เนื่องจากนี้เป็นเครื่องเกี่ยวกับเลขที่ ซึ่งแต่ละตอนจะเป็นของแต่ละเลขที่ นิสัย และสถานะของตัวละครอิงจากความเป็นจริงเล็กน้อย แต่การกระทำบางอย่างเป็นเพียงการแต่งขึ้นเท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะครับ
......................
หนึ่งตอนจะอัพในเดือนแต่ละเดือนนะครับ(ให้สมองผ่อนคลายบ้าง) ตัวอย่างเช่น เดือนนี้อัพ อัพอีกทีเดือนหน้านะครับ ต้องขอให้นักอ่านทุกท่านทำความเข้าใจด้วยนะครับ และอาจมีการเรียนเข้ามาเสริมในช่วงเปิดภาคเรียน อาจจะเปลี่ยนจากเดือนละตอนเป็น สองเดือนตอน นะครับ
เนื่องด้วยมีงานและกิจกรรมเข้ามาเยอะแน่ๆ ในช่วงเปิดภาคเรียน ก็ต้องขอให้ทุกคนใจเย็นในการรอคอยด้วยนะครับ
......................
เวลาในการอัพตอนแรกจะเป็นวันแรกของวันคริสต์มาสนะครับ เพื่อเป็นการฉลองวันคริสต์มาส และแน่นอนวันปีใหม่ก็เช่นกัน
...****************...
เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกจึงวอนขอให้นักอ่านทุกท่านใจดีกับกระผมด้วยนะครับ ผิดพลาดตรงไหนขอแค่บอกนะครับ ผมจะพยายามแก้ คำผิดอาจจะมากน้อย ก็แล้วแต่ว่าช่วงนั้คนขยันหรือ~
ไปก่อนดีกว่า มาแจ้งแค่นี้แหละครับ บ๊ายบายยย
วันที่ 14 เดือน 7 ปี 2000
ณ. เวลา 18:30 (ตามเวลาโตเกียว)
"นี่ๆ"
เสียงของเด็กหนุ่มคนหนึ่งกล่าวขึ้นด้วยความเริงร่าพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใส
"ว่าไง?"
เสียงของเด็กหนุ่มผมสีท้องฟ้ายามค่ำคืนอักคนกล่าวขึ้นพร้อมด้วยความสงสัยที่อยู่ในความคิด
"สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายแล้วนะ"
"เรียนจบจากที่นี่นายจะไปต่อมหาวิทยาลัยไหนหรอ?"
เด็กหนุ่มกล่าวขึ้นด้วยความสงสัย
"ไม่รู้สิ"
เด็กหนุ่มผมสีท้องฟ้ายามค่ำคืนกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉย ชวนทำให้อึดอัดใจ ต่อมาได้มีเสียงหนึ่งกล่าวขึ้น
"เคโน่"
น้ำเสียงที่ดูอบอุ่นที่แฝงไปด้วยความเย็นชา คำพูดนั้นได้พัดผ่านเข้าหูเด็กหนุ่มทั้งสองคน เมื่อเด็กหนุ่มเจ้าของชื่อผมสีท้องฟ้ายามค่ำคืนหัดไปเห็นต้นเสียงที่กล่าวมากลับต้องตกใจ
"เอ๊ะ พ่อนายมาแล้วหนิ"
เด็กหนุ่มผู้เป็นเพื่อนของเคโน่อุทานขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เบา
"อะ-อืม...นั่นสิ"
เคโน่กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่กระอักกระอ่วน พร้อมแววตาสีเหลืองทองประหนึ่งดวงดาวที่กำลังส่องแสงกำลังหดเล็กลงทีละน้อย
ทั้งมือและร่างกายของเขากำลังสั่นไปมาหัวใจที่เต้นระรัวเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อตนอยู่ตรงหน้าตนเองพร้อมคิดขึ้น
