NovelToon NovelToon

บันทึกวรภพ

โดนกลั่นแกล้ง

ในบันทึกนี้ไม่ต้องมีใครเข้ามาอ่านก็ได้ครับ ไม่ได้เขียนเพื่อให้ใครอ่านแต่ที่สร้างบันทึกนี้ขึ้นมาเพราะจะเก็บเอาไว้อ่านเองล้วนๆ เหมือนระบายทิ้งไว้ให้ตัวเองอ่าน5555 (หรือถ้าเข้ามาแล้วก็อ่านได้นะครับ)

และเรื่องที่ผมจะเอามาระบายก็ตามชื่อตอนเลยครับ คนรู้จักคนอยากรู้จักผมก็เยอะอยู่พอสมควรแต่ทำไมก็ไม่รู้สินะ ต่อให้มีคนสนิทเยอะผมก็ยังรู้สึกโดดเดี่ยว รู้สึกเหมือนมีแค่ตัวคนเดียว และไม่ค่อยอยากยุ่งกับใคร

ย้อนกลับไปตอนเด็กๆตั้งแต่ประถมผมเป็นแค่เด็กน้อยคนนึงที่ไม่ชอบเข้าสังคม ผมไม่ค่อยคุยกับใครเลยแม้แต่เพื่อนร่วมชั้นก็ไม่คุย ผมจะชอบเก็บตัวเงียบ เล่นคนเดียว เพื่อนบางคนเขาเหมือนจะเห็นใจสงสารที่ผมเล่นคนเดียวก็เลยเข้ามาทักกะว่าผมจะพาไปเล่นกับเพื่อนคนอื่นๆ

แต่ผมกลับเมินเฉยส่ายหน้าปฏิเสธเขาไป ซึ่งเหมือนผมจะไปปฏิเสธถูกคนด้วยครับ คนที่ผมเมินเฉยใส่นั่นก็คือเพื่อนที่เปรียบเสมือนหัวโจก ซึ่งการที่ผมปฏิเสธเขาไปเหมือนจะเป็นการไปทำให้เขาโกรธ หงุดหงิดขึ้นมา และหลังจากวันนั้นผมก็อยู่ไม่เป็นสุขอีกเลยครับ

ทำไมน่ะหรอ ก็เพราะเมื่อผมมาเรียนวันต่อมาผมก็โดนดีเข้าให้เลย เพื่อนที่เปรียบเสมือนหัวโจกผมจะขอสมมุติชื่อว่า นิว ก็แล้วกัน

นิวสั่งให้เพื่อนคนอื่นๆไม่ต้องมาคุยกับผมและรุมกลั่นแกล้งผมซึ่งช่วงแรกๆผมก็พอรับได้ครับ เพราะมันก็แค่การแกล้งเชิงแซว บูลลี่ผม ให้ผมรู้สึกหงุดหงิดกับมันแต่นิวก็น่าจะเห็นว่าผมก็ไม่ได้สนใจอะไรมากครับพักหลังๆจึงแกล้งผมหนักขึ้น

ซึ่งเพื่อนๆคนอื่นๆก็ไม่มีใครกล้าขัดนิวเพราะนิวนั้นโหดมากๆเลยล่ะ จะมีบางคนที่ไม่เกรงกลัวนิวก็คือพวกเพื่อนๆของนิวนั่นแหละ ผมโดนนิวแกล้งหนักมาก

ทั้งโยนก้อนหินโยนลูกมะปรางใส่ผม ด่าผมด้วยคำพูดแรงๆ เอาสมุด กระเป๋าหนังสือผมไปทิ้งลงถังขยะ เอาของของผมไปซ่อนและอีกการแกล้งสารพัดมากมาย จนมันถึงขีดจำกัดของผม ผมเลยสวนกลับไปด้วยการผลักนิวและตะคอกกลับไป “ทำแบบนี้ทำไม” นิวก็เหมือนจะไม่พอใจเลยกลับไปฟ้องแม่ ซึ่งแม่ของนิวนั้นเป็นเพื่อนกับแม่ของผมและแม่ของนิวนั้นดุมากเข้าข้างลูกตัวเองที่1 และใช่ครับผมโดนแม่ของนิวต่อว่าโดยที่ผมแค่ผลักและตะคอกใส่นิวแค่นั้นเอง แต่ใช่ว่าผมจะยอมผมก็ฟ้องแม่ของผมได้นี่ ก็เป็นแบบนี้อยู่ตลอดครับ แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นผมก็มีเพื่อนอยู่นะครับ 2 คน

ซึ่งตอนนี้ผมก็อยู่ม.2 เพื่อนคนทั้ง2คนนี้ก็เรียนอยู่ที่เดียวกับผมครับถึงจะมีเพื่อนคนนึงไม่ได้เรียนห้องเดียวกันแต่ก็ยังสนิทกันดีทั้ง2คนเลยครับ

