NovelToon NovelToon

การเดินทางของ โยชิ ยูชิโร่

บทที่ 1 นักดาบซามูไรผู้ตามหาความแข็งแกร่ง

โยชิ ยูชิโร่ ชายหนุ่มที่ฝึกฝนวิถีแห่งดาบซามูไรมาตั้งแต่เด็ก เขาเกิดในหมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่ท่ามกลางป่าไผ่ แม้จะมีใจรักในการเป็นนักดาบ แต่ทักษะของเขายังไม่เข้าขั้นสูง ในการต่อสู้จริง เขามักจะล้มเหลว แต่เขาไม่เคยยอมแพ้ ยูชิโร่เชื่อว่าโชคชะตาของเขาผูกพันกับการปกป้องบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเขาเอง

วันหนึ่ง ขณะที่เขากำลังฝึกซ้อมท่ามกลางป่า เงาแปลกๆ ปรากฏขึ้นระหว่างต้นไผ่ เสียงกระซิบที่ไร้ที่มาดังก้องในหัวเขา "เจ้าไม่มีวันแข็งแกร่งพอ ถ้ายังไม่รู้จักความมืดในใจตัวเอง" คำพูดนั้นทำให้เขาชะงัก สายลมหนาวพัดผ่าน ทำให้ยูชิโร่รู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่ไม่ปกติ

ระหว่างการเดินทางของยูชิโร่ ขณะที่เขาเดินลัดเลาะไปตามเส้นทางที่ปกคลุมด้วยหมอกหนา ทันใดนั้น เขาได้ยินเสียงครางเบาๆ ดังขึ้นจากพุ่มไม้ข้างทาง เมื่อเขาเดินเข้าไปใกล้ ก็พบกับแมวตัวหนึ่งที่ดูเหมือนจะบาดเจ็บและหลงทาง แมวตัวนี้มีขนสีดำสนิท ตาเป็นประกายสว่างในความมืดเหมือนดวงดาว

ยูชิโร่ลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจช่วยแมวตัวนั้นออกมาและทำแผลให้มัน ด้วยความที่ไม่มีใครอยู่ข้างเขาในเส้นทางนี้ การได้แมวตัวนี้มาเป็นเพื่อนก็ทำให้เขารู้สึกอุ่นใจมากขึ้น

แม้แมวตัวนี้จะดูธรรมดา แต่มีบางสิ่งที่ทำให้ยูชิโร่รู้สึกว่ามันไม่ใช่แค่แมวธรรมดาทั่วไป ระหว่างที่เขาพักผ่อน แมวตัวนี้ก็มักจะนั่งจ้องมองไปยังทางไกลอย่างสงบนิ่ง ราวกับมันกำลังเฝ้าดูอะไรบางอย่างอยู่

หลังจากเดินทางมาหลายวัน ยูชิโร่และแมวคู่ใจของเขาก็เดินทางมาถึงหมู่บ้านเล็กๆ ที่ดูสงบสุขจากระยะไกล บ้านเรือนเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ ทุ่งนาสีเขียวขจี และผู้คนกำลังทำกิจกรรมประจำวัน แต่เมื่อเขาเดินเข้าไปลึกขึ้น เขาก็พบว่าความสงบนั้นเป็นเพียงภาพลวงตา

เสียงตะโกนดังมาจากใจกลางหมู่บ้าน ชาวบ้านสองกลุ่มกำลังโต้เถียงกันอย่างดุเดือด สาเหตุของความขัดแย้งดูเหมือนจะเกี่ยวกับทรัพยากรน้ำที่ขาดแคลน ซึ่งเป็นผลจากภัยพิบัติที่เกิดขึ้นหลังจากอัญมณีธาตุเงาหายไป

ยูชิโร่เห็นว่าสถานการณ์เริ่มรุนแรงขึ้น จึงตัดสินใจเข้าไปกลางวงเพื่อห้ามการทะเลาะกัน เขาใช้ความสุขุมและคำพูดที่นิ่งสงบเพื่อพยายามไกล่เกลี่ยให้ทั้งสองฝ่ายหันหน้าคุยกันแทนที่จะใช้ความรุนแรง

แม้ว่าทักษะการเจรจาของยูชิโร่จะไม่เป็นเลิศ แต่ความพยายามของเขาก็ช่วยให้ความตึงเครียดเริ่มลดลง ชาวบ้านบางคนเริ่มรับฟังและพยายามหาทางออกที่ยุติธรรม แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีบางคนที่ยังคงไม่พอใจและคิดว่าการใช้กำลังเป็นวิธีเดียวที่จะได้สิ่งที่ต้องการ

