพากันคิดว่าเด็กน้อยคนนี้จะนำความสุขกลับมาสู่ดัชชีอีกครั้งเป็นแน่

ตอนที่ 2 กลับบ้านกัน

ดัชชีแห่งทิศเหนือนั้นเป็นสถานที่ที่ผู้คนไม่อยากเข้าใกล้เพราะมีท่านดยุกผู้เลื่องชื่อเรื่องความเหี้ยมโหดนั้นก็คือ ดยุกเซเกร์ เฮร์ฟ ไมเออร์ หลังจากที่เขาสูญเสียดัชเชสเซเกร์ เฟพาส ไมเออร์ไปก็ได้หันหลังให้กับสงคราม ถ้าพูดถึงสงครามต้องมีชื่อดยุกผู้ลุกขึ้นมาจากความตายนั้นคือ เซเกร์ เฮร์ฟ ไมเออร์ จนทำให้ลูกชายคนโตคือเซเกร์  มาร์ฟ่า ไมเออร์ ศึกษาดูงานการดำรงตำแหน่งว่าที่ดยุกตั้งแต่ยังน้อย ส่วนลูกคนรองเซเกร์ เมฟ ไมเออร์นั้นพลังเวทย์เกินขีดจำกัดเลยถูกท่านดยุกส่งไปหอคอยเคนส์ตั้งแต่ยังเด็ก ส่วนลูกสาวคนเล็กนั้นหายสาปสูญไป จนท่านดยุกนั้นล้มเหลวกับการหาตัวลูกสาวไปแล้วหลายรอบจนวันหนึ่งท่านดยุกได้ไปตรวจสถานค้าทาสและบริการที่ผิดกฎหมายและได้เจอเด็กที่คาดว่าจะเป็นลูกของเขา มันเป็นสิ่งที่ไม่น่าจะเหลือเชื่อ แต่เขานั้นสามารถสัมผัสได้ว่าเด็กน้อยที่อยู่ตรงหน้าเขานี่แหละเป็นลูกสาวของเขาที่ตามหามาเนิ่นนาน 

ณ ดัชชีคฤหาสน์สถานที่กว้างใหญ่มองไปทางไหนก็มีแต่สถานที่สวยงามตั้งแต่ทางเข้า ทางเข้านั้นเต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาพรรณ น้ำพุที่คอยเติมความชุ่มฉ่ำให้แก่ดอกไม้นานาชนิด ทางเข้าคฤหาสน์นั้นเต็มไปด้วยทหารของตระกูลที่คอยคุ้มกันไม่ให้คนที่มีพิษมีภัยเข้ามาดั่งดัชชีสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่สูงส่ง ภายในดัชชีตกแต่งไปด้วยของสวยหรูต่าง ๆ  มีประดับด้วยดอกไม้สดสวยแสนหอมหวาน มีห้องมากมายห้องฝึกซ้อมไว้ใช้สำหรับทหารที่จะมาฝึก ห้องปฐมพยาบาลไว้ใช้สำหรับรักษา ห้องครัวไว้ใช้สำหรับประกอบอาหาร ห้องนอนที่มีหลายห้อง ห้องน้ำที่อยู่ในตัวของแต่ละห้อง ห้องรับประทานอาหาร ห้องทำงาน ห้องเรียนพิเศษ ดัชชีเป็นที่ที่ไม่ใช่ใครที่ไหนจะเข้ามาได้ นั้นคือดัชชีแห่งทิศเหนือแน่นอนถ้าใครได้ก้าวเข้าไปแม้แต่ก้าวเดียวก็จะไม่ได้ออกมาเจอกับโลกภายนอกอีกเลย มีทั้งผู้คนที่อยู่ต่างเมืองเล่ากันปากต่อปากทั้งดัชชีเป็นสถานที่โหดร้ายบ้าง ท่านดยุกจับผู้คนไปเข่นฆ่าบ้าง นั้นเป็นความเท็จทั้งหมดเหล่าประชากรในการปกรองของท่านดยุกนั้นล้วนแต่เชื่อใจท่านดยุกว่าในการปกครองท่านดยุกของพวกเขานั้นทำได้ดีไม่เคยขาดตกบกพร่องเลยแม้แต่งานเดียว ส่วนเรื่องเข่นฆ่าผู้คนนั้นท่านดยุกของพวกเขานั้นได้ทำก็จริง เนื่องจากพวกเขามีความผิดท่าน