ทำไมเขาถึงอยู่ที่นี่ เขาควรจะอยู่ที่จังหวัดชิบูย่านี่
ความคิดนี้ทั้งวนซ้ำและดังขึ้นทีละเล็กทีละน้อยในหัวของเด็กหนุ่มผมสีท้องฟ้ายามค่ำคืน
"เคโน่กลับกันเถอะ"
น้ำเสียงที่ดูอบอุ่นแต่กลับแฝงความเยือกเย็นกล่าวขึ้นพร้องมองไปที่เด็กผมสีท้องฟ้ายามค่ำคืนและเพื่อนของเขาไปมา พร้อมรอยยิ้มที่น่าพิศวง
"ครับ"
เด็กหนุ่มผมสีทัองฟ้ายามค่ำคืนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา พร้อมทั้งความคิดที่กำลังวนซ้ำในสมองได้หยุดลงทันที
จากนั้นเขาได้เดินตรงไปยืนข้างผู้เป็นพ่อทันที พร้อมกล่าวคำอำลาแก่เพื่อนก่อนขึ้นรถไปพร้อมกับพ่อตน
สวัสดี ครับ ผมชื่อเคโน่ ผมเกิดที่ ชิบูย่า ย้ายมาที่โตเกียวตั้งแต่แม่ผมเสียตอนผมอายุ10ขวบ
ไม่เชิงว่าเป็นการย้ายบ้านซะทีเดียว เรียกให้ถูกคือเป็นการไล่ออกจากตระกูลซะมากกว่า
เพราะมีความเชื่อว่าถ้าเด็กอายุครบ10ปีถ้ามีเหตุการณ์ผู้ให้กำเนิดเสียชีวิตภายในวันเกิดถือเป็นรางร้าย ที่ไม่ควรละไว้ในตระกูล
ซึ่งผมก็ถือว่าเป็นรางร้ายของตระกูลอาซาชิ จึงถูกเมินเฉยและไล่ออกไปทันทีหลังจากงานวันเกิด ผมเคยถูกคาดหวังให้เป็นเจ้าตระกูลคนถัดไปจากคุณปู่
แต่เพราะเหตุการนั้นทำให้คุณปู่จากโลกนี้ไปด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลัน
อำนาจภายในตระกูลจึงตกเป็นของคุณพ่อ เพราะพึ่งรับตำแหน่งก็เลยไม่มีเวลาว่างมาสนใจผมนัก ผมเลยถูกไล่ไปโดยไม่มีคนแยแสอะไรเลย
หลังจากที่ถูกไล่ออกมาผมก็ได้ไปอาศัยกับคุณอาคุณน้า พ่อและแม่ของแม่ พวกเขาไม่โทษผมแต่โทษความเชื่อที่งมงายนั่น ผมก็ได้แต่ก้มหน้าเพราะความผิดที่ทำแม่ตาย
คุณน้าเข้ามากอดผมแล้วบอกว่า
"ความตายหน่ะ สามารถเกิดได้ทุกที่ ทุกเวลา"
"หนูอย่าโทษตัวเองเลยนะ"
"แม่หนูอยากเห็นหนูยิ้มเยอะๆนะ"
เพราะคำพูดพวกนั้น จึงทำให้ผมหลุดพ้นจากความทุกข์ทรมานทันที
แต่แล้ว..
ก็เกิดเรื่องหน้าเศร้าขึ้น
ตอนที่ผมอายุครบ15ปี คุณอาคุณน้าได้พาผมขับรถไปเที่ยวฉลองงานวันเกิด ผมคิดว่างานวันเกิดนั้นเป็นงานวันเกิดที่ดีที่สุดในชีวิตผมแล้วหล่ะ
แต่..อย่างที่พูดไป ระหว่างทางกลับ รถบรรทุกเฉี่ยวหน้ารถเข้า ทำให้รถผมหักเลี้ยวไปชนกับเสาไฟฟ้า
ทุกคนเสียชีวิตยกเว้นผม ก่อนที่คุณน้าจะสลบน้าบอกกับผมว่า
"อย่าโทษตัวเองเลยนะ"
ทำให้ผมโอเครขึ้น แต่ก็ยังโทษตัวเองถึงทุกวันนี้
แต่เมื่อปีก่อนเขาก็มา เข้ามาที่นี่ เขารู้ได้ยังไงกันนะ
พ่อเข้ามาที่นี่ ที่ที่เคยมีความทรงจำที่ดีที่สุดได้สลายไปทันทีตั้งแต่ที่พ่อเข้ามา เขาทำร้ายร่างกายของผม...
