พระราชวังแห่งแสงกำลังตกอยู่ในความโกลาหล ยามค่ำคืนที่มืดมิดมีเสียงคำรามและแสงไฟลุกโชนจากทิศทางต่าง ๆ ของอาณาจักร พระราชาแห่งแสงยืนอยู่บนระเบียงของพระราชวัง มองดูการทำลายล้างจากระยะไกล

พระราชาแห่งแสง (มองไปยังท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยเมฆมืด) "โอ้แสงสว่างแห่งท้องฟ้า... อาณาจักรของเรายังคงสูญสิ้นไปต่อหน้าต่อตาเรา ความมืดที่เคยถูกผนึกไว้นานแสนนาน กลับคืนสู่โลกด้วยพลังอันไร้ขอบเขต"

**ขุนนางอาวุโส**: (เดินเข้ามาใกล้พระราชา) "ขอพระองค์โปรดทรงอดทนเถิด! มืดมิดนี้เป็นฝีมือของราชันย์อมตะที่ถูกผนึกไว้แต่โบราณ เราต้องควานหาวิธีเพื่อยับยั้งการกลับคืนของเขา"

**### พระราชาแห่งแสง**: (หันไปมองขุนนาง) "เวลาของเราใกล้หมดแล้ว... ข้าทรงเรียกกลุ่มผู้มีพลังวิเศษในแผ่นดินนี้ และหวังว่าพวกเขาจะมาช่วยเราทันเวลา"

คืนเดียวกัน ในป่าแห่งหนึ่ง อาเธน่ากำลังฝึกซ้อมด้วยดาบศักดิ์สิทธิ์ของเธออย่างจริงจัง

**อาเธน่า ดราเคนฟอร์ด**: (เหงื่อท่วมตัว ขณะเหวี่ยงดาบ) "อันใด... อันใดที่ทำให้ทุกสิ่งในโลกนี้รู้สึกถึงการล่มสลาย? ข้ารู้ว่าข้ามีพลัง แต่บัดนี้ข้าหาแนวทางในการใช้พลังเพื่อปกป้องสิ่งที่ยังหลงเหลืออยู่ไม่พบ"

**เสียงปริศนา**: (ดังขึ้นในอากาศ) "อาเธน่า... ความมืดกำลังลุกลามเข้าสู่แดนแห่งเราทุกคน และเจ้าคือความหวังเดียวที่เรามี"

**อาเธน่า ดราเคนฟอร์ด**: (มองไปรอบๆ ด้วยความตกใจ) "เจ้าเป็นใคร? ใครกันที่ส่งเสียงมาหาข้า?"

ในที่ซ่อนแห่งหนึ่ง คาลิกซ์กำลังนั่งอยู่ในห้องมืด กำลังพิจารณาจดหมายลับที่ได้รับจากหัวหน้าของฝ่ายมืด

**คาลิกซ์ แบล็คธอร์น**: (อ่านจดหมายด้วยความเครียด) "ตามหาผู้ครอบครองพลังแห่งแสง... เหตุใดพวกเขาจึงให้ข้าบรรลุภารกิจนี้? สิ่งใดคือความหมายแท้จริงของคำสั่งนี้?"

**เงามืด**: (ปรากฏขึ้นในห้อง) "คาลิกซ์... เจ้าต้องปฏิบัติตามคำบัญชา มิฉะนั้นความวิบัติจะตกลงมาบนทุกสรรพสิ่ง"

**คาลิกซ์ แบล็คธอร์น**: (ยิ้มเย้ยหยัน) "เคยมีวันหนึ่งที่ข้าหลงเชื่อในความยุติธรรม แต่บัดนี้ข้าสงสัยว่าอันใดคือความจริง"

ลูเซียร่ากำลังอยู่ในห้องของเธอที่อาราม เธอรู้สึกถึงความผิดปกติในร่างกายและจิตใจ

**ลูเซียร่า ซาเรีย**: (มือจับที่หน้าอก) "สิ่งใดกันที่บั่นทอนความสงบของข้า? เหตุใดข้าจึงรู้สึกว่ามีสิ่งที่น่ากลัวกำลังพยายามปลดปล่อยออกมา?"