ดยุกเลยลงโทษถึงเหล่าประชากรทางทิศเหนือนั้นจะไม่คอยชอบใจที่ท่านดยุกของพวกเขาฆ่าคนแต่มันช่วยไม่ได้ จนถึงทุกวันนี้บ้านเมืองยังสงบสุขดี

ระหว่างที่กำลังเดินทางกลับดัชชีหนูน้อยก็ได้ตื่นเต้นกับอะไรหลาย ๆ และในระหว่างนั้นท่านดยุกผู้เป็นพ่อได้สอนเวทย์มนต์พื้นฐานไว้ให้ หนูน้อยก็ตั้งใจดูอย่างตั้งใจและตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน ทั้งสองคนพ่อลูกได้คุยกันอย่างสนุกสนาน โดยมีมาเชลและรีย์เชลคอยมองดูห่าง ๆ และยิ้มกันตลอดทางรถม้านั้นได้เดินทางมาถึงดัชชีเป็นที่เรียบร้อยและได้มีผู้คนทั้งดัชชีออกมาต้อนรับการกลับมาของผู้เป็นนายและน้องเล็กสุดของตระกูล ได้มีคุณชายทั้งสองคนได้รีบวิ่งมาคนนึงดูโตอายุสิบแปดปี ส่วนอีกคนร่างเล็กอายุประมาณสิบเอ็ดปีรีบวิ่งมาทันทีที่รถม้านั้นหยุดลง แสดงให้เห็นถึงความดีใจของคุณชายทั้ง สองที่กำลังยิ้มหน้าบานและได้ชวนน้องสาวของเขาคุยเล่นกัน

"หนูน้อย ๆ ชื่ออะไรเอ่ย" ชายที่ดูโตกว่าถามเด็กน้อย

"หนู...เซ...เซเกร์ เมล ไมเออร์" หนูน้อยเมลตอบด้วยท่าทางที่สั่นกลัว

"เป็นชื่อที่ไพเพราะมากเลยนะครับ" เด็กผู้ชายที่ดูโตฉันกว่านิดหน่อยพูดเสริมขึ้น

“สองคนนี้เป็นพี่ชายของลูกนะเมล คนผมสั่นตัวสูงนั่นชื่อมาร์ฟ่า ส่วนคนผมยาวบ่าไหล่นั่นชื่อเมฟ ทำความรู้จักกันไว้ให้ดีล่ะ”

มาร์ฟ่ากับเมฟฝากเมลด้วยเดี๋ยวพ่อจะต้องไปประชุมหารือกับผู้นำตระกูลทั้งสี่ทิศก่อน" ทันทีที่ท่านดยุกพูดจบก็อุ้มเมลแล้วส่งต่อให้กับมาร์ฟ่าทันที

"ผู้นำระกูลไปที่นั่นกันหมดแล้วเหรอ จะไม่ให้ฉันไปแทนแน่นะ ตาแก่พึ่งกลับมาเหนื่อย ๆ ควรพักก่อน"

"ไม่ต้องหรอกเพราะเรื่องนี้มีส่วนเกี่ยวที่ทำให้เฟพาสตาย ฉันจะต้องรายงานให้จักรพรรดิและจักรพรรดินีทราบด้วยตนเอง ลูกนะดูแลเมลกับเมฟไว้ให้ดีก็พอ" หลังจากนั้นท่านดยุกก็ได้ขึ้นรถม้าไปต่อสถานที่แห่งนั้นทันที สถานแห่งนั้นคือ...