ในระหว่างการพูดคุย แมวของยูชิโร่ก็ได้แอบสำรวจรอบๆ หมู่บ้าน

บทที่ 2 การสู้ครั้งแรกของ โยชิ ยูชิโร่

หลังจากยูชิโร่พยายามห้ามการทะเลาะในหมู่บ้าน ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะเริ่มคลี่คลาย แต่ท่ามกลางความเงียบที่กลับคืนมา มีชาวบ้านคนหนึ่งไม่พอใจกับการแทรกแซงของยูชิโร่ เขาคิดว่ายูชิโร่เป็นเพียงคนนอกที่ไม่มีสิทธิ์มายุ่งเกี่ยวกับปัญหาของหมู่บ้าน

ด้วยความโกรธ ชาวบ้านคนนั้นชักดาบออกมาและพุ่งเข้าใส่ยูชิโร่ ยูชิโร่รู้สึกได้ถึงอันตรายที่ใกล้เข้ามา แต่ด้วยความที่ทักษะดาบของเขายังไม่ชำนาญ เขาจึงพยายามตั้งรับอย่างทุลักทุเล การเคลื่อนไหวของเขายังขาดความแม่นยำและมั่นคง ทำให้เขาถูกกดดันจนเกือบพลาดท่า

ในช่วงเวลาวิกฤติ แมวของยูชิโร่กระโดดเข้ามาขวางทางชาวบ้านคนนั้น เสียงร้องของแมวที่ฟังดูน่าขนลุกทำให้ชาวบ้านหยุดชะงัก ดวงตาของแมวเปล่งประกายแสงเรืองรอง ทำให้บรรยากาศรอบๆ เปลี่ยนไปอย่างน่าประหลาด

ทันใดนั้น ความโกรธในใจของชาวบ้านก็เริ่มสลายลง เขารู้สึกถึงความสงบแปลกๆ ที่เข้าครอบงำจิตใจ ราวกับว่ามีบางอย่างกำลังปลอบโยนและควบคุมอารมณ์ของเขา ชาวบ้านคนนั้นค่อยๆ ลดดาบลงด้วยความสับสน ก่อนจะยอมถอยกลับไปโดยไม่กล่าวอะไรเพิ่มเติม

ยูชิโร่มองแมวของเขาด้วยความแปลกใจ นี่ไม่ใช่แค่แมวธรรมดาแน่นอน แมวตัวนี้มีพลังบางอย่างที่ช่วยทำให้สถานการณ์สงบลงได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยูชิโร่เองก็ยังไม่เข้าใจ

หลังจากเหตุการณ์ความขัดแย้งสงบลง ชาวบ้านเริ่มแยกย้ายกลับไปทำงานของตัวเอง แต่มีชาวบ้านคนหนึ่งที่แอบเฝ้าดูแมวของยูชิโร่อยู่เงียบๆ ด้วยความโลภในใจ เขาเชื่อว่าแมวตัวนี้ต้องมีคุณค่าบางอย่างที่สามารถนำมาซื้อขายได้ หรืออาจเป็นเครื่องรางที่ทรงพลัง

ขณะที่ยูชิโร่กำลังผ่อนคลายหลังการปะทะ ชาวบ้านคนนั้นก็ฉวยโอกาสวิ่งเข้ามาคว้าแมวไปจากอ้อมแขนของยูชิโร่ แมวร้องเสียงดังด้วยความตกใจ ก่อนที่ชาวบ้านจะรีบวิ่งหนีไปตามตรอกเล็กๆ ในหมู่บ้าน

ยูชิโร่รีบลุกขึ้นและไล่ตามทันที เขาพยายามฝ่าเส้นทางที่คดเคี้ยวและเต็มไปด้วยอุปสรรค ชาวบ้านคนนั้นวิ่งไปยังทิศทางที่ซับซ้อน หวังจะหลบหนีให้พ้น ยูชิโร่ต้องใช้ทักษะการเคลื่อนไหวและความเร็วทั้งหมดที่เขามีในการตามจับ

ในที่สุด ยูชิโร่ก็ตามชาวบ้านคนนั้นจนทันที่ตรอกแคบๆ มุมหนึ่ง เมื่อเขาปะทะกับชาวบ้านคนนั้น ทั้งสองคนต่างชักดาบออกมาเตรียมพร้อม ยูชิโร่พยายามไม่ใช้กำลังเกินความจำเป็น แต่ก็ไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายหรือขโมยแมวของเขาได้

แมวตัวนั้นที่ยังอยู่ในอ้อมแขนของชาวบ้านก็เริ่มส่งเสียงขู่ต่ำๆ และจ้องมองตาชาวบ้านด้วยแววตาน่ากลัวอีกครั้ง ทำให้ชาวบ้านเกิดความกลัวจนมือสั่นและปล่อยแมวลง ยูชิโร่รีบรับแมวตัวนั้นกลับมาพร้อมกับเตือนชาวบ้านให้ระวังตัวและเลิกคิดที่จะทำสิ่งเลวร้าย

หลังจากได้แมวกลับคืนมา ยูชิโร่รู้ว่าหมู่บ้านนี้ไม่ใช่ที่ที่ปลอดภัยอีกต่อไป เขาตัดสินใจออกเดินทางต่อไปยัง "เมืองใหญ่ของพีเห็ช"

การเดินทางของยูชิโร่และแมวดำคู่ใจยังคงดำเนินต่อไป แต่ระหว่างทาง ทั้งเขาและแมวเริ่มรู้สึกหิว ยูชิโร่จึงตัดสินใจแวะพักกลางทางและเข้าไปในป่าเพื่อหาของกิน เขาบอกให้แมวของเขารออยู่ข้างนอกพร้อมกับกระเป๋า เพราะไม่อยากให้มันหลงทางหรือเจออันตรายในป่าลึก

เมื่อยูชิโร่เข้าไปในป่าที่ดูเงียบสงบ แต่เต็มไปด้วยหมอก ทันใดนั้น บรรยากาศรอบตัวก็เปลี่ยนไป เขารู้สึกเหมือนมีบางอย่างคอยจับตามองอยู่ แรงกดดันและเสียงที่ดุร้ายจากที่ไม่ทราบที่มาก็ทำให้ยูชิโร่รู้สึกถึงอันตรายที่ใกล้เข้ามา

ก่อนที่เขาจะทันตั้งตัว เสือตัวใหญ่ที่เหมือนกลายพันธุ์ก็พุ่งออกมาจากเงามืด มันมีขนสีดำเข้ม ดวงตาสีแดงเลือดที่เปล่งประกายด้วยความหิวโหย เสือตัวนี้ไม่ใช่แค่สัตว์ป่าธรรมดา มันดูเหมือนถูกครอบงำด้วยพลังมืดบางอย่าง ทำให้มันแข็งแกร่งและอันตรายกว่าปกติ

ยูชิโร่รู้ว่าการกลับไปหาที่แมวของเขารออยู่อาจจะทำให้มันตกเป็นเป้าหมายของเสือตัวนี้ เขาจึงต้องยืนหยัดต่อสู้ แม้รู้ดีว่าตนเองยังไม่แข็งแกร่งพอ การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือด ยูชิโร่ใช้ดาบทั้งหมดที่เขามีเพื่อป้องกันตัว แต่พลังของเสือตัวนี้ก็ทำให้เขาเริ่มหมดแรง

เมื่อยูชิโร่ได้รับบาดเจ็บและไม่มีทางหนี เขาจึงตัดสินใจตั้งสมาธิในช่วงวินาทีสุดท้าย หวังว่าจะหาวิธีเอาชนะความกลัวและความสิ้นหวัง แต่ในตอนนั้นเอง เขากลับรู้สึกถึงพลังมืดที่ตื่นขึ้นในตัว

ท่ามกลางความสิ้นหวัง จิตวิญญาณของยูชิโร่ถูกครอบงำโดย "ความมืด" ภายในตัว ร่างกายของเขาถูกพลังนี้ควบคุม ยูชิโร่รู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล แต่เขาไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของตนเองได้อีกต่อไป เขาตกใจมากและพยายามต่อสู้เพื่อให้ได้ร่างคืน แต่ตอนนี้เขาเหลือเพียงจิตวิญญาณที่สามารถรับรู้ทุกสิ่งอย่างไร้ความสามารถในการควบคุม

ในการต่อสู้ครั้งนี้ ร่างที่ถูกพลังมืดควบคุมกลับสามารถเอาชนะเสือกลายพันธุ์ได้อย่างง่ายดาย แต่การโจมตีของมันเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมและไร้ความปรานี เสียงคำรามของเสือและการเคลื่อนไหวที่ดุดันของร่างของยูชิโร่ ทำให้แม้แต่ป่ารอบข้างยังรู้สึกถึงความอันตรายที่ล้อมรอบ

ยูชิโร่ได้แต่มองดูการต่อสู้ในสภาพจิตวิญญาณของเขา หวังว่าสักวันเขาจะหาวิธีควบคุมพลังนี้ได้ แต่เขารู้ดีว่าการพึ่งพาพลังมืดเช่นนี้อาจมีผลตามมาที่เขาไม่อาจคาดเดาได้