**นักบวชผู้อาวุโส**: (เข้ามาในห้อง) "ลูเซียร่า... คำสาปแห่งเทพจันทราและดวงตะวันเริ่มตื่นขึ้นแล้ว ภารกิจของเจ้าในการทดสอบความแข็งแกร่งเริ่มต้นแล้ว"

**ลูเซียร่า ซาเรีย**: (ตกใจและหวาดกลัว) "ข้าจะควบคุมมันได้หรือไม่? ข้าหวาดกลัวว่าตัวตนที่ซ่อนอยู่ภายในจะนำพาความพินาศมา"

ไธอัสนั่งอยู่ในห้องสมุดเก่าแก่ ขณะที่เขาทบทวนคัมภีร์ที่เก่าแก่และเป็นความลับ

**ไธอัส เรเวน** "มองไปยังคัมภีร์ที่เปิดอยู่ "นี่คือภาพวิสัยทัศน์ที่ข้าเห็น... การล่มสลายของแผ่นดิน... หากข้าไม่ดำเนินการ สิ่งนี้จะกลายเป็นความจริง"

**ผู้เฒ่าจากดวงดาว**: (ปรากฏขึ้นในลำแสง) "ไธอัส... พลังของเจ้าคือกุญแจในการป้องกันหายนะนี้ เจ้าต้องร่วมมือกับผู้มีพลังอันยิ่งใหญ่"

**ไธอัส เรเวน**: (พูดด้วยความมุ่งมั่น) "ข้าจะร่วมแรงกับพวกเขา และแสวงหาวิธีในการเปลี่ยนแปลงอนาคตที่มืดมนนี้"

ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวและดวงจันทร์ลอยเหนือภูเขาที่ปกคลุมด้วยหมอกบางเบา ภายในป่าแห่งความเงียบสงบแห่ง "ป่าพฤกษาเซ็น" การเคลื่อนไหวของลมที่เย็นสบายราวกับเป็นเสียงของเทพเจ้าที่ร่ำลือ

สายลมเย็นพัดผ่านทะเลไม้ที่เงียบสงบ เสียงของปีกนกในยามราตรีกระซิบกระซาบข้ามภูเขาอันสูงส่ง ม่านหมอกหนาเริ่มปกคลุมพื้นที่ ทุกสิ่งทุกอย่างในป่าพฤกษาเซ็นเต็มไปด้วยความลับที่ซ่อนเร้น และพลังที่รอคอยการเปิดเผย

---

"อาเธน่า ดราเคนฟอร์ด" (ยืนอยู่บนเนินเขาที่ทอดยาวไปยังหมู่บ้านด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความมุ่งหวัง) “ด้วยพลังแห่งราชันย์อมตะ ข้าจะเปิดเผยความจริงที่ถูกซ่อนไว้ในพงไพรนี้ ข้าจะยอมรับโชคชะตาที่ถูกกำหนดให้กับข้า”

ดวงตาของอาเธน่าเปล่งประกายไปด้วยความมุ่งมั่นและความหวัง เธอเดินไปที่พระแท่นพิธีที่เต็มไปด้วยสัญลักษณ์แห่งอำนาจและความลึกลับ พลังที่ซ่อนอยู่ในตัวเธอกำลังตื่นขึ้น ชะตากรรมของเธอจะถูกกำหนดโดยพลังที่เธอได้รับ

"โอเรลัส ไรเดน" (ยืนอยู่ที่หน้าผากับพลังเวทมนตร์โบราณที่ส่องประกายรอบตัวเขา) “สมัยที่ข้าเคยต่อสู้กับความมืดอันยิ่งใหญ่กลับมาแล้ว ข้าต้องพร้อมที่จะเปิดเผยความลับที่ถูกซ่อนอยู่ในชั้นของโลกนี้”

การหายใจของโอเรลัสเป็นไปอย่างลึกซึ้งในยามราตรี เขาหยิบไม้เท้าที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษขึ้นมา พลังกระพริบรอบตัวเขาเป็นลวดลายโบราณที่บ่งบอกถึงพลังที่มหาศาล อดีตของเขายังแฝงอยู่ในพลังของเขา

"เอลิอาส ลูมิเรล" (นั่งอยู่ในห้องสมุดลึกลับที่เต็มไปด้วยคัมภีร์โบราณและอุปกรณ์การวิจัย) “มีบางสิ่งที่ถูกซ่อนอยู่ในความลึกลับของเวทมนตร์ ข้าต้องศึกษาความลับเหล่านี้ให้ลึกซึ้ง ข้าจะค้นพบความจริงที่ลึกซึ้ง”

