บทนำ
“ความแค้นเป็นสิ่งที่หวานที่สุด”
พิมพ์ขวัญ วรเวศม์ กัดฟันแน่น ขณะที่ยืนอยู่หน้าประตูบ้านที่เคยอบอุ่น บ้านที่ในอดีตเคยเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความสุข แต่ตอนนี้กลับมีแต่ความเงียบเหงา ความทรงจำที่ดีถูกบดบังด้วยความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในชีวิตของเธอ เธอรู้ดีว่าที่นี่คือจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง จุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอต้องกลายเป็นคนที่แตกต่างไปจากเดิม
“กรวีร์ ธนกรกุล!” เสียงของเธอดังก้องอยู่ในใจ พร้อมกับภาพของชายหนุ่มที่เคยเป็นเพื่อนสนิทในวัยเด็ก ซึ่งตอนนี้กลับกลายเป็นศัตรูในใจของเธอ กรวีร์เป็นลูกชายของคู่แข่งทางธุรกิจของพ่อของเธอ ครอบครัวของเขาทำให้ทุกอย่างที่พ่อสร้างขึ้นต้องพังทลายลงในชั่วข้ามคืน เธอสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง รวมถึงความรักของพ่อแม่ที่ไม่อาจกลับคืนมา
“ทำไมฉันต้องให้เขาได้อยู่มีความสุขในขณะที่ฉันต้องสูญเสียทุกอย่าง?” คำถามที่วนเวียนในใจของเธอ ชัดเจนว่าเธอไม่อาจปล่อยให้ความอยุติธรรมนี้เกิดขึ้นได้อีกต่อไป
วันเวลาผ่านไป แต่ความแค้นในใจของพิมพ์ขวัญยังคงสดใหม่ ราวกับว่ายังเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อน ตอนที่เธอได้ยินข่าวเกี่ยวกับกรวีร์ ว่ากรอบครัวของเขากลับมาเป็นผู้มีอำนาจอีกครั้ง สร้างความรำคาญใจให้เธออย่างไม่รู้จบ
“ถึงเวลาที่ฉันจะต้องทำให้เขาชดใช้” เธอพึมพำกับตัวเอง ก่อนที่จะตั้งใจจะกลับมาเมืองไทย และทำทุกอย่างให้สำเร็จตามแผนที่วางไว้
เมื่อเธอกลับมาในค่ำคืนอันมืดมิดของกรุงเทพฯ เธอเดินไปที่คอนโดหรูซึ่งตอนนี้เธอเป็นเจ้าของ รู้สึกถึงความหนาวเหน็บของอากาศในคืนที่ไม่มีแสงจันทร์ ไม่มีใครรู้ว่าหัวใจของเธอกำลังร้อนระอุด้วยความแค้น เธอได้วางแผนการอย่างถี่ถ้วน และคืนนี้คือคืนเริ่มต้น
“กรวีร์” ชื่อที่เคยทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงในวันเวลาแห่งความสุข ตอนนี้กลับทำให้เธอรู้สึกเกลียดชัง แต่เธอรู้ดีว่าเธอจำเป็นต้องพบเขาอีกครั้ง เธอต้องการให้เขารู้ว่าความแค้นนี้ไม่เคยจางหายไปไหน
วันถัดมาในงานเลี้ยงของบริษัท เธอแต่งตัวในชุดที่ดูเรียบหรู แต่แฝงไปด้วยความเซ็กซี่ สะกดทุกสายตาให้มองมาที่เธอ ราวกับว่านี่คือการประกาศสงคราม จิตใจของเธอเต็มไปด้วยความตึงเครียด แต่เธอไม่แสดงออกให้ใครเห็น
ในงานนั้นเธอเห็นกรวีร์ยืนอยู่กลางห้อง ท่ามกลางผู้คนมากมายที่ยิ้มแย้มและพูดคุย เขาเป็นที่สนใจของทุกคน ด้วยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์และสายตาที่มั่นใจ แต่ในความรู้สึกของพิมพ์ขวัญ เขาคือผู้ที่ทำให้ทุกอย่างในชีวิตเธอพังทลาย
“พิมพ์ขวัญ!” เสียงของเขาดังขึ้น ทำให้เธอสะดุ้ง แต่เธอจำต้องเก็บอาการ และหันไปเผชิญหน้ากับเขา
