ในเมืองใหญ่ที่ไม่เคยหลับ แสงไฟนีออนส่องสว่างตลอดทั้งคืน ถนนที่พลุกพล่านด้วยผู้คนและรถยนต์ที่แล่นผ่านไปมา เสียงไซเรนของรถตำรวจดังไกล ๆ เป็นเครื่องเตือนใจว่าความปลอดภัยเป็นเพียงแค่ภาพลวงตา แต่ความเป็นจริงเมืองนี้เต็มไปด้วยความลึกลับและอันตราย และในเงามืดนั้นยังมีองค์กรมาเฟียที่ใหญ่ที่สุดและมีอิทธิพลที่สุดคอยควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างในเมือง
แดเนียล มาเฟียหนุ่มอายุ 32 ปี สูง 182 เซนติเมตร เป็นหัวหน้าขององค์กรมาเฟียที่ใหญ่ที่สุดและมีอิทธิพลที่สุด ยืนอยู่ที่หน้าต่างของเพนต์เฮาส์สูงสุด มองลงไปยังเมืองที่คอยก้มหัวให้เขา ชายหนุ่มที่มีนัยน์ตาเย็นชาและใจเด็ดเดี่ยว เป็นที่รู้จักในฐานะคนที่ไม่มีความรู้สึกและไม่เคยเปิดใจให้ใคร แต่ในความเป็นจริง ภายในใจเขากลับมีความฝันที่ซ่อนเร้น
เขาฝันถึงการมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ บ้านที่อบอุ่น เด็ก ๆ ที่วิ่งเล่นในสวน และเสียงหัวเราะที่เติมเต็มบ้าน แต่ความฝันนี้ดูเหมือนจะห่างไกลจากความเป็นจริงในชีวิตของเขา
แดเนียลถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะเดินกลับไปที่โต๊ะทำงาน บนโต๊ะมีเอกสารมากมายเกี่ยวกับธุรกิจผิดกฎหมายที่ต้องจัดการ เขาต้องกลับไปเป็นคนที่เย็นชาและเด็ดเดี่ยว เพราะในโลกนี้ ความอ่อนแอไม่เคยมีที่ยืน
เขาหยิบปากกาและเริ่มลงนามในเอกสารด้วยท่าทางที่เฉียบขาด ทุกครั้งที่ลงนาม เขารู้ดีว่านั่นคือการตัดสินชะตากรรมของใครบางคนในเมืองนี้
ประตูห้องทำงานเปิดออก เบน ผู้ช่วยที่ซื่อสัตย์และมือขวาของดาเนียลเดินเข้ามาพร้อมกับแฟ้มข้อมูลใหม่ในมือ
เบน: ขออนุญาตครับนาย นายครับ นี่คือรายงานล่าสุดจากการที่ผมให้ลูกน้องไปสืบเรื่องคู่แข่งครับ
เบนกล่าวพร้อมกับวางแฟ้มลงบนโต๊ะ
แดเนียลพยักหน้าเล็กน้อยแล้วเปิดแฟ้มข้อมูล เขาอ่านอย่างรวดเร็วและเงียบขรึม เมื่อพบสิ่งที่น่าสนใจ
แดเนียล: มันถึงเวลาที่เราจะต้องจัดการกับคนพวกนี้แล้ว
แดเนียลกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาด แต่ในใจเขากลับรู้สึกอ้างว้าง
เบนมองดาเนียลด้วยความเคารพและเข้าใจ เขารู้ว่าภายใต้ความเย็นชาของแดเนียลนั้น มีความเจ็บปวดและความฝันที่ซ่อนเร้น
เบน: นายเคยคิดบ้างไหมว่าชีวิตจะเป็นยังไงถ้าไม่มีเรื่องพวกนี้?
แดเนียลหันมามองเบน นัยน์ตาของเขาเผยให้เห็นความอ่อนล้าและความฝันที่ไม่เคยบอกใคร
แดเนียล: ฉันฝันถึงครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ บ้านที่อบอุ่น และชีวิตที่สงบสุข แต่ความฝันนั้นไม่เหมาะกับคนอย่างฉัน
แดเนียลกล่าวด้วยเสียงที่แผ่วเบา
เบนพยักหน้าอย่างเข้าใจและไม่พูดอะไรอีก เขารู้ว่าความฝันของแแเนียลนั้นไกลเกินเอื้อมในโลกที่พวกเขาอยู่
เบน: เรามีการประชุมกับกลุ่มพันธมิตรคืนนี้ อย่าลืมนะครับนาย
แดเนียลพยักหน้าและกลับมาสู่ความเป็นจริง เขาต้องดำเนินการตามแผนและปกป้ององค์กรของเขา ความฝันอาจจะเป็นเพียงภาพลวงตา แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงนี้แดเนียลต้องเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งและไม่ย่อท้อ
คืนมืดมิดเข้ามา เมืองใหญ่ยังคงคึกคักด้วยแสงไฟและเสียงที่ไม่เคยหยุด แแเนียลและทีมของเขาเดินทางไปยังสถานที่ประชุมลับใต้ดิน ที่ซึ่งกลุ่มพันธมิตรขององค์กรมาเฟียต่างๆ รวมตัวกัน