ลูกรัก老师

อะ กลับมาตอนผมเข้ามัธยมมาใหม่ๆ ซึ่งผมเลือกที่จะเรียนต่อม.1โรงเรียนโรงเรียนหนึ่งในตัวเมือง ก่อนจะมีปรับพื้นฐาน มันก็จะมีกิจกรรมกิจกรรมหนึ่งครับ ที่ต้องมา(เฉพาะห้องพิเศษ) มันก็คือกิจกรรมค่ายภาษาครับ ซึ่งเขาจะแยกว่าภาษานี้อยู่ห้องนี้ภาษานั้นอยู่ห้องนั้น และผมที่อยู่ภาษาจีนก็อยู่กับครูภาษาจีนในห้องสมุด เข้ามาวันแรกบอกตรงๆว่าเกร็งสุดเลยครับ ทั้งคุณครู เด็กรุ่นราวคราวเดียวกันกับผม และรุ่นพี่ อยู่ในห้องสมุดเยอะมากเลย มาถึงคุณครูและรุ่นพี่ก็สวัสดีทักทายอย่างยิ้มแย้มต้อนรับเด็กใหม่อย่างพวกผมที่กำลังนั่งมอง

ตอนนั้นคุณครูคนจีนหรือที่เรียกกันว่า เหล่าซือ เขาติดธุระเลยมาสาย ครูคนอื่นๆเขาก็ให้พวกผมที่เป็นเด็กใหม่แนะนำตัวกันทีละคนซึ่งผมก็ไม่ค่อยกล้าอะนะพอถึงคิวผมที่ต้องลุกขึ้นสวัสดีคุณครูและพวกพี่ๆเขา ผมสั่นมากครับ สายตาของคนทั้งห้องจับจ้องมาทางผมมันทำให้ผมอึดอัดจนพูดไม่ออกเลยครับ แต่ผมก็พูดออกไปได้ถือว่าด้วยดีเลยล่ะ

พอแนะนำตัวกันเสร็จหมดทุกคนแล้วครูเขาก็บอกว่า "เดี๋ยวจะสุ่ม1คนให้ออกมาบอกว่าเพื่อนคนนี้ชื่ออะไรเดี๋ยวครูจะชี้ให้ทายชื่อเพื่อน4-5คน"

ใช่ครับนั่นหมายความว่าผมต้องรีบลุกไปถามชื่อเพื่อนเพื่อที่จะจำให้ครบทุกคนเพราะไม่รู้ว่าครูจะชี้ให้บอกชื่อคนไหนบ้างและจะสุ่มโดนใครที่ต้องออกไปทายชื่อเพื่อน ตอนนั้นภายในใจของผมมีแต่คำว่า “ชิบหายละกู” แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดีครับไม่ใช่ผมที่โดนให้ออกไปทายชื่อเพื่อนบอกเลยว่าตอนนั้นโล่งอกมากๆครับ🥹

ก็ทายชื่อกันอยู่แบบนี้จนเหล่าซือมาครับ เมื่อเหล่าซือก้าวขาเข้ามาภายในห้องสมุดทุกคนต่างพากันหันไปมองซึ่งบอกเลยนะครับ น่ารักมาก!! เป็นผู้ชายครับ ตัวเล็กประมาณ168ซม. ขาวตี๋ ใส่แว่น

แกเป็นคนจีนที่พูดไทยไม่ชัดซึ่งเวลาที่แกพูดกับเด็กนักเรียนมันดูน่ารักน่าเอ็นดูมากๆเลยล่ะ ผมที่เห็นดังนั้นมีหรอจะนิ่งเฉย ไม่นานเหล่าซือก็เดินแจกกระดาษให้เด็กๆคนละแผ่น ในกระดาษมันก็คือ สระ พยัญชนะ และเสียงวรรณยุกต์ของจีนนั่นแหละครับ ตอนนั้นผมก็ยังไม่รู้จักพินอินอะนะ อะไรเนี่ยมีแต่ภาษาอังกฤษอ่านไม่ออกโว้ยยย

ซึ่งพอแกแจกเสร็จครูที่เป็นคนไทยแต่สอนในรายวิชาภาษาจีนก็ออกมาอธิบายครับว่ามันคืออะไร ผมก็ได้แต่นั่งพยักหน้าอ๋อเข้าใจ เมื่ออธิบายอะไรเสร็จศัพท์เหล่าซือก็ได้หยิบกระดาษที่เขียนคำศัพท์ภาษาจีน ทั้งตัวจีน พินอิน แล้วก็คำแปร จากนั้นแกก็สอนครับว่าคำนี้ออกเสียงยังไงอ่านยังไง ซึ่งผมก็จำครับตอนนั้นคือว่าพยายามจำที่สุดแล้วจำเข้าไปจำๆๆๆ จนกระทั่งเหล่าซือแกบอกว่า ใครออกมาอ่านและอ่านถูกหมดจะมีสติ๊กเกอร์ให้

ไม่ทันขาดคำผมลุกออกไปคนแรกเลย5555 ไปถึงก็หยุดตรงหน้าแกแล้วก็หันไปอ่านคำศัพท์ในกระดาษที่แกติดไว้บนกระดาน ซึ่งผมก็อ่านถูกหมดทุกคำ ได้ทั้งเสียงปรบมือและสติ๊กเกอร์จากเหล่าซือเอามาแปะไว้ตรงป้ายชื่อตัวเอง ตอนนั้นแค่นี้ก็ภูมิใจมากแล้ว

