อารัมภบท

ในดินแดนอันลึกลับที่มีชื่อว่า อัลเทรีย โลกที่เวลาทำงานอย่างไม่แน่นอน เหล่าผู้มีอำนาจทั้งหลายต่างใช้พลังอันยิ่งใหญ่ในการควบคุมธรรมชาติและจิตวิญญาณที่ซ่อนอยู่ ในทุก ๆ คืนเมื่อดวงดาวส่องแสงเจิดจ้า ประชาชนในเมืองเซลาสต้า ต่างรวมตัวกันเพื่อเฉลิมฉลองให้กับวัฒนธรรมและประเพณีอันยาวนาน ความสุขและเสียงหัวเราะก้องกังวานอยู่ในอากาศ แต่ในขณะเดียวกัน ความกลัวก็แอบซ่อนอยู่ในเงามืด

อัลเทรียเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยเรื่องเล่าตำนาน และการต่อสู้ระหว่างปีศาจและมนุษย์ที่ยาวนานหลายศตวรรษ ความตึงเครียดระหว่างทั้งสองฝ่ายยังคงดำเนินต่อไป โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าสิ่งใดคือความจริงและสิ่งใดคือเพียงแค่เรื่องเล่าโบราณ หากแต่ในแต่ละปี ผู้วิเศษจะรวมตัวกันใต้แสงจันทร์เพื่อทำพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ เพื่อรักษาสมดุลระหว่างความดีและความชั่วร้าย

ในวันหนึ่งอันไม่ธรรมดา ข้า ลูคัส คลาร์ก ผู้มีพลังในการควบคุมไฟ ได้ยินเสียงกระซิบจากความมืดภายในป่าลึก ร่างกายของข้ารู้สึกถึงการเรียกร้องอย่างรุนแรง เหล่าผู้ที่มีพลังแห่งไฟมักถูกดึงดูดไปยังสถานที่ที่อันตราย แต่ในใจของข้านั้นกลับมีความรู้สึกอันยิ่งใหญ่เกี่ยวกับชะตากรรมของตนเอง ข้ารู้ว่าความสามารถของข้านั้นมีมากมายเกินกว่าที่ข้าจะเข้าใจได้ และการเดินทางในครั้งนี้จะพาไปสู่การค้นพบสิ่งที่เหนือความคาดหมาย

ในอีกฟากหนึ่งของอัลเทรีย โรเซลล่า พาเทอรีน ปีศาจแห่งความตาย ที่มีชื่อเสียงในด้านความดุร้ายและความเข้มแข็ง ปีศาจผู้ซึ่งไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ มีดวงตาสีแดงสดที่สามารถมองเห็นความจริงอันมืดมิดของจิตใจมนุษย์ เธอรู้ดีว่าตนมีภารกิจที่จะต้องทำ แต่กลับรู้สึกสงสัยว่าความหมายของชีวิตและความตายคืออะไร ในคืนที่ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ปรากฏพร้อมกัน ความรู้สึกนั้นชัดเจนขึ้นทุกที

เมืองเซลาสต้าได้จัดงานเฉลิมฉลองในค่ำคืนนี้ เสียงดนตรีและการเต้นรำสะท้อนอยู่ทั่วบริเวณ แสงไฟประดับประดาทำให้บรรยากาศดูมีชีวิตชีวา แต่ในมุมมืดของเมืองนี้ อันตรายกำลังรอคอยอย่างเงียบเชียบ ข้ารู้ว่าทุกอย่างจะต้องเปลี่ยนไป ในเมื่อความเชื่อและความจริงเริ่มเลือนลาง ข้าจะต้องเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้น

ในคืนที่ดวงดาวส่องแสงเจิดจ้า เสียงหัวใจของข้าดังก้องไปทั่วป่า ในขณะที่ก้าวเข้าสู่เส้นทางที่ยังไม่เคยมีใครเดินไปมาก่อน ความรู้สึกนี้คือความกลัวหรือความหวัง ข้าจะต้องค้นหาความหมายของการมีชีวิตอยู่ และเรียนรู้ว่าสิ่งใดคือความจริงในโลกที่มืดมิด

คำทำนายโบราณกล่าวไว้ว่ามีผู้ที่จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของอัลเทรีย ผู้ที่มีพลังในการสร้างหรือทำลาย ข้าจะค้นหาความจริงนั้น และค้นพบว่าในที่สุดแล้ว ข้าจะยืนอยู่ในด้านใดของการต่อสู้ครั้งนี้

