ถ้าการฝึกงานคือการหาประสบการณ์ตรงจากที่ทำงาน'กราฟ'นิสิตนักศึกษาคณะนิเทศ สาขาภาพยนตร์ นอกจากจะได้ประสบการณ์ที่มีแค่ในที่ทำงานแล้ว ยังได้ประสบการณ์เรื่องรักๆใคร่ๆบนเตียงอีกด้วย
ในวันแรกที่สมัครเข้ามาฝึกงานหนุ่มน้อยได้ยื่นเรื่องว่าจะมาสมัครเป็นอีดิทเตอร์หรือก็คือคนตัดต่อ แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรกลับได้ฝึกงานในฐานะผู้ช่วยผู้กำกับเสียอย่างนั้น แต่เหมือนว่าจะเป็นการโดนเด้งเพราะตำแหน่งเต็ม มีคนอยากทำอีดิทเตอร์มากขนาดนั้นเชียว?
ในวันที่เริ่มฝึกงาน กราฟได้มายืนตรงทางเข้าบริษัท
"น้องเป็นเด็กฝึกงานใช่มั้ย? พี่ชื่อ'เซน'เป็นผู้ช่วยผู้กำกับ น้องกราฟใช่ไหม?"แล้วคนตัวสูงก็เหลือบมองป้ายห้อยคอเล็กน้อย"ตามพี่มา"
"อ่า...ครับ"(รุ่นพี่คนนี้ดูคุ้นหน้าจัง เหมือนเคยเห็นที่ไหนสักที่มาก่อน แต่ก็เจอกันตอนสัมภาษนี่เนอะอาจจะคุ้นเพราะอย่างนั้นกระมัง)
"ระหว่างเดินพี่จะบรีฟงานให้เราฟัง เพราะขึ้นไปเราต้องพร้อมเจอลูกค้าเลย มีปากกามั้ย"
"มีครับแต่..."
แล้วคนโตก็พูดบรีฟตัดไปเลยว่า"ลูกค้าต้องการโทนสว่างแต่ไม่สว่างมาก อ้อ งานนี้เป็นงานโฆษณาเปิดร้านใหม่"
หนุ่มน้อยเริ่มจดลงบนสมุดทันบ้างไม่ทันบ้างแต่ก็ได้ใจความพอสมควร
"ร้านนี้เป็นเสื้อผ้า ต้องการความสดใส เน้นเสื้อผ้าแนว Unisex ใส่ได้ทั้งชายและหญิงอีกทั้งยังต้องใส่ได้ทุกวัย แถมยังต้องเป็นมิตรกับธรรมชาติ" เดินไปพร้อมพูดบรีฟไปก็ใกล้จะถึงห้องประชุมเสียแล้ว
"ยังไม่มีใครมาเราเข้าไปรอกันก่อนเถอะ"คนตัวสูงกว่าว่าจบก็เปิดประตู
"เด็กฝึกงานนั่งตรงนั้นนะ" นิ้วเรียวชี้ไปทางเก้าอี้ด้านหลัง ที่มีกระดาษติดคำว่าเด็กฝึกงานอยู่
"ระหว่างที่รอลูกค้า ก็หาขอมูลรอละกัน"
"ได้ครับ" หนุ่มน้อยนั่งที่แล้วหยิบแล็ปท็อปออกมาจากกระเป๋าหิ้ว
"มีอะไรหรือเปล่า?"
