ณ เมืองแห่งหนึ่งในดินแดนอัลคาเจ้าชายทั้งสองกำลังนั่งรอเอลฟ์สาวอยู่และไม่นานนักเอลฟ์สาวเคล่าก็เดินมานั่งที่โต้ะอาหารและพร้อมกับกางแผนที่ออกและก็กล่าวด้วยน้ำเสียงร้อนใจว่า "ในยามนี้พายุจากฝั่งใต้ได้มาถึงท่าเรือที่เราอยู่แล้วในยามนี้จะหาเรือที่จะพาข้ามไปกาเชียคงยากพอๆกัยเลี้ยงดูมังกร" แรชก็หัวเราะขึ้นมาพร้อมกับชี้ไปที่เจ้าชายมังกรที่นั่งอยู่ร่วมโต้ะด้วยแต่คนที่ไม่มีอารมมาหัวเราะในยามนี้มีแค่แคลเท่านั้นเพราะเขากังวลเรื่องราเคียและเหล่าทหารแต่ในตอนที่กำลังคิดจนหัวแทบแตกนั้นเองก็มีเสียงของชายแก่เดินเข้ามาจากข้างหลังและกล่าวว่า "ข้าได้ยินว่าพวกเจ้ากำลังตามหาเรือที่จะนำพาไปกาเชียใช่รึไม่" แคลหันไปและพบกับชายแก่ที่ใส่ผ้าปิดตา2ข้างพร้อมกับใส่ชุดเหมือนโจรสลัดกำลังยืนยิ้มอยู่ตรงหน้าแรชก็ได้เอ่ยถามไปว่า "ท่านเป็นกัปตันรึ" ชายแก่หัวเราะเบาๆและกล่าวแนะนำตัวเองว่า "ตัวข้าฟริเป็นกัปตันผู้เคยนำการขนส่งการค้าระหว่างกาเชียและอัลคาสมัยก่อนมหาสมครามและยังเคยเป็นผู้นำกองพลเรือรบแห่งอัลคาในช่วงสมครามอีกด้วย!" เคล่าก็เอ่ยถามไปว่า "ท่านเสียตาไปเพระามหาสมครามรึ" ฟริหัวเราะเบาๆและก็ตอบด้วยน้ำเสียงภูมิใจว่า "ใช่แล้วดวงตาของข้านั้นเสียไปตอนที่ช่วยราชากริชนำกำลังไปบุกกาเชีย!" แคลได้ยินก็ถึงกับเหงื่อตกแต่ก็พอเก็บอาการไว้ได้แคลพาฟริไปเจรจาเรื่องราคาที่อีกโต้ะทิ้งให้แรชและเคล่านั่งคุยกันและแรชที่รอจังหวะนี้อยู่ก็รีบเอ่ยถามทันควันว่า "เจ้าชอบพี่ชายข้ารึ" เคล่าก็ตกใจและรีบตอบไปว่า "ไม่มีทาง" แต่แรชก็ทราบดีว่าเคล่านั้นปากไม่ตรงกับใจและลองเอ่ยออกไปเล่นๆว่า "พี่ข้าเขามีคนที่ชอบอยู่แล้ว" เคล่าได้ยินก็เอาหน้าหันไปทางอื่นและก็กล่าวว่า "เหตุใดเจ้าจึงต้องมาบอกข้า" แรชก็ยิ้มมุมปากและกล่าวว่า "ข้าแค่อยากให้ท่านทราบไว้" เคล่าที่ได้ยินก็รีบลุกหนีออกไปนอกร้านและไปนั่งที่ริมทะเลเพื่อคลายความเจ็บในใจแบบบอกไม่ถูก
....โปรดติดตามตอนต่อไป....
