เดือนดาวสาวสวยที่สุดในมหาลัย มีผู้คนชื่นชมเธอมากมาย เเต่ก็มีคนไม่ค่อยชอบเธอเช่นกัน มีหนุ่มๆมากมายชอบเธอเเต่เธอกลับไม่สนใจเลย
เเม้เเต่คนเดียว
ตอนเช้า 7:30
เธอได้ตื่นขึ้นเเบบงั่วเงีย สักพักเธอลุกไปอาบน้ำ
ตอนนี้อยู่ในช่วงฤดูหนาว อากาศหนาวพอสมควร ผ่านไปสักพักหนึ่งเดือนดาวได้ออกจากห้องน้ำ มาเเต่งตัวที่ห้อง วันนี้เธอมีเรียนตอนเช้า
เธอลงมากินข้าวละไปมหาลัยทันทีมันจะสายเเล้ว
มหาลัยเเห่งหนึ่ง
เธอได้ลงรถมาก็มีเสียงสาวๆ ในมหาลัยซุบซิบกันใหญ่ หนุ่มๆต่างมองมาที่เธอเเบบตาไม่กระพริบ มีชายคนหนึ่งเเอบมองเธออยู่ไกลๆ
สายตานั้นดูหลงไหลเธออย่างมาก เธอได้เดินไปหากลุ่มเพื่อนที่นั่งอยู่ใต้ร่มไม้หน้าตึก
“ ทำไรกันอยู่”
“ทำงานอาจารย์ ”
เนย: เดือนทำเสร็จยังหรอ
เดือนดาว: เสร็จเเล้ว
เดือนดาวได้รอเพื่อนทำงานของอาจารย์อยู่ใต้ร่มไม้ต้นไม้ โดยที่ไม่รู้ว่ามีสายตาหนึ่งจ้องอยู่ไกลๆ
ในขนาดสายตานั้นจ้องมองอยู่ เพื่อนของเธอได้หันไปเห็นพอ
เดือนดาวๆ
เดือนดาว: อะไร
เนย: หันไปทางนั้นสิ มีคนมองเธอด้วย
เธอหันไปมองตามที่เพื่อนเธอบอก พอหันไปสายตานั้นรีบห้นหนีอย่างร่วดเร็ว เนยมองด้วยสายตาสงสัยว่าคนนั้นหายไปไหน
เดือนดาว: ไหนอ่ะ ตาฝาดหรือป่าว
เนย:คงงั้น ไปเรียนกัน
เพื่อนต่างเดินขึ้นห้องไปเรียน ในขนาดที่เดินก็มีคนจ้องมองเธออีกครั้งเเต่ครั้งนี้ไม่มีใครเห็น
พักเที่ยง 12.09
เธอเเละเพื่อนๆเดินลงมาข้างล้างเพื่อไปโรงอาหาร ทุกคนต่างมองมาที่กลุ่มของเดือนดาว เธอได้ไปนั่งโต๊ะประจำของเธอ ทที่อยู่ฝั่งซ้ายของโรงอาหารเธอได้ไปร้านราเมงคนเยอะมาก ร้านนี้เป็นอาหารที่เธอชอบมาก เมื่อเธอเดินไปคนในเเถวต่างหลบให้เธอเกือบหมด พอเธอซื้อเสร็จเเล้ว
ตอนเย็น 15.30
กลุ่มของเดือนดาวได้ออกจากมหาลัย เเยกย้ายกันกลับบ้าน ระหว่างที่เดือนดาวเดินกลับบ้านมีเสียงคนเดินตามมา ตึกๆๆๆ เธอได้หันหลังเเต่ก็ไม่มีใคร จึงรีบเดินเร็วขึ้นมาก็กว่าเดิม เสียงนั้นเริ่มเร็วขึ้น ตึกๆๆ!! จากที่เธอเดินจึงรีบวิ่ง เสียงนั้นก็ตามมาติดๆ เธอวิ่งจนถึงหน้าบ้าน รีบวิ่งเข้าบ้านทันที เสียงนั้นค่อยๆหายไป เธอโล่งใจมาก จึงเดินขึ้นห้องไปอาบน้ำ ซ่าาา~ เสียงน้ำที่กำลังเปิดอย่าต่อเนื่อง จู่ๆมีเสียงคนพูดขึ้นว่า