เมื่อแดเนียลก้าวเข้าไปในห้องประชุม สายตาทุกคู่หันมาจับจ้องเขาด้วยความเคารพและคาดหวัง บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม แดเนียลรู้ว่าทุกคำพูดและการตัดสินใจของเขาในวันนี้อาจส่งผลต่อชะตากรรมของคนในองค์กร และอาจเป็นตัวชี้วัดว่าใครจะอยู่รอดในโลกที่เต็มไปด้วยอันตราย
แดเนียล: ขอต้อนรับทุกท่าน คืนนี้เรามีเรื่องสำคัญที่ต้องหารือเกี่ยวกับการดำเนินงานในอนาคตของเรา
แดเนียลกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แข็งแกร่งและเด็ดขาด ดวงตาของเขากวาดมองรอบห้องอย่างเยือกเย็น ทุกคนเงียบฟังอย่างตั้งใจ
การประชุมเริ่มต้นขึ้นด้วยการอภิปรายแผนงานขยายธุรกิจ การจัดการทรัพยากร และการป้องกันการโจมตีจากคู่แข่ง แดเนียลรับฟังทุกความเห็นอย่างรอบคอบ ก่อนจะเสริมด้วยคำแนะนำที่เฉียบแหลม การประชุมเต็มไปด้วยความตึงเครียดและความหวังถึงอนาคตที่ท้าทาย
แต่ระหว่างที่การประชุมดำเนินไป แดเนียลสังเกตเห็นบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากล หนึ่งในสมาชิกที่เข้าร่วมประชุมมีท่าทีแปลกไป ดูไม่พอใจและอึดอัด ดวงตาของชายคนนั้นฉายแววขัดแย้งและไม่เป็นมิตร แดเนียลจับตามองและรู้สึกถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น
เมื่อการประชุมสิ้นสุดลงและทุกคนเริ่มแยกย้าย แดเนียลเรียกเบนมาคุยเป็นการส่วนตัว ในห้องที่ไม่มีใครอยู่ แดเนียลเอ่ยเบาๆ แต่เต็มไปด้วยความจริงจัง
แดเนียล: เบน ฉันต้องการให้เธอติดตามชายคนนั้น ฉันไม่ไว้ใจเขา
แดเนียลสั่งการให้เบนติดตามที่มีท่าทีไม่เป็นมิตรนั้น
เบนพยักหน้าและออกไปปฏิบัติหน้าที่ ดาเนียลรู้ว่าการเป็นผู้นำในโลกนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เขาจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้ององค์กรและคนที่เขารัก แม้ว่าในที่สุดความฝันของเขาอาจจะไม่เป็นจริง
เบนตามชายคนนั้นออกจากสถานที่ประชุม เบนเป็นคนรอบคอบและมีความสามารถในการสืบหาข้อมูล เขาสังเกตพฤติกรรมของชายคนนั้นทุกย่างก้าว แม้ในความมืดที่ปกคลุมในเมืองใหญ่ ชายคนนั้นเดินลัดเลาะผ่านซอยแคบ ๆ และถนนที่มืดมน ดูเหมือนเขามีจุดหมายบางอย่างที่ไม่ต้องการให้ใครรู้
เบนตามเขาไปจนถึงอาคารร้างที่อยู่ในย่านที่ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน ชายคนนั้นหยุดและหันกลับมามอง เบนหลบอยู่ในเงามืด เขามองเห็นชายคนนั้นยืนคุยกับกลุ่มคนที่เขาไม่รู้จัก
เบนยืนเงียบมองการสอบสวนอย่างสงบ แม้จะมีคำถามหลายอย่างผุดขึ้นในใจ เขาสังเกตทุกการเคลื่อนไหวและท่าทีของชายปริศนาอย่างละเอียด ก่อนที่เขาจะครุ่นคิด ร
เบน: เขาอาจจะเป็นสายลับของคู่แข่งจริงๆ หรือบางทีอาจเป็นเพียงเบี้ยตัวหนึ่งในแผนที่ใหญ่กว่า
เบนรู้ดีว่าไม่สามารถไว้วางใจได้ทันที จึงตัดสินใจที่จะสืบต่อไปโดยไม่ให้ใครรู้
เช้าวันต่อมา แดเนียลนั่งอยู่ในห้องทำงานของเขา มีรายงานจากเบนวางอยู่บนโต๊ะ เขาเปิดอ่านและพบว่าชายที่เขาสงสัยเป็นหนึ่งในสมาชิกเก่าของกลุ่มคู่แข่งที่ถูกขับออกมาจากการขัดแย้งภายในได้แฝงตัวเข้ามา
แดเนียล: เราต้องจัดการเรื่องนี้โดยเร็ว
แดเนียลกล่าวกับตัวเอง เขารู้ว่าการปล่อยให้ศัตรูอยู่ภายในองค์กรมันจะเป็นอันตรายใหญ่หลวง
แดเนียลเรียกประชุมทีมรักษาความปลอดภัยในคืนนั้น เขาอธิบายสถานการณ์และเตรียมแผนการที่จะเผชิญหน้ากับชายคนนั้น
ในคืนที่เงียบสงัดและลมหนาวพัดผ่าน แดเนียลและทีมของเขาเคลื่อนตัวอย่างเงียบเชียบไปยังอาคารร้างที่เบนสืบพบ ข้างในเต็มไปด้วยกลิ่นอับและความมืด เมื่อพวกเขามาถึงกลางห้อง แดเนียลเห็นชายคนนั้นยืนรออยู่ท่ามกลางความเงียบ ชายผู้ที่แดเนียลสงสัยว่าเป็นสายลับจากองค์กรคู่แข่ง