ณ พระราชวังจักรวรรดิเดบูเลน จักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ได้มีจักรพรรดิและจักรพรรดินีปกครองเมืองมาอย่างสงบสุข โดยมีเหล่าผู้นำตระกูลทั้งสี่ทิศได้ปกครองในแต่ละทิศ โดยทิศเหนือเขตปกรองดยุกเซเกร์ เฮร์ฟ ไมเออร์ ดยุกผู้มาจากความตาย ทิศใต้เขตปกครองดยุกบีลุค แฮลเซส ดยุกแห่งความอมตะ ทิศตะวันออกเขตปกรองดยุกเซอร์ลอง เวลล์ ดยุกแห่งเวทย์มนต์ และทิศตะวันตกเขตปกครองดัชเชสเมเบล ชาริอุส วีรสตรีแห่งสนามรบ ทั้งสี่ระกูลได้ชื่อว่า สุนัขรับใช้ของจักรวรรดิ แน่นอนว่าเหล่าราษฎรพากันพูดปากต่อปากไปแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย แต่ความจริงแล้วจักรพรรดิและจักรพรรดินีกับเหล่าผู้นำตระกูลทั้งสี่นั้นเป็นเพื่อนกันสมัยเรียนอะเคเดมี่ จักรพรรดิและจักรพรรดินีให้ความช่วยเหลือเรื่องงานไม่ขาดตกบกพร่องแม้แต่เรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ แต่เมื่อหลายปีก่อนมีการบุกรุกทำลายของหอคอยมืดและได้มีดัชเชสเซเกร์โดนลูกหลงจากการทำลายจักรววรดิ แต่โชคยังดีที่จักรวรรดินั้นไม่เป็นอะไรมาก แต่ดัชเชสนั้นเบี่ยงเบนความสนใจไปที่ตัวเธอเองเธอนั้นไม่ได้อยู่คนเดียว แต่เธออุ้มท้องสิ่งมีชีวิตตัวน้อยที่ยังไม่ทันได้ลืมตาดูโลก เธอนั้นได้สู้อย่างสุดกำลังและอุ้มท้องเด็กหญิงตัวน้อย ๆ นี่ไว้ด้วยและเด็กหญิงได้ถือกำเนิดขึ้นดัชเชสนั้นร่างกายอ่อนแอลงทุกวันหลังจากคลอดเด็กหญิงคนนี้และในที่สุดห้าปีต่อมาเธอก็ได้เสียชีวิตลงในบ้านไม้ที่โทรมเกือบพังโดยมีเด็กหญิงตัวน้อยร้องไห้ออกมาข้างผู้เป็นแม่ ก่อนที่เธอจะเสียชีวิตนั้นได้บอกกับเด็กหญิงัวน้อยนี้ว่า

"จงมีชีวิตอยู่ต่อไปจนกว่าท่านพ่อจะหาเจ้าเจอ และเมลเจ้าจงอย่าอ่อนแออ จงอย่าก้มหัวให้ผู้ที่คิดร้าย จงยิ้มรับผู้จิตใจดี แม่จะขอมอบพลังทั้งหมดที่มีให้เจ้า และเจ้าจงเอาไปใช้ในทางที่ถูกต้อง" เด็กน้อยได้แต่พยักหน้าตอบรับไปและเธอก็ได้เสียชีวิตลงในฤดูหนาวแสนหนาวเน็บราวกับหิมะนั้นตกเพื่อเป็นการบอกลาหนูน้อยในวัยห้าปี 

และในที่สุดวันนี้ดยุกก็ได้หาลูกสาวตัวน้อยในวัยเจ็ดปีเจอแล้วและเขากำลังเข้าไปรายงานในพระราชวัง

อีกด้านในย่านสลัมข้างโบสถ์เซนต์พอลได้มีเด็กชายอายุประมาณแปดปี ได้กำลังนำยารักษาไปให้น้องสาวที่กำลังป่วยอยู่ในขนาดนี้ เด็กผู้ชายหน้าตาดูมอมแมม ตัวเต็มไปด้วยแผล เส้นผมสีเหลืองทองนัยตาสีฟ้าประกายระยิบระยับ มีรอยคล้ายวงศ์เวทย์ที่ด้านหลัง ส่วนเด็กผู้หญิงตัวน้อยที่นอนป่วยอยู่มีเส้นผมสีเหลืองทองนัยตาสีฟ้าเป็นประกายราวกับกำลังมองท้องฟ้าที่สดใสอยู่ มีรอยวงศ์เวทย์ที่หัวไหล่ เด็กญิงตัวน้อยได้ลุกขึ้นมาทานยาที่พี่ชายของเธอได้เตรียมเอาไว้ให้

"ซัลเวียเจ้าจะต้องหายในเร็ววันแน่" เด็กชายนั่งกุมมือของน้องสาวที่นอนอยู่บนเตียง

ณ พระราชวังจักรวรรดิเดบูเลน ภายในห้องประชุมส่วนตัวได้มีเก้าอี้ตัวหนึ่งที่เว้นว่างเอาไว้ มีใครผู้นึงถามขึ้นมา

"นี่ เฮร์ฟยังไม่มาอีกหรอปกติจะเห็นมานั่งเป็นคนแรกเลยนี่น่าาา" ชายผู้นึงได้เอ่ยถามขึ้นมา