ตัดไปตอนที่ค่ายภาษาเสร็จ ปรับพื้นฐานเสร็จ ทีนี้ก็มาสู่การเรียนของจริงซึ่งบอกเลยว่าผมตั้งตารอวิชาภาษาจีนมากๆครับ พอได้เวลาของภาษาจีนผมจะต้องใจเรียนเป็นพิเศษเลย แกสอนอะไรยังไงผมจดใส่สมุดหมดเลยครับกลับบ้านมาตอนดึกๆก็อ่านทบทวนมัน ตอนนี้ผมมีสมุดภาษาจีนถึง6เล่ม ผมก็ตั้งใจตลอดเลยครับจนแกเริ่มสนใจผมชมผมตลอดซึ่งผมก็รู้สึกดีมากๆครับ ที่ตัวเองทำผลงานออกมาได้ดีเยี่ยม ภาษาจีนของผมมันจะมี3แบบครับก็คือ ภาษาจีนพื้นฐาน ภาษาจีนเพิ่มเติม และChinese Club ซึ่งภาษาจีนเพิ่มเติมและไชนิสคลับ ผมจะได้เรียนกับเหล่าซือ แต่ภาษาจีนพื้นฐานผมจะได้เรียนกับครูอีกคนนึงเป็นคนไทย

ซึ่งผมรู้สึกว่าครูคนไทยคนนั้นไม่ค่อยชอบผมครับจากที่ผมสังเกตแก เวลาแกถามพอผมยกมือจะตอบแกก็กลับเมินเฉยและหาคนมาตอบแทนผมถ้าไม่มีใครตอบได้จริงๆจึงค่อยมาให้ผมตอบมันทำให้ผมได้คะแนนน้อยมาก ผมโคตรนอยด์แต่ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่เก็บเงียบเก็บความเคืองนี้ไว้คนเดียว มันทำให้ผมไม่อยากเรียนภาษาจีน แต่ผมก็ไม่ล้มเลิกผมก็พยายามตั้งใจและทำมันออกมาให้ดีที่สุดจนผมสามารถอ่านพินอินออกและอ่านได้ถูกต้องตั้งแต่ม.1เทอมแรก ผมสามารถสร้างประโยคที่ยังไม่ได้เรียนขึ้นมาเองอย่างถูกต้องได้

จนกระทั่งวันนึงวิชาภาษาจีนเพิ่มเติมเหล่าซือได้น้ำข้อสอบมาให้ทั้งห้องทำ มันเป็นข้อสอบที่ยากพอสมควรเลยเพราะมันเป็นของจีนเพิ่มเติมซึ่งเพิ่มเติมนี้ก็หมายถึงมันจะยากกว่าจีนพื้นฐานมันจะเจาะลึกลงไปอีกมี50ข้อคะแนนเต็ม100 ตอนนั้นผมตื่นเต้นมากๆเลยครับ น่าจะเป็นคนคนเดียวเลยก็ว่าได้ครับที่อยากทำข้อสอบชุดนี้ใจจะขาดก่อนจะเริ่มทำข้อสอบผมก็ได้แอบถามเหล่าซือนะครับว่ามันยากมากหรอ แกก็ยิ้มอ่อนให้ก่อนจะบอกกับผมเป็นภาษาไทยว่า “สำหรับหนี่ไม่อยากหรอก เพราะหนี่เป็นคนพิเศษ” ถึงแกจะพูดไม่ชัดแต่ผมก็ฟังออกและจำได้แม่นเลยล่ะ ผมทำภารกิจของตัวเองสำเร็จแล้วครับ ภารกิจนั่นก็คือการได้เป็นลูกรักเหล่าซือ ได้ประโยคนี้มาแล้วก็เริ่มทำข้อสอบได้ครับ ผมเปิดมาหน้าแรก โอเค ง่ายอยู่ทำได้ ชิวครับหน้าแรก แต่พอจะหน้าสุดท้ายนี่สิ เกือบล้มทั้งยืนครับ5555 ผมอ่านพินอินได้ก็จริงครับแต่ผมจำได้ไม่หมดครับว่ามันแปลว่าอะไรบ้าง😞 เกือบตายแต่กลับรอดออกมาได้อย่างหวุดหวิดครับ

เมื่อทุกคนทำข้อสอบเสร็จก็จะเรียกเก็บตามเลขที่บอกเลยว่าผมตื่นเต้นมากครับอยากจะรู้คะแนนแล้วสิมันจะออกมาเป็นยังไงนะ

แล้วเวลาก็เดินไวเหมือนโกหก วันรุ่งขึ้นจีนเพิ่มเติมคาบแรกเลยครับได้รู้ผลคะแนนตั้งแต่เช้าเลย ผมตื่นเต้นมากตั้งตารอสุดๆลุ้นมากๆครับเพราะผมตั้งใจทำมันมาก และใช่ครับความตั้งใจของผมไม่ทำให้ผมผิดหวัง ผมได้100คะแนนเต็มและเป็นคนเดียวที่ได้เต็มด้วยครับ ผมได้รางวัลเล็กๆน้อยๆจากแกแล้วก็เกียรติบัตรครับ ผมรู้สึกดีใจจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เลยเผลอปล่อยน้ำตาออกมาโดยที่ไม่ทันตั้งตัวจนแกเห็นก็เลยหัวเพราะผมและเข้ามากอดผมเลยครับ ซึ่งผมที่โดนแบบนั้นเข้าไปก็แตกสิครับ ปล่อยโฮเลย เพื่อนๆก็เห็นก็แซวผมกันใหญ่

