NovelToon NovelToon

นาฏศิลป์หลอน

เรื่องเล่าจากเด็กหญิงบี

...----------------...

สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อเด็กหญิงบี (นามสมมุติ) ดิฉันเป็นเด็กในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งแต่ก่อนโรงเรียนนี้เป็นป่าช้า และภายหลังได้มีการซ่อมแซมและก่อสร้างโรงเรียนขึ้นมา ฉันเข้ามาเรียนที่นี่ตอน ป.3 และได้มีความสนใจเกี่ยวกับด้านของนาฏศิลป์ ดนตรีไทย จึงได้ขออาจารย์สมัครเข้า ตื้ออาจารย์อยู่นานจนอาจารย์ยอมให้เข้า ตอนนั้นจำได้ว่าเข้าไปห้องนาฏศิลป์ทุกวัน เข้าไปเช้า-เย็น จนได้มีอยู่วันหนึ่ง อาจารย์ใช้ให้ชั้นไปหยิบของให้ที่โต๊ะอาจารย์ลนห้องนาฏศิลป์ ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรเพราะมันยังเช้า ยังสว่างและรวมกับว่าในตอนนั้นไม่คิดเรื่องวิญญาณหรือไม่ได้กลัวขนาดนั้น เลยจะขึ้นไปคนเดียว อาจารย์ก็มาบอกว่า "อย่าบอกนะว่าจะขึ้นไปคนเดียว อาจารย์ว่าชวนเพื่อนไปสักคนสองคนไม่ดีกว่าหรอ" ตอนนั้นเราก็งงว่าทำไมต้องชวนเพื่อนไปในเมื่อตึกของนาฏศิลป์และดนตรีอยู่แค่นี้ เดินไปไม่กี่ก้าวก็ถึง ในตอนนั้นก็สับสน และ งง เลยทำตามที่อาจารย์บอก เพื่อนเราก็ดูกลัวๆแต่เราไม่ได้คิดอะไร เลยให้เพื่อนรอหน้าห้องแล้วเราก็เข้าไปในห้องเพื่อหยิบของให้อาจารย์คนเดียว ในห้องมันวังเวงมาก เป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก เราเลยเริ่มหวั่นใจ ใจหวิวๆ เลยรีบหยิบแล้วรีบเดินออกไป เราเป็นคนไม่มีซิกเซ้นต์เรื่องนี้เท่าไหร่ แต่พอหลังจากลงมาจากตึกแล้ว เพื่อนก็สกิดเราพร้อมบอกกับเราว่า "แกไม่เห็นใช่มั้ย เขาเดินตามแกด้วย" ตอนนั้นเราตกใจและอึ้งกับคำพูดของเพื่อน แต่ก็ยังคิดติดตลกว่าเพื่อนแกล้งเรา เราเลยพูดตอบกลับเพื่อนแบบกวนๆตลกๆว่า "แก ตลกมั้ยเนี่ย ใครจะมาเดินตามเรา เราอยูคนเดียว แกน่าจะนอนน้อยนะ " เพื่อนก็ทำหน้าจริงจังหลังจากจบประโยคของเราไป แต่เราไม่ได้สนใจแล้วเอาของไปให้อาจารย์ ตลอดวัน เราสังเกตเห็นเพื่อนคนนั้นนั่งเงียบ หน้าซีดตลอดเวลา เราเลยเข้าไปถาม เพื่อนบอกว่า "บี(นามสมมุติ)แกอย่าลืมไปทำบุญนะ เชื้อเราสักครั้งเถอะ" ในตอนนั้นเราเริ่มกลัวแล้ว จึงตอบตกลงไป เช้าของอีกวัน เราได้ไปทำบุญตามที่เพื่อนบอก และได้ไปไขข้อเท็จจริงอีกครับ ด้วยความสงสัยจึงเดินไปหากระจกแบบไม่ลังเล และพูดในห้องที่มีแค่ตัวเองและเงาตัวเองในกระจก "ถ้ามีจริง ออกมาให้เห็นเลยก็ได้ค่ะ อย่าให้เพื่อนหนูเห็นคนเดียว" สิ้นประโยคก็มีเสียงดีดจะเข้ดังมาจากด้านหลัง ตอนนั้นเราขนลุกซู่ ตัวเเข็งไปหมด ไม่กล้าหันไปมอง และมีเสียงคนพูดเบาๆข้างๆหู "เงยหน้ามองกระจกสิ ฉันอยู่ในนั้น" เราทำใจนานมากๆจึงตัดสินใจลืมตาและเงยหน้ามองกระจก วินาทีนั้นเราแทบช็อก เราเห็นผู้หญิงคนนึงที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร ค่อยๆฟ้อนรำอย่างสวยงามด้วยท่าทางบิดเบี้ยว ใบหน้าเหมือนโดนของมีคมฟันจนเละ ลูกตาขาวโพน วินาทีนั้นเราตัดสินใจสวดมนต์ในใจและวิ่งออกไปจากห้องนั้นทันที เราสคิดสับสนในใจว่ามันไม่ได้เป็นนางรำ แล้วเขาคือใคร? นักเรียน หรือครู มันสับสนวุ่นวายอยู่ในหัวไม่รู้จักจบ จึงตัดสินใจบอกพ่อแม่และคนในครอบครัว ทีแรกพวกเขาไม่เชื่อ แต่พอเราเล่าแบบจริงจังมากขึ้น พวกเขาเริ่มเชื่อและพาเราไปทำบุญ รดน้ำมนต์ หลังจากนั้นเราก็ไม่กล้าที่จะเข้าห้องนาฏศิลป์คนเดียวอีกเลย