"ช่วยไม่ได้นี่เพคะฝ่าบาท เฮร์ฟเขาอาจจะยุ่งอยู่ก็ได้นะเพคะเราจะไปเร่งเขาก็ไม่ได้นะเพคะ" เสียงหญิงสาวตอบขึ้นมา 

"ว่าแต่ตอนที่เดินเข้ามายังไม่เห็นเฮร์ฟเลยนะมีใครเห็นบ้างหรือเปล่าครับ?" ดยุกบีเอ่ยถามทุกคนเผื่อมีใครเห็นชายที่เขาเอ่ยเมื่อข้างต้น

"ไม่เห็นเลยครับ" บางคนพากันส่ายหน้าป็นนัยบอกว่าไม่เห็น

"ไม่ใช่ว่าเฮร์ฟเกิดอุบัติเหตุหรอกนะ งั้นเดี๋ยวเราจะไปบอกหัวหน้าอัศวินให้ประกาศตามหา" 

"ฝ่าบาทใจเย็นก่อนเพคะ เรายังไม่ทราบสาเหตุเลยแล้วอีกอย่างนี้ก็พึ่งผ่านไปแค่ยี่สิบนาทีเองเพคะ" หญิงสาวตอบ

"ใช่ นายควรหัดใจเย็นบ้างนะ แอสเตอร์" ชายที่พึ่งเดินเข้ามาทำเอาหลายคนภายในห้องประชุมอดเป็นห่วงไม่ได้ ชายที่พึ่งเข้ามาใหม่เดินไปนั่งก้าอี้ที่วางไว้เพราะเป็นเก้าอี้ประจำตัวของเขานะสิ

"เอาล่ะ ๆ ในเมื่อทุกคนมากันครบแล้วเรามาเริ่มประชุมประจำเดือนกันเลยดีมั้ย" ชายที่นั่งหัวโต๊ะได้ประกาศให้เริ่มประชุมข้างกันจะมีหญิงสาวหน้าตาสวยสดงดงามจะนั่งข้าง ๆ เพราะที่นั่งตรงนั้นจะเป็นที่ของใครไม่ได้คือของจักรพรรดิ และจักรพรรดินี

การนั่งประจำที่จะนั่งเรียงเป็นวงกลมตามโต๊ะโดยจักรพรรดิและจักรพรรดินีจะนั่งตรงหัวโต๊ะขวามือจักรพรรดิเป็นเก้าอี้ของดยุกเซเกร์ ถัดมาขวามือเก้าอี้ดยุกบี ซ้ายมือจักรพรรดินีเป็นเก้าอี้ดัชเชสเมเบล และสุดท้ายซ้ายมือเป็นเก้าอี้ดยุกเวลล์ จากนั้นการประชุมก็ได้เริ่มขึ้นแน่นอนว่าการประชุมครั้งนี้เป็นแค่การชี้แจงเกี่ยวกับปัญหาค้าทาสและบริการและการเกษตรเพียงเท่านั้นเอง

"การประชุมจบแล้วมีใครจะถามอะไรอีกไหมมม" จักรพรรดิเอ่ยขึ้นถาม

"เราเจอลูกสาวคนเล็กแล้ว และ...เจอศพของเฟพาสแล้วเช่นกัน" จากภายในห้องบรรยากาศที่เคยคึกคักตอนนี้กายเป็นบรรยากาศที่เงียบสงัดภายในชั่วพริบตา

"ละ...แล้วศพของเฟพาสละตอนนี้เป็นยังไงบ้าง" จักรพรรดินีเอ่ยถามขึ้นด้วยท่าที่ตกใจ

"ระหว่างที่ฉันมานี้ได้นำร่างของเฟพาสไปฝังไว้ที่สุสานชั้นใต้ดินของตระกูลเรียบร้อยแล้ว" จักรพรรดินีที่มีท่าทีตกใจก็ได้สงบลง

"งั้นไว้คราวหน้าพวกเราไปเยี่ยมเฟพาสกับลูกสาวนายได้ไหมเฮร์ฟ" เฮร์ฟได้ตอบรับด้วยการพยักหน้าเป็นการบอกว่าได้

"จูเลียเป็นอะไรไป ไม่สบายหรือ" แอสเตอร์ผู้เป็นจักรพรรดิเอ่ยถามเพราะกลัวว่าจูเลียของเขานั้นเป็นอะไรไป

