ณ พื้นที่ห่างไกลไร้ซึ่งความวุ้นวาย มีหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่งรอบๆหมู่บ้านมีป่าไฝ่ตัดกลางทางเข้าเมือง จาฟา เด็กสาวที่แต่เดิมทีไม่ได้เป็นคนในหมู่บ้านอยู่แล้ว เธอก็มีความแตกต่างจากชาวบ้านอยู่มาก
“จาฟา ไปขนฟืนให้แม่หน่อยสิจ๋ะ” ผู้เป็นมารดาเดินเข้ามาพูดกับจาฟา ในมือขอจาฟาถือซากของกระต่ายตัวเล็กอยู่ เธอเห็นมันนอนตายอยู่ที่เลยเก็บมาด้วย
“แม่ไปพักเถอะเดี๋ยวหนูจะก่อไฟให้...”
แม่ของจาฟายิ้มเธอเดินเข้ามาใกล้ก่อนหยิบซากกระต่ายในมือของจาฟามา “เจ้ากระต่ายนี่...น่าสงสารจริงๆ”
จาฟามองดูสีหน้าแม่ของตนเอง ถึงสิ่งที่ได้ยินกับแววตาที่เห็นมันจะขัดกันมากเพียงใด แต่จาฟาก็ไม่อาจที่จะตั้งคำถามที่สงใสแม่ของตนเองไม่ได้
ที่สวนจาฟายังคงคิดถึงการกระทำของผู้ที่เป็นมารดาอยู่เรื่อยไปจนไม่ทันระวังเผลอทำหลุดออกจากไหล่บางเล็กแถมไม้ฟืนยังคมจนบาดแขนของจาฟาจนเป็นแผลใหญ่
“เลือด..”
จาฟาไม่ได้ส่งเสียงร้องแต่อย่างใด เธอจองมองแผลยาวที่แขนก่อนจะก้มลงเก็บฟืนที่กระจัดกระจายอยู่ที่พื้น
“จาฟาทำไมแขนหนูถึงเป็นแผลล่ะ”ขณะนั้นมีหญิงสาวผู้หนึ่งเดินผ่านมาเธอรีบเข้ามาดูจาฟาในทันทีที่เห็นความไม่ถูกต้อง
“นี้บัวปล่อยให้ลูกสาวของตัวเองมาขนฟืนจนบาดเจ็บได้ยังไง!!?”
บัว...คือแม่ของจาฟา หญิงสาวพะยูงเธอขึ้นและพากลับไปที่บ้าน เมื่อเดินผ่านฝูนชนมากมายก็มีผู้คนไม่น้อยที่แอบซุบซิบว่าร้ายให้บัว
“ยัยบัวปล่อยให้ลูกต้องเจ็บตัวอีกแล้ว!!”
“นี้ไม่ใช่ครั้งแรกนะ” “จริงๆ”
จาฟาไม่ค่อยชอบนักที่มีผู้คนมาว่าร้ายให้แม่ของเธอแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ได้แต่ปล่อยเลยให้เป็นขี้ปากชาวบ้านอยู่เลื่อยมา
หน้าบ้านของบัวผู้คนต่างบอกให้บัวยกจาฟาที่เป็นลูกให้กับพ่อแท้ๆของเธอ หลังทำแผลที่แขนข้างซ้ายเสร็จจาฟาก็คิดที่จะออกมาดูข้างนอก
“จาฟา...” แม่ของเธอมาขวางประตูเอาไว้แววตาของนางยังคงหยาบกระด้างอย่างเช่นเคย แต่ที่แปลกไปนางค่อยๆใช้มือลูบที่ผมของจาฟาเบาๆ
“ทุกๆคนอยากให้ลูกไปอยู่กับพ่อ....” จาฟาส่ายหน้าอย่างเห็นได้ชัด เธอไม่อยากจะจากแม่ไปที่จริงแม้แต่หน้าพ่อแท้ๆคนนั้นเธอยังไม่เคยเห็น
“เอาเถอะเดี๋ยวว่างๆหนูก็มาเยี่ยมแม่ไง”บัวยิ้ม อันที่จริงจาฟาพึ้งย้ายมาที่นี้ตอนอายุ5ขวบ ที่ผ่านมาตลอด5ปีเป็นน้าของเธอที่เลี้ยงดู
แม้แต่น้าของเธอยังไม่อยากให้ตัวของจาฟาเองเข้าใกล้คนที่เรียกว่าแม่ด้วยสาเหตุบ้างอย่าง แต่เมื่อน้าของเธอเสียชีวิตลงการดูแลจึงตกมาเป็นของบัวผู้เป็นแม่
จาฟาเก็บของอย่างไม่เต็มใจนักพรุ่งนี้เช้าจะมีคนมารับตัวของเธอเข้าเมือง