แดเนียล: เรารู้ว่าคุณเป็นสายลับของคู่แข่ง พูดความจริงออกมา มิฉะนั้นคุณจะต้องเผชิญกับผลลัพธ์ที่เลวร้าย
แดเนียลกล่าวด้วยเสียงเย็นชา ดวงตาของเขาเป็นประกายเยือกเย็น ขณะที่ทีมของเขาล้อมรอบชายปริศนาคนนั้น
ชายคนนั้นยิ้มเยาะ ไม่แสดงท่าทีหวาดกลัวแม้แต่น้อย
ชายปริศนา: คุณคิดว่าผมกลัวคุณเหรอ คุณแดเนียล? คุณอาจจะควบคุมทุกอย่างในเมืองนี้ได้ แต่คุณไม่สามารถควบคุมผมได้
แดเนียลไม่สนใจคำพูดที่ท้าทาย เขาจ้องมองชายคนนั้นอย่างนิ่งเฉยก่อนจะให้สัญญาณกับทีมของเขา ชายปริศนาถูกควบคุมตัวอย่างรวดเร็วและมือถูกมัดแน่นด้วยเชือกหนา
แดเนียล: เราจะสอบสวนคุณจนกว่าจะได้คำตอบที่เราต้องการ
แดเนียลพูดเสียงต่ำ ทิ้งท้ายด้วยความแน่วแน่ ขณะที่ชายคนนั้นเริ่มรับรู้ถึงชะตากรรมที่รออยู่
แดเนียลกล่าว และหันหลังกลับพร้อมกับทีมของเขา
หลังจากการเผชิญหน้ากับสายลับของคู่แข่ง แดเนียลเริ่มรู้สึกว่าการควบคุมองค์กรและปกป้องคนที่เขารักเป็นเรื่องที่ยากขึ้นทุกวัน ความฝันของการมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบยังคงไกลเกินเอื้อม
เขากลับไปที่เพนต์เฮาส์และนั่งลงที่โต๊ะทำงาน มองไปยังรูปถ่ายเก่า ๆ ของครอบครัวที่เคยมี เขารู้ว่าชีวิตของเขาจะไม่มีวันกลับไปเหมือนเดิม แต่เขายังคงฝันและหวังว่าในสักวันหนึ่ง เขาอาจจะพบหนทางที่จะทำให้ความฝันนั้นเป็นจริง
ในขณะที่แดเนียลกำลังจมอยู่ในความคิด เสียงเคาะประตูทำให้เขาตื่นจากภวังค์ เขาหันไปมองก่อนจะบอกให้เข้ามา ประตูเปิดออก เบน ลูกน้องคนสนิทของแดเนียลเดินเข้ามาด้วยสีหน้าจริงจัง
เบน: นายครับ เราได้ข้อมูลที่สำคัญจากสายลับคนนั้น มันอาจจะช่วยให้เราสามารถก้าวผ่านปัญหานี้ไปได้
แดเนียลพยักหน้าและลุกขึ้นยืน มองไปรอบๆ ด้วยสายตาเด็ดเดี่ยว แม้จะเหนื่อยล้าจากการต่อสู้ที่ยาวนาน แต่เขารู้ว่าตัวเองไม่มีทางยอมแพ้ได้ เส้นทางที่เขาเลือกไม่ใช่เพียงเพื่ออำนาจหรืออาณาจักรที่เขาสร้าง แต่เพื่อความฝันที่ยังคงอยู่ลึกในใจ ความฝันที่จะมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ มีคนที่เขารักอยู่เคียงข้าง
เขารู้ว่าการต่อสู้นี้ไม่ใช่แค่เพื่อองค์กรหรือเพื่อปกป้องสิ่งที่เขาสร้างขึ้น แต่เพื่อความหวังที่เขาเก็บรักษาไว้ตลอดมา แดเนียลสูดหายใจลึก และก้าวเดินต่อไปอย่างไม่หวั่นเกรง
แดเนียลยืนอยู่ในห้องมืดมิดของสำนักงาน เขามองออกไปนอกหน้าต่างที่เผยให้เห็นทัศนียภาพของเมืองใหญ่ที่ไม่เคยหลับไหล สำนักงานนี้เป็นศูนย์กลางขององค์กรมาเฟียที่ใหญ่ที่สุดในเมือง ทุกการตัดสินใจของเขามีผลกระทบต่อผู้คนมากมาย แต่คืนนี้ ความคิดของเขากลับพุ่งตรงไปที่เรื่องหนึ่ง นั่นคือการมีทายาท
แดเนียลรู้ดีว่าการมีลูกเป็นส่วนหนึ่งของความฝันที่เขาวาดไว้ ไม่ใช่เพียงเพื่อสืบทอดองค์กร แต่เพื่อเติมเต็มบางสิ่งที่ขาดหายไปในชีวิตของเขา เขาจำเป็นต้องทำให้ความฝันนี้เป็นจริง แต่เขาไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน
ด้วยความไม่แน่ใจ แดเนียลหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและกดโทรหาคนที่เขาไว้วางใจที่สุด รุ่นพี่ที่เขานับถือเหมือนพี่ชายแท้ๆ คนนี้เป็นหมอผู้ช่ำชองในวงการ และมักให้คำปรึกษาที่ดีให้กับเขาอยู่เสมอ
แดเนียล: สวัสดีครับพี่อาทิตย์ ว่างหรือเปล่าครับ
แดเนียลพูดทันทีเมื่อปลายสายรับ
เสียงนุ่มของหมออาทิตย์ตอบกลับมา
หมออาทิตย์: สวัสดีครับแดเนียล ว่างครับพี่พักเที่ยงพอดีเลย เรามีอะไรจะให้ช่วยพี่หรือเปล่า?
แดเนียลนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะสูดหายใจลึกแล้วเอ่ย
แดเนียล: ผม...ผมมีเรื่องอยากปรึกษาน่ะครับ
หมออาทิตย์: ว่ามาเลยครับ ไม่ต้องเกรงใจ
หมออาทิตย์ตอบด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง
แดเนียล: คือ...ผมอยากมีลูกครับ แต่ผมไม่รู้ว่าต้องทำยังไง
แดเนียลพูดด้วยความลังเลในน้ำเสียง
ปลายสายเงียบไปสักครู่ ก่อนหมออาทิตย์จะตอบ
หมออาทิตย์: งั้นลองหาคนมาอุ้มบุญดูไหม?
แดเนียล: (ขมวดคิ้วเล็กน้อย) อุ้มบุญเหรอครับ?
หมออาทิตย์: หาโอเมก้าที่สมัครใจมาอุ้มบุญให้ก็ได้ สมัยนี้มีโอเมก้าหลายคนที่ต้องการหาเงินไปเลี้ยงตัวเองและครอบครัว
แดเนียลนิ่งคิด เขาไม่เคยคิดถึงวิธีนี้มาก่อน
แดเนียล: แต่ผมไม่รู้ว่าจะหาโอเมก้าได้จากที่ไหน
หมออาทิตย์: ลองประกาศตามหาโอเมก้าในบนเว็บไซต์ต่างๆดูสิ มันไม่ยากอย่างที่คิด แดเนียล โอเมก้าหลายคนก็หางานแบบนี้อยู่แล้ว
แดเนียล: จริงเหรอครับ?
หมออาทิตย์: จริงสิ สมัยนี้มีโอเมก้าหลายคนที่อยากอุ้มบุญเพื่อหาเงินไปเลี้ยงตัวเองและคนในครอบครัว
แดเนียล: งั้นผมจะลองดูครับ ขอบคุณมากสำหรับคำแนะนำนะครับ พี่อาทิตย์
หมออาทิตย์: ไม่เป็นไรครับ ไว้ถ้ามีอะไรอีกก็โทรมาปรึกษาพี่ได้เสมอเลยนะ
แดเนียล : ครับ สวัสดีครับ
แดเนียลกล่าวก่อนที่จะกดวางสาย
เขายืนมองโทรศัพท์ในมือ ความคิดต่างๆ เริ่มวนเวียนในหัว การตัดสินใจที่จะหาคนมาอุ้มบุญเริ่มชัดเจนขึ้น และแดเนียลรู้ว่านี่อาจจะเป็นทางเดียวที่จะทำให้ความฝันของเขาเป็นจริง
แต่การที่จะค้นหาคนที่มีคุณสมบัติที่พอดีกับบทบาทนี้ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายๆ เพราะการมีทายาทเพื่อที่จะสืบทอดสกุล จำเป็นต้องมีโอเมก้าที่เหมาะสม แต่ในโลกอันโหดร้ายแห่งนี้ เต็มไปด้วยอันตรายมากมาย การค้นหาโอเมก้าที่บริสุทธิ์และพร้อมจะสร้างครอบครัว กลายเป็นสิ่งที่ยากลำบาก
แดเนียล รู้ดีว่าเขาต้องเผชิญบททดสอบมากมาย เขาต้องต่อสู้กับศัตรูที่คอยหมายชีวิต รักษาความลับขององค์กร และปกป้องโอเมก้าที่เขาเลือกและเขาก็พร้อมที่จะทุ่มเททุกอย่าง เพื่อให้ความฝันของเขากลายเป็นจริง
หลังจากพิจารณาทางเลือกมาอย่างรอบคอบ แดเนียลตัดสินใจว่าการหาคนมาอุ้มบุญเป็นทางออกที่ดีที่สุด เขาต้องการทายาทเพื่อสืบทอดองค์กรและทำให้ความฝันในการมีครอบครัวที่สมบูรณ์เป็นจริง ดังนั้นเขาจึงมอบหมายให้เบน ผู้ช่วยและเลขาที่ไว้ใจได้ จัดการเรื่องนี้ให้
โดยเบนใช้ช่องทางออนไลน์และเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อประกาศหาคนที่มีคุณสมบัติตามที่แดเนียลต้องการ และหากใครผ่านเขาจะจ้างทันมีพร้อมค่าตอบแทนเป็นเงินก้อนแรก
แดเนียลนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานในสำนักงานที่ดูเคร่งขรึม เขามองไปที่เบนซึ่งยืนรอคำสั่งอยู่ตรงหน้า
แดเนียล: ไปจัดการหาโอเมก้ามาให้ฉันด้วย
แดเนียลสั่งเบนซึ่งเป็นผู้ช่วยและเลขาของเขา ให้ประกาศรับสมัครหาโอเมก้าเพื่อที่จะมาอุ้มบุญให้เขา
เบน: นายตัดสินใจดีแล้วใช่ไหมครับ...