"เปล่าหรอกเพคะฝ่าบาท เราแค่คิดถึงลูกเท่านั้นเองปานนี้ลูกเราทั้งสองคนจะเป็นอย่างไรบ้าง" ไม่ใช่ว่าเขาไม่คิดถึงลูกน้อยสองคนของเขานะ เขาพยายามตามหาแต่ยังหาไม่เจอให้เงาไปตามหาแล้วก็ยังไม่เจอให้ราซไปตามหาแล้วก็ยังไม่เจอขอแค่ปฏิหารเท่านั้นช่วยปกป้องแอสทัสและซัลเวียด้วย

ภายในห้องประชุมที่เงียบสงัดได้ยินเสียงร้องไห้ของจักรพรรดินีดังขึ้นทั่วห้องที่มีจักรพรรดิคอยปลอบ

"เมื่อก่อนเราเคยให้องค์รัชทายาทประกาศตามหาองค์ชายและองค์หญิงใช่ไหมค่ะ งั้นครั้งนี้พวกเราจะเป็นคนช่วยหาทั้งสองพระองค์เอง จูเลียไม่ต้องกังวลไปพวกเราจะพาลูกของเจ้าสองคนกลับมาอย่างปลอดภัยแน่นอน" ภายใต้คำบอกของดัสเชสแห่งทิศตะวันตกทุกคนภายในห้องประชุมก็พร้อมที่จะช่วยเหลือตามหาลูกทั้งสองของจูเลียที่หายไป หลังจากการประชุมประจำเดือนได้จบไป เหล่าดยุกและดัชเชสก็แยกย้ายกลับที่พักของตัวเอง

ณ ดัชชีแห่งทิศเหนือ 

"นี่เมลให้พี่พาไปดูห้องของน้องมั้ย" มาร์ฟ่าลูกชายคนโตเอ่ยขึ้นถาม

คงจะเป็นห้องเก่า ๆ โทรม ๆ เหมือนชาติก่อนแน่เล - เมลไม่ทันคิดจบมาร์ฟ่าก็ได้พามาในห้องที่ตกแต่งไปด้วยห้องสีชมพูอ่อนที่ดูสวยงามราวกับห้องของเจ้าหญิง

"เป็นไงเมลชอบห้องนี้ไหม" มาร์ฟ่าถามเด็กน้อยที่เขากำลังอุ้มอยู่

"นี่ห้องหนูเหรอคะ" เด็กน้อยถามด้วยความสงสัย

"ใช่ครับ นี่คือห้องของน้อง พวกพี่ได้จัดการตกแต่งด้วยตัวเองหวังว่าน้องจะชอบนะ" เมฟบอกเมลด้วยน้ำเสียงที่เรียบง่ายถึงปกติเขาจะไม่ค่อยชอบพูดก็เถอะแต่เพื่อน้องสาวของเขาแล้วเขาก็ยอม มือของเขาลูบหัวเจ้าตัวเล็กด้วยความเบามือ

"อือ หนูชอบมากเลยคะ เอ่อ...คือถ้าหนูเหงาหนูไปนอนกับพวกพี่ได้ไหมค่ะ" ฉันแค่ถามไปแบบนั้นแต่ก็ไม่ได้หวังตำตอบที่ดีนักหรอก ทำไมมาร์ฟ่ากับเมฟดูท่าทางเครียดจัง

"เอ่อ...ถ้าไม่ได-"

"ได้อยู่แล้วสิ ถ้าเมลเหงาไปนอนกับพวกพี่ได้นะหรือไปนอนกับท่านพ่อก็ได้พี่คิดว่าท่านพ่อต้องดีใจแน่เลยใช่ไหมเมฟ" มาร์ฟ่าตอบฉันและหันไปถามเมฟที่ยืนอยู่ข้าง ๆ 

"ใช่แล้วละน้องไม่ต้องกังวลไปหรอกครับ เอาละพวกพี่มาส่งน้องถึงห้องแล้วพักตามสบายเลยนะเดี๋ยวตอนเย็นพวกพี่จะพาไปทานอาหาร"

พี่มาร์ฟ่าที่อุ้มฉันไว้ก็ปล่อยลง ฉันก็กำลังเดินเข้าห้องของตัวเอง

"เดี๋ยวก่อนเมลพี่ยังไม่ได้รายเวทย์ให้น้องเลย" รายเวทย์?

