ชีวิตของผมต้องวุ่นวาย...เมื่อแม่ของผมต้องมีครอบครัวใหม่ ทำไมต้องมาเป็นครอบครัวเดียวกันกับผู้หญิงที่เอาแต่ใจคนนี้ด้วย!!
รู้มั้ย ว่าเธอมันน่ารำคาญ ไม่มีมารยาท ขี้วีน และก็โคตรเอาแต่ใจ!! ยัยที่รัก!!
**เคมี **ผู้ชายมาดนิ่ง ที่ต่างคนก็พูดมันเป็นเสียงเดียวกัน ว่าไม่เคยเข้ากับใครได้เลย เป็นเคมีที่ไม่มีความลงตัว เคมี ที่เข้ากับใครไม่ได้นั่นแหละ
**ที่รัก **ชื่อนี้เป็นชื่อที่แม่ของเธอตั้งให้ เพื่ออยากให้เธอเป็นที่รักของทุกๆ คน แต่เปล่า มันกลับไม่ใช่แบบนั้น แม้กระทั้งแม่ของเธอ ก็ไม่คิดแบบนั้นด้วยซ้ำไป มันเลยฝังใจ และเธอก็ไม่อยากให้ใคร เรียกชื่อนี้ของเธออีก ที่รัก ที่ไม่ใช่ที่รักของใครซักคน
ผมชื่อเคมี.. เคมีที่ไม่เข้ากับใครได้เลยซักคน
ก็มันมีแต่คนบอกมาแบบนั้น ก็คงจะเป็นพื่อนๆของผมนั่นแหละ ที่ตั้งฉายามาให้แบบนี้
ครอบครัวของผม ตอนนี้เหลือแค่แม่ ผมมีแม่อยู่หนึ่งคนแค่นั้นบนโลกตอนนี้ พ่อของผม
เสียไปแล้วหน่ะสิ ก็คงตั้งแต่ผมอายุ18ย่าง19 ผมเข้ามหาลัยปี1.พอดีมั้ง
หลังจากพ่อเสีย ฐานะทางบ้านของเรามันก็แย่ลง มันก็ไม่ได้ดีมาตั้งแต่แรกหรอก
เราก็อยู่ในฐานะปานกลาง มีคนหาเงินอยู่คนเดียวก็คือพ่อ
แต่หลังจากพ่อเสีย ทุกอย่างมันก็ไม่เหลือ คนที่ต้องทำงาน
มันก็คงจะเป็นผม เพราะแม่ก็เป็นแค่แม่บ้าน อีกอย่างผมก็ไม่อยากให้แม่ลำบาก
นับตั้งแต่วันนั้นมา ผมก็ทำงานพาร์ทไทม์บวกกับเรียนไปด้วย มันก็ช่วยแบ่งเบาภาระไปได้บ้าง
ซึ่งแม่ของผมก็ไม่ยอมอยู่เฉยๆอยู่แล้ว ถึงผมจะห้ามแต่ท่านก็แอบออกไปทำงานทุกครั้ง
หลังจากผมไปเรียน แม่ทำงานอยู่ในห้องอาหารของโรงแรมแห่งหนึ่ง
ก็แค่ไปรับจ้างล้างจาน
มันก็ไม่ได้เหนื่อย สำหรับแม่มันก็คืองานที่แม่ทำอยู่ประจำอยู่แล้วก็แม่คือแม่บ้าน
ผมก็ห้ามไม่ได้อีกต่อไป จนมาถึงจุดเปลี่ยนของชีวิตตอนผมเรียนอยู่ปี3.
วันนึง แม่เข้ามาบอกกับผมว่า แม่จะแต่งงานใหม่และเราก็ต้องย้ายไปอยู่กรุงเทพ
เรื่องวุ่นวายเรื่องแรกของผมได้เกิดขึ้นแล้ว เพราะผมต้องย้ายมหาลัยไปเรียนที่กรุงเทพด้วย
วุ่นวายมั้ยหล่ะ กว่าจะทำทุกอย่างเรียบร้อย แทบไม่อยากเรียนอีก ผมไม่รู้ว่าแม่
ไปแอบมีความรักอีกครั้งตอนไหน เพราะผมไม่มีเวลามาสนใจเรื่องพวกนี้เลย ก็ชีวิตมันมีแต่เรียนกับทำงาน
และตอนนี้มันก็เป็นช่วงปิดเทอมของภาคเรียนที่1 ผมต้องย้ายมากลางเทอม ดีจริงๆ
และวันนี้เราต้องย้ายบ้านกันแล้ว
รถตู้มารอรับเราอยู่ตรงหน้าบ้านแล้วเหมือนกัน บ้านหลังนี้ แม่ไม่ได้ขาย
แม่บอกว่ามันเป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายของผม เลยอยากให้ผมตัดสินใจ
ผมก็ไม่อยากจะขายมันหรอก เพราะผมอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เกิด วันข้างหน้า
ผมอาจจะย้ายกลับมาอยู่ที่นี่ก็ได้ ใครจะไปรู้ ถ้าผมเข้ากับครอบครัวใหม่ของแม่ไม่ได้ขึ้นมา
ก็คงต้องพาตัวเองออกมาเอง เราใช้เวลาเดินทางไม่นานเท่าไหร่
เพราะจังหวัดที่เราอยู่มันก็ไม่ได้ไกลจากกรุงเทพมากมายอะไร พอรถตู้เข้าไปจอดในบ้าน
ผมถึงกับอึ้ง เราต้องมาอยู่บ้านหลังนี้กันจริงๆงั้นหรอ?