"เคโน่"
มีเสียงหนึ่งพูดขึ้นขั้นกลางระหว่างความคิดในหัวของเคโน่
"แกรู้ใช่มั้ยว่าวันนี้ต้องทำอะไร"
เสียงที่นิ่งจนทำให้รู้สึกเย็นเฉียบไปทั่วร่างกาย กล่าวขึ้นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ยากที่จะรู้ว่าเขาคิดอะไร
"คะ-ครับ"
สิ้นเสียงคำพูดนั้น เคโน่ก็เริ่มเดินเข้าไปใกล้ผู้เป็นพ่อตนทีละเล็ก
ก่อนที่จะหยุดอยู่ระหว่างขาของผู้เป็นพ่อ เขาเริ่มคุกเข่าลงกับพื้น
ก่อนเริ่มทำการปรดเข็มขัดผู้เป็นพ่อ ต่อด้วยการถอดกางเกงเขาออก เริ่มทำการจับสิ่งนั้นขึ้นอย่างเบามือ ถึงไม่บอกทุกคนก็คงจะรู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร มันทั้งน่ารังเกียจและน่า สะอิดสะเอียน
เคโน่รูดค่อยๆขึ้นลงอย่างช้าๆพร้อมเสียงครางในลำยคอของผู้เป็นพ่อแท้ๆของตน
เขาทำได้ยังไง?
เวลาล่วงเลยมาถึงพบค่ำ ยิ่งเวลาล่วงเลยไปความรุนแรงยิ่งทวีเป็น 10 เท่า
เสียงเนื้อกระทบกันรุนแรงมากหลายครั้ง มีรอยฟกช้ำทั่วร่างกาย ทั้งรอยกัดจนเลือดซึมให้เห็น
มันเกิดขึ้นวนซ้ำหลายรอบ ยิ่งใกล้วันนี้เท่าไหร่ ความรุนแรงนั่นก็เกิดขึ้นหลายครั้ง
ครั้งหนึ่ง เขาทรมานผมมากกว่า10ครั้ง ผมขอร้องอ้อนวอนเขายังไงเขาก็ทำรุณแรงขึ้น มันลึกและเจ็บมาก อยากหนีออกไปจากนรกบนดินนี่
และแล้ววันที่นรกบนดินนี้ได้จบลงสักที
วันที่21 เดือน 7 ปี 2000
ณ. เวลา 18.30 (ตามเวลาโตเกียว)
"เคโน่คุงงง!!!"