วันนั้นทั้งวันผมมีความสุขมากแต่ก็มีความสุขได้ไม่นานครับ

เวลาผ่านไปจนใกล้จะสอบปลายภาคเรียนที่1 ผมก็ได้รับข่าวร้ายว่าเหล่าซือเขาจะกลับจีนแล้วและเขาก็จะไม่กลับมาที่นี่อีกได้ยินแบบนั้นผมช็อกครับ ยอมรับว่าตอนนั้นผมติดเหล่าซือเพราะแกเป็นครูคนเดียวในโรงเรียนที่ผมสนิทด้วยและซึ่งก่อนแกจะไปอีกไม่กี่วันก็วันเกิดแกด้วยครับ ผมและเพื่อนในห้องก็ร่วมมือร่วมใจกันซื้อเค้กวันเกิดให้กับแก ผมแทบไม่อยากให้แกไปเลยแต่ก็ทำอะไรไม่ได้อะเนาะ เฮ้อ.

และแล้ววันที่เหล่าซือจะได้มาที่โรงเรียนนี้เป็นครั้งสุดท้ายก็มาถึง พวกเราทั้งห้องได้จัดงานวันเกิดเล็กๆให้กับแก ซึ่งมันดูอบอุ่นและแกก็ดูมีความสุขมากๆเลย และไม่ใช่แค่ห้องผมที่จัด ห้องภาษาจีนของรุ่นพี่ก็จัดให้กับเหล่าซือครับ วันนั้นมีทั้งความสุขและความเศร้าในเวลาเดียวกัน ห้องผมได้จัดวันเกิดให้แกพอร้องเพลงกินเค้กและถ่ายรูปกับแกเสร็จก็เลิกเรียนพอดีครับ ระหว่างที่ผมเดินไปตามทางเพื่อจะลงบันไดไปชั้น1 เหล่าซือแกก็มาเดินคุยข้างๆ ผมก็บอกกับแกว่า “หว่อคงคิดถึงหนี่แย่เลย”

แกก็ยิ้มๆพูดกับผม “หว่อก็จะคิดถึงหนี่นะ” สิ้นเสียงประโยคนี้น้ำตาผมแตกอีกรอบเลยครับ5555 ผมไม่อยากให้แกไปจริงๆ แกนิสัยดีมาก

“อันนี้หว่อให้ ถ้าหนี่คิดถึงหว่อหนี่ก็ตั้งใจเรียนภาษาจีนนะ” เหล่าซือพูดขึ้นพร้อมกับยื่นปากกาที่เป็นหมีแพนด้าให้กับผม ผมรับปากกาจากแกก่อนจะรวบรวมความกล้าขอกอดอีกสักรอบแกก็ไม่ว่าอะไรให้ผมกอด ก่อนที่ผมจะบอกลาแกแล้วเดินลงบันไดไป ระหว่างทางผมร้องไห้เพราะเทอม2จะไม่ได้เจอแกแล้ว มันก็มีเพื่อนบางคนที่ลงมาก่อนหน้าเห็นผมเดินคอตกลงมาก็เข้ามาหาและปลอบผมคนละนิดคนละหน่อยก่อนผมจะเดินออกไปหน้าโรงเรียนเพื่อรอรถมารับกลับบ้าน

แต่ตอนนี้ทำใจได้แล้วครับ ปากกาที่เหล่าซือให้หมึกมันก็หมดแล้วแต่ผมเติมหมึกไม่เป็น555 ไม่รู้ต้องดึงออกทางไหนแต่ก็ไม่เป็นไรแค่เห็นปากกาด้ามนี้ในทุกๆวันก็หายคิดถึงแกแล้วล่ะ และผมก็สัญญากับเหล่าซือไว้แล้วว่า หว่อจะตั้งใจเรียนภาษาจีนเดี๋ยวโตไปจะไปหาถึงจงกั๋วเลยนะเหล่าซือ5555 รอหว่อแป๊บๆ

รักแรกที่ดีที่สุด

**แซวผมผมเก็บคนละ100**

พึ่งมูฟออนจากเหล่าซือได้ก็มามีความรักต่อเลย5555 เข้าสู่ช่วงปิดเทอมใหญ่จะม.2ล้าา

ตอนนั้นพึ่งผ่านสงกรานต์ไปด้วย ผมก็นั่งเล่นเกมปกติของผมเป็นเกมเกมหนึ่งละกัน มันเป็นเกมแนวจำลองการใช้ชีวิตในโรงแรม เป็นเกมออนไลน์ ซึ่งเกมนี้ผมว้าวมากครับล็อบบี้อยู่ชั้น1แต่ทะเลอยู่ชั้น2;-; เขาสร้างล็อบบี้ไว้ใต้ดินหรอ? แต่ช่างมันเถอะมันไม่ใช่ประเด็น