เบนพยักหน้า แต่ก่อนจะเดินไปปฏิบัติตามคำสั่ง เขากลับเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง เพราะเขารู้ว่างานที่เจ้านายเค้าทำนั้นอันตรายแค่ไหนเค้าจึงถามเจ้านายเค้าเพื่อความมั่นใจว่าตัดสินใจดีแล้วใช่ไหม
แม้ว่าเบนจะเป็นผู้ช่วยที่ทำงานให้แดเนียลมาหลายปี และคุ้นเคยกับความเด็ดขาดของนายเขา แต่เขาก็อดกังวลไม่ได้ เพราะงานที่แดเนียลทำเต็มไปด้วยอันตราย และการนำเด็กเข้ามาในชีวิตนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
แดเนียลเงยหน้ามองเบนด้วยสายตาที่มั่นคง
แดเนียล: อืม ฉันตัดสินใจดีแล้ว
เขาพูดอย่างหนักแน่น ไม่มีความลังเลใดในน้ำเสียงของเขา การมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบเป็นสิ่งที่เขาโหยหามาตลอด แม้อาชีพของเขาจะเต็มไปด้วยความเสี่ยงและอันตราย แต่แดเนียลพร้อมจะทุ่มเททุกสิ่งเพื่อปกป้องและสร้างชีวิตใหม่ที่เขาฝันถึง
เบน: ถ้านายตัดสินใจดีแล้ว...ผมจะดำเนินการเรื่องให้โดยเร็วที่สุดครับ
เบนรับฟังคำตอบนั้นด้วยความเคารพ เขารู้ดีว่าหากเจ้านายของเขาตัดสินใจอะไรแล้ว จะไม่มีอะไรเปลี่ยนใจเขาได้
เบน: ถ้านายตัดสินใจดีแล้ว… ผมจะดำเนินการเรื่องให้โดยเร็วที่สุดครับ
เบนตอบอย่างสุภาพ ก่อนจะลุกขึ้นยืนและโค้งคำนับเล็กน้อยเพื่อแสดงความเคารพ แล้วจึงเดินออกจากห้องไป
ทันทีที่ได้รับมอบหมายงานสำคัญ เบนรีบดำเนินการทันที เขาเปิดคอมพิวเตอร์และเริ่มสร้างประกาศหาคนมาอุ้มบุญสำหรับเจ้านายของเขา เบนใช้คำที่ดูน่าสนใจและดึงดูดผู้คน โดยเน้นถึงคุณสมบัติที่ต้องการ เช่น การเป็นโอเมก้าที่พร้อมจะอุ้มบุญ รวมถึงเสนอค่าตอบแทนที่น่าสนใจเป็นเงินก้อนแรก ซึ่งจะช่วยดึงดูดผู้สมัครให้มาเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างครอบครัวที่แดเนียลปรารถนา
เบนพิมพ์ประกาศนั้นอย่างละเอียด เขารู้ดีว่าการประกาศนี้ต้องออกมาอย่างดีที่สุด เพราะมันไม่ใช่แค่เรื่องงานธรรมดา แต่มันคือก้าวสำคัญของแดเนียลในการสร้างชีวิตใหม่
ประกาศบนเว็บไซต์ต่างๆ ดังนี้:
“รับสมัครโอเมก้าที่เต็มใจอุ้มบุญให้กับนักธุรกิจหนุ่มผู้ทรงอิทธิพล พร้อมค่าตอบแทนสูง โอเมก้าที่สนใจกรุณาติดต่อและส่งประวัติมาเพื่อพิจารณา ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ ขอเพียงคุณมีความพร้อมและเต็มใจ ทุกข้อมูลจะถูกเก็บเป็นความลับอย่างเข้มงวด”
โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
คุณสมบัติ
* เพศชาย (โอเมก้า)
* สุขภาพแข็งแรง
* ไม่มีโรคประจำตัวหรือภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายต่อการตั้งครรภ์
* อายุ 20-30 ปี
* ไม่เคยตั้งครรภ์มาก่อน
* ยินดีทำตามสัญญา
สวัสดิการ
* เงินตอบแทนก้อนโต
* ดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมด
* อาหาร และการรักษาพยาบาลฟรี
ผู้สนใจกรุณาติดต่อ
เลขา เบน
09********
Abcdef@gmail.com
หมายเหตุ
* ข้อมูลส่วนตัวที่ผู้สมัครส่งมาจะเป็นความลับทุกประการ
* ทางเราจะคัดเลือกผู้สมัครอย่างรอบคอบ
เพิ่มเติม
* เขามีฐานะร่ำรวย และต้องการมีทายาทเพื่อสืบสกุล
* เขาจะดูแลโอเมก้าและลูกน้อยอย่างดีที่สุด
คำเตือน‼️
* เขาเป็นชายหนุ่มผู้สวมบทบาทหัวหน้า เปี่ยมไปด้วยความเฉียบคมและเด็ดเดี่ยว ใบหน้าของเขาฉายแววเย็นชา ราวกับไร้หัวใจและเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ไร้ความรู้สึก ไม่เคยเปิดใจให้ใคร
* หากคุณตัดสินใจแล้วชีวิตคุณอาจแขวนอยู่บนด้าย คุณพร้อมที่จะเสี่ยงมันหรือไม่
‼️ ข้อควรพิจารณาก่อนสมัครเป็นแม่อุ้มบุญ ‼️
* สุขภาพ: แม่อุ้มบุญต้องมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์แข็งแรง
* สภาพจิตใจ: แม่อุ้มบุญต้องมีความพร้อมทางจิตใจ เตรียมพร้อมรับมือกับอารมณ์และความรู้สึกต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการตั้งครรภ์นั้น
* กฎหมาย: ศึกษาข้อมูลกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการอุ้มบุญในประเทศไทย
* สัญญา: ศึกษาและทำความเข้าใจสัญญาการอุ้มบุญอย่างละเอียด
* ครอบครัว: พูดคุยและขอความยินยอมจากครอบครัว
การอุ้มบุญ เป็นการตัดสินใจที่สำคัญ ส่งผลต่อชีวิตของทั้งแม่อุ้มบุญและอัลฟ่าดังนั้นแม่อุ้มบุญควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียด พิจารณาอย่างรอบคอบและตัดสินใจด้วยความสมัครใจ