ได้ยินมาอีกว่าแม่ของจาฟาจริงๆแล้วเคยเป็นเมียหลวงของพ่อ แต่เมื่อถูกใส่ร้ายก็กลายเป็นแค่เมียน้อยที่ถูกเมียหลวงทรมานจนเป็นบ้า เมื่อรู้ว่าบัวผู้เป็นเมียน้อยเกิดท้องจึงตามมาราวีไม่เลิกจนลูกคนแรกของแม่แท้ง
เมื่อบัวตั้งท้องจาฟาเธอจึงออกห่างจากผู้คน ตัดขาดจากพ่อและเมียหลวงของเขา
“ฉันเกลียดคนพวกนั้น ฉันจะทวงทุกอย่างกลับมาให้แม่ของฉัน ... ”
ในรุ้งเช้า จาฟาเพียงแค่นั้งรอให้คนของพ่อมารับในขณะนั้นเองแม่ของเธอก็ทำขนมอยู่ ในเวลาไม่นานมากมีชายหนุ่มคนหนึ่งท่าทางดูเรียบร้อยเดินเข้ามาผู้คุยกับคนในหมู่บ้าน
“คุณรู้จักเด็กผู้หญิงที่ชื่อว่าจาฟาไหมครับ”
“คุณคงมารับจาฟาสินะ นั้นไงเด็กคนนั้นนะ”หญิงแก่ชี้มาทางเด็กสาว ชายหนุ่มเดินเข้ามาหาจาฟาอย่างเร่งรีบ เด็กสาวมองหน้าหนุ่มคนนั้น
“พ่อให้คุณมารับฉันหรอ...”
“อืมใช่”ชายหนุ่มดูไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย เด็กสาวหันมองไปหาแม่ของตนที่กำลังโบกมือบอกลาจาฟาอยู่เด็กสาวยิ้มอ่อนๆให้ก็ผู้เป็นแม่ก่อนจะสะพายกระเป๋าอั้นใหญ่ไว้ที่หลัง
“ให้ผมถือ..”เด็กสาวงงแต่ก็ยอมยกกระเป๋าให้ พวกเขาทั้งสองเดินหายเข้าไปในป่าไฝ่เพราะที่นี่ล้อมไปด้วยป่าไฝ่ชายหนุ่มจึงเดินเข้ามาในตอนแรก
เมื่อทั้งสองถึงรถจาฟากลับไม่อยากจะไปไหนเลยเธอหันกลับไปมองที่ป่าไฝ่ที่ที่เธอจากมา
ไม่ได้...ฉันจะต้องไป
ไปเยียบย่ำพวกมันแก้แค้นให้แม่และพี่ของฉัน...
จาฟายิ้ม และขึ้นรถไป รถเริ่มขับออกไปมีแต่ความเงียบงันและกดดันอยู่ภายในรถเมื่อบรรยากาศไม่มีความปลอดโปร่งชายหนุ่มจึงเริ่มเอ่ยปากพูดขึ้น
“ฉันชื่อเรน ต่อจากนี่จะเป็นพี่เลี้ยงของเธอ...ส่วนเธอคือจาฟา”
“ทำไมฉันต้องมีพี่เลี้ยงทั้งที่ฉันก็มีพี่สาวอยู่แล้วด้วย!?”พี่สาวที่จาฟาเอ่ยถึงคือลูกของเมียหลวงเธออายุมากกว่าเธอแค่2ปีแม่ของจาฟาและนางตั้งท้องพร้อมกันในช่วยนั้น
“ฉันมีหน้าที่ดูแลเธอและพี่ของเธอให้ดี..”
“ฉันดูแลตัวเองได้”เพียงแค่เรนเอ่ยปากจาฟาก็พร้อมขัดอยู่เสมอ
ถึงบ้านของพ่อจาฟาถูกพาตัวไปทัวร์รอบๆบ้านมันอาจจะดูหน้าเบื่อสำหรับจาฟาไปหน่อยที่นี่มีคนรับใช้ไม่จำเป็นต้องทำงานด้วยตัวเอง เมื่อเดินดูรอบๆไปสักพักท้องจาฟาก็ร้อนขึ้นมาด้วยความหึว
เมื่อคืนไม่ได้กินตอนเช้าก็ไม่ได้กิน ... ถึงจะหึวแต่เพราะเธอเป็นพวกมีก็กินไม่มีก็ไม่กินจึงดูไม่เป็นปัญหาสำหรับจาฟาสักเท่าไหร่
“ฉันจะพาไปกินข้าวจะออกไปกินข้างนอกหรือจะกินในบ้านดีล่ะ”เรนถามขึ้นเพราะมันก็เป็นหนึ่งในหน้าที่ของเขาเช่นเดียวกัน
“ที่ไหนก็ได้”
“งั้นออกไปกินข้าวข้างนอก...”เรนยื่นมือไปให้จาฟาจับ
“ฉันไม่ใช่เด็กน้อยที่จะเดินหลงทางหรอกนะ”ความหวังดีของเรนหายไปในทันที
ก็ดี... ยิ่งเข้าหายากก็ยิ่งหน้าค้นหา...