หลังจากการต่อสู้ที่ดุเดือดกับเสือกลายพันธุ์ ยูชิโร่รู้สึกหมดแรงและสลบลงไป เมื่อเขาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เวลาก็ล่วงเลยไปหลายชั่วโมง ร่างกายของเขาเจ็บปวดจากบาดแผล แต่ที่น่าประหลาดใจก็คือ ตอนนี้เขารู้สึกว่าตัวเองสามารถควบคุมร่างกายได้ดีขึ้น แม้จะยังไม่เข้าใจพลังมืดที่ตื่นขึ้นในตัวเขา

ยูชิโร่เดินกลับไปยังจุดที่เขาทิ้งแมวของเขาไว้พร้อมกับกระเป๋า เขาได้เอาเนื้อเสือที่เพิ่งล่ามามาด้วย หวังว่าจะให้เป็นอาหารสำหรับเขาและแมว แต่เมื่อเขากลับมาถึงที่เดิม แมวของเขาหายไป!

ยูชิโร่เริ่มรู้สึกกังวล เขามองไปรอบๆ และตะโกนเรียกชื่อแมวด้วยความร้อนใจ ในที่สุด เขาก็ได้ยินเสียงร้องของแมวไม่ไกลนัก เมื่อเขาวิ่งไปตามเสียงนั้น ก็พบว่ามีนักเดินทางคนหนึ่งกำลังเล่นกับแมวของเขาอยู่ นักเดินทางคนนั้นดูเป็นมิตรและยิ้มแย้ม

ยูชิโร่โล่งใจและเข้าไปทักทายนักเดินทางผู้นั้น นักเดินทางเล่าว่าเขาบังเอิญผ่านมาและเห็นแมวตัวนี้เดินออกมาจากที่ซ่อน เขาจึงเล่นกับมันเพื่อรอเจ้าของกลับมา

หลังจากที่พูดคุยกัน นักเดินทางก็เสนอจะพายูชิโร่ไปส่งถึงเมืองใหญ่ เพราะเส้นทางข้างหน้ามีป่าทึบและอันตรายอีกมาก ยูชิโร่ซึ่งยังไม่ฟื้นตัวดีจากการต่อสู้ และด้วยความไม่อยากเดินทางคนเดียว เขาจึงยอมรับข้อเสนอด้วยความรู้สึกขอบคุณ

บทที่ 3 การต่อสู้ด้วยสัญชาตญาณ

หลังจากเดินทางมาถึงจุดพัก นักเดินทางจอมหลอกลวงได้เสนอยาและอาหารให้ยูชิโร่ พร้อมอ้างว่ามันจะช่วยบรรเทาอาการบาดเจ็บและความเหนื่อยล้าของเขาได้ แม้ว่ายูชิโร่จะเริ่มรู้สึกเหนื่อยล้า แต่แมวของเขากลับขู่และพยายามห้ามไม่ให้ยูชิโร่รับอาหารนั้น ด้วยสัญชาตญาณ ยูชิโร่ตัดสินใจโยนเนื้อที่นักเดินทางยื่นให้ลงพื้น และเมื่อเห็นว่ามันทำให้ดินใต้พื้นดินเปลี่ยนสี ยูชิโร่ก็รู้ทันทีว่านั่นเป็นยาพิษ

นักเดินทางเห็นแผนการถูกเปิดเผยจึงถอยออกมาตั้งหลัก เขาชักธนูออกมาและเริ่มยิงใส่ยูชิโร่อย่างต่อเนื่อง ยูชิโร่ซึ่งยังคงบาดเจ็บและหมดแรงจากการต่อสู้ครั้งก่อน พยายามหลบหลังต้นไม้เพื่อหาทางปกป้องแมวของเขา แต่ด้วยบาดแผลและความเหนื่อยล้า ยูชิโร่รู้สึกสิ้นหวังที่ไม่สามารถปกป้องแมวได้อย่างเต็มที่

แมวเองก็อยู่ในสภาพอ่อนล้า หลังจากที่ใช้พลังไปมากในหมู่บ้านก่อนหน้านี้ มันได้แต่มองดูการต่อสู้ด้วยความอ่อนแรง นักเดินทางยังคงรุกเข้ามาใกล้ด้วยธนูที่พร้อมจะสังหารยูชิโร่และขโมยแมวไป