“คุณกรวีร์” เธอตอบด้วยเสียงเรียบเฉย แม้ภายในจะเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน
“นานแล้วนะที่เราไม่ได้พบกัน” เขายิ้มอย่างอบอุ่น แต่เธอรู้ดีว่านั่นคือการหลอกลวง
“ค่ะ นานมากแล้ว” เธอเลือกที่จะตอบในลักษณะที่ไม่เปิดเผยความรู้สึก “คุณยังดูดีเหมือนเดิม”
“ขอบคุณ” เขายิ้มอีกครั้ง แต่พิมพ์ขวัญกลับรู้สึกเหมือนมีน้ำแข็งเกาะอยู่ในอก ความรู้สึกที่ไม่สามารถลบล้างได้
การสนทนาของพวกเขาเต็มไปด้วยความตึงเครียดและการเก็บอาการ ในขณะที่พิมพ์ขวัญกำลังวางแผนที่จะทำให้เขารู้สึกถึงความแค้นที่เธอสะสมมาตลอดหลายปี
คืนที่มืดมน ในกรุงเทพฯ กลายเป็นเวทีแห่งการแก้แค้น เมื่อพิมพ์ขวัญมีเป้าหมายในใจว่าเธอต้องการทำให้กรวีร์รู้ว่าเธอไม่ได้มาเพื่อเป็นเพียงเงาของเขาอีกต่อไป แต่เพื่อทำให้เขาได้รู้ถึงความทุกข์ที่เธอได้ทนทุกข์ทรมาน
“เราจะได้เห็นกันว่าใครจะเป็นผู้ชนะในเกมนี้” เธอกล่าวกับตัวเอง พร้อมกับวางแผนต่อไปในใจ
คืนหนึ่งที่เธอกลับบ้านด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด ทำไมจิตใจของเธอยังมีความหวั่นไหวเมื่อคิดถึงกรวีร์? ทำไมความรู้สึกที่เธอเคยมีมันยังคงตอกย้ำหัวใจของเธอ?
“พิมพ์ขวัญ อย่าลืมว่าเขาคือศัตรู” เธอเตือนตัวเอง พร้อมกับสัญญาว่าจะไม่มีวันกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีก
แผนการเริ่มต้นขึ้น เมื่อพิมพ์ขวัญเตรียมตัวเพื่อเข้าไปในโลกของกรวีร์อย่างเต็มตัว ด้วยความมุ่งมั่นที่จะทำให้เขารู้สึกถึงความเจ็บปวดที่เธอต้องทนทุกข์ เธอต้องการให้เขาได้รับรู้ว่าความแค้นที่เธอมีนั้นมีความหมายมากกว่าเพียงแค่คำพูด
ในขณะที่พิมพ์ขวัญวางแผนเพื่อล้างแค้น กรวีร์ก็มีแผนในใจที่ไม่คาดคิดเช่นกัน ทำให้ทั้งคู่ต้องเข้าไปพัวพันในเกมแห่งความรักและความแค้นที่ซับซ้อนและเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก
เกมเริ่มต้นขึ้น และความรักที่ถูกซ่อนไว้ในความแค้นอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่อาจคาดเดาได้ พิมพ์ขวัญรู้ดีว่าการเดินทางนี้เต็มไปด้วยอันตราย แต่เธอก็ไม่อาจถอยกลับได้ เพราะนี่คือหนทางเดียวที่จะทำให้เธอได้คืนความยุติธรรมให้กับตัวเองและครอบครัว
“กรวีร์ ฉันจะทำให้เธอได้รู้ว่าเมื่อความรักกลายเป็นความแค้น มันจะไม่มีวันจบสิ้น” เสียงพึมพำในใจของพิมพ์ขวัญก้องอยู่เต็มไปหมด ขณะที่เธอก้าวเข้าสู่โลกที่เต็มไปด้วยการโกหกและความจริงอันเจ็บปวด
ความแค้นที่ซ่อนอยู่ในใจของเธอจะเป็นแรงผลักดันให้เธอทำทุกอย่างให้สำเร็จ และนี่คือจุดเริ่มต้นของเกมที่ไม่มีใครคาดคิด
บทที่ 1
"ความแค้นที่ฝังลึก"
สายฝนตกปรอยๆ บนถนนในกรุงเทพมหานคร เสียงฝนกระทบกับพื้นเป็นจังหวะคล้ายการเคาะเรียกสติของพิมพ์ขวัญให้กลับมาอยู่ในความจริง เธอหยุดอยู่ที่ริมทางเดิน มองดูผู้คนที่รีบเร่งกลับบ้าน เสียงรถยนต์แผดดังรอบข้างทำให้เธอรู้สึกถึงความยุ่งเหยิงของชีวิตในเมืองใหญ่ ความรู้สึกอ้างว้างกลับเข้ามาอีกครั้ง การกลับมายังบ้านเกิดครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่การกลับไปหาแม่ของเธอ แต่เป็นการกลับไปยังแหล่งที่ฝังความแค้นไว้อย่างลึกซึ้ง