ผมก็นั่งเล่นเกมนี้ซึ่งตอนนั้นกำลังจะออกเกมพอดีเลยครับก็ได้มีข้อความข้อความหนึ่งเด้งขึ้นมา ซึ่งมันเป็นข้อความขอเพิ่มเพื่อนนั่นเอง ผมก็เห็นแล้วแหละว่ามีคนแอดผมมาผมจึงเปลี่ยนห้องหนีเขาแล้วมานั่งส่องโปรไฟล์เขา ทีแรกว่าจะไม่รับแอดเขาแล้วแต่ก็นะเหงาๆอยู่รับสักหน่อยก็ได้วะ ผมก็เลยตัดสินใจรับแอดเขาไป ไม่นานก็มีแชทส่วนตัวเด้งขึ้นมาอีกผมก็เปิดเข้าไปดูก็เห็นว่าเป็นเขาที่ทักมา “ขอโทษที่แอดมั่วนะครับ” นี่คือคำพูดแรกของเขา ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรก็ตอบกลับว่า ไม่เป็นไร เขาก็เห็นว่าผมไม่ได้ว่าอะไรก็เลยถามชื่อถามอายุผมปรากฎว่าเขาแก่กว่าผม1ปี ชื่อ “ตะวัน” แหมะ อะโอเค ผมก็เรียกเขาว่าพี่เขาก็เรียกผมว่าวิน คุยกันต่อ เอาตรงๆตอนนั้นก็แอบเกร็งนะครับไปต่อไม่ค่อยจะถูกผมก็พูดไม่เก่งกลัวเขาอึดอัด “สงการนต์ที่ผ่านมาสนุกรึเปล่าครับ” นี่คือคำชวนคุยแรกครับ ส่วนมากก็จะเจอแต่ กินข้าวยัง อาบน้ำยัง ทำอะไรอยู่ คุยด้วยได้มั้ย บลาๆประมาณนี้ แต่คนนี้มาฉีก แล้วผมก็ตอบเขาไปว่า ไม่ได้ออกไปไหน เขาก็ขำๆมา(ขำจริงรึเปล่าไม่รู้)แล้วก็บอกว่าเหมือนกัน เมื่อจบกับคำถามสงกรานต์เขาก็ถามผมว่า อยู่คุยกับเขาจนเขาง่วงได้ไหม ผมก็ตอบกลับไปว่าได้ ก็คุยกับเขาไปครับ ตอนนั้นเท่าที่จำความได้ผมนี่โคตรเกร็งคือ555ไม่หยุด ทุกคำทุกประโยคก็จะลงท้ายด้วย “555” คือไม่รู้จะลงท้ายด้วยอะไรละ555ไปก่อนถึงไม่ขำก็เถอะ ก็คุยกับเขาไปจนถึงประมาณ17:00น. “มั้ง จำไม่ได้” เน้นทำไม ไม่รู้

พอถึงเวลาปุ๊บเขาก็ขอตัวไปนอน อะ โอเค ในใจแบบว่า กูเป็นอิสระแล้ว แต่ๆๆ “พรุ่งนี้ 2 ทุ่มว่างไหมครับ” เอ้ จู่ๆก็ถามแบบนี้ผมก็ไม่ได้คิดอะไรก็ตอบไปว่า ว่างตลอด

“งั้นพรุ่งนี้ 2 ทุ่มมาคุยกันได้ไหมครับ” ..🥲 แค่นี้ก็อึดอัดแล้วนะนี่มีนัดกันอีก อื้ม โอเค ได้ครับไม่เป็นไร คือผมตอบไปงี้ไงแต่ในใจคือผมไม่อยากอยู่ เพื่ออะไรวะ ไม่รู้แต่ช่างเถอะรับนัดเขาไว้แล้ว555

โอเคบอกลาอะไรกันเสร็จสรรพผมก็ไปทำเรื่องของผมต่อแล้วก็นอนหลับ เช้ามาแม่เรียกตั้งแต่เช้าเลยไปรับน้องที่ต่างจังหวัดเพราะน้องผมมันไปนอนกับน้า(ไปเล่นกับลูกเขา ไม่ได้คิดถึงน้าหรอก) ก็โอเคๆ ไปกันตั้งแต่ช่วงสายๆ ก็ไปถึงประมาณบ่ายโมงกว่าๆ เมื่อไปถึงน้าก็พาไปทะเลพาไปกินพวกอาหารทะเลต่อก่อนจะกลับบ้าน ผมอยากกลับบ้านจะแย่แล้วครับตอนนั้นคืออยากกลับไปนอน ซึ่งการไปรับน้องก็เหมือนได้ทริปเที่ยวไปในตัวแต่ทริปครั้งนี้ผมแทบไม่มีตัวตนเลยผมอยากกลับบ้าน