เอลิอาสใช้เวลาทั้งวันในการศึกษาและทำความเข้าใจคัมภีร์และบันทึกโบราณ เขามองผ่านแสงไฟที่สว่างสไวบนโต๊ะทำงาน คัมภีร์โบราณเหล่านี้เต็มไปด้วยข้อมูลที่อาจเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของโลก

"ลูเซียร่า ซาเรีย": (ยืนอยู่บนลานพิธีของโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ที่เต็มไปด้วยสัญลักษณ์ของเทพแห่งจันทราและดวงตะวัน) “คำสาปของข้าจะตื่นขึ้นในยามที่ความมืดคืบคลานเข้ามา ข้าต้องควบคุมพลังของข้าให้ไม่ล้นหลาม”

การเคลื่อนไหวของลูเซียร่าที่เป็นไปอย่างละเอียดลออ เธอมองขึ้นไปที่ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว ภายใต้แสงของพระจันทร์ สัญลักษณ์ของเทพแห่งจันทราและดวงตะวันเปล่งประกาย ความรู้สึกของการควบคุมและคำสาปที่ตื่นขึ้นยังคงติดอยู่ในใจของเธอ

ท้องฟ้ากลับคืนสู่ความสงบ แต่ละตัวละครมีจุดมุ่งหมายและภารกิจของตนเอง พวกเขาต่างกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางที่จะเปิดเผยความลับและปกป้องโลกจากภัยคุกคามที่กำลังคืบคลาน

 เมืองหลวง **อาร์ดเลีย** เป็นเมืองที่ไม่เคยหลับใหล ถนนหินที่ทอดยาวผ่านตลาดที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คน บรรยากาศเต็มไปด้วยความเร่งรีบของพ่อค้า นักเวท และนักรบที่มาจากทุกมุมของโลก อาเธน่า ดราเคนฟอร์ด เดินทางมาถึงที่นี่เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ในฐานะนักผจญภัย

 ดวงตาของอาเธน่ากวาดมองไปรอบ ๆ เธอเห็นนักผจญภัยที่สวมเสื้อเกราะและอาวุธต่างๆ บ้างกำลังพูดคุยกันเสียงดัง บ้างกำลังจัดอาวุธของตนให้พร้อมสำหรับภารกิจ เธอรู้สึกถึงความตื่นเต้นและพลังงานที่อบอวลอยู่ในอากาศ

"อาเธน่า" (พูดกับตัวเอง) “นี่สินะ ที่ซึ่งข้าจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ ข้าจะพิสูจน์ให้เห็นว่าข้าคู่ควรกับพลังที่ข้าครอบครอง.” อาเธน่าเดินตรงไปยังอาคารสูงใหญ่ที่มีสัญลักษณ์กิลด์นักผจญภัยอยู่เหนือประตูทางเข้า ประตูบานใหญ่ทำจากไม้โบราณถูกผลักออก เผยให้เห็นถึงภายในกิลด์ที่เต็มไปด้วยนักผจญภัยหลากหลายสายพันธุ์**ในกิลด์นักผจญภัย** ภายในกิลด์นักผจญภัยมีเสียงดังราวกับตลาด ผู้คนพูดคุยกันเรื่องการต่อสู้ มอนสเตอร์ และข่าวสารจากที่ห่างไกล โต๊ะไม้ถูกวางเรียงราย มีนักผจญภัยกำลังพักผ่อน และบางคนก็รับประทานอาหารจากภาชนะโลหะ

"อาเธน่า" (เดินเข้าไปใกล้เคาน์เตอร์ของกิลด์) “ข้ามาที่นี่เพื่อสมัครเป็นนักผจญภัย” **เจ้าหน้าที่กิลด์** (เงยหน้าขึ้นจากเอกสาร) “โอ้ ดูเหมือนว่าท่านจะเป็นมือใหม่สินะ” (ยิ้มเล็กน้อย) “ท่านต้องผ่านการทดสอบก่อน ข้าจะจัดการให้” อาเธน่าถูกนำไปยังสนามทดสอบที่ตั้งอยู่หลังอาคารของกิลด์ สนามนี้เป็นพื้นที่เปิดโล่งขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยนักผจญภัยที่มาฝึกฝนและประลองฝีมือกัน