"อ่า...มีโต๊ะไหมครับ"
"อืม...งั้นมานั่งตรงนี้ดีกว่ายังไงเด็กฝึกงานก็มีแค่คนเดียว"
"มีคนเดียว?" กราฟทำหน้างุนงง
"ใช่คนเดียว ส่วนใหญ่ที่ส่งใบสมัครมาก็ขอทำแต่อีดิทเตอร์ แล้วเราก็ถามทุกคนนี่นาว่าถ้าให้ทำงานในตำแหน่งอื่นจะเอามั้ย"
"หะ"(ยกเว้นกูมั้ย)คนตัวเล็กกำลังหวังว่าคำที่เค้ากำลังคิดจะไม่ได้เปล่งเสียงออกไป
"เดินมานั่งได้แล้ว อีกสักพักลูกค้าก็คงมา"
"ครับ" หนุ่มน้อยรีบเก็บกระเป๋าแล้วย้ายมานั่งเก้าอี้ตรงท้ายๆโต๊ะประชุม
ทั้งคู่หยิบแล็ปท็อปขึ้นมาเพื่อเตรียมพร้อมที่จะทำงานที่ได้รับมอบหมาย
หลังจากกราฟค้นหาข้อมูลลูกค้าได้สักพักก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นและเสียงรอสายก็เป็นเพลงที่หนุ่มน้อยชอบทั้งๆที่ไม่ใช่โทรศัพท์ของเขาเอง
"ฉันต้องทำ ทำอะไร สักอย่างแล้ว..." แล้วเสียงก็ตัดไป คนตัวสูงรับสายแล้วพูดขึ้นมาว่า "ได้ครับ"
"เรากินข้าวเช้ามาหรือยัง" สายตาคู่คมมองมานิ่งๆแล้วหันไปมองนาฬิกาที่ด้านหลังของห้องประชุม ท่าทางแบบนี้สงสัยลูกค้าหรือไม่ก็พี่ผู้กำกับจะเลื่อนการนัดคุยงาน และดูจากที่คนตัวสูงชวนกินข้าวด้วยแล้วคงเลื่อนออกไปนานพอสมควร
"ยังครับ" ใช่หนุ่มน้อยที่นั่งอยู่ตรงนี้ยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เย็นเมื่อวาน เพราะมัวแต่หาข้อมูลของบริษัทที่เขากำลังจะได้ฝึกงาน และตอนนี้เค้ากำลังหิวมาก น่าจะเพราะคำชวนด้วยส่วนหนึ่ง
" งั้นเราลงไปหาอะไรกินกันลูกค้านัดเลื่อนไปอีก 2 ชั่วโมง ถ้ารอถึงตอนนั้นพี่ว่าพี่คงหิวตายพอดี"
ทั้งคู่ทิ้งสัมภาระไว้ในห้อง
ในระหว่างที่กินข้าวคนตัวสูงก็ชวนคุย แต่คำถามที่ถามออกมาเหมือนเป็นการสัมภาษณ์รอบสองก่อนรับเข้าทำงานจริงมากกว่า
เช่นคำถามที่ว่า "ทำไมเราเลือกมาฝึกงานที่นี่ล่ะ" แล้วจะให้หนุ่มแว่นตัวน้อยตอบว่าอะไรทั้งๆที่เค้าก็เคยตอบไปแล้วในการสัมภาษณ์ครั้งแรก
แต่เขาก็เลือกที่จะตอบคำถามนั้นอีกครั้งว่า "ที่นี่ทำแล้วได้เงินครับ" อาจไม่เหมือคำตอบที่เขาเคยตอบไปในครั้งแรกเพราะตอนนี้ไม่จำเป็นที่จะต้องเลียแข้งเลียขาผู้ใหญ่ให้เอ็นดูแล้วรับเข้าทำงาน ถึงอย่างนั้นก็ทำให้คนตัวสูงหัวเราะออกมาดังลั่นจนคนทั้งร้านหันมามอง
คนๆนี้สามารถถูกซื้อไปได้ง่ายๆด้วยเงิน ถ้าทางบริษัทให้เค้าไม่มากพอ
"เราเป็นคนหัวการค้าสินะ" คนตัวใหญ่พูดขึ้นหลังจากหัวเราะเสร็จแล้ว
"คงงั้นแหละครับ"
ก็เป็นคงจะเช่นนั้นแหละถ้าเขาไม่ได้หัวการค้า ทุกวันนี้คนตัวเล็กที่นั่งอยู่ตรงนี้คงไส้แห้งไปแล้ว
เค้าเคยตัดต่อให้กับช่องของเพื่อนตัวเอง แล้วมีคนซื้อตัวเค้าไปแถมยังได้เงินเยอะกว่า เค้าถึงยอมไป
คงเพราะแบบนี้คนๆนี้ถึงมีเพื่อนน้อย
หรือจะเรียกว่าไม่มีเพื่อนเลยกันดีนะ
แต่ก็ช่างปะไร เพราะถึงจะเพื่อนน้อยแต่คนตัวเล็กก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ และก็มีงานเข้ามาจ้างแทบจะตลอดเวลาจนไม่มีช่องว่างให้ไปพบปะสังสรรค์
"พี่เห็นว่าเราส่งใบสมัครมา ขอทำอีดิทเตอร์ใช่ไหม? ปกติตัดงานประเภทไหนเหรอ?"