“รักกู หลงกู รักกูเพียงผู้เดียว ใครที่มึงหมายปรองจงฉิบหายให้หมด”
“เสียงใคร อ่ะ” เดือนดาวคิดในใจ เสียงนั้นได้ค่อยๆหายไป เธอไม่ได้คิดอะไรจึงอาบน้ำต่อไป
ตอนกลางคืน 19.40
เธอขึ้นห้องไปนอนเพราะวันนี้เธอเหนื่อยมาก ขนาดที่เธอนอนหลับอยู่นั้นจู่ๆ เสียงนั้นกะดังอยู่ในหัวเธอวนไปวนมา เธอไม่คิดไรมากจึงนอนไปกับเสียงนั้น เเธอรู้สึกว่ามีคนมองตลอดการนอนของเธ
00.00
“วิชชาจะระณะสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา ปิยะเทวะมนุสสานังปิโยพรหมานะ มุตตะโม ปิโยนาคะ สุปัณณานัง ปิณินทะริยัง นะมามิหัง นะเมตตา โมกรุณา พุทปรานี ธายินดี ยะเอ็นดู” มีเสียงสวดอะไรสักอย่างดังมาให้หูเธอขนาดที่เธอนอนอยู่
“รักกูหลงกู ใครเเย่งมึงไปมันต้องตาย!!”
เธอได้สดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจหลังจากเสียงนั้นจบลง เธอลุกขึ้นนั่งด้วยความตกใจกับเรื่องราวเมื่อกี้ จึงไปห้องพระที่อยู่ใกล้ๆกันเพื่อไปไหว้พระ ในขณะที่กำลังไหลว้อยู่นั้นมีเสียงดังขึ้นมา ปึก!! เสียงของหล่นลงมาจากที่สูง ทำให้เธอหันหลังไปมอง “ใครอ่ะ” เธอขานรับโดนไม่รู้ตัว จู่ๆเสียงหัวเราะก็ดังขึ้น หึ ฮ่าๆ “มึงโง่จริงๆ กูจะกินตับไตมึงให้หมดร่างมึงต้องเป็นของกู” มันเเปกที่เธอนั้นได้ยินเสียงคนพูดนิดเดียว เธอคิดว่าเรื่องมันไม่ดีเเน่ๆจึงนอนที่ห้องพระถึงเช้าเลยบรรณยากาศหวังเเวงเสียจริงเเต่เธอต้องข่มตานอน
เธอตื่นเช้าขึ้นมาด้วยความสะลึมสะลึอ จึงลุกด้วยความเพลียจากเรื่องเมื่อคืน เลยลงมากินข้าวที่เเม่เตรียมไว้ให้เธอกินข้าวด้วยความสงสัยเรื่องเมื่อคืน เธอกินข้าวเสร็จจึงไปโรงเรียน
มหาลัยเเห่งหนึ่ง
เธอเดินเข้ามาในโรงเรียนทุกคนต่างมองเธอกัน สภาพของเธอโทรมมาก เพื่อนๆของเธอรีบเดินมาหาด้วยความเป็นห่วง
“เห้ย ไปทำอะไรมาทำไมดูโทรมมาก” เพื่อนของเธอถามด้วยความเป็นห่วงเพราะเธอเป็นคนรักสวยรักงามมากไม่ปล่อยให้ตัวเองโทรมหรอก เเต่มันน่าเเปกที่วันนี้เธอโทรมอย่างมากจนเเปกตา
“คือเมื่อคือ…” เธอได้เราเรื่องเมื่อคืนให้เพื่อนๆของเธอฟังหน้าเเต่ละคนดูไม่เชื่ออย่างมากเพราะไม่เจอกับตัว