"เวทย์หรอค่ะ?" เด็กน้อยหันหลังไปถาม

"ใช่ครับ มันเป็นเวทย์นำทาง ถ้ามีคนไม่ดีเข้ามาแล้วจะทำให้หลงทางในคฤหาสน์แห่งนี้ พวกพี่กับท่านพ่อก็เลยคิดเวทย์นำทางขึ้นมาใช้สำหรับคนในคฤหาสน์มาทางนี้สิ เดี๋ยวพี่จะรายเวทย์ให้" เมฟได้อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับเวทย์มนต์นำทางให้เมล

"ฟิกซ์ อาห์เลอร์ทัส" มีอะไรบางอย่างออกมากจากมือซ้ายของพี่เมฟน่ากลัวยังไงไม่รู้แฮะ

"ไม่ต้องกลัวหรอกครับน้องเมล เวทย์นำทางนี้จะเข้าไปในต้วของน้องจะไม่แทรกแซงหรือทำอันตรายต่อการใช้เวทย์มนต์ในอนาคตของน้องแน่นอนครับ" เมฟได้นำกิ่งไม้ก้านเล็กที่มีบางอย่างคล้ายคลึงกับเปลวไฟสีฟ้าออกมาทาที่หลังข้อมือซ้ายของฉันมันรู้สึกเย็น ๆ แปลก ๆ 

"มันเย็นใช่ไหมละครับ เวทย์นี่นะเป็นเวทย์ตัวเดียวกับที่รักษาแผลแต่ปรับเป็นสูตรเย็นเท่านั้นเองเอาล่ะเท่านี้ก็เรียบร้อยแล้วครับ"

"ขอบคุณคะ ท่านพี่เมฟ" หลังจากที่ท่านพี่ทั้งสองออกไปฉันก็ได้เข้ามาในห้องไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้ใช้ห้องแบบนี้แถมเป็นห้องที่มีห้องน้ำในตัวด้วยหื้ม...ฉันเดินไปที่เตียงมีหมีตัวใหญ่สีขาววางอยู่และมีจดหมายเขียนเอาไว้ 'ถ้าเมลได้อ่านจดหมายฉบับนี้พวกพี่ทั้งสองคนกับท่านพ่อรู้สึกดีใจมาก ๆ ที่เมลยังมีชีวิตอยู่ พวกพี่นั้นตามหาเมลมาตลอดเจ็ดปี ในที่สุดวันนี้เมลก็ได้กลับมาพวกพี่นั้นเฝ้ารอยคอยวันที่เมลมาอยู่ในดัชชีแห่งนี้เมลอยากทำอะไรก็ทำเลย อยากวาดรูป อยากทำอาหาร สถานที่แห่งนี้เป็นบ้านของเมลพวกพี่ขอแค่เมลมีความสุขพวกพี่ก็ดีใจแล้วตุ๊กตาตัวนี้พวกพี่กับท่านพ่อได้เตรียมเอาไว้ให้นะ' เด็กน้อยอ่านจดหมายก็ได้มีน้ำสีใสไหลลงมาอาบแก้มน้อยของเด็กน้อย ฉันตัดสินใจแล้วในชาตินี้จะต้องไม่ตายอีกเหมือนชาติที่แล้ว พวกท่านพี่ทั้งสองใจดีขึ้นเยอะเลย แต่ทำไมในชาติก่อนถึงไม่มองฉันเลยสักครั้งละ เอาเถอะเลิกคิดเรื่องปวดหัวพวกนี้แล้วนอนพักดีกว่า หวังว่าแอสทัสกับซัลเวียจะไม่เป็นไรนะซัลเวียยิ่งป่วยอยู่ด้วย

หลังจากที่มาร์ฟ่าลูกชายคนโตกับเมฟลูกชายคนรองออกมาจากห้องของเมลลูกสาวคนเล็กแล้วก็ได้คุยกันไปเรื่อยเปื่อย

"ท่านพี่คิดว่าน้องได้อ่านจดหมายหรือยังครับ" เมฟเอ่ยถามพี่ชายของเขาที่เดินอยู่ข้าง ๆ 

"อื้มมม พี่คิดว่าได้อ่านแล้วนะเมลจะเป็นยังไงนะ" มาร์ฟ่าได้ถามออกมาก่อนที่เมฟชายร่างเล็กจะเปลี่ยนเรื่องคุย

"แล้วท่านพี่ไม่ไปทำงานเหรอครับ ปานนี้องค์รัชทายาทไม่ตามหาหรอครับ" ร่างเล็กเอ่ยถามร่างสูงที่โตกว่า