...****************...

เรื่องนี้คือเรื่องแต่งขึ้นทั้งหมด ตัวละคร ชื่อ สถานที่ เป็นเพียงสิ่งที่สมมติขึ้นเพื่ออรรถรสในการอ่าน เป็นเพียงแค่จินตนาการเท่านั้น โปรดใช้วิจารญาณในการอ่านและคอมเม้นต์

...****************...

เรื่องเล่าจากเด็กชายซี

......................

สวัสดีครับ ผมชื่อซี (นามสมมุติ) ตอนนี้ผมอายุ 29 แล้วครับ วันนี้ผมจะมาแชร์ประสบการณ์เจอผีในห้องนาฏศิลป์มาให้ฟังครับ

...เรื่องนี้ต้องย้อนไปเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ตอนนั้นผมอายุ 14 จะ 15 ครับ ผมเรียนอยู่โรงเรียน----------------...

ซึ่งเป็นโรงเรียนในตัววัด ไม่ได้มีความหรูหรา หรือ ความปลอดภัยมากเท่าไหร่ ตอนนั้นผมยังไม่ได้สนใจอะไรเกี่ยวกับดนตรีเพราะไม่มีโอกาสได้เรียนมากนัก คิดว่ามันน่าเบื่อด้วยซ้ำไป ในตอนนั้นผมยังเป็นเด็กเกเร ไม่สนใจการเรียน เล่นแต่บอล ขับรถแว้นๆไปวันๆ เกเรไปทั่ว อันธพาลสุดๆเลย จนมีอยู่ครั้งหนึ่ง ห้องผมได้มีโอกาสเรียนดนตรี นาฏศิลป์ ตอนแรกก็ไม่อยากเรียนเพราะคิดว่ามันน่าเบื่อแล้วก็งานค่อนข้างเยอะ เลยมีบ่นอาจารย์บ้าง อะไรบ้าง แล้วผมดันเกิดเรียนไปเรื่อยๆแล้วชอบเกี่ยวกับการแสดงของจำพวกดนตรีไทย ผมได้เกิดมีความสนใจทางด้าน "การเล่นซออู้" ผมดันเกิดความชอบไปได้ไงก็ไม่รู้ ผมตั้งใจเรียน ตั้งใจเล่นขึ้นมาก ทั้งห้องของผมตอนสอบซออู้ มีผมและเพื่อนอีก 2 คนที่ผ่าน เป็นครั้งแรกที่ผมสอบดนตรีผ่าน และ คงจะต่อๆไป หลังจากนั้นผมก็ได้มาหาอาจารย์ประจำวิชาที่สอนห้องผม เพื่อให้เขาสอนผมเล่นเครื่องดนตรีต่างๆให้เก่งขึ้นและดีขึ้น อาจารย์ด้วยความเป็นคนใจดี จึงให้ผมลองเล่น แต่อาจารย์จะกำชับทุกครั้งว่า "จะเล่นเครื่องดนตรีไทยอันไหน ยกมือไหว้หรือกราบก่อนเสมอ มันคือการเคารพของในนี้" ผมก็ไม่ได้อะไรยกมือไหว้ไปตามที่อาจารย์สั่ง และเริ่มบรรเลงจากง่ายๆ ตอนแรกผมทำได้ไม่ดีนัก จึงหงุดหงิดและขออาจารย์กลับบ้าน วันรุ่งขึ้นผมได้ไปหาอาจารย์อีกครั้งตอนเย็น เวลาประมาณ 16:30 น. ซึ่งใกล้จะ ห้าโมงแล้ว อาจารย์แนะนำให้ผมกลับ เพราะอาจารย์กับเพื่อนจะกลับแล้ว แต่ผมยังยืนยันว่าจะขอเล่นเครื่องดนตรีอีกครั้ง อาจารย์ทำสีหน้ากังวลก่อนพูดว่า "แล้วแต่เธอ แต่ก่อนเล่นยกมือไหว้ นี่ห้ามลืม แล้วก็ปิดแอร์ ปิดประตูล็อคด้วย พรุ่งนี้เธอก็มาเปิดด้วยตอนเช้า โอเคใช่มั้ยที่จะอยู่คนเดียวในนี่" อาจารย์พูดด้วยสีหน้าจริงจัง ผมจึงตอบตกลงและเริ่มเล่น แน่นอนครับ ผมไม่ได้ไหว้ ผมเล่นจนเกือบ หกโมง จึงเก็บของเตรียมกลับ ปิดแอร์ ปิดไฟ แต่เมื่อเท้าผมกำลังจะก้ามขาออกไป ผมได้ยินเสียงผู้หญิงหัวเราะเบาๆ และเสียงเดินด้วยรองเท้าไม้ เหมือนรองเท้าไม้ญี่ปุ่น แต่มีความเบามากๆเวลาเขาเดินลงน้ำหนัก ผมพยายามไม่คิดอะไรและคิดว่าหูฝาด จนเสียงเดินมันเริ่มใกล้ ผมจึงรีบล็อคกระตูและเดินลงตึกไป วันต่อมาผมได้เล่าให้อาจารย์และเพื่อนอาจารย์ฟัง อาจารย์หน้า