ในคืนที่มืดมิดนี้ ข้าขอให้โชคชะตาเป็นที่ชัดเจน ข้าจะเป็นผู้ที่ก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง และค้นหาความหมายของความกล้าหาญและความรัก ท่ามกลางอันตรายที่รออยู่ ข้าจะไม่ยอมให้ความกลัวทำให้ข้าหยุดเดิน

บทนำ

ในคืนที่ดวงดาวประดับประดาเต็มฟ้า ข้า ลูคัส คลาร์ก ยืนอยู่ที่หน้าต่างของห้องที่เต็มไปด้วยหนังสือและเครื่องมือวิเศษ อากาศเย็นชวนให้คิดถึงสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า ข้า สัมผัสได้ถึงแรงดึงดูดที่มาจากป่าลึกที่อยู่ห่างออกไป ข้า มักได้ยินเรื่องเล่าจากผู้เฒ่าผู้แก่ในเมืองเซลาสต้าเกี่ยวกับป่าลี้ลับที่ไม่มีใครกล้าเข้าไป ความลึกลับนี้ได้ดึงดูด ข้า มาตลอด

ในค่ำคืนนี้ ดวงจันทร์เต็มดวงส่องแสงสว่างอย่างแจ่มแจ้ง ในขณะที่ ข้า มองออกไปยังผืนป่าใหญ่ ที่ถูกปกคลุมไปด้วยความมืด ข้า รู้สึกถึงการเรียกร้องจากสิ่งที่ซ่อนอยู่ในความมืด ความรู้สึกนี้เป็นความรู้สึกที่ซับซ้อน ข้าได้เรียนรู้ตั้งแต่ยังเด็กว่าพลังที่ยิ่งใหญ่ก็มาพร้อมกับความรับผิดชอบ แต่ ข้า ก็ไม่สามารถหลีกหนีจากมันได้

ข้าลืมตาในค่ำคืนที่มืดมิดนี้ ข้า ตัดสินใจที่จะออกเดินทางไปยังป่าแห่งนั้น เพื่อค้นหาความจริงเกี่ยวกับตัวเอง และความหมายของพลังที่ ข้า ถือครองอยู่ ข้า ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่ ข้า รู้ว่าการเดินทางครั้งนี้จะเปลี่ยนแปลงชีวิต ข้า ตลอดไป

ในเวลาเดียวกันในมุมหนึ่งของอัลเทรีย โรเซลล่า พาเทอรีน ปีศาจแห่งความตาย ยืนอยู่ที่หน้าผาสูง มองลงไปยังแม่น้ำที่ไหลหลั่งอยู่เบื้องล่าง ดวงตาสีแดงสดของเธอเปล่งประกายด้วยความลึกลับ เธอมีชื่อเสียงในด้านความดุร้ายและพลังอันยิ่งใหญ่ แต่ในใจของเธอนั้นกลับมีความรู้สึกที่แปลกประหลาด เธอรู้สึกว่าวันหนึ่งจะมีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นในชีวิตของเธอ

“ข้าต้องการรู้ว่าความตายมีความหมายอย่างไร” โรเซลล่ากระซิบกับตัวเอง ในขณะที่เธอเดินลงไปยังริมแม่น้ำ คำถามนี้ติดอยู่ในใจของเธอมานาน หากแต่ไม่เคยมีใครตอบได้ เธอรู้สึกถึงความว่างเปล่าและต้องการค้นพบว่าชีวิตและความตายเป็นอย่างไร เธอรู้ดีว่ามีพลังอันมหาศาลซ่อนอยู่ในตัวเธอ แต่การที่จะเข้าใจมันนั้นยากเย็นยิ่งนัก

ในค่ำคืนนี้ ขณะที่งานเฉลิมฉลองในเมืองเซลาสต้าเริ่มขึ้น ผู้คนต่างยิ้มแย้มและมีความสุข เสียงดนตรีและการเต้นรำเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความรักและความหวัง แต่ในความสุขนี้เองกลับซ่อนอยู่ความกลัวและความวิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคต มีข่าวลือเกี่ยวกับปีศาจที่กำลังจะกลับมา และชาวเมืองต่างพากันพูดถึงคำทำนายโบราณที่เคยบอกไว้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกนี้