หลังจากที่พิมพ์ขวัญหายไปจากชีวิตกรวีร์นานหลายปี เธอตัดสินใจว่าจะกลับมาที่กรุงเทพฯ เพื่อเริ่มต้นใหม่ แต่ภายในใจลึกๆ ของเธอ ความแค้นยังคงหลอกหลอน การที่เธอถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวทำให้เธอเจ็บปวดจนแทบไม่อาจลืมเลือน แม้เวลาจะผ่านไปกี่ปี แต่แผลที่เคยถูกกระทำยังคงอยู่ บางครั้งมันก็ลึกซึ้งจนไม่รู้จะเยียวยาอย่างไร
“ฉันจะต้องทำให้เขารู้” พิมพ์ขวัญพึมพำกับตัวเองอย่างมั่นใจ คำสาบานนี้เป็นเสมือนจุดหมายที่เธอใช้ในการสร้างพลังใจให้กับตัวเอง เธอเชื่อว่าความแค้นจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้เธอไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา
เมื่อถึงบ้าน เธอพบแม่ของเธอนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น รอยยิ้มของแม่ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่น แต่ภายในใจก็ยังมีความรู้สึกหนักอึ้ง “ลูกกลับมาแล้วนะคะแม่” เธอกล่าวด้วยเสียงที่พยายามทำให้ดูสดใส
“ลูกดูผอมไปนะ” แม่ตอบอย่างห่วงใย
“แค่เพราะงานค่ะ” พิมพ์ขวัญตอบ พร้อมกับทำให้แม่รู้สึกดีขึ้น “เราจะเริ่มต้นใหม่กันนะคะ”
ช่วงเย็นนั้น พิมพ์ขวัญนั่งอยู่ในห้องนอนของเธอ มองไปที่ภาพถ่ายเก่าๆ ที่เคยอยู่ในบ้าน แค่เพียงเห็นภาพของกรวีร์ก็ทำให้ความรู้สึกขุ่นมัวกลับมาอีกครั้ง ภาพความทรงจำที่เคยสวยงามในอดีตเปลี่ยนไปเป็นภาพแห่งความเจ็บปวด เธอจดจ่ออยู่กับความคิดที่จะต้องหาทางเอาคืน
“ฉันจะไม่ยอมให้เขาหลุดมือไปอีก” เธอกล่าวเสียงดังในใจ
เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อแสงอาทิตย์ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามา พิมพ์ขวัญตัดสินใจที่จะเดินทางไปหางานทำ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะไม่เป็นเหยื่อของความเจ็บปวดอีกต่อไป เธอออกจากบ้านด้วยความตั้งใจเต็มเปี่ยม ไม่อยากให้กรวีร์รู้ว่าเธอเคยเจ็บปวดเพียงใด
เมื่อมาถึงที่ทำงาน เธอรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก และพยายามทำให้ทุกคนเห็นถึงความสามารถของเธอ การทำงานเริ่มต้นด้วยความท้าทาย และพิมพ์ขวัญก็พบกับเพื่อนร่วมงานใหม่ ชื่อ “นิสา” ผู้หญิงที่ดูมีน้ำใจ
“เธอเป็นคนใหม่เหรอ?” นิสาถาม ขณะที่เธอเข้ามาทักทาย
“ค่ะ ฉันชื่อพิมพ์ขวัญ” เธอตอบกลับพร้อมกับรอยยิ้ม
“ยินดีที่ได้รู้จัก ถ้าเธอมีปัญหาอะไรสามารถถามฉันได้เลยนะ” นิสากล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร
การทำงานในบริษัทนี้เต็มไปด้วยบรรยากาศที่ดี ทุกคนช่วยเหลือกันอย่างใกล้ชิด พิมพ์ขวัญทำงานอย่างมุ่งมั่น จนวันหนึ่งบริษัทมีงานเลี้ยงที่จะจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จในเดือนนี้