ก็จนเที่ยวกันหนำใจจึงจะกลับตอนนั้นน่าจะ4โมงกว่าๆแล้ว ตอนแรกก็นึกว่าจะกลับเลยที่ไหนได้ แวะซื้อโรตีอีก และไม่ใช่โรตีธรรมดาด้วยไง หม่าม๊าผมอยากกินโรตีใส่ชีสอะไรของเขาไม่รู้มันเป็นร้านโรตีที่คนโคตรเยอะ คือกว่าจะสั่งเสร็จปาไป1ชม.ครึ่ง ซึ่งตอนนั้นผมก็เห็นแล้วครับว่ามัน6โมงเย็นกว่าๆแล้วก็ไม่ได้อะไรแต่พอนั่งรถฟังเพลงไปสักพักก็พึ่งผุดคิดขึ้นได้ว่า เรานัดพี่คนนั้นไว้นี่หว่า เด้งตัวแทบไม่ทันหันไปมองนาฬิกาอีกทีก็1ทุ่มกว่าแล้ว ตอนนั้นคือยังไม่ถึงบ้านเลยยังอีกไกลคงไม่ทัน นัดแรกเราจะสายไม่ได้! แต่ทำไงดีล่ะ ลืมโทรศัพท์ที่เอาไว้คุยกับพี่เขาไว้ที่บ้าน นั่งกระวนกระวายอยู่แป๊บนึงก็นึกขึ้นได้ครับ ว่าโทรศัพท์ในมือตอนนี้ก็มีเกมนั้นแต่ไม่ใช่รหัสที่ไว้คุยกับเขา ผมเลยตัดสินใจค้นหาชื่อเขาและแอดเขาไปครับ ตอนนั้นลุ้นมากลุ้นว่าเขาจะรับมั้ย รับทีเถอะ

และบทสรุปก็คือเขารับครับ “นี่อย่าบอกนะครับว่ามี2รหัส” ครับ..—.— แถมยังรู้ทันอีกว่าเป็นผม ผมยังไม่ทันบอกไม่ทันอธิบาย ตรงนี้ผมอเมซิ่งจริงๆครับ เฮ้ยย! รู้ได้ยังไงก็อึ้งๆอยู่ เขาก็บอกตอนแรกไม่แน่ใจถ้าไม่ใช่ผมอันนี้หน้าแตก อะ ไม่เป็นไรอย่างน้อยก็ทันนัดแหละวะ คืนนั้นก็คุยกันจนถึงเที่ยงคืนครับ จนเขาบอกง่วงแล้วเลยบอกฝันดีกันแต่ไม่ทันที่จะออกเกม “พรุ่งนี้เวลาเดิมนะครับ” 🥹 นี่คุณพี่ยังจะคุยกับผมอีกหร๊อ

ตอนนั้นผมทั้งไม่อยากคุยและอยากคุยครับอธิบายไม่ถูกเหมือนกันแต่ผมก็ตอบตกลงเขาไปครับ เขาเป็นคนที่สุภาพมากๆเลยล่ะ ไม่เคยเห็นเขาพูดหยาบเลยสักนิดผมก็ไม่เคยเห็น และเป็นกันเองมากๆ ชวนคุยเก่งสุดๆ ผมก็บอกเขานะครับว่าผมคุยไม่เก่งนะถ้าอึดอัดบอกได้นะ เขาก็บอกผมว่า แค่นี้สบายมากเดี๋ยวเขาสวนผมคุยเอง ก็ยอมครับ

รู้ตัวอีกทีก็เข้าไปคุยกับเขาวันที่3..วันที่4..5..6..แป๊บเดียวก็ครบ1สัปดาห์ครับ ซึ่งผมไม่เคยคุยกับใครนานติดต่อกันแบบนี้มาก่อนเลย คุยกัน2ทุ่มยันเที่ยงคืน ผมไม่เคยคุยกับใครนานเท่านี้มาก่อนเลยครับ จนผมเริ่มปรับตัวได้เริ่มเข้ากับเขาได้ และเริ่มเปิดใจสนิทกับเขาครับ เขาบอกกับผมว่าอยู่กับเขาปล่อยความเป็นตัวเองได้เต็มที่ผมนี่เริ่มไว้ใจเขาก็ค่อยๆเผยตัวตนที่แท้จริงของผมออกมา เอาจริงๆผมก็ร่าเริงนะครับเหมือนจะเฟรนลี่แต่ก็ไม่เลย

จนเวลาผ่านไปครบเดือนและอีกไม่กี่วันก็จะวันเกิดเขา เขาก็บอกผมว่าถ้าถึงวันเกิดเขาเขามีอะไรจะบอกผมด้วยผมก็ตั้งตารอเลยสิครับทีนี้

เวลาผ่านไปไวเหมือนตัดต่อ ก็ถึงวันเกิดเขาครับ สิ่งที่ผมคิดเขาน่าจะบอกผมประมาณว่า มองดูนิ่งๆแต่จริงๆนี่ซนยิ่งกว่าลิงเลยนะ แต่ผิดคาดครับมันไม่ใช่สิ่งที่ผมคิด เขากลับสารภาพรักกับผมซะงั้นเขาบอกเขาชอบผมและไม่รู้ไปชอบเอาตอนไหนแถมยังขอผมเป็นแฟนอีก ซึ่งตอนนั้นผมคือสติหลุดไปแล้ว อะไรนะอีกทีซิ พูดจริงหรอเนี่ย คำถามมากมายเริ่มเข้ามาปั่นป่วนในหัวผม แต่ด้วยความที่ผมยังไม่อยากมีใคร ผมยังไม่พร้อม จึงไม่ได้รับคำขอเป็นแฟนจากเขา แต่เขาก็บอกว่าไม่เป็นไรเขารอผมได้ ผมก็โอเคครับ แต่ลึกๆข้างในผมก็คิดว่าพรุ่งนี้เขาจะมองผมติดมั้ยหนิ