ปล.1 หากท่านใดได้รับเลือกให้เป็นแม่อุ้มบุญทางเราจะรีบติดต่อกลับไปทันที และขอความร่วมมือให้แม่อุ้มบุญ มาตามวันเวลาที่ทางเรานัดไว้อย่างเคร่งครัด
⁉️ปล.2 หากท่านใดได้รับเลือกให้เป็นแม่อุ้มบุญจะต้องย้ายมาอยู่ที่คฤหาสน์******เพื่อที่ทางเราจะดูแลคุณแม่อุ้มบุญได้อย่างสะดวกและปลอดภัยในระหว่างที่คุณแม่นั้นตั้งครรภ์
ผู้ลงประกาศรับสมัคร
เลขา เบน
12/07/2024
เบนใช้เวลาไม่นานในการสร้างประกาศที่มีเนื้อหาน่าสนใจและดึงดูด เขากระจายประกาศนี้ไปยังเว็บไซต์และแพลตฟอร์มที่เหมาะสมทันที หวังว่าจะได้พบโอเมก้าที่มีคุณสมบัติตามที่แดเนียลต้องการ
แดเนียลรอคอยอย่างใจเย็น แม้ว่าเบื้องหลังของเขาจะเต็มไปด้วยความอันตรายจากการเป็นหัวหน้าองค์กรมาเฟียที่ทรงอิทธิพลที่สุดในเมือง แต่ความต้องการที่จะมีครอบครัวที่สมบูรณ์ยังคงเป็นเป้าหมายหลักในชีวิตของเขา
ไม่นานนัก การประกาศของเบนก็เริ่มได้รับความสนใจจากโอเมก้าหลายคนที่ส่งประวัติและข้อมูลส่วนตัวเข้ามาเพื่อพิจารณา แต่แดเนียลยังคงต้องใช้เวลาในการตัดสินใจเลือกคนที่เหมาะสมที่สุดที่จะมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตและอนาคตของเขา
ติ๊ดติ๊ดติ๊ด ติ๊ดติ๊ดติ๊ด
เสียงนาฬิกาดังขึ้นอย่างเงียบงันในห้องเล็ก ๆ ที่นรินทร์พักอยู่ เขานั่งอยู่บนเตียงเล็ก ๆ มองไปยังบิลที่เรียงรายอยู่บนโต๊ะ มีบิลค่ารักษาพยาบาลของแม่ที่ป่วย ค่าธรรมเนียมการเรียนของน้อง และค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทุกวัน
นรินทร์ โอเมก้าผู้แสนใจดีและอ่อนโยน อายุ 25 ปี สูง 170 เซนติเมตร ผิวขาวชมพู เขามองเห็นแสงสว่างเพียงเล็กน้อยในชีวิตที่เต็มไปด้วยความกังวล แต่ความรักและความรับผิดชอบต่อครอบครัวของเขาทำให้เขายังยิ้มได้ แม้ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้
นรินทร์คิดถึงแม่ที่นอนอยู่ในโรงพยาบาลและน้องที่กำลังศึกษาในมหาวิทยาลัย ความกดดันทางการเงินทำให้เขาต้องหาทางออกใหม่ ๆ วันหนึ่งในขณะที่นั่งอยู่หน้าแล็ปท็อป นรินทร์ได้ไปเจอประกาศรับสมัครโอเมก้าอุ้มบุญบนเว็บไซต์
"เอายังไงดีนรินทร์" เขาพูดพึมพำกับตัวเองพยายามหาคำตอบในความเงียบ
เขาจ้องมองประกาศนั้นอยู่เป็นเวลานาน ก่อนจะคลิกเข้าไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ข้อเสนอดูเหมือนจะเป็นทางออกที่ดีต่อปัญหาทางการเงินของเขา แต่ในใจของนรินทร์ก็เต็มไปด้วยความลังเลและกลัว
การตัดสินใจที่จะอุ้มบุญไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเขา มันเป็นการตัดสินใจที่อาจจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาไปตลอดกาล เขารู้ว่ามันมีความเสี่ยงและความท้าทายมากมายที่ต้องเผชิญ แต่เพื่อครอบครัวที่เขารัก นรินทร์ก็พร้อมที่จะพิจารณาทุกทางเลือก
- - -
หลังจากเบนพิมพ์ประกาศเสร็จเรียบร้อย เขาตรวจทานเนื้อหาหลายครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างถูกต้องและเหมาะสมที่สุด ประกาศถูกโพสต์ลงในเว็บไซต์และแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ที่มีผู้คนมากมายใช้งาน โดยเฉพาะกลุ่มที่เป็นโอเมก้าหรือผู้ที่สนใจในงานอุ้มบุญ หลังจากประกาศไปเพียงไม่นาน ข้อความแจ้งเตือนเริ่มหลั่งไหลเข้ามาไม่หยุด มีผู้สมัครหลายคนที่ส่งโปรไฟล์และรายละเอียดมาให้เบนตรวจสอบ
เบนใช้เวลาหลายชั่วโมงในการคัดกรองผู้สมัครที่เข้ามา พร้อมกับตรวจเช็คว่าคนที่สมัครนั้นมีคุณสมบัติตรงตามที่แดเนียลต้องการหรือไม่ ขณะที่เขากำลังตรวจสอบข้อมูล เขาก็คิดถึงแดเนียล ผู้ที่ทุ่มเทให้กับองค์กรและความฝันในการสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์ แม้ว่าแดเนียลจะมีชีวิตที่เต็มไปด้วยอันตรายและความท้าทาย แต่ความฝันนั้นกลับเป็นสิ่งที่ทำให้เขาไม่ย่อท้อ
เวลาผ่านไป เบนได้รวบรวมรายชื่อผู้สมัครที่ผ่านการคัดกรอง จากนั้นเขาเดินกลับไปหาแดเนียลในห้องทำงานของเขา ประตูห้องเปิดออก และแดเนียลยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน โดยมองออกไปนอกหน้าต่างที่มีแสงไฟจากเมืองใหญ่
เบน: ขออนุญาตครับ คุณแดเนียล ผมได้รวบรวมรายชื่อผู้สมัครที่มีคุณสมบัติเหมาะสมทั้งหมดแล้วครับ นี่คือแฟ้มข้อมูลของพวกเขาครับ
แดเนียล: ดี แล้วมีใครโดดเด่นเป็นพิเศษไหม?