เรนยิ้มจาฟาไม่เหมือนกับพี่สาวของเธอที่ต้องให้มาดูแลทุกๆอย่างแต่เพราะการกระทำทุกๆอย่างของจาฟานั้นทำให้ เคส พี่สาวของต่างแม่ของจาฟารู้สึกอิจฉาอยู่ไม่น้อย
“ผู้หญิงคนนั้นคือน้องสาวฉันหรอ ... ทำไมพี่เรนถึงดูมีความสุขตอนอยู่กับนางจังล่ะ!!?”
ช่วงเวลาบ่ายๆเรนและจาฟาเดินเข้ามาในบ้านในมือของพี่เลี้ยงมีถุงหลายใบแสดงให้เห็นว่าพวกเขาออกไปซื้อของกันมา
“อ่าวมาอยู่ที่นี่ได้ไม่ถึงวันก็เอาเงินไปซื้อของเป็นว่าเล่นเลยนะ ”
เคสเดินลงมาจากบันไดวนโค้งสีขาวดูสอาดตา เธอมาที่นี่เพื่อมาต้อนรับน้องสาวของเธอโดยเฉพาะเรนวางของทุกอย่างลงในใจมีความรู้สึกที่ว่างานนี่ยาวแน่ๆ
“ฉันก็ซื้อของที่จำเป็นต่อชีวิตฉันไง”
“อะเหรอสิ้นเปลืองจริงแค่ให้ลูกเมียน้อยอย่างเธอมาอยู่ด้วยก็บุญหัวแค่ไหนแล้วนี้ยังใช้เงินสิ้นเปลืองอีก”
จาฟากรอกตาไปด้านข้างแค่เห็นหน้าเคสไม่ถึงนาทีก็รู้สึกคันตาไปหมด“อยากจะล้วงลูกตาออกมาล้างทันทีเมื่อเห็นเธออยู่ ขวางหูขวางตาจริงๆ”
เรนหลุดขำออกมาเล็กน้อยนั่นทำให้เคสดูมีท่าทีที่โกรธเคืองยิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด “เธอ!! ฉันเป็นพี่เธอนะยัยบ้า” เคสไม่รู้ว่าเอาความโกรธมาแต่ไหนเธออยากจะพรุ้งเข้ามาตบสั่งสอนจาฟาสักที แต่เพราะเรนยืนอยู่ตรงนั่นเธอจึงไม่วู่วามทำอะไร
“พี่ขาหลบหน่อยหนูจะไปจัดของที่ห้องแล้ว”จาฟาไม่ได้มีเวลามาพูดคุยกับเคสมากเธอมีหลายๆอย่างต้องเครียและตอนเย็นวันนี้เธอจะต้องไปนั่งกินข้าวกับครอบครัวของพ่อตอนเย็น มันดูวุ่นวายจริงๆสำหรับจาฟา
เคสได้แต่มองตามหลังของจาฟาที่เดินออกไปด้วยความแค้นแต่แล้วเคสก็นึกบ้างอย่างขึ้นได้“ถ้าเธอได้ย้ายเขามาเรียนที่โรงเรียนกับฉัน ฉันจะทำให้เธอรู้ว่าตายทั้งเป็น มันเป็นองยังไง”
เคสหัวเราะคิกคักอยู่คนเดียวเหมือนคนเป็นบ้า เธอต่างหากล่ะที่จะต้องตายทั่งเป็น..