เสียงตะโกนที่อ่อนนุ่มจากหญิงสาวที่อยู่ไกลกำลังเรียกหาเจ้าของชื่อด้วยความตื่นเต้น
เจ้าของชื่อหันตามเสียงพบว่ามีหญิงสาวผมสีลาเวนเดอร์กำลังเรียกเขาอยู่
เมื่อเจ้าของชื่อเห็นหญิงสาวจากที่ไกลๆได้ตะโกนผ่านผู้คนนับร้อยพร้อมยกมือเรียกเพื่อให้หญิงสาวรู้ตำแหน่งตนเอง
ทันทีที่หญิงสาวเห็นเช่นนั้นก็รีบวิ่งมาหาเจ้าของเรือนผมสีท้องฟ้ายามค่ำคืนด้วยความตื่นเต้น ผ่านผู้คนนับร้อยนับพันคน ชนคนโน้นบ้าง เกือบล้มบ้าง
แต่สุดท้ายก็วิ่งมาจนถึงเจ้าของเรือนผมสีท้องฟ้ายามค่ำคืน
สายตาที่ดูเหมือนดาวเจิดจรัสจ้องมองหญิงสาวผมสีลาเวนเดอร์ด้วยสายตาที่อ่อนโยน ประหนึ่งคือรักแรกพบของเขา
ทุกการกระทำที่ทั้งสองคนทำได้ลอดผ่านสายตาคนๆหนึ่งไป ก่อนที่เขาจะเดินออกไปด้วยคารมณ์ที่ไม่สามารถเดาได้
"เธอไม่เป็นไรนะ"
เคโน่กล่าวด้วยสีหน้าท่าทางเป็นห่วง
"อา..ฉันไม่เป็นไรๆ"
หญิงสาวผมสีลาเวนเดอร์กล่าวขึ้นพร้อมมองหน้าผู้เป็นเพื่อนพร้อมรอยยิ้มที่แสนจะอบอุ่น
"เคโน่!"
เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นท่ามกลางผู้คนที่ต่างตกใจกับเสียงเรียกเจ้าของชื่อ
เจ้าของชื่อรีบหันไปมองทางต้นเสียงด้วยท่าทีที่ตื่นตระหนก พร้อมกับคำถามที่ผุดขึ้นเต็มหัว
"เคโน่"
น้ำเสียงที่ดูอบอุ่นกล่าวขึ้นพร้อมใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้ม "?"
"คะ-ครับ"
น้ำเสียงที่ดูกระอักกระอ่วนพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่สงสัยถึงเจตนาผู้ที่เอ่ยชื่อตนเอง
"ได้เวลากลับแล้วนะ"
น้ำเสียงที่ดูกระตือรือร้นนั้น..ช่างน่าสงสัย
"เอ๋.. ไหนว่าเราจะกลับพร้อมกันไง"
หญิงสาวผมสีลาเวนเดอร์กล่าวขึ้นพร้อมสีหน้าที่ดูเสียดาย
"แต่ไม่เป็นไรๆ พ่อของนายคงอยากใช้เวลาร่วมกับนายก่อนที่จะ-"
"ครับ"
น้ำเสียงที่กระตือรือร้นถูกหยุดด้วยเสียงของ เคโน่ที่กล่าวด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉย
หญิงสาวได้เพียง งง งวย ต่อคำบอกลาของเคโน่ก่อนที่เขาจะขึ้นรถพร้อมกับผู้เป็นพ่อ
.
.
.
ในระหว่างการเดินทางทั้งสองฝ่ายตกอยู่ในพวังความเงียบ มีเพียงเสียงหัวใจของเคโน่ที่ดังกึ่งก้อง
แต่แล้ว ก็ได้มีคนๆหนึ่งกล่าวขึ้นเพื่อหยุดพวังความเงียบนั้นขึ้น
"เคโน่ ผู้หญิงคนนั้นคือใคร" เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น
"เพื่อน..ครับ"
"งั้นหรอ แค่เพื่อนงั้นสินะ" เสียงที่อยู่ๆก็มีเล่กลดังขึ้น
"พ-พ่อจะทำอะไรเธอหน่ะ!?" เคโน่กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ตกใจ พร้อมหันไปมองผู้เป็นพ่อ
"ก็แค่เล่นสนุกเท่านั้นเอง~" เขากล่าวขึ้นพร้อมรอยยิ้มที่เปื้อนใบหน้า
มันไม่เหมาะกับเขาเลย...
เคโน่ได้เพียงนิ่งเงียบต่อคำพูดของเขาเท่านั้น
หลังจากนั้นค่ำคืนที่น่าสยดสยองก็ได้เกิดขึ้น
"..."