“ข้าเห็นดวงดาวปรากฏในท้องฟ้าเมื่อคืนนี้” ชายชราผู้หนึ่งกล่าวขึ้นในงานเฉลิมฉลอง “มันคือสัญญาณที่บอกว่าความวุ่นวายกำลังจะมาเยือน”

ผู้คนต่างตั้งใจฟังคำพูดของเขาอย่างตั้งใจ ข้าเองก็รู้สึกถึงความตึงเครียดในอากาศ เสียงกระซิบระหว่างผู้คนทำให้ข้าไม่สบายใจ แต่ข้าตัดสินใจที่จะไม่ให้ความกลัวมากดดัน

“คืนนี้คือคืนที่เราเฉลิมฉลอง ข้าจะไม่ปล่อยให้ความกลัวมาครอบงำ” ข้าพูดกับตัวเอง ก่อนจะก้าวออกไปสู่ความมืดที่รออยู่

ในขณะที่ โรเซลล่า ยืนอยู่ที่ริมแม่น้ำ เธอมองเห็นแสงไฟจากเมืองเซลาสต้าไกลออกไปในค่ำคืน มันเป็นการเฉลิมฉลองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา แต่ในใจของเธอนั้นกลับรู้สึกโดดเดี่ยว เธอไม่สามารถเข้าร่วมกับพวกเขาได้ แม้แต่จะมีความปรารถนาในใจ

“ข้าต้องหาทางค้นหาตัวตนที่แท้จริง” โรเซลล่าพึมพำ ก่อนที่เธอจะตัดสินใจลงไปยังป่าลึก ด้วยความหวังว่าจะสามารถค้นพบคำตอบในที่ที่เธอไม่เคยไปมาก่อน

การเดินทางของทั้งสองกำลังจะเริ่มต้นขึ้น ในโลกที่เต็มไปด้วยความลึกลับและอันตรายที่ซ่อนอยู่ พวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับความกลัวและความกล้าหาญ เพื่อค้นหาความหมายที่แท้จริงของชีวิตและความตาย

ในขณะที่เมืองเซลาสต้ายังคงเฉลิมฉลอง เสียงดนตรีและเสียงหัวเราะยังคงดังอย่างต่อเนื่อง แต่ในความเงียบของป่า มีคำตอบที่รอคอยอยู่…

บทที่ 1: ความลับในเงามืด

คืนที่ดวงจันทร์เต็มดวงแขวนอยู่บนฟ้า ราวกับเป็นสัญลักษณ์ของความมืดที่กำลังปกคลุมอัลเทรีย ป่าลึกที่มีเสียงของสัตว์ป่าและกระแสลมพัดผ่าน ทำให้ความรู้สึกของการมีชีวิตชีวาเริ่มจางหายไป เหล่าผู้คนในเมืองเซลาสต้ายังคงมีความสุข ทว่าในใจของข้า อีวาน คาล์ก มีความกังวลที่ไม่สามารถระบุได้

“คืนวันนี้มีบางอย่างผิดปกติ” ข้ากล่าวกับ อีธาน ที่ยืนอยู่ข้างข้า ดวงตาสีเขียวเข้มของเขาส่องแสงในความมืด “เจ้ารู้สึกถึงมันหรือไม่”

“ข้ารู้” อีธานตอบ ข้าเห็นเขาขมวดคิ้วอย่างหนักใจ “ความดันของอากาศเปลี่ยนไป ข้าสัมผัสได้ถึงพลังบางอย่างที่อยู่ใกล้”

“นั่นหมายความว่าเราอาจจะต้องเตรียมพร้อม” ข้ากล่าวเสียงต่ำ ข้าไม่อยากให้พวกเขากังวลเกินไป แต่ความรู้สึกของข้าไม่ผิดไปจากนี้แน่นอน

ในขณะนั้น อีริค เข้ามาใกล้ เขามองไปที่ข้าและอีธาน “ท่านทั้งสองคิดถึงเรื่องใดกันอยู่” เสียงของเขาแผ่วเบา แต่มีน้ำหนักที่น่าเชื่อถือ

“เราเพียงแต่รู้สึกว่าในคืนนี้จะมีการเปลี่ยนแปลง” อีธานตอบ “เจ้ามีความรู้สึกเช่นเดียวกันหรือไม่”