“พิมพ์ขวัญ เธอต้องไปร่วมงานเลี้ยงนะ!” นิสาบอกอย่างกระตือรือร้น
“แน่นอน” เธอตอบด้วยเสียงมั่นใจ แต่ในใจกลับรู้สึกกังวลที่จะพบกับกรวีร์อีกครั้ง
เมื่อถึงวันงานเลี้ยง บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ผู้คนแต่งตัวอย่างสวยงาม พร้อมพูดคุยกันอย่างเป็นกันเอง แต่ในใจของพิมพ์ขวัญกลับรู้สึกถึงความตึงเครียด
“เขาจะมาที่นี่ไหม?” คำถามนี้วนเวียนอยู่ในใจ
ในที่สุด เสียงของกรวีร์ก็ดังขึ้นเมื่อเขาก้าวเข้ามาในห้องเลี้ยง เขาดูดีขึ้นกว่าเดิมในชุดสูทสีดำเข้ม และเมื่อเธอมองเห็นเขา ความรู้สึกเจ็บปวดก็พุ่งขึ้นมาทันที
“พิมพ์ขวัญ” เขาเรียกชื่อเธอด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นเหมือนเคย
“ค่ะ” เธอตอบเสียงเรียบ แต่ความรู้สึกในใจกลับเต็มไปด้วยความแค้น
กรวีร์เริ่มพูดคุยกับเธอถึงเรื่องงาน “เห็นว่าเธอทำงานดีมากในบริษัทนี้” เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ขอบคุณค่ะ” เธอตอบ พร้อมกับพยายามไม่ให้ความแค้นแสดงออกมาในน้ำเสียง
การสนทนาในค่ำคืนนี้เต็มไปด้วยการแลกเปลี่ยนคำพูดที่ดูเหมือนจะเป็นมิตร แต่ในใจของพิมพ์ขวัญกลับมีความตึงเครียดอยู่ตลอดเวลา เธอพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองให้ไม่แสดงออก
“ฉันได้ยินมาว่าเธอมีความสามารถด้านการตลาด” เขาพูดต่อ
“ค่ะ ฉันพยายามพัฒนาตัวเองอยู่ตลอด” พิมพ์ขวัญตอบ
เมื่อเวลาผ่านไป ทุกคนเริ่มทยอยออกจากงานเลี้ยง พิมพ์ขวัญรู้ว่าต้องมีแผนการที่ชัดเจนเพื่อเผชิญหน้ากับกรวีร์ในอนาคต
“เราจะเจอกันอีกนะ” กรวีร์กล่าว พร้อมกับยิ้มให้เธอ
“ค่ะ” พิมพ์ขวัญตอบเสียงเรียบ แต่ในใจกลับคิดถึงแผนการที่เธอจะทำให้กรวีร์รู้ถึงความเจ็บปวดที่เธอได้รับ
การเดินทางของพิมพ์ขวัญเพื่อแก้แค้นเริ่มต้นขึ้น เธอตัดสินใจจะใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้กรวีร์รู้ถึงความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ในใจของเธอ นี่คือการต่อสู้ที่เธอไม่อาจเลี่ยงได้ และเธอจะไม่มีวันยอมแพ้
พิมพ์ขวัญเดินออกจากงานเลี้ยงไปในคืนที่มืดมิด แต่ในใจของเธอกลับมีแสงสว่างแห่งความมุ่งมั่น การแก้แค้นเริ่มต้นขึ้นแล้ว และเธอจะทำให้กรวีร์รู้จักกับความเจ็บปวดที่เธอได้ประสบ
บทที่ 2
"จุดเริ่มต้นของแผนการ"
พิมพ์ขวัญกลับมาที่อพาร์ตเมนต์ด้วยอารมณ์ที่ยังตื่นเต้นจากการใช้เวลาร่วมกับกรวีร์ในมื้อกลางวัน ความรู้สึกที่เธอมีต่อเขาเริ่มซับซ้อนมากขึ้น และความมุ่งมั่นในการแก้แค้นยังคงผลักดันให้เธอต้องคิดถึงแผนการที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
เมื่อเปิดประตูห้อง เธอพบว่าตัวเองอยู่ในที่ที่เต็มไปด้วยความเงียบสงบ แม้จะไม่ค่อยมีเสียงรบกวนจากข้างนอก แต่มันกลับทำให้เธอรู้สึกถึงความเหงาอย่างหนักหน่วง ความคิดถึงกรวีร์วนเวียนอยู่ในหัวของเธอ และมันก็ยิ่งทำให้หัวใจของเธอรู้สึกเจ็บปวดเมื่อคิดถึงความทรงจำในอดีต