แค่เท่านี้
แค่ให้เขากิน
เขาก็จะไม่มารังควานเราแล้ว
แค่ผสมมัน
ใส่เข้าไป
รอยยิ้มที่ผุดขึ้นบนสีหน้าใครบางคน ราวกับว่าเขาจะได้หลุดพ้นจากขุมนรกบนดินนี้สักที
สายตาแห่งความหวังปรากฏขึ้นอีกครั้งแล้ว...
ข-เขากินแล้ว
กินมันแล้ว!
"อา~ เขากินมันจนหมดเลย"
เสียงๆหนึ่งผุดขึ้นหลังประตูมืด พร้อมรอยยิ้มที่น่าสยดสยอง
เขาล้มลงไปแล้ว!
ไปหยิบมีดมาสิ!
แทงเขา!!!
ตัดตรงส่วนที่น่าขยะแขยงนั่นสิ!!!
ใช่ แบบนี้แหละ~
อาหารวันนี้ของเรา
น่าอร่อยจัง...
"ดูเขาในตอนนี้สิ น่ารักจัง"
คำพูดของลูกชายที่ได้ทำการหันศ-พของผู้เป็นพ่อกล่าวขึ้นพร้อมรอยยิ้มที่น่าสยดสยอง
และใต้ตาที่ดูหมองคล้ำ พร้อมสายตาที่สว่างขึ้น
อ่า..
มันจบลงแล้วสินะ..
ใช่
มันจบลงแล้ว
.
.
.
.
.
รายงานข่าวค่ะ วันที่ 24 เดือน 7 เวลาประมาณ 7 นาฬิกา มีหญิงสาววัยกลางคนเข้ามาร้องเรียนว่ามีกลิ่นเหม็นเน่าและกลิ่นคาวแปลกๆที่ข้างบ้าน และที่ข้างบ้านไม่มีใครได้ยินเสียงเคาะประตูและเสียงกดกริ่งของเธอเลย และมีชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียง เข้ามาร้องเรียนเป็นเสียงเดียวกัน ทางตำรวจไม่รีรอช้า ได้เข้าไปค้นที่บ้านหลังนั้นทันที พบกับศ-พชาย อายุประมาณ50ต้นๆ ถูกหั่นเป็นชิ้น โดยมีส่วนหัววางไว้กลางโต๊ะ และมีส่วนอื่นๆ บนจานทานอาหาร แต่สิ่งที่เราหาไม่เจอคืออวัยวะเพศของเขา คาดว่าถูกกินโดยเด็กชายที่อยู่บ้านเดียวกัน ที่ถูกพบศ-พที่ห้องน้ำชั้น 1 โดยที่กรีดข้อมือตัวเอง และเปิดน้ำไว้ ทำให้เสียเลือดมากจนเสียชีวิต และมีรอยแผลบนร่างกายที่บ่งบอกว่าถูกทารุณกรรมในครอบครัว ทางตำรวจเร่งสืบสวนความเป็นมา และผู้เกี่ยวข้อง ที่อาจเป็นบุคคลที่3 ในการฆ่-าตกรรมครั้งนี้ค่ะ
ข่าวต่อไปนะครับ เป็นข่าวฆ่-าตกรรมที่เกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 21 เดือน 7 ความคืบหน้าก็คือ- - -
...----------------...
จบแล้วนะครับสำหรับตอนที่ 1 ซึ่งบอกได้เลยว่าสั้นมากกกก แต่ก็สุดความสามารถของแอดแล้วครับ TT ยังไงก็ขอฝากเรื่องนี้ไว้ในอ้อมอกนักอ่านทุกคนด้วยนะครับ
แต่งแบบนี้ครึ่งแรก กลัวมากกก ใช้เวลา 2-3 เดือน กว่าจะได้ตอนที่ 1 มา แฮะๆ
ยังไงก็ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ
ไว้เจอกันวันปีใหม่นะครับ อาจจะเป็นแค่ตอนพิเศษ หรือ เป็นตอนๆหนึ่งเลยก็ได้ครับ
บั๊ยบายยย
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!