เบน: มีครับ ผมได้คัดเลือกมาแล้วสองคน ซึ่งทั้งคู่มีโปรไฟล์ที่น่าสนใจ
แดเนียล: โอเค เอามาให้ฉันดูหน่อย
แดเนียลตอบเบนด้วยเสียงเรียบ เขายื่นมือไปรับแฟ้มข้อมูลที่เบนส่งให้ ขณะที่เบนยื่นแฟ้มสองเล่มให้ แดเนียลเปิดแฟ้มแรกอ่านอย่างตั้งใจ
เบน: คนแรกคือนายเบญจมาศ อายุ 28 ปี เป็นโอเมก้าที่มีประสบการณ์ในการอุ้มบุญมาก่อนครับ เคยอุ้มบุญให้กับครอบครัวที่มีฐานะดี และทุกอย่างก็เป็นไปด้วยดี ไม่มีปัญหาอะไร
แดเนียลพยักหน้ารับฟัง แต่ยังคงไล่สายตาไปที่ข้อมูลในแฟ้มอย่างละเอียด
เบน: คนที่สองคือนายอรรถพล อายุ 25 ปี เป็นโอเมก้าที่ไม่เคยอุ้มบุญมาก่อน แต่มีแรงจูงใจที่ชัดเจน พื้นฐานมาจากครอบครัวที่มีปัญหาทางการเงิน และต้องการเงินเพื่อรักษาแม่ที่ป่วยกับส่งน้องไปเรียน
แดเนียล: อืม แล้วคนสุดท้ายล่ะ?
เบน: คนสุดท้ายคือนายณัฐวุฒิ อายุ 27 ปี เป็นโอเมก้าที่สุขภาพดี ไม่มีภาระผูกพัน แต่คนนี้ประสบการณ์การอุ้มบุญมาก่อน และเป็นคนที่มีจิตใจอ่อนโยน มีความรับผิดชอบสูง
แดเนียล: ขอบคุณมาก เบน แต่มีคนหนึ่งที่ผมรู้สึกสนใจเป็นพิเศษ เขาชื่อ นรินทร์ อายุ 25 ปี ใช่ไหม?
เบน: ใช่ครับ นรินทร์เป็นคนที่มีจิตใจดีและอ่อนโยน มีความรับผิดชอบสูง สุขภาพแข็งแรงดี และไม่มีภาระผูกพัน
แดเนียล: ใช่ ผมจำได้ว่าเขามีเหตุผลที่ชัดเจนในการสมัคร เขาต้องการเงินเพื่อรักษาแม่และส่งน้องไปเรียนต่อ
เบน: ใช่ครับ นรินทร์มีความตั้งใจจริงและพร้อมที่จะทำหน้าที่นี้อย่างเต็มที่
แดเนียล: นรินทร์…
แดเนียลทวนชื่อในใจ เขาวางแฟ้มลงบนโต๊ะ ก่อนจะพิจารณาตัดสินใจ
แดเนียล: งั้นผมตัดสินใจแล้ว ผมเลือกนรินทร์ ผมคิดว่าเขาเหมาะสมที่สุด
เบน: เข้าใจแล้วครับ ผมจะติดต่อเขาและจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยครับ
แดเนียล: ขอบคุณมาก เบน การเลือกครั้งนี้สำคัญต่ออนาคตของเราจริง ๆ ผมหวังว่าทุกอย่างจะเป็นไปได้ด้วยดี
เบน: ผมมั่นใจว่านรินทร์จะทำได้ดีครับ คุณแดเนียล
เบนเดินออกจากห้องพร้อมกับความรับผิดชอบในการจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย เขาเตรียมพร้อมที่จะติดต่อกับนรินทร์และเริ่มกระบวนการตามที่แดเนียลต้องการ
เมื่อเบนออกจากห้องไป แดเนียลยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน ทบทวนความคิดและแผนการของตัวเอง เขามองออกไปยังวิวของเมืองที่ส่องแสงระยิบระยับในความมืด ความทะเยอทะยานและความฝันของเขานั้นยังคงชัดเจนเหมือนเดิมคือการสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์ แม้จะเป็นมาเฟียใหญ่ที่ใครต่างเกรงกลัว แต่แดเนียลกลับโหยหาความอบอุ่นในชีวิต ซึ่งไม่เคยได้สัมผัสมาตั้งแต่เด็ก…
- - -
และไม่กี่วันถัดมา นรินทร์เขาได้รับการติดต่อกลับจากบริษัทที่ประกาศรับสมัคร ทางบริษัทแจ้งว่าเขาได้รับการคัดเลือกให้เป็นคุณแม่อุ้มบุญ ขณะที่ฟังการประกาศนั้น หัวใจของนรินทร์เต้นแรงด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งความหวังและความกังวล
เบน : สวัสดีครับ คุณนรินทร์ใช่ไหมครับ?