“ฉันต้องทำให้เขาเห็นความจริง” พิมพ์ขวัญพูดกับตัวเองอย่างมุ่งมั่น เธอรู้ดีว่าสิ่งที่เธอจะทำในครั้งนี้จะต้องมีแผนการที่ชัดเจนและรอบคอบ
คืนวันนั้น เธอนั่งลงที่โต๊ะทำงาน เปิดคอมพิวเตอร์เพื่อค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับกรวีร์ เริ่มจากประวัติครอบครัวและพื้นฐานการศึกษาของเขา ซึ่งทุกสิ่งที่เธอค้นหาเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้เธอเข้าใจเขาได้ดียิ่งขึ้น
ข้อมูลต่างๆ ที่เธอค้นพบเกี่ยวกับกรวีร์เปิดเผยว่าเขาเป็นคนที่มีครอบครัวที่มีฐานะดี และมีพ่อที่เป็นผู้บริหารระดับสูงในบริษัทใหญ่ พิมพ์ขวัญรู้สึกว่าการที่กรวีร์มีพื้นฐานที่ดีเช่นนี้อาจทำให้เขารู้สึกมีอำนาจเหนือกว่าคนอื่น และอาจทำให้เขามองข้ามความเจ็บปวดที่เธอเคยต้องเผชิญ
“เขาจะต้องได้รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของฉัน” เธอพึมพำในใจ ขณะที่เริ่มวางแผนการที่จะสร้างสถานการณ์ที่ทำให้เขาต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่เขาอาจไม่เคยรู้
เช้าวันถัดมา พิมพ์ขวัญตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่สดชื่น เธอเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการวางแผนการนำเสนอโปรเจกต์ใหม่ ซึ่งจะเป็นโอกาสที่เธอสามารถเข้าหากรวีร์และสร้างความสัมพันธ์ที่เป็นผลดีต่อแผนการของเธอ
“วันนี้ฉันจะต้องทำให้ดีที่สุด” พิมพ์ขวัญกล่าวกับตัวเอง และเตรียมตัวไปทำงานอย่างมีความมั่นใจ
ในที่ทำงานบรรยากาศดูครึกครื้น พนักงานต่างพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ขณะที่พิมพ์ขวัญมองหากรวีร์ เขานั่งอยู่ที่โต๊ะของเขา ดูมีสมาธิอยู่กับงาน
“กรวีร์ค่ะ” พิมพ์ขวัญเรียกเสียงเบา
“ครับ?” เขาหันมามองเธอด้วยรอยยิ้ม
“วันนี้มีการประชุมเกี่ยวกับโปรเจกต์ใหม่ รบกวนคุณเข้าร่วมหน่อยได้ไหมคะ?”
“ได้สิครับ ผมจะไป” กรวีร์ตอบด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง
การประชุมเริ่มขึ้นในช่วงบ่าย โดยพิมพ์ขวัญเป็นคนดำเนินการพูดคุยเกี่ยวกับไอเดียใหม่ๆ ที่เธอได้คิดขึ้น โดยเฉพาะการใช้กลยุทธ์ที่น่าสนใจเพื่อดึงดูดลูกค้า
“พิมพ์ขวัญมีแนวคิดดีมากครับ” กรวีร์กล่าวเสริม “เราอาจจะต้องพัฒนาเพิ่มเติมอีกหน่อย แต่เริ่มต้นได้ดีมาก”
พิมพ์ขวัญรู้สึกมีความมั่นใจขึ้น เมื่อได้รับการสนับสนุนจากเขา เธอเริ่มเปิดเผยแผนการของเธอเกี่ยวกับการทำโฆษณาใหม่ ที่จะเป็นจุดเปลี่ยนของโปรเจกต์นี้
“ถ้าเราสามารถทำให้มันออกมาน่าสนใจได้จริงๆ มันจะช่วยเพิ่มยอดขายได้เยอะเลยค่ะ” เธอกล่าวด้วยความตั้งใจ
การประชุมดำเนินไปอย่างราบรื่น และเมื่อมันสิ้นสุดลง พิมพ์ขวัญรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในความสัมพันธ์ของเธอกับกรวีร์ที่กำลังเกิดขึ้น