ซีดมากๆเมื่อได้ยินเรื่องราวที่ผมนั้นเล่า ผมจึงถาม อาจารย์ให้แน่ใจ อาจารย์ได้ตอบมาว่า "อาจารย์เคยบอกเธอแล้ว อยากรู้ลองพิสูจน์" ผมด้วยความไม่ค่อยเชื่อเพราะเป็นเด็กปากดี ไม่ได้สนใจ เวลาห้าโมงเย็น ผมได้เข้าไปอีกรอบ พร้อมท้าทายและขู่เสียงดัง หลังจากนั้นได้มีหญิงปริศนาคนนึงโผล่มาต่อหน้าผม ผมรู้ได้ทันที มันไม่ใช่มนุษย์แน่ๆ จึงค่อยๆผ่อนใจและออกจากโรงเรียน วันต่อมาก็มาเล่าเรื่องให้อาจารย์ฟัง อาจารย์บอกผมว่าเขานั้นเชื่อ 100% หลังจากนั้นผมจึงไม่เข้าไปเล่นดนตรีก่อนเลย

...****************...

เรื่องนี้คือเรื่องแต่งขึ้นทั้งหมด ตัวละคร ชื่อ สถานที่ เป็นเพียงสิ่งที่สมมติขึ้นเพื่ออรรถรสในการอ่าน เป็นเพียงแค่จินตนาการเท่านั้น โปรดใช้วิจารญาณในการอ่านและคอมเม้นต์

...****************...