นรินทร์ : ใช่ครับ ผมนรินทร์ครับ
เบน : ผมเลขาเบนนะครับ ผมติดต่อมาเพื่อแจ้งว่าคุณนรินทร์ได้รับการคัดเลือกให้เป็นคุณแม่อุ้มบุญครับ
นรินทร์ : จริงเหรอครับ? ผมไม่คิดว่าจะได้โอกาสนี้
เบน : ใช่ครับ คุณมีคุณสมบัติตรงตามที่เราต้องการทั้งหมด เราต้องการนัดคุณมาพูดคุยรายละเอียด และตรวจร่างกายเพิ่มเติมครับ
นรินทร์ : ครับ แล้วการตรวจร่างกายต้องทำอะไรบ้างครับ?
เบน : เราจะทำการตรวจร่างกายทั่วไป ตรวจเลือด และตรวจสุขภาพโดยละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าคุณมีสุขภาพดีและพร้อมสำหรับการอุ้มบุญครับ
นรินทร์ : ได้ครับ ผมพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้แม่กับน้องมีชีวิตที่ดีขึ้น
เบน : ผมเข้าใจความรู้สึกของคุณนะครับ การตัดสินใจครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เรามีทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญที่จะคอยดูแลคุณตลอดกระบวนการครับ
นรินทร์ : ขอบคุณมากครับ ผมยินดีที่จะรับงานนี้เพื่อครอบครัว
เบน : ดีครับ งั้นเรานัดคุณมาที่บริษัทของเราในวันพรุ่งนี้ได้ไหมครับ เวลา 10.00 น. เพื่อเริ่มกระบวนการตรวจสุขภาพ
นรินทร์ : ได้ครับ
เบน : ขอบคุณครับคุณนรินทร์ ผมจะส่งรายละเอียดและที่อยู่ของบริษัทเราไปทางอีเมลนะครับ
นรินทร์ : ครับ ขอบคุณครับ
เบน : แล้วเจอกันพรุ่งนี้ครับ
นรินทร์ : ครับ สวัสดีครับ
หลังจากวางสาย นรินทร์หายใจลึก ๆ พร้อมรับรู้ถึงความหวังที่มีในอนาคตสำหรับครอบครัวของเขา
เขานั่งลงและคิดถึงแม่และน้องที่กำลังเผชิญกับความลำบาก หากเขารับงานนี้ได้สำเร็จ เงินที่จะได้รับก็เพียงพอที่จะช่วยให้แม่ได้รับการรักษาที่ดีขึ้นและสนับสนุนน้องในการศึกษาต่อไป
แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจที่อาจเกิดขึ้น แต่นรินทร์ก็ตัดสินใจที่จะยอมรับข้อเสนอ เขารู้ว่าการตัดสินใจครั้งนี้อาจเป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ แต่เขาก็พร้อมจะทำเพื่อครอบครัวที่เขารัก
- - -
ผ่านไปไม่นาน เบนกลับมาพร้อมกับข้อมูลเพิ่มเติม
เบน: นายครับ ผมได้นัดหมายให้คุณนรินทร์มาพบพรุ่งนี้ตอน10โมงเช้า ผมให้เขามาตรวจสุขภาพก่อนเข้าพบนายครับ
แดเนียล: (พยักหน้ารับ) ดี เตรียมการทุกอย่างให้พร้อม ฉันต้องการให้การพบครั้งนี้เป็นไปอย่างราบรื่น
เบน: ครับ ผมจะจัดการให้เรียบร้อย
เบนตอบอย่างนอบน้อมก่อนจะออกไป
เมื่อเบนออกไป แดเนียลลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินไปที่หน้าต่างบานใหญ่ของห้องทำงาน มองออกไปยังทิวทัศน์ของเมืองใหญ่ที่เขาปกครองอย่างสงบ แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความคิด เขาตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้ว การมีทายาทคือก้าวสำคัญของชีวิต ไม่ใช่เพียงเพื่อสืบทอดอำนาจและธุรกิจที่เขาได้สร้างขึ้น แต่เพื่อเติมเต็มความฝันในใจของเขา
แดเนียล: พรุ่งนี้แล้วสินะ
แดเนียลพึมพำกับตัวเองขณะที่เขามองออกไปยังเส้นขอบฟ้า แสงอาทิตย์ยามเช้าค่อยๆ ลับขอบฟ้าและหลงเหลือเพียงเงามืดที่เข้ามาครอบงำเมือง เสียงจังหวะการเต้นของหัวใจเขาดังเป็นจังหวะชัดเจนในความเงียบนี้
เขารู้ว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องธุรกิจหรืออำนาจ แต่เป็นเรื่องของชีวิตและอนาคตของตัวเขาเอง การสร้างครอบครัวที่เขาฝันถึงมาตลอด และการมีทายาทที่พร้อมจะสืบทอดมรดกของเขา มันไม่ใช่แค่การตัดสินใจชั่วคราว แต่เป็นก้าวสำคัญในชีวิตของมาเฟียใหญ่ที่ต้องการมากกว่าความมั่งคั่ง
แดเนียลรู้ดีว่าการตัดสินใจที่จะให้คนมาอุ้มบุญนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มันคือสิ่งที่จำเป็นสำหรับการสร้างอนาคตใหม่ที่เขาไม่เคยมีโอกาสได้สัมผัสมาก่อน
แดเนียล: ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไป…
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!