"เข้าผิดบ้านมั้ยแม่?" สามีใหม่ของแม่ จะเป็นมหาเศรษฐีขนาดนี้เลยหรอ
ไม่จริงมั้ง หรือแม่ได้สามีใหม่เป็นคนงานอยู่ในบ้านหลังนี้กันวะ?
"ไม่รู้ แม่ก็ไม่เคยมา" แม่ก็ตอบผมกลับมาด้วยหน้าตาใสซื่อ
ก็คงไม่รู้เหมือนกัน
"เอ้า?" แล้วจะไม่ให้ผมงงได้ไง
"รู้แค่ว่าเค้ามีฐานะ แต่แม่ก็ไม่เคยเห็นบ้านเค้าหนิ" แม่ก็ตอบกลับมาอีกครั้ง
ความรักแบบผู้ใหญ่นี่มันยังไง เจอกันแล้วขอกันแต่งงานเลยรึไง ไม่คิดจะคบกันไปนานๆเลยงั้นหรอ
เฮ้อ....
และแล้วก็มีคนมาเปิดประตูรถให้เรา แม่ก็ลงไปก่อน ส่วนผมก็เดินตามลงมาติดๆ
"เชิญในบ้านเลยครับ ท่านรออยู่" ท่าน? หรอ
เจ้าของบ้านนี้จริงๆสินะ แล้วก็มีคนเดินนำพวกเราให้เข้าไปในบ้าน
แม่ก็แนะนำแฟนใหม่ของแม่ให้ผมรู้จัก เค้าก็คงจะรุ่นราวคราวเดียวกับแม่ แต่ก็ยังคงดูดี
ถึงจะมีอายุแต่ก็ดูดีมากในแบบของเค้า
"คุณกฤษ นี่เคมีค่ะ ลูกชายของวดี" ผมก็คงทำได้แค่ยกมือไหว้
"นี่ถึงขั้นพาเข้ามาอยู่ในบ้าน ก็คงไม่เล่นแล้วสินะ" เด็กผู้หญิงคนหนึ่งก็คงจะรุ่นๆเดียวกับผมเช่นกัน
เธอยืนอยู่ขั้นบันไดชั้นบนสุด และมองมาทางพวกเรา
"ที่รัก!" ผมถึงกับต้องขมวดคิ้ว ที่รักงั้นหรอ แล้วแม่ผม หล่ะ?
ผมยังคงจ้องมองไปทางบันได เธอยกมือขึ้นมาเท้าคางกับราวบันไดมองมาทางผมเช่นกัน
"มาก็ดีละ ลงมานี่ พ่อจะแนะนำให้รู้จักกับ แฟนใหม่พ่อ" พ่อ? นั่นก็ลูกงั้นหรอ
แล้วที่รัก? งงไปหมดแล้ว
"จริงจังจริงๆแล้วงั้นหรอ ถามหน่อย ถ้าไม่ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาลงไป"
"ที่รัก อย่าเสียมารยาท" นี่คือบทสนทนาของพ่อกับลูกหรอ
ทำไมตัวลูกสาวถึงดูยังไงก็ร้ายแบบนี้
"อ่ะๆ โอเคๆ ลงก็ได้" เธอก็ยอมลงมาแต่โดยดี และก็เดินไปนั่งลงที่โซฟา
ทั้งๆที่ทุกคนเค้าก็ยังยืนกันอยู่ โคตรเสียมารยาท เลี้ยงมายังไงวะ!