ถึงเคสจะพูดเบาๆกับตัวเองแต่หูของจาฟาก็ดีมากพอที่จะได้ยินมันแตกต่างจากเรนที่ไม่ได้ถูกฝึกให้ใช้หูฟังเสียงจับพวกไก่หรือกระต่ายป่าเหมือนกับจาฟา
ช่วงตอนเย็นทุกคนต่างนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารเรนก็นั่งอยู่ตรงนั่นด้วยเนื้องจากเขามาเป็นพี่เลี้ยงเลยถูกเปรียบเหมือนกับเป็นครอบครัวเดียวกัน
ที่โต๊ะคงจะมีแค่คนเดียวเท่านั้นที่ดูดีใจออกหน้าออกตาเป็นพิเศษ“เคสลูกยิ้มอะไร?”คุณนายพีชถามขึ้นนางคือแม่ของเราเป็นเมียหลวงผู้ชอบเล่นสกปก
“เปล่าค่ะแม่หนูแค่ดีใจที่ในที่สุดครอบครัวเราก็อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา”ถึงจะขาดแม่ของจาฟาไปหนึ่งคน จาฟาถอนหายใจก่อนชีกยิ้มปลอมๆออกมา
“ใช่หนูก็ดีใจเหมือนกันที่ได้กลับบ้าน”เอาเข้าจริงถ้าเกิดจาฟาไม่ได้อยู่ตรงนี้ครอบครัวเขาก็พร้อมหน้าพร้อมกันเหมือน เดิมนั้นแหละเคสคงแค่พูดออกมาเหมือนจะสื่อว่าถ้ามีส่วนเกินอย่างจาฟาเจ้าครอบครัวนี้ความสมบูณร์ที่เคยมีก่อนหน้าก็ไม่ได้หายไปไหน
“ดีแล้วเธอดูชอบน้องมากเลยพ่อตัดสิ้นใจแล้วจะให้จาฟาย้ายเข้ามาเรียนที่เดียวกันกับลูก”เป็นไปตามแผนของเคสเธอนั่งแทบไม่ติดเก้าอี้ ดีใจจนออกนอกหน้า
เรนกระแห้มเบาๆเตือนสติของเคสที่ตอนนี้อย่างก็โลกทั้งใบเอียงไปทางเธอจนหมด “ดี!ดูสิจาฟาพี่สาวลูกดีใจแค่ไหนที่ลูกจะได้ไปเรียนที่เดียวกันกับเธอน่ะ ฮ้าๆ”คุณชายนิโคตินดูอารมณ์ดีเอามากๆเมื่อเห็นพี่และน้องรักกันดี
เรนแอบสังเกตุจาฟามาสักพัก“เธอไม่กินข้าวหรอ ”จาฟาพยักหน้าก่อนจะยื่นช้อนและซ่อมให้กับเรนแล้วบอกว่า“ฉันกินไม่เป็นน่ะ ”เรนยิ้มอย่างอ่อนโยน ก่อนจะหันไปมองคุณชาย “อืมๆ จาฟาใช้ไม่เป็นก็สอนเธอได้เลย”
เรนดีใจอย่างเห็นได้ชัดก่อนจะลุกออกจากเก้าอี้
“มา เดี๋ยวพี่ช่วย ”
เรนเข้าไปที่ด้านหลังจับมือทั้งสองข้างของจาฟาเอาไว้ ก่อนค่อยๆสอนมือหนาของเรนกำลังจับมือเล็กๆที่ดูหยาบแต่กลับนุ่มนวนอย่างหน้าเหลือเชื่อ เรนไม่ทันสังเกตุเห็นว่าตอนนี้เคสกำลังมองด้วยความไม่พอใจอย่างรุนแรง
“พี่เราหนูเข้าใจแล้วล่ะไม่ต้องสอนแล้ว ”จาฟารู้สึกอึดอัดกับการที่ถูกใครสักคนต้องมาสอนกินข้าวอย่างใกล้ชิด แต่เรนก็ไม่ได้รู้สึกแปลกอะไร เพราะมันคืองานที่เขาทำมานาน โดยเฉพาะเคสที่ชอบแกล้งทำ เป็นโง่ให้เรนสอนจนแทบจะทุกอย่างในชีวิต เผลอๆเธอคงอยากให้เรนสอนหายใจแล้วมั้ง
การกินข้าวแบบพร้อมหน้าพร้อมตาครั้งนี้ทำให้จาฟาเหนื่อยเป็นบ้า เธอนอนลงกับเตียงนุ่มๆ
“จาฟา”จาฟาหันมามองตามเสียงนุ่มนั่นเห็นเรนยืนอยู่หน้าประตูเขายื่นกองสมุดหน้ามาให้“อีกไม่ถึงเดือนเธอก็ต้องไปเรียนแล้วอ่านไว้ก่อนก็ดีนะ”
“อืม”จาฟาเดินเข้าไปเอากองสมุดมากมายมาจากเรนทำให้มือทั้งสองข้างของจาฟาไม่มีที่ว่า“แล้วก็อ่านหนังสือตอนกลางคืนมันไม่ดีต่อสายตาอ่ะเอาแว่นนี่ไปใส่ซะ ”
เรนสวมแว่นให้จาฟา เด็กสาวขัดขืนไม่ได้มือทั้งสอง 2 ข้างมีกองสมุดเล่มหนาอยู่เธอแค่ยิ้ม ก่อนที่เรนจะจุ๊บหน้าผากของเด็กสาวแล้วกล่าวว่า
“ฝันดีนะน้องพี่...”
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!