“ข้าไม่แน่ใจ” อีริคพูด เขาหยุดคิด “แต่ในคืนที่ดวงจันทร์เต็มดวง เราทุกคนรู้ดีว่ามันมีความหมายอะไร”

“เราต้องไปตรวจสอบ” ข้าตัดสินใจ “หากมีสิ่งใดเกิดขึ้น ข้าจะไม่สามารถเผชิญหน้ากับมันเพียงลำพัง”

ทั้งสามคนเดินเข้าไปในป่าลึก เสียงใบไม้กรอบแกรบใต้ฝ่าเท้า ดังไปทั่วบริเวณ ข้ารู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงที่ใกล้เข้ามา และมันมีน้ำหนักมหาศาลเกินกว่าที่เราจะคาดเดา

“ท่านเคยได้ยินเรื่องราวของการเกิดผู้ที่จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของอัลเทรียหรือไม่” อีวานถามขึ้นในระหว่างทาง

“ใช่” อีธานตอบ “มันเป็นตำนานที่ถูกเล่าขานมานาน แต่ไม่มีใครสามารถพิสูจน์ได้”

“บางทีคืนนี้อาจเป็นคืนที่ทุกอย่างเปลี่ยนไป” ข้าพูดขึ้น และเมื่อคำพูดของข้าดังขึ้น ความมืดรอบตัวก็ยิ่งเข้มขึ้น

ทันใดนั้น เสียงกระซิบในความมืดเรียกหาพวกเรา เสียงที่ฟังดูแปลกประหลาด แต่ก็มีความคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก ข้าและพี่น้องยืนนิ่ง ไม่รู้ว่าควรจะทำเช่นไร

“มีอะไรอยู่ที่นั่น” อีริคถามเสียงเบา เขาชี้ไปที่มุมมืดของป่า ข้ากำลังจะตอบ แต่ทันใดนั้น ก็เกิดเสียงกรีดร้องแหลมดังขึ้นจากมุมมืดนั้น

“เราต้องไปตรวจสอบ” ข้าตัดสินใจ ข้าไม่สามารถปล่อยให้สิ่งที่น่าสงสัยนี้เกิดขึ้นต่อไป

เมื่อเราเดินเข้าไปใกล้ เสียงนั้นกลับเงียบลง บรรยากาศเต็มไปด้วยความกดดัน ราวกับว่าเวลาได้หยุดนิ่ง

“ระวังตัวให้ดี” อีธานพูดขณะมองไปรอบๆ เขารู้ดีว่าความเงียบสงบนี้มักจะมีบางอย่างที่แฝงอยู่

เมื่อเข้าไปลึกลงไปในป่า ข้าสังเกตเห็นเงาที่เคลื่อนไหวอยู่ด้านหน้า มันดูเหมือนจะเป็นบางสิ่งที่ไม่ได้เป็นมนุษย์ มันยืนอยู่ในที่มืดและมองไปที่พวกเรา

“ข้าคิดว่าเราไม่ควรเข้าไปใกล้” อีริคพูดเสียงสั่น

“เราต้องรู้ให้ได้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร” ข้าตอบเสียงมั่นใจ

ทันใดนั้น เงานั้นก็เดินเข้ามาใกล้ และเราตระหนักได้ว่า มันคือ โรเซลล่า พาเทอรีน ปีศาจแห่งความตายที่ผู้คนต่างพูดถึง ข้ารู้สึกถึงอำนาจที่แผ่ซ่านออกมาจากเธอ

“เจ้าทั้งสามมาที่นี่ทำไม” เสียงของเธอดังก้องในอากาศ เธอมีดวงตาสีแดงที่เต็มไปด้วยความลึกลับ

“เรามาที่นี่เพื่อค้นหาความจริง” ข้าตอบเสียงหนักแน่น “เจ้าคือสิ่งที่เราต้องพบ”

“ความจริงที่เจ้าต้องการอาจไม่ใช่สิ่งที่เจ้าต้องการ” โรเซลล่าพูด “ในคืนนี้ ความลับจะถูกเปิดเผย และโชคชะตาของอัลเทรียจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล”

ข้าและพี่น้องของข้ารู้สึกถึงแรงดึงดูดจากคำพูดของเธอ ข้าไม่รู้ว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปจะเป็นเช่นไร แต่ในใจลึก ๆ ข้ารู้ว่าเราได้เข้าสู่การเดินทางที่ไม่สามารถย้อนกลับได้อีกแล้ว