เคล่าที่กำลังนั่งมองพระอาทิตร์ตกอยู่ก็ยื่นมือออกไปพร้อมกล่าวว่า "ถ้าข้าขอพรได้ข้าก็อยากให้เจ้าไม่ต้องกลับขึ้นมา" แต่ก็มีเสียงที่คุ้นเคยโผล่มาข้างหลังและกล่าวว่า "เหตุใดเจ้าจึงขอเช่นนั้นเล่า" เคล่าหันไปก็พบกับแคลที่เดินมาหาเคล่าก็รีบเช็ดหน้าและเอาฮูดขึ้นมาใส่และกล่าวถามไปว่า "เหตุใดเจ้าจึงออกมากัน" แคลก็ชี้ไปที่ท่าเรือและเห็นฟริกำลังเตรียมเรือเคล่าก็หันหน้าหนีในทันทีแต่แคลก็มานั่งข้างๆพร้อมกล่าวถามว่า "ที่เจ้ากล่าวก่อนหน้านี้เหตุใดจึงกล่าวเช่นนั้นเล่า" เคล่าก็ตอบด้วยน้ำเสียงปนน้ำตาว่า "เพราะว่าถ้าพระอาทิตร์ยังไม่สามารถไปเจอพระจันทร์ได้งั้นก็แปลว่าแม้ว่าจะรักเพียงใดก็ไม่อาจเกิดผล" แคลที่ไม่ค่อยเข้าใจก็กล่าวด้วยน้ำเสียงล้อเล่นว่า "งั้นถ้าเจ้ารักในแสงจันทร์ก็คสรรักยามนี้ด้วยนะ" เคล่าก็กกล่าวถามว่า "ที่เจ้ากล่าวมาหมายความว่าอะไรรึ"และแคลก็เดินมาที่ข้างหน้าของเคล่าพร้อมกับลดฮูดของเคล่าลงและค่อยๆจูบไปริมฝีปากของนางเบาๆพร้อมกับมองเข้าไปในตาด้วยสายตาอันอบอุ่นและอ่อนโยนเคล่าก็หน้าแดงขึ้นมาพร้อมกับกล่าวว่า "ถ้าเจ้าไม่รักข้าเหตุใดจึงทำเช่นนี้" แคลยิ้มและมองไปที่พระอาทิตร์ที่กำลังจะลับขอบฟ้าและกล่าวว่า "เพราะถ้าหากข้ารักเจ้ามันจะทำให้เป็นข้อผูกมัดกับเจ้าว่าต้องกลับมาหาข้าตลอด" เคล่าที่ได้ยินก็ยังสงสัยอยู่แคลเลยกล่าวต่อว่า "เพราะเจ้ารักในอิสระมากกว่าสิ่งใดยังไงละเคล่า" เคล่าเริ่มร้องไห้และกอดแคลพร้อมกับกล่าวว่า "ถ้าเมื่อก่อนละก็ใช่นั้นคือสิ่งที่ข้ารักและหวงแหนแต่ตแนนี้มันคือเจ้าแคลเจ้าคือสิ่งที่ข้ารัก"แคลที่ได้ยินก็ยิ้มอย่างมีความสุขและค่อยๆหยิบหนังสือเล็มหนึ่งขึ้นมาและเปิดมันออกและวาดรูปพระอาทิตร์ที่กำลังจะลับขอบฟ้าเอาไว้ในนั้นเคล่าจึงกล่าวถามว่า "เหตุใดเจ้าต้องวาดมันด้วยเล่า" แคลก็ยิ้มและตอบว่า "เพราะที่แห่งนี้และมุมมองนี้คือจุดที่พวกเรานั้นได้รักกันยังไงเล่า" เคล่าก็เขินหน้าแดงจนต้องหันหน้าหนีแต่หูของนางก็แดงมากเช่นกันแคลจึงพูดหยอกล้อกับนางว่า "หูของเจ้าช่างสวยงามยิ่งนักข้าละอยากลองจับมันดูซักครั้ง" เคล่าได้ยินเช่นนั้นก็จับไปที่มือของแคลและนำไปลูบที่หูเบาๆแต่ก็มีเสียงดังขึ้นมาก่อนทำให้ทั้งคู่ต้องรีบกลับเข้ามาในร้านและพบว่าชายที่อยู่ตรงหน้าก็คือเอลฟ์ดวงดาราในตำนานนั้นเอง
....โปรดติดตามตอนต่อไป....