เมื่อยูชิโร่รู้สึกว่าตัวเองกำลังจะหมดทางสู้ เขาตัดสินใจเผชิญหน้ากับอันตรายอีกครั้ง เขาออกจากที่กำบังและตั้งสมาธิไปที่ปลายดาบของเขา ความเงียบสงบเกิดขึ้นภายในใจ ทันใดนั้น ทุกสิ่งรอบตัวก็ช้าลง ยูชิโร่รู้สึกเหมือนเวลาแทบหยุดนิ่ง เขามองเห็นลูกธนูที่พุ่งตรงมาหาเขาอย่างช้าๆ เขาหลบการโจมตีได้อย่างง่ายดาย ด้วยการเคลื่อนไหวที่เฉียบคมและมั่นคง

แต่ยูชิโร่รู้ดีว่าพลังนี้ใช้ได้เพียงช่วงสั้นๆ เขาต้องรีบปิดฉากการต่อสู้นี้ในดาบเดียว ด้วยจังหวะที่สมบูรณ์แบบ เขาพุ่งตัวไปหานักเดินทางพร้อมกับฟาดดาบอย่างรวดเร็ว นักเดินทางไม่ทันได้ตอบโต้ก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับการโจมตีที่แม่นยำของยูชิโร่

หลังจากจัดการกับนักเดินทางเสร็จ ยูชิโร่หายใจหนักๆ เขารู้สึกเหนื่อยล้าอย่างถึงขีดสุดและแทบจะทรงตัวไม่อยู่ แมวของเขาคลานเข้ามาใกล้และนั่งอยู่ข้างๆ ยูชิโร่ ทั้งสองต่างรู้ดีว่าการเดินทางนี้ยังไม่จบสิ้น และยังมีอันตรายที่ซ่อนอยู่มากมายข้างหน้า

เช้าวันใหม่เริ่มต้นขึ้นเมื่อยูชิโร่และแมวของเขาตื่นขึ้นมาในโรงแรมที่หรูหราในเมืองใหญ่พีเห็จ เขารู้สึกประหลาดใจเพราะจำได้ว่าเมื่อคืนเขาหลับไปกลางป่ากับแมวของเขา เมื่อแม่บ้านเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้ม เธออธิบายว่าเมื่อคืนนี้มีอัศวินผู้กล้าคนหนึ่งผ่านมาพบยูชิโร่และแมวนอนพิงต้นไม้อยู่ด้วยบาดแผลที่ยังไม่ได้รับการรักษา อัศวินคนนั้นจึงช่วยพาพวกเขามารักษาตัวที่โรงแรมนี้ แม่บ้านยังบอกด้วยว่า "ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายนะจ๊ะ ทุกอย่างฟรี!"

ยูชิโร่โล่งใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น และใช้เวลาพักฟื้นอย่างเต็มที่ในโรงแรม โดยมีแมวคู่ใจคอยอยู่เคียงข้างเสมอ เมื่อร่างกายของยูชิโร่เริ่มฟื้นตัว เขาจึงตัดสินใจออกสำรวจเมืองพีเห็จเพื่อดูว่าเมืองใหญ่นี้มีอะไรน่าสนใจ

ระหว่างเดินทาง ยูชิโร่สังเกตว่าแมวของเขาดูเหมือนจะไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่ เขาจึงตั้งชื่อให้แมวตัวนี้ว่า "โชตะ" เพื่อเพิ่มความใกล้ชิด โชตะรู้สึกดีใจจนยิ้มออกมาอย่างสดใส ยูชิโร่เห็นเช่นนั้นก็ยิ้มตามและรู้สึกว่าการตั้งชื่อให้แมวเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง

หลังจากเดินสำรวจเมืองทางด้านเหนือ ซึ่งเป็นย่านที่เจริญรุ่งเรืองและเต็มไปด้วยตลาด ยูชิโร่รู้สึกทึ่งกับความทันสมัยของเมืองพีเห็จ เมื่อเขาพอใจกับการสำรวจแล้ว ยูชิโร่ก็กลับออกไปฝึกซ้อมดาบนอกเมือง โดยมีโชตะคอยเฝ้ามองอยู่ข้างๆ

ระหว่างการฝึกซ้อม ยูชิโร่เริ่มรู้สึกถึงพลังบางอย่างที่แตกต่างจากเดิม ในขณะที่เขาตั้งสมาธิและฟาดดาบ ความมืดที่เคยควบคุมเขากลับปรากฏขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาควบคุมมันได้ ดาบของเขาปลดปล่อยออร่าที่มีสีแดงดำออกมา ออร่านี้ทรงพลังและสามารถทำลายทุกอย่างในระยะโจมตีได้

ยูชิโร่รู้สึกตกใจกับพลังใหม่นี้และฝึกใช้มันอย่าคล่อง แต่มันไม่ง่ายอย่างที่คิดไว้เลยนะสิ

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!