"ก็ทั่วไปครับ รับหมด แค่บรีฟมาผมก็ทำให้ได้เลยครับ" หนุ่มน้อยตอบด้วยสีหน้าเฉยเมยแต่ในใจก็คิดว่า (ทำไมเหมือนโดนเด้งไม่อย่างงั้นก็โดนแกล้งให้มาทำหน้าที่ผู้ช่วยผู้กำกับกันนะ)
"โอ้ แปลว่าได้เงินเยอะแน่ๆ แล้วมีบริษัทที่อยากทำงานด้วยหรือยัง" ว่าจบหมือหนาก็ตักข้าวเข้าปาก
"ผมคงเลือกทำที่นี่แหละครับ"
ใช่ หนุ่มน้อยคงเลือกทำงานที่นี่เพราะเค้าไม่รู้จักบริษัทอื่นที่ได้เงินเยอะไปกว่าบริษัทนี้อีกแล้ว
"บริษัทอื่นให้เงินน้อยใช่ไหมล่ะ ฮ่าฮ่า"
เดาได้ถูกเผงเลยล่ะ
อย่าหาว่าคนตัวเล็กคนนี้หน้าเงินเลย เพราะเงินส่วนใหญ่จะถูกจ่ายไปกับค่าเช่าคอนโดกับค่ารักษาพยาบาลของพี่สาวที่อยู่บ้านที่ต่างจังหวัด และค่าจ้างคนดูแลพี่สาว
"ทำงานที่นี่น่ะ พี่ขอแค่เราไม่ชวดเงินแล้วหนีไปก็พอ"
และสิ่งที่คนตัวเล็กคิดก็คือ "พูดงี้หมายความว่ายังไงเนี่ย" ใช่ มันไม่ได้อยู่แค่ภายในหัวแต่ออกมาเป็นเสียงด้วยนี่สิ
"ฮ่าฮ่าฮ่า เสียงในหัวมันดังออกมาแล้วนะ"
หนุ่มน้อยเริ่มรู้สึกปลงกับภาพตรงหน้าของเขาตอนนี้
"เราขึ้นไปกันดีกว่า ไม่รู้ว่าลูกค้ามากันหรือยัง แต่งไงเราก็ต้องไปรอล่ะนะ"
ทั้งคู่ลุกขึ้นแล้วตรงไปที่ห้องประชุมทันที ระหว่างทาง ภายในบริษัทก็ดูจะวุ่นวายมากทีเดียว
หลังจากที่เราเห็นภาพตรงหน้าแล้ว คนตัวสูงก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นเช็คข้อความแล้วยกยิ้มขึ้น ก็ไม่รู้นะว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ดูเหมือนจะงานเข้าแล้วล่ะ วันแรกที่หนุ่มน้อยเข้ามาฝึกงานก็เกิดเรื่องขึ้นเสียแล้ว
มีผู้หญิงมัดผมหางม้าแบบลวกๆ วิ่งหน้าตั้งมาทางทั้งสองแล้วพูดว่า "พี่เซน มีลูกค้ามาขอเลื่อนงานจากกำหนดส่งเดือนหน้ามาเป็นวันอาทิตย์นี้ เขาบอกไปดูซินแสมาแล้วซินแสบอกให้ฉายโฆษณาวันนั้นเลย ทำไงดีพี่" มีผู้หญิงมัดผมหางม้าวิ่งหน้าตั้งมาทางเราแล้ว
"เราก็ถ่ายเสร็จไปแล้วนี่ แต่พี่ยังไม่เห็นมีใครส่งฟุตมาให้ดูเลย"
"เห็นว่ากำลังเร่งตัดกันอยู่ แต่ดูจะไม่ทัน" ผู้หญิงอีกคนวิ่งหอบข้าวหอบของเข้ามาแล้วพูดขึ้น
"เดี๋ยวพี่ลองคุยกับลูกค้าอีกที ว่าขอเลื่อนไปก่อนได้มั้ย แต่เร่งทีมตัดไปก่อนก็ดี" พอคนตัวสูงว่าจบก็หันมาบอกคนตัวเล็กว่า "เราไปห้องอีดิเตอร์ แล้วถามเค้าว่ามีอะไรให้ช่วยไหม เรื่องลูกค้าที่นัดประชุมวันนี้เดี๋ยวพี่จัดการเอง"
"ได้ครับ" ภายในใจของหนุ่มน้อยคิดว่า ในที่สุดก็ได้ทำงานที่อยากทำ
"ตามพี่มา" พี่สาวผมม้าพูดขึ้นแล้วเราก็รีบเดินไปห้อง Editing room ทันที
.......
.......
.......
...TBC....
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!