เคล่ากล่าวด้วยน้ำเสียงตกใจว่า "เป็นไปไม่ได้เหตุใดจึงยังมีเอลฟ์เผ่าดวงดาราอยู่" เอลฟ์หนุ่มแนะนำตัวว่า "ข้าชื่อว่าเกลและอย่างที่พวกเจ้าเห็นข้าเป็นเอลฟ์ดวงดาราที่มีอยู่น้อยนิด" แรชถามด้วยความสงสัยว่า "เหตุใดเจ้าจึงตามหาพวกข้า" เกลหัวเราะเบาๆพร้อมกับชี้ไปที่เจ้าชายมังกรที่กำลังหลับทันใดนั้นเคล่าหยิบมีดขึ้นมาพร้อมกับตะโกนเสียงดังว่า "ข้ามศพข้าไปก่อนเถอะ!" เกลหัวเราะเสียงดังพร้อมกับกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า "ข้าได้ข้ามแน่"พร้อมกับยกลูกแก้วที่ดูเหมือนกับลูกแก้วที่แคลนำไปทำพิธีขึ้นมาพร้อมกับรายคาถาว่า "อิทริ" ทันใดนั้นเคล่าก็อ่อนแรงลงและกำลังจะหลับแคลที่เห็นก็ตกใจและรีบพุ่งไปหวังจะต่อยเกลแต่ว่าหมัดนั้นก็ไม่อาจไปถึงได้แต่ว่าก็มีแสงแห่งความหวังลอยมาและนี่ไม่ใช่การพูดเปลียบเทียบเพราะว่ามีรำแสงสีแดงพุ่งใส่เกลแต่ว่าก็ไร้ผลเพราะว่าเกลมีคาถาป้องกันขั้นสูงแต่ว่าคนที่เดินออกหลังจากยิงรำแสงเสร็จก็คือเรนและเดียแคลตกใจมากพร้อมกับกล่าวเสียงดังว่า "พวกเจ้ามาที่นี่ได้อย่างไรกัน!" เดียส่งสายตาหวานใส่แคลพร้อมกับรายคาถาแต่ว่าพวกเราคงต้องย้อนกลับไปเมื่อ2วันก่อนหน้านี้ณ ตอนนั้นเดียและเรนกำลังเดินทางตามหาเหล่าเจ้าชายและไข่เจ้าชายมังกรแต่ในยามค่ำคืนพวกเขาก่อกองไฟและพักผ่อนเรนเอ่ยถามกับน้องสาวว่า "แล้วเจ้ากับแคลไปถึงใหนกันแล้วละ" เดียก็ตกใจและทำเสียงล้อเล่นพร้อมกล่าวว่า "นี่ท่านพี่คิดว่าคนอย่างเขาจะชอบข้ารึ" เรนยิ้มพร้อมกล่าวว่า "เขาเคยมาถามถึงอาหารที่เจ้าชอบตอนวันเกิดเจ้าเมื่อปีก่อนและเขาก็เตรียมมันไว้" เดียตกใจและกล่าวว่า "ข้านึกว่ามันบังเอิญ...ว่าแต่ท่านเอามาบอกข้าทำไมเนี้ย" เรนตอบด้วยน้ำเสียงหดหู่ว่า "เขาชอบเจ้างั้นเจ้าก็ควรใช้จุดนั้นให้เป็นประโยชและทำให้เขายอมกลับไปกับเราโดยดี" เดียเศร้าและกล่าวว่า "ท่านพี่คือว่านะข้ารักเขานะแต่ข้าไม่อาจทำสิ่งนั้นกับชายที่ข้ารักได้" เรนได้ยินก็โกรธและถามกลับไปว่า "เจ้ารู้บ้างมั้ยว่าท่านพ่อโกรธขนาดใหน" เรนถอนหายใจและกล่างต่อว่า "งั้นก็ไม่เป็นข้าไม่อยากบังคับเจ้าแต่ถ้าเจ้ารักเขาก็ควรไปบอกเขาตรงๆซะ" เดียได้ยินก็กล่าวถามกลัลไปว่า "เหตุใดข้าต้องทำเช่นนั้นด้วย" เรนก็อมยิ้มและกล่าวว่า "เพราะเจ้ามีคู่แข่งแล้วไงละ" เดียได้ยินก็ตกใจและกล่าวถามกลับว่า "ใครกัน" เรนชี้ไปที่แผลที่แขนของตัวเองและเดียก็เข้าใจได้ในทันทีว่าเคล่าก็รักแคลเช่นกันแต่เธอยังไม่รู้ว่าเคล่าและแคลนั้นได้ตกลงรักกันไปแล้ว
....โปรดติดตามตอนต่อไป....
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!