**ผู้คุมสนาม** (ยืนอยู่กลางสนาม) “เจ้าต้องพิสูจน์ตัวเอง หากเจ้าต้องการเป็นนักผจญภัยของเรา ข้าจะเป็นผู้ทดสอบเจ้าเอง”

**การต่อสู้เริ่มต้น**: ผู้คุมสนามเป็นนักรบหญิงสูงใหญ่ มีดาบยาวในมือ ท่าทางของเธอแข็งแกร่งและเต็มไปด้วยประสบการณ์ เธอยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นอาเธน่ายืนตรงหน้าเธอ

"ผู้คุมสนาม" (หัวเราะเบาๆ) “เจ้าแน่ใจแล้วหรือ ว่าเจ้าพร้อมจะเผชิญหน้ากับข้า?”

"อาเธน่า" (ยิ้มตอบด้วยความมั่นใจ) “พลังของข้าอยู่ในระดับที่ท่านไม่อาจคาดคิด ข้าจะพิสูจน์ให้ท่านเห็น” ทั้งสองคนยืนประจันหน้ากันในสนามทดสอบ รอบๆ มีนักผจญภัยหลายคนที่มาชมการต่อสู้ สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่การต่อสู้ครั้งนี้

**การโจมตีครั้งแรก** ผู้คุมสนามเริ่มบุกด้วยดาบของเธอ ฟันอย่างรวดเร็วและแม่นยำ อาเธน่าหลบการโจมตีได้อย่างคล่องแคล่ว ร่างของเธอเคลื่อนที่ไปเหมือนสายลม

"อาเธน่า" (กล่าวเบาๆ) “ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง...” เธอยกมือขึ้น ปล่อยพลังแห่งราชันย์อมตะออกมา แสงสีเงินที่เปล่งประกายปกคลุมตัวเธอ ดาบเวทมนตร์ปรากฏในมือเธอ ท่ามกลางเสียงอุทานของผู้ชมรอบข้าง

"ผู้คุมสนาม" (ยิ้มมุมปาก) “อย่างที่ข้าคิด เจ้าไม่ใช่แค่มือใหม่ธรรมดา แต่เจ้าต้องแสดงพลังให้มากกว่านี้!**การต่อสู้ทวีความรุนแรงขึ้น** การโจมตีระหว่างผู้คุมสนามและอาเธน่าทวีความเร็วและความรุนแรงมากขึ้น ดาบของทั้งคู่ปะทะกันอย่างดุเดือด เสียงเหล็กกระทบกันดังสนั่นทั่วสนาม

"อาเธน่า"(ปล่อยพลังออกมาอีกครั้ง ดาบเวทมนตร์ในมือของเธอเปล่งประกายเป็นสีฟ้าสว่าง) “จงรู้ถึงพลังของข้าที่ท่านไม่อาจต้านทาน!” อาเธน่าปล่อยพลังเวทมนตร์ผ่านดาบของเธอ ทำให้สนามทดสอบเต็มไปด้วยแสงที่กระจายตัวออก ผู้ชมรอบๆ มองด้วยความตกตะลึง

"การสิ้นสุดการประลอง" ผู้คุมสนามหยุดการโจมตี และยกดาบขึ้นเพื่อแสดงสัญญาณยอมรับในความสามารถของอาเธน่า เธอยิ้มอย่างภาคภูมิ

"ผู้คุมสนาม" “ข้ายอมรับเจ้า เจ้าคู่ควรกับการเป็นนักผจญภัยของเรา”

"อาเธน่า" (โค้งคำนับ) “ข้าจะใช้พลังของข้าเพื่อตามหาเงาแห่งราชันย์น” อาเธน่าได้รับการยอมรับในฐานะนักผจญภัย เธอก้าวออกจากสนามด้วยความภาคภูมิใจ พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับภารกิจและอุปสรรคต่อไปในโลกที่เต็มไปด้วยความลึกลับและอันตราย

ท้องฟ้ายามค่ำคืนยังคงเงียบสงบ แต่ในใจของอาเธน่า พายุแห่งพลังและความมุ่งมั่นได้ก่อตัวขึ้น เธอพร้อมที่จะเริ่มต้นเส้นทางใหม่ในฐานะนักผจญภัย