เรื่องเล่าจากครูสาธร

สวัสดีครับ เด็กๆทุกคน ครูชื่อครูสาธร(นามสมมุติ) ครูอายุ 54 ปีครับ ครูกำลังเป็นครูชำนาญการอยู่โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัด..... ครูมักได้ยินเรื่องเล่าเกี่ยวกับห้องนาฏศิลป์ในโรงเรียน บ้างก็เล่ากันไปต่างๆนาๆ บ้างก็เล่าว่า มีรามเกียรติ์ บ้างก็เล่าว่า มีหญิงหน้าตาเละเทะมาฟ้อนรำอยู่ในกระจก บ้างก็เล่าว่า มีผีนางรำมาชี้หน้าบอกให้ออกไป ครูให้ยินมาเยอะมากๆจนบางทีครูก็คิดว่ามันเป็นเรื่องแต่งไปแล้ว เพราะครูนั้นก็ไม่เคยเจอกับตัวตรงๆจะๆ ได้ยินแต่นักเรียนเล่ามา ไม่ว่าจะนักเรียนใหม่หรทอนักเรียนเก่า ต่างก็มาเล่าให้ฟังแตกต่างกันไปมากมาย จนในวันนี้ ครูเชื่อ เพราะครูนั้นได้เจอกับตัวเองโดยไม่ตั้งตัว วันศุกร์ ที่ 13 ของเดือนๆหนึ่ง ครูได้ขึ้นไปในแต่ละอาคารเพื่อเช็คความเรียบร้อย เพราะวันนั้นเป็นเวรของครู ครูเช็คตึกคณิต ไม่มีอะไร เช็คตึกต่อมาตึกต่อมาก็ไม่มีอะไร พอมาถึงตึกนาฏศิลป์ ครูเริ่มใจหวิวและหวั่น แต่ครูก็ขึ้นไปเพราะต้องเช็คความเรียบร้อย เดินขึ้นบันไดมาประมาณ ห้า ก้าว ครูเริ่มได้ยินเสยงเดินตามมาจากด้านหลัง ครูรีบหันไปทันทีด้วยความตกใจและหวาดกลัว "ก็ไม่มีอะไรนี่หว่า" ครูพูดปลอบใจตัวเองก่อนเดินขึ้นไปอีกครั้ง ตลอดที่เดินขึ้นบันไดมา ครูขนลุก อากาสหนาวกว่าเดิม และความหวาดกลัวเข้าแทรกมาเต็มเปี่ยม ครูคิดในใจว่าเป็นคนไมาเห็น ยังไงก็ไม่เห็น ตรวจไปเรื่อยจนถึงห้องสุดท้ายของตึกนาฏศิลป์ ครูได้ยินเสียงเคาะประตูไม้จากด้านหลัง ครูจึงเดินกลับไปดูเพื่อความแน่ใจว่าไม่มีคนหลงอยู่ในนั้น หลังจากเปิดมาครูต้องตกใจมากครับ ครูเจอศีรษะของนักเรียนชมรมนาฏศิลป์อยู่ สภาพเน่าเละและมีหนอนชอนไชตามผิวหนัง จนแทบไม่เหลือเนื้อ ครูตกใจมากจึงตะเหลิดวิ่งลงมาจากบันไดให้เร็วที่สุด แต่ก่อนลงมา ครูดันไปสะดุดตากับห้องที่ 6 คือห้องของคนแสดงรามเกียรติ์และหนัง ครูเห็นชายคนหนึ่งเดินไปๆมาๆในห้อง ครูจึงต้องจำใจไปดูด้วยความตกใจและหวาดกลัวมาก และครูต้องตกใจอีกรอบ เพราะครูเห็นคนๆหนึ่ง ไม่มีหัวและตัวขาดครึ่ง ครูช็อกมากจนเดินไม่ได้ ตัวแข็งขยับไม่ได้ อยู่ๆก็มีคนมาเรียกครู เขาคือรปภ.ประจำโรงเรียน จังหวะนั้นครูรีบพยายามยับขาเพื่อเดินไปหาเขา "อ้าวจารย์ ทำไมมาอยู่ตรงนี้ละครับ มาคนเดียวอีก"

"รีบไปจากตรงนี้เถอะ" ผมรีบชวนเขาลงไป เขาทำหน้าเช้าอกเข้าใจอย่างดี ก่อนจะถามผมว่า

"เจอใช่มั้ยล่ะ บอกแล้วว่าเฮี้ยน" วันต่อมาผมจึงตัดสินใจขอ ผ.อ ลาออกเพื่อไปใช้เวลากับตัวเองให้มากที่สุด และยังคงหวาดกลัวกับเรื่องที่เจอเช่นกัน

...****************...

เรื่องนี้คือเรื่องแต่งขึ้นทั้งหมด ตัวละคร ชื่อ สถานที่ เป็นเพียงสิ่งที่สมมติขึ้นเพื่ออรรถรสในการอ่าน เป็นเพียงแค่จินตนาการเท่านั้น โปรดใช้วิจารญาณในการอ่านและคอมเม้นต์

...****************...

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!