"หึ เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงพี่ลางานมาแล้วปานนี้เจ้าวีนั้นคงสบายเลยแหละไม่ได้มีพี่คอยบ่นมันทุกวัน"

"แต่ก็ส่งจดหมายหาองค์ชายรัชทายาทหน่อยสิครับ เดี๋ยวเขาก็เป็นห่ว-โอ๊ะพูดไม่ทันขาดคำเลยนะครับ" ร่างเล็กของเมฟเอ่ยถามขึ้นแล้วท่าทางตตกใจที่มีบางอย่างเป็นเปลวไฟออกมา 

"จะมาโอ๊ะอะไรก็แค่จดหมายธรรมดา" ร่างโตพูดจบก็คว้าจดหมายตรงหน้าและจ้องอะไรบางอย่าง

"จะเป็นจดหมายธรรมดาได้ยังไงละครับท่านพี่ ดูก็รู้จดหมายว่าเป็นจดหมายขององค์ชายรัชทายาทลายลูกไม้สีน้ำเงินแบบนี้ไม่มีทางเป็นของจักรพรรดิหรือจักรพรรดินีหรอกครับท่านพี่" เมฟตอบไป

"แล้วก็ขอบใจมากไวท์เดี๋ยวส่งกลับไปทีหลังนะ" ร่างโตของมาร์ฟ่าตอบไวท์เจ้ามังกรตัวน้อยไปแล้วไวท์มังกรตัวน้อยก็หายไป

"แล้วเนื้อความในจดหมายว่ายังไงหรอครับท่านพี่" ร่างเล็กถาม

"ก็- เฮ้ยแล้วทำไมฉันต้องอ่านให้นายฟังด้วยเนี่ยเมฟ แล้วไม่ไปอะเคเดมี่หรือไง" ร่างโตรีบเก็บจดหมายเข้าไว้ในถุงกางเกงของตัวเองอย่างเร็วรวดเร็ว

"ท่านพี่ลืมแล้วเหรอครับ ว่าอะเคเดมี่ปิดเทอมเปิดเทอมอีกทีก็ฤดูหนาวท่านพี่ก็ยังไปรับผมเลยนี่แถมสาว ๆ ในโรงเรียนพากันกรี๊ดจนหน้าหนวกหูด้วย" เมฟบอกไปอย่างไม่สบอารมณ์เพราะเขานั้นไม่ชอบเรื่องที่วุ่นวายสุด ๆ ไปเลยละ

"งั้นผมไปทบทวนบทเรียนก่อนก็แล้วกันครับ" เมฟตัดบทพูดจบของตัวเองและเดินเข้าห้องของัวเองไปที่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากห้องของน้องสาวเขาส่วนมาร์ฟ่าก็เดินตรงมายังห้องทำงานของตัวเองและเปิดจดหมายอ่านที่เขาพึ่งได้รับจากองค์ชายรัชทายาทเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา 'ถึงเซเกร์ มาร์ฟ่า ไมเออร์ ผมขอขอบคุณจากใจจริงที่ช่วยตามหาน้องชายและน้องสาวของผม แต่ต่อไปนี้ผมจะขอเป็นคนหาด้วยตัวเองเพราะว่าผมนั่นก็มีส่วนเกี่ยวที่ทำให้น้องหายไป จากองค์รัชทายาทวีเซอร์ ฟรอเก็ต เดบูเลน' เจ้าบ้าบอกจะเป็นคนหาด้วยตัวเอง ฉันที่เป็นเพื่อนจะทิ้งเอาไว้ ทำไมก็เคยบอกไปแล้วว่าจะช่วยหาแอสทัสกับซัลเวียให้เจอให้ได้แล้วจะพากลับไปอย่างปลอดภัยช่วยกัน ฉันเข้าใจความรู้สึกของเจ้าบ้านั่นดี ความรู้สึกของน้องไม่รู้ว่าจะเป็นหรือตายฉันเคยเจอมาก่อนแต่เหตุการณ์ครั้งนั้นนายไม่ได้ผิดนะไอวีเจ้าพวกนั่นต่างหากที่จะลักพาตัวน้องของนายไปนี่ก็ผ่านมาสามปีแล้ว งั้นเดี๋ยวรอท่านพ่อมาก่อนดีกว่าเรื่องนี้สำคัญมากจะลงมือสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!