“ขอบคุณที่ช่วยในที่ประชุมวันนี้นะคะ” เธอกล่าวขณะเดินออกจากห้องประชุม
“ไม่เป็นไรครับ นี่คือหน้าที่ของเรา” เขายิ้มให้เธอ
ด้วยการมีกรวีร์อยู่ข้างๆ ทำให้พิมพ์ขวัญรู้สึกมีแรงบันดาลใจมากขึ้น เธอวางแผนการที่จะทำให้เขารู้ถึงความเจ็บปวดที่เธอประสบในอดีต
เมื่อถึงเวลาพักกลางวัน พิมพ์ขวัญชวนกรวีร์ไปทานข้าวอีกครั้ง แต่คราวนี้เธอเลือกที่ร้านอาหารที่มีบรรยากาศโรแมนติก เพื่อสร้างบรรยากาศที่เหมาะสมในการทำให้เขาเปิดใจพูดคุยกับเธอ
“กรวีร์ อยากลองทานอาหารที่นี่ไหมคะ?” เธอถามด้วยความกระตือรือร้น
“ครับ ฟังดูน่าสนใจ” เขาตอบ และพวกเขาก็เดินไปที่ร้าน
เมื่อมาถึงร้าน พิมพ์ขวัญสั่งอาหารให้เขาลองหลายอย่าง และพวกเขาก็เริ่มพูดคุยกันอย่างเป็นกันเอง
“คุณคิดยังไงกับชีวิตในบริษัท?” เธอถาม โดยพยายามกระตุ้นให้เขาพูดถึงประสบการณ์ของตัวเอง
“มันเป็นชีวิตที่ท้าทาย บางครั้งก็มีความเครียด แต่ก็ทำให้เราเติบโต” กรวีร์ตอบ
“ฉันรู้สึกว่าในชีวิตนี้มีทั้งความรักและความเกลียดชัง” พิมพ์ขวัญพูด “บางครั้งคนเราต้องเผชิญกับเรื่องราวที่เราไม่อยากจะเจอ”
กรวีร์มองเธอด้วยความสนใจ “คุณหมายถึงอะไรครับ?”
“ฉันเคยมีความรักที่ทำให้ฉันเจ็บปวด” เธอตอบกลับ โดยไม่ลังเล “และมันก็ทำให้ฉันแข็งแกร่งขึ้น”
กรวีร์ดูเหมือนจะถูกดึงดูดด้วยคำพูดของเธอ “มันน่าสนใจมากที่คุณมองในมุมนี้”
“ชีวิตก็เหมือนการต่อสู้ แต่เราต้องไม่ยอมแพ้” พิมพ์ขวัญกล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นใจ
“คุณมีความมุ่งมั่นที่น่าทึ่ง” กรวีร์ยิ้ม “มันทำให้ผมรู้สึกเคารพคุณมากขึ้น”
หลังจากการสนทนาในวันนั้น พิมพ์ขวัญรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของพวกเขากำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว และเธอเริ่มวางแผนการขั้นถัดไป เพื่อที่จะทำให้กรวีร์รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่เธอเคยเผชิญ
ในช่วงเวลาเดียวกัน พิมพ์ขวัญก็ยังคงมีความรู้สึกแค้นที่รอวันได้แสดงออกให้เขาเห็น เธอจึงเริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับพ่อของกรวีร์และความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ในอดีตที่ทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวด
ในขณะเดียวกัน พิมพ์ขวัญก็ตัดสินใจที่จะเข้าใกล้กรวีร์มากขึ้น ด้วยการชวนเขาเข้าร่วมกิจกรรมที่บริษัทจัดขึ้น ซึ่งจะเป็นโอกาสที่ดีในการพัฒนาและเปิดเผยความสัมพันธ์ของพวกเขา
“กรวีร์ คุณจะไปงานเลี้ยงปีใหม่กับฉันไหม?” พิมพ์ขวัญถามเขา
“แน่นอนครับ มันน่าสนใจมาก” เขาตอบด้วยรอยยิ้ม
เมื่อถึงวันงานเลี้ยง ทุกคนในบริษัทต่างมีความสนุกสนาน พิมพ์ขวัญมองหารกรวีร์และรู้สึกว่าการได้อยู่ใกล้เขานั้นช่วยให้ความรู้สึกเจ็บปวดที่เธอเก็บไว้ลดน้อยลง
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!