“มึงประสาทหลอนเองหรือป่าว มันไม่มีจริงหรอกไอ้พวกคนเล่นของอะไรของมึงเนี่ย ถ้ามีจริงมาดิมาเลยกูไม่กลัวหรอก” เพื่อนของเธอพูดท้าทายโดยไม่ไตร่ตรองว่าอ่ะควรไม่ควรอาจมีบ้างอย่างฟังอยู่ก็ได้
“ไม่เชื่อก็อย่าท้าท้ายดิว่ะ เดี๋ยวมึงโดนขึ้นมาทำไง” เธอเตือนเพื่อนด้วยความเป็นห่วงเเต่เพื่อนของเธอดันพูดเบาๆว่า “กูไม่กลัวมึงหรอก” ทันใดนั้นก็มีเสียงมากระซิบข้างหูของเพื่อนเธอว่า “ระวังไว้เถอะมึงกูจะกินตับใต ใส้พุงมึงให้หมด”ละเสียงนั้นก็ค่อยๆหัวเราะขึ้นมาเสียงเเหลมสูงทำให้เพื่อนของเธอ ตกอยู่ในสถานการณ์ขวัญเสียจึงขอกลับบ้านก่อนสีหน้าหวาดระเเวง ไม่สู้ดีนัก เธอถามอ่ะไรก็ไม่ตอบ มีความกังวลว่าเพื่อนเธอจะเป็นอ่ะไรไหม เลยคิดว่าจะไปหาตอนเย็นเพื่อถามว่าเกิดอ่ะไรขึ้น
ตอยเย็น
“ฮือ มึงไป!! อย่ามายุ่งกับกู! กริ๊ดดดด ช่วยด้วย” จู่ๆดาวเพื่อนขงเธอก็ตะโกนขึ้นด้วยความตกใจเเหละหวาดกลัว “อีดาวมึงคิดจะลองดีกับกูหรอ มาเป็นเครื่องเซ่นกู กูหิว กูจะกินมึง” มีเสียงขึ้นที่เเหละสูงมากทำให้ดาวหวาดหลังเป็นอย่างมาก
“ออกไป!อย่ามายุ่งกับเรา เรากลัวเเล้ว เรากลัวเเล้ว ปล่อยเราเถอะ ฮืออ” เสียงเธอสิ้นหวังอย่างมากเอาเเต่พูดว่า “ปล่อยเราไปเทอะ” ซ้ำไปซ้ำมา จนเธอวิ่งมาพอดี สภาพดาวไม่เหมือนคนเลยสักนิด ผมยุ่งสังกะตัง ตัวเต็มไปด้วยเลือดเเอาเเต่พูดวนไปวนมา เธอจึงรีบไปหาเพื่อนของเธอทันที “ช่วยกูด้วยมันตามกูมา มันมาเเล้ว มึงช่วยกูด้วยกูกลัวมันมาเเล้ว กริ๊ดดด”ดาวกลายเป็นคนเสียสติไปเเล้ว เธอจึงเกียกล่อมให้มาหาเธอ “ตั้งสติมึงกูมาช่วยมึงเเล้ว ใครตามมึงมาบอกกูได้ไหม” เธอพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ดาวดูกลัวอย่างมากจึงไม่กล้าก
พูดจึงส่ายหัว “มะ..ไม่เอา มันตามกู มันจะกินกูมึงช่วยกูด้วยกูไม่อยากตาย” ดาวเริ่มตั้งสติได้จึงพูดเรื่องราวที่เกิดพร้อมกับน้ำตาไหล เธอจึงเข้าไปปลอบพร้อมกับบอกว่า “กูจะมามึงไปหาพ่อครูนอกเมือง” ดาวพยักหน้าตอบ เธอเลยจึงบอกลาเพื่อนกลับบ้าน
19.30
ตึก ตึก ตึก เสียงเธอขึ้นบันใดไปที่ห้องนอนเเละอาบน้ำนอน อาการเมื่อเล้าของเธอก็ยังไม่ดีขึ้นเเต่ด้วยความเป็นห่วงเพื่อนจึงไปหาเพื่อนก่อนที่จะมาดูตัวเอง วันนี้เธอเพลียมากจึงนอนหลับไป
00.01
โอม นะจิตตัง เห็นหน้า…กู…รักสนิท
ธาจับจิต ยะจับใจ…อีเดือน…นะหลงใหล