แล้วก็คุยกันมาเรื่อยๆเลยครับจนผ่านไป2-3เดือน เขายังเป็นเขาคนเดียวเป็นพี่ตะวันคนเดิมเหมือนวันแรกผมเจอ น่ารักที่สุด ยังคงชวนผมคุย ยังคงพูดจาสุภาพ ยังคงเล่นมุขจีบมุขหยอดใส่ผม จนผมก็เริ่มรู้ตัวว่าชอบพี่เขาเข้าให้แล้วเหมือนกันครับแต่ผมก็ไม่กล้าพูดออกไปว่าชอบ ก็เล่นกับพี่เขาไปเรื่อยๆ พี่เขาน่ารักมากเลยนะ ใจเย็น ร่าเริง เสมอต้นเสมอปลาย และดูจริงใจมากๆเลยล่ะ ผมประทับใจในตัวพี่ตะวันมากเลยนะ ผมชอบพี่เขาแล้วจริงๆ จนตอนนี้ก็เป็นเดือนที่6แล้วที่พี่เขายังอยู่กับผม

ถ้าถามว่าเขาเปลี่ยนไปบ้างรึเปล่า ผมขอตอบว่าเปลี่ยนครับ5555 แต่ก็แค่เบาๆ ผมเป็นคนเก็บรายละเอียดได้ดีนะครับคนไหนที่ผมใส่ใจผมก็จะเก็บรายละเอียดของคนนั้นมาให้ได้เยอะที่สุด และจุดเปลี่ยนของพี่เขาก็คือ ตอบช้าครับ(⁠◍⁠•⁠ᴗ⁠•⁠◍⁠)... มันก็แค่นิดหน่อยย ไม่เป็นไรผมรอได้ คือเมื่อก่อนพี่เขาก็จะตอบผม30วิก็จะตอบแล้ว แต่ตอนนี้เริ่ม 2นาทีตอบที 3นาทีตอบที หนักสุดก็ 6นาทีตอบที ซึ่งผมก็ไม่รู้นะครับว่าทำไม ทำอะไรอยู่รึเปล่า ผมก็ไม่สามารถรู้เห็นได้ ทำได้แค่รอครับ ผมก็พยายามเข้าใจนะครับ เผลอๆผมชินละด้วยครับ555 ใครบ้างล่ะที่จะเหมือนเดิมเป๊ะทุกอย่างเลยล่ะทุกอย่างมันต้องมีเปลี่ยนไปบ้างเล็กน้อย

จุดที่พี่เขาเปลี่ยนไปผมน่าจะเดาได้ครับ มันมีอยู่ครั้งนึงที่ผมเผลอไปดราม่า แบบว่า ผมรู้สึกอยู่กับเขาไม่ได้ แต่ถ้าให้ผมเลิกคุยซะตอนนี้เลยผมก็ทำไม่ได้เช่นกัน มันก็รู้สึกเจ็บทั้ง2ฝ่ายอะแหละเนาะ แต่ผมไม่อยากให้พี่เขาเจ็บครับ ถ้าเกิดขึ้นแบบนั้นผมอยากเจ็บคนเดียว จนผมเผลอร้องไห้ออกมาเพราะเรื่องนี้ นั่นแหละครับตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้พี่ก็เริ่มตอบผมช้า ผมไม่รู้หรอกนะครับว่าเหตุผลมันเป็นเพราะตรงนี้รึเปล่า

แต่ผมทำอะไรไม่ได้ครับได้แต่รอ และมันน่าตลกนะครับ ที่พี่ตอบผม 2นาทีตอบที ผมก็ดองพี่กลับ 2นาทีเหมือนกันครับ555 บางทีพี่ก็ 4นาทีตอบทีใช่ไหมล่ะครับ ผมก็ดองพี่กลับเท่าที่พี่ดองผมเลยครับ แต่ผมเป็นคนที่กะไม่เป็นบางทีตั้งใจจะดองแค่2นาทีแต่พอกดส่งก็เห็นว่ามัน 3-4นาทีแล้ว ผมขอโทษครับ🥲

มีแค่ตรงนี้แหละครับที่ผมเคืองๆอยู่ แต่ผมก็รอได้นะครับแค่พี่ดองผมนานเท่าไหร่ผมก็จะดองกลับนานเท่านั้น(อีโก้สูงไปไสน้อ)แต่บางทีผมอาจจะดองนานไปกว่าอีกเพราะผมกะเวลาไม่ถูก

แต่ถ้าเป็นคนอื่นดองผม 1นาที ผมดองกลับเป็นวันไม่ก็เป็นเดือน บางคนปีนึงแล้วผมยังไม่เข้าไปอ่านเลยครับ หลักฐานมีพร้อมยื่นให้ดู หากกรณีไม่เชื่อกระผม