"เฮ้อ..นี่น้าวดี เค้าจะมาอยู่ที่นี่ในฐานะภรรยาของพ่อ"
แม่ผมก็คงได้แต่ยิ้มไปให้เธอ
"หึๆ ดีใจด้วยนะคะ ที่เจอคนที่มายืนอยู่แทนแม่ซะที" เธอแสยะยิ้มไปทางพ่อของเธอ
"และ.. น้าวดี เสียใจด้วยนะคะ ไม่น่ามาเลือกอยู่กับผู้ชายแบบนี้เลย"
เหมือนเธอ จะเหน็บแนมไปทางพ่อของเธอซะมากกว่านะ
เพราะเธอก็ไม่ได้มองหน้าแม่ของผมเลย
"ที่รัก!!" พ่อของเธอถึงกับตะคอใส่เธอไป
"หนูบอกพ่อกี่ครั้งแล้ว คนที่จะเรียกชื่อนี้ได้ มีแค่แม่เท่านั้น พ่อก็ไม่มีสิทธิ์"
"พ่อเรียกแบบนี้มาตั้งแต่แกเกิดแล้วเหมือนกัน
พ่อก็บอกไปหลายครั้งแล้วหนิ"
"หึ! โอเค ไม่มีอะไรแล้วใช่มะ งั้นขอตัวนะคะ" พูดจบ
เธอก็เดินหันหลังให้ทุกคนออกไป
"ยังไม่ได้แนะนำพี่เค้าเลยนะ ทีรัก" เธอไม่มองหน้าผมเลยสักนิด
"ไม่ได้อยากรู้จัก ถ้าอยู่ไปนานๆก็รู้จักกันเองนั้นแหละ
อยู่ให้รอดก็แล้วกัน" เธอพูดเอาไว้อีกแค่นั้น มันทำให้ผมสงสัยอยู่หลายอย่าง
ผมเลยหันกลับมามองคนที่เป็นพ่อของเธออีกครั้ง เพราะคำพูดของเธอแต่ละคำ เหมือนเธอจะไม่ได้อยู่ฝั่งเดียวกับพ่อของเธอเลย
ผมย้ายตัวเองเข้ามาอยู่ในห้องที่เค้าคนนั้นบอกว่านี่คือห้องนอนของผม
มีคนพาผมมาที่นี่ ไม่ต้องยกกระเป๋า
เดินเข้ามาตัวเปล่าพร้อมกับเป้ของผมใบนึงแค่นั้น ตอนนี้ผมยืนอยู่กลางห้อง
และกำลังหมุนตัวเองให้มองไปรอบๆห้อง สาบานว่านี่ห้องนอน ผมใช้แค่นอน ต้องมีพื้นที่กว้างขนาดนี้เลยงั้นหรอ เฮ้อ..
โคตรจะไม่ชิน ชีวิตที่ไม่ได้สุขสบายมาตั้งแต่เด็ก แต่มาตอนนี้ จะทำอะไร
ก็มีแต่คนทำให้ตลอดเวลา ไม่แปลกใจเลย ว่าทำไมลูกสาวบ้านนี้ ถึงไม่มีมารยาทขนาดนี้
ก็คงจะถูกเลี้ยงมาผิดๆแบบนี้ และก็คงจะโดนตามใจแบบนี้มาตั้งแต่เกิดเช่นกัน
"เชี่ยย!! มีคอนเสิร์ตรึไงวะ!!" ผมพึ่งจะล้มตัวลงนอน และก็พึ่งจะข่มตาให้หลับ
เพราะเหนื่อยและเพลียมากกับการเดินทาง และเก็บของมาอยู่ที่นี่ แต่อยู่ๆ
ทั่วทั้งห้องของผม มันก็มีเสียงเพลงเล็ดรอดเข้ามา ต้องเปิดดังขนาดไหน
มันถึงเข้ามาในนี้ได้กันวะ และผม ก็ต้องดีดตัวเองให้ลุกขึ้น
และก็เดินตรงไปที่ระเบียง ห้องข้างๆสินะ และคนที่มันยืนอยู่ตรงระเบียงนี้
มันก็ไม่ใช่ใคร นี่สูบบุหรี่ด้วยงั้นหรอ แล้วอยู่ๆ เธอก็หันมามองทางผม
ดูเธอจะตกใจนิดๆ
"เหี้ย!!" ผมถึงกับคิ้มขมวดขึ้นมาอีกครั้ง
นี่ด่าหรืออะไร เธอปาบุหรี่ลงกับพื้นแล้วก็เดินเข้าห้องไป
พร้อมกับปิดประตูเสียงดัง แต่ทำไมสิ่งที่เห็นเมื่อกี้ มันทำผมแปลกใจ
ผมเห็นเธอร้องไห้..
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!