จับใจ…อีเดือน…ให้มารัก นะโมพุทธายะ
มีเสียงเเบบเมื่อคืนอีกเเล้วเดือนคิดในใจ ก่อยที่จะลุกขึ้นมาเพื่อหาต้นเสียงเธอมองซ้ายมองขวาก็ไม่มีใคร “มารักกู รักกู มึงเป็นของกูคนเดียว” เธอได้ยินเเบบนี้ตาลุกว้าว เสียงนั่นเข้มทุ้มนุ่มนวน มีความเป็นห่วงเธอ เธอคิดว่าหูฝาดจึงนอนต่อ
ตอนเช้า
สภาวะจิตใจเเละร่างกายเธอทรุดลงเป็นอย่างมากหนักกว่าเมื่อวานอีก เธอเหมือนคนโดนของอย่างงั้นเลยก็ว่าได้เเต่ยังไงเธอก็ต้องพาดาวไปหาพ่อครูที่นอกเมืองจึงลืมดูตัวเองเสียเลย เเธอเดินทางไปหาดาวที่บ้าน “ก๊อกๆ มึงอยู่ไหม” เสียงเธอตะโกนหาดาวที่อยู่ในห้อง “อยู่เว้ย!” ดาวเดินออกมาเปิดประตูให้เดือนเข้าไปนั่งคุยกันก่อน “มึงเป็นไรป่ะเนี่ยดูโทรมหนักกว่าเมื่อวานอีก” ดาวถามด้วยความสงสัยเพราะหน้าของเธอดูไม่สู้ดีเลย “เมื่อคืนกูได้ยินเสียงเเบบนั่นอีกเเล้วว่ะ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่วิตกกังวลอย่างมาก “กูว่าคนที่ต้องหาพ่อครูคงไม่ใช่กูเเล้วเเหละ” ดาวพูดด้วยความนิ่งเฉยผสมกับความเป็นห่วง ทั้งสองจึงเดินทางไปหาพ่อครูที่นอกเมืองทั้นที
14.56
ทั้งสองมาถึงเเล้วสภานที่เป็นบ้านเรือนสมัยก่อนสวยมาก เธอจึงตะโกนหาพ่อครู “พ่อครูจ้ะ พ่อครูอยู่ไหมจ้ะ” สักพักนึงก็มีหนุ่มกลางคนออกมารูปสูงยาวเเละมาพร้อมกับเสียงทุ้ม
“พวกมีงมาหากูมีอ่ะไร”ชายหนุ่มองด้วยสายตานิ่งเฉย
“ฉันพาเพื่อนฉันมาหาพ่อครูจ้ะ มันเจอสิ่งไม่ดีมาจ่ะ”
“มันเจออัปปรีมึงก็พามันไปทำบุญ จะมาหากูทำไม”
“จ้ะ งั้นฉันของกลับล่ะนะจ้ะ”
“เดี๋ยว มึงมาหากูก่อน”
พ่อครูสังเกตเห็นของอัปปรีตามตัวเธอ
“มึงโดนของหนักมากถ้ามึงไม่รีบเเก้มึงได้ตายก่อนอายุ25เเน่”
เมื่อเธอรู้เเบบนั้นจึงคิดหนักมาก เธอไม่เคยเจอเรื่องเเบบนี้เลยกับตัวเองเธอคิดอยู่อีกสักพักจึงพูดขึ้นมาว่า
“ช่วยเเก้ของให้ฉันได้ไหมจ้ะ”
“กูช่วยเเก้ให้มึงได้”
เธอดีใจมากที่พ่อครูช่วยเเก้ของให้เธอ
“มึงต้องมาอยู่กับกู”
“จ้ะ” เดือนได้ยินเช่นนั้นจึงขอตัวกลับไปเอาของที่บ้านเเต่เพื่อนเธอบอกว่า “ไม่ต้องกลับหรอกเดี๋ยวเป็นอ่ะไรอีก อยู่กับพ่อครูเขาไปเถอะมึงอ่ะ” ดาวพูดด้วยความเป็นห่วง
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!