**บทความด้านล่างต่อไปนี้ถ้าพี่กดเข้ามาอ่านจริงๆ นี่คือความในใจของผมทั้งหมด** (และอย่าแซวผมนะครับ😭)

แต่เปลี่ยนไปแค่นี้รวมๆแล้วก็รักเหมือนเดิมครับ พี่คนแรกเลยนะที่ผมเปิดใจให้ พี่คนแรกเลยนะที่ผมกล้าพูดคำว่ารักออกมาได้เต็มปาก ชีวิตผมไม่เหงาไม่น่าเบื่อเหมือนเมื่อก่อนเพราะพี่เลยนะ พี่เข้ามาเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปในหัวใจผมแล้ว ผมรักพี่มากเลยล่ะ แต่ด้วยความที่ผมไม่โรแมนติก ผมหวานไม่เก่งเหมือนใครอื่นเขา คำพูดของผมมันอาจจะดูฝืดแต่รับรองว่ามาจากใจจริงอย่างแน่นอนครับ

เป็นไปได้ผมก็อยากหวานเป็นเหมือนกันนะครับ แต่ก็เคยลองแล้วมันไม่ผ่านจริงๆ แต่ผมก็อยากให้พี่ก็พูดคำหวานใส่ผมทุกวัน ผมชอบเวลาที่พี่บอกรัก ผมชอบเวลาที่พี่จุ๊บผม ผมชอบทุกคำพูดทุกการกระทำของพี่เลยครับ ยิ่งตอนที่พี่หึงมันโคตรน่ารักเลยล่ะมันทำให้ผมเห็นเลยว่าพี่ยังคงรักผมเหมือนเช่นวันแรกยังคงหวงผมอยู่ ซึ่งผมเองก็หวงพี่ไม่แพ้กันครับแต่ผมหึงโหดนี่สิใครเข้าใกล้พี่ผมก็ไม่อยากจะพิมพ์อะไรออกไป ไม่อย่างนั้นมาทั้งสวนสัตว์แน่ครับ ผมไม่อยากให้พี่เห็นผมด้านลบๆงั้นเลยไม่พูดออกไป และผมเองก็ติดพี่มากๆด้วยเช่นกัน เป็นไปได้อยากอยู่ใกล้ๆตลอดเลยอยากกอด

ผมอยากให้พี่รู้เอาไว้เลยนะครับ ตัวผมนั้นจะให้รักใครสักคนมันยากเหลือเกิน กว่าผมจะหาคนที่ใช่อย่างพี่ได้รู้ไหมมันไม่ง่ายเลยนะครับ ผมนี่โชคดีแค่ไหนแล้วที่บังเอิญเจอพี่ ผมจึงรักพี่มากและรักของผมนี้ไม่ปลอมแน่นอนครับผมให้พี่จากใจจริงทุกครั้ง ผมไม่เคยรักพี่น้อยลงสักวัน พี่รู้ไหมตั้งแต่ที่ผมมีพี่เข้ามาในชีวิต ผมไม่รู้สึกโดดเดี่ยวแล้วนะ ผมไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวแล้ว ผมนอนหลับเต็มอิ่มทุกคืนเลย ถึงพี่จะเคยพูดว่ามีอะไรพูดกับพี่ได้ทุกเรื่อง ผมก็เกรงใจนะครับพี่ดีกับผมแค่นี้มันก็มากพอแล้ว

ผมเองก็เป็นคนที่ขี้น้อยใจแค่พี่เปลี่ยนคำพูดหรือลืมบอกฝันดีลืมให้จุ๊บผม ผมก็ซึมแล้วครับ ผมเป็นคนขี้ระแวง พี่หายไปแค่นาทีเดียวผมก็สามารถคิดไปได้ไกลต่อไหนแล้วครับ ผมเป็นคนแสดงออกไปเก่ง ผมมักจะเงียบทุกครั้งไม่ก็ไปไม่ถูก ผมเป็นแบบนี้ แต่ผมก็ไม่กล้าพูดมันออกไปต่อหน้าพี่ มันจะดูเรียกร้องความสนใจมั้ยนะ? มันจะดูงี่เง่าไปรึเปล่า? ผมเป็นคนคิดมากแบบนี้อยู่แล้ว และเป็นตั้งนานแล้วด้วยครับ ข้อความพวกนี้หวังว่าจะทำให้พี่เดาทางผมถูก รู้ตัวตนของผมมากขึ้นนะครับ

สุดท้ายนี้ผมก็แค่ต้องการพี่ แค่พี่คนเดียวไม่ใช่ใครหน้าไหน เพราะผมมีแค่พี่คนเดียวจริงๆ อยู่ให้ผมกอดแบบนี้ไปนานๆเลยนะครับ แค่นี้ผมก็ดีใจสุดๆแล้วล่ะครับ ผมไม่รู้หรอกว่าตลอดไปมีจริงรึเปล่าแต่ผมอยากจะอยู่กับพี่ให้ได้นานที่สุด

我自爱你一个人。♡

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!